กุหลาบสีขาว
เรื่องราวความรักบริสุทธิ์และคดีฆาตกรรม
Tags: ชิมบุญ

ตอน: บทที่๑

พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าความมืดของเมฆเข้ามาปกคลุม บนถนนเมืองแห่งท่องเที่ยวที่เป็นค้าขาย ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และสถานบันเทิงต่างๆ เมืองที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามทางทะเลแห่งหนึ่งของประเทศ
ในเวลาเย็นๆ อย่างนี้กำลังมียวดยานต์แล่นไปมาโดยไม่มีใครสนใจเด็กหญิงในเสื้อขาวกางเกงที่น้ำตาลเข้มที่นั่งบนทางเท้ามองผู้คนด้วยสายตาที่ไม่สามารถบอกความรู้สึกใดๆ
“หนู..”
เสียงของชายผู้หนึ่งดังอยู่ข้างหลัง ในขณะที่เด็กหญิงก้มหน้าลงกับฝ่ามือของตนด้วยตัวเองนั้นไม่รู้จะไปพักพิงที่แห่งใด ชายกลางคนชาวต่างชาติแตะมือของตนเบาๆ บนไหล่ของเด็กหญิงนั้นเรียกเธอด้วยสำเนียงพูดภาษาไทยที่ไม่ชัดบ้าง แต่เด็กหญิงพอที่จะเข้าใจได้
“หนูจ๊ะ...”
เด็กหญิงสะดุ้งเพราะหวาดกลัวและเธอพยายามขยับหนี สายตาแห่งความใจดีทำให้เด็กหญิงต้องหยุดคิดบางสิ่งบางอย่างบอกเธอว่าชายผู้นี้คือคนที่เธอไว้ใจได้ เธอลดตัวลงนั่งที่เดิม
“ไม่ต้องกลัวนะผมไม่ทำอะไรหนูหรอก”
ชายผู้นั้นกล่าวขึ้น
“คุณเป็นใคร” เด็กหญิงถาม
แดฟหรือที่ใครๆ เรียกว่ามิสเตอร์แดฟ หรือคุณพ่อแดฟตามเด็กๆ ผู้ที่เป็นเจ้าของมูลนิธิสโนไวท์เขาสร้างขึ้นเพื่อคอยช่วยเหลือเด็กๆ กำพร้าไร้ที่พึ่งทั้งหลาย
“ผมชื่อแดฟมาจากที่โน้นไง”
เขาแนะนำตัวพร้อมชี้ให้เด็กหญิงดูข้างหน้ามูลนิธิที่มีป้ายบอกเธอเองก็พอรู้จักที่นี้อยู่บ้าง แต่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะมาพักพิงอาศัยอยู่ที่มูลนิธิสำหรับเด็กกำพร้าอย่างนี้เพราะเธอเองก็มีแม่มีครอบครัว แม่ผู้ที่สวยงามที่สุดในความรู้สึกของเด็กหญิงเธอศรัทธาและแสนรักแม่มีทุกอย่างที่เธออยากได้ เธอไม่เคยสงสัยว่าแม่หามันได้มาจากไหนการหารายได้ตามลำพังคงจะยากสำหรับผู้หญิงคนเดียว แต่แล้ววันนี้ทุกอย่างปรากฏชัด ภาพที่ไม่สมควรเด็กหญิงอายุขนาดเธอควรจะรู้
“หนูชื่ออะไร ทำไมมาอยู่ที่นี้ผมเห็นหนูนั่งอยู่หลายชั่วโมงแล้วนะ”
“หนูชื่อลิลลี่ค่ะ” เด็กหญิงเอ่ย ในขณะที่แดฟเองดีใจที่เด็กหญิงสนทนากับเขาบ้าง ความปลอดภัยของเด็กหญิงสำคัญกับเธอมากที่สุด แดฟพอที่จะรู้วิธีที่ทำให้เด็กหญิงไว้วางใจเขาได้บ้าง
“หนูชื่อเพราะมากแล้วมานั่งทำอะไรตรงนี้จ๊ะหลายชั่วโมงแล้วนะที่ผมเห็นหนูนั่งอยู่ตรงนี้”
“เออ...หนูแค่ไม่รู้จะไปไหน แล้วหนูก็ไม่ชอบชื่อนี้”
ครั้งหนึ่งเธอรู้สึกดีกับชื่อนี้ลิลลี่เป็นชื่อดอกนอกที่สวยงามน่าทะนุถนอมเธอเคยเห็นดอกไม้ชนิดนี้บ่อยๆในแจกันตรงมุมหนึ่งของบ้าน แต่ตอนนี้เพราะชื่อลิลลี่ทำให้เธอรู้ว่ามันอาจไม่ใช่ดอกไม้ที่สุดที่สุดโลกอีกแล้ว
“ทำไมล่ะชื่อหนูเป็นชื่อดอกไม้สวยมากนะ”
แดฟมองเด็กหญิงที่บอกความไม่ชอบในชื่อของตัวเอง



“แต่หนูเกลียดชื่อนี้ทุกชื่อที่เป็นชื่อดอกไม้ทั้งลิลลี่ทั้งกุหลาบ”
“ผมขอโทษแล้วผมจะไม่ถามเรื่องชื่อหนูอีก แต่ผมอยากรู้ว่าทำไมหนูไม่กลับบ้านครับรู้ไหมที่นี้มีคนมากมายเมืองนี้ไม่เหมาะที่เด็กผู้หญิงอย่างหนูมานั่งคนเดียวฝนกำลังจะตกแล้วด้วย”
ลิลลี่มองพ่อแดฟเธอไม่รู้ว่าจะบอกยังไงกับชายคนนี้ได้แต่เงียบเอาแต่ก้มหน้าน้ำตาก็ไหลออกมากับสิ่งที่ตัวเองได้รับรู้มาทำให้เธอไม่อยากที่จะกลับไปยังบ้านของเธอได้
“โอเค..หนูยังไม่สามารถตอบผมได้ตอนนี้ไปข้างในกับผมไหมที่นั้นมีอาหารอร่อยๆ ให้หนูกินถ้าหนูไม่รู้จะไปไหนเรายินดีต้อนรับหนู”
ลิลลี่มองไปยังสถานที่ที่ชายต่างชาติกล่าวถึงเด็กๆ หลายคนกำลังวิ่งเล่นส่งเสียงดังอย่างสนุกสนานแต่วัยที่กำลังเป็นสาวอย่างเธอไม่สนใจที่จะวิ่งเล่นหรอกเวลานี้สิ่งที่เธอต้องการคือสถานที่ปลอดภัยเธอรู้สึกไว้ใจได้
ลิลลี่พยักหน้า
“ข้างในมีเด็กๆ เยอะแยะทุกคนพร้อมที่จะต้อนรับหนูไปกันเถอะ”
แดฟลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างในมูลนิธิเขายังสงสัยที่มาที่ไปของเด็กหญิงแต่ในเมื่อเธอยังไม่สามารถให้คำตอบเขาได้ในเวลานี้เพื่อสร้างความไว้วางใจให้เธอสิ่งที่เขาทำตอนนี้คือไม่ถามอะไรเธอต่อ ลิลลี่ไม่รอช้าเดินตามเขาไปเธอรู้ภายในใจอย่างเดียวว่าที่นี้จะเป็นบ้านแห่งใหม่ของเธอ
