ปมร้าย หัวใจเสน่หา
รัชต์ วิศวกรหนุ่มออกตามหาความจริงเกี่ยวกับการตายของ ดวงดาว น้องสาวที่ตำรวจลงความเห็นว่าเธอฆ่าตัวตาย แต่อยู่ๆเขาก็ได้พบกับรักแรกอีกครั้งเธอเป็นคนช่วยเขาตามหาความจริง แต่ความจริงที่ว่ากลับทำให้เขาไม่อยากรับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว!!
Tags: ปมร้ายหัวใจเสน่หา

ตอน: “ตอนที่ 3 ความอ่อนไหว”

ตลอดเวลาหนึ่งสัปดาห์กีและรัชต์ต่างก็ช่วยกันหาหลักฐานที่พอจะทำได้ทั้งหาเพื่อนสนิทของดาวที่อยู่ในมหาวิทยาลัยและหอพักแต่ก็ไม่มีวี่แววเลยแม้แต่น้อย

“ดาวเป็นคนเก็บตัวค่ะ เขามีเพื่อนคนหนึ่งค่ะที่สนิทด้วยแต่ระยะสองสามเดือนนี้เขาไม่มาเรียนเลยแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหนด้วยค่ะพี่”เด็กสาวที่อยู่ในห้องเดียวกับดาวกล่าวด้วยสีหน้าแปลกใจ

“ชื่ออะไรเราพอจะรู้ไหม”กีถาม

“อาร์มค่ะ ชื่อจริง อานนท์ กำเนิด เขาเป็นนักกีฬาบาสของมหาวิทยาลัยด้วย เอ่อ พี่เป็นตำรวจงั้นหรือค่ะ”

“ค่ะ พอดีคดีมันเหลืออะไรนิดหน่อยต้องขอบคุณน้องมากเลยนะคะ”กีแกล้งพูด รัชต์เดินตามเพื่อนสาวมาแม้ว่าใจอยากจะถามอะไรก็ตามแต่ก็ไม่พูดเพราะประโยคนั้นมันยังฝังใจอยู่!!

“อ้อ พี่ค่ะ มีอีกเรื่อง สองวันก่อนที่ดาวจะฆ่าตัวตาย ดาวโทร.หาเพื่อนในห้องหลายคนขอยืมเงิน พอมาคุยกันพวกเราถึงได้รู้ พูดแล้วยังขนลุกไม่หายเลยคะ”ประโยคนี้แทงใจพี่ชายเต็ม ๆ เขารู้สึกเจ็บใจตัวเองเสมอ คิดว่าถ้าวันนั้นเขาให้เงินน้องสาวไป เรื่องทุกอย่างคงไม่เป็นอย่างนี้ เงินไม่ได้มากมายอะไรทำไมเขาถึงได้ใจแคบนักก็ไม่รู้ ทำไมเขาถึงไม่ยอมให้เงินดาว คำถามนี้มันก้องอยู่สมองเขาซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น

“ขอบใจอีกครั้งนะ พวกเธอช่วยได้มากเลยละ”กีรติยิ้มให้นักศึกษาสาวก่อนจะหันมาทางรัชต์ที่ยืนหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ

“เรื่องนี้คงต้องให้โต้ช่วยแล้วละ ตามหาตัวคนที่ชื่ออาร์มให้เจอบางทีอาจจะได้เรื่องอะไรมากกว่าที่คิดก็ได้”กีหันไปพูดกับรัชต์แต่อีกฝ่ายยังนิ่งอยู่ เธอเองก็รู้ว่ารัชต์เกิดปฏิกิริยาต่อต้านแรก ๆ เธอก็ไม่อยากใส่ใจจนเมื่อเห็นท่าทางวันนี้มันก็พลอยทำให้เธอหงุดหงิดไปด้วย

“นี่นายเป็นอะไรไป ถ้าไม่อยากให้ฉันช่วยก็ไม่เป็นไรนะ”เมื่อเห็นท่าทางของกีที่กำลังจะเดินหนี รัชต์จึงเดินตามไปคว้าแขนไว้ กีมองหน้าเขาด้วยความไม่เข้าใจทำไมเขาต้องทำอย่างนี้ด้วย

