…You got my heart on a string…
....ไม่รู้จะย่อยังไงจริงๆค่ะ....
Tags: กีตาร์ พระเอกแก่ ตลก ดราม่า

ตอน: ตอนที่ 6...ส่งมอบสินค้า

ขอบพระคุณคอมเม้นต์จากคราวที่แล้วด้วยนะคะ
ยกยอดมาขอบคุณตรงนี้เลยเนอะ ^-^

***************************************************************

...ตาลุงนี่มันคิดได้ยังไงวะ ที่ส่งของที่อื่น ตามห่งตามห้างไม่ไป แต่ดันนัดให้เอามาที่สวนลุมพินี…

สินฤดีนึกฉงน ยามเมื่อเดินเหยียบย่างอยู่บนถนนที่มีผู้คนกำลังวิ่งออกกำลังกายขวั่กไขว่ไปมา และพอเห็นฐาปนานั่งอยู่ริมน้ำลิบๆ หญิงสาวก็คลี่ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่พอนึกได้ว่าตัวเอง “ต้อง” ไม่ชอบผู้ชาย ก็พยายามหุบยิ้ม แต่ช่างยากเหลือเกิน ไม่รู้ทำไม...

กระทั่งเดินเข้าไปถึงระยะประชิด ก็ได้เห็นหนุ่มใหญ่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำตาลเข้ม ไม่ร้อนรึไงวุ้ย... ผมยาวหยักสลวยปลิวไสว ดวงตาสีเขียวเข้มเหม่อมองไปยังเรือห่าน เอ๊ะ... หรือเรือหงส์...บนผืนน้ำเบื้องหน้า รอยยิ้มหยักโค้งปรากฏที่มุมปากอย่างมีความสุขยิ่ง...

หืม... หล่อสะเทือนใจแบบนี้เอง ถึงได้มีเรื่องชิงรักสวาทกับทอมลูกหมาที่โรงแรมได้ ว่าแต่มานัดเจอกันแบบนี้แฟนเด็กโบฮีเมียนบิ๊กอายจะตามมาตบเราไหมหนอ ฮ่าๆ

“ป๋าคะ”

สินฤดีส่งเสียงเรียก “ป๋า”เฉยๆ ตามที่เขาร้องขอไว้ก่อนที่จะมาพบกัน ทว่าฐาปนากลับนิ่ง...ไม่มีเสียงตอบรับ คล้ายกับโทรศัพท์ไปแล้วปลายสายไม่มีสัญญาณ

“เอ่อ ป๋าคะ”

...ว่าแต่ เรือห่านนี่มันเหมือนเด็กเชียร์เบียร์รึไงเฮ้ย! ถึงได้มองไปยิ้มไป ไม่สนใจสถานการณ์รอบข้าง ตกลงตาป๋านี่มันไม่ปรกติจริงๆใช่ไหมเนี่ย!...

“ป๋าคะ”

และแล้วหญิงสาวก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปแตะที่แขนเขาเบาๆ นั่นแหละฐาปนาถึงได้รู้สึกตัวหลุดออกจากภวังค์แห่งวันวาน

“อ่า .......ครับ”

“สวัสดีค่ะ”

สินฤดียกมือไหว้ ด้านฐาปนารับไหว้ด้วยรอยยิ้มแบบเอ๋อๆ เพราะสมองประมวลผลไม่ทัน แต่เมื่อรวบรวมสติได้ เขาก็ลุกขึ้นกุลีกุจอคว้ากล่องกีต้าร์มาร์ตินจากมือเธอไปถือไว้

“ไปล่ะ”

กล่าวหน้านิ่ง แล้วทำท่าเหมือนจะออกวิ่ง

“เฮ้ยยยยย”

เล่นเอาสินฤดีร้องเสียงหลง ด้วยนึกว่าเจอมิจฉาชีพเข้าให้แล้ว

“ล้อเล่นน่า…เดี๋ยวไปคุยตรงที่เงียบหน่อยๆแล้วกันเนอะ จะได้ลองเสียงกีต้าร์ด้วย”

