calamari สูตรรักนี้ เฉพาะเธอ

Tags: calamari

ตอน: เด็กหงส์

มาแล้วจ้า ณ มนมาแล้วววววววววววววววววววววววววว
หลังจากหายไปนานมาก แต่ที่เคยสัญญากันไว้ว่า
หากแต่งนิยายเรื่องนีได้เกิน60% เมื่อไหร่จะนำมาลงให้อ่านกัน
ตอนนี้ได้เวลานั้นแล้วค่ะ ดังนั้นเรามาอ่านนิยายเรืองใหม่ของณ มนกันนะคะ

ก่อนอ่านทำความเข้าใจกับชือนางเอกของเรานิดหนึ่ง
เพราะหลายคนบอกชื่อนางเอกจะอ่านว่ายังไง

ชื่อนางเอกของเรา เขมรตา อ่านว่า เขม-ระ-ตา นะจ๊ะ อย่าอ่านเป็นเขมร ตาเด็ดขาดนา อิอิ
เอาล่ะเกริ่นมาเสียยาวเรามาทำความรู้จักกับภาคินและเขมรตาพระนางคู่ใหม่ของณ มนกันดีกว่าค่า

...........



calamariสูตรรักนี้ เฉพาะเธอ ตอนที่1



“เข้ม เข้ม” เสียงร้องตะโกนเรียกดังอยู่ที่หน้าประตูครัว

“อะไร เรียกทำไมคนกำลังยุ่งเห็นไหมนี่”

เจ้าของชื่อเข้มร้องตะโกนกลับไป ในขณะที่มือยังควงตะหลิวผัดอาหารอยู่ที่หน้าเตา ฝ่ายคนเรียกเมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่หันมามองก็เลยย้ายร่างกายน้องๆ ฮิปโปเข้าครัวมา ครัวที่เล็กอยู่แล้วยิ่งดูแคบไปถนัดตาเมื่ออีกฝ่ายเข้ามายืนจนเต็มพื้นที่

“เฮ้ย แกจะเข้ามาทำไมวะไอ้บอย ครัวยิ่งแคบๆ อยู่ แกเข้ามาทีคนอื่นแทบไม่ต้องกระดิกทำอะไรกันแล้ว” เข้มหันมาแว้ดใส่เพื่อน

บวรได้แต่เบ้หน้าใส่เพื่อน พลางนึกสงสัยว่าเพื่อนสาวของเขาเจ้าของชื่อเข้มนั้น ตอนเด็กๆ พ่อแม่คลุกข้าวกับน้ำตาลให้กินหรือเปล่า เจ้าตัวถึงได้ดุปานนี้ทั้งที่เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่วาจาและท่าทางไม่ได้ละม้ายคล้ายผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย

“เออ รู้แล้วว่าแคบ แต่ว่าพ่อเอ็งมาน่ะสิ ออกไปดูหน่อย” บอยว่าอย่างนั้น ฝ่ายคนได้ยินก็ทำเป็นหูทวนลมเสีย

“ได้ยินป่ะบอกว่าพ่อเอ็งมา”

“พ่ออยู่ชลบุรีโว้ย จะมาได้ไงวะเมื่อเช้าเพิ่งจะโทรคุยกันอยู่”
เข้มว่าอย่างนั้นก่อนจะยกกระทะมาจากเตา แล้วตักอาหารที่ผัดจนสุกได้ที่ลงในจานที่ตกแต่งด้วยผักอย่างสวยงามเอาไว้แล้ว จากนั้นก็ปิดเตาแล้วหันมามองหน้าเพื่อนเต็มๆ ตาเลยได้เห็นว่าอีกฝ่ายทำหน้าหงิกใส่

“รู้อยู่แล้วยังมาเล่นลิ้นอีก ไปเลยไป เอ็งไปรับออเดอร์มาเดี๋ยวนี้เลย พ่อเอ็งน่ะใครรับออเดอร์ถูกใจมั่งวะ” บอยพยักเพยิดหน้าออกไปทางนอกครัว

พ่อที่บอยพูดถึงก็คือลูกค้าประจำคนหนึ่งนามว่าอัครพล อายุอานามประมาณห้าสิบกว่าๆ ดูจากหน้าตาแล้วมีเค้าว่ามีเชื้อชาติตะวันตกผสมอยู่ในสายเลือด เป็นคนที่จู้จี้จุกจิกมากๆ ในเรื่องของการสั่งอาหารรวมทั้งเมื่อทานไปแล้วยังมีข้อติติงตามมาอีกมากมาย กว่าจะสั่งอาหารได้แต่ละอย่างคุณลุงแกก็พิถีพิถันห้ามใส่นั่นใส่นี่จนเด็กในร้านเอือมระอากันเป็นแถบ และถ้าหากรำคาญจนเผลอไปทำหน้าบึ้งหรือเบื่อหน่ายใส่ ลุงอัครพลก็อบรมมาเสียอีกว่า ทำงานบริการก็สมควรจะอดทนให้มากและลูกค้าก็สำคัญที่สุด ดังนั้นพนักงานคนอื่นๆ ก็เลยขยาดในการไปรับออเดอร์ลูกค้ารายนี้ ไม่เว้นแม้แต่นายบอยหรือบวรผู้เป็นเจ้าของร้าน

แต่เมื่อเขมรตาหรือเข้มเข้ามาทำงานได้เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ทุกคนในร้านก็เลยได้ประจักษ์แก่ใจกันว่า คนที่สามารถจะรับมือความจู้จี้ขี้บ่นและจอมละเอียดของคุณลุงอัครพลได้ดีที่สุดก็คือเข้มนั่นเอง เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะสั่งอาหารมาเช่นใด พิถีพิถันเลือกสรรมากแค่ไหน เขมรตาก็สามารถรับมือได้หมด อีกทั้งลุงอัครพลก็พอใจกับฝีมือการทำอาหารของหญิงสาวมากเสียด้วย ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายเข้าร้านมาเมื่อใด ทุกคนเป็นต้องโบ้ยหน้าที่การรับออเดอร์ให้เขมรตาไปเสียทุกที

“ไปเร็วดิ แกรอนานแล้วนะโว้ยเดี๋ยวพ่อจะเรียกพวกเราไปอบรมกันทั้งร้านพอดี” บอยเร่งเพื่อน

“เออ พวกแกนี่จะเป็นจะตายเป็นต้องเรียกฉันทุกที สักวันเหอะจะลาพักร้อนดูดิแกจะตายกันไหม” หญิงสาวหันมาบ่นเพื่อนสนิทก่อนจะถอดหมวกคลุมผมสำหรับทำอาหารออก แล้วก็เดินออกไปที่หน้าร้านในสภาพที่มีผ้ากันเปื้อนคาดอยู่อย่างนั้นเอง

