ชิเอโกะ [Yaoi]
ความรักบริสุทธิ์ส่งผลให้ทั้งตระกูลต้องล่มสลาย เด็กชายชนชั้นสูงแห่งเอโดะต้องผันตัวมาเป็นโสเภณีชาย ก่อนจะได้ล่วงรู้บางสิ่งที่ทำให้ไฟโทสะสุมไหม้ ตัดสินใจแก้แค้นเอาคืน
Tags: Yaoi

ตอน: ชิเอโกะ [Yaoi] บทที่ 23

สายตาคมของมาซาโตะมองไปยังใบหน้าหวานของคิโยชิที่กำลังจดจ่ออยู่กับกระดาษตรงหน้า นิ้วมือเรียวอ่อนนุ่มกำลังจับพู่กันเขียนคำตอบที่ตนทราบลงไปอย่างรวดเร็ว กลิ่นของก้านธูปที่จุดไว้เพื่อเป็นตัวบอกเวลาฟุ้งกระจายไปทั่วทั้งห้อง ร่างสูงพินิจใบหน้าสวยที่ต้องกับแสงของโคมไฟสีอ่อน ผิวกายขาวนั้นจะนุ่มเนียนมือสักเพียงใดหนอ ริมฝีปากสีชมพูอ่อนนุ่มน่าจุมพิตนั้นตกเป็นของใครหรือยัง ดวงตาคู่สวยที่เวลาจ้องมองแล้วราวกับโดนสะกดคู่นั้นทำให้เขาอยากจะเก็บคนตรงหน้าเอาไว้เชยชมเพียงแค่คนเดียว ธูปเล่มเล็กที่บ่งบอกว่าเวลาใกล้จะหมดลงแล้วทำให้เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเรียบๆ

"เสร็จหรือยังขอรับ" คิโยชิเขียนตัวสุดท้ายลงไปและวางพู่กันก่อนจะพยักหน้าเบาๆ มือแกร่งจับกระดาษคำตอบขึ้นมาไล่อ่านดู เมื่อเห็นว่าทำได้ถูกต้อง รอยยิ้มอ่อนโยนราวกับพึงพอใจก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าคม

"ทำดีมากขอรับ… วันนี้พอแค่นี้" คิโยชิยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เขารีบเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็วทิ้งเพียงแค่กลิ่นกายหอมอ่อนๆ เท่านั้นที่ยังคงลอยเจือจางอยู่ใบบรรยากาศพอให้ใครบางคนหายคิดถึง



ดวงจันทร์สีนวลลอยเด่นอยู่บนท้องนภาในยามดึก มาซาโตะที่จัดการงานทุกอย่างเสร็จแล้วปิดหน้าสมุดลงเบาๆ แล้วจัดเก็บมันให้เป็นระเบียบ คนตัวเล็กที่ผุดขึ้นมาในหัวแทบจะในทันทีที่สมองว่างจากงานทำให้เขาเผลอยิ้มมุมปากแต่ก็ลอบถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อทราบว่าดวงใจของเขาได้ถูกคิโยชิครอบครองเอาไว้จนเต็มพื้นที่ไปหมดแล้ว ความคิดถึงที่เอ่อล้นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามทำให้มาซาโตะเดินออกจากห้องทำงานด้วยดวงใจที่เต้นแรงจนปวดตุบ สายตาคมมองขึ้นไปยังพระจันทร์ดวงสวย บรรยากาศยามดึกที่เย็นสบายและเงียบสงบเช่นนี้เหมาะแก่การเดินชมจันทร์เป็นอย่างยิ่ง ขาเรียวยาวก้าวเท้าเดินไปเรื่อยๆ บนทางเดินพื้นไม้ที่เย็นชืด แสงจากโคมไฟสีอ่อนที่เรียงรายเป็นทางยาวไปบนทางเดินทำให้เขาหวนนึกถึงใบหน้าของคิโยชิที่กำลังตั้งอกตั้งใจร่ำเรียนหนังสือ