ว่าแล้วหนุ่มใหญ่ขี้เล่น ก็เดินนำหน้าหญิงสาวลัดเลาะเข้าไปยังเกาะลอย อันเป็นเกาะกลางน้ำของสวนลุมพิณี ก่อนจะพาไปทรุดตัวลงนั่งยังชุดม้าหินริมน้ำที่ทางสวนจัดไว้ให้ ขณะนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็น สายลมเย็นสดชื่นพัดผ่าน เสียงใบไม้กระทบกันดังเป็นจังหวะ ที่ข้างๆมีกลุ่มตัวเงินตัวทองขนาดเขื่องกระโดดน้ำเล่นตูมตาม บ้างก็นอนเหยียดยาวสบายอารมณ์ แสงแดดอ่อนๆ ก็ส่องกระทบเกล็ดตามตัวของมันประกายระยิบระยับ

...แม่เจ้า! นี่มันบรรยากาศดีแบบ “เอี้ยๆ” เลยนะเนี่ย...สินฤดีอินไปกับสถานการณ์รอบข้าง

พร้อมกันนั้นฐาปนาก็ควักแว่นสายตาทรงกลมจากกระเป๋าเสื้อออกมาสวม ซึ่งแทนที่จะดูแก่อย่างที่คนอื่นๆใส่ กลับ “เท่” สุดใจขาดดิ้นอย่างกับลุง “จอห์น เลนนอน แห่ง เดอะ บีทเทิลล์” อย่างไรอย่างนั้น

“อื้อหือ เจ๋งจริงๆ มาสภาพเดิมๆเลยเนอะ เหมือนในรูปเด๊ะทุกอย่าง แม้กระทั่ง.......ฝุ่น”

หนุ่มใหญ่กล่าวประชดเสียงร่าเริง เมื่อดึงศพกีตาร์มาร์ตินออกมาจากโลง ยังผลให้หญิงสาวรู้สึกละอายขึ้นมาติดหมัดกับความไม่มีระเบียบเรียบร้อยของตัวเอง …อืม...ตาลุงนี่ เห็นเรียบนิ่ง แต่จริงๆปากใช้ได้นะเนี่ย!...

หลังจากนั้น ฐาปนาก็เริ่มต้น “พิธีกรรมปลุกวิญญาณ”ของเขา ด้วยการหยิบอุปกรณ์ อันได้แก่ น้ำยาทำความสะอาดกีตาร์ ผ้าชาร์มัว ผ้าขนหนู อุปกรณ์หมุนลูกบิดกีตาร์ และสายกีตาร์ยี่ห้อเดียวกันชุดใหม่เอี่ยมออกจากระเป๋าสะพาย ก่อนจะจัดแจงคลายลูกบิด ดึงหมุด ถอดสายเก่าทั้งหมดออก เช็ดถูทำความสะอาดจนตัวกีตาร์เงาวาววับ คว้าเอาสายกีตาร์ใหม่ขึ้นมาเปลี่ยนอย่างคล่องแคล่ว แล้วเริ่มต้นไล่นิ้ว จับคอร์ด เทียบเสียง ตั้งสายให้ตรงมาตรฐาน

ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง จากเสียงที่เคย “บอด” สนิททุกคอร์ดเวลาจับ กลับกลายเป็นไพเราะแบบหน้ามือเป็นหลังเท้า มันชัดใสกังวาน ทว่านุ่มนวลอยู่ในที สมราคา “เรือนแสน” อย่างว่าจริงๆ

“นี่มันมายากลชัดๆ ...ป๋าเอากีตาร์ตัวตะกี้ไปซ่อนใช่ไหมคะ เอาตัวเก่าคืนหนูมาเดี๋ยวนี้น้า....”

หน้าตาตกใจแบบกวนๆของอีกฝ่าย ทำเอาฐาปนาถึงยิ้มแตก หัวเราะก๊าก เฮ้ย มันฮาได้อีก! ...ผู้หญิงคนนี้ตรงจริงๆ คิดอะไรออกมาทางสีหน้าหมด เก็บไว้บ้างก็ดีนะอีหนู!...

“เสียงอย่างเนี๊ยบจริงๆ คนเลือกเลือกเก่งมาก”

หนุ่มใหญ่กล่าวชม ทั้งที่มือยังดีดกีตาร์กรุ้งกริ้งเป็นจังหวะเพลงอันคุ้นหู แต่คนฟังดันนึกไม่ออกว่าเพลงอะไร

“คือ ...คนเลือกเขาเคยเป็นนักดนตรีมืออาชีพน่ะค่ะ”

...เคยเป็นนักดนตรีอาชีพเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนจริง แต่ปัจจุบันนี้ไม่รู้ว่า “อยู่” หรือ “ตาย”กันแน่...

