หนามร้ายในใจรัก (Yuri) -จบ

Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: มาได้ไง

ภายในห้องสี่เหลี่ยมมีแสงไฟสลัว กับความรู้สึกเจ็บที่มือและเท้าของหญิงสาวบนเตียงขนาดใหญ่ เธอค่อยๆ รู้สึกตัวลืมตามองบรรยากาศรอบตัว

"ไอ้บ้า" นัทนันท์สบถ พยายามขยับแขนและขา แต่ทว่ามีกุญแจมือล็อกข้อมือข้างซ้ายเอาไว้กับหัวเตียง ส่วนข้อเท้าข้างขวานั้นกลับเป็นเชือก 

"อ้าว...ตื่นแล้วเหรอ" เสียงชายหนุ่มดังขึ้นจากมุมห้อง ทุกอย่างมันง่ายมากเมื่อให้ขึ้นรถมาพร้อมกับเขา

"แกบ้าไปแล้วหรือไง" แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเป็นใคร ไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะเล่นวิธีสกปรก 

"อืม...ใช่ ฉันบ้ามากตอนนี้ ทุกอย่างมันพังเพราะเธอคนเดียว" เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาพร้อมกับนั่งเคาะนิ้วไปมาบนโต๊ะ 

"ไหนล่ะ สัญญาที่บอก แกผิดสัญญาเองนะ" ถึงจะมาแนวข่มขู่ เธอไม่คิดที่จะกลัว ในเมื่อคนที่ผิดสัญญาและยืดเยื้อเวลาให้นานออกไปนั้นเป็นนายชวกรเพียงคนเดียว

"ไม่สนแล้วโว้ย ..สัญญาอะไรนั่น ฉีกทิ้งก็สิ้นเรื่องแล้ว" จู่ๆ ชวกรเกิดอาการหัวเสียเมื่อนัทนันท์พูดถึงสัญญาขึ้นมา เขาลุกพรวดและเดินตรงดิ่งมาหานัทนันท์ ไอ้สัญญานั่นจะเป็นยังไงเขาไม่มีทางสนใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะผลลัพธ์ที่ตั้งตารอคือการผลิตทายาทให้เป็นที่น่าพอใจกับคุณปู่ของเขา

"นายมันโรคจิต" นัทนันท์กัดฟันแล้วจ้องหน้าคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ทั้งมือและเท้าปวดระบบไปหมด 

"โรคจิตอะไร คิดว่าแค่มัดมือมัดเท้าจะบอกว่าฉันเป็นโรคจิตไม่ได้หรอกนะ แต่...ก็น่าเสียดายมัดได้แค่นิดเดียว" เขายกยิ้มและมองหุ่นของเธอ สายตานั่น ยิ่งทำให้นัทนันท์ขนลุกไปทั้งตัว บรรยากาศในตอนนี้มันยากต่อการเอาตัวรอด ในหัวมันอื้ออึงเพราะพิษจากยาสลบ รอบตัวก็ไม่มีอะไรพอที่จะช่วยได้ 

"แล้วทำแบบนี้ทำไม ฉันก็เดินตามนายกลับมาแล้วนี่" ถ้าไม่ถูกเล่นสกปรก ให้ตายก็ไม่มาอยู่ในห้องเดียวกับคนแบบนี้แน่ แล้วบอกว่าแค่มัดมือมัดเท้าอะไรกัน เล่นใช้กุญแจมือล็อกไว้ยังไม่พอยังมีเชือกมัดที่เท้าอีก ไม่ว่าผิดปกติแล้วจะให้ว่าอะไร

ชวกรยกยิ้มและจ้องมองรูปร่างของภรรยาในนามอีกครั้ง ถ้าจะบอกว่าเขาโรคจิต เธอคนนี้ก็ไม่ต่างกัน เรื่องที่นัทนันท์ทำทั้งหมดรวมถึงผู้หญิงคนนั้นทำไมจะไม่รู้ ที่สำคัญหลังจากหายตัวไปทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ทำให้เขาต้องรับแรงกดดันต่างๆ จากครอบครัวแล้วไหนจะเรื่องข่าวที่ถูกนำออกไปอีก แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่นั้นทำให้เขาต้องอยู่ยาก

"ใครจะรู้ล่ะ ว่าคุณปู่จะชอบเธอ ตั้งแต่ข่าวเสียหายของฉันออกไป ฉันก็โดนคุณปู่ดุแถมโดนตัดเงินเดือนที่ควรจะได้" 