รู้ตัวอีกทีร่างสูงโปร่งก็เดินมาถึงบริเวณสะพานญี่ปุ่นสีแดงแบบโบราณที่เชื่อมข้ามลำธารไปยังส่วนของปราสาทชั้นกลาง ไกลออกไปไม่มากนักสามารถมองเห็นเรือนขนาดย่อมหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนสวยแห่งปราสาทฝั่งตะวันออก มันคือเรือนพักของคิโยชิที่ฮิโรมาสะจัดแจงไว้ให้ด้วยเหตุผลที่ว่าคิโยชินั้นเริ่มเติบโตและอาจจะต้องการพื้นที่ส่วนตัว ไฟในเรือนที่ปิดลงทำให้ทราบว่าคนตัวเล็กคงจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปแล้ว มาซาโตะคิดพลางมองดูรอบๆ บริเวณ เคนตะที่ปกติควรจะเฝ้ายามอยู่ด้านหน้าบัดนี้ไม่เห็นแม้แต่เงา ความสงสัยก่อตัวขึ้นมาในดวงใจ แต่เพราะเหตุผลที่ว่าไม่มีใครที่จะสามารถเฝ้ายามได้ตลอดทั้งวันทั้งคืนโดยที่ไม่พักผ่อนทำให้มาซาโตะนั้นเบาใจลงได้ไม่ยาก ไม่แน่ว่าเคนตะอาจจะไปทำธุระส่วนตัวและกลับมาอีกครั้งภายหลังก็เป็นได้ คิดได้เช่นนั้นมาซาโตะก็เหม่อมองไปยังพระจันทร์ดวงสวยอีกครั้งก่อนจะก้าวเดินกลับเข้าปราสาทไปยังห้องพักของตน

เส้นผมสีดำขลับของเคนตะถูกกำเอาไว้แน่นด้วยมือเล็กที่กำลังครางเสียงแผ่ว



[ฉาก NC สามารถอ่านได้ใน E-book ค่ะ]



ฤดูกาลผ่านพ้นจนมาถึงช่วงที่ฮิโรมาสะจะต้องเดินทางไปรายงานตัวประจำปีกับท่านโชกุนที่เอโดะเพื่อสวามิภักดิ์และแสดงสัตย์สาบานว่าจะไม่ต่อต้านรัฐบาลโชกุน และนั่นก็หมายถึงช่วงวุ่นวายของมาซาโตะได้กลับมาอีกครั้งเพราะระหว่างที่ไดเมียวไม่อยู่นั้นพ่อบ้านจะต้องเป็นผู้รักษาราชการและทำหน้าที่ทุกอย่างแทนประหนึ่งแขนขาที่ซื่อสัตย์ มาซาโตะละเว้นการสอนของคิโยชิเอาไว้ก่อนชั่วคราวจนกว่าฮิโรมาสะจะเสร็จธุระที่เอโดะและกลับมายังชิงะ



คิโยชิที่บัดนี้อายุได้ย่างสิบห้าปีได้เริ่มมีเวลาว่างอีกครั้งหลังจากที่ถูกกดดันในการเรียนและการฝึกฝนในด้านต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับชนชั้นสูง มือบอบบางเริ่มจับพู่กันและวาดสีน้ำลงบนผืนผ้าใบแผ่นกว้างด้วยดวงตาที่เป็นประกายแห่งความสุข สายลมอ่อนโยนยามเย็นพัดกระทบเข้ากับใบหน้าสวย ผิวอ่อนนุ่มขาวเนียนราวกับหิมะแรกเปรอะเปื้อนสีน้ำจนเกิดรอยด่างจางเป็นจุดๆ โดยเฉพาะตรงบริเวณแขนและข้อมือแต่ร่างเล็กก็หาได้สนใจไม่ กลับกันที่เขาชอบเสียอีกที่มันเปื้อนอยู่อย่างนั้นเพราะมันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าตนเองได้เป็นหนึ่งเดียวกับศิลปะ



เส้นผมอ่อนนุ่มสีน้ำตาลถูกสัมผัสเบาๆ ด้วยฝ่ามือใหญ่ ใบหน้าสวยหันไปมองก่อนจะพบเข้ากับสายตาคมของร่างสูงที่เฝ้ามองเขาอยู่ด้วยความอ่อนโยนที่สะท้อนให้เห็นในนัยน์ตาสีเข้ม บรรยากาศรอบกายที่เงียบสงบตรงบริเวณป่าส่วนท้ายของปราสาททำให้ทั้งคู่ไม่กลัวว่าจะมีใครมาเห็น คิโยชิเอนหลังพิงลงกับอกแกร่งของเคนตะที่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลังของเขา อ้อมแขนแข็งแรงโอบเอาคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมกอด แก้มนุ่มถูกหอมฟอดใหญ่เรียกเอาเสียงหัวเราะเบาๆ ของคนตัวเล็กให้ดังขึ้นท่ามกลางสายลมที่พัดแผ่วปลอบประโลมผิวกายขาว