บอยมองตามเพื่อนสนิทไปด้วยแววตาชื่นชม เข้มหรือเขมรตาเพื่อนสนิทของเขาเป็นหญิงสาวที่ไม่ค่อยจะมีนิสัยเป็นหญิงนัก ทั้งที่รูปลักษณ์ภายนอกนั้นเข้าข่ายคิกขุน่ารักเหมือนที่ใครๆ เขาชอบกัน ตัวเล็กผิวขาว ผอมบางผมซอยสั้นแค่ต้นคอ ดวงหน้าเล็กเรียวรูปไข่ตาโตจมูกโด่งเล็กๆ รับกับปากบาง เรียกว่าทุกอย่างบนใบหน้ารับกันเหมาะเจาะ ดูน่ารักน่าทะนุถนอมเป็นที่สุด หากใครได้เห็นรูปลักษณ์เธอคาดว่าน่าจะหลงรักกันไปเสียทุกราย

แต่ถ้าหากลองได้คุยแล้วละก็ รับรองเหมือนกันว่าจะมีแต่หนุ่มๆ ถอยหนีไม่มีใครกล้าจีบ ก็นิสัยแม่คุณนั้นห้าวหาญจนเกินบรรยายจริงๆ ไม่ค่อยจะเหมือนผู้หญิงกับใครเขานัก พูดจาโผงผางรักเพื่อนพ้องเป็นที่สุด เฮไหนเฮกัน กินเหล้าราวกับกินน้ำแต่ไม่เคยเมาแบบหมดสภาพให้เห็นเลยสักครั้ง แถมรินเหล้าแต่ละทีเข้มเสียจนเพื่อนผู้ชายในกลุ่มยังยอมยกนิ้วให้
ดังนั้นจากชื่อจริงแสนไพเราะว่าเขมรตา หรือชื่อเล่นว่าเขมที่คุณพ่อคุณแม่รวมทั้งญาติพี่น้องต่างพากันเรียกขานเธอนั้น เพื่อนๆ ทั้งที่เคยเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน รวมทั้งเพื่อนๆ ที่ทำงานทุกคนต่างคิดว่าชื่อนั้นไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด

ชื่อที่ที่เหมาะกับเขมรตาที่สุด น่าจะเป็นชื่อ “เข้ม” มากกว่า และเจ้าตัวก็ดูจะพออกพอใจกับชื่อที่เพื่อนๆ เรียกมากกว่าชื่อจริงเป็นไหนๆ เพราะถ้าหากว่ามีใครสักคนไปเรียกเจ้าหล่อนว่าเขมรตาหรือเขมเข้าละก็แม่จะทำตาเขียวใส่พร้อมอาละวาดได้ทันที


“สวัสดีค่ะลุงพล”

เขมรตายกมือไหว้หนุ่มใหญ่ อีกฝ่ายส่งยิ้มแบบเอ็นดูมาให้

“วันนี้จะทานอะไรดีคะ” หญิงสาวถามพลางยกกระดาษรับออเดอร์มาเตรียมจด แต่คุณลุงจอมละเอียดส่ายหน้าแล้วเชิญให้เธอนั่งด้วยกันก่อน

“นั่งก่อนสิหนู วันนี้ท่าจะยุ่งมาตั้งแต่เช้าคงไม่ได้พักเลยละสิ” คนพูดเอ่ยอย่างนั้นเพราะสังเกตเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายมีร่องรอยความมันจากเหงื่อจับอยู่

“ออเดอร์รอหนูเพียบเลยค่ะคงนั่งคุยกับลุงไม่ได้ ว่าแต่วันนี้จะทานอะไรดีคะ” หญิงสาวปฏิเสธอย่างสุภาพเพราะมีรายการอาหารที่เธอต้องลงมือปรุงอีกหลายจาน ถึงจะมีลูกมือช่วยอีกคนก็ตามที แต่รายนั้นก็เพิ่งมาทำงานยังไม่คล่องเท่าใดนักเธอจึงต้องเป็นมือหลักในการปรุงอยู่ดี

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ ลุงเอาเหมือนเดิมก็แล้วกันนะ”

“เอ่อ คุณลุงคะขอหนูแนะนำอะไรหน่อยได้ไหมคะ” เขมรตาเอ่ยขออนุญาตอีกฝ่ายเพราะท่านอายุมากกว่าเธอ ถึงเวลาอยู่กับเพื่อนเธอจะมึงมาพาโวยตลอด แต่เวลาที่อยู่กับผู้ใหญ่หญิงสาวก็รู้จักว่าควรจะวางตัวเช่นไร

“มีอะไรหรือ”

“คือว่าเมนูที่คุณลุงทานบ่อยๆ นี่น่ะค่ะ เอ่ออายุขนาดคุณลุงนี่อย่าทานบ่อยๆ จะดีกว่านะคะเพราะว่ามันมีแคลลอรีค่อนข้างสูงไม่ค่อยดีต่อสุขภาพค่ะ”

หญิงสาวหมายถึงสารพัดเมนูที่ทำจากปลาหมึกทั้งหลายที่ท่านชอบทาน โดยเฉพาะเมนูปลาหมึกคลุกแป้งแล้วนำไปทอดทานคู่กับน้ำจิ้มอันเป็นเมนูอาหารอิตาเลียนที่เรียกกันว่า Calamari ที่อีกฝ่ายชมนักชมหนาว่าตั้งแต่ไปสั่งทานตามร้านอาหารมา มีพียงร้านนี้ร้านเดียวเท่านั้นที่ทำได้รสชาติถูกใจท่าน เวลามาทานอาหารมื้อกลางวันที่นี่ทีไรเป็นต้องสั่งอยู่บ่อยๆ

“อย่างนั้นหรือ แต่มันอร่อยดีนะไปกินที่ไหนก็ไม่ถูกใจเท่าหนูเข้มทำให้ลุงกินเลย”

“ค่ะ แต่ว่าทานบ่อยๆ มันไม่ดีนะคะ”

“ถ้าอย่างนั้นวันนี้มีเมนูอะไรมาแนะนำลุง” คุณอัครพลเงยหน้าขึ้นมองแม่ครัวเอกของร้านพร้อมรอยยิ้มเอ็นดู

“วันนี้ลองทานปลาช่อนผัดขมิ้นดีไหมคะ ปลาย่อยง่ายไม่มีไขมัน แล้วขมิ้นก็เป็นสมุนไพรด้วย” เขมรตาเอ่ยแนะนำเมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่เธอเพิ่งจะใส่เข้าไปในเมนูของร้านในวันนี้เอง

“อืม ฟังชื่อแล้วน่าลอง ถ้าอย่างนั้นลุงเอาแบบที่หนูแนะนำก็แล้วกัน” ผู้สูงวัยตัดสินใจลองเมนูแนะนำของแม่ครัวเอก

