"One step closer" คิดถึง..เธอ
ระยะสามารถขว้างกั้นทุกสิ่งใด้จริงหรือ ? หัวใจคนเรามีความสามารถส่งผ่านความคิดถึงไปไกลเเค่ไหน กี่กิโลเมตร กี่ไมล์ หรือมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย เพียงเเค่เราคิดไปเองว่ามีคนที่คิดถึงเราอยู่ ?

เซงดูเด็มหนุ่มวัย 18 เขากำลังจะก้าวเข้ารั่วมหาลัย เซงดูมียายเป็นชาวกะเหรี่ยง ส่วนตาเป็นฝรั่งตาน้ำข้าว เซงดูเป็นภาษาปกากะญอ เเปลว่า ต้นไม้ใหญ่ เพราะเเม่หวังว่าเขาจะให้ร่มเงากับน้องฝาเเฝดอีกสองคนต่อไป การเป็นลูกคนโต

เเต่ใครจะรู้ว่าต่อจากนี้ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จะต้องผมกับมรสุมที่หนักหนาเกินไปสำหรับเขา เขาอ่อนเเอ ไร้ความกล้า สิ่งเดียวที่เขามีมากกว่าใครคือ ความฝันเอันที่จริงเขาเเยกเเทบไม่ออกสำหรับความฝันหรือความเพ้อฝันกันเเน่ เเละเขายังมีคำพูดที่ทุกคนมองว่าไร้สาระเกินกว่าจะเกิดขึ้นจริงได้เป็นสิ่งติดตัว คำพูดของเขาทำให้เขาต้องทำเพื่อทำให้ทุกคนเห็น คนสำคัญทีสุดคือทำให้พ่อของเขาเห็น เขาอยากทำไร่กาแฟที่บ้านให้ประสบความสำเร็จเเละ เขาอยากพิสูจน์ว่าสิ่งนี้มันยิ่งใหญ่ได้ นั้นเเหละความฝันของเขา

เซงดูไม่ใช่คนหล่อเหลาเท่าใด เรื่องความรักถือว่าห่างเหินจากชีวิตเขา เขาชอบอ่านชีวประวัติบุคคลที่ประสบผลสำเร็จเเล้ว ดังนั้นสิ่งที่สำคัญกว่าเรื่องความรักก็คือความสำเร็จ เป้าหมายก็เพื่อเเม่เเละน้องของเขาต้องอยู่อย่างสบายไม่ต้องลำบาก เเต่ในบางช่วงของชีวิต ความรักก็ต้องถูกจดบันทึกในไดอารี่บ้าง เเต่การมาของความรักครั้งนี้ช่างหนักหนา

เซงดูไม่เคยมีเเฟนมาก่อน เขาเป็นผู้ชายตลก พูดเก่ง เเต่ขี้อายมาก เเต่คนที่ได้คุยกับเขาเเล้วเป็นอันตกตกหลุมรักกับรอยยิ้มของเขาเลยทีเดียว เช่นเดียวกับตัวเขาเองเขามักตกหลุมรักอย่างง่ายดาย เเละรู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็วในวันรุ่งขึ้นทำให้เขากลัวความรักของเขาจะทำร้ายใครเข้า จนเป็นการปิดกั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนครั้งนี้ความรักพุ่งชนเขาเข้าอย่างจัง เป็นครั้งเเรกที่เข้ามั่นใจอะไรๆมาก เเต่ความกลัวที่มีเเต่เเรกก็บั่นทอนความมั่นใจนั้นไปมากเช่นกัน


"สิ่งที่ผมต้องการ กับ สิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข"

"ผมไม่เคยรักใครได้เท่าที่ใครใครรักผมเลย เเต่คงมีสักคนเเหละ"

'' เพ้อฝัน หรือ ทะเยอทะยาน '' '' ล้มๆเเล้งๆ หรือ สิ่งที่มุ่งมั่น '' '' เสียงหัวเราะ กลายเป็นเเรงผลักดัน เพื่อคนรัก '' " เพราะ ทำงานหนัก ไม่ใช่พรสวรรค์หรือโชค " " ยากยิ่งกว่า คือการเริ่มต้น " ...



