หนามร้ายในใจรัก (Yuri) -จบ

Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก

ตอน: แค่ให้เวลารักษา

ธุรกิจยิ่งเติบใหญ่มากเพียงใด ความรับผิดชอบกับการแข่งขันก็มักจะตามมาด้วยเสมอ แม้แต่คนอย่างนัทนันท์ก็ไม่อาจหนีพ้น การตัดสินใจในครั้งนี้ทำให้เธอต้องลงมือทำทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ดียิ่งขึ้น

บนโต๊ะทำงานในห้องของผู้เป็นบิดา มีเธอรักษาการชั่วคราวจนกว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทาง เอกสารจำนวนมากรออนุมัติกับตารางงานเรียงมาเป็นแถว การนั่งเก้าอี้ตัวโตใช่ว่าจะสบาย ยิ่งตำแหน่งใหญ่มากเท่าไหร่ก็เหมือนกับมีสิ่งสำคัญที่ต้องทำมากขึ้นเท่านั้น 

เวลาผ่านไปเพียงช่วงเวลาหนึ่ง สิ่งที่เธอเคยทำมาตลอดและยังทำอยู่ได้เด้งเตือนเข้ามายังมือถือเครื่องใหม่ที่เหมาะกับตำแหน่งชั่วคราว มือเรียวหยิบขึ้นมาดูและเลื่อนมองอย่างตั้งใจ 

"ดูมีความสุขจังนะ" เธอเผลอยิ้มกับคนในรูปที่ถูกส่งมา ภาพของหญิงสาวกำลังนั่งอยู่ในร้านชาบูกับเพื่อนร่วมงานอย่างมีความสุข ใจหนึ่งรู้สึกดีใจที่ได้เห็นใบหน้า อีกใจกลับรู้สึกคิดถึงมากจนไม่อาจจะอยู่ตรงนี้ได้ และอิจฉาคนรอบข้างที่มีความสุขเพราะมีสกาวใจอยู่ในนั้น

"แทนที่จะทำแบบนี้ ผมว่า ควรไปหาเจ้าตัวไม่ดีกว่าหรือครับ นี่ผ่านมาหลายเดือนแล้ว" 

เท็นโด้ยิ้มให้กับท่าทางของนัทนันท์ ถ้าคนถูกสะกดรอยตามและถูกแอบถ่ายมาเห็นเข้า คงโกรธมากกว่าการหายตัวไปโดยไม่บอกกล่าว

"พี่เท็น... เข้ามาไม่เคาะประตูอีกแล้วนะคะ" นัทนันท์เม้มปาก ทุกครั้งที่เขาคนนี้เข้ามาในห้อง จะต้องมีเรื่องให้ถูกจับได้เสมอ

"ผมเคาะหลายรอบแล้วครับ" เขายิ้ม

"อ่า...งั้นก็รีบออกไปสิคะ" 

"ครับ" เขาอมยิ้มและโค้งตัวเล็กน้อยแต่ไม่วายที่จะแซว

"ทำแบบนี้ระวังโดนจับนะครับ ภาพในมือถือนั่นน่ะ" 

"พี่เท็น...ออกไปได้แล้ว นัดจะทำงาน" พอเห็นรอยยิ้มก็ยิ่งอยากให้ไปไกลๆ นับวันพี่ชายคนนี้มีทักษะในการกวนประสาทคนอื่นมากขึ้นเรื่อย ๆ

ไม่ได้อยากจ้างคนติดตามอย่างที่ทำอยู่ แต่ทุกวินาทีมันมีค่ามากสำหรับเธอ อีกไม่นาน เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น เธอคนนี้จะไปเผชิญหน้าอีกครั้ง พร้อมคำอธิบายทุกอย่าง 

"อีกไม่นานหรอกนะ รอนัดก่อน" 

