Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา

อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!

เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?


*********************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย

ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!


***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)

หนังสือพร้อมส่ง

จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)

ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 5 -40%

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่มิวาร์เตรียมรวบรวมภาพถ่าย ผังสถานที่เกิดเหตุ เอกสารเกี่ยวกับการชันสูตรศพ รวมถึงรายงานด้านเทคนิคทั้งหมดที่เธอจะต้องใช้ในการขึ้นให้การเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญในสัปดาห์หน้าให้กับผู้ตายที่เธอทำการชันสูตรศพมาแล้วหกเดือน เพื่อนำไปอ่านยังที่พักหลัง จากเลิกเวรในช่วงใกล้เที่ยง เธอก็ได้รับสายโทรศัพท์จากมารดาบุญธรรม

“มิวาร์...ลูกมีแฟนแล้วหรือจ๊ะ ทำไมถึงไม่บอกพ่อกับแม่เลยนะ น่าตีจริงเชียว” ปลายสายถามทันทีด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“คะ? แม่พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย” มิวาร์งุนงง

“ก็แม่กับพ่อเพิ่งได้รับเปลเด็กของทิฟฟานี จากแฟนของลูกเมื่อกี้นี้เองจ้ะ แบบส่งด่วนกับเฟดเอกซ์เลยนะ ดูจอยซ์จะชอบเปลเด็กนี้เอามากๆ เลย เพราะน้องหลับทันทีที่เอาลงเปล”

“มีคนส่งเปลเด็กของทิฟฟานีไปให้แม่หรือคะ ใครกัน”

“อย่ามาทำไก๋น่า ลูกรัก มีการ์ดแนบมากับกล่องเขียนว่า จากอีรอส ไททัน คนรักของ มิวาร์ เกรแฮม...ลูก...ลูกจ๋า นี่ลูกไปเป็นแฟนกับลูกชายท่านประธานาธิบดีหรือจ๊ะเนี่ย แม่กับพ่อปลื้มจนตัวลอยเลยรู้ไหม”

“เข้าใจผิดไปใหญ่แล้วค่ะแม่ หมอนั่นมันโรคจิตตัวพ่อเลยรู้ไหมคะ” พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร มิวาร์ก็เผลอโวยวายใส่หูโทรศัพท์ เก็บความขุ่นเคืองที่อัดแน่นไว้คอยคิดหาบัญชีกับตัวการเจ้าเล่ห์ในสักวันหนึ่ง

“วุ้ย ลูกชายท่านประธานาธิบดีจะเป็นคนบ้าได้ยังไงกันละลูก พูดอะไรแปลกๆ เอาน่า...ไม่ต้องเขินหรอก แล้วแม่กับพ่อจะหาของขวัญดีๆ ส่ง ไปตอบแทนพ่ออีรอสแทนลูกเองนะจ๊ะ แค่นี้ก่อนนะ...แม่มีผ้ากองโตต้องซัก แต่ต้องผูกไทให้พ่อเราก่อน พ่อเราถูกเรียกตัวไปสัมภาษณ์งานวันนี้น่ะ บ๊ายบาย แม่กับพ่อรักลูกมากนะจ๊ะ”

“เดี๋ยวสิคะ...แม่ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” แต่สายถูกตัดไปเสียแล้ว ครั้นมิวาร์โทร.กลับไปหามารดาอีกครั้ง มันก็เข้าสู่ระบบฝากข้อความเสียง ดังนั้น...เธอจึงรีบต่อสายถึงจอมวางแผน แต่สัญญาณก็ถูกตัดเข้าสู่ระบบฝากข้อความเช่นเดียวกัน

มิวาร์หงุดหงิดระคนโมโหจึงรวบรวมเอกสารได้ไวกว่าที่คิด ก่อนจะออกจากเวรเร็วกว่าปกติห้านาทีโดยไม่ลืมฝากเรื่องต่างๆ ไว้กับคาร่า ผู้เป็นเลขาของเธอ

สิบนาทีต่อมา...มิวาร์ก็ยืนโหนราวจับภายในรถไฟใต้ดินที่แออัดยัดเยียดเป็นประจำ เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่รู้ที่ทำงานของอีรอส ไททันเลยจึงโทร.กลับไปหาคาร่าจะให้ช่วยหาข้อมูลของเขา แต่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ในอุโมงค์รถไฟใต้ดิน เพจเจอร์ก็ทำงานไม่ได้เช่นกัน เธอจึงต้องอดทนรอจนถึงสถานีที่อพาร์ตเมนต์ของเธอตั้งอยู่