“ขอโทษ พอดีฉันเครียดไปหน่อย ”รัชต์บอกทั้งที่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น

“เออ ช่างเหอะ ตอนนี้เย็นมากแล้วฉันต้องไปทำงานแล้วละ”กีรติทำหน้าบึ้ง

“โทษทีนะที่ทำให้ต้องมาช่วยตั้งแต่เช้า”รัชต์เดินตามง้อ

“ไม่เป็นไรก็ฉันรับปากแล้วนี่”

“งั้นเดี๋ยวฉันไปส่งที่ทำงานนะ”

“อ้อ โอเค ไปกินข้าวที่นั่นไหมละ เรายังไม่ได้กินข้าวกลางวันกันเลยนะเนี่ย”เธอบอกสีหน้าเจ้าเล่ห์ ชายหนุ่มอมยิ้ม

“ได้ ฉันเลี้ยงก็ได้ ”รัชต์รับคำน้ำเสียงหนักแน่น

“แหม่ ดีกว่าคำขอบใจเยอะเลย อิ่มท้องดี”รัชต์หัวเราะ เดินนำเพื่อนสาวตรงไปที่รถยนต์ของตัวเอง กีนั่งเงียบระหว่างที่รัชต์ขับรถพาเธอไปที่ร้านบลู

“คิดอะไรอยู่นั่งเงียบเชียว”รัชต์ทักเพราะปกติกีไม่ใช่คนเงียบแบบนั้น

“อืม ฉันอยากรู้ผลการตรวจที่เกิดเหตุของตำรวจ ถ้าเป็นไปตามที่ผลชันสูตรออกมาอย่างนั้นแสดงว่าดาว เอ่อ ”กีหันไปมองรัชต์นิดหนึ่งเพราะกลัวว่าถ้าพูดอะไรบางอย่างออกไปเขาอาจจะรับไม่ได้

“ดาวทำไมเหรอ?”

“ดาว มีอะไรกับใครซักคนก่อนที่จะฆ่าตัวตายโดยความเต็มใจ เพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้ ผลคราบอสุจิที่ว่าสามารถตรวจได้ไหมว่าเป็นของใคร ซึ่งจริง ๆ คนร้ายไม่น่าจะทำอย่างนั้นเพราะจะทำให้เขาถูกจับได้ง่ายซึ่งฉันไม่เชื่อว่า สิ่งที่ตรวจเจอนั้นคือคราบอสุจิ”

“เธอไม่เชื่อหมออย่างนั้นหรือ เธอไม่เชื่อปานใจเหรอเขาเป็นเพื่อนเรานะแล้วคิดดูสิว่าเขาจะโกหกไปทำไม?” รัชต์หันมาแย้งเต็มที่เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่ปานจะโกหก

“เหตุผล บางทีอย่ารู้เลยจะดีกว่ารู้แล้วจะรู้สึกแย่ เอาเป็นว่าฉันไม่เชื่อเรื่องคราบอสุจิ ฉันจะหาทางดูผลตรวจสถานที่เกิดเหตุของตำรวจให้ได้”กีหันไปมองวิวนอกหน้าต่างแทนการมองหน้าคู่สนทนา

“เธอจะหามันมาได้ยังไง พูดเป็นเล่นไปได้”

“ฉันหามาได้ก็แล้วกัน”กีพูดด้วยความมั่นใจพลอยทำให้รัชต์คอยดูท่าทีของเธอ เมื่อมาถึงร้านบลูกีพาเขาเข้าไปในร้านพร้อมกับสั่งอาหารง่าย ๆ มาไว้สองที่ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องแต่งตัวที่อยู่หลังร้าน

