CUPS N' CAKES ที่แห่งนี้ยังมีรัก
รักต่างวัย(นิดๆ)ระหว่างดาราหนุ่มชื่อดังของไทยและสาวสวยรุ่นพี่เจ้าของร้านเบเกอรี่ที่เกิดขึ้นมท่ากลางบรรยากาศอันหอมหวานแถมยังมีทั้งเหล่าตัวป่วน&กามเทพทั้งหลาย มาร่วมลุ้นไปด้วยกัน ณ ร้าน CUPS N' CAKES
Tags: CUPS,N'CAKES,จิรากร

ตอน: บทที่1

1

เสียงกุกกักดังขึ้นเบาๆ ภายในบริเวณเคาน์เตอร์สีส้มอ่อนด้านในของร้านเบเกอรี่ชื่อภายในเมืองกรุงภายใต้ชื่อร้านอันแสนกิ๊บเก๋ว่า ‘CUPS N’ CAKES’
ร้านเบเกอรี่แห่งนี้แห่งนี้เปิดให้บริการแก่หนุ่มสาวทุกเพศทุกวัยมากว่า 4 ปีแล้ว บรรยากาศภายในร้านนั้นถูกเน้นให้เป็นสีออกโทนน้ำตาลอ่อนๆ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นภายในร้านจะออกแนวโมเดิร์นที่เน้นไปทางโทนสีส้มเป็นหลัก ด้านหน้าร้านถูกทำให้เป็นกระจกใสและมีการนำเอาตู้กระจกสำหรับโชว์เบเกอรี่มาวางติดไว้กับด้านหน้าร้านเพื่อเอาไว้ดึงดูดสายตาผู้คนที่เดินผ่านไปมาให้แวะเข้ามาลิ้มรสความหอมอร่อยของเหล่าเบเกอรี่สุดน่ากินทั้งหลาย
ยิ่งเมื่อได้เข้ามาสัมผัสบรรยากาศภายในร้านแล้วก็จะยิ่งกระตุ้นต่อมความรู้สึกในเรื่องของการรับกลิ่นได้เป็นอย่างดี เมล็ดกาแฟสดพันธุ์ดีที่ถูกคั่วใหม่ๆ ทุกวันส่งกลิ่นเย้ายวนให้กรุ่นกำจายไปทั่วบริเวณร้าน ยิ่งถ้าผสมกับกลิ่นของขนมปังอบที่เพิ่งถูกยกออกจากเตามาใหม่ๆ แล้วยิ่งทำให้ใครต่อใครหลายคนถึงกับลืมโลกอันแสนวุ่นวายไปได้ชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว
แต่ถ้าใครไม่สนใจที่จะนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศแสนสบายภายในร้านก็สามารถสั่งซื้อกลับออกไปทานข้างนอกได้เช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่องรสชาติของเบเกอรี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แค่ได้เห็นรูปร่างหน้าตาก็บอกได้คำเดียวเลยว่าต้องอร่อยอย่างแน่นอน มันจึงไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ร้าน ‘CUPS N’ CAKES’ จะเป็นที่รู้จักกันในวงกว้างสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเบเกอรี่หน้าตาสวยงามกับกาแฟสดอันหอมกรุ่น
‘นริสรา’ เจ้าของร้านเบเกอรี่สุดกิ๊บเก๋ กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมเบเกอรี่เพื่อนำมาจัดจำหน่ายสำหรับวันนี้ หญิงสาวร่างบางกำลังก้มๆ เงยๆ เพื่อหยิบอุปกรณ์ต่างๆ ออกมาเตรียมเพื่อจะทำ ‘Black Forest Cheese Pie’ เป็นเมนูแรก ก่อนที่เจ้าตัวจะกระวีกระวาดไปยังบริเวณตู้เย็นเพื่อนำสวนผสมต่างๆ ออกมาเตรียมไว้อีกทีหนึ่ง
นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังส่วนผสมต่างเพื่อตรวจดูให้แน่ใจอีกครั้งว่าส่วนผสมครบหรือไป ริมฝีปากอิ่มก็ขยับตามเพื่อทวนไปด้วยเช่นกัน
“ครีมชีส...คุกกี้ช็อกโกแลต...เนยสด...โยเกิร์ต...เหล้าเชอร์รี่...น้ำตาลไอซิ่ง...วิปครีม...เจลาติน...ครบ!”เมื่อกวาดสายตาไปทั่วส่วนผสมทั้งหลายหญิงสาวก็มั่นใจว่าเธอไม่ลืมอะไรแล้ว จึงหันไปล้างมือให้สะอาดเพื่อเข้าสู่การทำชีสพาย