เมื่อขึ้นมาอยู่บนชานชาลาแล้ว มิวาร์ก็รีบกดโทร.ออกถึงคาร่าทันที เลขาสาวรับสายตั้งแต่สัญญาณแรก

“คาร่าค่ะ คุณหมอ”

“คาร่า เธอรู้จักอีรอส ไททันไหม”

“แหม...หนุ่มสุดฮอต สาวทั่วอเมริการู้จักกันทุกคนแหละค่ะ ว่าแต่คุณหมอไม่รู้จักเขาหรือคะ”

“อืม...ไม่รู้จัก”

“ต๊าย คุณหมออยู่กับศพนานเกินไปหรือเปล่าคะ”

“คาร่า!” มิวาร์ติงด้วยเสียงเย็นเยียบ

“ขอโทษทีค่ะ...มีอะไรเกี่ยวกับอีรอส ไททันใช่ไหมคะ”

“ฉันอยากรู้ที่ทำงานของเขา”

“เขาเป็นนายธนาคารของธนาคารเอเมอร์สันค่ะ แต่เพนท์เฮาส์ของเขาอยู่ที่...” คาร่าจาระไนที่อยู่ออกมาอย่างละเอียดยิบ จนมิวาร์ปรามไม่ทัน

“ขอบใจมากจ้ะ คาร่า แต่ฉันต้องการรู้แค่ว่าสาขาใหญ่ของธนาคารเอเมอร์สันอยู่ที่ไหนต่างหากละจ๊ะ”

คาร่ารีบบอกที่ตั้งของสำนักงานให้เจ้านายสาวฟังทันที ก่อนเสริมว่า “แต่คุณหมอจะเข้าพบเขาไม่ได้ ถ้าไม่ได้นัดหมายล่วงหน้านะคะ ว่าแต่คุณหมอมีธุระอะไรกับหนุ่มฮอตคนนี้หรือคะ”

“ฉันบอกไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ ฉันไม่ได้ไปจีบเขาหรอก”

“ฉันรู้ดีค่ะ แต่ถ้าคุณหมอได้ควงกับเขา สำนักงานชันสูตรเราคงดังเป็นพลุแตก เสียดายจริงๆ ที่ฉันมีคู่หมั้นแล้ว...เฮ้อ” มิวาร์ไม่เสียเวลาฟังคำพร่ำเพ้อจาระไนของคาร่าอีกต่อไป เธอรีบตัดสายแล้วโบกเรียกแท็กซี่ สั่งคน ขับให้ไปสำนักงานใหญ่ของธนาคารเอเมอร์สัน

เป็นไปตามที่คาร่าบอกไว้ พนักงานที่ล็อบบี้ของสำนักงานใหญ่ ไม่อนุญาตให้เธอเข้าพบเจ้าของธนาคาร เพราะเธอไม่ได้นัดหมายไว้ และเธอต้องนัดหมายกับเลขาส่วนตัวของเขาโดยตรงเท่านั้น นอกจากนี้...เมื่อเธออ้างว่าให้แจ้งชื่อกับนามสกุลของเธอกับเลขาท่านประธาน พนักงานสาวก็บอกความจริงให้ฟังว่าอีรอสกับเลขาเดินทางไปตรวจงานที่สาขาอื่น และอาจจะไม่กลับเข้ามาในสำนักงานก็เป็นได้ มิวาร์จึงต้องกลับที่พักด้วยอารมณ์ขุ่นมัวผสมกับวิตกกังวล แต่เธอก็ได้ฝากข้อความถึงอีรอสให้โทร.ติดต่อกลับมาหาเธอด้วยผ่านทางเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์สาวสวย



****************



มิวาร์กำลังหลับเป็นตาย ตอนที่โทรศัพท์ของเธอส่งเสียงดังจนสะดุ้งตื่น เธอเหลือบมองนาฬิกาบนผนังขณะคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะหัวเตียง

“หกโมงเย็นแล้วเหรอเนี่ย...ฮัลโหล เกรแฮมพูดค่ะ” เธอพยายามทำน้ำเสียงไม่งัวเงียอย่างที่สุด

“เสียดายที่ผมไม่ได้อยู่ต้อนรับคุณ...เพิ่งตื่นหรือจ๊ะ”

อีรอส!