***********************************************************************
อาคารสูงใหญ่หลายชั้นผู้คนมากมายกำลังใช้บริการในอาคารแห่งนี้ โรงแรมพาราไดซ์ขณะที่บรรดาพนักงานกำลังยินดีที่มีเจ้านายตัวน้อยคนใหม่ทายาทเจ้าของโรงแรมพาราไดซ์ ทุกคนต้องตกใจหยุดฟังเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากชั้นบนสุดของโรงแรมอันเป็นที่พักอาศัยของผู้ที่เป็นเจ้าของและครอบครัวนั้นเอง
“เอาออกไปฉันไม่ต้องการ..เอาออกไป” ผู้ที่ส่งเสียงแผดร้องออกไปนั้นไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นภรรยาที่แสนสวยของเจ้าของพาราไดซ์นั้นเอง เธอผิดหวังกับการกำเนิดเลือดเนื้อเชื่อไขของตัวเองที่ไม่เป็นดังที่เธอต้องการ
“แต่นี้ลูกของเรานะ” พิธานชายหนุ่มน่าตาดีเจ้าของโรงแรมพาราไดซ์ตกใจคาดไม่ถึงว่าภรรยาของตัวเองจะรังเกียจลูกสาวคนแรกเสียงทารกน้อยร้องไห้เพราะความหิวนิตยาปฏิเสธเด็กสาวตัวน้อยเมื่อรู้ว่าเป็นเพศหญิง
“คุณคะ..ให้นมคุณหนูเถอะค่ะเธอหิวแล้วนะคะ” นางจิตรีผู้รับหน้าที่ดูแลเด็กหญิงน่ารักอุ้มหนูน้อยเพื่อจะให้เจ้านายมอบน้ำนมให้แก่ทายาทที่พึ่งลืมตาดูโลกเพียงไม่กี่ชั่วโมง
“เอามันออกไปเด็กผู้หญิงฉันไม่ต้องการ” นิตยายังคงยืนกรานเธอไม่แม้แต่จะมองหน้าของหนูน้อยเลย
“เอาออกไปก่อนเถอะจิตรี”
พิธานรู้สึกกล่าวเขารู้สึกเสียใจแต่ต้องยอมจำนนเขาหลงใหลนิตยาเป็นสาวสวยที่เขาหมายปองมาตั้งแต่เขาพึ่งเข้ามาเป็นผู้บริหารโรงแรมพาราไดซ์เธอพาตัวมาเข้าใกล้เขาจนกระทั่งได้ลงเอยใช้ชีวิตด้วยกันและเกิดท้องลูกสาวคนแรกนิตยาหวังอย่างมากว่าลูกคนแรกจะต้องเป็นลูกชายแต่เมื่อเป็นผู้หญิงนิตยากลับรังเกียจเหมือนไม่ต้องการเลย
“คุณใจร้ายมากนะนิตยา” พิธานยืนเข้ามาใกล้เตียง
นิตยามองหน้าสามีสติกลับมาที่ตัวได้บ้าง



“ฉันต้องการลูกชายเอามันออกไปจากบ้านฉันไม่ต้องการ ฉันจะมีลูกชายคนใหม่นะคะพิธาน”
นิตยาสายตาที่แสดงถึงความผิดหวังเสียใจยื่นมือมาจับมือของสามีเธอไม่อาจจะบอกใครได้บ้างว่าเพราะอะไรเธอไม่ต้องการทายาทเป็นผู้หญิงยิ่งต้องรับรู้ว่าตัวเองให้กำเนิดเด็กผู้หญิงเธอยิ่งหวาดกลัวที่สุด
“ผมไม่ต้องการมีลูกอีกแล้ว แค่ชิมบุญคนเดียวก็เพียงพอแล้ว อ้อ ลูกสาวของเราที่คุณไม่ต้องการไงล่ะผมให้เธอชื่อชิมบุญเธอเป็นลูกสาวคนเดียวและทายาทของพาราไดซ์คุณเข้าใจไหม”
“อย่าบอกนะว่าคุณให้...ตั้งชื่อเด็กคนนี้”
“จะใช่ผมหรือใครไม่สำคัญนิตยาอย่างเธอก็มีสิทธิ์ไม่ว่าคุณปฏิเสธยังไงก็ตามลูกสาวคนเดียวของเราต้องชื่อชิมบุญและที่สำคัญผมจะทำหมัน” พิธานบอกภรรยาอย่างเย็นชา
“ไม่นะคุณทำหมันไม่ได้เด็ดขาด” นิตยาบอกสามีด้วยความตกใจพยายามลุกแต่ร่างกายยังไม่แข็งแรง
“ผมจะทำผมมีชิมบุญคนเดียวที่เป็นลูกสาวของผม หากคุณอยากมีลูกชายก็เชิญไปมีกับคนอื่นแต่คุณก็จะไม่ได้เป็นนายหญิงนิตยาภรรยาเจ้าของพาราไดซ์อีกเลย ส่วนชิมบุญลูกสาวของผมจิตรีจะทำหน้าที่ดูแลแกเอง”
พิธานบอกแล้วเดินออกไปเขาสงสารลูกสาวจับใจ นิตยาที่ตัวสั่นเทาอย่างสะเทือนใจนี้เป็นครั้งตั้งแต่ใช้ชีวิตด้วยกันมาพิธานขัดใจเธอเป็นที่สุด
“เพราะแกคนเดียวนางมารแกมาเกิดทำไมในตัวแกมีสัตว์ร้ายฉันไม่ต้องการ...ไม่ต้องการ”
นิตยาขบกรามเธอไม่ต้องการเด็กผู้หญิงเพราะความหลังที่เจ็บปวดสายตาที่แตกต่างเปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างเห็นได้ชัดเธอแทบไม่เหลือสาวน้อยอ่อนหวานในความรู้สึกของพิธานเลย
*****************************************************************
เธอยังจำเหตุการณ์เมื่อครั้งเธออยู่ภายใต้การดูแลของมิสเตอร์แดฟชายต่างชาติที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเมื่อครั้งเธอขาดที่พึ่งได้ดี
“หนูอยู่ที่นี้ผมรับรองความปลอดภัย”
มีผู้หญิงวัยกลางคนจูงมือเธอเพื่อเข้าไปยังที่พัก
“คุณคะ..หนู”
แดฟส่งเด็กหญิงให้กับผู้ดูแลแล้วกำลังกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองเขาหันกลับมาเมื่อได้ยินเด็กหญิงร้องเรียก
“เรียกผมว่าคุณพ่อก็ได้”
แดฟบอกกับเด็กหญิงเด็กทุกคนที่เข้ามาอยูในมูลนิธิเรียกเขาว่าพ่อทุกคน
“คุณพ่อหนูไม่อยากชื่อนี้”
แดฟยิ้มให้กับเธอเขายังไม่รู้ที่มาของเธอเท่าไหร่นัก
“หนูอยากชื่อนิตยา”
“ชื่อลิลลี่เพราะกว่าอีก”
เด็กหญิงส่ายหน้า
“หนูชอบชื่อนิตยามากกว่า”
แดฟเองไม่เข้าใจว่ามีเหตุผลอะไรที่ทำเด็กหญิงที่เริ่มจะเป็นสาวคนนี้รังเกียจแม้แต่ชื่อของตนเอง
“เอาล่ะให้พ่อจัดการเอกสารของหนูแล้วพ่อจะให้หนูเป็นคนใหม่ชื่อนิตยาไม่ใช่ลิลลี่”
แดฟลูบผมอย่างอ่อนโยน
