หนามร้ายในใจรัก (Yuri) -จบ

Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: จะมาทำไม

บนเตียงนอนในห้องสี่เหลี่ยมชั้นสี่ของโรงแรมใกล้กับโรงพยาบาล มีหญิงสาวกำลังนอนตัวยาวจ้องมองมือถืออย่างจริงจัง สิ่งที่สายสืบส่งมาให้เป็นประโยชน์กับตัวของเธออย่างมากในวันพรุ่งนี้ 

"พักเที่ยงแค่ชั่วโมงเดียว" สถานที่ที่ถูกเป็นโซนตรวจสุขภาพและให้คำปรึกษา ตรงนั้นมันไกลจากโรงแรมที่เธอพักอยู่ 

"ยังไงก็เถอะ" ไม่ว่าจะถูกมองว่าเป็นพวกโรคจิตยังไง เธอก็ไม่สนใจ ถึงจะโดนจับได้เหมือนครั้งก่อนก็ไม่สน

ในคราวนั้น เรื่องที่เธอแอบซื้อตึกของสกาวใจเพื่อช่วยเรื่องหนี้สินถูกจับได้เพราะผู้ช่วยของเธอออกรายการไปพร้อมกัน ในตอนนั้นสกาวใจได้ดูเข้าพอดี สิ่งที่เกิดขึ้นใช่ว่าสกาวใจจะพูดออกมาเพราะยังไม่แน่ใจ แต่สิ่งที่คลายความสงสัยได้กลับเป็นผู้หญิงโหดนิสัยเสียคนนั้นนี่สิ แทนที่จะปิดเป็นความลับกลับปล่อยข่าวจนไปเข้าหู แผนที่วางไว้จึงพังทลายไม่มีชิ้นดี

"ช่างเถอะ ถึงจะรู้ก็ไม่เป็นไร เพราะพรุ่งนี้จะได้เจอตัวเป็น ๆ" นัทนันท์ส่ายหน้าเบา ๆ กับเรื่องในอดีตและยกยิ้มกับสิ่งที่จะตามมา 

แต่ทว่าเมื่อถึงเวลาเข้าจริงๆ การที่จะไปปรากฏตัวต่อหน้าสกาวใจนั้นมันยากยิ่งกว่าเดินเข้าไปหาตรงๆ เสียอีก 

"บ้าชะมัด เมื่อไหร่จะพักสักที" เธอมองชาวบ้านจำนวนมากมายกำลังเดินเข้าไปนั่งตามคิวที่ถูกจัดไว้ และที่โซนให้คำปรึกษานั้นเป็นที่อยู่ของสกาวใจ 

แม้จะร้อนใจแต่ก็รู้สึกดีที่ได้เห็นใบหน้ามีความสุข นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้น นัทนันท์ไม่รู้ว่าตัวเองจ้องมองนานขนาดไหน แต่ที่แน่ๆ คนที่อยู่ด้านในเริ่มรู้สึกถึงความแปลกประหลาด 

"นี่ แตง"

"คะ...มีอะไรหรือเปล่าพี่" สกาวใจเอียงคอน้อยๆ อย่างงุนงงกับท่าทางของรุ่นพี่

"คนคนนั้นจ้องมาทางพวกเรานานแล้วนะ รู้สึกน่ากลัวยังไงบอกไม่ถูก" จะไม่ให้แปลกใจได้อย่างไร ในเมื่อใส่แว่นตาสีดำสวมหมวกและเสื้อคลุมยืนหันหน้ามองเข้ามายิ่งเห็นก็ยิ่งแปลกใจ

สกาวใจมองตามจึงเห็นผู้หญิงแต่งตัวน่าสงสัยอย่างที่รุ่นพี่ของเธอบอก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็จำได้ว่าเป็นใครและยังต้องเก็บอาการไม่ให้ใครรู้ว่าเธอกำลังตกใจมากขนาดไหน ความตกใจยังไม่เท่ากับความสงสัยว่าเหตุใดนัทนันท์ถึงมายืนอยู่ที่นี่

"ทำงานก่อน อย่าเพิ่งชวนกันคุยสิ" รุ่นพี่อีกคนเอ็ด ทำให้พวกเธอต้องหันกลับไปตั้งใจทำงานอีกครั้ง 

แม้ตัวจะทำงานแต่ใจกลับไม่มีสมาธิเสียเลย มีแต่คำถามมากมายที่ผุดขึ้นมา ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด คือการพบหน้าแบบตัวต่อตัว ถ้าเกิดแบบนั้นขึ้นจริงๆ ควรจะทำเช่นไร

