ปีกนางฟ้า (Angel Wing)
เมื่อ สิ่งที่ เรียก ว่า "โชคซะตา" ที่ เรา ทุก คนเชื้อมา ตลอดว่า เราเป็นผู้ กำหนด เส้นทางของเราเอง แต่ ทว่า สิ่งที่ เราทำได้ กลับมี เพียง แต่ เดินไป ตามเส้นทางของ โชคซะตา ที่ถูกกำหนดมาให้เรา แล้ว
Tags: เวทมนตร์.วิญญาญ.ยมทูต.เทวทูต.ความดี.ความเลว.รักหวานซึ้ง

ตอน: The Book Of Darkness VIII

“เจ้า นั้นล่ะ ครับ” ขณะ ที่เจราสกำลังจะตอบคำถามของรีฟอส กลับมีมือแทงทะลุหน้าอกของเจราส เลือดสาดกระเด็นโดนใบหน้าของรีฟอสและเทียน่า ทันที เทียน่ายกมือขึ้นสัมผัสน้ำที่กระเด็นถูกใบหน้าตนเองขึ้นดูว่ามีสีแดงก็ตัว สั่น จนทำอะไรไม่ถูก รีฟอสเห็นเทียน่าเป็นเช่นนั้นก็รีบคว้าตัวเทียน่าเข้ามากอดไว้ เจราสพยายามหันกลับไปมองด้านหลัง พร้อมๆกับจ้องมองชายชุดดำที่ยืนอยู่โดยปราศจากบาดแผล
“ทำไมแกยังไม่ ตาย”ด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวดจากแผลที่หน้าอก ชายชุดดำเงียบไม่ตอบ เจราสจึงพูดต่อ
“แกใช้การ์ดวาร์ป (vanish) งั้นหรอ” ชายชุดดำเงียบไม่ตอบแต่กลับยิ้มขึ้นแทน เจราสหันกลับมามองทาง

รีฟอส
“หนี ไป” ด้วย สายตาและน้ำเสียงที่เป็นห่วง รีฟอสไม่รอช้ารีบคว้ามือเทียน่าแล้ววิ่งออกห่างจากชายชุดดำทันที ชายชุดดำดึงมือออกจากหน้าอกของเจราส เจราสทรุดลงกับพื้นทันที และร่างกายค่อยๆกลายเป็นละอองสีดำ รวมทั้งเม่นสองตัว จนหายไปในที่สุด รีฟอสและเทียน่ายังวิ่งไปได้ไม่ถึงไหน มาถึงแค่บริเวณที่มีสระน้ำและรูปปั้นเทพธิดาทั้งสององค์ ก็ถูกชายชุดดำมาดักด้านหน้า ชายชุดดำจ้องมองรีฟอสและเทียน่าก็ยิ้มขึ้น
“จะรีบไปไหนกัน” ด้วย น้ำเสียงที่สนุกสนาน รีฟอสมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็รู้ได้ทันทีว่าสู่ยังไงก็ไม่มีทางชนะ จึงหันมากระซิบบอกเทียน่าด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา
“พอฉันพุ่งเข้าหาชาย คนนั้น เธอรีบหนีไปเลยนะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินสิ่งที่รีฟอสบอกก็เดาได้ทันทีว่า รีฟอสยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้เธอลอด เทียน่าจึงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย แต่รีฟอสกลับไม่สนใจวิ่งเข้าใส่ชายชุดดำทันที เทียน่ามองรีฟอสที่วิ่งเข้าหาชายชุดดำก็รู้ว่าทุกนาทีแลกมาด้วยชีวิตของรี ฟอสจึงหันหลังแล้ววิ่งไป

รี ฟอสปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้าของชายชุดดำทันที แต่ชายชุดดำกลับไม่มีอาการใดๆ แถมยังสวนกลับด้วยการต่อยเข้าที่ท้องของรีฟอส รีฟอสทรุดตัวลงกับพื้นทันทีเพราะแรงหมัด รีฟอสพยายามลุกขึ้นแต่กลับถูกชายชุดดำเตะกลับจนกระเด็นไปติดขอบของสระน้ำ ชายชุดดำเดินเข้ามาหารีฟอสอย่างใจเย็น แล้วยื่นมือมาตรงหน้ารีฟอสที่นอนเจ็บอยู่