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ ต่อไปนี้หนูอยากจะให้ทุกคนเรียกหนูว่านิตยานะคะ” นิตยาหรือลิลลี่เรียกมิสเตอร์แดฟว่าพ่อได้อย่างเต็มใจเธอรับรู้ความอบอุ่นที่ได้รับจากชายผู้นี้
“จ้ะลูกรัก”
นิตยากล่าวขอบคุณแล้ววิ่งไปหาผู้ดูแลของตนแดฟเองก็มองจนทั้งสองลับตาเขาอยากรู้ความเป็นมาของเด็กหญิงเหลือเกิน
“เฮ้ย จะเป็นอย่างนี้อีกสักเท่าไรกันนะ”
แดฟถอนหายใจและพูดกับตัวเองสังคมที่นับวันจะแย่ลงเด็กที่ถูกทอดทิ้งนับวันจะเพิ่มขึ้นทุกวัน
********************************************************
หญิงสาวร่างสูงเพรียวนั่งรอคุณพ่อแดฟผู้ดูแลมูลนิธิสโนไวท์แห่งนี้ในห้องรับแขกของมูลนิธิเธอดูสวยผิดแผกจากหญิงสาวทั่วไปใบหน้าที่คมคายรับกับผมสีน้ำตาลเข้ม
“สวัสดีค่ะ”
เธอยกมือไหว้เขามิสเตอ์แดฟยกมือไหว้ตอบเขาเคยชินกับการทักทายตามมารยาทของคนไทยเสียแล้ววัฒนธรรมไทยเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขาพอๆ กับความเข้าใจภาษาของแผ่นดินที่เขาอาศัยอยู่
“สวัสดีครับผมไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับผมครับ”
แดฟถามเธอภายใต้แว่นตาสีดำนั้นเธอถอดมันออกดวงตาที่เป็นประกายของเธอมีน้ำตาคลอเอ่ออยู่ที่หางตาใบหน้าที่แสดงออกถึงความเสียใจ ความเจ็บช้ำ
“ฉันรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของฉันมาพักอยู่กับคุณ”
แดฟคิ้วขมวดสงสัย
“ลูกสาวคุณที่นี้มีเด็กผู้หญิงเยอะแยะนะครับผมไม่ทราบว่าลูกสาวที่คุณพูดถึงเธอชื่ออะไรเหรอครับผมขอโทษที่ต้องเข้มงวดเพราะเพื่อความปลอดภัยของเด็กนะครับ”
“ลิลลี่ค่ะ”
“คุณมีอะไรมายืนยันว่าเป็นแม่ของเธอบ้างครับผมต้องป้องกันไว้”
หญิงสาวก้มลงหยิบเอกสารที่แสดงถึงสายสัมพันธ์ของผู้หญิงคนนี้กับเด็กหญิงลิลลี่ที่พึ่งเข้ามาอุปการะอย่างชัดเจน
“ขอผมคุยกับเธอก่อนนะครับขอพูดกับคุณตรงๆ นะครับถึงมีเอกสารอย่างชัดเจนว่าคุณเป็นแม่ของเธอแต่ดูเหมือนระหว่างคุณทั้งสองมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เธอไม่ต้องการจะกลับไปหาคุณโดยธรรมชาติแล้วเด็กอายุขนาดเธอต้องการที่จะใกล้ชิดมารดามากกว่าใครทั้งหมดแต่สำหรับเธอแล้วตรงกันข้าม”
หญิงสาวเอื้อมมือแตะมือของแดฟไว้เชิงขอร้อง
“ใช่มีบางอย่างที่คุณพูดจริงๆ แต่ฉันรักเธอนะคะเธอเป็นสายเลือดเดียวที่ฉันมีเธอเป็นทุกอย่างของฉันค่ะ กรุณาเถอะค่ะเรามีเรื่องที่ยังเข้าใจผิดกันอยู่”
แดฟพอจะเข้าใจปัญหาของสองแม่ลูกขึ้นมาบ้างเขาลุกขึ้นเพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยระหว่างเด็กหญิงที่อยู่ในอุปการะและผู้ที่มาอ้างตัวเป็นแม่ของเธออย่างน้อยเอกสารที่หญิงสาวผู้นี้ให้เขาดูก็เป็นหลักฐานสำคัญถึงเด็กหญิงนิตยาที่เขารับอุปการะ
“นิตยาหนูมาอยู่ตรงนี้นานแล้วหรือ”
เมื่อแดฟออกมาจากห้องรับแขกทางขวามือเขาเห็นเด็กหญิงยืนพิงกำแพงเขาแน่ใจว่านิตยาคงรู้แล้วว่าตอนนี้ผู้เป็นมาดาของตัวเองมาตามตัวเธอกลับบ้าน
“หนูไม่กลับนะคะคุณพ่อ” เด็กหญิงร้องบอกเมื่อเห็นผู้ที่ช่วยเหลือเธอร้องทักขึ้น
“แม่ของหนูกำลังรอหนูอยู่นะนิตยาทำไมหนูไม่อยากกลับบ้านล่ะ”
นิตยาเพ่งมองหน้าแดฟ
“หนูไม่ต้องการมีแม่อย่างนั้น”
“ลิลลี่”
เสียงของหญิงสาวที่บอกว่าเป็นแม่ของเด็กหญิงร้องดังขึ้นเมื่อเห็นมิสเตอร์แดฟกำลังยืนคุยกับผู้ที่เธอต้องการเจอ
“ปล่อยหนู...หนูไม่ใช่ลิลลี่หนูชื่อนิตยา” นิตยาสะบัดมือของผู้ที่เป็นแม่
“กลับบ้านเถอะลูกแม่ขอโทษ”
หญิงสาวร้องไห้เธออยากให้ลูกสาวกลับบ้านกับเธอเหลือเกิน
“ไม่..หนูไม่กลับที่นั้นสกปรกหนูไม่ต้องการมีแม่ที่สกปรกอย่างนี้ปล่อย” เมื่อดิ้นหลุดจากมือของมารดาเธอรีบหลบอยู่ข้างหลังของมิสเตอร์แดฟเพื่อหาที่พึ่ง
“ลิลลี่แม่เป็นแม่ของลูกนะ ลิลลี่..ลิลลี่”
หญิงสาวกุมมือที่หน้าอกร้องไห้สะอื้นเมื่อลูกสาวปฏิเสธตนเอง
“คุณครับหนูลิลลี่ของคุณเธอปฏิเสธแม้แต่ชื่อลิลลี่ที่คุณตั้งให้เพราะจิตใจของเธอกำลังต่อต้านคุณยากที่จะชำระล้างสิ่งที่เธอรับรู้มาได้ ผมคิดว่าหากเธอไม่ต้องการจะกลับผมจะดูแลเธอเอง”
“แต่เธอเป็นลูกสาวของฉันนะคะ”
หญิงสาวน้ำตาไหลเอ่อออกมาอย่างเสียใจ
“ผมเข้าใจครับเรื่องของนิตยาผมสัญญาคุณจะรู้ทุกความเป็นไปของเธอ ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคุณกับเธอละเอียดอ่อนแต่เธอจะรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่ที่นี้กับผม”
“ฉัน...”