ทางด้านนัทนันท์เมื่อสังเกตเห็นว่าถูกจับได้เพราะสีหน้าของสกาวใจ เธอจึงหาจุดที่สามารถรอและหลบสายตาผู้คนได้

"รอตรงนี้แล้วกัน" ตัดสินใจนั่งใต้ต้นไม้เพื่อรอจังหวะแต่เหมือนจะไม่มี 

เวลาผ่านไปจนถึงเวลาพัก สกาวใจรีบเดินตามเพื่อนๆ และรุ่นพี่ไปร้านอาหาร หันซ้ายหันขวาไม่เจอนัทนันท์ ถึงกลับโล่งใจแต่ก็รู้สึกแปลกๆ ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือควรกังวลใจดีที่เจอกันที่นี่

"ช่างเถอะ คงอาจจะไม่ใช่ก็ได้" ทั้งๆ ที่รู้ว่าจะต้องใช่แน่ๆ แต่ในเมื่อไม่เห็นอีกก็อาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ

เรื่องบังเอิญไม่มีอยู่จริงและความบังเอิญที่คิดกำลังยืนอยู่ข้างหน้าของเธอ หลังจากจบงานในวันนี้แล้ว

"แตง"

"นัด" 

อยากจะยิ้มดีใจแต่ทว่ากลับยิ้มไม่ออก 

"เอ่อ มาทำอะไรที่นี่เหรอ" สกาวใจถามและหันไปมองเพื่อนๆ กำลังเก็บของเตรียมตัวกลับ

"อืม มาหาแตงนั่นแหละ"

"มาหาทำไม" สิ่งที่แปลกใจคือการที่นัทนันท์มาเพียงคนเดียว

"กลับด้วยกันไหม" นัทนันท์ไม่ตอบแต่ชวนขึ้นรถทันที

สิ่งที่สกาวใจได้ยินไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน เธอหันไปมองเพื่อนๆ ที่ทำงานแล้วหันกลับมาตอบ 

"ไปไม่ได้หรอก จะกลับกับพวกเขาน่ะ" ทำไมเธอต้องไปด้วย ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาอีกจะทำยังไง 

"ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่น ไม่มีใครสังเกตหรือติดตามหรอก" นัทนันท์เดินเข้ามาใกล้และบอกเบาๆ ที่นี่ห่างไกลจากผู้คนจำนวนมาก ไม่แน่ว่าการที่เธอยืนอยู่ตรงนี้อาจจะไม่มีใครจดจำหรือรู้จักก็ได้

"แต่ว่า..." ไม่ใช่ว่าจะกลัวคนรู้จักหรือโดนแอบถ่าย การเจอกันแบบนี้มันทำให้รู้สึกแปลกๆ จะให้สนิทใจเหมือนแต่ก่อนได้ยังไง

"น่า...แค่เพื่อนชวนนั่งรถไปด้วยกันแค่นั้นเอง เพิ่งมาถึงที่นี่ อยากรู้ว่าที่นี่มีร้านอร่อยๆ ที่ไหนบ้าง บอกหน่อยสิ" นัทนันท์ขยับเข้าไปใกล้อีกนิดและยิ้มจนคนตรงหน้าเริ่มใจอ่อน

"ก็...ก็ได้ ถ้าแบบนั้นรอก่อนนะ ขอไปช่วยพวกเขาเก็บของก่อน"

"ได้เลย ไม่ต้องรีบนะ" 

นัทนันท์น์ยืนมองคนตัวเตี้ยกว่าเดินกลับเข้าไปหาเพื่อน เธอได้แต่ยืนรอและมองตรงที่เดิม จะให้รอนานขนาดไหนก็รอได้

 ส่วนสกาวใจได้แต่คิดหาวิธีหลบเลี่ยง จะทำยังไงให้เนียนไปกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ดี และจังหวะนั้นก็มาถึง 

เธอยิ้มกับการก้าวขาขึ้นรถแต่ทว่ากลับมีมือดึงแขนของเธอให้ลงมาอยู่ที่พื้นเหมือนเดิม

"เฮ้ย!" ตกใจกับการถูกฉุดรั้งจนต้องหันไปมองคนที่บังอาจทำแบบนี้กับเธอ

"นะ...นัด"

"ใช่ นัดเอง แล้วจะไปไหน ไม่พานัดไปกินข้าวเหรอ" ดีนะที่คอยมอง ไม่เช่นนั้นคงไม่ได้เจอกันแบบนี้อีก