"แล้วมันเกี่ยวกับที่นายทำแบบนี้กับฉันหรือไง ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" สุดที่จะทน เธอทำอะไรผิดนักหนา คนที่ผิดสัญญาคือเขาต่างหาก ในสัญญาของพวกเราจะไม่มีการแตะเนื้อต้องตัวกันเด็ดขาด แต่นี่อะไร นอกจากจะไม่ทำตัวปกติแล้ว ยังทำให้เธอเจ็บตัวอีกต่างหาก ออกไปได้คิดหรือว่าเธอจะอยู่เฉย 

"ก็นะ ฉันไม่สนหรอกว่าเธอจะคิดหรือจะมีชีวิตยังไง ในเมื่อเป้าหมายของฉันยังไม่สำเร็จ เธอก็อย่าหวังว่าจะเป็นอิสระ" เขาเดินเข้าไปใกล้และขึ้นบนเตียงที่นัทนันท์นอนอยู่

"นะ...นายจะทำอะไร" บรรยากาศกับท่าทางของเขานั้น มันชวนให้คิดและในสถานการณ์ครั้งนี้ เธออาจจะไม่รอดเหมือนทุกครั้ง

เขายกยิ้มและค่อยๆ คร่อมตัวของนัทนันท์จนรู้สึกถึงแรงดิ้น มือและเท้าที่ไม่ได้ถูกมัดไว้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดมากกว่าเดิม 

"ไอ้บ้าโรคจิต ปล่อยเดี๋ยวนี้เลยนะ" รู้ทั้งรู้ว่าไม่อาจสั่งได้ แต่วินาทีนี้ต้องคิดและทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่ทุกอย่างมันจะพังลงทั้งหมด 

"หยุดดิ้นได้แล้ว" เขาสุดจะทนกับแรงดิ้นของผู้หญิง ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้อยู่กับเขาไม่เคยมีใครเหมือนคนคนนี้เลย ทุกคนมักจะยอมเขาหมดโดยเฉพาะบนเตียงที่มีเขาคอยคุมเกม ความอดทนที่มีขีดจำกัดจึงง้างมือตบโดยไม่ทันตั้งตัว

เสียงตบหน้าหนึ่งฉากจนหน้าหันไปอีกด้านกับกลิ่นคาวเลือดคลุ้งในปาก ยิ่งทำให้บรรยากาศน่ากลัวยิ่งขึ้น

"บอกแล้วไงว่าอย่าดิ้น ความอดทนของฉันมันมีขีดจำกัดนะ" ชวกรถอนหายใจแล้วจับใบหน้าของผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยา เขารู้ว่าเธอคนนี้ชอบใครและรู้ด้วยว่าไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่มีทางหันมาชอบผู้ชาย แต่ไม่แน่ว่าค่ำคืนนี้อาจจะเปลี่ยนใจไปเลยก็ได้

"คืนนี้ฉันจะทำให้เธอรู้ว่า นอนกับผู้ชายมันรู้สึกดีกว่าผู้หญิง" 

แม้จะเจ็บแต่นัทนันท์ไม่อยู่นิ่ง ยังคงดิ้นและสะบัดหน้าให้มือหยาบกร้านอันน่ารังเกียจมันออกจากใบหน้าของเธอ แม้จะเป็นความพยายามที่ล้มเหลว ยังไงเธอก็จะทำจนกว่าเขาจะปล่อยไป

"บอกให้อยู่นิ่งๆ ไง เดี๋ยวก็เจ็บตัวอีกหรอก" สองมือจับแขนทั้งสองข้างเอาไว้และพยายามที่จะประกบปากเพื่อให้คนที่อยู่ใต้ร่างของเขาหยุด 

ช่วงเวลาที่ทุกอย่างเหมือนหยุดนิ่ง กับเสียงกระแทกอะไรบางอย่าง ทำให้นัทนันท์ที่เผลอหลับตากลัวนั้นต้องลืมตาโพล่งทันที เพราะน้ำหนักตัวของคนตัวใหญ่กว่ากำลังทับเธอลงมาทั้งตัว แม้ใบหน้าของเขายังปักลงบนหมอน

"เฮ้ย มันหนักนะ" ทำไมจู่ๆ ถึงทำตัวเหมือนกับสลบไป ความมืดทำให้มองอะไรไม่ค่อยชัดเจน

"ปะ...เป็นอะไรหรือเปล่า" 

เสียงกับการปรากฏตัวอย่างกับภาพหลอน ยิ่งทำให้นัทนันท์ต้องส่ายหน้าเแรงๆ ทำไมสกาวใจถึงมาอยู่ที่นี่ได้ 