“พี่กีพาใครมาน่ะ”อาร์มถามแววตาระยิบเพราะความอยากรู้อยากเห็น

“เพื่อน ทำไมเหรอ สนใจเหรอเดี๋ยวพี่บอกเขาให้”หญิงสาวพูดพร้อมทั้งประแป้งเบา ๆ

“เฮ้ยย!!! พูดบ้า ๆ พี่กีผมแมนนะ แมนทั้งแท่งเลยด้วย” อาร์มทำสีหน้าจริงจัง

“เหรอ งั้นก็มาเป็นแฟนพี่ซะสิ พี่จะได้รู้ความจริงซักที”อาร์มทำหน้าเหวอเมื่อได้ยินประโยคนั้น กีเลยหัวเราะออกมา

“เฮ้ย ล้อเล่นทำหน้าตาอย่างกับเจอผี ”อาร์มส่ายหน้าหมายความว่าไม่ได้ตกใจ
เรื่องนั้นทั้งชี้ไปด้านหลังของหญิงสาว กีจึงหันกลับไปดูเห็นชายหนุ่มที่ยืนอยู่ที่ประตูก็เข้าใจความหมายของรุ่นน้องทันที

“พี่ว่า ให้พี่เป็นแทนอาร์มดีกว่าไหมครับ”ซีพูดพร้อมกับยื่นดอกไม้ให้ กีก้มลงมองกุหลาบสีแดงนั้นด้วยความรู้สึกอึดอัดในใจ

“ขอบคุณนะคะแต่กีรับไว้ไม่ได้จริง ๆ”

“ทำไมละครับ ”สีหน้าคนพูดนั้นผิดหวังจริง ๆแม้จะทำให้คนปฏิเสธรู้สึกใจแป้วที่ต้องพูดตรง ๆ แต่ก็ต้องทำอยู่ดี

“กีว่าพี่ซีอย่าทำอย่างนี้เลยคะ เราเป็นพี่น้องกันดีกว่านะคะ มันจะดีกว่าถ้าเป็นอย่างนั้น” แม้ว่าซีจะรู้สึกผิดหวังที่เธอพูดอย่างนั้นแต่อย่างน้อยการเป็นพี่น้องมันก็คือโอกาสหนึ่งที่จะทำให้เกิดการพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้

“โอเคครับ พี่จะไม่ทำให้น้องกีลำบากใจอีก เราเป็นพี่น้องกันก่อน ถ้าน้องสาวต้องการให้พี่ชายคนนี้ช่วยอะไรก็บอกได้นะครับพี่ยินดีมากที่จะได้ทำเพื่อกี ”คำตอบนั้นพลอยทำให้กีโล่งอก เธอหนักใจเรื่องของซีมานานมากแล้วเพราะเขาไม่ยอมละความพยายามที่จะเข้ามาผูกความสัมพันธ์กับเธอเลยไม่คิดว่าวันนี้เขาจะเปลี่ยนอะไรง่าย ๆ อย่างนี้ มันน่าแปลก?

“ขอบคุณนะคะที่พี่เข้าใจ เอ่อ เดี๋ยวรบกวนพี่ออกไปรอข้างนอกนะคะ กีขอแต่งตัวทำงานก่อนคะ”

“ครับผม”ซีรับคำง่าย ๆ แล้วก็เดินออกไปจากห้องแต่งตัว อาร์มซึ่งพยายามทำตัวลีบที่สุดก็ได้เวลาพองตัวออกมาจากที่กำบัง

“ไอ้อาร์ม!! ทำไมแกไม่บอกฉันซักหน่อยว่าพี่ซีมา”

“โธ่พี่ ผมก็เพิ่งเห็นเหมือนกันนั่นแหละ ”กีได้แต่ถอนหายใจเหมือนจะโล่งอกก็ไม่ใช่มีอะไรบางอย่างที่เธอไม่ควรไว้ใจซี อาจจะเป็นเพราะอดีตบางอย่างมันทำให้เธอไม่ค่อยชอบคนในเครื่องแบบกระมัง อีกครั้งที่เธอต้องฉีกยิ้มก่อนขึ้นเวทีเมื่อเดินขึ้นไปบนเวทีมองลงมายังด้านหน้าเธอก็นึกแปลกใจ รัชต์นั่งอยู่โต๊ะด้านซ้ายมือของเธอ ส่วนซีนั่งอยู่ที่โต๊ะด้านขวามือทั้งสองคนต่างโบกมือให้ กีจึงได้แต่ส่งยิ้มแหย ๆให้ทั้งคู่พยายามไม่เจาะจงไปหาใคร อาร์มยืนหัวเราะอยู่ที่ด้านหน้าเวทีบริการแขกโต๊ะหน้ากีนึกอยากจะกระโดดตบเจ้าเด็กแสนรู้คนนี้นักระหว่างที่ร้องเพลงอาร์มส่งกระดาษซึ่งคงเป็นลูกค้าขอเพลงมา