“มากับข้าซะ เจ้าหนุ่มเจ้าจะได้ไม่เจ็บปวดอีก”แล้วจ้องมองรีฟอสพร้อมๆกับพูดต่อ
“เจ้าจะได้มี พลังที่เหนือกว่ามนุษย์ไงล่ะ” รีฟอสจ้องมองชายชุดดำที่ยื่นมือมาตรงหน้า
“ไม่มี ทาง” ด้วยน้ำเสียงที่ทรมานจากบาดแผล เมื่อได้ยินคำตอบของรีฟอสชายชุดดำก็ถอนหายใจ
“ข้า นึกว่า เจ้าจะไม่เหมือนมนุษย์คนอื่นๆซะอีก” แล้วกวาด มือขึ้นร่างของรีฟอสก็ลอยขึ้นอยู่กลางอากาศ แล้วค่อยๆลอยถอยไปด้านหลังจนสัมผัสกับรูปปั้นเทพธิดาที่อยู่กลางสระน้ำ ชายชุดดำยื่นมือออกด้านข้างแล้ว ร่านมนต์ ไม่นานแท่งหินขนาดเล็ก ปลายแหลมคม ก็ปรากฏขึ้นใกล้ๆกับผ่ามือของชายชุดดำ ชายชุดดำบังคับให้รีฟอสกางแขนขึ้นทั้งสองข้าง พอรีฟอสกางแขนออก แท่งหินพุ่งเข้าเสียบแขนทั้งสองข้างของ

รี ฟอสจนทะลุถึงรูปปั้นที่อยู่ด้าน หลัง รีฟอสร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวดและทรมาน ชายชุดดำสะบัดมือ แท่งหินก็พุ่งเข้าใส่ที่บริเวณท้องของรีฟอส รีฟอสถูกแท่งหินเหล่านั้นตรึงไว้กับรูปปั้นเทพธิดาที่อยู่กลางสระน้ำ เลือดสีแดงสดไหลออกจากบาดแผลของรีฟอสหยดลงบนสระน้ำที่ใสสะอาด เปลี่ยนน้ำทั้งสระให้เป็นสีแดงฉาน พร้อมทั้งกลิ่นคาวเลือดฟุ้งไปทั่วบริเวณ ชายชุดดำจ้องมองภาพที่อยู่เบื้องหน้าตนเองก็ยิ้มขึ้น แล้วหันไปมองซอยเล็กๆที่อยู่ใกล้กับบริเวณจัตุรัสกลางเมือง “รู้สึกว่า คุณหนู ของเรากำลังจะหนีไปนะ” รี ฟอสได้ยินสิ่งที่ชายชุดดำพูดขึ้นก็รู้ทันที่ว่าหมายถึงใคร แต่รีฟอสไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะขยับไปไหนได้ จึงได้แต่มองตามชายชุดดำที่กำลังเดินเข้าไปในซอยๆที่เทียน่าวิ่งหนีไป
เทีย น่าวิ่งหนีออกมาจากบริเวณจัตุรัสวิ่งเข้าซอยต่างๆในตัวเมืองเพื่อหวัง จะหนีออกจากตัวเมือง แต่ภายในตัวเมืองกลับเงียบสงัด เทียน่าหันมองซ้ายขาวแต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของสิ่งมีชีวิต ขณะเทียน่ากำลังวิ่งอยู่ก็นึกถึงเหตุการณ์ ที่มาสเตอร์ตาย และ รีฟอสกำลังเสี่ยงชีวิตเพื่อให้เธอลอด น้ำตาแห่งความเศร้าก็ไหลออกมาจากดวงตาสีฟ้าคู่งาน จนอาบแก้มทั้งสองข้าง เทียน่าวิ่งทะลุซอยออกมา ก็พบชายชุดดำ ยืนดักรออยู่เบื้องหน้า เทียน่าได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับไปไหน เมื่อชายชุดดำเดินเข้ามาใกล้ เทียน่าก็หลับตาลง
