ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 11 -50%
บ่ายวันนั้นจันทน์กะพ้อเลิกงานเร็วกว่าปกติ เพราะไม่มีสอนภาคบ่าย บรรยากาศเย็นชาที่หล่อนสัมผัสได้ในที่ทำงานทำให้ต้องลบความคิดที่จะอยู่เตรียมการสอนต่ออีกสักชั่วโมงทิ้งไปเสีย หญิงสาวกลับมาถึงบ้านทันได้เห็นผู้เป็นพ่อโบกมือให้หย็อยๆ จากท้ายรถกระบะของตรีเมฆที่วิ่งสวนออกมาจากบ้าน เสียงร้องบอกจากพ่อได้ความว่าจะไปเที่ยวสวนผลไม้กับลุงเกิดและช่างเมฆ หล่อนโบกมือตอบและยิ้มให้ด้วยจิตใจที่เบิกบานขึ้น
“เป็นยังไงจ๊ะพี่ลำดวน วันนี้ขายดีไหม”
“ขายดีเหมือนทุกวันนั่นแหละคุณครู ผลไม้ใกล้จะหมดแล้ว คุณเมฆคงแวะไปที่สวนแล้วก็แถวตลาดขายส่ง ส่วนคุณนายขึ้นไปเอนหลังบนเรือนกระมัง”
ลำดวนเอ่ยพลางไกวเปลให้ลูกน้อยที่นอนดูดนมตาแป๋ว จันทน์กะพ้อมองรูปร่างอวบอิ่มกำลังงามของแม่ลูกอ่อนด้วยความชื่นชม เพิ่งคลอดได้ไม่นาน ลำดวนก็กลับมาสวยงามสมทรงองค์เอวดังเดิมจนแทบดูไม่ออกว่ามีลูกอ่อน
“พี่ลำดวนผอมลงเร็วมากเลย เพิ่งคลอดแท้ๆ” จันทน์กะพ้อชวนคุย ลำดวนคลี่ยิ้ม ปรายตามองสาวอ่อนวัยกว่า ปากว่า
“อดอยากน่ะสิถึงได้ผอมเร็ว ผัวพี่ทำมาหากินเป็นเสียทีไหนล่ะ”
“นายจอมก็มาทำงานที่นี่ไม่ใช่หรือจ๊ะ”
“ทำน่ะมันทำหรอก แต่ทำได้เท่าไรก็ลงขวดหมด เลิกยาได้แต่ก็มาติดเหล้าต่อ ไม่รู้อันไหนดีกว่ากัน ขี้เกียจก็ปานนั้น สู้คุณเมฆก็ไม่ได้ ดูสิเป็นถึงเจ้าของบ้านแต่ทำงานสารพัดอย่าง นี่ห่วงงานมากขนาดต้องลงมานอนห้องใต้ถุนบ้านเลยหรือจ๊ะคุณครู”
ลำดวนเอ่ยอย่างคนช่างสังเกต จันทน์กะพ้อได้แต่พยักหน้าน้อยๆ
“ถ้าผัวพี่ขยันได้สักเสี้ยวหนึ่งของคุณเมฆก็คงดี แต่มันเป็นแบบนี้พี่ก็อยากจะหาผัวใหม่เสียให้รู้แล้วรู้รอดไป” ลำดวนอดปรับทุกข์ไม่ได้
จันทน์กะพ้อเบิกตาเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ปกติลำดวนเป็นเมียที่สงบเสงี่ยมเสมอ
“พอมีลูกแล้วมันก็ชักจะไม่ไหวนะ ถ้าพี่ไม่คิดอะไรเสียเลยลูกก็คงไม่มีอนาคตกับพ่อเฮงซวยแบบนี้”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะพี่ลำดวน จันทน์ว่าลุงเกิดกับเจ้านายแกคงกำลังพยายามช่วยให้นายจอมทำงานหาเงินให้มากขึ้นนะ ไม่แน่เขาอาจจะกลับตัวได้ แต่มันคงต้องใช้เวลาสักหน่อย”
ลำดวนฟังคำปลอบโยนนั้นเงียบๆ หล่อนเม้มปากนิ่ง ก้มลงมองหน้าเล็กๆ ของลูก หล่อนคิดอะไรอยู่ในใจจันทน์กะพ้อก็ไม่อาจจะเดาได้