เมื่อรู้ว่าปลายสายเป็นใคร ตาของเธอก็สว่างโร่ ผุดลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงทันควัน และกรอกเสียงพูดเร็วปรื๋ออย่างหาเรื่องลงไปทันที “คุณรู้ได้ยัง ไงว่าแม่ฉันเพิ่งคลอดลูก แถมยังรู้ที่อยู่ครอบครัวฉันอีก”

“คนระดับผม...อยากรู้อะไรก็ย่อมได้รู้ หวานใจ”

“ฉันไม่ใช่หวานใจของนาย! อ้อ ช่วยส่งคนไปเอาเปลเด็กนั่นคืนด้วย หรือจะให้ฉันส่งกลับไปที่สำนักงานห่วยแตกของนายดี และนายก็ช่วยส่งการ์ดอีกใบไปบอกพ่อแม่ฉันด้วยว่า นายมันคนขี้ตู่...ที่ผู้หญิงเขาไม่สนใจ แต่หน้าด้านแอบอ้างเป็นแฟนเพราะคิดไปเองฝ่ายเดียว”

“โว้ๆๆ...ใจร้ายกับผมจัง ผมแค่อยากผูกมิตรกับคุณนะ”

“ถ้าอยากผูกมิตรกับฉันจริงละก็ เอารถฉันคืนมา พร้อมกระเป๋าเงินกับเพจเจอร์ของฉันด้วย”

“ไปขี่รถเล่นด้วยกันอีกสักรอบ แล้วผมจะคืนทั้งหมดให้คุณ”

“ฝันไปเหอะ” มิวาร์กดตัดสายอย่างลืมตัวทันที แต่ไม่ถึงสองวินาที...โทรศัพท์ก็ดังขึ้นใหม่เธอกดรับสายอย่างเสียมิได้

“ดีจังที่ทูนหัวไม่ปิดเครื่องหนีผม” ปลายสายหยอกเย้ากลับมาอย่างอารมณ์ดี

“ฉันก็กำลังจะปิดอยู่นี่ไง” เธอแหว

“อ๊ะๆ ไม่อยากได้รถกับของทั้งหมดคืนแล้วหรือจ๊ะ” อีรอสรีบดักคอ

“ต้องแลกกับอะไร?” มิวาร์เองก็ทันเกมของอีกฝ่าย

“เชิญผมไปดื่มน้ำตะไคร้กับกินขนมหวานที่ห้องคุณสิ หรือยอมออก ไปซิ่งกับผม”

“ข้อเรียกร้องของคุณเป็นหมัน เพราะฉันไม่อยากเอาตัวเข้าไปใกล้คุณมากกว่าสิบเซ็นต์ ถ้าคุณอยากได้ของของฉันไว้ดูต่างหน้าขนาดนั้น คุณก็เก็บไว้เถอะ ฉันยังมีปัญญาหามันใหม่ได้อีก แค่นี้นะ อย่ามากวนเวลาหลับเวลานอนของฉัน มีแต่งานที่สำคัญต่อชีวิตฉัน ส่วนผู้ชายก็แค่เศษฝุ่น เข้าใจ๋!”

ปิ๊บ!

สัญญาณถูกตัดพร้อมเครื่องถูกปิด มิวาร์ถอนหายใจยาวแรงๆ อยู่ หลายครั้ง ก่อนจะซุกหัวลงไปบนหมอนอันนุ่มนิ่มและหลับตาลง บอกตัวเองว่าเธอมีข้อแก้ตัวที่ฟังขึ้นสำหรับบิดามารดาแน่นอน แต่ตอนนี้...ขอนอนหลับพักเอาแรงก่อนจะต้องไปเข้าเวรตอนเที่ยงคืนตลอดทั้งสัปดาห์นี้

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะนอนหลับ เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้น!

มิวาร์สบถก่อนจะตวัดผ้าห่มผืนหนาออกแล้วลงจากเตียงอย่างหงุด หงิด เดินขมวดคิ้วตรงไปส่องตาแมวเป็นอันดับแรก แต่สิ่งที่เห็นคือเด็กส่ง พิซซ่าใส่หมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า เธอไม่ได้โทร.ไปสั่งพิซซ่าเสียหน่อย!?