“พี่ผมขอเพลงเราสามคน อิๆ”อาร์มไม่วายเหน็บรุ่นพี่ด้วยความคะนอง
กีส่งสายตาคาดโทษให้ไปทีหนึ่งแล้วอ่านตัวหนังสือในกระดาษนั้นด้วยความตั้งใจเพราะแสงในร้านคงไม่พอแน่ยิ่งสายตาสั้นอย่างเธอยิ่งแล้วใหญ่ ‘พี่ต้องกลับก่อนไว้วันหลังจะมาดูกีใหม่นะ พี่ซี’ กียิ้มออกเหลือบไปมองด้านขวามือซึ่งซียืนโบกมือให้ทั้งส่งรอยยิ้มหวาน ๆ ก่อนจะเดินออกไปจากร้าน

รัชต์มองตามผู้ชายคนนั้นไปจนลับตาแล้วหันกลับมามองผู้หญิงที่อยู่บนเวที ตอนนี้กีไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงใส่แว่นทำตัวประหลาดเหมือนเมื่อครั้งที่เรียนอีกแล้ว เธอเป็นสาวสวยไม่แปลกหรอกที่จะมีหนุ่ม ๆ มาสนใจ เขาต่างหากที่ต้องปรับตัวถ้ายังรู้สึกแบบนี้อีกต่อไป เขาจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่ความเป็นเพื่อน รัชต์กรอกเครื่องดื่มแทนข้าวแม้ตั้งใจว่าจะรอกินพร้อมกับกีก็ตาม ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะกินข้าวอีกแล้ว ไม่นานกีก็เดินเข้ามานั่งอยู่ตรงหน้ารัชต์กลับเบือนหน้าหนีหันไปมองด้านนอกของร้านเพื่อผ่อนคลายอารมณ์เพราะถ้ายิ่งเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้เขายิ่งจะอารมณ์เสีย

“ไม่เห็นกินอะไรเลย ดื่มอยู่ได้ เดี๋ยวได้ไส้ทะลุ”กีบ่นทั้งตักข้าวใส่ปาก

“ไม่หิว”คำตอบนั้นห้วนๆทำให้กีถอนหายใจ ผู้ชายคนนี้ซ่อนอารมณ์ไม่เป็นหรือไงนะ?

“เอ้า กินหน่อยนะ”กีตักข้าวยื่นช้อนไปจ่อปากรัชต์ เขาหันมามองการกระทำของกีแล้วก็อมยิ้มยิ่งเห็นตาแป๋วทำหน้าตาตั้งอกตั้งใจอย่างนั้นเขาก็โกรธไม่ลง

“ตักแต่ข้าวให้กินแต่ข้าวหรือไงเล่าเอากับด้วยสิ”เขาบ่นทั้งชี้ไปยังกับข้าวตรงหน้า กีทำเบ้ปากเพราะคนปากเก่งตรงหน้าที่ยอมง่าย ๆแค่การเอาใจนิดหน่อยเท่านั้น

“เดี๋ยว ได้คืบจะเอาศอกนะนายนี่”แม้จะบ่นแต่ก็ยังตักป้อนคนตรงหน้าอยู่ดี รัชต์อมยิ้มเคี้ยวข้าวในปากอารมณ์ดี

