วานวาสนา: ร่มเกศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ:
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
Tags: พีเรียด โรแมนติก ดราม่า ละคร ช่องวัน อ่านเอา
ตอน: บทที่ 23 บทลงโทษสำหรับคนไม่รักดี (100%)
“ใช่ ข้าหลงรักกิมลี่ตั้งแต่วันแรกที่รู้จักเลยละ ตามจีบหล่อนมานานหลายเดือน แต่ก็เป็นอย่างที่เอ็งเห็นนี่แหละ”
เมื่อหลายเดือนก่อน ธันมาจ่ายตลาดเป็นเพื่อนบัว และบังเอิญเห็นกิมลี่กำลังยืนเลือกซื้อผักสดอยู่ที่ร้านเดียวกัน จากนั้นก็ติดตาต้องใจ สืบจนรู้ว่าหล่อนเป็นลูกสาวเฮียย้ง เจ้าของร้านกาแฟเจ้าดังที่หน้าปากซอย หลังจากวันนั้น ธันก็มากินกาแฟร้านเฮียย้งแทบทุกวัน น้อยเองก็เคยสงสัยอยู่หลายครั้ง เพราะทุกเช้าหลังจากที่ธันไปส่งพลวริศที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้วก็มักจะหายหน้าหายตาไปเลย จนถึงแปดโมงเช้าค่อยโผล่หน้ากลับมาให้เห็น
กิมลี่เองก็รู้ว่าธันมีใจให้ แต่หล่อนชอบผู้ชายหล่อ ขาว หุ่นดี ซึ่งธันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ไม่ใช่ผู้ชายในฝันสักนิด หล่อนจึงไม่เคยชายตาแลมองเขา
ผละจากเรื่องธันกับกิมลี่ เหตุผลเดียวที่น้อยมาเจอธันในวันนี้เพราะอยากรู้ความเป็นไปของเพชราวสี
ตั้งแต่กลับจากไร่ ธันก็บอกตลอดว่าไม่ให้น้อยเข้าไปที่วังราชสาสน์อีก... ทั้งๆ ที่เขาอยากจะเข้าไปสารภาพผิดต่อหน้าเสด็จพระองค์ชาย แต่ธันอยู่กับท่านมานานรู้ฤทธิ์เดชของท่านดีกว่าใคร คำพูดจากปากของน้อยไม่มีค่าพอให้ท่านใส่ใจหรอก หากปล่อยน้อยไปหาตอนนี้ก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง และคงไม่พ้นถูกตำรวจลากตัวไปกินข้าวแดงในคุก
“แล้วตกลงท่านหญิง...เอ่อ...เธอเป็นยังไงบ้าง” น้อยถามสีหน้าเคร่ง เครียด
“ท่านหญิงถูกเล่นงานหนักเอาเรื่อง ทันทีที่เสด็จพระองค์ชายรู้เรื่องเอ็งกับท่านหญิงก็กริ้วมาก เมื่อวานนี้เหมือนระเบิดลงวัง สั่งล่ามโซ่ท่านหญิงให้อยู่แต่ในห้องเท่านั้น เห็นแล้วข้ารู้สึกหดหู่แทน” ธันเอ่ยเศร้าๆ
“หนักขนาดนั้นเลยรึ!” น้อยอึ้ง เธอต้องมารับกรรมเพราะเขาแท้ๆ
ธันมองเพื่อนอย่างเห็นใจ ย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ก็มีคำพูดหนึ่งที่สำคัญ ที่น้อยควรจะรู้เอาไว้
“อย่าเพิ่งใจเสียนักเลย” ธันเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ “ข้าจะบอกอะไรให้ เมื่อวานตอนที่ท่านหญิงถูกคาดคั้นถามเรื่องเอ็ง ท่านหญิงยอมรับต่อหน้าทุกคน ว่าเธอรักเอ็ง!”
น้อยถึงกับหันขวับ กะพริบตาปริบๆ หูเขาต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ
“ท่านหญิงพูดอย่างนั้นจริงๆ รึ” เขาถาม หัวใจพองโต แต่คิดแล้วก็สะใจ...อยากจะเห็นน้ำหน้าทุกคนเหลือเกิน ตอนที่เพชราวสีพูดว่า ‘เธอรักเขา’ ทุกคนจะทำหน้าอย่างไร โดยเฉพาะหม่อมเจ้าภาณุมาศ คงแทบคลั่งที่รู้ว่าพ่ายแพ้ให้แก่คนธรรมดาๆ อย่างเขา
ธันพยักหน้า “บอกตามตรงว่าข้าสงสารเอ็งกับท่านหญิงเหลือเกิน รักกัน แต่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ ข้าละกลุ้มใจแทน แล้วตอนนี้ก็มีรับสั่งออกมาแล้วด้วยว่าถ้าเอ็งก้าวเท้าเหยียบวังราชสาสน์เมื่อไหร่ ก็ให้แจ้งความจับเอ็งได้เลยทันที ข้อหาขโมยของในวัง!”
“แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะมาจับข้าได้ยังไง”
“ก็นั่นน่ะสิ เสด็จกริ้วมาก ไม่ยอมฟังใครเลย นอกจากท่านชายภาสคนเดียว” ธันพูดอย่างหงุดหงิด “แล้วต่อจากนี้เอ็งจะเอายังไงต่อไปวะ”
น้อยครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ข้าจะพาเธอหนี!”
ธันนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง ไม่คิดว่าน้อยจะกล้าทำอย่างที่พูดจริงๆ
“เฮ้ย! เอ็งจะเอาจริงรึ”
“ข้าลองคิดดูแล้ว ในเมื่อข้ากับท่านหญิงรักกัน ก็คงไม่มีทางใดที่ดีไปกว่าการหนีไปอยู่ด้วยกัน ข้าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่ข้ารัก จะได้ตัดจบจากเรื่องวุ่นวายพวกนี้สักที”
“เอ็งจะบังคับท่านหญิงให้เสด็จไปกับเอ็งอย่างนั้นรึ”
น้อยส่ายหน้า “ข้าจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ให้เธอเลือกว่าเรื่องระหว่างเรา จะเป็นอย่างไรต่อไป”
“แล้วถ้าท่านไม่ยอมไปกับเอ็งล่ะ”
น้อยนิ่งไป แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร เขาพร้อมที่จะยอมรับการตัดสินใจของเธออยู่แล้ว เพราะถึงจะรักกันไม่ได้ในตอนนี้ แต่เขาและเธอก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ยามลำบากก็จะไม่ทอดทิ้งกัน เขาจะยังเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะหางานทำ อยากจะมีอนาคตที่ดีขึ้น เพื่อรอว่าสักวันใดวันหนึ่ง จะเป็นวันของเขาและเธอ...
เมื่อน้อยไม่ตอบ ธันจึงเอ่ยต่อ “แล้วยิ่งตอนนี้ข้าได้ข่าวมาว่าเสด็จจะให้ท่านหญิงเสกสมรสกับท่านชายภาสตามเดิม ข้าว่ารอบนี้คงไม่รอดแน่” ธันวิตก แต่น้อยไม่คิดเช่นนั้น...
“คนหนักแน่นอย่างท่านหญิง ไม่มีทางยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เธอจะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสกสมรสกับท่านชายภาส เธอจะไม่ยอมกลับไปเจ็บซ้ำๆ เพราะเรื่องผู้หญิงของท่านอีก ไม่มีโอกาสไหนที่จะเหมาะสมยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว”
น้อยมองธันแววตามุ่งมั่น เขารู้ได้จากความรู้สึกลึกๆ ว่าเพชราวสีก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ไม่เคยได้ยินคำรักจากปากเธอมาก่อน แม้จะรู้ชะตากรรมว่าการลดเกียรติของตัวเองลงมารักกับผู้ชายอย่างเขามันจะเป็นอย่างไร แต่เธอก็ยังพูดคำนั้นออกมาต่อหน้าทุกคนอย่างกล้าหาญ
เพชราวสีเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กล้ายืนหยัดในความรู้สึกของตัวเอง... เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกจะปล่อยให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องทุกอย่างเพียงลำพังได้อย่างไรกัน ยิ่งได้รู้ว่าใจของเราสองตรงกัน เขาเองก็ยิ่งเจ็บปวด อุปสรรคความรักครั้งนี้ หนักหนากว่าครั้งของพิมแสนสาหัส อะไรๆ ก็คงจะง่ายกว่านี้ ถ้าเขายืนอยู่ในจุดเดียวกันกับหม่อมเจ้าภาณุมาศ...