“ถามจริงๆ ทำไมหนูไม่หัดเล่นกีตาร์จริงๆจังๆล่ะ”

“มันเล่นไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่มีพรสวรรค์”

สินฤดีตอบคำถามพร้อมหัวเราะร่วนอย่างข่มขื่น กับการที่เกิดมาไร้พรสวรรค์ทางเสียงดนตรีโดยสิ้นเชิง

“หนูฝึกมาเป็นยี่สิบปีแล้วยังไงก็เล่นไม่ได้.... ป๋าเข้าใจใช่ไหมคะ ...ว่าคนเรามันมีข้อจำกัดแปลกๆของตัวเองอยู่ อย่างเช่น ....มีเพื่อนหนูอยู่คนนึง เขาว่ายน้ำไม่ได้... ไม่ได้ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงว่ายไม่เป็นนะคะ ....ไม่ได้คือไม่ได้ ลงน้ำแล้วจมดิ่งไปเลยทีเดียว พยายามหัดยังไงก็ไม่เป็น ไปเรียนกับครูฝึกที่เป็นทีมชาติเกือบทุกวัน เสียเงินไปตั้งเยอะ แต่ปัจจุบันก็ยังว่ายไม่ได้ ว่ายไม่เป็นอยู่ดี ฮ่าๆ”

หนุ่มใหญ่พยักหน้าเข้าใจในความแตกต่างทางทักษะบางอย่างของมนุษย์ ระหว่างนั้นเองเขาก็ลอบสังเกตทุกอย่างที่ “ประกอบ” เป็นเธอไปด้วย

นังหนู นี่จัดเป็นคนหน้าตาดี หน้าตาดีในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า สวยจ๋า หรือ น่ารักจัด คือ ดูแล้วหน้าตาสมดุล ดูได้ ไม่ได้ขี้เหร่ ...ผิวขาว หุ่นกำลังพอดี และสูงมาก อีกนิดก็จะเท่าเขาที่สูงร้อยแปดสิบห้าแล้ว ..นี่ถ้าไม่ใส่เสื้อยืดตัวใหญ่ๆ สีดำเก่าๆ กางเกงยีนส์ซีดๆขาดๆ รองเท้าใบเน่าๆ ทำผมปรกหน้าปรกตาเป็น “ร๊อกเกอร์” แบบนี้ ก็คงดูเป็นสาวสะพรั่งดีทีเดียว

“เอ่อ หนูอายุเท่าไหร่คะ”

ด้วยสมองไม่ค่อยปรกติ ทำให้ฐาปนาห้ามตัวเองไม่ทัน โพล่งถามขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“สามสิบค่ะ ...ถามทำไมคะ”

“เปล่า เห็นหน้าเด็กๆ แต่งตัวเด็กๆ นึกว่าสักยี่สิบกลางๆ แต่ตัวสูงดีนะ ฮ่าๆ มองเผินๆไกลๆ นึกว่าผู้ชาย”

...ถ้าไม่เห็นหน้าอกชัดๆ...เฮ้ย! ไอ้ป๋า แกเป็นอะไร เหลือบเห็นหน้าอกหน้าใจของน้องเขาทีไร โจอี้ เรดสตาร์เข้าสิงทุกที!!

และวลี “นึกเป็นผู้ชาย” ทำหญิงสาวสะอึก กี่ครั้งกี่หนแล้วนะ ที่โดนมองว่าเป็น “ผู้ชาย” หรือไม่ก็ “ทอม” ทั้งที่เป็นผู้หญิงเต็มตัวที่ทำตัวสบายๆ ไม่ได้ป่าวประกาศบอกใครว่าเนื้อใน “โคตรหญิง”

…แต่งหญิงก็เหมือนกระเทย แต่งชายก็เหมือนทอม...ทำไมพระเจ้าถึงได้กลั่นแกล้งให้ความครึ่งๆกลางๆมาแบบนี้วะเฮ้ย!!...และเมื่อเป็น “แบบนี้” ก็มักจะโดนผู้หญิงเข้ามาจีบเจ๊าะแจ๊ะ พอบอกไปตามจริงว่าไม่ใช่ “ทอม” หรือ “เลสเบี้ยน” ก็ไม่มีใครเชื่อ แถมยังรุกหนักกว่าเดิมอีกต่างหาก กูเครียด!! เป็นที่น่ารำคาญใจยิ่ง!!