ผ่านไปสักพักเทียน่าก็ ได้ยินเสียงเรียกชื่อตนเองอย่างแผ่วเบา จึงลืมตาขึ้นแล้วหันมองไปรอบๆก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ที่บริเวณจัตุรัสกลาง เมือง แล้วหยุดสายตาลงเมื่อเห็นภาพที่อยู่เบื้องหน้าตนเอง เป็นภาพ

รี ฟอสถูกตรึงอยู่กับรูปปั้นกลางสระน้ำ เมื่อเห็นรีฟอสอยู่ในสภาพเช่นนั้น เทียน่าก็รีบวิ่งเข้าไปหารีฟอสทันที แล้วสังเกตเห็นน้ำในสระที่กลายเป็นสีแดงเพราะเลือดของรีฟอส เทียน่าวิ่งลงไปในสระ ก็ได้ยินเสียงรีฟอสกำลังเรียกชื่อตนเองอย่างแผ่วเบา
“เทีย น่า... เทียน่า....” ก็ ยื่นมือไปสัมผัสใบหน้าของรีฟอสอย่างอ่อนโยน รีฟอสรู้สึกว่ามีมือที่อบอุ่นมาสัมผัสใบหน้าตนเองก็ค่อยๆลืมตาขึ้น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือ เทียน่ากำลังยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“เธอคิดว่าฉันจะอยู่ได้ โดยไม่มีเธอหรือคุณแม่หรือไง” เทียน่าต่อว่ารีฟอสด้วยน้ำเสียงดุๆ
“เธอถึงได้ทำแบบนั้น ลงไป” รีฟอสก็ยิ้มรับ เทียน่าก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
“ถ้า ฉันไม่มีเธออยู่ ฉันก็ไม่รู้จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่อใคร” แล้ว ยิ้มให้กับรีฟอสบอกเป็นในๆว่า ถ้าไม่มีเธอฉันยอมตายตรงนี้ซะดีกว่า เมื่อรีฟอสเห็นชายชุดดำกำลังเดินเข้ามาหา เทียน่า ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง
“ อ..ย่า...” ไม่ ทันที่รีฟอสจะพูดจบ มือของชายชุดดำก็แทงทะลุหน้าอกของเทียน่า หยดน้ำสีแดงกระเด็นโดนใบหน้าของรีฟอส รีฟอสเรียกชื่อหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ชายชุดดำดึงมือออกจากหน้าอกของเทียน่า แล้วจ้องมองสิ่งที่อยู่ในมือด้วยสีหน้าดีใจสุดๆ สิ่งที่อยู่ในมือของชายชุดดำคือ ลูกแก้วกลมๆที่มีสีทองทั้งลูก ชายชุดดำจ้องมองสิ่งนั้นด้วยท่าทางตื่นเต้น
“ไม่น่าเชื่อว่าจะได้ เจอกับ วิญญาณบริสุทธิ์ (Empty) ที่นี่” ด้วย น้ำเสียงที่ดีใจสุดๆ แล้วหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เมื่อรีฟอสเห็นเทียน่ากำลังจะตายก็พูดอะไรไม่ออก เทียน่าจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาที่อ่อนโยน แล้วเอนตัวเข้าจูบรีฟอส แล้วค่อยๆถอยออกพร้อยๆกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่มีความสุข
“ฉันมีความ สุขนะ ที่ได้รักเธอ” พร้อม กับยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าของรีฟอสแล้วส่งยิ้มให้กับรีฟอสอย่างอ่อนโยน ร่างกายของเทียน่าค่อยๆกลายเป็นขี้เถ้า สายลมพัดพาขี้เถ้าให้ปลิวหายไปตามสามลมเหลือไว้เพียงแต่ความว่างเปล่า หัวใจของรีฟอสเหมือนแตกสลาย มีแต่ความเจ็บปวด