Tags: เซ็งดู วาคู วาลา

ตอน: " กรุงเทพ- เเม่สาย 891 กิโลเมตร " "จุดเริ่ม"

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>เชียงราย "เเม่สาย"
เช้าตรู่ กลางฤดูหนาว สายหมอกสีขาวปกคลุมยอดดอยในดินแดนเหนือสุดของประเทศ ลมพัดเย็นยะเยือก ราวกลับต้องการเเช่เเข็งกาลเวลาทั้งหมดเอาไว้ มีเพียงเหล่าต้นไม้ที่ยืนลำต้นนิ่งสนิทที่ยังอยู่ภายนอก มองไปจะเห็นไหวก็เพียงปลายยอด หนาวเหน็บเพียงใดก็ยังคงเคียงข้างเหล่าพี่น้อง ... เพื่อเฝ้ารอลมหนาวพัดผ่านอย่างเช่นทุกปี

" โอ๊ะ มื่อ โช เปอ ครับเเม่ โอ๋ ชู่ " เสียงทักทายภาษาปกากะญอดังขึ้น พร้อมเงาจางๆของเด็กหนุ่มร่างผอม ใส่เเว่นหนาเเละกระเป๋าเป้ ที่ขาดจนไม่น่าจะมีใครซื้อ หากเอาไปขายเป็นสินค้ามือสอง

หญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังใส่รองเท้าบูท อยู่ตรงบันไดหน้าบ้านไม้หลังใหญ่ ท่ามกลางไร่กาเเฟ หุบเขาเเละป่าที่ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ที่นี่ทำให้เธอยอมละอาชีพที่ผมตอบเเทนสูงในเมืองใหญ่มา..เธอแหงนหน้าขึ้น พร้อมกับรอยยิ้ม
"เเม่สบายดีลูก ว่าไง ปีปี๊ ของเเม่ทำไมไม่โตขึ้นเลยเนี้ย "ผู้เป็นเเม่เดินมาดึงหูสองข้างเเสดงความคิดถึงลูกของเธอ
" มาๆวางของ อาบน้ำอาบท่าซะก่อน เดี๋ยวเเม่ทำกับข้าวให้กิน "เเม่ดึงกระเป๋าออกจากหลังของเด็กหนุ่ม
"นี่เเม่ ! บอกเเล้วไงอย่าเรียก ปีปี๊ "
"แกจะทำไม"
"ก็ผมโตเเล้ว ชื่อก็มี อะเเม่ ปีปี๊งี้ เเอ๊บไปหน่อยไหม "
เเม่เเลบลิ้น เเล้วก็เดินเข้าครัวไป
"นั้นไงๆ เป็นเอามาก...นะ ทำเป็นเด็ก 16 ไปได้ จะ 60เเล้วยายเอ้ย " ลูกชายทำตาโต
"ว่าไงนะ ฉันได้ยินนะ เดี๋ยวเถอะจะโดนเขกกระบาน "
เขายิ้มกว้าง