“รอแป๊บนึงนะคะเดี๋ยวเข้มทำมาให้ลองทานค่ะ” หญิงสาวกล่าวก่อนจะขอตัวเข้าไปทำหน้าที่ในครัวต่อและเมื่อเดินผ่านบริเวณเคาน์เตอร์เชคบิล ก็เห็นว่าบอยและพนักงานอีกสองคนของร้านแอบขยิบตาและยกนิ้วโป้งให้เธอ เป็นสัญลักษณ์ว่าพี่เข้มขาใหญ่ของร้านปราบลุงอัครพลได้อีกวัน หญิงสาวจึงยกมือเหมือนทำท่าจะเขกหัวพวกนั้นทุกคนให้แล้วก็รีบหายเข้าครัวไปทำหน้าที่ต่อ

วันนั้นจึงเป็นอีกวันที่ทุกคนในร้านรู้สึกยินดีที่ไม่มีใครโดนคุณลุงอัครพลอบรม แล้วทุกคนก็ยกความดีความชอบให้กับเขมรตาอีกครั้ง



“เข้มเอ๊ยนี่ถ้าไม่ได้แก ฉันกะว่าเวลาลุงเขามาจะแกล้งเข้าห้องน้ำหรือไปทำธุระที่อื่นเลยนะนี่”

บวรทำหน้าสยองเมื่อคิดถึงตอนที่เข้าไปรับออเดอร์ลุงอัครพลเป็นครั้งแรกแล้วโดนอบรมมาเสียมากโขในเรื่องของความแคล่วคล่องและการจดจำชื่อรายการอาหารต่างๆ ที่ร้านมี เพราะวันนั้นพนักงานไม่มีใครว่างเขาจึงต้องไปรับออเดอร์แทน ปรากฏว่าเมื่อลุงอัครพลถามว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เขาก็อ้ำๆ อึ้งๆ เลยโดนอบรมไปซะหลายยก ในฐานะที่เป็นถึงเจ้าของร้านแต่ไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเท่าที่ควร

“ยังมีหน้ามาพูดอีกถ้าแกเป็นเจ้าของร้านยังหนีแล้วไอ้เด็กสองคนนี่มันจะทำไง” เขมรตาหันมามองหน้านิดและแตงที่เป็นพนักงานรวมทั้งเป็นลูกมือช่วยเธออีกด้วย ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็มีหน้าที่ดูแลส่วนเบเกอรี่และบาร์น้ำ

“ใช่ ถ้าพี่บอยหนี นิดกับแตงก็จะหนีเข้าไปในครัวเหมือนกัน” นิดลูกพี่ลูกน้องของบวรเป็นคนพูด

“แค่นี้ยังรับมือกันไม่ได้แล้วต่อไปจะทำไงวะ อีกหน่อยก็จะแต่งงานมีครอบครัว ขืนแกยังมาทำแหยงๆแบบนี้ระวังเหอะแฟนแกมันจะทิ้งเข้าสักวัน” หญิงสาวต่อว่าเพื่อนสนิท

“ไม่มีทางเว้ย เห็นไหมเขาออกจะรักกันลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน นี่ก็ทำขนมเค้กขนมปังมาส่งที่ร้านทุกวันมีแต่จะรักกันมากขึ้นทุกวันละสิไม่ว่า” บวรทำหน้าเคลิ้มฝันเมื่อนึกถึงแฟนสาวที่ในอนาคตอันใกล้กำลังจะมีพิธีวิวาห์

เขมรตาได้ฟังอย่างนั้นก็ทำท่าแหวะใส่อาการเหมือนฮิปโปเคลิ้มฝันของเพื่อน

“โอ๊ยจะอ้วก แกอย่ามาทำท่าฮิปโปเคลิ้มแถวนี้ได้ไหม ไปโน่นเลยไปเคลียร์บัญชีได้แล้ว” เขมรตาชี้นิ้วสั่งพลอยทำให้นิดกับแตงต่างพากันไปช่วยจัดเก็บร้านทั้งคู่ ส่วนเธอก็เข้าไปจัดการกับกองภาชนะในครัว กว่าทุกอย่างจะเสร็จเรียบร้อยเวลาก็ล่วงเลยมาถึงสามทุ่ม



เขมรตาออกมาจากครัวก็พบว่าสองสาวกลับไปเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่เพื่อนสนิทที่นั่งรอเธออยู่พร้อมกับเบียร์เย็นเฉียบสองกระป๋อง

“เอ้าสักกระป๋องก่อนกลับบ้าน” บวรโยนเบียร์มาให้ ซึ่งเขมรตาก็รับได้อย่างเหมาะเหม็ง แล้วเธอก็เปิดฝายกขึ้นดื่ม หญิงสาวยกขึ้นดื่มอั้กๆ แบบเร่งรีบจนเพื่อนต้องร้องท้วง

“เฮ้ย แกจะรีบไปไหนวะนั่น ดื่มแบบนั้นเดี๋ยวได้จุกตาย”

“คืนนี้ถ่ายทอดสดฟุตบอลไม่อยากพลาด ไปนะ แกอย่าลืมดูล็อคร้านดีๆ ก่อนขึ้นนอนนะบอย”

เขมรตาสั่งกำชับในขณะที่โยนกระป๋องเปล่าคืนเพื่อน แล้วหันไปคว้ากระเป๋าเป้มาสะพายก่อนจะรีบก้าวออกจากร้านไป ด้วยไม่อยากจะพลาดการแข่งขันฟุตบอลทีมโปรดของเธอ ซึ่งก็คือเดอะคอปหรือลิเวอร์พูลนั่นเองที่งานนี้ต้องไปเยือนทีมหนึ่งซึ่งอยู่ในกลุ่มบิ๊กโฟร์ของพรีเมียร์ลีกอีกต่างหาก ขืนพลาดนัดนี้เธอต้องเสียดายสุดๆ แน่ อีกอย่างวันนี้เธอก็ไม่ได้ซิ่งเจ้าขยะ รถปิคอัพคู่ชีพของเธอมาเสียด้วยดังนั้นเธอถึงต้องรีบตาเหลือกเช่นนี้

สำหรับเจ้าขยะหรือชื่อจริงๆ ว่าเจ้าถังขยะนั้น ก็ได้สมญานามนี้มากจากลาดรินหัวหน้าเก่าที่เคยทำงานด้วยกันที่สถานนีวิทยุ เรดิโอ เอฟ. เอ็ม. เป็นเพราะเธอต้องขับรถพาทุกคนไปงานคอนเสิร์ต รวมทั้งพากันตะลุยเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยๆ ดังนั้นเมื่อบรรดาเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ทำงานจึงมานั่งรวมในรถคันเดียวกันและก็หาเสบียงมากินกันไปตลอดทาง ทีนี้กินเสร็จก็ทิ้งห่อหรือซองเจ้าขนมเหล่านั้นเอาไว้บนรถ ด้วยคาดว่าเจ้าของรถคงจะเก็บลงไปทิ้ง