******************
ค่ำแล้วยังไม่มีวี่แววว่าสามหนุ่มต่างวัยจะกลับบ้าน นายจอมรับเมียกับลูกซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับบ้านไปก่อนนานแล้วโดยไม่รอลุงเกิด
ก่อนฟ้าจะมืดสนิท เสียงโทรศัพท์บ้านตรีเนตรก็ดังขึ้น
จันทน์กะพ้อยกหูโทรศัพท์ขึ้นรับ ปลายสายเป็นเสียงลูกชายเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้องรอทานข้าวเย็นนะ วันนี้จะพาตาลุงสองคนนี้ไปเสียคนสักหน่อย”
“ไปไหนกันคะ” จันทน์กะพ้อรู้ว่าเขาล้อเล่น แต่ก็อดห่วงไม่ได้
“ไปที่ที่ผู้ชายเขาชอบไปกันสิ”
“คุณเมฆคะ” เสียงหล่อนเขียวขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้จนเด็กชายตรีเพชรเงยหน้าขึ้นจากการบ้านมามองด้วยความสงสัย
“ไปกินข้าวเย็นนอกบ้านกันสักมื้อไม่ได้หรือไง บ่นยังกับยายแก่”
‘ก็แล้วทำไมไม่บอกตรงๆ ล่ะ’
ในใจหล่อนนึกสวนออกไปทันควัน แต่ทำได้แค่ทอดถอนใจเบาๆ
“ไปละ หิวกันแล้ว ไม่เกินสามทุ่มถึงบ้านกันแน่นอน ไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณค่ะ ฝากพ่อด้วยนะคะ” หล่อนพูดจบก็วางหู แล้วหันไปบอกป้ามาลี นางแค่ส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงระอาใจ หากไม่จริงจังเท่าใดนัก จันทน์กะพ้อเองเสียอีกที่กำลังหนักใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังจะบอกแก่ผู้มีพระคุณที่รักเหมือนแม่แท้ๆ
แต่อย่างไรเสียหล่อนก็ต้องคุยกับนางให้เข้าใจให้ได้เสียก่อน จะมีโอกาสไหนดีไปกว่าตอนที่พ่อของหล่อนและลูกชายของนางไม่อยู่อีกล่ะ
หลังมื้ออาหาร นางมาลีนั่งจิบชาร้อนๆ ที่จันทน์กะพ้อต้มให้ หลายวันมานี้นางไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะอีกเลย ช่วงกลางวันยังลงไปช่วยลำดวนหยิบจับงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ร้านขายผลไม้ได้อีกด้วย จันทน์กะพ้อนั่งอยู่ที่เสื่อกกข้างๆ เด็กชายตรีเพชร กำลังช่วยตรวจการบ้านให้เด็กชาย บรรยากาศยามค่ำเป็นไปอย่างสงบดังเช่นสมัยก่อนที่ตรีเมฆจะออกมาจากคุกไม่มีผิด
แต่ไม่ทันที่นางจะได้หย่อนใจได้นานนัก จันทน์กะพ้อก็เอ่ยปากขอคุยด้วยในเรื่องสำคัญที่นางเคยกลัวว่าหล่อนจะขอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะอยากตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้นานนักหรอก โดยเฉพาะเมื่อมีบุพการีผู้ชรามาอยู่ด้วย แม้จะเข้าใจแต่นางก็อดใจหายไม่ได้
