ทรายเทียมเพชร
“ ถ้าที่ไหนมีฉัน ที่นั่นจะต้องไม่มีเธอ ถ้าฉันอยู่ที่ไหนก็ตาม จำไว้ว่าที่นั่นคือสถานที่ ‘ต้องห้าม’ สำหรับกรวดทรายไร้ค่าอย่าง...เธอ... และถ้าเธออยู่ที่ไหนก็ตาม ฉันจะไม่ขอเหยียบย่างเข้าไปที่นั่นเป็นอันขาดเช่นกัน... ”

นี่คือ...ประกาศิตจากผู้ชายที่หล่อนแอบหลงรักและฝันถึงมาตลอดถึง 10 ปี

สำหรับเขา...ศุภิศรา มีค่าไม่ต่างอะไรกับก้อนกรวดและเม็ดทรายที่ไร้ค่าในสายตาใครๆ
แต่สำหรับเธอ...พีรภัทร เป็นดั่งเพชรสูงค่าที่จะประดับอยู่ในหัวใจของคนไร้ค่าเช่นเธอ...ตลอดไป

ถึงแม้ราคาของทรายไม่อาจเทียบเท่าได้กับเพชร หากทว่าไม่ว่าจะเป็นทรายหรือเพชรก็ล้วนมีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน...

Tags: รักโรแมนติกดราม่า

ตอน: ตอนที่ 18 Lady of the Moon ( อัพ 50% ก่อนนะคะ)

ตอนที่ 18

“ระวังครับ”

น้ำเสียงทุ้มน่าฟังบอกเบาๆ ก่อนเข้าช่วยพยุงร่างแบบบางที่ทำท่าจวนเจียนจะลงไปตะครุบกบที่พื้น ทำให้ศุภิสรารอดพ้นจากการเจ็บตัวและอับอายประชาชีไปได้หวุดหวิด มือแข็งแรงช่วยประคับประคองไว้อย่างมั่นคง และแม้หญิงสาวสามารถตั้งตัวได้แล้ว หากมืออุ่นๆ คู่นั้นก็ยังคงประคองอยู่เช่นนั้น ด้วยอาการสุภาพเกินกว่าจะคิดว่าเป็นการล่วงเกินได้

“ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”

“ ไม่เป็นไรแล้วค่ะ” ศุภิสราเอ่ยพลางเงยหน้าขึ้นมองเต็มสองตา

“ขอบคุณมากนะคะ”

บุรุษวัยกลางคนเบื้องหน้าส่งยิ้มให้น้อยๆ พลางปล่อยมือจากร่างของเธอด้วยกิริยาอ่อนโยน ชุดสูทสีดำหรูเรียบกริบ เนี้ยบทุกอณู ทำให้ร่างโปร่งของเขาดูงามสง่าน่ามอง และบุคลิกนุ่มนวลมีราศีของผู้ดีจับทุกกระเบียดนิ้ว ทำให้เธอรู้สึกประหม่า หากแววตาลึกล้ำที่มองตรงมาอย่างห่วงใยนั้นทำให้หัวใจของทรายอุ่นวาบขึ้นมาอย่างน่าประหลาด กระแสบางอย่างที่แผ่ออกมาจากตัวผู้ชายคนนี้ก่อให้เกิดความอบอุ่นไว้เนื้อเชื้อใจทั้งๆ ที่เป็นการพบกันครั้งแรกเท่านั้น

“ ยัยทราย เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงตรีรักษ์ที่วิ่งละล่ำละลักเข้ามาถามหน้าตาตื่น

“ ไม่เป็นไรหรอก แค่สะดุดขานิดหน่อยเอง”

“ โอ้ย...โล่งอกไปที หันมาอีกทีไม่เห็นตัว ฉันก็นึกว่าเธอเป็นลมล้มพับไปแล้วซะ
อีก”

อาการห่วงใยเกินเหตุนั้นทำให้คนเฝ้ามองเงียบๆ อดยิ้มขันไม่ได้ เป็นรอยยิ้มละมุนที่ ศุภิสราหันมาเห็นเข้าพอดีจึงส่งยิ้มตอบ

“ คุณชายครับ จวนได้เวลาแล้วครับ ” ผู้ติดตามก้าวเข้ามากระซิบเบาๆ

“ ผมคงต้องขอตัวก่อนนะครับ ”

“ ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วย” ศุภิสรายกมือไหว้อย่างนอบน้อม กิริยานั้นทำให้อีกฝ่ายมีอาการชะงักไปนิดๆ และเมื่อตั้งสติได้เขาจึงส่งรอยยิ้มอบอุ่นตอบกลับมาให้อีกครั้ง

“ ด้วยความยินดีครับ ”

ทันทีที่คล้อยหลังบุรุษแปลกหน้าผู้นั้น คนเป็นเพื่อนที่แอบมองสังเกตการณ์อยู่จึงได้โอกาสสอบสวน

“ ใครน่ะ”

“ ใคร?”