“เป็นผู้ชายจริงๆได้ ก็ดีสิ หนูเบื่อไอ้ความเป็นผู้หญิงแบบนี้เต็มทนแล้ว”

ประโยคบอกเล่าแกมประชดชีวิตรันทด ทำเอาฐาปนาถึงบางอ้อ สมองไพล่คิดไปว่านางมีรสนิยมเบี่ยงเบนทางเพศเฉกเช่น “ทอมดาต้า” แต่ไม่เก๊กแมนจ๋าแบบนั้น และนั่นก็ทำเอาเขานึกเสียดายแทน “โจอี้ เรดสตาร์” เป็นอย่างยิ่ง

...หึๆ เป็นไงล่ะ โจอี้ เด็กนายเขาไม่เล่นกีตาร์ เพราะเขามีฉิ่งหรรษาให้เล่นแล้ว!...

เมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มออกไปทาง “ดราม่า” สินฤดีก็รีบเปลี่ยนเรื่องทันควัน เพื่อดึงบรรยากาศให้กลับมาสนุกสนานดังเดิม

“.....เอ่อ...ไหนๆก็ไหนแล้ว ป๋าเล่นให้หนูฟังสักเพลงสิคะ อยากฟังเสียงมันเต็มๆก่อนจากกันนิรันดร”
เพราะเมื่อเห็นการไล่นิ้วอย่างคล่องแคล่ว สินฤดีก็ชักอยากจะเห็นพี่ป๋าเล่นเป็นกิจจะลักษณะ ด้วยท่าทางการเล่นกีตาร์ของเขาเหมือนกับ “พ่อ” ไม่ผิดเพี้ยน และที่สำคัญพ่อเป็นคนที่รู้จัก “ดนตรี” ทุกชนิด ขอเพลงอะไรก็เล่นได้หมด ทั้งไทยและเทศ ตาลุงนี่ก็น่าจะเป็นแบบนั้นด้วย

“แล้ว....หนูอยากฟังเพลงอะไรล่ะ”

ณ จุดนี้ วาจาของเขาเหมือนท้าท้ายกันอย่างไรไม่รู้…นั่นก็ทำให้หญิงสาวนึกหมั่นไส้ขึ้นมาตงิด ดีล่ะ ลองขอเพลงยากๆ เอาแบบที่ดูหน้าตาออก ”หวานเย็น” แบบนี้เล่นไม่ได้แน่ๆ

“คัม แอส ยู อาร์ ...เนอร์วาน่า เล่นได้รึเปล่าคะ”

...ชิชะ!...คำว่า “เล่นได้รึเปล่าคะ” ทำฐาปนาหน้าตึง ณ จุดนี้ เพลงที่นังหนูนี่ขอมาเหมือนท้าท้ายกันอย่างไรไม่รู้…นั่นก็ทำให้หนุ่มใหญ่นึกหมั่นไส้มันตงิด ดีล่ะ เห็นว่าหน้าเราแก่ คงคิดว่าเราเล่นอะไร “แรงๆ” ไม่ได้สินะ หึๆแต่ขอประทานโทษ “ร๊อก” มันอยู่ในสายเลือดป๋านะเฮ้ย!

ทันใดนั้น “ฐาปนา เดอะ ร๊อกสตาร์” ก็ไล่ขยับมือซ้ายจับคอร์ดแบบชำนาญ มือขวากรีดนิ้วเป็นเพลงกรันจ์ร๊อกที่มีอินโทรท้าทาย

“Come As you are As you were As I want you to be
As a friend As a friend As an old enemy
Take your time Hurry up The choice is your
Don’t be late Take a rest As a friend
As an old memoria
memoria memoria memoria”

เสียงกีตาร์บวกกับเสียงที่เปล่งจากลำคอของเขาทำเอาสินฤดีตะลึงงัน ผู้ชายวัยเกือบกลางคนผู้นี้มีเสียง “สวรรค์” ชัดๆ ถ้าไม่ “อวย” จนเกินไป ก็อยากจะบอกว่า เสียงของเขาฟังดูมีเสน่ห์กว่า พี่เคิร์ท โคเบน นักร้องผู้ล่วงลับของเนอร์วาน่าเสียอีก ...ว่าแต่ ลุงนี่เสียงเหมือนใครน้า...อ่อ เสียงเหมือน เดฟ โกรล แห่ง ฟูไฟท์เตอร์!!...