“จะไปจริงๆ หรือหนูจันทน์” นางเอ่ยถามเสียงแหบ โอบแขนรอบไหล่เด็กชายตรีเพชรที่กำลังตกใจและงุนงง
“ค่ะ ป้า จันทน์คิดเรื่องนี้มานานแล้ว จันทน์ไม่สบายใจเลยที่คุณเมฆต้องมาลำบาก แล้วยังต้องโกหกพ่ออีก ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่อง พ่อไม่ค่อยสบายใจเลยค่ะ จันทน์ไม่อยากให้พ่อต้องมีเรื่องผิดหวังอีก”
“ป้าเข้าใจ” นางเอ่ยพลางทอดถอนใจ “จะไปอยู่ไกลมากไหมล่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ จันทน์กะว่าจะหาแถวๆ หน้าวิทยาลัยนี่ละค่ะ ป้าเข้าใจจันทน์ใช่ไหมคะ” หญิงสาวบีบมือบางของอีกฝ่ายเบาๆ ดวงตาอ้อนวอน
นางมาลีลูบเรือนผมงามด้วยความเมตตา “เข้าใจสิลูก ไม่เป็นไร มาเยี่ยมป้ากับเจ้าเพชรมันบ่อยๆ ก็แล้วกันนะ”
“ค่ะ จันทน์จะมาบ่อยๆ ค่ะ”
จันทน์กะพ้อพูดแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนีจากภาพเด็กชายตรีเพชรที่ซบหน้ากับไหล่ของผู้เป็นยาย ร้องไห้ฮือๆ จนตัวโยนโดยไม่พูดหรือแม้แต่มองมาทางหล่อนอีกเลย
*********************
วันนี้มาแจ้งโปรฯ ด้วยค่า^^ เป็นเพื่อนใน Line กันรึยังเอ่ย ตอนนี้สนพ.จัดโปรฯ ลด 10% จากราคาขายนะคะ เพียงสั่งซื้อหนังสือกับสนพ.ผ่าน Line id: plaipakkabooks
ตั้งแต่วันนี้ - 17 สิงหาคม 2563 เท่านั้น
((แอดเฟรนด์ก่อนนะคะ โดยกดค้นหา id: plaipakkabooks ในไลน์ และแอดเฟรนด์ จากนั้นแชตมาสั่งซื้อได้เลย!))
“เป็นยังไงจ๊ะพี่ลำดวน วันนี้ขายดีไหม”
“ขายดีเหมือนทุกวันนั่นแหละคุณครู ผลไม้ใกล้จะหมดแล้ว คุณเมฆคงแวะไปที่สวนแล้วก็แถวตลาดขายส่ง ส่วนคุณนายขึ้นไปเอนหลังบนเรือนกระมัง”
ลำดวนเอ่ยพลางไกวเปลให้ลูกน้อยที่นอนดูดนมตาแป๋ว จันทน์กะพ้อมองรูปร่างอวบอิ่มกำลังงามของแม่ลูกอ่อนด้วยความชื่นชม เพิ่งคลอดได้ไม่นาน ลำดวนก็กลับมาสวยงามสมทรงองค์เอวดังเดิมจนแทบดูไม่ออกว่ามีลูกอ่อน
“พี่ลำดวนผอมลงเร็วมากเลย เพิ่งคลอดแท้ๆ” จันทน์กะพ้อชวนคุย ลำดวนคลี่ยิ้ม ปรายตามองสาวอ่อนวัยกว่า ปากว่า
“อดอยากน่ะสิถึงได้ผอมเร็ว ผัวพี่ทำมาหากินเป็นเสียทีไหนล่ะ”
“นายจอมก็มาทำงานที่นี่ไม่ใช่หรือจ๊ะ”
“ทำน่ะมันทำหรอก แต่ทำได้เท่าไรก็ลงขวดหมด เลิกยาได้แต่ก็มาติดเหล้าต่อ ไม่รู้อันไหนดีกว่ากัน ขี้เกียจก็ปานนั้น สู้คุณเมฆก็ไม่ได้ ดูสิเป็นถึงเจ้าของบ้านแต่ทำงานสารพัดอย่าง นี่ห่วงงานมากขนาดต้องลงมานอนห้องใต้ถุนบ้านเลยหรือจ๊ะคุณครู”