“ส่งผิดห้องแล้วมั้งคะ” มิวาร์เปิดประตูออกไปบอกด้วยความหวังดี แต่พอเด็กส่งพิซซ่าเงยหน้าขึ้นมา ขาของเธอก็แข็งทื่อ!

อีรอส ไททัน ในมาดเด็กส่งพิซซ่า!

เขาส่งยิ้มโก้เก๋ให้เธอ แล้วรีบใช้ไหล่ดันตัวแทรกผ่านบานประตูเข้าไปจนสำเร็จเมื่อเธอทำท่าว่าจะปิดประตูหนี

“ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ ตาบ้า ไม่งั้นฉันจะแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุก”

มิวาร์แว้ดใส่ แถมยังต้องก้าวถอยทีละก้าวเมื่อชายตรงหน้าย่างเท้าเข้ามาในห้องมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยท่าทางสบายๆ ราวกับแมวคราว

“คุณจะไม่ขอบคุณผมหน่อยหรือที่ส่งเปลเด็กไปให้แม่ของคุณ แถมยังซ่อมดูคาติให้คุณอีกต่างหาก”

“ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ฉันไม่ซึ้งน้ำใจอะไรของคุณทั้งนั้นแหละ”

“โอเค ผมก็ไม่คิดว่าจะได้คำชมจากคุณอยู่แล้ว...มากินพิซซ่ากันดี กว่า ถาดนี้เป็นฝีมือเชฟที่บ้านผมเอง” อีรอสบอกอย่างไม่รู้สึกรู้สม พอเดินมาถึงโต๊ะไม้สลักลายวิจิตรในห้องรับแขก เขาก็วางถาดพิซซ่าอุ่นๆ ลงพร้อมกับถอดหมวก และถือโอกาสหย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้นวม เอนหลังพิงพนัก  พาดแขนทั้งสองไว้ด้านบน และเหยียดแข้งเหยียดขาอย่างสบายอารมณ์

ดวงตาสีสวยกวาดขึ้นลงบนเรือนร่างโปร่งระหงในชุดนอนสั้นแค่เข่าซึ่งมีเสื้อคลุมขนหนูสีขาวสวมทับถึงแค่โคนขา เผยความเรียวเสลาของช่วงขายาวได้รูป มิวาร์มองตามสายตาของอีรอสแล้วก็ตัวสั่นสะท้าน รู้สึกถึงการลอกเนื้อตัวเธอด้วยสายตาคมกริบคู่นั้น

“ฉันไม่หิว รีบๆ ออกไปให้พ้นหน้าฉันเลย”

“ผมให้เชฟทำพิซซ่าหน้าเห็ดทรัฟเฟิล รับรองว่าคุณไม่อ้วนแน่”

“ฉันไม่ได้เห็นแก่กินย่ะ”

เธอแฟดใส่ คันไม้คันมือที่เห็นท่าทางสบายอกสบายใจในระหว่างนั่งเอนหลังของเขา มันขัดหูขัดตาชอบกล แถมเธอยังรู้สึกว่าตัวเองอยู่ผิดที่ผิดทางเสียอีกด้วย

“เอาละ คนสวย ผมมาดี แต่ถ้าคุณอยากให้ผมรบกับคุณ ผมก็เต็มใจจะรบกับคุณจนฟ้าสาง บอกได้เลยว่าชุดที่คุณใส่น่ะ ผมถอดเสร็จภายในห้าวินาที”

มิวาร์เผลอยกแขนกอดกระชับรอบอกขึ้นโดยอัตโนมัติ ถลึงตาเขียวปัดใส่คนหน้าด้านหน้าทนที่ฉีกยิ้มมุมปาก ดูกวนประสาทดีนักแล

“คุณต้องการอะไร” แม้คิดว่าบังคับเสียงตนเองได้แล้ว แต่เสียงของเธอก็ยังคงดังกระชั้นเหมือนเสียงตะคอกอยู่ดี

“ผมก็มาหาเจ้าสาวของผมน่ะสิ ไม่ได้อยู่ใกล้กันหลายวัน คิดถึงใจแทบ...ขาด” ท้ายประโยค น้ำเสียงราบเรียบของเขากลายเป็นแหบพร่ารัญ จวนใจ แต่มิวาร์เท้าสะเอวฉับ จ้องหน้าเอาเรื่องสุดๆ

“คุณพูดเองว่าฉันยังไม่เคยผ่านไอ้ ‘เล็กจี๊ดเดียว’ ของคุณ แล้วฉันจะไปเป็นเจ้าสาวของคุณได้ไง ฮี่โธ่”

แม่ตุ๊กตาบลายธ์สาวปากคอเราะร้ายไม่สมกับดวงหน้าน่ารักเลย...พับผ่าสิ!