“โห ...เจ๋งอะ สุดยอด ป๋าเล่นอยู่ผับไหนอะคะ หนูจะตามไปดู ปวารณาตัวเป็นแฟนคลับตั้งแต่วินาทีนี้เลย”

“เอ่อ เล่นเป็นงานอดิเรกน่ะ”

ที่ฐาปนากล่าวคือความจริง แต่โกหกแค่คำเดียว คือคำว่า “อดิเรก” เท่านั้น...แบบนี้ไม่บาปหรอกมั้ง ฮ่าๆ

“เอาอีก เอาอีก ....งั้นเอา ของ ไอ วันนา ฮิท ยู ดาวน์ ....เบิร์นนิ่ง แฟคทอรี่ ”

ทั้งชื่อวงและชื่อเพลง ทำหัวใจเขากระตุกวูบ นิ้วมือซ้ายกำคอกีตาร์แน่น เสียงของอดีตแว่บเขามาในสมอง

...มันเป็นเพลงแห่งความทรงจำอันเลวร้าย ที่โจอี้บังอาจแต่งให้ “เพื่อน” ที่ดีที่สุดในชีวิต และสุดท้ายโจอี้ก็ “ทรยศ” เขาอย่างเจ็บแสบที่สุดในชีวิต เท่าที่มันเคยทำมา และตอนนี้โจอี้ก็ได้รับการตอบแทนอย่างสาสมแล้ว!...

“ของ เบิร์นนิ่ง แฟคทอรี่ เล่นไม่ได้ ...ยาก... นิ้วมือซ้ายไม่ปลาหมึกขนาดโจอี้ เรดสตาร์”

เมื่อได้สติฐาปนาให้เหตุผลเสียงสูง สินฤดีพยักหน้าเข้าใจ อืม ...ถ้าคนธรรมดาจะเล่นตาม “โจอี้ เรดสตาร์” ไม่ได้ก็ไม่แปลกอะไร ด้วยมือกีตาร์หนุ่มหล่อ “ผู้ล่วงลับ” นั้น “โคตรเซียน” ได้รับฉายาว่า พระเจ้าแห่งกีตาร์ ทั้งความแม่นยำ ความเร็ว และความไพเราะ ของยุคนั้น

เมื่อไม่ได้ก็ไม่เป็นไร... ชิลๆ... หญิงสาวก็จัดแจงขอเพลงของวงอื่นๆต่อไป



และหนึ่งชั่วโมงให้หลังจากนั้น หนุ่มใหญ่ก็มีความรู้สึกประหนึ่งว่าตนเองกำลังเปิดคอนเสิร์ตแบบไพรเวทอยู่กับแขกวีไอพี เพราะนังหนูนี่มัน ขอเพลงกับเขา เพลงแล้ว เพลงเล่า เพลงแล้ว เพลงเล่า เพลงแล้ว เพลงเล่า พอ!! …ซึ่งแต่ละเพลงที่ขอมานั้น ล้วน“ร๊อก” กระซวกไส้ แล้วที่สำคัญเขาก็บ้าพลัง เล่นให้เธอฟังได้ทุกเพลงเหมือนกันเว้ยเฮ้ย!!

“นี่ หนู.... กี่รอบแล้วเนี่ย ไม่เอาแล้วนะ ป๋าเหนื่อย”

ฐาปนากล่าวเสียงหอบ พร้อมกันนั้นก็หยิบน้ำเปล่าที่ “แม่ค้า” อุตส่าห์วิ่งไปซื้อมาให้ ยกดื่มแก้กระหาย นี่ถ้าไม่เห็นภาพ ก็ฟังดูละม้ายกับป๋าแก่ๆโอดครวญกับอีหนูสาวไฟแรงสูงหลังร่วมทำกิจกรรมกีฬาสี “ฟ้าเหลือง”

”หนูรู้จักเพลงเยอะ ขนาดนี้น่าจะเล่นดนตรีได้นะ”

“ก็บอกแล้วไง ว่าไม่มีพรสวรรค์ ฟังได้อย่างเดียว”

สินฤดีให้เหตุผลหน้าระรื่น ด้วยมีความสุขเหลือเกินที่ได้ฟังเพลงไพเราะฟรีๆ แถมยังมีตังหกหมื่นกลับบ้านอีกต่างหาก!

