แรงรักซ่อนปรารถนา by อัญจรี
เมื่อสิ่งที่ ทัศเทพ มอบให้ ชมจันทร์ มีเพียงแรงปรารถนาในเรือนกาย ชมจันทร์จะทำเช่นไร พรหมจรรย์ที่เธอมอบให้ จึงจะได้รับ แรงรักจากหัวใจ กลับคืนมา
*******
เมื่อความสัมพันธ์ทางกายเกิดขึ้นเพราะแรงปรารถนา หาใช่ ความรัก ดังนั้น การรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน มันจึงเป้นไปไม่ได้
เผียะ!
“เห็นแก่ตัว ทุเรศที่สุด!” หญิงสาวให้พรชายหนุ่ม หลังจากฟาดฝ่ามือใส่แก้มสากของเขาไปเต็มรัก
นัยน์ตาดำดุของ กวิน จ้องหน้านางแบบสาวเขม็ง แน่นอนว่าไม่เคยมีใครกล้าตบเขาอย่างนี้ ทำไม แพรวรุ้ง
ถึงไม่เหมือนดารา นางแบบคนอื่นๆ ที่เขาเคยควงนะ หากอยากได้อะไรก็บอกมาสิ ข้าวของ เงินทอง
รับรองว่าหล่อนจะอยู่สุขสบาย ไม่ต้องเร่แก้ผ้าถ่ายแบบอย่างนี้
“ฉันไม่ใช่อีตัว! ฉันรู้ว่านายกำลังคิดอะไรอยู่ สายตานายมันฟ้อง สายตาดูแคลนเหยียดหยามไม่เห็นค่าพรหมจรรย์ของฉัน อย่าคิดว่าฉันจะเหมือนผู้หญิงของนาย ที่ตั้งหน้าตั้งตารอท่าโดดขึ้นเตียง พอเสร็จกิจแล้วก็ถีบหัวส่ง ถึงฉันต้องแก้ผ้าหาเงินเลี้ยงตัว ฉันก็ไม่มีวันเป็นนางบำเรอของใคร! จำเอาไว้!”
“ตามใจ! อย่ามาอ้อนวอนฉันก็แล้วกัน ฉันให้โอกาสเธอเรียกร้องสิทธิ์เต็มที่ แต่เธอไม่อยากได้เองนะแพรวรุ้ง"
“ก็สิ่งที่ฉันอยากได้นายให้ไม่ได้! ไม่เป็นไร ฉันจะถือเสียว่ามันเป็นคราวซวยของฉันก็แล้วกัน!” นัยน์ตาคู่สวยเอ่อท้นด้วยหยาดน้ำตา จมูกโด่งรั้นแดงเรื่อ
แพรวรุ้งแสบไปทั่วทั้งโพรงเมื่อน้ำมูกน้ำตามันพร้อมใจกันเล่นงานเธอ

“ก็ดี! เธอเลือกเองนะ!” ชายหนุ่มตอกย้ำ แต่ในใจกลับมุ่งหวังในบางสิ่ง
‘ไม่มีวันเสียหรอก แพรวรุ้ง ถึงฉันจะแต่งงานกับเธอไม่ได้ แต่ยังไงซะ เธอก็ต้องเป็นของฉัน คนเดียวเท่านั้น'
Tags: แรงรักทวงแค้น ส.ธราธร ตีพิมพ์ ต่อด้วย แรงรักซ่อนปรารถนา (ผ่านพิจารณาจาก ส.ธราธร และ มารยายั่วใจ อัพต่อจากเรื่องนี้ เร็วๆ นี้ค่ะ มือใหม่หัดเขียน ช่วยติเตียน ด้วยนะคะ)

ตอน: บทที่ 10 แม่เลี้ยงพรหมจรรย์ 80%

ยามบ่ายแก่ๆ แม้อากาศร้อนเปรี้ยงๆ แต่ชมจันทร์มิไยใส่ใจ หล่อนยังคงนั่งรำพันความรู้สึกอัดอั้นตันใจ น้ำตารินไหลเป็นทางต่อหน้าฮวงซุ้ยของเสี่ยดำเกิง
“วันนี้หนูมาสาย เสี่ยไม่โกรธหนูนะคะ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่หนูได้มาทำบุญให้เสี่ย หนู...ขอโทษนะคะ”
ชมจันทร์ไม่อาจเอื้อนเอ่ย ด้วยว่าก้อนสะอื้นทันวิ่งมาจุกในลำคอ กระทั่งเธอฝืนกลืนมันลงไปนั่นล่ะถึงได้กล่าวต่อ
“ถ้าวันนั้นหนูยินยอมเป็นของเสี่ยแต่โดยดี เสี่ยอาจยังมีชีวิตอยู่ ตอนนั้นหนูยังเด็ก เสี่ยอย่าโกรธหนูเลย เลิกลงโทษหนู...ด้วยวิธีนี้เถอะค่ะ หนูเจ็บเหลือเกิน เจ็บทุกครั้งที่ลูกชายของเสี่ยไม่เห็นหนูอยู่ในสายตา หนูเจ็บ เจ็บจนไม่อยากทนแล้ว! หนูรักคุณเทพ หนูรักเขา แต่เขาไม่รักหนูเลย มันคงเป็นเวรกับที่หนูทำต่อเสี่ยใช่ไหม เสี่ยช่วยหนูทีเถอะช่วยปลดปล่อยหนูออกจากวังวนของความลุ่มหลงนี้ที หนูทรมานเหลือเกิน....”
ชมจันทร์ร่ำไห้อยู่หน้าฮวงซุ้ยของเสี่ยจนตะวันบ่ายคล้อย เธอยันกายลุกยืนช้าๆ เพราะอาการหน้ามืดเข้าครอบงำ เมื่อทรงกายให้ยืนนิ่งได้ก็เดินไปขึ้นรถที่จอดอยู่ วันนี้เธอจะไปคุยเรื่องสำคัญกับพี่ชายเสียหน่อย หวังว่าเขายังคงต้องการมันนะ เธอไม่อยากขายมันให้คนอื่นจริงๆ