ไม่ว่าท่านจะทำผิดต่อเพชราวสีมากแค่ไหน จะมีเมียน้อยเมียเก็บอีกสักกี่คน ทุกคนก็ยังเห็นดีเห็นงาม ยกย่องสรรเสริญ ไม่เห็นจะมีใครออกมาตราหน้าท่านบ้าง แต่พอถึงคราวเขา กลับมีแต่คนประณามหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูง ไม่คู่ควรกับหญิงที่อยู่สูงกว่า ทั้งๆ ที่เป็นคนเหมือนกัน แต่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกรักใครได้ตามอำเภอใจ โลกใบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
เมื่อหลายเดือนก่อน ธันมาจ่ายตลาดเป็นเพื่อนบัว และบังเอิญเห็นกิมลี่กำลังยืนเลือกซื้อผักสดอยู่ที่ร้านเดียวกัน จากนั้นก็ติดตาต้องใจ สืบจนรู้ว่าหล่อนเป็นลูกสาวเฮียย้ง เจ้าของร้านกาแฟเจ้าดังที่หน้าปากซอย หลังจากวันนั้น ธันก็มากินกาแฟร้านเฮียย้งแทบทุกวัน น้อยเองก็เคยสงสัยอยู่หลายครั้ง เพราะทุกเช้าหลังจากที่ธันไปส่งพลวริศที่โรงเรียนเรียบร้อยแล้วก็มักจะหายหน้าหายตาไปเลย จนถึงแปดโมงเช้าค่อยโผล่หน้ากลับมาให้เห็น
กิมลี่เองก็รู้ว่าธันมีใจให้ แต่หล่อนชอบผู้ชายหล่อ ขาว หุ่นดี ซึ่งธันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ไม่ใช่ผู้ชายในฝันสักนิด หล่อนจึงไม่เคยชายตาแลมองเขา
ผละจากเรื่องธันกับกิมลี่ เหตุผลเดียวที่น้อยมาเจอธันในวันนี้เพราะอยากรู้ความเป็นไปของเพชราวสี
ตั้งแต่กลับจากไร่ ธันก็บอกตลอดว่าไม่ให้น้อยเข้าไปที่วังราชสาสน์อีก... ทั้งๆ ที่เขาอยากจะเข้าไปสารภาพผิดต่อหน้าเสด็จพระองค์ชาย แต่ธันอยู่กับท่านมานานรู้ฤทธิ์เดชของท่านดีกว่าใคร คำพูดจากปากของน้อยไม่มีค่าพอให้ท่านใส่ใจหรอก หากปล่อยน้อยไปหาตอนนี้ก็มีแต่จะทำให้เรื่องแย่ลง และคงไม่พ้นถูกตำรวจลากตัวไปกินข้าวแดงในคุก
“แล้วตกลงท่านหญิง...เอ่อ...เธอเป็นยังไงบ้าง” น้อยถามสีหน้าเคร่ง เครียด
“ท่านหญิงถูกเล่นงานหนักเอาเรื่อง ทันทีที่เสด็จพระองค์ชายรู้เรื่องเอ็งกับท่านหญิงก็กริ้วมาก เมื่อวานนี้เหมือนระเบิดลงวัง สั่งล่ามโซ่ท่านหญิงให้อยู่แต่ในห้องเท่านั้น เห็นแล้วข้ารู้สึกหดหู่แทน” ธันเอ่ยเศร้าๆ
“หนักขนาดนั้นเลยรึ!” น้อยอึ้ง เธอต้องมารับกรรมเพราะเขาแท้ๆ
ธันมองเพื่อนอย่างเห็นใจ ย้อนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน ก็มีคำพูดหนึ่งที่สำคัญ ที่น้อยควรจะรู้เอาไว้
“อย่าเพิ่งใจเสียนักเลย” ธันเอื้อมมือไปตบบ่าเพื่อนให้กำลังใจ “ข้าจะบอกอะไรให้ เมื่อวานตอนที่ท่านหญิงถูกคาดคั้นถามเรื่องเอ็ง ท่านหญิงยอมรับต่อหน้าทุกคน ว่าเธอรักเอ็ง!”
น้อยถึงกับหันขวับ กะพริบตาปริบๆ หูเขาต้องเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ
“ท่านหญิงพูดอย่างนั้นจริงๆ รึ” เขาถาม หัวใจพองโต แต่คิดแล้วก็สะใจ...อยากจะเห็นน้ำหน้าทุกคนเหลือเกิน ตอนที่เพชราวสีพูดว่า ‘เธอรักเขา’ ทุกคนจะทำหน้าอย่างไร โดยเฉพาะหม่อมเจ้าภาณุมาศ คงแทบคลั่งที่รู้ว่าพ่ายแพ้ให้แก่คนธรรมดาๆ อย่างเขา
ธันพยักหน้า “บอกตามตรงว่าข้าสงสารเอ็งกับท่านหญิงเหลือเกิน รักกัน แต่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้ ข้าละกลุ้มใจแทน แล้วตอนนี้ก็มีรับสั่งออกมาแล้วด้วยว่าถ้าเอ็งก้าวเท้าเหยียบวังราชสาสน์เมื่อไหร่ ก็ให้แจ้งความจับเอ็งได้เลยทันที ข้อหาขโมยของในวัง!”
“แต่ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วจะมาจับข้าได้ยังไง”
“ก็นั่นน่ะสิ เสด็จกริ้วมาก ไม่ยอมฟังใครเลย นอกจากท่านชายภาสคนเดียว” ธันพูดอย่างหงุดหงิด “แล้วต่อจากนี้เอ็งจะเอายังไงต่อไปวะ”
น้อยครุ่นคิดก่อนจะตอบ “ข้าจะพาเธอหนี!”