เมื่อพร้อมแล้วเธอจึงเริ่มทำแป้งพายเพื่อนำมารองตัวครีมชีสก่อน โดยการนำคุกกี้ช็อกโกแลต เนยสดละลาย และน้ำตาลไอซิ่งมาผสมให้เข้ากัน มือเรียวสวยที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงมือพลาสติกใสกำลังเคล้าส่วนผสมอย่างตั้งใจ เมื่อเธอเห็นว่าเนื้อพายเข้ากันดีแล้วจึงหมุนกลับไปด้านหลังเคาน์เตอร์เพื่อหยิบถาดอบรูปวงกลมที่ถูกนำมาเตรียมไว้ตั้งแต่แรก เพื่อนำมากรุลงถาดให้มีความหนาประมาณครึ่งเซนติเมตรก่อนที่จะนำเข้าตู้อบต่อไปประมาณสิบนาที
แป้งพายที่ถูกเตรียมไว้ก็ถูกยกเข้าตู้อบเป็นที่เรียบร้อยแล้วเธอจึงเริ่มลงมือทำส่วนผสมอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ส่วนผสมก็คือตัวครีมชีสนั่นเอง ร่างบางจึงนำเอาครีมชีสที่ก่อนหน้านี้เธอเอาออกจากตู้เย็นเพื่อให้มันคลายความเย็นลงมาใส่ในโถผสมแล้ว มือเรียวบางก็ถือตะกร้อขึ้นมาเพื่อทำการตีให้ครีมชีสอ่อนตัวลง จากนั้นจึงค่อยๆ ทยอยใส่ส่วนผสมที่เหลือคือ น้ำตาลไอซิ่ง โยเกิร์ต วิปครีม และตามด้วยเจลาตินที่ถูกตุ๋นให้ละลาย หลังจากนั้นจึงปิดท้ายด้วยเหล้าเชอรี่เพื่อเพิ่มความหอมละมุนให้กับครีมชีส
หลังจากที่ผสมชนครีมชีสได้ที่ เสียงร้องของตู้อบจึงดังขึ้น ร่างบางจึงผละออกจากโถส่วนผสมเพื่อไปน้ำแป้งพายออกมาจากตู้อบ เมื่อรอให้แป้งพายเย็นตัวได้ซักพักแล้ว เธอจึงนำเอาครีมชีสที่เตรียมไว้ออกมาเทลงในถาดแป้งพาย
เนื้อครีมชีสสีขาวนวลน่ากินถูกเกลี่ยไปมาอย่างเบามือ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของผู้ทำได้เป็นออย่างดี เมื่อเกลี่ยจนครีมเรียบสวยงามแล้วเธอจึงนำเข้าตู้เย็นไปเพื่อให้เจ้า ‘Black Forest Cheese Pie’ ของเธอแข็งตัวเพื่อนำออกมาราดเชอร์รี่เชื่อมสีดำแล้วนำออกไปวางหน้าร้านต่อไป
ขณะที่รอเวลาให้เจ้าชีสพายพร้อมขาย ก็มีเสียงตะโกนโหวกเหวกออกมาจากบริเวณหน้าร้าน
“แหนม!!!”
นริสราขมวดคิ้วเล็กน้อยที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อเล่นของเธอดังออกมาจากบริเวณหน้าร้าน เมื่อเธอเหลือบไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่บริเวณเหนือตู้อบก็พบว่ายังไม่ใช้เวลาเปิดร้าน แถมเสียงที่เรียกชื่อของเธอนั้นเรียกเสียสนิทสนมด้วยสิ ขนาดเด็กในร้านสามคนที่เธอจ้างมาไว้เพื่อคอยเสิร์ฟคอยบริการประจำร้านยังเรียกเธอว่าพี่แหนมเลย! ใครกันนะว่าไป นริสราจึงพาร่างบอบอบบางของตนเดินออกไปบริเวณหน้าร้าน โดยเจ้าตัวยังไม่ได้ถอดผ้ากันเปื้อนสีส้มสดใสออกจากตัว
เมื่อเดินออกไปสู่บริเวณหน้าร้านก็พบว่าคนที่มาส่งเสียงเรียกชื่อเธอย่างสนิทสนมนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนเลย แต่เป็นน้องชายสุดที่รักของเธอนั่นเอง
ด้วยความดีใจหญิงสาวจึงวิ่งเข้าไปกระโดดกอดน้องชายอย่างแรง ทำเอาเจ้าตัวแทบล้มทั้งยืน
“หนำ! กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” เสียงหวานใสดังกังวาน ปกปิดร่องรอยของความดีใจไว้ไม่มิด หญิงสาวรั้งวงแขนผละออกจากตัวน้องชายเพื่อที่จะได้เห็นหน้ากันได้อย่างถนัด “ทำไมไม่บอกแหนมจะได้ไปรับ!”