“ยิ่งคุณต้องการดึงแกกลับเท่าไหร่แกก็จะยิ่งหนีคุณมากขึ้นเท่านั้นหากเป็นอย่างที่ผมบอกคุณอาจจะไม่ได้ยินแม้แต่ข่าวของเขานะครับ”
“แต่ฉันจะไม่มีสิทธิ์เลี้ยงดูแกหรืออย่างไรกัน”
“วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด”
นิตยาวิ่งออกไปจากวงสนทนาของทั้งคู่หญิงสาวพยายามจะตามเธอไปแต่เธอก็จนปัญญาเมื่อเด็กหญิงหนีหายไปแดฟที่วิ่งตามทั้งคู่ไปก็หยุดตามเมื่อหญิงสาวทรุดลงนั่งหมดเรี่ยวแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
“ลุกขึ้นเถอะครับ”
แดฟพยายามพยุงหญิงสาวเอาไว้
“ฉันผิดด้วยหรือที่ทำอาชีพนี้ฉันผิดด้วยหรือที่ยอมให้เธอเกิดมาเป็นลูกของฉัน ฉันเลือกที่จะให้เธอเกิดมาแต่เธอกลับมองไม่เห็นมัน คุณก็รู้ไม่ใช่หรือค่ะอาชีพนี้มันทำให้ฉันถูกคนที่รักที่สุดในชีวิตปฏิเสธ”
“ผมรู้ครับเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นได้คุณเลือกที่จะเป็นมากกว่านะครับ สำหรับนิตยา...เธออยากชื่อนิตยาครับผมจะดูแลเธอเองสักวันเธอจะอภัยให้คุณในฐานะลูกสาวของผมคุณคงไว้ใจ”
“แม้แต่ชื่อที่ฉันตั้งให้มันไม่มีความสำคัญเลยหรืออย่างไรกัน ขอบคุณคะแดฟ...ขอบคุณมากคุณเป็นคนอื่นแต่มีสิทธิ์ที่จะดูแลความเจริญเติบโตของแกผิดกับฉันที่สามารถเฝ้าดูแก่อยู่ห่างๆ เท่านั้น” หญิงสาวรู้ว่านิตยาไม่มีทางกลับมาเป็นลิลลี่ของเธอได้อีกแล้วเธอร้องไห้อยู่นั้นเป็นเวลานานปานใจจะขาด
****************************************************************
เหตุการณ์บางอย่างนิตยาไม่ต้องการเจอและคิดถึงเธอปฏิเสธสิ่งที่ติดตัวประวัติความเป็นมาเธอไม่ต้องการเป็นลิลลี่เธออยากจะลืมทุกอย่างที่เป็นลิลลี่และเธอจะเป็นนิตยาผู้ที่อยู่ในการอุปการะของมูลนิธิสโนไวท์
แต่ในตอนนี้เสียงชิมบุญตัวน้อยร้องลั่นจิตรีกำลังชงนมผงให้
“ไม่ร้องนะคะคุณหนู แม่คุณของจิตรี” จิตรีอุ้มทารกในอ้อมแขนด้วยความเวทนาสงสารเธอทำหน้าที่เลี้ยงพิธานและกำลังทำหน้าที่เลี้ยงลูกสาวที่พึ่งคลอดของพิธาน
“ชิมบุญเป็นยังไงบ้างคุณจิต” พิธานเดินเข้ามารับเด็กหญิงมาอุ้มแล้วก้มลงหอม
“คุณหนูคงหิวค่ะเด็กแรกเกิดอย่างนี้สมควรที่จะได้รับนมแม่มากกว่านมผงอย่างนี้นะคะคุณ พิธาน” จิตรีบอก
“นิตยาเขาไม่ยอม หน้าที่เลี้ยงลูกสาวฉันคงจะต้องเป็นคุณจิตแล้วนะเลี้ยงฉันมาจนขนาดนี้แล้วต้องมาเลี้ยงลูกสาวฉันอีก” พิธานอึดอัดใจและผิดหวังเขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
“คุณหนูหน้าตาน่าเกลียดน่าชังอย่างนี้อีกหน่อยพอคุณเธอเห็นก็ต้องรักสายเลือดตัดกันไม่ขาดหรอกค่ะคนเป็นแม่ยังไงเสียต้องมีสัญชาตญาณรักลูกอยู่แล้วค่ะคุณ”
พิธานเองก็หวังว่าสักวันหนึ่งนิตยาจะยอมรับลูกสาวคนนี้ เขาไม่เคยเข้าใจเธอเลยเพราะเสน่ห์ความสวยของเธอทำให้เขาหลงใหลเธออย่างมากมายเพียงนี้
*****************************************************************
พิธานยังมองเห็นภาพหญิงสาวอ่อนหวานนิตยาเป็นหญิงสาวที่เข้ามาทำงานในโรงแรมพาราไดซ์ของเขาที่พึ่งเข้ามาบริหารงานหลังจากพ่อกับแม่ของเขาได้เสียชีวิตลง
“ขอโทษค่ะ”
พิธานตกใจเมื่ออยู่ๆ หญิงสาวหน้าตาดีก็กระแทกเข้ามาในอ้อมกอดของเขาในขณะที่เขากำลังเดินดูสวนหย่อมในบริเวณโรงแรมแปลกกุหลาบสีขาวที่เขาเพิ่งให้คนงานเอามาปลูกได้ไม่กี่เดือนกำลังมีดอกและส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ
“ไม่เป็นไรแต่เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่าหนีอะไรมา”
นิตยาไม่เคยรู้มาก่อนว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของเขานี้เป็นใครเธอมองเขาผมสีดำเข้มผิวสีแทนดวงตากลม ชายหนุ่มจัดว่าหน้าตาดีพอที่จะทำให้หญิงสาวที่พบเจอต้องหยุดมองได้
“ฉันไม่ได้หนีอะไรค่ะกำลังรีบเพราะวันนี้เจ้านายคนใหม่กำลังจะมาขอโทษนะคะ”
“เดี๋ยวอย่าพึ่งไป”
นิตยาหันมา
“ฉันต้องรีบไปค่ะ”
หญิงสาวไม่รอฟังพิธานยังเขาท่าทีรีบร้อนของเธอ คงเป็นผู้หญิงคนแรกที่ไม่เคยสนใจว่าเขาจะเป็นมาจากไหนแต่กลับไม่ไยดีทำให้เขารู้สึกสนใจในตัวเธอ
***********************************************************
นิตยานั่งรออยู่ในห้องรับแขกเธอสำรวจชุดที่ตัวเองใส่ถึงมันจะไม่มีราคาแพงจัดแต่เธอตั้งใจที่ใส่มันเพื่อต้อนรับงานใหม่
“น้องเชิญค่ะคุณพิธานกำลังรออยู่” เสียงเลขาหน้าห้องเจ้าของโรงแรมพาราไดซ์บอกเธอ
“ขอบคุณค่ะ” นิตยาลุกขึ้นถอนหายใจแรงๆ เสียครั้งหนึ่งเธอกำลังเรียกความมั่นใจตลอดทางที่เดินมาถึงหน้าห้องทำงานของเจ้านายคนใหม่