“ไหนหนูลองยกมือให้ป๋าดูสิ”

…เอ๊ะ! ตาลุงนี่ เป็นใครวะอยู่ดีๆก็มาสั่งให้ยกมือยกไม้ ไม่ใช่หมานะเว้ย!!...ถึงสมองจะคิดต่อต้าน แต่ร่างกายกลับยกมือขึ้นตามคำสั่งโดยง่าย ...ตาป๋านี่มันเล่นไสยศาสตร์รึไง ทำไมฉันถึงทำตามคำสั่งเขาอีกแล้ว!!

“หูย... นิ้วจะยาวไปไหน เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่มือใหญ่ นิ้วยาว เท่าป๋าเลยดูสิ”

พร้อมกันนั้น หนุ่มใหญ่ยกมือขึ้นมากางโชว์บ้าง เมื่อเห็นใหญ่และยาวจริงดังว่า มือน่ะมือ!! สินฤดีก็อุทานลั่น

“ไหนๆ จริงด้วยอะ”

ทันใดนั้นเจ้าหล่อนก็ทาบมือตัวเอง ลงบนมือของหนุ่มใหญ่แบบไม่ทันให้ตั้งตัว ณ วินาทีนั้น ประหนึ่งว่ามีไฟฟ้าแสนโวลล์แล่นแปลบเข้าหัวใจวัยกลางคน เลือดอุ่นๆฉีดซ่าน จนร้อนรุ่มไปหมดทั้งสรรพางค์กาย คล้ายนั่งรถไฟเหาะตีลังกาสองรอบครึ่ง

...เฮ้ย! ป๋าใจเย็นเว้ย อย่าตื่นเต้นสิ...นี่ต้องเป็นเพราะเราไม่ได้โดนตัวผู้หญิงมานานเป็นแน่แท้!!...

“ฮ้ายยยยยยยยย.....เท่ากันเป๊ะเลย ยังกะมือคนคนเดียวกันแน่ะ ...นี่ป๋ามือเล็กหรือว่าหนูมือใหญ่เนี่ย ฮ่าๆ”

สินฤดีกล่าวเสียงสูงหัวเราะร่วน ก่อนจะเอามือลง ดูเหมือนนังหนูผู้ร่าเริงนี่จะไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ว่าเกือบจะต้องเข้าคุกโทษฐาน ทำให้มือกีตาร์แก่ๆหัวใจวายตายไปซะแล้ว!

“อยากเล่นกีตาร์เป็นจริงๆรึเปล่า ถ้าอยากเล่นจริง เดี๋ยวป๋าจะสอนให้ ว่างๆเสาร์อาทิตย์ก็มานั่งเรียนกันที่นี่ ครั้งละชั่วโมงสองชั่วโมงก็พอ”

เฮ้ย! ไอ้ป๋าเอ็งพูดอะไรออกไป!!....ฐาปนาอยากจะต่อยปากตัวเองนัก ที่จู่ๆ “อะไรบางอย่าง” ดลใจให้ยื่นข้อเสนอ “ครูกับลูกศิษย์” ออกไปแบบไม่ได้กลั่นกรอง…แก่แล้วยังจะหาเรื่องใส่ตัวทำไมล่ะเนี่ย!!...