“ ก็ผู้ชายคนเมื่อกี้น่ะใคร”

“ ไม่รู้สิ เขามาช่วยฉันไว้ไม่ให้หกล้ม ทำไมเหรอ”

“ ไม่รู้สิ เห็นแกยิ้มซะหวานหยดย้อยให้เค้าก็นึกว่ารู้จัก” ตรีรักษ์เอ่ยอย่างจับผิด

“ อ๊ะๆ อย่าบอกนะว่าแกเปลี่ยนแนวมาปิ๊งคนแก่แล้วซะอีก”

“ พูดบ้าๆ ปิ๊งปั๊งอะไรกัน” ทรายหันมาแหวใส่ “ อีกอย่างผู้ชายคนนั้นเค้าไม่ได้แก่อะไรมากมาย ท่าทางดูดีออกจะตาย แถมเขาก็สุภาพมากเลยด้วย แกน่ะพูดจาน่าเกลียด”

“ แหม ว่าได้เหรอ สมัยนี้ผู้ชายดูแต่ภายนอกได้ที่ไหน บางคนดูดีแต่เป็นโจรก็ถมไป ใครจะรู้”

“โอ้ย...เพ้อเจ้อใหญ่แล้ว ไปกันเถอะ เมื่อกี้บอกว่าหิวไม่ใช่เหรอ ไปเถอะ” คนพูดพยายามลากแขนคนช่างสงสัยให้เดินตาม โดยไม่เห็นสีหน้าคนตามที่ไม่สบอารมณ์สุดๆ แถมก้มลงมองนาฬิกาเป็นระยะๆ พลางขมุบขมิบบ่นเบาๆ

“ เมื่อไหร่จะมาซักทีนะ”

“ ว่าอะไรนะ”

“ หา...อ๋อ...เปล่าๆ ไม่ได้ว่าอะไร” อาการปฏิเสธพัลวันถูกกลบเกลื่อนด้วยเสียงดนตรีดังลั่นบริเวณกลางลานของห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น

“ เอ๊ะ เค้าจัดงานอะไรกันน่ะ เสียงดังจัง”

“ นั่นสิ เสียงดังลั่นเลย คนมุงกันเยอะจัง ท่าทางจะมีคนดังมาด้วยนะ เราไปดูกันไหม” ตรีรักษ์รีบชวนด้วยท่าทีตื่นเต้นเกินเหตุ ทำให้อีกฝ่ายพลอยลืมสิ่งที่นึกสงสัยไปชั่วคราว

แล้วสองสาวก็เดินเตร่เข้าไปยืนเป็นหนึ่งในไทยมุงในงาน ที่เพิ่งรู้ภายหลังว่าเป็นการเปิดนิทรรศการภาพเขียนที่นำมาจัดแสดงและขายเพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือเด็กผู้ยากไร้ บนเวทีมีการตัดริบบิ้นเปิดงาน แต่ทั้งสองไม่อาจแทรกเข้าไปถึงได้เพราะคนมุงกันแน่นขนัด ได้ยินเพียงเสียงพิธีกรพากษ์อยู่ปาวๆ ทั้งสองจึงตัดสินใจเดินไปชมรูปภาพที่นำมาจัดแสดงในงานแทน

ภาพเขียนหลากหลายแบบที่แสดงถึงบุคลิกเฉพาะตัวของจิตรกรถูกจัดวางอย่างมีศิลปะ ทุกรูปมีชื่อศิลปินผู้วาด บางรูปมีคำบรรยาย ที่มาของแรงบันดาลใจ และราคาที่ตั้งไว้เสร็จสรรพ หากสองสาวนั้นสมัครใจเป็นผู้ชมมากกว่า แม้จะไม่มีความรู้ทางศิลปะการวาด ฉะนั้นการเสพย์ความงามทางสายตาจึงเป็นวิธีสามัญที่สุดที่พวกเธอทำได้ ภาพแล้วภาพเล่าที่ผ่านตาไปถูกนักวิจารณ์กิ๊กก๊อกอย่างตรีรักษ์วิจารณ์อย่างออกรสออกชาติ และมีศุภิสราที่บำเพ็ญตนเป็นนักฟังที่ดียิ้มขำขันเดินตาม จนมาถึงภาพวาดหนึ่งที่ดูสะดุดตา เพราะมีการกั้นอาณาบริเวณล้อมเป็นพิเศษ