“เชิญเข้ามาได้” เสียงของผู้ที่อยู่ในห้องพูดดังออกมาเมื่อเลขาเคาะประตูบอก นิตยาเองก็รู้สึกคุ้นๆ เสียงนั้นเหมือนเธอได้ยินมาจากที่ไหน เมื่อเข้าไปในห้องชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้นวมตัวใหญ่ในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มกำลังเซ็นต์เอกสารบางอย่างในแฟ้ม
“มาแล้วหรือครับเชิญนั่ง”
พิธานยิ้มเขาเห็นว่าเรื่องเมื่อเช้าเป็นเรื่องตลกสำหรับเขาถึงได้ยิ้มออกมาได้หน้าตาเฉย
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันขอตัวนะคะ”
เลขาของพิธานเลี่ยงออกไปแล้วนิตยาได้แม่นั่งเฉย พิธานเองก็มองเธอ เขานึกขำในท่าทางที่ตื่นๆ ของเธอแต่เขาทำแกล้งไม่สนใจเธอ
“จากประวัติคุณพักอยู่มูลนิธิสโนไวท์แต่คนที่รับรองคุณคือ...” พิธานถามเมื่อเขาก้มดูแฟ้มประวัติที่ถูกส่งมาให้เขาพิจารณาเลือกผู้ช่วยของเขาเพื่อแบ่งเบาภาระที่หนักอึ้งของเลขา
“ค่ะฉันอาศัยอยู่ในมูลนิธิส่วนคนที่รับรองฉันเป็นผู้ที่อุปการะคนหนึ่งของมูลนิธิเท่านั้นค่ะ”
เธอรีบปฏิเสธทันทีเมื่อเขาทักชื่อคนดั่งในเมืองนี้ที่เป็นผู้รับรองประวัติและความประพฤติของเธอ พิธานเลิกคิ้วเขาสงสัยแต่เรื่องส่วนตัวของหญิงสาวไม่เกี่ยวกับความสามารถด้านการทำงาน
“อ้อ..แต่เธอบอกว่าคุณเป็น..แล้วครอบครัวคุณเขายอมให้คุณมาเป็นพนักงานที่นี้ได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ”
“เออฉันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขาฉันโตมาจากมูลนิธิสโนไวท์คนที่จะห้ามฉันไม่ให้ทำในสิ่งที่ฉันต้องการได้มีเพียงคุรพ่อแดฟเท่านั้น ส่วนครอบครัวไม่มีค่ะทั้งพ่อและ...แม่มานานเท่าชีวิตของฉันตอนนี้”
เสียงของนิตยาเหมือนไม่อยากจะเอ่ยเรื่องราวที่มาของเธอมากนัก
“ผมไม่ละลาบละล้วงคุณแล้วกันการศึกษาประสบการณ์การทำงานของคุณเหมาะสมกับตำแหน่งที่ผมต้องการพอดี แต่มีข้อแม้ว่าคุณจะมีห้องพักพนักงานในโรงแรมนะเพราะหากผมต้องเรียกคุณทำงานจะได้ไม่มีปัญหาคุณจะว่ายังไง”
“ค่ะคุณพ่อแดฟเข้าใจค่ะ”
พิธานรู้สึกถึงความเมตตาของชายชาวต่างชาติที่มีให้กับหญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา
“คุณแดฟเป็นคนดีจริงๆ” พิธานกล่าวชมการมีมูลนิธิสโนไวท์ในเมืองที่มีอัตราเสี่ยงต่อเด็กเร่ร่อนและเด็กที่เกิดมาอย่างไม่พึงประสงค์ของผู้ให้กำเนิดถูกทำร้ายนั้นมีมากพอดู
“ค่ะท่านเป็นพ่อพระของเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสเหมือนกับฉัน”
“แต่ตอนนี้คุณมีโอกาสที่ดีกว่าทุกคนแล้ว”
“ค่ะ” นิตยาได้แต่รับคำ
“คุณนิตยาโอกาสไม่ได้มาหาเราบ่อยๆ สิ่งสำคัญเพียงแค่คุณคว้าโอกาสนั้นไว้ทำให้มันดีที่สุดและทำมันให้เต็มความสามารถ”
เขาพูดกับเธออย่างจริงจังจนนิตยาพอจะรู้และเข้าใจคำว่าโอกาสที่เขาว่านั้นมันคือความในใจที่เขาต้องการจะบอกเธอมากกว่า สิ่งที่เธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้นความเคลื่อนไหวของเธอยังมีอีกคนที่รักและห่วงเธอมากมายแต่ทุกอย่างเป็นเหมือนควันที่ลอยผ่านมันไปเท่านั้นเองในความรู้สึกลึกๆ ของเธอ
************************************************
ตั้งแต่วันแรกที่พิธานได้รู้จักนิตยาเขาตกหลุมเธอก็ว่าได้เฝ้าเวียนวนอยู่ใกล้ๆ เธอจนเธอใจอ่อนยอมแต่งงานกับเขาแม้ไม่ได้มีพิธียิ่งใหญ่หรูหรานิตยาและพิธานก็พอใจ เธอยังคงเข้ามาช่วยดูแลโรงแรมพาราไดซ์ร่วมกับเขา จนกระทั่งเธอตั้งท้องลูกคนแรกของชีวิตน้อยที่นิตยาคาดหวังว่าจะมาเติมเต็มช่วงชีวิตที่ขาดหายไปของเธอสร้างความสัมพันธ์อันดีของเธอและพิธาน ในบางมุมนิตยาค่อยๆ เปิดใจความรู้สึกของตัวเองพิธานรับรู้เขารักเธอเกินกว่าจะปล่อยให้เธอต้องเผชิญกับสิ่งที่เธอเป็นเพียงลำพัง นิตยาซาบซึ้งกับความรักที่พิธานมีให้เธอ
“ผมอยากเห็นหน้าลูกจัง” พิธานตื่นเต้นที่ชีวิตน้อยที่เธอและเขาร่วมกันสร้างกำลังจะเกิดมา
“ฉันก็อยากเห็นหน้าลูกของเราเหมือนกันค่ะ”
นิตยานั่งบนเก้าอี้ที่ระเบียงห้องนอนพิธานลูบท้องของเธอเด็กในท้องกำลังดิ้นเมื่อรู้ว่ามีมือของผู้เป็นพ่อสัมผัสผ่านท้องของแม่ทารกในครรภ์ของหญิงสาวดูเหมือนจะรับรู้ความอบอุ่นนั้น
“คุณว่าลูกจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” พิธานถามสำหรับเขาแล้วลูกที่เกิดมาจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็มีความหมายกับเขาทั้งสิ้น
นิตยาเงียบขรึมลงทำไม่เธอจะไม่รู้ใจตัวเอง
“ต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นค่ะ” เธอตอบสามีเสียงแข็งขึ้นจนพิธานหวั่นใจ
“เด็กผู้หญิงน่ารักออกผมอยากได้ลูกสาวคนแรก...แล้วคนต่อ..”
