สื่อสายใย
เรื่องราวความรักในกลุ่มเพื่อนที่ประกอบไปด้วยชาย4 หญิง2 ที่อลหม่านเพราะนิสัยเพี้ยนๆที่แอบซ่อนในแต่ละคน
(ตั้งใจให้เป็นโรแมนติก คอมเมดี้แบบสีขาวค่ะ หวังว่าจะสำเร็จ)
Tags: โรแมนติก คอมเมดี้

ตอน: บทนำ

บทนำ
ถ้าจะให้เล่าว่า กลุ่มของหล่อนมารวมตัวกันได้อย่างไรนั้น สารินคงตอบไม่ได้
ครั้นนึกย้อนกลับไป หล่อนก็ยังสงสัยตัวเองอยู่เลยว่า ทำไมถึงจับพลัดจับพลูมาเกี่ยวข้องกับเจ้าทะโมนสี่ตัวกับสาวงามอันดับหนึ่งหนึ่งคนได้
ที่รู้คือตอนนี้ กลุ่มเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัยของหล่อน ประกอบไปด้วย...
นุช...หรืออนุช สาวงามระดับดาวมหาวิทยาลัย ที่ไม่ว่าจะเดินไปไหนก็มีหนุ่มเดินตามตาละห้อย...
กฤต...หรือกฤตธี หนุ่มหล่อระดับเทพ หากความเจ้าชู้ก็จัดอยู่ในระดับจอมมารเช่นกัน เวลาเดินไปไหนกับหมอนี่ สารินจะกลายเป็นอากาศธาตุไปเลย แถมยังมีโอกาสพลัดหลงกันง่ายๆ เพราะจะมีคนเบียดตัวเข้ามาแทรกกลางเสมอ
ธัช...หรือธชา พี่ชายคนโตของเพื่อนๆทุกคน ทั้งที่จริงๆแล้ว อายุเท่ากัน...ธัชเป็นที่พึ่งของเพื่อนๆได้เสมอ เพราะเชี่ยวชาญงานบ้านทุกอย่าง
อาม...หรืออริน หนุ่มนักกีฬามาดเถื่อน ที่แฝงความใจอ่อน อ่อนใจไว้ลึกๆ ทำให้กลายเป็นตัวทดลองของสาวๆในกลุ่มอยู่ร่ำไป โดยสารินและอนุชภาวนาทุกปีใหม่ว่า ขอให้อามอายุยืนยาว เพราะพวกหล่อนไม่อยากกลายเป็นฆาตกรโดยไม่เจตนา
พจน์...สมชื่อท่านชายพจน์ ชายหนุ่มแสนสุภาพ อ่อนโยน หากเคร่งขรึมและบ้าเรียนที่สุดในกลุ่ม
และสาริน...สาวร่างท้วม นิสัยเป็นมนุษย์มนาธรรมดาที่สุดในกลุ่ม (เจ้าตัวคิดอย่างนั้น และไม่สนใจว่า ใครจะเห็นด้วยหรือไม่)
เรื่องที่จะเล่าจากนี้ไป เป็นเรื่องสุดแสนธรรมดา...ของนักศึกษาแพทย์ที่ดีบ้างเพี้ยนบ้างกลุ่มนี้ ไม่มีพล็อต ไม่มีความตื่นเต้น ก็แค่เล่าไปเรื่อยๆ

เรื่องแรก...สารินผอม
เมื่อแรกเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆ สารินสูงร้อยหกสิบ น้ำหนักแปดสิบกิโลกรัม เมื่อเทียบกับสาวๆในคณะที่รูปร่างอ้อนแอ้นเป็นส่วนใหญ่แล้ว จึงจัดว่าอ้วนมาก
ส่งผลให้หนุ่มๆในคณะเกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นครั้งแรก ด้วยการปฏิเสธที่จะแบกหล่อนเข้าฐานรับน้องเป็นเสียงเดียว โดยอ้างอย่างถูกหลักวิชาการว่า แบกของหนักเกินไป กระดูกสันหลังจะเสื่อมก่อนเวลาอันควรได้
หากเมื่อต้องเจอกับวิชากายวิภาคศาสตร์ของชั้นปีสองเข้า สารินก็ผอมลงทันใจ ซึ่งเป็นผลจากความเหนื่อยล้า ร่วมกับกลิ่นฟอร์มาลีนที่ทำให้หล่อนเห็นอะไรเป็นซากศพไปหมด รวมถึงซากหมูซากไก่ที่ทอดกรอบเกรียมอยู่ในจานด้วย
น้ำหนักแปดสิบ ลดวูบลงเหลือหกสิบห้า หน้าท้องยุบ เอวคอด หน้าเรียวเข้ารูป ต้นแขนต้นขาเพรียวขึ้น เล่นเอาเริ่มมีปฏิกิริยาแปลกๆจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนชอบสิ่งสวยงามเป็นชีวิตจิตใจ (โดยเฉพาะแบบที่มีลมหายใจ เอวบาง อกอิ่ม สะโพกงาม) อย่างกฤต เป็นต้น
“เฮ้ย! รอสิบนาที เดี๋ยวข้าเดินไปส่ง”
สารินกระพริบตาปริบๆ “สากลับหอเองได้จ๊ะ”
“นั่นแหละ!” เป็นคำตอบที่แปลความยากที่สุด
“เพิ่งหกโมงครึ่งเองนะ” ปกติ พวกผู้ชายในกลุ่มจะทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ คอยไปรับไปส่ง ก็ต่อเมื่อเลยสองทุ่มไปแล้ว
“ก็...นั่นแหละ!”