ลำดวนเอ่ยอย่างคนช่างสังเกต จันทน์กะพ้อได้แต่พยักหน้าน้อยๆ
“ถ้าผัวพี่ขยันได้สักเสี้ยวหนึ่งของคุณเมฆก็คงดี แต่มันเป็นแบบนี้พี่ก็อยากจะหาผัวใหม่เสียให้รู้แล้วรู้รอดไป” ลำดวนอดปรับทุกข์ไม่ได้
จันทน์กะพ้อเบิกตาเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ ปกติลำดวนเป็นเมียที่สงบเสงี่ยมเสมอ
“พอมีลูกแล้วมันก็ชักจะไม่ไหวนะ ถ้าพี่ไม่คิดอะไรเสียเลยลูกก็คงไม่มีอนาคตกับพ่อเฮงซวยแบบนี้”
“ใจเย็นๆ ก่อนนะพี่ลำดวน จันทน์ว่าลุงเกิดกับเจ้านายแกคงกำลังพยายามช่วยให้นายจอมทำงานหาเงินให้มากขึ้นนะ ไม่แน่เขาอาจจะกลับตัวได้ แต่มันคงต้องใช้เวลาสักหน่อย”
ลำดวนฟังคำปลอบโยนนั้นเงียบๆ หล่อนเม้มปากนิ่ง ก้มลงมองหน้าเล็กๆ ของลูก หล่อนคิดอะไรอยู่ในใจจันทน์กะพ้อก็ไม่อาจจะเดาได้
******************
ค่ำแล้วยังไม่มีวี่แววว่าสามหนุ่มต่างวัยจะกลับบ้าน นายจอมรับเมียกับลูกซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์กลับบ้านไปก่อนนานแล้วโดยไม่รอลุงเกิด
ก่อนฟ้าจะมืดสนิท เสียงโทรศัพท์บ้านตรีเนตรก็ดังขึ้น
จันทน์กะพ้อยกหูโทรศัพท์ขึ้นรับ ปลายสายเป็นเสียงลูกชายเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้องรอทานข้าวเย็นนะ วันนี้จะพาตาลุงสองคนนี้ไปเสียคนสักหน่อย”
“ไปไหนกันคะ” จันทน์กะพ้อรู้ว่าเขาล้อเล่น แต่ก็อดห่วงไม่ได้
“ไปที่ที่ผู้ชายเขาชอบไปกันสิ”
“คุณเมฆคะ” เสียงหล่อนเขียวขึ้นเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้จนเด็กชายตรีเพชรเงยหน้าขึ้นจากการบ้านมามองด้วยความสงสัย
“ไปกินข้าวเย็นนอกบ้านกันสักมื้อไม่ได้หรือไง บ่นยังกับยายแก่”
‘ก็แล้วทำไมไม่บอกตรงๆ ล่ะ’
ในใจหล่อนนึกสวนออกไปทันควัน แต่ทำได้แค่ทอดถอนใจเบาๆ
“ไปละ หิวกันแล้ว ไม่เกินสามทุ่มถึงบ้านกันแน่นอน ไม่ต้องห่วง”
“ขอบคุณค่ะ ฝากพ่อด้วยนะคะ” หล่อนพูดจบก็วางหู แล้วหันไปบอกป้ามาลี นางแค่ส่ายหน้าน้อยๆ เป็นเชิงระอาใจ หากไม่จริงจังเท่าใดนัก จันทน์กะพ้อเองเสียอีกที่กำลังหนักใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังจะบอกแก่ผู้มีพระคุณที่รักเหมือนแม่แท้ๆ
แต่อย่างไรเสียหล่อนก็ต้องคุยกับนางให้เข้าใจให้ได้เสียก่อน จะมีโอกาสไหนดีไปกว่าตอนที่พ่อของหล่อนและลูกชายของนางไม่อยู่อีกล่ะ