แต่ทุกคนคงจะคาดหวังมากเกินไป เพราะเขมรตาไม่ได้ละเอียดลออขนาดมาตามตรวจทุกซอกทุกมุมของรถ เศษซองขนมเหล่านั้นจึงยังคงตกค้างอยู่ในรถ เป็นประจักษ์พยานให้ทุกคนเห็นถึงความไม่ละเอียดถี่ถ้วนของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเมื่อทุกคนต้องมาอาศัยรถของเขมรตาอีกครั้ง ต่างก็ได้เจอเศษซากเหล่านั้น ตั้งแต่นั้นมารถปิคอัพสีเขียวจอมลุยของเขมรตาจึงได้ชื่อว่าเจ้าถังขยะ ซึ่งลดารินหัวหน้าครีเอทีฟนั่นเองที่เป็นคนตั้งชื่อให้





เขมรตาวิ่งขึ้นบันไดสถานีรถไฟฟ้าไปด้วยความรีบร้อนเพื่อให้ทันรถเที่ยวที่กำลังจะมาถึง เพราะหากช้ากว่านี้เธออาจจะพลาดแมทช์สำคัญได้

หญิงสาวคาดผิดไปถนัดเพราะตอนแรกเธอคิดว่าสถานีรถไฟฟ้ายามสามทุ่มกว่าๆ นี่คงจะมีคนไม่มากมายเหมือนช่วงเช้าและเย็น แต่เมื่อขึ้นมายืนที่ชานชาลาเขมรตาถึงได้เห็นว่ามีผู้คนยืนรอรถไฟฟ้ากันกลุ่มใหญ่ทีเดียว จากที่งงว่าทำไมคนเยอะขนาดนี้พอคิดไปคิดมาก็ได้คำตอบว่า นี่มันคือคืนวันเสาร์แถมยังเป็นเสาร์สิ้นเดือนอีกต่างหากซึ่งเป็นคืนสวรรค์ของนักท่องราตรีทั้งหลาย

มิเล่าคนถึงมากขนาดนี้

หญิงสาวพยายามภาวนาให้คนในขบวนรถน้อยๆ เพราะจะได้นั่งพักเสียบ้าง หลังจากที่ทั้งยืนปรุงอาหารอยู่หน้าเตาทั้งวัน จนขาแทบจะแข็งกลายเป็นหิน

ขอนั่งให้สบายขาหน่อยเหอะ

ทันทีที่ขบวนรถมาจอดเทียบชานชาลา หญิงสาวก็รีบเดินไปรอตรงหลังเส้นสีเหลืองเพื่อความปลอดภัย ถึงอยากจะนั่งเพียงไรแต่เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนเสมอ

เมื่อประตูเปิดคลื่นมหาชนนักท่องราตรีก็ก้าวพาเหรดกันออกมาจากรถ ยังกับเวลาเร่งด่วนก็ไม่ปาน ขนาดยืนหลบแล้วแต่ก็ยังไม่วายที่หญิงสาวจะได้รับผลกระทบจากคนมากมายเหล่านั้น เพราะเมื่อเธอกำลังจะก้าวเข้าไปใกล้ประตูอีกสักนิดเพื่อหวังจะได้ที่นั่งสบายๆ บ้าง แต่นั่นมันทำให้หญิงสาวปะทะเข้ากับร่างสูงๆ ที่ก้าวออกมาจากประตูแบบเร่งรีบ

“โอ๊ะ” เขมรตาร้องอุทานออกมาเมื่อเสียหลักจากการชนกับอีกฝาย

ไม่ต้องบอกก็คงจะพอเดาออกว่าร่างบางๆ ที่มีส่วนสูงเท่ามาตรฐานหญิงไทยร้อยหกสิบเซนติเมตรนิดๆอย่างเขมรตานั้นจะเป็นอย่างไร เมื่อปะทะเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครคนนั้น แน่นอนเธอลงไปนั่งพับเพียบเรียบแต้อยู่ที่พื้นเป็นที่เรียบร้อย และผลของการชนแบบไม่มีเครื่องช่วยกันกระแทกทำให้เป้ที่เขมรตาสะพายเอาไว้ที่ไหล่แบบหมิ่นเหม่นั้นหลุดล่วงลงไปกองอยู่ที่พื้นเช่นกัน ข้าวของที่อยู่ในเป้ก็หกกระจายทั่ว

ให้ตายเถอะเพราะความรีบร้อนแท้ๆ เชียว ถึงได้ลืมรูดซิปกระเป๋ารีบวิ่งห้อมาจากร้านแบบนี้ เขมรตาหัวเสียเมื่อหันมามองข้าวของที่หล่นเกลื่อนกลาดนั่น

“โธ่เว้ย!”

เขมรตาร้องสบถด้วยความเชยชิน ทำเอาต้นเหตุที่ชนเธอต้องมองมาด้วยความประหลาดใจ เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวตัวเล็กหน้าตาน่ารักราวกับหลุดออกมาจากนิตยสารวัยรุ่นจำพวกแฟชั่นญี่ปุ่นเกาหลีจะอุทานออกมาได้ใกล้เคียงชายชาตรีขนาดนี้ แต่ถึงจะประหลาดใจเช่นไรชายหนุ่มก็ยังไม่ลืมว่าตนเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เธอลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น เขาจึงค้อมกายแล้วยื่นมือเข้าไปหมายจะช่วยฉุดเธอให้ลุกขึ้นยืน

“ขอโทษครับ” ภาคินกล่าวแต่คนที่เขาเพิ่งนึกชมว่าหน้าตาน่ารักกลับตีหน้ายักษ์ใส่เขาแทน ซ้ำยังปัดมือเขาทิ้งอีกต่างหาก

“ไม่ต้อง” เสียงเล็กๆ แต่ห้วนสุดบรรยายเอ่ยปฏิเสธ ก่อนที่เจ้าตัวจะหันไปหยิบข้าวของที่หล่นกระจายอยู่ที่พื้น

ภาคินเห็นอย่างนั้นก็รีบทรุดตัวนั่งลงแล้วช่วยเธอเก็บของ ชายหนุ่มคว้าได้ของที่ใกล้มือที่สุดซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์กีฬาฟุตบอล ของอีกอย่างที่ตกอยู่ไม่ห่างเขานักแต่มันเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากับสิ่งแรกเลยสักนิด มันคือผ้ากันเปื้อน ชายหนุ่มหยิบของสองสิ่งนั้นมาแล้วยื่นให้กับหญิงสาวตรงหน้าด้วยความฉงนฉงาย