“ ยัยทรายมาดูรูปนี้สิ สวยจัง” เสียงตื่นเต้นบอก พลางทำท่าชะเง้อมองจนคนเดินตามมานึกขันแกมอายคนรอบข้างนิดๆ

“ เบาเสียงหน่อยได้ไหม คนมองแกกันหมดแล้ว”

“ ช่างประไร สนทำไม เขาไม่เคยเห็นคนสวยล่ะมั้ง” คนปากดียักไหล่ไม่สะทกสะท้าน สายตายังคงพยายามมองใต้ภาพที่มีคำบรรยาย

“ Lady of the Moon”

ภาพวาดสีน้ำมันรูปผู้หญิงใต้เงาแสงจันทร์สีนวลขับให้ร่างอรชรดูงดงามเกินกว่าจะบรรยาย ใบหน้ารูปไข่หวานแช่มช้อยของคนในภาพราวกับมีชีวิตจริง ดวงตาหวานซึ้งมีประกายของอ่อนหวานปนเศร้า ราวกับมีพลังดึงดูดให้คนที่ได้เห็นไม่อาจละสายตาได้

“ ว้าว... ดูชื่อคนวาดนั่นสิ ธรรมดาซะที่ไหน ‘มรว. รัชชากรณ์ รวิภาส’ โก้ซะไม่มี แถม กั้นคอกซะขนาดนี้ท่าทางจะแพงนะ” เสียงเจื้อยแจ้วบรรยายสรรพคุณแจ้วๆ
“ สวยแต่ดูแล้วเศร้าๆ เนอะว่าไหม ” แม่นักวิจารณ์ที่ไม่มีเซอร์ทิฟิเกตรับรองหันมาออกความเห็น

“ ฉันว่าผู้หญิงในภาพนี้มันหน้าคุ้นๆ นะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนก็ไม่รู้สิ”

เมื่อไม่ได้คำตอบ ตรีรักษ์จึงหันมามองคนที่ยืนทอดสายตามองภาพนิ่งๆ ข้างกาย เสี้ยวหน้างดงามราวรูปวาดทำให้ต้องเบิกตากว้าง

“ นึกออกแล้ว!” เจ้าหล่อนอุทานลั่น จนคนเป็นเพื่อนสะดุ้งโหยง

“ อะไรยะ เอะอะซะลั่น”

“ ก็ผู้หญิงในภาพน่ะสิ ฉันนึกออกแล้วว่าหน้าเหมือนใคร”

“ ใครอีกล่ะ” คนฟังลากเสียงยาวอย่างหน่ายระอา

“ ก็เหมือน...แกไง ดูที่ดวงตาสิ เหมือนแกเปี๊ยบเลย”

คำนั้นทำให้ทรายต้องหันไปมองในภาพอีกครั้ง ความคลับคล้ายคลับคลาที่ว่านั้นไม่ผิดนัก หากมีอะไรบางอย่างที่มากกว่านั้น ภาพผู้หญิงที่คุ้นตาราวกับเคยรู้จักมาก่อน แล้วจู่ๆ ภาพใครคนหนึ่งที่อยู่ในความทรงจำของเธอมาตลอดทุกคืนวันก็แวบเข้ามา
ในสมอง

“ เป็นไปไม่ได้ ” เสียงพึมพำเบาๆ ดวงตาคู่หวานเบิกกว้าง

ภาพวาดผู้หญิงตรงหน้าที่ตรีรักษ์คิดว่ามีเค้าละม้ายเธอ หากแท้จริงแล้วคือรูปของ...

“แม่!”

รูปแม่ของเธอไม่ผิดแน่ ผู้หญิงที่ไม่ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แต่เธอยังไม่เคยลืมเลือน

ร่างระหงสาวเท้าผ่านเข้าไปในอาณาบริเวณที่ถูกกั้นไว้ราวกับละเมอ แววตาหวานยังคงจับจ้องภาพตรงหน้าไม่วางตา ความงดงามราวกับมีชีวิตนั้นมองออกมาจากภาพเขียนตรงมาที่เธอ พลางส่งรอยยิ้มบางๆ ที่แย้มเสลางดงามให้อย่างอ่อนหวานละมุนละไมเฉกเช่นในวันวานไม่ผิดเพี้ยน

“ แม่...ใช่แม่จริงๆ ด้วย ” ริมฝีปากอิ่มแย้มยิ้มรับอย่างดีใจราวกับได้พบคนที่คิดถึง
มานาน มือนวลยกขึ้นแตะดวงหน้าที่เหมือนผู้เป็นมารดาเบาๆ หูแว่วได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากที่ไกลๆ

“ หยุดนะ นั่นเธอจะทำอะไร!”