อีรอสคิดอย่างฉุนๆ ขณะสบประสานสายตาเย่อหยิ่งปนเยาะหยันของสาวเจ้าเขม็ง อยากจะคว้าหล่อนลงมาจูบให้จ๋ำหนับ จะได้เข็ดหลาบกับการดูหมิ่นเชิงชายของเขานัก

อีรอสลุกพรวด ทำเอามิวาร์สะดุ้งโหยง เผลอก้าวเท้าถอยหลัง มองเขาตาไม่กะพริบ กลัวว่าถ้ากะพริบตาสักครั้งหนึ่งเขาจะเข้ามาถึงตัวเธอไวยิ่งกว่าแสง เขากระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆ ของเธอ

“กลัวผมหรือจ๊ะ เบบี๋ ถึงได้ทำหน้าแบบนั้น เหลือเชื่อนะ...คุณเป็นคนกล้าหาญออก” เขาจงใจยั่วโมโหเธอ หมายจะทำให้เธอลืมตัว ค่อยๆ เดินอ้อมโต๊ะสลักลายหน้าโซฟาออกมาช้าๆ เหมือนแมวย่อง

“รู้อะไรไหม...ผมเป็นประเภทชอบเสพติดความกลัวของคนอื่น มันเป็นรสชาติที่หอมหวานมากกับการอยู่เหนืออำนาจของคนทุกคนที่ต้องเกี่ยว ข้องกับผม และยิ่งกับคุณ...ผมรู้สึกเหมือนตัวเอง Flying เลยล่ะ” เขาพูดต่อ ไปพลางเดินอ้อมโต๊ะมาถึงทางเดินกว้างอีกครั้ง แต่ฝีเท้าของเขายังคงก้าวเข้าหามิวาร์เนิบช้า มองดูเธอเดินถอยหลังกรูดด้วยสายตาคมปลาบแบบนักล่า

ส่วนมิวาร์อยากจะ...Flying ออกทางหน้าต่างเสียเดี๋ยวนั้น!

“อย่าเข้ามานะ มิสเตอร์ไททัน ไม่งั้น...คุณเจ็บตัวแน่”

เธอขู่ฟ่อ เหลือบตาไปทางด้านซ้ายมือมองเห็นชั้นวางรูปภาพของครอบครัวอยู่ห่างออกไปทางด้านหลังเล็กน้อย สบโอกาสล่ะ!

“ถ้าคุณชอบใช้ความรุนแรงนะ เบบี๋ ผมก็จะบอกให้ว่าผมรักความรุนแรงมากๆ เลยละ เพราะเวลาเจ็บตัวนี่มันซู่ซ่า คึกคักพิลึก” สิ้นคำ กรอบรูปภาพขนาดเล็กก็ปลิวหวือใส่หน้า แต่อีรอสใช้สันมือปัดมันออกพ้นอย่างว่องไว กรอบรูปพลาสติกจึงร่วงตกลงพื้น

ชายหนุ่มตาลุกวาวเมื่อสาวตรงหน้าเริ่มเขวี้ยงกรอบรูปอีกสามสี่อันหมายจะให้เขาเจ็บตัวจริงๆ แต่เขาก็หลบพ้นอย่างหวุดหวิดร่ำไป

“แน่จริงอย่าหลบสิ! ไหนบอกว่าชอบเจ็บตัวไง ลองสักแผลสองแผลก่อนดีไหม ไอ้คนปากเก่ง”

“ผมลืมบอกไปอย่าง...” อีรอสเอ่ยขึ้นด้วยเสียงที่สั่นประสาทไปทุกรูขุมขน “ถ้าผมเจ็บตัว คุณก็ต้องเจ็บด้วย ผมชอบความรุนแรงแบบร่วมคู่น่ะ”