ผู้หญิงตัวเล็กๆ หน้าตาน่ารักกับผ้ากันเปื้อนและหนังสือพิมพ์กีฬา ยังไม่หมดแค่นั้นเขาเหลือบไปมองในมือเธอแวบหนึ่ง นิตยสารรายสัปดาห์ของสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล

“ขอบใจ” คนตัวเล็กยังคงสำเนียงห้วนๆ เหมือนเดิมเปี๊ยบในขณะที่รับของจากมือเขา

หญิงสาวหยิบของใส่เป้ลวกๆ ก่อนจะจัดการรูดซิป ภาคินเห็นว่าเธอหยิบของเสร็จแล้วก็รีบลุกขึ้นยืนหมายจะยื่นมือไปฉุดเธอให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง และคิดว่าคราวนี้เธอคงไม่ปฏิเสธความหวังดีของเขา เพราะเธอก็เก็บข้าวของเสร็จแล้ว

แต่คาดผิดถนัดเพราะหญิงสาวไม่สนใจมองมือของเขาที่ยื่นไปหมายจะช่วยเลยสักนิด เจ้าหล่อนกลับลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองแล้วใช้มือปัดกางเกงยีนสีซีดที่สวมอยู่สองสามที ก่อนจะหันมามองเขาตาขวางประมาณว่าเธอโกรธเขามาสักสิบชาติ

“เอ่อ ผมขอโทษที่รีบร้อนออกมาโดยไม่มองให้ดีก็เลยไปชนคุณเข้า” ชายหนุ่มพยายามขอโทษที่เขาโผล่ออกมาแบบกะทันหันแล้วชนเธอจนลงไปนั่งอยู่ที่พื้นอย่างนั้น

“ตัวก็โตยังกับยักษ์ ตาก็ไม่ได้บอดทำไมถึงมองไม่เห็นว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ ชนเข้ามาได้ไงบ้าจริง”

หญิงสาวต่อว่ามาตรงๆ ชนิดไม่มีการออมชอมใดๆ ทั้งสิ้นทำเอาภาคินถึงกับอึ้งทีเดียว ชายหนุ่มไม่ได้รู้ว่า ที่เธอทำท่าทางโกรธมากขนาดนี้ เป็นเพราะว่าการชนของเขานั้นทำให้เธอต้องเจ็บมากเพียงใด เพราะก้นลงไปกระแทกกับพื้นซีเมนต์อย่างจัง และร้ายที่สุดคือเธอพลาดการดูฟุตบอลครึ่งแรกแล้วอย่างแน่นอน

เมื่อหายอึ้งจากคำต่อว่าของหญิงสาว ภาคินก็ส่งยิ้มให้เธอหมายจะทำให้สาวน้อยร่างบางแต่ท่าทางแสนห้าวนี่อารมณ์เย็นลงสักนิด

“ผมขอโทษคุณจริงๆ นะครับไม่ได้เจตนาเลย”

ทั้งที่ใจจริงเขานึกอยากจะบอกเธอเหมือนกันว่าที่ไม่มีเจตนาจะชนนั้นก็เป็นเพราะเขาไม่ทันมองเห็นเธอต่างหาก

ก็ดูสิ ตัวทั้งเล็กทั้งบางอย่างกับมดก็ไม่ปาน ถ้าจะนำมาเปรียบเทียบกับเขาที่มีความสูงตั้งร้อยแปดสิบกว่าแล้วละก็ เขายอมยกมือรับเลยว่านั่นทำให้เขาไม่ทันได้มองเธอ

“ใช่สิ ไม่ได้เจตนา เพราะถ้าคุณเจตนาจะชนละก็ ฉันคงกระเด็นตกสถานีรถไฟฟ้าไปแล้วละ” ปากบางๆ ของคนตัวเล็กยังคงส่งวาจาเผ็ดร้อนมาประชดประชันเขาไม่เลิก และนั่นทำให้ภาคินอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะดูเหมือนคนตรงหน้านี่จะไม่หวาดกลัวเลยสักนิด ทั้งที่ตัวเล็กกว่าเขาตั้งมาก เธอทำท่าราวกับว่าหากมีเรื่องกันตอนนี้เธอก็พร้อมจะลุย
และผลของการที่เขาส่งยิ้มให้เธอนั้น ยิ่งทำให้หญิงสาวทำตาขวางใส่เขามากขึ้นไปอีก

ให้ตายสิ ตั้งใจจะว่าให้เจ็บๆ นะแล้วทำไมอีตานี่ถึงได้มาทำหน้าอมยิ้มแบบนั้นด้วย

หญิงสาวหงุดหงิดมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าเพราะแทนที่คำต่อว่าของเธอจะทำให้เขาสำนึกผิดเขากลับยิ้มเฉยเลย
ชิ ยิ่งมองหน้าก็ยิ่งโมโหขัดหูขัดตาเป็นที่สุด

อารมณ์นี้เขมรตาไม่สนเลยว่า คนร่างสูงในชุดสูทนี่จะดูเท่ดูดีในสายตาใครต่อใคร หญิงสาวรู้แต่เพียงว่าถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะซัดนายหน้ายิ้มกวนโมโหคนนี้สักหมัดสองหมัดให้หายแค้น โทษฐานที่ทำให้เธอพลาดสิ่งสำคัญ ครั้นต่อว่าก็ดันไม่รู้สึกรู้สาเสียอีก

โอ๊ย คิดแล้วโมโหนัก แต่เมื่อทำอะไรไม่ได้หญิงสาวก็เลยหันหน้าหนีเขาเสียด้วยไม่อยากมองหน้าเขาอีก

เขมรตาคงไม่สังเกตว่าหญิงสาวหลายๆ คนที่ยืนมองเหตุการณ์ระหว่างเธอกับเขาที่สถานีรถไฟฟ้าแห่งนี้แอบนึกอิจฉาเธอไปหลายรอบแล้ว ก็คนตัวสูงที่ชนเธอนั้นหน้าตาธรรมดาเสียที่ไหน นอกจากจะหุ่นสมาร์ทยังกับนายแบบแล้ว ชุดสูทที่เขาสวมใส่ยิ่งเสริมบุคลิกเขาให้ดูดีมากขึ้นเป็นเท่าตัว

ผมหยักศกสีน้ำตาลเข้มตัดสั้นทำเขาดูเป็นแบบหนุ่มหล่อใสไม่หล่อเซอร์ หน้าตาไม่ต้องพูดถึงคิ้วเข้มดวงตาโตสีน้ำตาลแววตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสันบ่งบอกถึงเชื้อสายชาวตะวันตกที่เจือปนอยู่ในสายเลือด ริมฝีปากหยักรูปกระจับ ทุกอย่างนี้รวมอยู่บนใบหน้าของชายหนุ่มเจ้าของชื่อภาคินคู่กรณีของเขมรตา หญิงสาวคนใดเมื่อได้เห็นหรือได้อยู่ใกล้ชิดเช่นนี้ไม่ว่าใครก็ต้องสะดุดหน้าตาเขาทั้งนั้น