"นัด เป็นอะไรไหม" ในมือถือร่มไว้เพราะเป็นของที่หยิบง่ายสุดหน้าประตู ถึงจะไม่คาดคิดว่าต้องใช้มันก็ตาม

"เดี๋ยวก่อนนะ ไม่ใช่ภาพลวงตาแล้วมาได้ยังไง" นัทนันท์ยังคงมึนงงกับสิ่งที่เห็น แสงสลัวๆ ภายในห้องทำให้พอเห็นหน้าได้

"มาทางประตูสิ" 

"มะ...ไม่ใช่เรื่องนั้น" ตอบให้ชวนอึ้ง เป็นคนก็ต้องเดินเข้ามาทางประตูอยู่แล้ว แต่ปัญหาไม่ใช่อยู่ตรงนั้น 

"เดี๋ยวค่อยคุยกัน ว่าแต่...ไม่ได้ตีแรงไปใช่ไหม" สกาวใจเริ่มทำตัวไม่ถูกเพราะเห็นชายคนนั้นแน่นิ่งไป ถึงจะต้องการให้สลบภายในครั้งเดียวก็ตามถึงอย่างนั้นก็ไม่อยากให้เป็นอะไร ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยทำรุนแรงแบบนี้เป็นครั้งแรก

"มันยังไม่ตายหรอก รีบเอาตัวมันออกไปที" หัวแข็งจะตายไป แค่โดนเท่านี้คงไม่เป็นอะไรมากนัก ขนาดโดนตีหัวจนเลือดออกเพราะไปมีเรื่องกับศัตรูทางธุรกิจ ยังไม่เป็นอะไรมากเลย อย่างมากก็แค่เข้าโรงพยาบาล 

"หนักจริงๆ อยากถีบซ้ำสักที" นัทนันท์มองสกาวใจกำลังดึงคนสลบให้ออกไปจากตัวเขา ในใจคิดเพียงแต่ว่าต้องรีบหนีให้เร็วที่สุด 

"เจอแล้ว" หลังจากที่ลากคนร่างใหญ่ให้ลงไปนอนบนพื้น เธอก็พยายามหากุญแจมือมาไขข้อมือของนัทนันท์ โชคดีที่ชายคนนี้เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกง

"กะ...เก่งจัง" นัทนันท์ยิ้มและมองคนกำลังง่วนช่วยเหลือเธออย่างเอาเป็นเอาตาย ถึงสถานการณ์จะไม่เอื้ออำนวย พอเห็นแบบนี้ก็อยากหยุดเวลาไว้ 

"มันใช่เวลามาชมไหม" คนถูกชมมองค้อน 

"แฮะ ๆ" คงได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อน จะให้ทำยังไงได้เพราะมือกับเท้าถูกมัด แม้ใจอยากจะออกไปจากที่นี่ก็ตาม แต่ต้องใจเย็นรอให้สกาวใจช่วยเสียก่อน

ในที่สุดทั้งสองได้ออกจากห้อง สกาวใจพานัทนันท์ไปที่รถเพื่อขับออกจากที่นี่ 

"เดี๋ยวก่อนนะ แตง...แตงขับรถเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่" นัทนันท์สงสัย เพราะรถที่สกาวใจขับมาเป็นรถของเธอ

"เถอะน่า รีบออกจากที่นี่ก่อนเถอะ" สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือการพานัทนันท์ออกจากจุดอันตรายที่สุด แม้จะต้องเสี่ยงขับมาหาก็ตาม 

"เข้าใจแล้ว ส่งกุญแจมา" นัทนันท์สั่ง 

"แต่นัดยังเจ็บอยู่นะ" ไม่ว่าจะมองยังไง ตั้งแต่ผมจนเท้า มีแต่ร่องรอยการถูกทำร้าย ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังทำตาม ยื่นกุญแจให้ทันที

"แค่นี้เอง ไปเถอะ" นิ้วเรียวของคนตัวสูงเกี่ยวนิ้วก้อยนุ่มนิ่ม ในเมื่อเธอขับรถแข็งกว่าทำไมต้องเสี่ยงให้คนไม่เคยคิดจะจับรถเลยมาขับให้

สกาวใจได้แต่ขานรับในลำคอและเดินขึ้นรถตามนัทนันท์ ในเวลาแบบนี้ความปลอดภัยต้องมาก่อน เรื่องอื่นค่อยว่าทีหลัง ขอเพียงให้เธอคนนี้ไม่เป็นอะไรที่รุนแรงก็เพียงพอแล้ว



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 มี.ค. 2566, 15:11:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 มี.ค. 2566, 15:11:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 174





<< น้ำตก   คนเบื้องหลัง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account