"มีอะไรกันหรือเปล่า" รุ่นพี่คนหนึ่งเดินเข้ามาเห็นเข้า จึงทักทันทีที่เห็นอีกฝ่ายจับแขนของสกาวใจ 

"ไม่มีอะไรค่ะ พอดีเป็นเพื่อนของแตง แล้วพวกเราคงไม่ได้เจอกันนานไปหน่อย" นัทนันท์มองหน้าแตงนิ่งๆ ถึงจะหงุดหงิดแต่คงทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้อีกแล้ว 

"เพื่อนแตงจริงใช่ไหม" เธอหันไปถามสกาวใจเพราะท่าทางเหมือนกับมีอะไรบางอย่าง

"คือ...ใช่ค่ะ เพื่อนแตงเอง"

"แล้วจะไปไหนกัน"

"คือ วันนี้แตงกลับกับเพื่อนได้ไหมคะ"

"ได้สิ พรุ่งนี้เวลาเดิมนะ ไปเถอะ ทางนี้พี่จัดการต่อเอง" เธอหมายถึงของที่ต้องเก็บขึ้นรถกับบอกหัวหน้าว่าสกาวใจติดธุระขอกลับก่อนและไม่ทานอาหารด้วยกัน

"ขอบคุณค่ะ" สกาวใจยิ้มให้รุ่นพี่อีกครั้ง แล้วเดินตามนัทนันท์ขึ้นรถ

บรรยากาศภายในรถมันน่าอึดอัดมาก เพราะไม่มีใครเริ่มเปิดประเด็นพูดก่อน ทั้งสองจึงอยู่ในความเงียบ

"สรุปแล้วจะไปกินอะไรกันดี" นัทนันท์เปิดประเด็น 

"อยากกินอะไรล่ะ" 

"อะไรอร่อยก็กินได้หมด แตงอยากกินอะไร"

"อะไรก็ได้"

"งั้นแนะนำหน่อยสิ" นัทนันท์หันไปยิ้มแล้วกลับมามองทางอีกครั้ง 

สกาวใจไม่ได้ตอบเพราะเธอกำลังคิดย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เรื่องห้องของเธอที่ถูกนัทนันท์เช่าไป

"ทำไมถึงไปบอกพี่เขาว่าเป็นแฟนกัน"

"พี่ไหนอีก" นัทนันท์งง

"จะพี่ไหนล่ะ ตามมาเจอห้องของแตงได้ยังไง" ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้และทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของ ทำไมถึงชอบทำตัวให้คนอื่นต้องสับสน

"อ๋อ คนนั้นเอง ก็เห็นสนิทกันจนฝากขายห้องได้ นัดเลยบอกไปแบบนั้น" ใจจริงก็แค่หวง

"ตลกน่า นัดอย่าทำให้ตัวเองต้องเป็นข่าวสิ แตงเบื่อที่จะต้องมารับรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้อีกนะ ไหนจะครอบครัวของนัด ไหนจะสามีของนัด แล้วก็อื่นๆ อีกเยอะแยะมากมาย พอซะทีเถอะ เราสองคนตกลงเป็นเพื่อนกันแล้วไม่ใช่หรือไง" ปัญหาหลังจากนี้มันมีมาก สถานะของพวกเราไม่ได้กลับมาเป็นแบบเดิมแล้ว ทำไมต้องมาเจอกันอีกทั้งๆ ที่พวกเราตัดสินใจเดินกันคนละเส้นทาง

"ก็ใช่ แต่ห้องนั้น นัดไม่ให้ขาย ถ้าขายนัดจะซื้อเอง"

สกาวใจหันไปมองหน้านัทนันท์ทันที ทำไมถึงกลายเป็นคนเอาแต่ใจ แล้วมีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนคนอื่น

"ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้ เห็นแล้วปวดใจนะ ห้องนั้นแตงตั้งใจซื้อเพื่อนัดไม่ใช่หรือไง แล้วอีกอย่าง มีหลายเรื่องที่แตงยังไม่รู้" นัทนันท์ยิ้ม คงต้องใช้เวลาอธิบาย แต่ตอนนี้ท้องเริ่มประท้วงความหิว

"ร้านนี้แล้วกัน" เธอหมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้าร้านอาหารข้างทาง ตอนนี้ไม่สนว่าสกาวใจจะต่อว่าอะไรอีก ขอแค่มีเวลาอยู่ด้วยกันและได้มีโอกาสอธิบายทุกอย่างที่ตัวเธอทำลงไป ขอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ม.ค. 2566, 12:04:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ม.ค. 2566, 12:04:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 180





<< มือถือเก่าทิ้งไม่ได้    รู้สึกวุ่นวาย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account