ฝ่ายน้องชายตัวดีที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศไทยวันนี้ เมื่อชายหนุ่มลงจากเครื่องบินได้ก็จับแท็กซี่มาหาพี่สาวสุด ที่รัก ณ ร้าน CUPS N’ CAKES แห่งนี้ทันที ชายหนุ่มผู้เป็นน้องของนริสรา นั้นได้รับทุนการศึกษาไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นปีสามของมหาลัยเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในประเทศ
ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ทั้งสองพี่น้องต้องอยู่ห่างไกลกันเป็นเวลาสองปี ด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมายจึงทำให้ นภัสกรหรือหนำนั้นตัดสินใจที่จะไม่กลับมาเมืองไทยในช่วงวันหยุดต่างๆ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย และเมื่อชายหนุ่มจบการศึกษา เขาก็ไม่ได้กลับมาประเทศไทยทันที แต่กลับไปทำงานเพื่อหาประสบการณ์ต่อไป จนเป็นเวลาอีกประมาณเกือบปีครึ่ง ทำให้สองพี่น้องไม่ได้พบหน้ากันมากว่าสามปีครึ่ง โดยทั้งสองได้แต่อาศัยคุยโทรศัพท์บ้าง คุยผ่าน Social Media บ้าง เมื่อทั้งสองได้มาพบหน้ากันอีกครั้งทำให้อดรู้สึกตื้นตันระคนตื่นเต้นไม่ได้
“หนำอยากมาเซอร์ไพร์แหนมไง” เสียงออดอ้อนของพ่อน้องชาย พร้อมทั้งยังไม่ยอมปล่อยพี่สาวออกจากอ้อมกอด ทำเอานริสราอดค้อนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
“จ้า...เซอร์ไพร์มาก” นริสรายิ้มกว้างอย่างมีความสุข ในที่สุดเธอกับน้องชายเพียงคนเดียวจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ไม่ต้องอาศัยสื่ออื่นๆ เพื่อคลายความห่วงหา
นภัสกรเมื่อเห็นพี่สาวสุดที่รักยิ้มกว้างอย่างมีความสุขจึงรั้งตัวพี่สาวเข้ามากอดแนบแน่นอีกครั้ง
“โอ๊ย! คิดถึงแหนมมาก...”

เมื่อสองศรีพี่น้องกอดทักทายกันจนพอใจแล้วจึงย้ายสำมะโนครัวจากกลางร้านมาเป็นมุมสบายๆ แห่งหนึ่งของร้านแทน เมื่อนภัสกรนั่งลงโซฟาแล้ว นริสราก็รีบกระวีกระวาดกลับเข้าไปในครัวเพื่อนำเค้กที่ตนเพิ่งทำเสร็จออกมาให้น้องชายทานรองท้องก่อน
“หนำรอแหนมแป๊บนึงนะ เดี๋ยวจะไปเอาเค้กมาให้กิน”
เมื่อเห็นว่าน้องชายพยักหน้ารับ นริสราจึงเดินไปตั้งเครื่องคั่วเมล็ดกาแฟ ก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในครัว
แหนมไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่นิดเดียว! นภัสกรคิดในใจ พี่สาวของเขาคนนี้เมื่อเกือบสี่ปีที่แล้วเป็นอย่างไรปัจจุบันก็ยังคงเหมือนเดิม
ใบหน้าเรียวรูปไข่นั้นสวยได้รูป คิ้วโค้งสวยราวกับถูกวาดขึ้น ดวงตากลมโตรับกับขนตาแพงอนสวยขับให้แลดูหวานทำให้ดวงตาคู่งามดูโฉบเฉี่ยว จมูกโด่งเรียวปลายเชิดรั้นแสดงถึงความเอาแต่ใจที่ซ่อนอยู่ภายในความอ่อนหวานได้เป็นอย่างดี และยังมีลักยิ้มเล็กๆ ซ่อนอยู่บริเวณริมฝีปากเต็มอิ่มสีกุหลาบด้านล่างจะเห็นได้ชัดเจนเวลาที่เธอยิ้ม