จะมียกเว้นก็หญิงสาวเจ้าของชื่อเขมรตาคนนี้คนเดียว เพราะนอกจากจะไม่สนใจหน้าตาหล่อเหลาของเขาแล้ว หญิงสาวยังเหม็นหน้าเขาเป็นที่สุดด้วยเหตุผลข้างต้นนั่นเอง

ถึงเขมรตาจะไม่สนใจมองชายหนุ่มอีก แต่คู่กรณีอย่างภาคินนั้นไม่เป็นเหมือนเธอ เพราะเขาสะดุดตาสะดุดใจกับหญิงสาวตัวเล็กๆ แต่สุดห้าวคนนี้เข้าแล้วเต็มที่

ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะเคยผู้หญิงคนนี้คนเดียวที่ไม่สนใจเขาเลยสักนิด แถมยังห้าวหาญสุดบรรยายกล้าต่อปากต่อคำกับเขาแบบไม่เกรงกลัว ดังนั้นจากที่จะเอ่ยคำขอโทษแล้วเขาจะเดินจากไป แต่ชายหนุ่มกลับเลือกจะทำมากว่านั้น

เขายังคงยืนอยู่ที่เดิมข้างๆ หญิงตัวเล็กแสนห้าวคนนี้ ยืนมองเธออยู่ต่อไป ยืนอยู่เช่นนั้นจนคนที่ทำเป็นเมินไม่สนใจต้องหันมามองเขาตาขวางอีกรอบ

“เอ้า คุณจะมายืนอยู่ทำไมอีกละ ก็รีบนักไม่ใช่หรือไงรีบจนชนชาวบ้านเขาล้มกลิ้งแล้วทำไมยังมายืนเป็นเสาไฟฟ้าอยู่แถวนี้อีกเล่า”

นั่นดูปากคุณเธอสิ ภาคินนึกในใจในขณะที่มองปากบางที่กำลังขยับส่งถ้อยคำประชดเขาออกมาอย่างแสบสันต์

“คุณยังไม่ได้ยกโทษให้ผมแล้วผมจะไปได้ยังไงล่ะครับ” ชายหนุ่มว่าอย่างนั้นยิ่งเป็นผลให้คนตัวเล็กหน้าหงิกด้วยความโกรธมากขึ้นไปอีกขั้น

“โอ๊ย เรื่องมากจริงเลยคุณนี่” เขมรตาว่าเขาพร้อมกับยกมือขึ้นเท้าเอวด้วยความเคยชินก็เวลาเธอโกรธครั้งใดละก็เป็นต้องทำท่านี้ทุกที และถ้าจะให้สมบูรณ์แบบ จะต้องมีอาหารเอียงคอน้อยๆ บวกกับหน้าหงิกๆ อีกหน่อยละก็ใช่เลย

ฝ่ายภาคินก็ตาไวนักเขามองไปที่มือข้างขวาของเธอก็เห็นว่ามีร่องรอยเลือดซึมอยู่ ชายหนุ่มปราดเข้ามาหาเธอทันที ทำเอาเขมรตาถอยหลังกรูดทีเดียวเพราะคิดว่าเขาเกิดบ้าเลือดขึ้นมา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาคว้ามือเธอขึ้นมาดูแทน

“มือคุณเจ็บ คงจะเป็นเพราะตอนล้มเมื่อครู่” ชายหนุ่มบอกเมื่อพลิกมือบางดูให้ชัดเจน เขาเห็นว่าตรงสันมือขวาของเธอมีรอยครูดเป็นทางยาวและมีเลือดซึมออกมา

เขมรตากระชากมือกลับมาทันที มีอย่างที่ไหนมาทำเธอล้มคว่ำ แล้วยังถือโอกาสจับมือเธอเสียอีกแน่ะวอนซะแล้วตาคนนี้

“ไม่ต้องมายุ่ง” หญิงสาวมองเขาตาขวาง

“มีเลือดด้วยนะคุณ เช็ดแผลซะหน่อยเถอะเดี๋ยวจะติดเชื้อ” ภาคินล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาหมายจะซับเลือดที่แผลให้

“แผลเท่าแมวข่วนไม่ตายหรอกน่า คุณนั่นแหละไปซะทีมายุ่งอะไรกับฉันนักหนา”

เขมรตาแหวใส่เขาเพราะรำคาญเต็มทนที่อีกฝายไม่ยอมไปซะที อีกอย่างตอนนี้เธอก็มองเห็นแล้วว่ารถไฟฟ้ากำลังจะมาถึงสถานีแล้ว ขืนเขายังวุ่นวายกับเธออยู่อย่างนี้มีหวังเธอได้พลาดรถขบวนนี้แน่ๆ และถ้าพลาดก็หมายความว่าเธอคงอดดูฟุตบอลทีมโปรดแน่นอน ยังไงก็ตามเธอไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คงได้เกิดกรณีซัดหมัดใส่ผู้ชายแน่ๆ

“เช็ดแผลหน่อยสิคุณ มาผมเช็ดให้” ภาคินคว้ามือเขมรตามาไว้อีกครั้ง ในขณะที่รถเข้าเทียบชานชาลาพอดี เขมรตาเห็นอย่างนั้นก็ตาตื่น

“โอ๊ย ไม่ต้องมายุ่งฉันต้องรีบไปแล้วปล่อยเร็วๆ สิ” หญิงสาวสะบัดมืออย่างแรงแต่ไม่หลุดง่ายๆ

“เอาผ้านี่ไปเช็ดแผลบนรถก็ได้ครับ” เขายัดผ้าเช็ดหน้าใส่มือเธอก่อนจะปล่อยมือบางเป็นอิสระ ภาคินเห็นเจ้าของดวงหน้าใสแต่แสนหงิกนั้นหันมาส่งสายตาหงุดหงิดโมโหใส่เขาแวบหนึ่ง ก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปในรถอย่างรวดเร็ว

ภาคินยืนมองขบวนรถที่แล่นออกจากสถานีไป ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ แล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเรื่องราวที่เพิ่งผ่านไปเมื่อสักครู่ แล้วชายหนุ่มก็ก้าวเดินลงจากสถานีรถไฟฟ้าด้วยท่าทีสบายๆ ไม่รีบร้อน

บรรยากาศของถนนย่านใจกลางธุรกิจในยามราตรีไม่ได้เงียบเหงาเลยสักนิด เหล่านักท่องราตรีเดินสวนมาเป็นกลุ่มใบหน้า แต่ละคนดูจะเจือไปด้วยความชื่นมื่น เห็นจะเป็นเพราะวันนี้เหมาะอย่างยิ่งกับการสังสรรค์ เพราะนอกจากวันรุ่งขึ้นจะเป็นวันหยุดที่สามารถดื่มได้จนดึกดื่นแล้ว เชื่อแน่ว่าในกระเป๋าของทุกคนคงมีธนบัตรเอาไว้จับจ่ายซื้อหาความสุขกันได้อย่างสบายๆ เนื่องจากเป็นวันสิ้นเดือนนั่นเอง

