เขายังอยู่กับเธอตลอดไป
ไม่มีใครที่ไม่พลัดพรากจากกัน เมื่อเราต้องจากกัน เราจะเลือกจมกับความทุกข์ความเศร้า หรือเราควรทำอย่างไรเมื่อต้องพบเจอความพลัดพรากที่วันหนึ่งต้องพบเจอในที่สุด
Tags: เรื่องสั้น

ตอน: ตอนเดียวจบ

เขายังอยู่กับเธอตลอดไป

เขายืนพิงขอบระเบียงอยู่อย่างนั้นมานาน สีหน้าดูวิตกกังวลไม่น้อยเลย สายตาแสนห่วงใยคู่นั้น ยังคงมองเพื่อนสาวที่นั่งชันเข่ากอดความเศร้าอยู่กับพื้นระเบียงไม้ ใบหน้าเธออิดโรย ขอบตาบวมช้ำ จมูกแดงระเรื่อ เธอจมอยู่กับความโศกเศร้ามาตลอดสองอาทิตย์เต็ม เขาเองรู้สึกเหนื่อยใจต่อการปลอบโยนเพื่อนสาวให้คลายความอาลัยอาวรคนรักที่ตายจากไป ไม่ใช่ว่าเขาเองไม่รู้สึกเสียใจ เพราะคน ๆ นั้น ไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนธรรมดา ๆ คนหนึ่ง หรือเป็นเพียงคนรู้จักกันเท่านั้น แต่ทว่า เขาคนนั้นเป็นทั้งเพื่อนสนิท เพื่อนแท้ เพื่อนรัก เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา หรือแม้กระทั่งเป็นเพื่อนตาย! แต่มันคงไม่มีประโยชน์สำหรับการมัวเสียอกเสียใจ หากวิญญาณเพื่อนรักรับรู้ว่าคนข้างหลัง ที่ยังมีชีวิตอยู่มัวแต่คร่ำครวญเสียใจ วิญญาณของเขาคงจะหาความสุขไม่ได้เลย เครมขยับตัวออกจากขอบระเบียง เดินไปนั่งลงข้างเพื่อนสาว

"หักห้ามใจบ้างเถอะรี..." เครมตบไหล่เธอเบา ๆ เคยตั้งใจว่าจะไม่พูดอะไรกับเธออีกแล้ว แต่ยังอดบอกเธอไม่ได้อยู่ดี แม้จะรู้ว่าพูดไป มันไม่มีความหมายใดกับเธอเลย
ใบหน้าอมทุกข์นั้นไม่แสดงการรับรู้ใด ดวงตาหม่นหมองคู่นั้นจับจ้องอยู่แต่รูปชายหนุ่มคนรักในมือ

"เอามานี่!"

เครมผลุนผลันลุกขึ้นยืน พร้อมกับคว้ารูปออกจากมือเพื่อนสาวอย่างเหลืออด เขาจะปล่อยเธอเป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

"เอารูปเกณฑ์คืนมานะเครม! เอาคืนมา!"

รีเข้าไปแย่งรูปคืนจากเขาทันที น้ำตาไหลรินเปรอะแก้มขาวซีดเซียวนั้น

"ไม่!"

เขาเบี่ยงตัวหลบ ยัดรูปใส่กระเป๋าเสื้อ

"ถ้ารียังเป็นอย่างนี้ เราจะไม่คืนให้ สนใจตัวเองบ้างสิ รี!" สภาพของเธอไม่ต่างอะไรจากดอกไม้คอตกในแจกันที่น้ำเหือดแห้ง เหี่ยวเฉาใกล้ตายเข้าไปทุกที
"ขอรูปเกณฑ์คืนเถอะนะ เครมนะ ได้โปร..ด" รีจับมือเขาวิงวอน น้ำตาพรั่งพลูออกมาไม่ขาดสายราวกับจะขาดใจ

"ไม่!"