นภัสกรพลางถอนหายใจเมื่อนึกถึงพี่สาวตนเองขึ้นมา ป่านนี้แหนมจะมีแฟนรึยังนะ! แต่เท่าที่ติดต่อกันมายังไม่เห็นแหนมเอ่ยปากเรื่องทำนองนี้ขึ้นมาซักครั้งเลยคงยังไม่มีหรอกมั้ง เห็นทีจะต้องให้แหนมอยู่ไปด้วยกันจนแก่ โดนใครหลอกไปละจะยุ่งก็พี่สาวเขาน่ารักน้อยเสียเมือไหร่หละ
เพราะตอนนี้เราก็เหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้องแล้ว เพราะพ่อแม่ของพวกเขานั้นประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตไปตั้งแต่นริสราเพิ่งจะอายุครบยี่สิบปีได้เพียงอาทิตย์เดียว พ่อและแม่นั้นทิ้งทรัพย์สมบัติไว้เพียงพอ และดีที่ว่านริสราบรรลุนิติภาวะแล้วทำให้เรื่องการจัดการมรดกนั้นเธอมีสิทธิเต็มที่ที่จะดูแลมันโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น และผู้เป็นพี่ก็ยังสามารถเรียนต่อได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรด้วย
ด้วยความที่เขาและพี่สาวนั้นอายุห่างกกันเกือบห้าปี ทำให้หลังจากที่พ่อและแม่เสียชีวิตลง นริสราจึงเข้ามาเป็นผู้ปกครองของเขาอย่างเต็มตัว พี่สาวของเขาคนนี้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้น้องชายคนเดียวอย่างเขานั้นไม่รู้สึกว่าขาดพ่อแม่ไป เขายังจำได้ดึงในวันที่จะต้องเผาศพบุพการีทั้งสองพี่สาวของเขานั้นแทบจะไม่ร้องไห้ออกมาเลยแค่นัยน์ตาแดงก่ำเท่านั้นเอง แต่เขาก็แอบไปเห็นผู้เป็นพี่ร้องไห้อยู่เสมอ ในขณะที่ยืนส่งพ่อแม่ไปสู่สวรรค์เธอกอดปลอบเขาไม่ให้ร้องไห้และเธอจะดูแลผมไปตลอด
หลังจากที่แอบเห็นนริสราร้องไห้อยู่บ่อยๆ จึงทำให้นภัสกร จากเด็กที่เคยเกเรอยู่เสมอ กลับมาตั้งใจเรียนอย่างไม่น่าเชื่อ จากเด็กที่ทำตัวเหลวไหลที่สุดในโรงเรียนกลับกลายเป็นเด็กที่เรียนติดอันดับสายชั้นเสมอในช่วงมัธยมปลาย และสอบติดคณะเศรษฐศาสตร์ในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศไทย จนกระทั่งได้รับทุนไปเรียนต่อนั่นแหละ
จากคนที่ไม่เคยอยู่ห่างกันเลยแม้แต่น้อยกลับต้องมาแยกจากกันไปในช่วงเวลาหนึ่ง ยิ่งใกล้ๆ ช่วงจะไปเรียนต่อ นริสราก็เริ่มยุ่งวุ่นวายกับการทำร้าน ‘CUPS N’ CAKES’ มากขึ้น ยิ่งตอนที่เขาไปเรียนช่วงแรกๆ นริสราก็จะโทรศัพท์มาหาบ่อยมาก น้ำเสียงที่โทรมานั้นแสดงถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการทำร้าน
ยิ่งช่วงเปิดร้านใหม่ๆ นั้น นริสรายิ่งท้อแท้ เพราะเธอบอกว่าลูกค้านั้นน้อยจนน่าใจหาย จนเธอเกือบจะล้มเลิกความฝันของเธอด้วยการปิดร้านไปตั้งหลายครั้ง แต่พอวันเวลาผ่านไปอะไรก็เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น ร้านเริ่มเป็นที่นิยมของคนทั่วไปมากขึ้น จากเสียงที่โทรมาเคยเหน็ดเหนื่อยท้อแท้ กลับกลายเป็นมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่เธอรัก
คิดได้ดังนั้น นภัสกรจึงเริ่มวางแผนการในใจเพื่อทำการให้พี่สาวสุดที่รักอยู่บนคานทองต่อไปเพื่อจะได้อยู่กับเขาไปนานๆ อย่างหมายมาด ก่อนที่จะสะดุ้งสุดตัวเมื่อโดน แก้วคาปูชิโน่เย็นสัมผัสแก้มของตนเบาๆ “แหนม! เล่นอะไรเนี่ย”
“ก็แหนมเห็นหนำเหม่ออยู่จึงเรียกสติไง เอ้า!”