ส่วนนุช....
“ห้ามกินนะ สา!”
“หืม...” ตอนอ้วนกินได้ตามใจชอบนี่นา ตอนนี้ นานๆจะอยากกินอะไรสักครั้ง ทำไมกินไม่ได้เล่า
“อุตส่าห์ลดน้ำหนักได้ ต้องรักษาหุ่นไว้ ไอ้พวกนั้นมันคาดคั้นให้เราคุมแกดีๆ เพราะถ้าอ้วนขึ้นทั้งคู่ มันว่า จะเอาเรื่อง!”

“กฤต...” ลงท้าย สารินต้องเตือนเพื่อนสนิทเสียงอ่อยๆ หลังจากโดนคุม ไม่ให้แวะซื้อของข้างทางมาหลายวัน “ปล่อยสากินตามสบายเถอะ”
ความอยากอาหารที่หายไปของหล่อนกลับคืนมาดังเดิม ทั้งที่ยังต้องศึกษาอาจารย์ใหญ่เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลเพียงแค่ว่า ถ้าไม่ขวนขวาย สาเหตุการตาย ได้ขึ้นคำว่า อดตายแน่ๆ
“แกไม่รู้สึกดีกับการสวยขึ้นหรือไง” กฤตนิ่วหน้า
“สวยแล้วเป็นลมตายน่ะ...สาไม่เอาด้วยหรอก
กฤตหันมาค้อนหล่อนตาคว่ำ

เรื่องที่สอง...ความรักในกลุ่มเพื่อน
เรื่องที่คนส่วนใหญ่อยากรู้ คงไม่พ้นเรื่องนี้ เพราะความรักของคนอื่นเป็นเรื่องสนุกเสมอ ไม่ว่าจะจบอย่างสุขนาฏกรรมหรือ โศกนาฏกรรม
พวกสารินก็เช่นกัน เมื่อใครเอาเรื่องความรักของหนุ่มหล่อ สาวสวยนอกภาคมาเล่า จะหูผึ่งกันเป็นแถว หากก็ยังไม่สู้เรื่องความรักของกฤต...ที่กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ได้จบลงอย่างแสนเศร้า (เคล้าเสียงหัวเราะของคนอื่น กระทั่งเจ้าตัว บางครั้งก็ยังเผลอหัวเราะตามเลย เพราะทนพวกหล่อนไม่ไหว)
ความรัก...จึงเป็นแค่เรื่องน่าสนใจ แต่ไม่น่าตื่นเต้นสำหรับพวกหล่อน
หากความวุ่นวายเล็กๆน้อยๆ เริ่มเกิดขึ้น เมื่อนุชชักสนใจกฤตในช่วงต้นปีสองนี้
จริงๆมันก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่คุณเธอเกิดไปรับอิทธิพลมาจากสาวๆต่างคณะที่กรี๊ดกฤตกันอย่างจริงจัง ประกอบกับช่วงนั้น กฤตเพิ่งโดนดาวคณะอักษรทิ้งหมาดๆ
“ควงกันสักวัน”
เมื่อนุชว่าอย่างนั้น กฤตก็ถามทันทีว่า
“ไปไหน”
“กินข้าว ดูหนัง”
“เรื่องอะไร...” ขนาดสาวสวยสุดยอดถาม กฤตยังไม่วายมีเงื่อนไข
“ตามใจกฤต”
“เออ! ดีว่ะ!”
ผลคือ ยกกันไปทั้งโขยง แถมกฤตยังเลือกดูหนังสงครามเลือดเดือดชนิดที่นุชกรี๊ดกร๊าด น้ำตาตกใน ในขณะที่สารินหลับคาเก้าอี้ตั้งแต่ต้นเรื่อง

“กฤตจ๊ะ นุชชอบกฤต”
นุชเปลี่ยนแผนใหม่ เมื่อเห็นว่า อ้อมซ้ายอ้อมขวา กฤตก็ว่าง่ายอย่างแกมโกงได้ทุกเรื่อง
“เออ! ข้าก็ชอบแกว่ะ” กฤตตอบง่าย จนสารินชักไม่ไว้ใจ จึงทดสอบว่า
“กฤตจ๊ะ สาชอบกฤต”
“เออ! ข้าก็ชอบแกว่ะ!”