หลังจากนายชวกรตายไปแล้วนั้น มีสิ่งที่น่าปวดหัวมากกว่าการแบ่งทรัพย์สินทางกฎหมาย นั่นคือต้นเหตุในการตัดสินใจของฆาตกรที่ลงมือฆ่านายชวกร หญิงสาวคนนั้นที่เข้ามาทักทายในฐานะลูกจ้างในบ้านหลังโต บ้านหลังนั้นเธอได้ตัดสินใจเก็บข้าวของออกมาและเธอคนนั้นได้เข้ามาหาอีกครั้งเพื่อลาออกหลังจากนายชวกรตายด้วยเหตุผลว่าละอายใจที่อุ้มท้องลูกของเขาอยู่ และเหตุผลที่เหนือสิ่งอื่นใด คือฆาตกรที่ฆ่านายชวกรเป็นพี่ชายของเธอคนนั้นนั่นเอง

"ไอ้บ้านั่น ตายไปแล้วยังทำคนอื่นเดือดร้อนอีก" เพียงแค่คิด หัวก็ปวดจี๊ดๆ ไม่ใช่ว่าหึงหวงอย่างที่ใครกังวล แต่ปัญหาหลังจากนั้นมันมีมากจนต้องตามไปแก้ไข ไม่คาดคิดสิ่งที่ได้รับรู้ทำให้ทั้งตัวของเธอและครอบครัวต้องปวดหัว 

"แต่ก็ไม่แปลกใจ ว่าทำไมถึงทำลงไปแบบนั้น"

นัทนันท์เอนตัวพิงเก้าอี้ตัวใหญ่และถอนหายใจเล็กน้อยกับสิ่งที่คิด นายพีเจที่ถูกคนบนโลกมองว่าเป็นฆาตกรที่ฆ่าคนรักเป็นคนโหดเหี้ยม แต่แท้จริงแล้วเขาเป็นคนที่เจ็บปวดมากกว่าใครๆ การที่ทนเก็บความลับและเฝ้ารอคอยว่าคนที่เขารักนั้นจะหันมามองพร้อมกับหัวใจที่มอบให้กับเขาเพียงคนเดียวตามสัญญา กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่ความฝันและต้องมารับรู้สิ่งที่นายชวกรทำลงไปกับน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาอีก คงปวดใจไม่น้อยกับสิ่งที่ต้องเผชิญ เมื่อต้องรับรู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ นัทนันท์ไม่แปลกใจเลยกับสิ่งที่เขาทำลงไปแม้จะเป็นเพียงอารมณ์ก็ตาม และเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงช่วยพวกเธอ ถึงใครจะมองว่าเป็นความรักที่บิดเบี้ยวแต่ถ้าเป็นตัวของเธอ ไม่กล้าแม้จะคิดให้คนที่เธอรักต้องเจ็บปวด ถึงแม้ว่าจะทำลงไปเพราะเหตุการณ์บังคับ ตัวของเธอเองก็เจ็บไม่แพ้กัน 

กาลเวลามักผ่านไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่คอยใคร แต่ทว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่และพอใจที่จะยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น แม้บางอย่างกลับไปเริ่มต้นใหม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็อาจมีสิ่งที่เริ่มก่อตัวขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน 

"ทานอาหารก่อนสิคะ จะได้ทานยา" พิมลดาวางถ้วยใส่โจ๊กร้อนๆ บนโต๊ะ ให้คนป่วยเดินลงจากเตียงมานั่งข้างหน้าต่างในห้องนอน 

"ลูกล่ะ" พอเห็นหน้าภรรยาก็มักจะถามหาลูกสาวเพียงคนเดียวเสมอ มือที่จับมือถืออยู่ ต้องรีบวางลงอย่างรวดเร็ว

คนถูกถามต้องถอนหายใจเบา ๆ แล้วตอบแบบไม่ใส่ใจนัก เพราะมือของเธอกำลังจัดเตรียมแก้วน้ำพร้อมดื่มให้กับคนที่กำลังจะตักชิ้นหมูเข้าปาก

"ถามหาอยู่นั่น อยู่บริษัทสิคะ" ตั้งแต่ทำหน้าที่แทนก็แทบจะไม่มีเวลากลับบ้าน แล้วคนที่นับจำนวนคำที่พูดถึงลูกสาวได้ กลับถามหาแทบทุกวันจนไม่อยากจะตอบ