นริสราที่ยืนหัวเราะอยู่ก็ยื่นคาปูชิโน่เย็นที่ถูกบรรจุลงในแก้วทรงสูงบนสุดของแก้วเต็มไปด้วยวิปครีมที่ถูกราดทับด้วยคาราเมลเหลวอีกครั้ง เมื่อชายหนุ่มยื่นมือมารับเครื่องดื่มจากพี่สาวไป จานเค้กสีขาวนวลที่บรรจุเค้กน่ากินก็ถูกวางลงตรงหน้า พร้อมกันกับนริสราที่ทำท่าภูมิใจนำเสนอสุดๆ
“นี่ ‘Black Forest Cheese Pie’ ชีสพายแสนอร่อยที่ถูกราดด้วยเชอร์รี่เชื่อมสุดน่ากิน มาพร้อมกับเครื่องดื่มแสนเข้ากั๊นเข้ากัน” มือเรียวสวยนั้นทำท่าทางเหมือนสตีฟ จ็อบส์ กำลังพรีเซ็นต์ IPHONE ก็ไม่ปาน
เมื่อเห็นว่าน้องชายของตนกำลังจะตักเค้กสุดน่ากินเข้าปาก หญิงสาวจึงแกล้งแหย่ว่าเป็นเค้กที่เหลือมาจากอาทิตย์ที่แล้วกำลังจะเสียจึงเอาออกมาให้กิน ทำเอาฝ่ายน้องชายเอาเค้กออกจากปากแทบไม่ทัน หญิงสาวหัวเราะร่วนกับท่าทางที่แสนตลกของน้องชาย
“ล้อเล่น! แหนมเพิ่งทำเสร็จเมื่อตะกี๊นี้เอง”
“แหนมอะ”
นภัสกรที่ได้รับการยืนยัน นั่งยัน นอนยังว่าจริงๆ แล้วเค้กที่นริสราเอามาให้นั้นเป็นของใหม่แน่นอนจึงค่อยๆ กินอย่างมีมาด เพราะยังแอบเคืองพี่สาวสุดสวยของตนอยู่นั่นเอง ชายหนุ่มผู้เป็นน้องแอบยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้ นริสราในเรื่องรสชาติทั้งกาแฟและเค้กที่นำมาเสิร์ฟ
เมื่อเห็นว่านภัสกรจัดการกับของว่างที่เธอนำมาให้เสร็จแล้ว เธอจึงบอกให้น้องชายกลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนเพราะอีกประมาณสองชั่วโมงก็จะได้เวลาเปิดร้าน และเธอยังต้องเข้าไปเตรียมทำเบเกอรี่ต่ออีก นภัสกรก็แสดงอาการอิดออดเล็กน้อยว่าอยากอยู่เป็นเพื่อน
แต่เมื่อโดนพี่สาวอ้างเหตุผลต่างๆ นานาว่ามันจะไม่ดีต่อสุขภาพของนภัสกรเอง ชายหนุ่มจึงถอนหายใจอย่างเสียไม่ได้ก่อนที่จะคว้ากุญแจรถของนริสราออกไป พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ออกไปเพื่อเดินทางกลับบ้าน แต่ยังไม่วายแสดงอาการออดอ้อนด้วยการดึงพี่สาวมากอดอย่างเต็มแรงก่อนจะเดินโบกมือไปขึ้นรถแล้วขับหายลับไป

เมื่อนภัสกรออกไปแล้ว นริสราจึงเก็บจานเค้กและแก้วกาแฟออกไปเก็บไว้ในเคาน์เตอร์ล้างจาน ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาบริเวณนอกร้านเพื่อทำการเขียนเมนูเบเกอรี่ประจำวันนี้
“เอาอะไรดีน้า?” หญิงสาวทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยเพื่อน มือเรียวสวยข้างขวาถือชอล์กไว้แล้วนำมาเท้าคางเป็นท่าแสดงสัญลักษณ์ประจำตัวเมื่อเวลาเธอกำลังนึกเมนู
ทุกๆ วันทางร้าน ‘CUPS N’ CAKES’ จะต้องมีการเขียนเมนูประจำวันไว้ก่อนเปิดร้านเสมอ เพื่อแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบว่าวันนี้ทางร้านจะทำอะไรบ้าง เพื่อเป็นการไม่ให้ลูกค้าเสียเวลาว่ามีเมนูอะไรบ้างโดยไม่ต้องเข้าไปในร้าน และใต้ป้ายชื่อร้านนั้นจะมีการติดเบอร์โทรศัพท์ของร้านเอาไว้เพื่อให้ลูกค้าสามารถติดต่อกับทางร้านได้ โดยลูกค้าประจำนั้นจะชอบโทรศัพท์มาสอบถามว่าวันนี้ทางร้านมีเมนูอะไรบ้างเป็นประจำทุกวัน
โดยส่วนใหญ่ นริสรานั้นจะทำเค้กหรือเบเกอรี่ชนิดอื่นๆ ตามใจตนเองเสมอ เรียกว่าวันไหนถ้าเธออยากทำอะไรเธอก็จะทำ วันหนึ่งนั้นจะมีเค้กประมาณเกือบสิบชนิด โดยยังไม่รวมขนมปัง แต่ถ้าลูกค้าคนไหนอยากได้เค้กหรือเบเกอรี่อะไรก็ตามเป็นพิเศษก็ต้องโทรศัพท์มาบอกเธอล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวันเพื่อให้เธอได้เตรียมวัตถุดิบในการทำ
จึงทำให้คนที่ไม่เคยมารับประทานเบเกอรี่ที่ ‘CUPS N’ CAKES’ มองว่าเจ้าของร้านนั้นหยิ่ง ทำอะไรตามใจตัวเอง ไม่สนใจคำเรียกร้องของลูกค้า แต่เธอระลึกอยู่เสมอว่าการที่เราตั้งใจทำอะไรก็แล้วแต่ที่มันมาจากความตั้งใจของตนเองงจริงๆ ไม่ใช่ทำตามคำสั่งของผู้อื่นผลลัพธ์ที่ได้ย่อมต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เปรียบเสมือนกับการทำเค้กออกมาซักชิ้นด้วยความตั้งใจของคนทำเป็นสำคัญรสชาติและรูปลักษณ์ที่ได้ย่อมผิดกับการทำตามคำร้องขอของใคร
เมื่อคิดเมนูได้และจัดการเขียงลงบนกระดานหน้าร้านเสร็จ นริสราจึงพาร่างบอบบางของตนเองกลับเข้าร้านไปเพื่อเตรียมทำเบเกอรี่ตามเมนูที่ตนได้คิดมาอีกครั้ง เพื่อเตรียมพร้อมจะเปิดร้านในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ภายในบริเวณคอนโดฯ สุดหรูกลางเมืองกรุง...