“เด็กคนนี้จะต้องเป็นผู้ชายเท่านั้นลูกที่เกิดจากฉันจะต้องเป็นผู้ชายฉันไม่ต้องการเด็กผู้หญิงคุณเข้าใจไหม”
นิตยาแผดเสียงพิธานตกใจเขารวบตัวเธอไว้ไม่ให้โกรธมากกว่านี้เขาเองก็ไม่เข้าใจมากนักทุกครั้งที่พูดเรื่องเพศของลูกนิตยาจะต้องโมโหทุกครั้งเช่นกันเมื่อเขาต้องการลูกผู้หญิงมากกว่าลูกผู้ชาย แต่ความจริงของนิตยาที่พ่อแดฟได้บอกเขารวมถึงความไว้วางใจที่นิตยามีให้เขาจิตใจที่บอบช้ำมามากมาย ทำให้พิธานยิ่งรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม เขารู้ว่านิตยามีความผิดหวังกับชีวิตครอบครัวของเธอไม่เป็นอย่างที่เธอหวังเขาอยากที่จะช่วยเยียวยาเธอบ้างและลูกอีกชีวิตหนึ่งที่อาจจะทำให้นิตยาสามารถลืมสิ่งเลวร้ายในชีวิตได้
“ใจเย็นๆ นะคุณ”
“ลูกของเราต้องเป็นผู้ชายนะคะพิธาน”
“จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงผมก็รักเหมือนกันเพราะเด็กคนนี้คือลูกของผมเหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกันเด็กผู้หญิงมีปีศาจอยู่ในตัวทั้งโดนรังแกและปัญหาสารพัดฉันไม่ชอบ”
“นิตยา” เขากอดเธอไว้ศีรษะของเธอซบกับไหล่กว้างของเขาอย่างปลอบโยน อารมณ์ที่เกรี้ยวกราดของนิตยาค่อยๆ สงบลงเมื่ออ้อมกอดนั้นแขนที่อบอุ่นของสามีที่คอยอยู่เคียงข้างเธอ
พิธานถอนใจเพราะรักเธอมาก เขาไม่อยากให้เธอคิดมากไปกว่านี้เขาคิดอยู่เสมอว่าความหลังที่น่าเห็นใจของเธอมีเขาและลูกที่กำลังจะเกิดมาสามารถลบมันไปจากใจของเธอได้ จากเหตุการณ์ในวันนั้นเขาเองไม่คาดคิดว่าความรู้สึกที่นิตยามีให้กับเด็กผู้หญิงนั้นยังไม่เคยเปลี่ยนแม้เขาได้หวังไว้หากนิตยาเห็นหน้าลูก
********************************************************
พิธานอุ้มลูกสาวแรกเกิดไว้ในอ้อมแขนเขาก้มลงจูบเบาๆ ที่หน้าผากเล็กๆ ของเธอ เขารักลูกสาวตัวน้อยไร้เดียงสา ยิ่งรักผู้ให้กำเนิดลูกน้อยของเขามากเท่าไรเขายิ่งรักลูกมากขึ้นเท่านั้นเมื่อนิตยาไม่ต้องการลูกน้อยเขาจะมอบความรักและชีวิตของเขาที่มีให้กับเธอลูกสาวของเขา
“ชิมบุญลูกพ่อขอให้ลูกรู้ไว้ว่าพ่อรักลูกที่สุดในชีวิต”
“สวัสดีครับคุณพิธาน”
พิธานหันไปข้างหลังชายต่างชาติที่เริ่มชราภาพลงกำลังยืนถือของขวัญสำหรับเด็กอ่อนมองเขาที่พูดอยู่กับลูกสาวด้วยสายตาอ่อนโยนความรักที่พ่อมอบให้ลูกนั้นดูเหมือนกำลังมีอะไรบางอย่างทำให้ความยินดีที่ควรจะมีกับชีวิตน้อยๆ ที่ถือกำเนิด
“คุณแดฟเชิญนั่งครับ”
แดฟนั่งลงบนเก้าอี้รับแขกตั้งแต่พิธานแต่งงานกับนิตยา แดฟเปรียบเสมือนญาติผู้ใหญ่ของเขาเพราะแดฟเป็นผู้ที่อุปการะนิตยาภรรยาของเขามาตั้งแต่เล็กๆ และเป็นเครื่องมือที่ทำให้เขาสามารถเยียวยาจิตใจของนิตยาได้
“หลานเป็นผู้ชายใช่ไหมครับ”
“เปล่าครับเธอเป็นลูกสาว” พิธานบอกพลางก้มลงมองลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขนของตนโดยไม่สังเกตสีหน้ากังวลของแดฟ
“ผมขอดูหน้าหลานหน่อย” แดฟชะโงกหน้าดูทารกในห่อผ้าขาว
“เธอเหมือนคุณมากพิธาน”
พิธานยิ้มเขาสบายใจทุกครั้งเมื่อได้คุยกับผู้สูงวัยคนนี้เวลามีปัญหาที่ไม่เข้าใจกับนิตยาภรรยาของเขา
“ครับเธอน่ารัก...น่ารักอย่างนี้แต่แม่กลับไม่ต้องการ”
“ทำไมนิตยา...” แดฟถามในสิ่งที่เขารู้แก่ใจว่าเพราะเหตุใดนิตยาถึงเป็นอย่างนี้
“นิตยาเขาไม่ต้องการลูกเขาไม่แม้แต่มองด้วยซ้ำทั้งที่เด็กคนนี้เกิดมาจากความรักของเราแต่เขาไม่ต้องการเธอใจร้ายกับลูกเหลือเกินครับ ผมสงสารลูกอย่างน้อยลูกก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เธอเกลียดนะครับคุณแดฟชิมบุญบริสุทธิ์เกินที่จะรับความไม่ตจ้องการของแม่”
พิธานพูดอย่างสงสารลูกสาวแรกคลอดของเขาทารกน้อยที่ยังบริสุทธิ์ไม่อาจที่รับรู้เหตุการณ์นี้ได้เลย
“นิตยาเองก็คงจะเจ็บปวด”
แดฟพยายามปลอบพิธาน
“เธอไม่สามารถอดีตของตัวเองหรอกครับคุณแดฟในเมื่อครอบครัวของเราเมื่อมีปัญหาทุกวันนี้ได้รับความช่วยเหลือจาก...อยู่เสมอ”
แดฟพยักหน้า
“ผมเองก็ส่งข่าวให้ฝ่ายโน้นรู้ตลอดอย่างน้อยเขาก็มีสิทธิ์ที่จะรู้นะครับ ยิ่งคุณทั้งสองมีทายาทแล้วทางโน้นดีใจเสียยิ่งกว่าใคร”
สายตาของพิธานที่มองชายสูงวัยด้วยความศรัทธาความมีน้ำใจ จิตใจที่ดีงามที่มีให้กับภรรยาและตัวเขาเองผู้ที่เป็นที่พึ่งทางใจได้อย่างดีเยี่ยม
“ผมอยากให้นิตยาเปิดใจครับคุณแดฟ”

“ความไร้เดียงสาของทารกที่เป็นสายเลือดของเธอเองและสัญชาตญาณของความเป็นแม่จะทำให้เธอเปิดใจได้นะครับ”
“ผมก็ได้แต่หวังครับ”