ผมชื่อ "เซงดู" เป็นลูกชายคนโตของบ้านนี้ครับ ชื่อผมอาจคล้ายภาษาเกาหลีอยู่หน่อย เเต่ไม่ใช่ภาษาเกาหลีเป็นเเน่ อันที่จริงมันเป็นภาษาปกากะญอต่างหาก เเปลว่า ต้นไม้ใหญ่ ฟังดูเท่ใช่ไหมหล้า เเต่ผมมักมีปัญหากับชื่อของผมอยู่เป็นประจำ ก็เพราะต้องมานั่งอธิบายให้คนอื่นเข้าใจเนี้ยเเหละ จนบางทีผมน่าจะชื่อ ดูเซ็ง มากกว่า จะได้เข้าใจกันง่ายๆ
ผมมีน้องสาวสองคน "วาคู"กับ "วาลา" สองอันหลังเนี้ยเเปลว่า กอไผ่ กับ ใบไผ่ ทั้งคู่ออกมาร้องกรี๊ดพร้อมกัน ตอนผมจะเข้าเรียนอนุบาลวันเเรกพอดิบพอดี นั้นทำให้ผมต้องนั่งรถไปโรงเรียนคนเดียวในการไปเรียนครั้งเเรก โดยมีคนงานที่บ้านขับไปส่งที่หน้าห้องเรียน มันทำให้ผมรู้สึกเเย่ในตอนนั้น เพราะผมน่าจะไปพร้อมพ่อเเม่มากกว่า นั้นคงเป็นเหตุทำให้ผมเกลียดโรงเรียนนักเมื่อโตขึ้น น้องทั้งสองของผมทั้งคู่กำลังโตขึ้นเป็นสาวสวย ผมเพิ่งพาพวกเธอไปถ่ายบัตรประชาชนมา ใครๆก็ว่าน้องผมสวยกันทั้งนั้นเเหละครับ เเต่นั้นยกเว้ณก็เเต่ผม ผมคงอิจฉาพวกเธอที่ใครๆชมกันนัก นั้นน่าละอาย เเต่คำชมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ตอนเด็กๆผมไม่เคยได้รับจากใครทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะหน้าตาผมที่หล่อเอาเรื่อง จ ำได้ว่ามีเเสดงเต้นประกอบเพลงตอนอนุบาล 2 อาจารย์ยังเอาชื่อผมไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายของห้องเลย ผมเจ็บใจมากที่ไม่ได้เเสดงโชว์สาวๆทั้งโรงเรียนในตอนเด็กขนาดนั้น(หัวเราะ)
เเต่ก็นั้นเเหละถึงหน้าตาจะคนละเรื่อง พวกเราก็เป็นพี่น้องกันจริงๆอยู่ดี : )

ในห้องครัว เซงดูนั่งที่โต๊ะอาหาร ส่วนเเม่กำลังง่วนอยู่กับการทำกับข้าว
"ทำอะไรกินครับเเม่"
"ของโปรดลูกไง" เซงดูทำตาโต
"อะไรครับ ไม่ยักจะรู้ว่าตัวเองมีอาหารจานโปรด"
"ไข่เจียวไงลูก"
"นั้นไง!! มันของโปรดที่ไหนกัน นี้มันอาหารอย่างเดียวที่เเม่ทำเป็นต่างหาก "
"กินๆไปก่อน เดี๋ยวรอป้า.เเอร์เฌอ ..กลับมาอยากทานอะไรค่อยบอกป้า.เเอร์เฌอ ..เขาละกัน"
"เอ้อ เเล้วยัย"ตัวยุ่ง"กับ"วาลา" ไปไหนละเเม่"
"นี่! ทำไมไม่เรียกชื่อน้องดีๆ"เเม่หันกลับมาเอาตะหลิวชี้หน้าเซงดู
"ก็วาคูมันยุ่งจริงอ่ะเเม่"
"วาคูกับวาลา ออกไปซื้อของในเมืองกับป้า.. เย็นๆคงจะกลับ"
"เอ่อนี่เเม่"
"มีไร"
"เเม่ทอดไข่เจียว หรือ เเม่ฟักไข่อยู่เนี้ย เมื่อไหร่จะได้กิน"
เเม่หันมายิ้ม "คือๆ .. คือเเม่ทำใหม้นะจ๊ะลูก รอเเป๊ปนะ"
เซงดูเอามือเท้าคาง หน้าตาเหนื่อยหนาย
"เฮ้อ ถ้ามีเเฟนขออย่าเป็นเเบบนี้เลย สาธุ"เซ็งดู ยกมือไหว้ สาธุ
"เมื่อกี้ เเกพูดอะไรนะ"เเม่ทำเสียงดุ
"เปล่าเเม่ หูเเว่ว รึเปล่า"


เย็นวันเดียวกัน............
ลานหน้าบ้าน มีต้นไม้หลากหลายพรรณ เเม่กำลังรดน้ำต้นไม้ที่รักมากของเเม่อยู่ เสียงน้ำตกกระทบใบเขียวขจี กลิ่นไอดินฟุ้งไปทั่ว เเม่ของเซ็งดูเป็นคนรักต้นไม้มาก ตอนเด็กๆเขาเผลอไปหักต้นกล้วยไม้ของเเม่ เสียงกรี๊ดดัง เท่าที่คุณจะจินตนาการได้ ดังขึ้น เพียงเท่านั้นเขาก็รู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเขาตอนนั้น