ร่างสูงโปร่งของพระเอกหนุ่มชื่อดังของประเทศไทยบัดนี้ถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าห่มสีน้ำเงินเข้ม มีเพียงบริเวณศีรษะอันยุ่งเหยิงและช่วงไหล่แข็งแรงเท่านั้นที่โผล่พ้นเหนือชายผ้าห่มออกมา ใบหน้าคนเข้มกำลังหลับอย่างสบาย ก่อนที่โทรศัพท์จะแผดเสียงดังขึ้น จะชายหนุ่มสะดุ้งตื่นก่อนที่จะขยับตัวเล็กน้อย มือเรียวใหญ่คลำหาโทรศัพท์อย่างสะเปะสะปะ
ชายหนุ่มผงกหัวขึ้นเพื่อดูว่าใครเป็นใครโทรศัพท์เข้ามาขัดจังหวะนิราอารมณ์ของตน
พี่มิกกี้...ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเอง
เมื่อเห็นชื่อและเบอร์ที่โทรเข้ามาก็ทำให้ ดาราหนุ่มชื่อดังลุกขึ้นมาอย่างเสียมิได้ ลำแขนแข็งแรงทั้งสองข้างถูกเหยียดออกไปข้างหน้าเพื่อบิดไล่ความเมื่อยขบก่อนที่จะกดรับโทรศัพท์
ดาราหนุ่มกรอกเสียงงืมงำลงไปในโทรศัพท์เพื่อเป็นการทักทาย
“ครับพี่มิกกี้”
“เอ็มมี่รูปหล่อของพี่มิกกี้ขา วันนี้เราอย่าลืมนะจ๊ะว่าเรามีมีตติ้งกับแฟนคลับที่เซ็นทรัลเวิล์ดตอนบ่ายสอง” เสียงแหบห้าวของมิกกี้ที่ฟังดูก็รูปว่าคนพูดนั้นต้องจีบปากจีบคอในการพูดแค่ไหนเพื่อให้เสียงที่แหบห้าวของตนนั้นแหลมเหมือนเสียงผู้หญิง
‘มิกกี้ มรกต’ ผู้จัดการดาราและแมวมองชื่อดังของเมืองไทย มิกกี้เป็นกระเทยหุ่นออกไปทางล่ำสันมากกว่าอ้อนแอ้น ด้วยความที่ไม่สูงมากทำให้ถูกมองว่าเป็นกระเทยถึกเตี้ยล้ำ โชคยังดีที่ผิวพรรณของกระเทยถึกผู้นี้ออกไปทางขาวมากกว่าดำจึงทำให้ดูดีขึ้นมานิดหน่อย
แต่ถึงจะเห็นว่ามิกกี้มีรูปร่างที่ไม่ชวนพิสมัยซักเท่าไหร่ แต่กระเทยวัยกลางคนผู้นี้ก็ปั้นดินให้ให้เป็นดาวมาประดับวงการอย่างมากมานับไม่ถ้วนเลยทีเดียว เมื่อช่วงที่อนวัชเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ ก็ถูกมิกกี้ซึ่งเป็นรุ่นพี่ร่วมสถาบันมาทาบทามให้มาเป็นนายแบบโฆษณาโฟมล้างหน้าสำหรับผู้ชายชื่อดังยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งทางด้านอนวัชก็ไม่ได้สนใจในเรื่องชื่อเสียงและเงินทองซักเท่าไหร่อยู่แล้วจึงปฏิเสธไปอย่างง่ายดาย แต่ก็ทนลูกตื้อของทางแม่กระเทยล่ำคนนี้ไม่ไหวบวกกับความเคารพรุ่นพี่ร่วมสถาบันจึงตกลงไปในที่สุด
โฆษณาโฟมล้างหน้าออกมาได้ไม่นาน อนวัชก็ถูกถามหามากที่สุด เริ่มมีสินค้าตัวอื่นเข้ามาติดต่อให้เขาไปเป็น พรีเซ็นเตอร์ผ่านทางมิกกี้มากมาย เมื่อเริ่มรับงานโฆษณามากขึ้น ก็เริ่มมีวงการมายาเข้ามาติดต่อให้ชายหนุ่มไปแคสติ้งละครมากมาย
จากทีแรกที่เข้ามาในวงการนี้ด้วยความเกรงใจรุ่นพี่ร่วมสถาบันกลับกลายเป็นความชื่นชอบมากยิ่งขึ้น จึงทำให้อนวัชเป็นดาราหนุ่มที่เป็นดวงรุ่งพุ่งแรงสุดๆ ในช่วงนั้น จวบจนปัจจุบัน ถึงเขาจะมีชื่อเสียงโด่งดังขนาดไหนชายหนุ่มก็ไม่เคยลืมเลยว่ารุ่นพี่คนนี้เป็นคนที่ผลักดันให้เขาเข้ามายืนยังจุดสูงสุดของวงการมายา จึงทำให้ชายหนุ่มเลือกที่จะอยู่กับรุ่นพี่ผ็นี้ต่อไป ถึงแม้ว่าปัจจุบัน มิกกี้จะมีดารานายแบบนางแบบอยู่ในสังกัดเกือบสิบคนก็ตาม