บรรยากาศภายใต้แสงไฟจากคบเพลิงที่รายล้อม มีม่านน้ำตกผืนใหญ่เป็นฉากอันงดงามอยู่ด้านหลัง ทว่าไม่ได้ช่วยให้หัวใจของ วารินทร์ สดชื่นหรือดื่มด่ำไปกับความ โรแมนติก ของมันได้เลย
“เฮียเมฆทานอีกนิดสิคะ นี่ของโปรดไม่ใช่เหรอ น่านะจันทร์ตักให้”
ชมจันทร์จันทร์ขันอาสาตักโน่นตักนี่ให้เมฆา พี่ชายที่ตนนับถือ ทว่าวารินทร์หล่อนไม่ได้คิดอย่างนั้น หล่อนรู้แต่เพียงว่า การเอาใจสามี มันมิใช่หน้าที่ของแม่เลี้ยงคนดังนามว่าชมจันทร์ แต่ควรเป็นหน้าที่ของภรรยาที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้
เพล้ง!!!
“ฉันอิ่มแล้ว ขอตัวนะ ทานไม่ลงมัน เลี้ยนเลี่ยน” คุณน้องคนงามแห่ง GB เริ่มเอานิสัยเดิมมาใช้ ตั้งแต่หล่อนตั้งครรภ์ย่างเข้าสู่เดือนที่หก เธอรู้สึกว่าอาการเอาแต่ใจของตัวเองจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอไม่สามารถความคุมมันได้ มันอยู่เหนือการบังคับของสมอง
“อ้าว อิ่มแล้วหรือคะ ไหนคะอันไหนเลี่ยนเดี๋ยวจันทร์จะเฉ่งป้าน้อมให้ มากินตั้งหลายทีไม่เห็นว่ารสมือจะเปลี่ยน หรือว่าวันนี้ป้าน้อมจะทำตัวเป็นคนขี้ลืมหยิบน้ำตาลแทนอย่างอื่น น่าตีจริงๆ คนนี้นี่”
ชมจันทร์ยังบ่นไปเรื่อยไม่ได้รู้เลยว่าถูกเจ้าบ้านประชด กระทั่งวารินทร์เดินปึงปังลงส้นออกไปจากโต๊ะอาหารนั่นล่ะ ชมจันทร์ถึงรู้ว่าอาหารจานไหนกันที่ทำให้พี่สะใภ้คนงามเลี่ยนได้
“คิกๆ สงสัยวันนี้เฮียได้นอนนอกห้องแน่ๆ คิกๆ” คนสวยหัวเราะร่า เมฆาส่ายศีรษะกับความไม่รู้จักโตของเจ้าหล่อน
“ชอบแกล้งชาวบ้านดีนัก เดี๋ยวโดนแกล้งบ้างจะรู้สึก พี่เค้ากำลังท้องนะรู้หรือเปล่า”
เมฆาบอกน้องสาวนอกไส้
“หา! จริงรึ? มองไม่ออกนี่นา แล้วทำไมเฮียไม่บอกจันทร์เล่า เดี๋ยวจันทร์ได้บาปสองเด้งพอดี”
“อ้าว ก็นึกว่ารู้แล้ว” เมฆาเอ่ยหน้าตายพลางตักข้าวเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แล้วเฮียจะนั่งต่อทำไม!? ไปง้อเมียสิ” เมฆาทำหน้างง ง้อเรื่องอะไรหว่า?
“ก็เมียงอนหนีเข้าห้องไปแล้วตัวเองยังนั่งสบายใจเปิบข้าวอยู่ได้ โธ่เอ๊ย! ทำไมเฮียทึ่มอย่างนี้เนี่ย”
ชมจันทร์บ่นพลางคว้าช้อนออกจากมือพี่ชาย เมฆายังงงไม่เลิก เขาไม่ได้ทำให้เมียเขาโกรธ แต่เขาต้องเป็นคนง้ออีกแล้วเหรอ สวรรค์ทำไมไม่ยุติธรรมเลย
“แต่พี่ไม่ได้เป็นคนผิดนะ จันทร์ผิด จันทร์ก็ไปขอโทษพี่เขาสิไปไป๊”
เขาไล่กรายๆ ตั้งท่าจะเปิบอาหารบนโต๊ะต่อไป
“ไม่ได้ เฮียจำไว้เลยนะ ไม่ว่าเฮียจะผิดหรือไม่ผิด เฮียต้องเป็นฝ่ายง้อเมียเข้าใจไหม เชื่อจันทร์สิ รับรองชีวิตคู่ของเฮียจะไม่มีใครหรืออะไรมาแทรกกลางได้ พีสาวจะรักและเชื่อใจเฮียที่สุด เชื่อจันทร์นะ”
เมฆาพยักหน้าตามที่สาวเจ้าบอก แค่ง้อเมียมันไม่ได้ทำให้เสียศักดิ์ศรีเสียหน่อย ทำไมเขาจะทำไมได้เล่า
“ก็ได้ๆ เอาล่ะพี่คงต้องหว่านล้อมให้คุณเมียหายโกรธอีกหลายชั่วโมง เรากลับเลยก็ได้ไม่ต้องรอหรอก เอารถจอดไว้นี่ หรือว่าจะให้ทิดแสงขับไปส่งก็เลือกเอาแล้วกันนะ หรือว่าจะค้างที่นี่ดีล่ะ” เขาถามน้องสาว ชมจันทร์ส่ายหน้า
“ไม่เอาหรอกจันทร์จะกลับบ้าน เดี๋ยวลูกชายบังเกิดเกล้าไม่มีคนให้จิกหัวใช้ ขามายังมาได้เลย อ้อ พรุ่งนี้จันทร์จะเอาโฉนดมาให้ เตรียม มันนี่ ไว้ให้จันทร์ด้วยนะ”
“ได้เลย ยายแก่ขี้งก” เขารับปากแล้วรีบกลับเข้าห้อง
ชมจันทร์มองตามร่างสูงใหญ่ของพี่ชายแล้วถอนหายใจ เธอจะเจอบ้างไหมคนที่แสนดีอย่างพี่ชายคนนี้