น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภาพเก่าๆเมื่อครั้งเจอเทียน่าครั้งแรก เมื่อยามเป็นเพื่อน เมื่อครั้งสภาพรัก เมื่อครั้งจูบแรก ต่างพากันปรากฏขึ้นมาในความคิดของรีฟอส รีฟอสร้องตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วจ้องมองชายชุดดำที่กำลังจะกินวิญญาณของเทียน่าด้วยแววตาเครียดแค้น ก็หัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ชายชุดดำหันมองรีฟอสที่กำลังหัวเราะออกมาทั้งๆที่ตัวเองกำลังใกล้จะตาย จึงเดินเข้ามาใกล้ๆรีฟอสด้วยท่าทางสงสัย
“มีอะไร น่าหัวเราะ” รีฟอสก้มหน้าลงแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เจ็บปวด
“อีกแล้ว...อีกแล้ว....” “ที่ฉันไม่สามารถปกป้องคนที่ ฉันรักได้อีกครั้ง” ชาย ชุดดำได้ยินสิ่งที่ รีฟอสพูดขึ้นก็ขยับยิ้มขึ้น พร้อมๆกับยกมือขึ้นเพื่อเตรียมที่จะแทงรีฟอส แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไร้ซึ่งอารมณ์
“อย่าคิดมากเลย เจ้าก็แค่ไร้ซึ่งพลัง มันก็เพียงแค่นั้นเอง” รี ฟอสได้ยินสิ่งที่ชายชุดดำพูดขึ้น ก็ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปาก พร้อมๆกับหยดน้ำตาล่วงลงสู่สระน้ำที่แดงฉานไปด้วยเลือด ชายชุดดำแทงมือเข้าใส่รีฟอส หวังจะปลิดชีวิตในทันที แต่กลับต้องหยุดมือลงก่อนที่จะถึง รีฟอส เพราะเขาสัมผัสได้ถึงพลังเวทมนต์อันมหาศาลในบริเวณใกล้ๆ ชายชุดดำหันมองที่มาของพลังเวทมนต์อันมหาศาลที่มาจากหนังแห่งรัตติกาล ที่กำลังส่องสว่างอยู่ พร้อมๆทั้งมีร่างของสตรีนางหนึ่งปรากฏขึ้น นางสวมกิโมโนสีขาว มีผมสีทองยาวสลวย ดวงตาสีม่วง บนหัวนางมีหูสุนัขจิ้งจอกอยู่ ด้านหลังของนางมีหางสีทอง เก้า หาง นางยกมือขึ้นแล้วแบมือออก บนผ่ามือของนางมีเปลวไฟสีน้ำเงินดวงเล็กๆลอยอยู่ เปลวไฟนั้นแตกกระจายออกเป็นวงกลมรอบทิศทาง สิ่งที่ถูกเปลวไฟสีน้ำเงินสัมผัสสลายกลายเป็นทรายไปในทันที ชายชุดดำไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกเปลวไฟสีน้ำเงินสัมผัสกลายเป็นทรายในทันที สระน้ำ และ รูปปั้นเทพธิดา ก็ต่างกลายเป็นทรายไป เพียงแค่ไม่กี่อึดใจเมืองทั้งเมือง กลับกลายเป็นผืนทรายอันวางเปล่า สตรีนางนั้นเดินเข้ามาหารีฟอสที่นอนอยู่บนผืนทราย นางคุกเข่าลงเบื้องหน้ารีฟอสพร้อมๆกับยื่นมือมาเบื้องหน้า รีฟอสรวบรวมแรงที่เหลือทั้งหมดลืมตาขึ้นมองสตรีนางนั้น ที่นั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเสมือนกับในความฝัน รีฟอสยกมือขึ้นสัมผัสมือของสตรีนางนั้นที่ยื่นมา แล้วจ้องมองสตรีที่อยู่เบื้องหน้าตนเองที่กำลังยิ้มให้อย่างอ่อนโยน ก่อนที่ภาพทั้งหมดจะมืดดับลง.......