“ครับพี่ไม่ลืมหรอก พี่มาหาผมที่คอนโดฯ ผมตอนบ่ายโมงแล้วกัน แค่นี้นะครับ” ว่าแล้วพระเอกหนุ่มชื่อดังก็โยนโทรศัพท์ไปที่ปลายเตียง แล้วจึงเดินหายลับเข้าไปในบริเวณห้องน้ำ เพื่อทำธุระส่วนตัวอย่างไม่รีบร้อน
เสียงผิวปากดังลอดออกมาจากภายในห้องน้ำ เมื่อเปิดประตูออกมาอนวัชก็อยู่ในชุดผ้าขนหนูสีขาวที่ถูกมัดเป็นปมอย่างหมิ่นเหม่ใต้สะดือลงไป ดูแล้วเซ็กซี่สุดๆ สองมือแข็งแรงกำลังขยี้ศีรษะให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก ก่อนที่สองขายาวแข็งแรงจะออกก้าวเดินอีกครั้งไปยังบริเวณห้องแต่งตัว
วันนี้อนวัชแต่งตัวด้วยกางเกงยีนเดฟสีเข้มเรียบลู่ไปกับขาเพรียวแข็งแรง เสื้อเชิ้ตสีขาวยี่ห้อดังรัดแนบไปกับกล้ามเนื้อแน่นขนัดพร้อมกับเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำเข้มคลุมทับอีกชั้น ก่อนที่ชายหนุ่มจะมาหยุดอยู่บริเวณหน้ากระจกบานใหญ่อีกครั้งเพื่อทำการสำรวจตนเองอีกครั้งให้เรียบร้อย
ผมสีดำสนิทของเจ้าตัวที่ตอนแห้งใหม่ๆ จะระลงมาจนถึงบริเวณลำคอ กลับถูกจัดทรงให้ดูเท่ขึ้นไปอีกด้วยมูสแต่งผมชั้นดี ใบหน้าคมเข้มเอียงซ้ายขวาเพื่อเช็กความพร้อมอีกครั้ง เมื่อมันใจว่าตนเองนั้นดูดีแล้ว ชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบแว่นตากันแดดสีดำของอาร์มานี่ แล้วเดินออกไปยังบริเวณห้องรับแขกของตนเพื่อนั่งเล่นดูภาพยนตร์ฆ่าเวลา เพื่อรอเวลาที่มิกกี้ผู้จัดการส่วนตัวของเขาเองจะมาถึง
เวลาผ่านไปชั่วระยะหนึ่งเสียดออดประตูก็ดังขึ้น อนวัชจึงผละจากภาพยนตร์เรื่องโปรดเพื่อลุกไปเปิดประตูต้อนรับผู้จัดการส่วนตัว เมื่ออนวัชเดินไปเปิดประตู มิกกี้ก็เดินกรีดกรายเข้ามาอย่างคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแสนนุ่มข้างๆ พระเอกหนุ่มชื่อดัง ก่อนจะเอ่ยคำถามออกมา
“เอ็มมี่ ได้ดูข่าววันนี้รึยังจ๊ะ”
“มีอะไรอีกหละครับพี่มิกกี้” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก่อนที่จะกดปุ่มเล่นภาพยนตร์ต่อ
เสียงภาพยนตร์ที่ดังกระหึมขึ้นมา ทำเอามิกกี้สะดุ้งร้องว้ายอย่างตกใจ ก่อนที่จะหันไปฟาดเพี๊ยะบนลำแขนของต้นเหตุที่ทำให้ตนตกใจ ก่อนที่เจ้าตัวจะจีบปากจีบคอพูดต่อ
“ก็เรื่องเรตติ้งของเดิมพันรักด้วยชีวิตไงจ๊ะสุดหล่อของพี่...ถล่มทลายเลยพ่อคุณ”
‘เดิมพันรักด้วยชีวิต’ เป็นละครฟอร์มยักษ์เลยทีเดียว เพราะเป็นละครที่ออกอากาศหลังข่าวภาคค่ำในช่วงครบรอบห้าสิบปีของทางช่อง มีนักแสดงชื่อดังมากมายตบเท้าเล่นละครเรื่องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง หนึ่งในนั้นก็คือ อนวัช วีทิศวรการ นั่นเองซึ่งในเรื่องนี้ชายหนุ่มแสดงในบทบาทพระเอกของเรื่อง แล้วยังมีนางเอกคู่ขวัญอย่าง เมริสา ชยานนท์ มาแสดงร่วม
เมื่อแม่เหล็กชั้นดีทั้งสองขั้วมาประกบคู่กันทำให้เรตติ้งของละครเรื่องนี้ดังกระหึมไปทั่วตั้งแต่เริ่มบวงสรวงเปิดกล้องเลยทีเดียว ช่วงละครออกอากาศใหม่ๆ เรียกได้ว่าเรตติ้งทิ้งช่องคู่แข่งไปอย่างไม่เห็นฝุ่นเลยทีเดียว โฆษณาหลั่งไหลเข้ามาในช่วงฉายละครมากมายทำให้ทางช่องนั้นปลื้มอกปลื้มใจมากทำให้อนวัชกลายเป็น ‘ลูกรัก’ ของทางช่องเลยทีเดียว