เขายืนกรานเสียงแข็งห้วนดังลั่น

รีปล่อยมือเพื่อนหนุ่ม เดินถอยหลังช้า ๆ อย่างหมดหวัง รู้ดีว่า เครมเป็นคนเด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น ไม่ใจดี ใจอ่อนเหมือนเกณฑ์หรอก

"เครม...ใจร้าย!" เธอตะโกนว่าเขาด้วยเสียงแหบแตกพร่า

“ใจร้ายที่สุดเลย....” พลางสะอึกสะอื้นคร่ำครวญจนตัวโยน

เครมก้าวซวบเข้าไปหารี จับร่างนั้นเขย่าแรง ๆ อยากจะปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมายอมรับความจริงเสียทีว่าเกณฑ์ตายไปแล้ว กลับมาไม่ได้อีกแล้ว

"รี! ฟังนะ! ขอถามเธอคำเดียว ยังจำคำพูดของเกณฑ์ก่อนตายได้ไหม หรือว่าลืมไปแล้ว เธอจำได้ไหม! เขาพูดอะไรบ้าง คิดดู! นึกทบทวนดูให้ดี ถ้าขาดเกณฑ์แล้วเธอต้องอยู่ในสภาพเช่นนี้ ก็ไปตายซะ!" เขากระแทกเสียงใส่อย่างโมโหสุดขีด แล้วก้าวพรวดพราดลงบันได คว้ามอเตอร์ไซด์ชิ่งออกจากบ้าน

หญิงสาวทรุดตัวลงกับพื้นไม้สีซีด

"คำพูดของเกณฑ์ก่อนตาย...." รีพึมพำเบา ๆ แล้วนึกถึงเหตุการณ์วันนั้น...

รีเปิดประตูเข้าห้องอย่างร้อนรนเมื่อเดินมาถึงห้องคนเจ็บ หลังจากที่ทราบข่าวจากเครมว่า เกณฑ์บาดเจ็บสาหัสจากการถูกลูกหลงขณะที่พวกช่างอุตฯกับพวกเทคนิคยกพวกตีกัน
นึกโกรธเด็กหัวรุนแรงพวกนี้จริง ๆ ทำให้คนบริสุทธิ์ต้องบาดเจ็บล้มตายไปเท่าไหร่แล้ว เมื่อไหร่เหตุการณ์แบบนี้จึงจะหยุดเสียที คนดีดี คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งนี้จะต้องตายไปอีกเท่าไหร่กัน แต่ตอนนี้เธอหยุดโกรธพวกเด็กอันธพาลชั่วคราว

เท้ารีบรุดไปที่เตียง
"เกณฑ์! รีมาแล้ว" รีจับมือเขาไว้แน่น น้ำตาพลันเอ่อล้นกรอบดวงตาขึ้นมาคลอจนปริ่ม

"ผม...กำลังรอ...รีอยู่ รอที่จะ..พบ..เธอเป็นครั้งสุดท้า..ย.." เสียงนั้นแหบเครือ เขายังพยายามฝืนความตายที่คอยอยู่ เพื่อรอบอกลาเธอเป็นครั้งสุดท้าย...
"ไม่..เกณฑ์ต้องไม่ตาย เธอไม่เป็นอะไรมากหรอก เดี๋ยวก็หายนะ หมอรักษาเกณฑ์ได้แน่...เกณฑ์.." เธอปลอบเขา และปลอบตัวเอง เพราะก่อนหน้าที่จะเข้ามาในห้องนี้ หมอบอกให้เตรียมทำใจ...
น้ำตารินระพวงแก้มนวลไปช้า...ช้า...