"อืม ผมถามไปอย่างนั้น แค่อยากรู้" นายดรัณก้มหน้าและตักโจ๊กอีกคำเข้าปาก

"คงไม่กลับบ้านเหมือนเคย ไม่รู้ไปนอนที่ไหน เรื่องมันก็ผ่านมาตั้งปีกว่าแล้ว ลูกก็ทำงานแทนคุณแทบจะไม่มีเวลาหายใจ คุณน่าจะยอมๆ ให้พวกเขาคบกันสักทีเถอะค่ะ สงสารเด็กๆ พวกเราก็แก่แล้วจะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้" เธอบ่นและเบื่อกับสองพ่อลูก เมื่อไหร่จะปรับความเข้าใจกันเสียที

"คุณก็บ่นจนผมท้องอืด ผมรู้หรอกน่าว่าควรทำยังไง" ที่สำคัญ เขารู้ด้วยว่าลูกสาวของเขาไปพักอยู่ที่ไหน

"ให้โทรหานัดไหมคะ ให้ลูกกลับมานอนที่บ้าน พวกเราจะได้อยู่พร้อมหน้ากันสักที" พิมลดารู้สึกถึงความใจอ่อน ไม่แน่ว่า ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นก็ได้

"ไม่ต้องหรอก"

"อ้าว ทำไม" เธอขมวดคิ้วมุ่นกับสิ่งที่เขาตอบ 

"ลูกไม่อยากกลับตอนนี้หรอก ก็มีบ้านของตนเองอยู่แล้วนี่"

ยิ่งฟังยิ่งไม่เข้าใจจะเป็นบ้านเก่าของสามีก็ไม่ใช่ แล้วลูกสาวของเธอไปนอนที่ไหนกันแน่ แต่เมื่อมองหน้าของสามีก็รู้ทันที 

"อย่าบอกนะว่า คุณแอบจ้างคนสะกดรอยตามลูกอีกแล้ว" เธอตีหลังสามีเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ สองพ่อลูกเหมือนกันไม่มีผิด 

"บอกมาเลยนะ ว่าลูกสาวพวกเราไปอยู่ไหน" เธอเม้มปากแน่นและจ้องคนที่รู้ดีแต่ทำแกล้งถามหาทุกวันจนรู้สึกอยากตบสักฉาดให้รู้เสียบ้างว่าต้องทำยังไง 

"ช่วงนี้คุณเข้มงวดกับผมจังนะ" เขาเริ่มงอน

"ก็เป็นเพราะใครกัน ตั้งแต่แต่งงานกับคุณมา ฉันยอมทุกอย่าง จนลูกต้องอดทนไปด้วย กับการเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ครั้งนี้ ลูกต้องลำบากเพราะใคร ปล่อยลูกไปได้แล้ว"

"ก็ยอมแล้วไง คุณจะบ่นอะไรนัก แล้วไม่อยากรู้หรือไงว่าลูกเราไปนอนไหน"

"อยากรู้สิคะ บอกมาเดี๋ยวนี้เลย" เธอตีเขาเบาๆ อีกที เขากวักมือให้ภรรยาเข้ามาใกล้ๆ จะได้บอก เธอเห็นจึงทำตาม

"อยู่บ้านเด็กคนนั้น" เขาพูดเบาๆ และหอมแก้มไปหนึ่งที 

"คุณนี่ ทำอะไรน่าอาย" เธอลูบแก้มแล้วเดินถอยหลังออกมา นานมากแล้วจริงๆ ที่ได้รู้สึกเขิน

"อายอะไรกัน อยู่กันแค่สองคน" เขายิ้ม

"แบบนี้ คุณยอมรับแล้วสินะว่าพวกเราจะมีลูกสาวสองคน" เธอรีบเปลี่ยนเรื่องคุยและยิ้มอย่างดีใจ

"ก็นะ ต้องพามาบ้านก่อนถึงจะยอมรับอย่างเป็นทางการ" เขากลับมาทำหน้าเคร่งขรึมเหมือนเดิม

พิมลดามองคนที่เป็นสามีและพ่อของลูก กลับไปทานอาหารต่อ จนเธอต้องส่ายหน้าเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นกลับรู้สึกเบาใจจนบอกไม่ถูก อย่างน้อยอะไรหลายๆ อย่างกำลังจะดีขึ้น



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2566, 03:06:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2566, 03:06:56 น.

จำนวนการเข้าชม : 134





<< คนเบื้องหลัง   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account