ชายหนุ่มเดินผ่านคนเหล่านั้นแล้วเลี้ยวเข้าอาคารสูงแห่งหนึ่ง ไม่เกินยี่สิบนาทีต่อจากนั้นรถเบนซ์รุ่นล่าสุดสีบรอนซ์สุดหรูก็ขับออกมาจากอาคาร



“พี่คิดเป็นไงอ่ะครึ่งแรก”

เสียงตะโกนดังมาก่อนที่เจ้าตัวจะเดินเข้ามาถึงในบ้านเสียอีก แล้วครู่หนึ่งเจ้าของเสียงก็วิ่งกระหืดกระหอบกระโดดมานั่งที่โซฟาหน้าทีวีซึ่งมีคมคิดพี่ชายนั่งอยู่ก่อนแล้ว

“เสียใจว่ะน้อง โดนยิงนำไปหนึ่งลูกแล้ว” คมคิดรายงานผลให้น้องสาวทราบ พอได้รู้เท่านั้นแหละเขมรตาก็กำหมัดทุบลงไปในฝ่ามืออีกข้างของตน

“บ้าชะมัด”

“เฮ้ย โดนนำไปแค่ลูกเดียวเวลาก็เหลืออีกตั้งครึ่ง ทำไมแกต้องทำท่าเคียดแค้นขนาดนั้นด้วยอ่ะเขม” คมคิดทำหน้าสงสัยกับท่าทางของน้องสาว ที่ดูเหมือนจะโกรธแค้นเสียเหลือเกินที่ทีมโปรดโดนยิงนำไปก่อน

“โธ่เอ๊ย ถ้ากลับมาดูทันมันคงไม่โมโหเท่านี้หรอก บ้าจริงๆ อย่าให้เจออีกนะแม่จะด่าให้ลืมโลกเลย ทำเราพลาดช็อตสำคัญไปได้” หญิงสาวพูดกับตัวเองด้วยอาการเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน เมื่อนึกถึงรอยยิ้มกวนโมโหของคู่กรณีตัวโตขึ้นมา

“แกพูดถึงใครอ่ะเขม” พี่ชายถามเพราะไม่เข้าใจกับคำพูดของน้องสาวนัก

“ก็ตอนที่จะรีบกลับมาบ้านน่ะ เขมโดนไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้ชนจนขึ้นรถไฟฟ้าไม่ทัน แล้วดูสิอดดูครึ่งแรกจนได้แถมยังโดนนำก่อนอีก แค้นจริงๆ”

“เขาชนแกหรือแกชนเขากันแน่” คมคิดถามด้วยรู้ดีว่าน้องสาวตัวเองก็เป็นพวกสะเพร่าไม่น้อยเหมือนกัน

“เอ๊ะ พี่คิดนี่ยังไงก็บอกว่าโดนชนยังมาถามเหมือนไม่เชื่ออีก” เขมรตาแหวใส่พี่ชาย

“เฮ้ย แกโกรธตาคนนั้นคนเดียวพอแล้ว อย่ามาพาลกับพี่กับเชื้อ” คมคิดว่าน้องสาว ที่เวลาโมโหละก็เป็นต้องพาลพาโลคืนอื่นไปเสียทุกคน

“เออ ขอโทษมันติดพันไปหน่อยน่ะ”

“ไอ้นี่นับวันยิ่งเอาใหญ่ พี่นะเว้ยนี่พี่” ชายหนุ่มเอานิ้วจิ้มที่อกตัวเอง เขมรตาเห็นอย่างนั้นก็ส่งยิ้มประจบให้พี่ชาย

“อ่ะน่าก็ขอโทษแล้วไง จะบ่นอะไรนักหนา บ่นมากเดี๋ยวก็แก่มากกว่านี้หรอก”

“เออ ยกโทษให้ก็ได้เว้ย”

คมคิดพยักหน้าหงึกหงักยกโทษให้น้องสาวผู้ไม่ค่อยจะสมเป็นน้องสาวนัก เพราะตั้งแต่เล็กจนโตมานี่เขมรตามักทำให้เขากับเขตขัณฑ์พี่ชายคนโต หลงลืมคิดว่าเจ้าหล่อนเป็นน้องชายอยู่เสมอ เพราะว่าเมื่อตอนเด็กเขากับพี่ชายคนโตเล่นสนุกอย่างไร น้องสาวคนสุดท้องก็เล่นอย่างนั้นด้วย ทั้งปีนต้นไม้ กระโดดน้ำ ยิงนกตกปลา แตะบอล เล่นชกต่อยสารพัดสารพันที่เด็กผู้ชายจะเล่นกัน น้องสาวเขาก็เล่นได้ทุกอย่าง จนบางทีเขากับพี่ยังนึกว่าพวกตนเป็นมีน้องคนเล็กเป็นผู้ชาย
พอคิดมาถึงตรงนี้คมคิดก็อดถอนหายใจออกมาด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ น้องสาวเขาปีนี้ก็อายุยี่สิบห้าเข้าไปแล้ว ยังไม่เห็นจะคิดชอบพอหนุ่มคนไหนหรือมีหนุ่มคนใดมาสนใจจีบเลยสักคน

เอ หรือว่าเขากับพี่ผิดเองที่เลี้ยงน้องมาเหมือนกับเขมรตาเป็นน้องชายคนหนึ่ง น้องของเขาถึงได้ไม่คิดจะชอบพอกับผู้ชายคนไหนเลย หรือว่าเขมรตามันมีจิตใจเป็นผู้ชายไปแล้วหว่า คมคิดลอบมองหน้าน้องสาวที่กำลังลุ้นฟุตบอลครึ่งหลังอย่างจริงจัง

พาเพื่อนมาบ้านแต่ละคนมีแต่สาวๆ ทั้งนั้น ที่ทำงานก็มีผู้ชายนับคนได้ นี่ยังโชคดีที่บริษัทนั้นปิดตัวไปแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องมานั่งกังวลว่าน้องสาวของเขาจะเป็นทอมบอยหรือเปล่า เพราะเวลาไปงานคอนเสิร์ตทีไร แม่น้องสาวเป็นต้องกลายสภาพเป็นสารถีพาสาวๆ ในบริษัทไปทำงานพร้อมกับเสียทุกที พอไปเที่ยวก็ยังเป็นเหมือนป๋าพาสาวๆไปเที่ยวอีก เพราะเจ้าตัวเล่นดื่มเหล้าจนผู้ชายยังยกนิ้วให้ซะแบบนั้น