ยิ่งมิกกี้เข้ามาพูดถึงเรื่องกระแสตอบรับที่ดีเยี่ยมด้วยตนเองอย่างนี้แล้วยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความโด่งดังของละครได้เป็นอย่างดี
“จริงเหรอครับพี่มิกกี้ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีนะสิครับแสดงว่าคนชอบในสิ่งที่เราแสดงออกไป” ดาราหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างถล่มตัว
“ถ่อมตัวจริงพ่อคุณ...เออ มาเดี๋ยวพี่จะแจ้งตารางงานวันนี้ให้เราดู” มิกกี้กระวีกระวาดหยิบไอแพดออกมาจากกระเป๋าหนังแอร์เมสสีน้ำตาลแก่ใบใหญ่ของตน เพื่อสำรวจตารางงานของดาราหนุ่มรุ่นน้อง ขณะที่มือกำลังจิ้มไอแพดอยู่นั้นกระเทยหนุ่มก็นึกอะไรขึ้นได้ “นี่ พี่ซื้อมาฝาก Chocolate Valvet ของร้าน CUPS N’ CAKES ร้านรุ่นน้องพี่เอง ร้านนี้เค้าดังมาเลยนะ พี่เห็นว่าเราชอบกิน Dark Chocolate แล้วที่ร้านเค้ามีเมนูนนี้พอดีเลยซื้อมาฝาก”
อนวัชพึมพำขอบคุณในน้ำใจของกระเทยรุ่นพี่ ก่อนเอื้อมมือไปหยิบถุงเค้กสีส้มสดใสมา เมื่อชะโงกลงไปมองภายในถุงกระดาษก็พบว่ากล่องเค้กนั้นก็มีสีส้มสดใสไม่แพ้เจ้าตัวถุงของมันเลยทีเดียว
“ท่าทางเจ้าของเค้กร้านนี้จะชอบสีส้มนะพี่” ชายหนุ่มออกความเห็น เพราะตัวบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเค้กร้านนี้เป็นสีส้มหมดเลย
“ก็ยัยแหนม พี่หมายถึงเจ้าของร้านมันชอบสีส้มมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่บรรยากาศสวยมาก อยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯ เราด้วย ถ้าติดใจวันหลังเราก็ลองแวะเข้าไปสิ แต่บอกไว้ก่อนนะร้านนี้ทำเค้กตามใจเจ้าของร้านไม่ได้ทำตามใจลูกค้า”
อนวัชพยักหน้ารับเบาๆ นัยน์ตาสีดำสนิทเหลือบไปมองที่ถุงขนมเค้กอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะละสายตาอย่างไม่ค่อยสนใจซักเท่าไหร่ แล้วจึงเริ่มคุยเรื่องมีตติ้งวันนี้อีกครั้งก่อนและเรื่องตารางงานอื่นๆ จนเหลือเวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง ดาราหนุ่มชื่อดังจึงลุกขึ้นพร้อมๆ กับผู้จัดการส่วนตัวรุ่นพี่ เพื่อเตรียมตัวออกไปงานมีตติ้งที่กำลังจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้า
เสียงประตูปิดลงเบาๆ ภายในห้องรับแขกสีขาวสะอาดบัดนี้เงียบสนิทไม่เหลือใครอยู่เลย เหลือก็เพียงแต่ถุงเค้กสีส้มสดใสจากร้าน CUPS N’ CAKES ที่วางตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโต๊ะรับแขก...






จิรากร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ม.ค. 2555, 17:15:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ม.ค. 2555, 17:15:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1182





<< บทนำ   
เทียนจันทร์ 31 ม.ค. 2555, 15:33:10 น.
ช่วยเว้นบรรทัดหน่อยนะคะ ตาลายอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account