เสียงนั้นกระชากศุภิสราพ้นจากภวังค์กลับมาสู่โลกแห่งความจริงอันโหดร้าย สาวน้อยชะงักกึก

“ มัวยืนทื่ออะไรกัน รีบพาตัวออกไปจากตรงนั้นสิ”

ผู้ชายในชุดสูทหันไปสั่งเสียงเข้ม พร้อมกับรปภ.ร่างใหญ่เดินตรงเข้ามาที่เธออย่างเอาเรื่อง ในขณะที่ตรีรักษ์ยืนอ้าปากค้างมองภาพตรงหน้าอย่างตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก และก่อนที่จะตั้งตัวร่างของศุภิสราก็ถูกลากออกไปจากบริเวณที่จัดแสดงภาพนั้นซะแล้ว

“เกิดอะไรขึ้นหรือ คุณผู้จัดการ”

“ ผู้หญิงที่ไหนไม่ทราบครับ เผลอแป๊บเดียวเข้าไปในคอกกั้นซะแล้ว” ผู้ชายในชุดสูทเอ่ยตอบอย่างนอบน้อม “ ดีที่เราเห็นทันซะก่อนครับ ไม่งั้นภาพของคุณชายอาจเสียหาย”

“ หืม? ผู้หญิงที่ไหนกัน”

“ ไม่ทราบเหมือนกันครับ แต่คุณชายไม่ต้องห่วงนะครับ เราจะจัดคนเฝ้าภาพนี้ให้มากกว่าเดิม” คนพูดเอ่ยอย่างพินอบพิเทา

“ งั้นผมฝากด้วยละกันนะ ภาพนี้มีความหมายต่อผมมากถ้าเกิดอะไรขึ้น ผมคงแย่”

“ ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมรับรองว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับภาพวาดของคุณชายแน่นอนครับ”

“ ขอบใจ ” เจ้าของภาพวาดเอ่ยเสียงนุ่ม ก่อนทอดสายตามองหนึ่งในสิบกว่าภาพวาดของเขาที่ยอมนำมาจัดแสดงในงาน ทว่ากลับเป็นภาพเดียวในงานที่ไม่ได้ตั้งราคาด้วยผู้เป็นเจ้าของไม่คิดจะขาย เพียงแต่นำมาโชว์เท่านั้น แววตามันระยับสบตาคนในภาพอย่างอ่อนโยน

‘Lady of the Moon’ ...นางแห่งดวงจันทร์ที่อยู่ในดวงใจของเขามากว่า 20 ปี!
*************************************************
เอามาลงก่อน 50% นะคะ ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ ^ v ^

********



winchaya
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ย. 2554, 13:47:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 พ.ย. 2554, 00:56:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 2258





<< ตอนที่ 17 เบื้องหลังความเย็นชา   ตอนที่ 18 Lady of the Moon อัพ 100% ค่ะ >>
คิมหันตุ์ 22 พ.ย. 2554, 13:52:37 น.
อืม !! มาติดตามจ่ะ


dino 22 พ.ย. 2554, 14:16:41 น.
ทรายจะเจอพ่อแล้วมังคราวนี้


นางสาวปลาดาว 22 พ.ย. 2554, 14:38:05 น.
พ่อมา


ปอแก้ว 22 พ.ย. 2554, 15:29:16 น.
รออีกครั้งตอนหลัง :)


pattisa 22 พ.ย. 2554, 17:32:34 น.
พ่อของทรายเเน่เลย :)


bloomberg 22 พ.ย. 2554, 17:55:46 น.
พ่อของหนู พ่อไปอยู่ที่ไหนมาทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่ในสลัม


nunoi 22 พ.ย. 2554, 19:03:31 น.
พ่อหนูทรายเหรอ เป็นถึง มรว.เลยเหรอเนี๊ยะ


นกอุมาพร 23 พ.ย. 2554, 00:09:04 น.
ใครนะ เกี่ยวอะไรกับทราย ได้โปรดขอตอนต่อไปด่วน


Liez 23 พ.ย. 2554, 01:21:53 น.
อยากอ่านต่ออ่ะ!!


หมูอ้วน 23 พ.ย. 2554, 06:16:15 น.
รอลุ้นตอนต่อไปค่ะ กำลังหนุกเลย หุหุหุ


Pat 23 พ.ย. 2554, 21:53:51 น.
ปริศนาคาใจ ใช่อย่างที่คิดๆกันหรือเปล่าหนอ อิอิรออีก50% ค่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account