เปรี้ยง!!!
ร่างอรชรผวาเฮือกเพราะเสียงฝ้าผ่า หล่อนสะดุ้งตื่นจากฝันอันแสนทรมานเพื่อเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่ทรมานมากยิ่งกว่า
“กลับมาหรือยังนะ” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง เธอเช็ดเหงื่อกาฬที่ผุดพรายเต็มวงหน้า เจ้าหนูมีนแก้มยุ้ยยังหลับสนิทอย่างเป็นสุข ไม่แยแสต่อเสียงเปรี้ยงๆ ของฟ้าฝนนอกหน้าต่าง
แพรวรุ้งอยากรู้ว่าเขากลับมาจากท้ายเกาะหรือยัง หล่อนจึงลุกลงจากเตียงแล้วเดินออกจากห้องลูกน้อย เมื่อเดินถึงหน้าห้องเขา ก็ใช้มือเรียวผลักบานประตูเข้าไป ทว่าห้องทั้งห้องยังว่างเปล่า แสดงว่าเขายังไม่กลับมา
แพรวรุ้งร้อนใจยิ่งนัก เม็ดฝนด้านนอกเริ่มโปรยปรายแรงขึ้น หล่อนร้อนใจเกินกว่าจะรอคอยเขาอยู่บนห้องอย่างนี้ เมื่อคิดได้ดังนั้นก็คว้าร่มคันน้อยเดินลงจากชั้นสองตรงไปยังท้ายเกาะ แม้ครึ้มด้วยเมฆมัวและละอองฝนไร้ซึ่งแสงเดือนดาว ทว่า นางแบบสาวกลับจำทางได้ขึ้นใจ ร่างสวยลัดเลาะเลียบแนวหาด ทุกก้าวย่างที่เหยียบย่ำบนผืนทรายมั่นคงหนักแน่น แต่ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายกลับคลอนแคลนสั่นไหว มันสังหรณ์ในหัวใจแปลกๆ ราวกับว่ากำลังจะเกิดเรื่องร้ายแรง
เจ้าหนูมีน ชะเง้อมองตามร่างแม่แพรวของเขาครั้งแล้ว ครั้งเล่า เขาตื่นขึ้นมาทันได้เห็นแม่แพรวพอดี
ร่างกลมป้อมรีบวิ่งลงบันได เขาเร่งฝีเท้าก้าวตามหลังแม่แพรวไปติดๆ



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2555, 23:00:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2555, 23:00:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 5509





<< บทที่ 10 แม่เลี้ยงพรหมจรรย์ 50%ลบ   บทที่ 10 แม่เลี้ยงพรหมจรรย์ 105% จบบทลบ >>
nutcha 4 ส.ค. 2555, 20:48:38 น.
เย้!.....หนูอัญกลับมาแล้ว เที่ยวสนุกมั้ยเอ่ย นิยายที่ออกกับ tuch วางแผงยังคะวันนี้ไปดูที่ร้านหนังสือเค้าหามะเจออ่ะ แล้วนามปากกาเดียวกันเปล่า


Lilly 5 ส.ค. 2555, 06:22:22 น.
ยังจ้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา รอหน่อยน้า ^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account