หลังมื้ออาหาร นางมาลีนั่งจิบชาร้อนๆ ที่จันทน์กะพ้อต้มให้ หลายวันมานี้นางไม่มีอาการวิงเวียนศีรษะอีกเลย ช่วงกลางวันยังลงไปช่วยลำดวนหยิบจับงานเล็กๆ น้อยๆ ที่ร้านขายผลไม้ได้อีกด้วย จันทน์กะพ้อนั่งอยู่ที่เสื่อกกข้างๆ เด็กชายตรีเพชร กำลังช่วยตรวจการบ้านให้เด็กชาย บรรยากาศยามค่ำเป็นไปอย่างสงบดังเช่นสมัยก่อนที่ตรีเมฆจะออกมาจากคุกไม่มีผิด
แต่ไม่ทันที่นางจะได้หย่อนใจได้นานนัก จันทน์กะพ้อก็เอ่ยปากขอคุยด้วยในเรื่องสำคัญที่นางเคยกลัวว่าหล่อนจะขอ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะอยากตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแบบนี้นานนักหรอก โดยเฉพาะเมื่อมีบุพการีผู้ชรามาอยู่ด้วย แม้จะเข้าใจแต่นางก็อดใจหายไม่ได้
“จะไปจริงๆ หรือหนูจันทน์” นางเอ่ยถามเสียงแหบ โอบแขนรอบไหล่เด็กชายตรีเพชรที่กำลังตกใจและงุนงง
“ค่ะ ป้า จันทน์คิดเรื่องนี้มานานแล้ว จันทน์ไม่สบายใจเลยที่คุณเมฆต้องมาลำบาก แล้วยังต้องโกหกพ่ออีก ตอนนี้ที่บ้านมีเรื่อง พ่อไม่ค่อยสบายใจเลยค่ะ จันทน์ไม่อยากให้พ่อต้องมีเรื่องผิดหวังอีก”
“ป้าเข้าใจ” นางเอ่ยพลางทอดถอนใจ “จะไปอยู่ไกลมากไหมล่ะ”
“ไม่หรอกค่ะ จันทน์กะว่าจะหาแถวๆ หน้าวิทยาลัยนี่ละค่ะ ป้าเข้าใจจันทน์ใช่ไหมคะ” หญิงสาวบีบมือบางของอีกฝ่ายเบาๆ ดวงตาอ้อนวอน
นางมาลีลูบเรือนผมงามด้วยความเมตตา “เข้าใจสิลูก ไม่เป็นไร มาเยี่ยมป้ากับเจ้าเพชรมันบ่อยๆ ก็แล้วกันนะ”
“ค่ะ จันทน์จะมาบ่อยๆ ค่ะ”
จันทน์กะพ้อพูดแล้วก็ต้องเบือนหน้าหนีจากภาพเด็กชายตรีเพชรที่ซบหน้ากับไหล่ของผู้เป็นยาย ร้องไห้ฮือๆ จนตัวโยนโดยไม่พูดหรือแม้แต่มองมาทางหล่อนอีกเลย
*********************
วันนี้มาแจ้งโปรฯ ด้วยค่า^^ เป็นเพื่อนใน Line กันรึยังเอ่ย ตอนนี้สนพ.จัดโปรฯ ลด 10% จากราคาขายนะคะ เพียงสั่งซื้อหนังสือกับสนพ.ผ่าน Line id: plaipakkabooks
ตั้งแต่วันนี้ - 17 สิงหาคม 2563 เท่านั้น
((แอดเฟรนด์ก่อนนะคะ โดยกดค้นหา id: plaipakkabooks ในไลน์ และแอดเฟรนด์ จากนั้นแชตมาสั่งซื้อได้เลย!))
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 มิ.ย. 2563, 20:05:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 มิ.ย. 2563, 20:05:17 น.
จำนวนการเข้าชม : 456
<< บทที่ 11 -25% | บทที่ 11 -75% >> |