....เสียงฝีเท้ากับเสียงพูดเจี๊ยวจ๊าวใกล้เข้ามา เธอรู้ได้ทันที่ว่าเป็นลูกแฝดที่จะเหมือนก็เฉพาะหน้าตาของพวกเธอเท่านั้น
เธอคิดไม่ผิด เสียงห้าวดัง ดังขึ้น
"กลับมาเเล้วค่ะ คุณเเม่คนสวยของหนู"สาวน้อยผมสั่นหน้าตาสวย ใส่กางเกงยีนกับเสื้อยืดตัวเก่ง เธอคือ วาคู เธอวิ่งมากอดเเม่ ทั้งที่มีของเต็มมือ เธอเป็นนักบาสของโรงเรียน สาวๆกรี๊ดเธอมากกว่าหนุ่มหลายๆคนเลยทีเดียว
"นี่ๆ หัดทำตัวเรียบร้อยหน่อยได้ไหม เป็นผู้หญิงนะ หล่อน รู้ตัวรึเปล่า"
"เเม่ก็ " วาคูบิดตัว ทำท่าทางเขินอาย ท่าทีประชดประชัน
"เฮ้อ ลูกคนนี้ "
"เเม่....สวัสดีค่ะ วันนี้เหนื่อยไหมค่ะเเม่" เสียงเเผ่วเบา ฟังเเล้วรู้สึกเหมือนนั่งฟังเปียโนช้า ๆ ริม ทะเลดังขึ้น เธอคือ วาลา น้องเล็กสุดในบ้าน เธอหน้าตาเหมือนกันไม่มีผิดกับพี่สาวของเธอ เพียงเเต่เธอผมยาวถึงกลางหลัง สวมเเว่น เเววตาดูเป็นมิตร เธอจะไม่พูดกับคนเเปลกหน้าไม่ว่ากรณีใดๆ เว้นเเต่จะมีคนเเนะนำให้รู้จักก่อน หรือ ในคราวจำเป็นจริงๆเท่านั้น เธอเรียนเก่งมากทั้งที่เธอไม่ชอบเรียนหนังสือเอาซะเลย นั้นเป็นสิ่งที่ผมคงทำไม่ได้ เเม้พยายามเเล้วก็ตาม
"เหนื่อยไหมจ๊ะลูก เเล้วนี่ได้อะไรมาบ้างละ ฮึ"
วาลาเเยกถุงของที่เต็มมือให้เเม่ดู พรางบอกชื่อ สิ่งนั้น อย่างมีความสุข ส่วนวาคูเอาของวางไว้ เเล้ววิ่งเข้าบ้านไป

"ว่าไงแอร์เฌอเป็นไงบ้าง"เเม่ยิ้ม พูดกับเเอร์เฌอ เเม่บ้าน เธอเป็นชาวกะเหรี่ยงเเต่ไปอยู่ในเมืองตั้งเเต่เด็ก เธอจึงพูดชัดมาก เเละอยู่กับเรามานาน พวกเรารักเธอเเต่บางครั้งก็อยากเก็บความรักนั้นไว้ ในช่วงที่เธอเเอบไปหลับกลางวันในห้องของเธอหรือบางที่คนเเก่อาจต้องการการพักผ่อน? *แอร์เฌอเเปลว่าที่รักของทุกคนเป็นภาษากะเหรี่ยงโผล่ว
"ก็เหมือนเดิมละค่ะ คนหนึ่งซนอย่างกับลิง อีกคนก็นิ่งเป็นหุ่นถามอะไรก็ไม่มีความเห็น"แอร์เฌอพูดพลางยิ้มเเต่ท่าทางดูเหนื่อยอ่อนกับหน้าที่นี้อยู่พอดู
"เอาน่า ขอบใจมาก ทนๆเอาหน่อยละกัน ใช่ใครที่ไหนกันละ คนกันเองทั้งนั้น"