สาวน้อยยกมือป้ายน้ำตาข้างแก้มให้เหือดแห้ง

เธอไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็นเลย อยากจะเข้มแข็งกว่านี้ แต่...เธอทำไม่ได้เลย หยุดกลืนก้อนสะอื้น
"เกณฑ์อย่าทิ้งรีไป รี..รี..ไม่มีใครอีกแล้ว...พ่อแม่ก็ไม่เคยสนใจรี รีสัญญา...สัญญาว่าจะเป็นคนดี ไม่เกเรเหลวไหลเหมือนที่ผ่าน ๆ มา รี..รีทำได้นะเกณฑ์ รีทำได้" เธอพูดคลอเสียงสะอื้นไห้ น้ำตารินไหลเป็นทางราวกับสายน้ำ
เขายกมือวางบนมือของเธออย่างยากลำบาก
"ดี..ดีมาก..รี ได้ยิน..เพียงแค่นี้ ผมก็ดีใจแล้ว...แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็น เวลา..เวลาของผม..เหลือน้อยเหลือเกิน" เขาหยุดพูดอย่างรู้สึกเหนื่อยอ่อน พยายามจะฝืนยิ้มให้เธอ
"อย่าเพิ่งพูดอะไรอีกเลยนะ..นะ..นะ พักผ่อนเถอะ เกณฑ์จะได้หายเร็ว ๆ เกณฑ์หายแล้วจะได้เห็นรีเป็นคนใหม่ไงคะ" เธอซบหน้าลงบนมือของเขา
"ผมมีเวลาพักอีกนาน อย่าเสียใจไปเลยรี มันเป็นธรรมดา คนเราเกิดมาแล้วก็ต้องตาย..ไม่มีใครหนีพ้น แล้วแต่...ว่าใครจะไปช้าไปเร็วเท่านั้น แต่ทุกคนก็ต้องไปเหมือน ๆ กัน"
"ทำไมต้องเป็นเกณฑ์ด้วยล่ะ เกณฑ์เป็นคนดี เกณฑ์ทำแต่ความดี ดีกับทุก ๆ คนมาตลอด ทำไม..." เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวสั่นตัวโยน
"ไม่ต้องเป็นห่วงผมหรอกรี ผมไปดี" เขาพยายามปลอบเธอ แม้จะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ เพราะไม่เคยมีใครเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย ว่าสักวันหนึ่งคนที่เรารักที่สุดก็ต้องจากเราไป แล้วเวลานั้นก็มาถึงแล้ว มันรวดเร็วเหลือเกิน เขาหมดเวลา หมดโอกาสที่จะได้อยู่ดูแลเธออีกแล้ว
"รี..อย่าร้องไห้เลยนะคนดี นิ่งซะ ต้องเข้มแข็งเอาไว้" เสียงเขาเบาลงเรื่อย ๆ เหมือนลมหายใจแผ่วลงทุกขณะ
"รู้มั้ย...ขณะที่ผมมีชีวิตอยู่ เห็นรีร้องไห้ทีไร ผมปวดร้าวใจแค่ไหน จงรู้ไว้ แม้ยามที่ผมตายไปแล้ว ยามที่รีร้องไห้ วิญญาณผมกำลังปวดร้าว"

"วิญญาณผมกำลังปวดร้าว..." เสียงคำพูดประโยคนั้นดังก้องกังวานอยู่ในห้วงนึก รีรีบยกมือเช็ดน้ำตา

"เกณฑ์..."
"รีขอโทษ...วิญญาณเธอคงกำลังปวดร้าว"

“รี...อยากจะตามเกณฑ์ไป...จะได้มั้ย....?”

..........................................


เครมบึ่งรถกลับบ้านเมื่อรู้สึกอารมณ์ดีขึ้น ในมือมีถุงอาหารติดไม้ติดมือมาด้วย

"รี...เราซื้อผัดไทยมา..ฝา..ก..ก" เขาชะงักคำพูดเมื่อมองไม่เห็นเธอ

"รี..."

เขารู้สึกใจหายวาบ....

ตะโกนเรียกเธอครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่มีคำตอบใด ๆ เดินค้นหาจนทั่วบ้านแทบพลิกบ้าน แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงา เขารู้สึกหวั่นใจ กลัวเหลือเกิน...กลัวเธอจะทำอะไรบ้า ๆ อย่างที่เขาพูดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะชิ่งรถมอร์เตอร์ไซด์ออกไปข้างนอก
เครมคว้ามอร์เตอร์ไซด์บึ่งออกจากบ้าน ขับไปวนแถวบ้านและบริเวณใกล้เคียง ขับไปทุกที่ที่คิดว่าเธอเคยไป ขับไปทุกที่ที่เธอรู้จัก ขับไปทุกที่ที่เธอเคยพูดถึง แต่ก็ไม่มีวี่แววของเธอเลย

"เกณฑ์! ฉันควรทำยังไง! ทำยังไงดี! รีหายตัวไป เพราะฉันเองไม่ดี ฉันว่ารี...ฉันว่ารีรุนแรงไป ฉันขอโทษ..เกณฑ์..ฉันไม่ได้ตั้งใจ" เครมรู้สึกกลุ้มเป็นที่สุด

เขาเป็นห่วงรีเหลือเกิน หากเธอมีอันเป็นอะไรไป เขาคงเหมือนมีตราบาปไปตลอดชีวิต

เครมกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เมื่อไม่พบเธอตามที่ต่าง ๆ ถามใครต่อใครก็ไม่มีใครพบเห็นเธอเลย จนรู้สึกมืดมิดแปดด้าน ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ที่บ้านยังคงว่างเปล่า...