“ผมขอไปพูดกับเธอเองเธอคงนึกถึงแม่ของเธอที่ทิ้งเธอไปเท่านั้นนิตยาต้องการความรักมากนะครับคุณคงรู้ชีวิตของเธอต้องเจออะไรมากมายเกินที่คุณจะเข้าใจคุณรับปากกับผมแล้วว่าจะรักเธอไม่ว่าสิ่งที่เธอกระทำจะร้ายแรงเพียงใดก็ตามคุณคงไม่ลืมคำพูดของคุณนะครับ” แดฟพยายามไกล่เกลี่ยให้ทุกอย่างดีขึ้น
พิธานพยักหน้า
“ผมทราบครับเพียงแต่ผมสงสารลูกชิมบุญเองก็ต้องการความรักจากแม่อย่างนิตยาเหมือนกันเธอผิดด้วยหรือครับที่เกิดมาเป็นผู้หญิง”
“หากคุณและนิตยามีลูกชายอีกคนทุกอย่างมันอาจจะดีขึ้น”
“ไม่ครับผมจะทำหมันแล้วลูกของผมจะต้องมีเพียงชิมบุญคนเดียว”
“หากคุณคิดว่านี้คือทางเลือกและจะทำให้นิตยาลืมผมก็ขอให้คุณประคองมันให้ได้นะครับคุณพิธาน”
“ผมจะพยายามให้มากที่สุดครับด้วยความรักที่ผมมีให้เธอ”
แดฟยิ้มให้กับความตั้งใจของพิธาน
“ผมเชื่อในศรัทธาของความรักที่คุณมีให้นิตยาเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่นิตยาต้องการมากที่สุดชีวิตที่ว้าเหว่ทุกชีวิตก็ต้องการความรักเสมอ”
“ผมเคยสัญญากับคุณแล้วว่าผมจะทำทุกอย่างเพื่อความสุขของเธอครับยังไงเสียผมก็จำอย่างนั้นต่อไป”
********************************************************************
แดฟเข้าไปในห้องพักฟื้นของนิตยาหลังจากได้คุยกับพิธาน
“คุณพ่อเด็กคนนั้นเป็นผู้หญิงทำยังไงดี” นิตยาร้องไห้อย่างสุดตัวเมื่อเห็นแดฟผู้ที่เธอรักเหมือนกับพ่อของเธอเอง
“ไม่เป็นไรลูก” แดฟรีบเข้าไปลูบผมนิตยาเพื่อปลอบประโลม
“หนูไม่ต้องการมันนะคะเด็กคนนั้น”
แดฟกอดหญิงสาวเพราะรู้ความนึกคิดของเธอดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอเขามาอยู่ในอุปการะเธอก็เหมือนเป็นลูกสาวของเขาคนหนึ่งรวมทั้งเด็กๆ อีกมากมายในมูลนิธิ
“เด็กคนนั้นมีปีศาจที่คอยหลอกหลอนมีสัตว์ร้ายสิงอยู่ในตัวหนูไม่ต้องการคุณพ่อ หนูไม่ต้องการมัน”
“หนูสามารถควบคุมมันได้นะนิตยาเด็กยังบริสุทธิ์หนูสามารถสอนแกได้พ่อเชื่อว่าแกจะไม่เป็นอย่างที่หนูกลัวนิตยาเด็กคือสายเลือดของหนูแกไร้เดียงสาแกต้องการความอบอุ่น ความรักของหนูนะ”
“แต่หนูกลัวมันเหมือน....เหมือนกับแม่ของหนูเหมือนสิ่งที่หนูเจอมาหนูไม่ต้องการให้เป็นอย่างนั้นมันทรมานมากเลยนะคะคุณพ่อและสิ่งที่หนูเคยเจอมาภาพนั้นยังไม่เคยลืมจากใจหนูได้เลย”
“ไม่เหมือนหรอกหน้าที่ของหนูคือต้องดูแลเด็กให้ดีที่สุด การปกป้องลูกสาวของหนูคือสิ่งที่ดีที่สุดนะลูก”



นิตยาเงียบลงเธอฟังสิ่งที่แดฟพูด
“พ่อเชื่อว่าเด็กไม่เหมือนอย่างที่หนูกลัวเพราะเธอมีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนหนูและมีความอ่อนโยนของพิธานพ่อของเธอหนูต้องดูแลเธอปกป้องเธอและหนูจะสามารถควบคุมปีศาจสัตว์ร้ายที่สิ่งอยู่ในตัวเธอเหมือนที่หนูบอกพ่ออยากให้หนูพักผ่อนมีหลายเรื่องที่หนูจะต้องทำนิตยาพ่อและทุกคนคอยช่วยเหลือหนูอยู่เสมอ”
นิตยายกมือไหว้แดฟทุกครั้งที่เธอและเด็กอื่นๆ เกิดเรื่องมิสเตอร์แดฟชายชราผู้อุทิศชีวิตจิตใจเพื่อสังคมก็จะเข้ามาช่วยเหลือทุกครั้งไป
“หนูจะปกป้องดูแลและควบคุมสัตว์ร้ายในตัวเธอค่ะคุณพ่อ”
“พ่อเชื่อในความสามารถของหนูแต่ตอนนี้หนูต้องทำหน้าที่แม่ที่ดีของเด็กเสียก่อนเด็กหิวอย่าปล่อยให้เธอหิวนะ”
“ค่ะ”
********************************************************************
ภาพอดีตทำให้นิตยาหวาดกลัวเธอรู้ว่าผู้หญิงมักเสียเปรียบทุกอย่างในสังคมคมไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ แม้เมื่อครั้งนิตยาได้เข้าไปอยู่ในความดูแลของแดฟนั้นเธอโดนเพื่อนๆ วัยเดียวกันแกล้งสารพัดแต่ก็ยังดีกว่าไปเจอกับสิ่งอันตรายที่อยู่ข้างนอกดีกว่ากลับไปรับรู้สิ่งที่ผู้เป็นมารดาของเธอกระทำมา
“ปล่อยฉันนะ...” นิตยาถูกเด็กผู้ชายอายุมากกว่าสองคนจับไหล่ไว้
“แกคิดว่าคุณพ่อรักมากนักเหรอยัยเด็กบ้า” เด็กชายผิวคล้ำกว่าตะโกนใส่หน้าในสถานที่ลับตาของมูลนิธินี้ทั้งเกลียดชังเด็กหญิงที่พึ่งเข้ามาแต่กลับเป็นที่รักของพ่อแดฟและบรรดาครูผู้ดูแลมากกว่าเด็กคนอื่น
“ทำไมแกต้องได้ของดีๆ กว่าพวกเราด้วย” เด็กชายอีกคนที่จับไหล่นิตยาร้องออกไปด้วยอารมณ์โมโห
“ก็อย่างพวกแกเรียนก็ไม่เก่งดีแต่หาเรื่องคนอื่นแม้แต่ผู้หญิงไม่มีทางสู้อย่างฉัน” นิตยายังใจดีสู้เสือตะโกนสวนออกไป
เด็กชายทั้งสองโมโหยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินคำพูดดูถูกจากเด็กหญิง
“ดูสิคราวนี้ใครจะช่วยแก จับมันให้แน่น”
เด็กชายผิวคล้ำสั่งอีกคนเขาเริ่มเป็นหนุ่มแล้วเรียนรู้อะไรมาบ้างจากสถานที่ตรงข้ามมูลนิธินั้นทั้งสองอยากรู้อยากลองเหมือนที่เด็กหนุ่มทุกคนรู้สึกมือผู้ที่ออกคำสั่งล้วงเข้าไปในกระโปรงของนิตยาที่ตกใจไม่ทันได้ตั้งตัว
“อย่า...ไม่...”