"วาดสวยจังเลยขอรับ" เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบข้างใบหูพลางสายตาคมที่มองดูรูปภาพที่เพิ่งถูกวาดเสร็จสมบูรณ์ คิโยชิสูดลมหายใจเข้าลึก ดวงตากลมโตมองดูภาพนั้นด้วยแววตาที่ไม่อาจคาดเดาความรู้สึก 'ยังไม่ชอบเท่าไหร่' คิดในใจกับตนเอง เคนตะที่เห็นว่าร่างเล็กเงียบไปเขาก็เอี้ยวตัวมามองดูใบหน้าสวยที่บัดนี้กำลังเรียบเฉย ฝ่ามืออบอุ่นลูบแก้มนิ่มเบาๆ แล้วเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อยในน้ำเสียง

"เป็นอะไรไปหรือขอรับ" คิโยชิย่นปากน้อยๆ แล้วตอบเสียงอ่อน

"ข้ายังไม่ถูกใจเท่าไหร่" เคนตะกะพริบตาปริบ เขาหันไปมองรูปภาพตรงหน้าที่ดูแล้วก็ยังรู้สึกว่ามันสมบูรณ์แบบสำหรับเขาอยู่ดี แต่เมื่อเห็นคนตัวเล็กเป็นแบบนี้ ร่างสูงก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป เขาครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่พลันความคิดหนึ่งก็แล่นเข้ามาในหัว

"ถ้าเช่นนั้นลองเปลี่ยนทิวทัศน์ดูไหมขอรับ อย่างเช่น… ทะเลสาบ" คิโยชิเบิกตาขึ้นเล็กน้อยและเห็นด้วยกับคำพูดนั้น

"นั่นสิ! ข้ายังไม่เคยวาดวิวทะเลสาบเลยนี่นา"

"ใช่ขอรับ ถ้าเป็นวิวทะเลสาบจะต้องออกมาสวยมากแน่ๆ" ร่างเล็กยิ้มกว้างกับถ้อยคำให้กำลังใจจากร่างสูง แต่ทันใดนั้น ทะเลสาบบิวะที่ดูจะอยู่ไกลจากที่นี่มากเกินไปทำให้คิโยชิกลับมาหนักใจอีกครั้ง เขาเงียบไปแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจนัก

"แต่ว่า… ทะเลสาบบิวะอยู่ห่างจากที่นี่ตั้งไกลนะ ท่านแม่จะให้ไปหรือเปล่าน่ะสิ" เคนตะกะพริบตาปริบ เขารู้สึกว่าการจะขอท่านหญิงอากาเนะไปทะเลสาบบิวะเพื่อที่จะวาดรูปเฉยๆ นั้นก็เป็นอะไรที่ดูจะไร้สาระเกินไปสำหรับชนชั้นสูงอย่างคิโยชิ ความเงียบเข้ามาปกคลุมชั่วขณะ ทันใดนั้นเคนตะก็เอ่ยขึ้น

"ถ้าเช่นนั้น ลองไปที่ทะเลสาบไซโนโกะดีไหมขอรับ" คิโยชิเบิกตาขึ้นกว้าง รอยยิ้มสวยผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานแทบจะในทันที ทะเลสาบไซโนโกะนั้นอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากปราสาทมากนัก ถึงแม้ว่าขนาดของมันจะไม่ใหญ่เท่าทะเลสาบบิวะ แต่ทิวทัศน์ในยามนี้ก็คงจะงดงามไม่แพ้กัน คิโยชิพยักหน้าและตอบรับในลำคอ เขารีบเก็บของและเตรียมตัวกลับเข้าปราสาทเพื่อไปหาอากาเนะในทันทีด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม







B13A
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ย. 2564, 13:05:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ย. 2564, 13:05:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 246





<< บทที่ 22   บทที่ 24 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account