เขาขี่รถต่อไป มุ่งหน้าสู่หาดเงียบ ๆ เขากับเกณฑ์มักไปขลุกตัวอยู่ที่นั่นนานเป็นวัน ๆ หลังจากเกณฑ์จากไป เขาไม่เคยเหยียบย่างไปที่นั่นอีกเลย แต่บางทีมันคงดีที่เขาจะกลับไปเยี่ยมเยียนความทรงจำดี ๆ ระหว่างเขากับเพื่อนรัก มันอาจทำให้เขาคิดอะไรได้บ้างในช่วงที่เขารู้สึกกลัดกลุ้มเช่นนี้

รถมอร์เตอร์โซด์ถูกจอดไว้ริมหาดใต้ต้นมะพร้าว ระยะทางที่นี่กับบ้านของเขาไม่ไกลกันนัก เวลาไม่สบายใจเขามาที่นี่เสมอ สองเท้าพาเจ้าของร่างเดินเรียบไปตามริมฝั่งทะเล เสียงคลื่นกระทบฝั่งดังอยู่ตลอดเวลา ลมทะเลพัดมาปะทะจนเสื้อยืดตัวโครกของเขาลู่ติดกาย เปลยาวยังผูกอยู่กับต้นมะพร้าวอย่างเคย

เขาระลึกถึงอดีตที่เกณฑ์เพื่อนรักยังมีชีวิตอยู่ เขาและเกณฑ์มาที่นี่บ่อย ๆ เสมอ หาดทรายขาวแห่งนี้เงียบสงบไม่ค่อยมีผู้คนผ่านไปมานัก เขามานั่งปรับทุกข์สุขกับเกณฑ์ที่นี่ มานอนดูดาว มาฟังเสียงลม เสียงคลื่นด้วยกัน เขาและเกณฑ์ช่วยกันสร้างเพิงเล็ก ๆ ขึ้นจากใบมะพร้าวแห้ง อดเสียดายไม่ได้ที่ตอนนี้เหลือเพียงเศษซากใบทางมะพร้าวที่กระจัดกระจายไม่มีชิ้นดี มันพังราบเป็นหน้ากลอง หลังจากโดนพายุกระหน่ำเมื่อสองอาทิตย์ก่อน มันเป็นเวลาเดียวกันที่เกณฑ์จากไป เครมเดินไปยังเศษซากทางมะพร้าวที่กระจัดกระจายไปคนละทิศละทาง

”มันจากไปพร้อม ๆ กับนายเลยเกณฑ์..." เขายืนมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตั้งจิตอธิฐานเบา ๆ

"ถ้าวิญญาณนายมีจริง ขอให้เราตามหารีเจอด้วยเถอะ"

เครมเดินเลยไปยังเนินหินที่วางตัวเรียงรายอย่างสลับซับซ้อน ปีนขึ้นไปบนนั้นเดินลัดเลาะตามโขดหินน้อยใหญ่อย่างคุ้นเคย ยังจำได้ดี เขากับเพื่อนรักมานั่งยลพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่นี่เป็นประจำ แม้หลัง ๆ เขากับเกณฑ์จะไม่ได้มาด้วยกันสองคนเหมือนเคย เกณฑ์พารีติดสอยห้อยตามมาด้วย คนที่เกณฑ์ก้าวเขาไปในชีวิตของเธอ เพื่อหวังดึงเธอกลับมาสู่ทางเดินที่ดีงาม เกณฑ์ต้องใช้ความพยายาม ใช้ความอดทนอยู่นานกว่าจะทำสำเร็จ แต่แล้ว...เกณฑ์ก็ต้อง...

เครมถอนหายใจช้า ๆ แล้วปีนขึ้นไปบนโขดหินด้านบนสุด มีมือหนึ่งยื่นมาตรงหน้า ชายหนุ่ม
ชะงักกึ้ก! เงยหน้ามองเจ้าของมือนั้นทันที!

"รี!!"