ลงท้าย กฤตเริ่มรำคาญ จึงเริ่มควงสาวคณะอื่นเป็นตัวเป็นตนอีกครั้ง ความรักของนุชจึงจบลงอย่างเรียบง่าย โดยเจ้าตัวก็แค่...
“กฤตหักอกนุช ดังนั้นต้องเลี้ยงปลอบใจนุชนะ”
เหตุการณ์นี้สิ้นสุดลง โดยสารินได้ความคิดว่า วิธีนี้ ก็ใช้หาข้าวกินได้เหมือนกัน

เรื่องที่สาม งานฝีมือของธัช
ธัชเป็นพี่ชายคนโตของครอบครัวที่แม่เสียไปตั้งแต่ลูกยังเล็ก
ธัชต้องทำทุกอย่างเป็น ตั้งแต่กวาดบ้าน เลี้ยงน้อง งานฝีมือทุกประเภทที่น้องต้องส่งอาจารย์ ชนิดที่พูดได้เต็มปากเลยว่า ถ้าใครได้ธัชไปครอง ก็เหมือนได้แม่บ้านชั้นเยี่ยมแถมไปด้วย
ทุกๆกลางปี ธัชจะมีงานฝีมือเล็กๆน้อยๆของน้องชาย น้องสาวติดมือมาทำยามว่างที่คณะ ซึ่งก็เหมือนกับคุณแม่ที่ช่วยลูกๆทำงานฝีมือส่งครูนั่นเอง
ของปีนี้ เป็นงานเย็บปัก ธัชจึงต้องพกสะดึงไม้กับหลอดด้ายหลากสีถุงใหญ่ๆติดตัว
พวกสารินที่เคยชินแล้ว ไม่รู้สึกอะไร แต่พวกหนุ่มๆปากปีจออื่นๆทั้งในคณะและนอกคณะนี่สิ (ต้องใช้คำว่า อื่นๆ เพราะหนุ่มๆในกลุ่มสารินก็ปากมอมไม่แพ้กัน)
ยิ่งธัชเป็นหนุ่มคณะแพทย์ ซึ่งว่ากันว่า เป็นคณะที่มีชายแท้ค่อนข้างน้อยแล้ว...
“อย่าเผลอหันหลังให้หมอนั่นนะโว้ย!”
“เฮ้ย! มันชม้ายตาให้แกว่ะ”
อามที่เลือดร้อนกว่าเพื่อน เลยชักเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเจ้าตัวที่ทำตัวราวกับเป็นเจ้าหญิงทอผ้า ที่ถักเสื้อไปได้เรื่อยๆเพื่อให้พี่ชายกลายร่างจากหงส์เป็นมนุษย์ โดยไม่มีปากเสียง
แต่ยิ่งอามโมโหแทน คนอื่นก็ยิ่งมองอามเป็นคู่เกย์ของธัชมากขึ้นทุกที จนนุชชักทนไม่ไหวอีกคน
“ต้องหาแฟนให้ธัชเป็นตัวเป็นตน”
หลังจากนั้น ปฏิบัติการตามล่าหาสาวสวยของนุชก็เริ่มต้นขึ้น จนคนอื่นวุ่นวายไปหมด แต่กลับไม่ถูกใจธัชเลยแม้แต่คนเดียว
“ธัช...ให้สาช่วยอะไรไหม” สารินซึ่งไม่ถนัดวุ่นวายเรื่องคนอื่น หันมาถามธัชเสียงอ่อยๆในที่สุด หลังจากที่ทนตาลายกับการเคลื่อนไหวของนุชหลายวันเต็มที
“ช่วยบอกให้เจ้าพวกนั้นสงบลงได้ไหม” ธัชตอบเรียบๆ ตามประสาคนใจเย็น
สารินส่ายหัวจนผมกระจาย
“พูดยังกับว่า พวกนั้นเคยสงบเรียบร้อยงั้นแหละ น้ำกำลังเชี่ยว ขืนเอาเรือไปขวางก็...ตูม!” ทำท่าระเบิดให้ดู
“แกช่วยรับงานไอ้ธัชมาทำสิ” กฤตเสนอดิบดี เล่นเอาสารินสะดุ้งโหยงแล้วค่อยๆหลบฉากหนีหายไป
เรื่องอะไรจะเอาฝีมือสุดยอด...แย่ของตัวเองมาประจานเล่า

สุดท้าย ธัชก็ทำงานส่งอาจารย์ของน้องชายเสร็จ และเรื่องที่เกิดขึ้นก็จางไปกับสายลม
พวกที่เหนื่อย ก็เหนื่อยโดยไม่ได้ผลอะไรขึ้นมา
จะมีเรื่องที่เปลี่ยนไปบ้างก็แค่...มีสาวๆมารุมธัชมากขึ้น เพื่อปรึกษาเรื่องงานฝีมือ...เท่านั้นเอง



เพลงไพร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 เม.ย. 2555, 22:44:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 เม.ย. 2555, 22:44:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 998





เทียนจันทร์ 17 เม.ย. 2555, 13:39:28 น.
น่ารักดีนะคะ สู้ต่อไปค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account