“ไอ้โรคจิต! ออกไปให้พ้นๆ ห้องฉันเลยนะ” มิวาร์แว้ดสุดเสียงด้วยความโกรธปนตื่นตระหนก เธอรีบหมุนตัววิ่งเข้าไปในห้องนอนอย่างเร็วรี่ อีรอสวิ่งตามทันใด เขาคว้าไหล่บอบบางของเธอได้ทันก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปซ่อนตัว พอมือหนาแตะไหล่บาง ร่างเพรียวระหงก็หมุนตัวกลับอย่างฉับไวพร้อมกับหมัดเล็กๆ ที่เหวี่ยงใส่เบ้าตาของเขา แต่เขาก็เบี่ยงศีรษะหลบทัน ทำให้ร่างบางเซถลาเข้าไปอยู่ในอ้อมอกแกร่งเต็มๆ อีรอสฉวยจังหวะนั้นช้อนร่างงามขึ้นในวงแขนทันที

“กรี๊ด...ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ไอ้จอมฉวยโอกาส”

มิวาร์แหกปากร้องดังลั่นแทบหูดับพลางดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขน ล่ำหนาอันทรงพลังอย่างไม่ยอมแพ้ แม้ว่าจะหวาดกลัวเหลือแสนแต่เธอก็พยายามหาทางเอาตัวรอดสุดฤทธิ์

“หยุดดิ้น! ถ้าไม่อยากให้ผมใช้ความรุนแรงกับคุณบนเตียง ก็เลือกเอาว่าอยากจะได้แบบนุ่มนวลชวนฝัน หรือถูกมัดติดหัวเตียงแล้วผม...”

“ฉันไม่เลือกอะไรทั้งนั้นแหละ!” มิวาร์ตะเบ็งเสียงใส่หน้าแดงจัด ตาของเธอวาววับดุจนางสิงห์ ฉายชัดถึงความเกลียดชัง แต่อีรอสไม่ยี่หระกับสายตาคู่นั้นแม้แต่น้อย เขามองตาเธอด้วยแววตาอวดดีอย่างคนที่เหนือชั้นกว่า

“คุณทำให้ผมต้องใช้ความรุนแรงกับคุณเองนะ ยาหยี...ถ้ายอมกิน พิซซ่ากับผมแต่แรก เรื่องมันก็คงไม่เป็นแบบนี้”

คำพูดของเขาทำเอาเธอชะงักไปเสี้ยววินาทีด้วยไม่คิดว่าเขาจะพูดแบบนั้น

“งะ...งั้น กินพิซซ่าด้วยกันก็ได้” มิวาร์รีบประนีประนอมทันทีแต่ยัง คงดิ้นขลุกขลัก อีรอสจึงรัดร่างเธอแน่นขึ้น ทำให้เธอขัดขืนยากลำบากมากกว่าเดิม

“ไม่ละ...ตอนนี้อารมณ์ของผมมันถูกจุดติดจนร้อนแทบระเบิดแล้ว”

ฮึ่ม...คนหื่น!

*******************

ปุกาศๆ เล่ห์อำพรางใจวางจำหน่ายในรูปแบบ eBook แล้วนะคะ^^ ใครสนใจตามไปโหลดมาอ่านได้ที่เว็บ mebmarket จ้าาาาา

ส่วนแบบเล่มหนังสือ ตอนนี้พร้อมส่งแล้วค่ะ สดๆ ร้อนๆ เลย ราคา 349฿ (จากปก 389฿)

ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
กรณีจัดส่ง EMS บวกเพิ่ม 45฿

(((เปิดให้สั่งในราคานี้ พร้อมส่งฟรี ถึง 19 กรกฎาคม หลังจากนี้ไปมีค่าส่ง และวางจำหน่ายแค่ช่องทางออนไลน์เท่านั้น)))

#ช่องทางสั่งซื้อ/สั่งจอง

-สั่งกับสนพ.โดยตรง มี 3 ช่องทาง ได้แก่
inbox สั่งจองกับแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
line: plaipakkabooks
เมล์ plaipakkabooks@gmail.com

-ร้านออนไลน์ ตอนนี้มีร้าน booksforfun ร้านนิยายรัก และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค

ฝากมิวาร์กับอีรอสด้วยนะคะ ^_^


หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ค. 2563, 14:39:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ค. 2563, 14:39:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 409





<< บทที่ 4 -100%   บทที่ 5 -80% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account