“ไฮ้ ...แล้วแฟนป๋า คนที่สวยๆเหมือนปาล์มมี่น่ะ เขาจะไม่ว่าเอาเหรอคะ”

หญิงสาวแอบถามแบบเนียนๆ ยังผลให้หนุ่มใหญ่ถึงกับครางเอ๋อ ทวนคำถามแบบงงๆ

“...แฟน...สวยๆ .....เหมือนปาล์มมี่”

“คนที่นั่งโต๊ะเดียวกับป๋าที่บุฟเฟ่โรงแรมไง”

อ่าว! ถามไปแบบนี้ลุงเขาก็รู้หมดสิว่า หลังจากที่โดนแกจ้องเขม็งที่ไลน์บุฟเฟ่แล้ว เราก็แอบเหล่แกอยู่เรื่อยๆเหมือนกัน! ทว่าเมื่อหนุ่มใหญ่นึกได้ว่าใครเป็นใคร ก็หัวเราะร่วน มิได้เอะใจกับคำพูดของหญิงสาวแต่ประการใด

“อ๋อ คนนั้นไม่ใช่แฟนหรอก เขาเป็นลูกสาวเพื่อนแม่ป๋าน่ะ จนๆแก่ๆ อย่างป๋าไม่มีใครเอาหรอก ฮ่าๆ”

“อ่อ ...ถ้าอย่างนั้น ...หนูขอเอาไปคิดก่อนแล้วกันนะคะ ถ้ายังไงหนูจะเมลล์ไปบอกเนอะ”

เมื่อได้ยินคำตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ตามมารยาท ซึ่งฐาปนาก็รู้ได้ด้วยตนเองว่า เจ้าหล่อนคงปฏิเสธอย่างแน่นอน หนุ่มใหญ่เข้าใจดีอยู่หรอก ว่าจะให้ “ผู้หญิง” ไว้ใจ “ผู้ชายแปลกหน้า” ที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งได้อย่างไร

เมื่อเห็นว่าเริ่มมืดค่ำไปกันใหญ่ สินฤดีก็บอกลาคุณ “ลูกค้า” ที่เพิ่งเจอกันเพียงผ่านตา แต่หลอกให้เล่นกีตาร์ให้ฟังเหมือนรู้จักมาเป็นสิบปีไว้เบื้องหลัง ส่วนฐาปนาก็เดินถือกีตาร์ตัวใหม่ล่าสุดของตนเองเอาใส่ “รถเฟียตคันเก๋า” แล้วขับออกไปเป๋ๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

...โดยที่ไม่รู้เลยว่า ระหว่างนั้นการกระทำของทั้งคู่ ได้ถูกจับตามองโดย “ผู้ประสงค์ดีแต่มองโลกในแง่ร้าย”…




ด้วยความเป็นห่วงลูกชาย กลัวว่าจะกลับไปใจแตกเหมือนตอนวัยรุ่น สาลินีจึงถือวิสาสะปลอมตัวเป็นอาม่ามาเล่นชี่กงในสวนลุม เพื่อแอบตามดูว่าลูกชายที่รักจะไปเดทกับสาวที่ไหน และเมื่อเห็น “ไกลๆ” ว่าเขานัดแนะกับ “หนู” ที่เป็น “ไอ้หนู” ไม่ใช่ “อีหนู” ดวงใจคนเป็นแม่ก็ร้าวราน แหลกไม่มีชิ้นดี

...ดูสิดู! ผู้ชายกับผู้ชายแท้ๆ มานั่งดีดกีตาร์ จีบกันกริ๊บกริ้วในสวนสาธารณะไม่อายฟ้าอายดิน แถมยังมีจับมือจับไม้หัวเราะร่วนกันอีกด้วย ไอ้ป๋า! ไอ้เห็บหมา! เอ็งมาเบี่ยงเบนอะไรตอนสี่สิบ! หัวใจแม่จะแตกเป็นเสี่ยงๆ!!....

สาลินีในชุดออกกำลังกาย ความคิดสับสนสับสนวุ่นวาย พลางระลึกหาทางออกไปเรื่อย และทันใดนั้น ใบหน้าสวยๆของผู้ที่น่าจะช่วยได้ก็โผล่วาบขึ้นมา นางกดโทรศัพท์หาตัวช่วยทันที

“สวัสดีค่ะ พี่สมจิตต์ นี่เซลีนเองนะคะ ขอพูดสายกับน้องบัวหน่อยค่ะ”

*********************************************************



บรั่นดี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ม.ค. 2555, 11:40:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 พ.ค. 2555, 21:40:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 1354





FonFonnie 29 ม.ค. 2555, 03:45:43 น.
ขำคุณป้าสาลินี รออ่านต่อนะคะ :-)


Kapoh 30 ม.ค. 2555, 21:16:14 น.
คุณแม่นี่ฮาตลอด ฮ่าๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account