เสียงเด็กหญิงร้องดังลั่นเด็กหนุ่มทั้งสองชะล่าใจกับการกระทำของตน ทันใดนั้นเด็กชายทั้งสองโดนกระชากจากผู้เป็นเจ้าของมูลนิธิอย่างเต็มแรงทั้งสองล้มลงกับพื้น
“หยุดเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มของชายร่างใหญตกใจที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายนี้
แดฟกำลังเดินสำรวจสถานที่ทั่วไปและสังหรณ์ใจบ้างอย่างทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเด็กหญิงเสียงของนิตยานั้นเองเขาจำได้ดีและรีบวิ่งมาตามเสียงร้องที่ได้ยินนิตยาตัวสั่นเทาในอ้อมกอดของแดฟด้วยความหวาดกลัว
“เธอทั้งสองทำสิ่งที่ชั่วร้ายมากฉันจะไม่อภัยพวกเธอมาที่ห้องฉัน”
“คุณพ่อ”


นิตยาร้องไห้ถึงแม้ทั้งสองหยุดการกระทำไว้แต่นิตยาก็รับรู้ถึงอารมณ์ของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงเสียแล้วในเวลานี้
“ไม่เป็นไรแล้วลูก”
การถูกเอาเปรียบจากเพศตรงข้ามเป็นเหมือนฝันร้ายที่เธอไม่อาจจะลืมเลือนไปได้เลยชั่วชีวิต
**********************************************************************
เหตุการณ์ในวันนั้นนิตยาฝั่งใจกับความอ่อนแอของผู้หญิงและความรู้สึกที่ผู้หญิงเริ่มรับรู้ในวัยที่กำลังเป็นสาวแม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านเนิ่นนานเพียงใดเธอยังไม่สามารถลืมมันได้และสิ่งที่เธอจะต้องเจอเธอกังวลเหลือเกินและไม่ต้องการสายเลือดที่เป็นเพศเดียวกัน นิตยาเอื้อมมือกดกริ่งเรียกพยาบาล
“ฉันอยากให้นมลูก” นิตยาบอกกับพยาบาลอย่างน้อยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ในตัวเธอก็ยังมีอยู่บ้างอย่างที่แดฟบอกทารกน้อยเป็นสายเลือดที่เธอผ่านความเจ็บปวดมาอย่างยากลำบากเพื่อให้กำเนิดชีวิตน้อยนั้น
พิธานอุ้มลูกสาวเข้ามาในห้องพักที่นิตยากำลังรออยู่แต่แดฟได้กลับไปแล้ว
“ส่งมาให้ฉันสิ”
“คุณยังต้องการแกอีกหรือนิตยา”
“การดูแลแกและปกป้องแกเป็นหน้าที่ของฉันไม่ใช่หรือพิธาน”
“ใช่เราทั้งสองคนมีหน้าที่ดูแลและปกป้องแก”
นิตยาพูดกับพิธานเขาไม่อยากเชื่อต่อให้เขาพูดกับเธอยังไงนิตยาก็ไม่ฟังแต่กับแดฟผู้เป็นเหมือนพ่อของเธอพูดเท่านั้นนิตยาเปลี่ยนเป็นคนละคน
“เบาๆ นะแกหิวมาก” พิธานส่งลูกสาวให้ภรรยาที่กำลังจะทำหน้าที่ของผู้เป็นแม่ป้อนน้ำนมจากอกของตัวเองให้กับลูกสาวที่เธอเคยคิดไม่ต้องการ
เด็กน้อยส่งเสียงเล็กน้อยและสงบลงเมื่อน้ำนมอุ่นๆ กำลังไหลเข้าปากเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตของตน
“ผมดีใจที่คุณไม่รังเกียจแก”
“แกตัวเล็กอย่างนี้ยังต้องเจอกับเรื่องราวอีกมากมาย เด็กผู้หญิงทุกคนมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าอยู่ในตัวเป็นหน้าที่ของฉันที่จะต้องควบคุมมันให้ได้”
“คุณพูดเหมือนกับลูกไม่ใช่คนแกเป็นมนุษย์เหมือนเราย่อมจิตใจความรู้สึกนึกคิดคุณจะมาห้ามไม่ให้มีอิสระไม่ได้หรอก”
นิตยานิ่งเงียบพิธานไม่อาจรู้ในเบื้องลึกจิตใจของภรรยาบางครั้งเธอเป็นหญิงสาวที่น่ารักน่าทะนุถนอมแต่ในบ้างครั้งเธอก็จะแฝงความน่ากลัวและแสดงออกมาทำให้ผู้ที่อยู่รอบข้างต้องตกอยู่ภายใต้จิตใจรุนแรงของเธอได้เสมอ
“จิตรีจะทำหน้าที่เลี้ยงดูแกแต่ในช่วงนี้แกยังต้องการน้ำนมจากคุณ ผมขอความกรุณาคุณแค่นี้จะได้ไหม”
นิตยาหันไปมองจิตรีด้วยแววตาบางอย่างจิตรีเองก็หวาดๆ กับสายตานี้ทุกครั้งที่ผู้เป็นนายหญิงมอง หญิงสูงวัยรีบหลบสายตานั้นทันทีนิตยาในยามนี้เหมือนสามารถกระทำในสิ่งที่ไม่มีใครจะคาดคิดได้
“จิตรีอายุมากแล้วฉันดูแลของฉันเองได้หรือคุณไม่ไว้ใจฉันเป็นแม่ของแกนะคะคุณลืมไปแล้วหรือไง”
พิธานอยากบอกเธอว่าใช่เหลือเกินเพราะเขาเองยังต้องทำงานบางครั้งอาจต้องมีการเดินทางเขาไม่ไว้ใจนิตยาเลยที่จะดูแลลูกสาวของเขา
“ผมแค่กลัวว่าคุณจะเหนื่อยจิตรีเคยเลี้ยงผมมาเธอรู้ว่าควรทำยังไงกับเด็ก”
เด็กน้อยหลับสนิทเมื่อผู้เป็นแม่ให้นมเสร็จเรียบร้อยแล้วจิตรีรับไปยังอีกห้องหนึ่งที่พิธานแยกลูกสาวให้ออกจากแม่ จิตรีค่อยๆ วางร่างเล็กๆ นั้นบนเตียงสำหรับเด็กอ่อนเธอมองเจ้าน้อยตัวน้อยที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างเวทนาที่เกิดมาพร้อมด้วยทรัพย์สินแต่กับสิ่งที่เธอต้องเผชิญวันข้างหน้าจิตรีมองมันด้วยวัยที่เริ่มชราแล้วอย่างเป็นกังวล
**************************************************
สองสามีภรรยากำลังสนทนากัน เธอสงบลงได้นิตยานึกภาพของตัวเองที่ให้นมลูกสาวกระแสน้ำนมที่เด็กน้อยดูดด้วยความหิวทำให้นิตยารับรู้ความผูกพันระหว่างแม่ลูกก็คงจะมีอยู่ในจิตใจที่แตกร้าวของนิตยา
“ฉันรู้ว่าฉันควรทำอย่างไรคุณพ่อท่านได้ให้ความคิดแก่ฉันมากมายคุณควรปล่อยหน้าที่นี้ให้ฉันนะคะพิธาน”
นิตยารู้จุดอ่อนของพิธานหากเธอพูดกับเขาอย่างใจเย็นเขาก็ย่อมจะใจอ่อนและยอมเธอในที่สุดเหมือนครั้งนี้
“ก็ได้เพราะคุณเป็นแม่ของแกอย่างน้อยความผูกพันทางสายเลือดของคุณกับแกทำให้ผมพออุ่นใจได้บ้าง”
พิธานใจอ่อนเขาวาดฝันที่จะสร้างครอบครัวอันแสนสุขระหว่างเขาและเธอ เขารู้อยู่เต็มอกว่านิตยามีความหลังที่โหดร้ายระหว่างตัวเธอและผู้เป็นมารดาเขาแค่เพียงหวังว่าการมีลูกน้อยจะทำให้เธอลืมอดีตของเธอได้



topaz
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2555, 15:05:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2555, 15:06:44 น.

จำนวนการเข้าชม : 1228





อ้อย 23 ก.ค. 2555, 03:05:03 น.
น่าติดตามมากค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account