เพื่อนสนิทสมัยเรียนนั่นยิ่งแล้วใหญ่ มีแต่เพื่อนดูบอลด้วยกันทั้งนั้น ทั้งเจ้าบอยหนุ่มหุ่นฮิปโปนั่นก็คนหนึ่ง ะซึ่งรายนี้เขาแอบโล่งใจเป็นอย่างมากที่อีกฝ่ายไม่ได้มาจีบน้องสาวเขา ถึงอยากจะให้มีหนุ่มมาจีบน้องสาวมากเพียงใดก็ตาม แต่เขาก็อยากจะให้หนุ่มคนนั้นเป็นคนที่มีหน้าตาหล่อเหลา ดูสมาร์ทๆ ยังไงเขาก็ยังไม่อยากมีน้องเขยหุ่นอวบอ้วนอย่างเจ้าบวรนั่น

นอกนั้นแล้วก็เป็นเพื่อนผู้ชายนักกิจกรรมตัวยง เห็นพากันออกค่ายอาสาทุกที ไปทีไรก็ไปแถบกันดารทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กันแบบนั้น ก็ไม่เห็นมีใครมันจะมาจีบน้องเขาสักคน คมคิดแน่ใจเลยว่าเมื่อไปทำงานแบบนั้นเขมรตาก็คงลุยทำงานเทียบเท่ากับผู้ชายคนหนึ่งแน่นอน แล้วไอ้หนุ่มพวกนั้นมันก็คงจะเห็นน้องเขาเป็นผู้ชายไปแล้ว คงไม่มีใครมองเขมรตาเป็นผู้หญิงแน่ๆ

เฮ้อ แล้วชาตินี้น้องสาวของเราจะมีใครคิดมาสอยลงจากคานบ้างไหมเนี่ย คมคิดเกาหัวแกรกๆ ด้วยความกลุ้มใจ

........

ติชมกันได้ ทักทายรายงานตัวกันได้เหมือนเดิมนะจ๊ะ



ขอบคุณค่า

ณ มน



namon
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 มี.ค. 2555, 18:01:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 มี.ค. 2555, 18:01:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 3749





namon 20 มี.ค. 2555, 18:03:08 น.
หายหน้าไปซะนานเลย จะยังจำณ มนกันได้อยู่ไหมน้อ อ้อนๆอิอิ
ถ้ายังจำกันได้ยังรักกันอยู่ อย่าลืมมาให้กำลังใจกับนิยายเรื่องนี้กันนะคะ

แม้จะเปิดฉากมาด้วย ฉากคลาสสิคประเภทพระเอกนางเอกชนกันทะเลาะกัน
แต่ขอรับรองว่าเนื้อหาในเรื่องยังมีอีกหลายแง่มุม
ยังไงอย่าเพิ่งเบื่ออ่านตอนแรกแล้วลาขาดเลยนะคะ
ลองอ่านกันตอนต่อๆไปด้วยนะคะ

ปล.ถ้าโชคดีกลับจากงานที่หัวหินเร็วๆ วันศุกร์นี้เราอาจจะได้เจอกันในตอนที่2ค่า

ขอบคุณนะคะที่อ่านงานของณ มน ^_^


น้องแสตมป์ 20 มี.ค. 2555, 18:17:56 น.
ดีใจจัง มีเรื่องใหม่มาให้อ่านอีกล่ะ


ปอแก้ว 20 มี.ค. 2555, 19:16:14 น.
ชอบค่ะ...เห็นชื่อตอนแล้วกระโดดเข้ามาอ่านเลย (เป็นเด็กหงส์เหมือนกัน อิอิ)


Auuuu 20 มี.ค. 2555, 19:23:12 น.
นางเอกห้าวซะด้วย เก๋มากกกก เห็นหน้าพระเอกหล่อยังไงก็ไม่สน เลิศค่ะ
^^ คิดถึงคุณ ณ มนเหมือนกันค่า หายไปนานเลย
รอติดตามตอนต่อไปค่ะ ^^


ของขวัญ 20 มี.ค. 2555, 21:51:06 น.
เรื่องนี้ท่าทางจะมาแนวน่ารัก น่าลุ้นนะคะเนี่ย


lookpud 20 มี.ค. 2555, 21:51:24 น.
สนุกดี รออ่านตอนต่อไป


Pat 20 มี.ค. 2555, 21:55:06 น.
ตามๆๆๆๆๆ หายไปนานเลย ยังนึกถึงอยู่นะคะ^__________^


หมูบูลิน 20 มี.ค. 2555, 22:13:52 น.
รอติดตาม ตอนต่อไปอยู่นะค่ะคุณ ณ มน


ใบบัวน่ารัก 20 มี.ค. 2555, 22:41:17 น.
ตัวเล็กน่ารักจริง
ทำอาหารเป็นด้วย น่ารัก


คนผ่านมา 21 มี.ค. 2555, 00:17:10 น.
ชอบมากๆๆ...ติดตามผลงานอยู่เสมอๆ ^^


ameerahTaec 21 มี.ค. 2555, 07:57:23 น.
กี้สสสสส คิดถึงงงงงงงงง คุณ ณ มนมากกกกกกกกกกที่สุดดดดดดดดด รออ่านนิยายเรื่องนี้ทุกวันเลยคะ(ตั้งแต่ตอนที่ได้อ่านตัวอย่าง) นางเอกเป็นเด็กหงส์เหมือนกันเลย อิอิ สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ >[++++++++++++]<


nako 21 มี.ค. 2555, 08:07:55 น.
รอตอนต่อไปค่า


tutas 21 มี.ค. 2555, 08:48:59 น.
ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องใหม่ของคุณ ณ มน หลังจากที่รอมาพักใหญ่ๆๆๆๆ อิอิ จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ


Siang 21 มี.ค. 2555, 08:55:48 น.
ว้าวๆๆ คุณ ณ มน มาแล้ว ดีใจที่ได้อ่านค่ะ


ปูจ้า 21 มี.ค. 2555, 09:31:33 น.
มาต้อนรับคุณ ณ มนด้วยคนค่ะ เรื่องนี้ออกแนวฮาหรือเปล่าคะนางเอกเราห้าวหาญขนาดนั้น


nunoi 21 มี.ค. 2555, 16:27:29 น.
รอตอนต่อไปด้วยคนค่ะ


hanyaewon 28 เม.ย. 2555, 12:47:05 น.
เด็กหงส์เหมือนกันเลย


ผักหวาน 31 พ.ค. 2555, 12:22:15 น.
ยังจำคุณ ณ มน ได้เป็นอย่างดีค่ะ
เพราะทุกวันนี้ก็ยังอ่าน พระจันทร์เคียงใจ กับ หัวใจใต้แสงดาว อยู่เลยค่ะ
คิดถึงก็หยิบมาอ่านค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account