ณ ทวีปอันห่างไกล ที่มีเพียงแต่ผืนทรายอันกว้างใหญ่ไพศาล และแสงแดดอันร้อนระอุ มีหอคอยสีดำตั้งเด่นสง่าอยู่ท่ามกลางผืนทรายสีเหลือง หอคอยมีบานหน้าต่างหลายบานและติดลูกกรงเหล็ก ลึกเข้าไปด้านในของหอคอย มีห้องขังมากมายหลายห้อง และมีเสียงของนักโทษร้องโหยหวนดังอยู่ไม่ขาดสาย ลึกลงไปใต้หอคอย มีห้องขังที่ถูกแยกเดี่ยว สร้างขึ้นมาจากหินแข็งแรง ด้านในไร้ซึ่งแสงสว่าง ภายในห้องขังมีบุรุษหนุ่มใส่เสื้อผ้าสกปรกมอมแมม ผมเฝ้ารุงรังปิดหน้าตา ถูกล่ามโซ่ติดอยู่กับผนังของห้องขัง บุรุษหนุ่มเอ่ยขึ้นลอยๆ
“มีอะไร” มีบางสิ่งบางอย่างอยู่ด้วยในห้องขัง เสียงตอบกลับดังมาจากมุมมืดของห้องขัง
“หนังสือ แห่งความมืดตื่นขึ้นแล้ว” ชายหนุ่มได้ยินสิ่งที่พูดขึ้นจากมุมมืด ก็ขยับยิ้มขึ้นภายใต้เส้นผม และ หนวดเคราที่รุงรัง เสียงจากมุมมืดก็พูดต่อ
“เมื่อไรพวกเราจะออก ไปจากที่นี่สักที” ด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด บุรุษหนุ่มเงียบไม่ตอบอะไร
“เบื่อๆ เบื่อ จะตายอยู่แล้ว” บุรุษหนุ่มเมื่อได้ยินเสียงบ่นก็ยกมือที่ถูกล่ามโซ่ขึ้นเกลาใบหน้าตนเอง เสียงโซ่กระทบกับพื้นของห้องขังดังไปทั่วห้อง “อีกไม่นาน หรอก” แล้วขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ
รี ฟอสนอนหมดสติอยู่ท่ามกลางตัวเมือง ที่บัดนี้กลับกลายเป็นผืนทรายอันว่างเปล่า ไม่นานนักก็มีกลุ่มคนสวมฮู้ดสีขาวลอยลงมายืนใกล้ๆกับรีฟอส ไม่นานนักก็มีกลุ่มคนสวมฮู้ดสีดำลอยลงมายืนตรงข้ามกับคนสวมฮู้ดสีขาว ตามลงมา คนสวมฮู้ดสำดำที่ท่าทางเป็นหัวหน้ากลุ่มพูดขึ้น
“เด็กคนนี้ควร ไปกับเรา ท่านเห็นว่าอย่างไร” พร้อมๆกับจ้องมองไปยังคนสวมฮู้ดสีขาว คนสวมฮู้ดสีขาวตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน “เรื่องนี้ควรให้สภาตัดสิน” แล้วเดินเข้ามาใกล้ๆคนสวมฮู้ดสีดำ
“ท่านเห็นว่าเป็นอย่างไร” คน สวมฮู้ดสีดำถอยห่างจากคนสวมฮู้ดสีขาวแล้ว ยิ้มขึ้นอย่างพอใจ กลุ่มคนสวมฮู้ดเหล่านั้นค่อยๆทยอยกันลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมๆกับนำตัวรีฟอส ไปด้วย ภายใต้แสงจันทร์อันแดงฉานที่สาดส่องลงมา
บุรุษ หนุ่มจ้องมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดผ่านลูกแก้วใส แล้วขยับยิ้มขึ้นที่มุมปาก พร้อมๆกับเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ที่หันใบหน้าไปทางเตาผิง แล้วพูดขึ้นลอยๆ “บัดนี้โชคซะตา ได้มาบรรจบ ซึ่งกันและกัน แล้ว” พร้อมๆกับยกมือขึ้นโปรก เบื้องหน้าก็ปรากฏแท่นศิลาสีทองขึ้น บุรุษหนุ่มจ้องมองแท่นศิลานั้นด้วยท่าทางดีใจ “ไม่มีใครที่จะสามารถ หยุดยังกระแสแห่งโชคซะตานี้ได้ อีกแล้ว” แล้วหัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่ง






นาฬิกาปลาวาฬทราย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2555, 15:20:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2555, 15:20:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 1011





<< The Book Of Darkness VII   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account