ธันนิ่งอยู่อึดใจหนึ่ง ไม่คิดว่าน้อยจะกล้าทำอย่างที่พูดจริงๆ
“เฮ้ย! เอ็งจะเอาจริงรึ”
“ข้าลองคิดดูแล้ว ในเมื่อข้ากับท่านหญิงรักกัน ก็คงไม่มีทางใดที่ดีไปกว่าการหนีไปอยู่ด้วยกัน ข้าจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับผู้หญิงที่ข้ารัก จะได้ตัดจบจากเรื่องวุ่นวายพวกนี้สักที”
“เอ็งจะบังคับท่านหญิงให้เสด็จไปกับเอ็งอย่างนั้นรึ”
น้อยส่ายหน้า “ข้าจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจเอง ให้เธอเลือกว่าเรื่องระหว่างเรา จะเป็นอย่างไรต่อไป”
“แล้วถ้าท่านไม่ยอมไปกับเอ็งล่ะ”
น้อยนิ่งไป แต่ไม่ว่าคำตอบจะเป็นเช่นไร เขาพร้อมที่จะยอมรับการตัดสินใจของเธออยู่แล้ว เพราะถึงจะรักกันไม่ได้ในตอนนี้ แต่เขาและเธอก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ ยามลำบากก็จะไม่ทอดทิ้งกัน เขาจะยังเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆ อย่างห่วงใย เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะหางานทำ อยากจะมีอนาคตที่ดีขึ้น เพื่อรอว่าสักวันใดวันหนึ่ง จะเป็นวันของเขาและเธอ...
เมื่อน้อยไม่ตอบ ธันจึงเอ่ยต่อ “แล้วยิ่งตอนนี้ข้าได้ข่าวมาว่าเสด็จจะให้ท่านหญิงเสกสมรสกับท่านชายภาสตามเดิม ข้าว่ารอบนี้คงไม่รอดแน่” ธันวิตก แต่น้อยไม่คิดเช่นนั้น...
“คนหนักแน่นอย่างท่านหญิง ไม่มีทางยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เธอจะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเสกสมรสกับท่านชายภาส เธอจะไม่ยอมกลับไปเจ็บซ้ำๆ เพราะเรื่องผู้หญิงของท่านอีก ไม่มีโอกาสไหนที่จะเหมาะสมยิ่งไปกว่านี้อีกแล้ว”
น้อยมองธันแววตามุ่งมั่น เขารู้ได้จากความรู้สึกลึกๆ ว่าเพชราวสีก็คิดเช่นเดียวกัน แต่ไม่เคยได้ยินคำรักจากปากเธอมาก่อน แม้จะรู้ชะตากรรมว่าการลดเกียรติของตัวเองลงมารักกับผู้ชายอย่างเขามันจะเป็นอย่างไร แต่เธอก็ยังพูดคำนั้นออกมาต่อหน้าทุกคนอย่างกล้าหาญ
เพชราวสีเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่กล้ายืนหยัดในความรู้สึกของตัวเอง... เขาเป็นผู้ชายอกสามศอกจะปล่อยให้เธอต้องเผชิญกับเรื่องทุกอย่างเพียงลำพังได้อย่างไรกัน ยิ่งได้รู้ว่าใจของเราสองตรงกัน เขาเองก็ยิ่งเจ็บปวด อุปสรรคความรักครั้งนี้ หนักหนากว่าครั้งของพิมแสนสาหัส อะไรๆ ก็คงจะง่ายกว่านี้ ถ้าเขายืนอยู่ในจุดเดียวกันกับหม่อมเจ้าภาณุมาศ...
ไม่ว่าท่านจะทำผิดต่อเพชราวสีมากแค่ไหน จะมีเมียน้อยเมียเก็บอีกสักกี่คน ทุกคนก็ยังเห็นดีเห็นงาม ยกย่องสรรเสริญ ไม่เห็นจะมีใครออกมาตราหน้าท่านบ้าง แต่พอถึงคราวเขา กลับมีแต่คนประณามหาว่ามักใหญ่ใฝ่สูง ไม่คู่ควรกับหญิงที่อยู่สูงกว่า ทั้งๆ ที่เป็นคนเหมือนกัน แต่ไม่มีสิทธิ์จะเลือกรักใครได้ตามอำเภอใจ โลกใบนี้มันช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ส.ค. 2565, 18:29:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ส.ค. 2565, 18:29:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 279
<< บทที่ 23 บทลงโทษสำหรับคนไม่รักดี (60%) | บทที่ 24 หนี (35%) >> |