เครมอุทานอย่างดีใจ ไม่นึกว่าจะพบเธอที่นี่

เธอช่วยดึงเขาขึ้นไป

"เกณฑ์..ฉันพบรีแล้ว" เขารำพึงอยู่ในใจ

หญิงสาวยิ้มให้เขาก่อนที่จะนั่งลง เครมก้าวไปนั่งลงเคียงข้าง สองอาทิตย์เต็ม ๆ ที่เขาไม่เคยเห็น รอยยิ้มของเธอเลยเห็นแต่น้ำตาพร่าพราวกับความโศกเศร้าตลอดมา
"รี...มาที่นี่ทำไมไม่บอก เราใจหายหมดเลย กลัวเธอจะ..." สิ่งที่เขากังวลและกลัวมาตลอดจนไม่กล้าพูดมันออกมา
"กลัวรีจะฆ่าตัวตายเหรอ" เธอยิ้ม
"ไม่หรอก...ขอบใจที่เป็นห่วง รีคิดได้แล้วล่ะ และตั้งใจว่า จะต้องทำความดีอย่างน้อยให้ได้สักครึ่งหนึ่งของเกณฑ์ก่อนนะ ถึงจะยอมตาย" ชีวิตของเกณฑ์เป็นตัวอย่างที่ดีเสมอ และเชื่อว่า เกณฑ์อยากให้เธอทำอย่างนั้น
"รี..โกรธเราหรือเปล่าที่ว่าเธอ เสียงดังใส่เธอ ขอโทษนะ"
"ไม่หรอก รีต่างหากที่ต้องขอโทษเครม ไม่อย่างนั้น..." เสียงรีเบาลง "รีคงทำให้วิญญาณเกณฑ์ปวดร้าวต่อไปอีก" เธอมองหน้าเขาอย่างเศร้า ๆ อยากจะตามเกณฑ์ไป แต่เขาคงไม่ต้องการอย่างนั้น เขาคงอยากให้เธอเข้มแข็งและอยู่ต่อไปให้ได้
"ต้องขอบใจเครมนะ ขอบคุณที่เครมช่วยเตือนสติรี คอยดูแล เป็นห่วงเป็นใยมาตลอด นอกจากเกณฑ์ก็มีเครมที่ดีต่อรี แล้วรีก็ต้องขอโทษที่เป็นภาระเธอมาตลอด ขอโทษที่มาที่นี่ไม่ได้บอกเครมสักคำ วันมะรืนรีจะกลับกรุงเทพฯ เพราะโรงเรียนใกล้เปิดแล้ว รีจะเก็บความทรงจำดี ๆ ที่นี่ไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเอง รีจะตั้งใจเรียน เป็นคนดีกับเขาเสียที จะเลิกแคร์พ่อแม่ที่ไม่เคยสนใจเอาใจใส่รีอีกแล้ว รีจะช่วยเหลือคนอื่น ๆ เหมือนที่เกณฑ์เคยทำมาตลอด รีจะทำให้ได้อย่างเกณฑ์เชียวนะเครม" เธอพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง

"เกณฑ์คงดีใจมาก" เครมรู้สึกดีใจที่เธอคิดได้
ทั้งสองยิ้มให้กัน แล้วนั่งมองพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ หายลับไปกับขอบทะเลทีละนิดอย่างช้า ๆ
ต่างคนต่างย้อนระลึกและจดจำวันเวลาเก่า ๆ เอาไว้ คงอีกนานกว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก ที่ที่มีความทรงจำดี ๆ ระหว่างกัน ที่ ๆ เธอเคยอบอุ่นมีเขาเคียงข้าง คอยห่วงใย คอยตักเตือน คอยช่วยเหลือ คอยเป็นกำลังใจตลอดมา

รีเคยรู้สึกตลอดเวลาหลังจากที่เกณฑ์ตายจากไป เธอรู้สึกว่าได้สูญเสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไปเสียแล้ว แต่วันนี้ นับแต่นี้ จะไม่มีความรู้สึกเช่นนั้นอีก ตรงกันข้าม เขายังอยู่เคียงข้างเธอเสมอ เพราะเธอจะทำความดีตามที่เขาได้ทำมาตลอดชีวิต ทำครั้งใด ก็รู้สึกเหมือนเขายังอยู่ใกล้ ๆ เธอ ไม่ได้จากไปไหน เขายังอยู่กับเธอ ตราบเท่าที่เธอมีความดีของเขาอยู่ในตัวเธอเอง เขายังอยู่กับเธอตลอดไป

๑๙ ธ.ค. ๓๘
ปรับปรุงใหม่ ๑๗ ม.ค. ๕๓
ริเศรษฐ์



ริเศรษฐ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 มี.ค. 2555, 19:43:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 มี.ค. 2555, 19:43:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1483





Auuuu 25 มี.ค. 2555, 22:47:41 น.
:( แต่ชอบมากๆๆ


คิมหันตุ์ 25 มี.ค. 2555, 23:30:24 น.
เวลาช่วยได้เสมอ!!


ริเศรษฐ์ 26 มี.ค. 2555, 19:07:41 น.
คุณAuuuu
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ค่า...ดีใจจัง...มีคนชอบด้วย ว่าแต่ชอบอะไรคะ ^_^

คุณคิมหันตุ์
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเยียนค่า


เทียนจันทร์ 29 มี.ค. 2555, 12:12:41 น.
เศร้าจังเลย


ริเศรษฐ์ 31 มี.ค. 2555, 19:38:00 น.
คุณเทียนจันทร์
ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ สุดท้ายไม่ว่ารักแค่ไหน เราก็ต้องจากกันนะคะ มันเป็นความจริงที่หนีไม่พ้นค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account