"หวัดดี ทุกคน" เสียงสูงของเซ็งดูดังขึ้น เซ็งดูเดินออกมาจากห้องนอน เเละกล่าวทักทายทุกคน
"พี่!!" วาลา ยิ้มร่า รีบวางของในมือเเละวิ่งมาสวมกอดพี่ชาย
"ทำไมไม่กลับบ้านเลยล่ะ หนูคิดถึงพี่จะเเย่อยู่เเล้วนะ" วาลาพูดเสียงสั่น พรางกอด
"โอ๋ๆ เจ้านู๋น้อย พี่ติดเรียนนะจ๊ะ"
"ติดเที่ยวซิไม่ว่า" เเม่บ่นเบา อยู่ในห้องครัว เซ็งดูชี้ไปที่เเม่เเละเเยกเขี้ยวใส่

"เป็นไงบ้าง ได้เกรดเท่าไหร่เทอมนี้" เซ็งดูถามวาลา
"ก็เท่าเดิมเเหละค่ะ"
"เท่าเดิมอีกเเล้วเหรอ ไม่เบื่อบ้างเหรอวาลาเอ้ย " เซ็งดูยิ้ม
"ไม่เคยได้ละซิคุณผู้ชาย4จุดเนี้ย" เเม่พูด เเละทุกคนหัวเราะอย่างมีความสุข

"เออนี่ วาคูไปไหนเเล้ว" เซ็งดูถามวาลา
"อยู่... " เเต่ยังไม่ทันที่วาลาจะพูดจบ
"ว่าไง ไอ้คุณน้องดูเซ็ง" เสียงดังห้าวของวาคูดังขึ้น วาคูวิ่งจากหลังบ้าน เข้ามาล็อคคอเซ็งดูจากด้านหลัง
เซ็งดูรีบจับมือวาคู โค้งตัวลง ทำให้วาคูเเขวนอยู่ด้านหลังเเละหัวทิ่มอยู่!!
"อ๊ายย." วาคูร้องเสียงหลง" ปล่อยฉันลงน้าาาา" วาคูร้องพร้อมกอดพี่ชายไว้เเน่น
"เป็นไงๆ ไอ้น้องเหรอ จ๊ะ ดูเซ็งเหรอ จ๊ะ พูดใหม่อีกทีซิ"
"ขอโทษค่ะ พี่เซ็งดู" วาคูฝืนพูด
"ห๊ะๆๆๆ" เซ็งดูระเบิดเสียงหัวเราะ พร้อมปล่อยวาคูลง
"โถ่เอ้ย" วาคูอุทานเบาๆ .... เซ็งดูตีหัวน้องสาวตัวร้าย เเละยิ้มเยาะ
"มาๆช่วยเเม่ทำกับข้าวกันเร็วพวกลิง" เเม่เรียกลูกทั้งสาม
"ได้เลยค่ะ/ครับ เเม่ลิง" ลูกทั้งสามตอบกลับ เเละรีบวิ่งไปช่วย


>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>กรุงเทพมหานคร............
ในมหานครที่วุ่นวาย อบอ้าว อากาศขุ่นมัว กับตึกที่ขึ้นมากกว่าต้นไม้ ทำให้คำว่าสุดลูกหูลูกตาของคนในเมืองนี้ติดอยู่เเค่ผนังตึกใหญ่ที่ห่างไปไม่กี่เมตร
" ไปเรียนก่อนนะค่ะเเม่ " เสียงตะโกน ดังมาจากหน้าบ้าน นั้นเป็นเสียงลูกสาวคนเล็กของบ้านหลังใหญ่หลังนี้
"จ้า รีบๆเรียนให้มันจบเร็วๆหน่อยนะลูก" ผู้เป็นเเม่ นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานหรู ในบ้าน ตอบไปอย่างคมคลาย
"เเม่ก็"
"เเม่พูดเล่นหนะ ไป๊ๆ เดี๋ยวก็สายตามเคยหรอก" รอยยิ้ม ออบอ้อม ปนอยู่บนใบหน้าเธอ
" รับทราบ " ลูกสาวทำท่าวัทยาหัดเเบบลูกเสือ พร้อมรอยยิ้ม

สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ ข้าวฟ่าง เป็นลูกสาวคนเล็กสุดในบ้านนี้ พ่อเเม่ของฉันทำธุรกิจส่วนตัว ท่านยุ่งตลอดเวลา จนบางครั้ง
ฉันอดอิจฉางานของพวกท่านไม่ได้ ที่มีเวลาอยู่กับทั้งคู่ นานกว่าฉันซะอีก เเต่พวกท่านไม่เคยขัดใจฉันซักเรื่องตั้งเเต่เด็ก
ฉันร๊ากพวกท่านมาก พอๆกับร๊ากพี่ชายสองคนของฉัน
พี่ต่าย เป็นวิศวกร ทำงานในบริษัทของพ่อนั้นเเหละค่ะ พี่ต่ายเป็นคนตัวใหญ่ ดูนิ่ง ครึมๆ ฉันมักบอกเเกเสมอว่าพี่เเก่ตั้งเเต่อายุ 12เเล้วละ เพราะตั้งเเต่เด็กไม่ว่าจะทำอะำำไรพี่ต่ายจะจริงจังมาก คงเป็นเพราะเเกเป็นลูกชายคนโตละมัง
ส่วนพี่ต่อ คนนี้สนิทกับฉันมาก เพราะเราอายุห่างกันเเค่ปีเดียว จึงเขา รร พร้อมกัน เรียกได้ว่าอยู่เเก๊งเดียวกันมาตั้งเเต่สมัยยังเยาว์ (ตอนนี้ก็ยังไม่เเก่น้าค่ะ เพิ่ง 20 เอ้ง เเอบยิ้ม ) ที่บอกว่าอยู่เเก๊งเดียวกันหนะ คือ เเบบว่า .. เเบบพี่ต่อเค้า เป็นหัวหน้าเเก๊งของฉันอีกทีนะค่ะ จะพูดยังไงให้มันดูดีหน่อยน้า เ่อ่อ.. คือ จะอ้อมไปทำไยละค่ะว่าม่ะ ตุ๊ดนะค่ะ !! ฉันเลยมีพี่ชายหนึ่งคน พี่สาวหนึ่งคน
ฉันเเฮปปี้นะ ดูครบดี

"ลุงต๋องค่ะ ให้ไวเลยค่ะ"
"โอ๊ยคุณหนูครับ ผมรอคุณหนูอยู่เเล้วครับ"ชายวัยชรา ร่างอ้วนพูด พร้อมกับรีบขึ้นรถที่จอดอยู่ตรงหน้า รีบสตาทเเล้วขับออกไปอย่างเร่งรีบ ดูคล่องตัว อย่างเช่นทุกวัน

รถติด...
"เฮ้อ ที่หนูไปเรียนสายทุกวันนี้ก็เพราะรถติดเนี้ยเเหละ" ต้นข้าวทำสีหน้ากังวล หลังจากนั่งอยู่ในรถที่ไม่ขยับมานับสิบนาที
"ลุงคิดว่า เอ่อ... เเค่คิดนะ ว่าที่สายคงไม่ใช่เพราะรถติดมั้งครับ คุณนู๋"
"นี่ลุง หมายความว่าไงค่ะ " ข้าวฟ่าง หันไปมองลุงต๋อง ทำหน้าบึ้งเเละกอดอก พรางสบัดหน้าหนี
"ลุงบอกเเล้ว ว่าลุงเเค่คิด ครับ คุณหนู " ลุงต๋องพูดปนเสียงหัวเราะ
" จะขึ้นปีใหม่เเล้ว ลุงกลับบ้านไหมค่ะปีนี้ "ข้าวเปลี่ยนท่าทีสุภาพเเละเปลี่ยนบทสนทนา
" ปีนี้คงไม่ได้กลับละจ๊ะ "
" อ้าว ทำไมละค่ะ "
" ก็เพิ่งกลับไปตอนตุลา เดี๋ยวคุณผู้ชายจะบ่นเอาได้ ครับ"
" บ้านลุงอยู่เชียงรายใช่ไหมค่ะ หนูไม่เคยไปซักที ไกลมากไหมเนี้ยค่ะ "
" ไกลซิ "
" เเล้วลุงไม่คิดถึง เเฟนกับลูก เหรอ"
" คิดถึงนะมันก็คิดถึง เเต่จะทำยังไงได้ ต่างคนก็มีหน้าที่ มีงานก็ต้องทำ ลุงก็โทรศัพท์ไปเกือบทุกวันเหมือนกัน อีกหน่อยคุณหนูทำงานอาจต้องอยู่ไกลครอบครัวนะ ทำใจไว้ด้วยละครับ "
"สบายอยู่เเล้ว เพราะตอนนี้ก็ไม่ได้เจอหน้ากันอยู่ดี "ข้าวฟ่างพูดเสียงเบา กับนัยตาที่ดูเศร้าภายใน
"เเค่โทรศัพท์ จะหายคิดถึงไหมน้า " เธอพูดพรางหันไปมองบนฟ้า ถอนหายใจเบาๆ คิดถึงพ่อที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน
" ไม่ใช่เเค่โทรศัพท์นะครับคุณหนู ความจริงลุง"ส่งความคิดถึง " ไปด้วย ความคิดถึงเนี้ยตัวมันส่งสัญญาณไปไกลไม่เเพ้คลื่นโทรศัพท์หรอกครับคุณข้าวฟ่างไม่เชื่อคุณหนูก็ลองส่งดูบ้างก็ได้ครับ "

ต้นข้าวหันไปมองลุงต๋อง เเละหันไปไปมองท้องฟ้าอีกครั้ง

ในขณะที่เธอกำลังมีเรื่องให้คิดอยู่เต็มภายในใจ ภายนอกรถ เมฆโอบกอดกันเป็นก้อนกลมมืดดำทั่วท้องฟ้า หยดน้ำพากันกระโดดบันจี้ ลงสู่พื้นคอนกรีตของกรุงเทพ ....เสียงฟ้าร้องลั่น
"พยากรณ์อากาศวันนี้ กรุงเทพมหานคร มีฝนตกเป็นหย่อมๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่" เสียงวิทยุรายงานพยากรณ์อากาศดังขึ้นภายในรถ
"เฮ้ออ ." ข้าวฟ่างถอนหายใจ


เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ขณะที่ข้าวฟ่างกำลังเรียนวิชาทางด้านบริหารอย่างคร่ำเคร่ง เธอรีบหยิบเเละปิดเสียงมันอย่างรวดเร็วก่อนที่คนอื่นๆจะหันมามองเธอด้วยสายตาที่เธอคงไม่ชอบเป็นเเน่ เเละเธอรวดเร็วพอ.
"ฮัลโหล ลูกพ่อ" เสียงชายวัยกลางคนเอ่ยทักทาย
"เย้ !!! สวัสดีค่ะพ่อ" ข้าวฟ่างเผลอดีใจเสียงดัง จนคนหันมามองเธอทั้งห้อง คราวนี้เธอเร็วไม่ทันความรู้สึกตัวเอง เธอยิ้มเเบบอาย เเละก้มหัวเเสดงอาการสำนึกผิด ก่อนสายตาหลากคู่นั้นจะหันกลับไป เธอเดินออกจากห้องเพื่อคุยโทรศัพท์..
"พ่อมีเรื่องสำคัญจะบอกลูกนะค่ะ"
"เรื่องอะไรค่ะพ่อ อย่าบอกนะว่าหนีไปเที่ยวประเทศนู้นประเทศนี้มาอีก ฟ่างละอิจฉา"
"เปล่าค่ะ ....." พ่อบอกเรื่องสำคัญนั้น
ข้างฟ่างหันมองขึ้นฟ้า เธอไม่พูดอะไร สายตาเหม่อลอย เมฆดำปกคลุม ....ฝน



ฝนเข้ากันไม่ได้กับความคิดถึง.........



ขจร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2555, 16:39:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2555, 16:39:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 1320





เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account