“เอาละ เรามาสรุปเรื่องที่ได้วันนี้กันดีกว่า”กีรติตั้งประเด็นใหม่

“ยังไง”รัชต์ทำสีหน้าสนอกสนใจขึ้นมาในทันที

“จากที่เห็นในห้องของดาวรูปบางส่วนหายไป ดอกมี่อยู่ในตู้โชว์เป็นของใคร วันพฤหัสจนถึงวันอาทิตย์ดาวหายตัวไปไหน กับใคร? ส่วนเรื่องการยืมเงินเพื่อนในห้องแต่เพราะดาวไม่ได้บอกเหตุผลเพื่อน ๆ ก้เลยไม่มีใครให้ยืม นี่เป็นสาเหตุให้ตำรวจลงความเห็นว่าดาวอาจจะยืมเงินนอกระบบมาแล้วมีปัญหาทำให้ฆ่าตัวตายหนีหนี้ ”

“มันตลกดี ที่พี่ชายไม่สามารถตอบคำถามได้ว่าน้องสาวมีชีวิตยังไงบ้าง”รัชต์หันมาโทษตัวเองอีกครั้ง กีรติส่ายหน้ากับความคิดของเพื่อนชาย

“ไม่ใช่เวลามาโทษตัวเอง มันสายไปแล้วรัชต์ ตอนนี้นายมีหน้าที่ทำอย่างที่นายต้องการจะทำ จมกับความเสียใจมีแต่จะทำให้ตัวเองเจ็บปวด อีกอย่างการโทษตัวเองไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมาหรอก เด็กที่ชื่ออาร์ม อาจจะรู้อะไรแล้วหนีไปอยู่ที่บ้านก็ได้”

“นั่นสิ”รัชต์พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดนี้

“เขาอาจจะเป็นพยานปากสำคัญก็ได้”

“ใช่ จุดต่อไปในการสืบของเราก็คือตามหาอาร์ม”รัชต์บอกสีหน้าตั้งใจเต็มที่ กีรติอมยิ้มอย่างน้อยตอนนี้รัชต์ก็มีโอกาสแก้ไขความรู้สึกผิดของตัวเอง ต่างจากเธอที่ยังคงไม่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกผิดเหล่านั้นได้เลยแม้ซักนิดเดียว

นัทขับรถมาทำงานในตอนเช้าเขาตั้งใจที่จะผ่านร้านถ่ายรูปที่เคยเจอกีในครั้งแรกแต่ว่าก็ไม่เห็นเงาของคนที่เขาอยากเจอเลยสมัยเรียนมัธยมเขาจะต้องเป็นคนห้ามศึกระหว่างกีกับรัชต์เสมอ มันก็ไม่น่าแปลกอะไรจนเรียนจบเรื่องราวระหว่างสองคนนี้ก็ชักจะแปลกขึ้น กีหายตัวไปทุกคนรู้ข่าวแค่ว่าน้องชายเธอเสียชีวิตรัชต์ก็ดูจะเป็นคนที่เดือดร้อนมากที่สุดเขาพยายามตามหากีทุกวันไม่ได้สนใจเรื่องเรียนต่อเลยจนเกือบสี่เดือนเขาจึงเลิกล้มความตั้งใจที่จะตามหา ครั้งนี้กีกลับมาโดยไม่มีใครนึกฝันว่าจะได้เจอ เธอกลับมาในตอนที่รัชต์สับสนในชีวิตมันก็น่าแปลกดีที่เธอมาถูกเวลาพอดี หรือว่าบางที กีอาจจะรู้เรื่องก่อนเขาไม่อยากให้รัชต์เป็นเหมือนตอนนั้นอีก รัชต์เหมือนคนบ้า เฝ้าตามหากีทั้งวันทั้งคืน รัชต์เป็นคนอ่อนไหวทำให้ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิตจะทำให้เพื่อนของเขาคนนี้มีปฏิกิริยาอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยเสมอ นัทเห็นผู้หญิงผมยาวผิวขาวท่าทางเหมือนกีรติจึงได้หยุดรถวิ่งเข้าไปหา

“กี!!” เจ้าของชื่อหันขวับกลับมามองต้นเสียง เธอยิ้มให้เมื่อเห็นว่าเป็นนัท

“ไม่คิดว่าจะเจอนายที่นี่”

“ฉันตั้งใจมาหาเธอ”คำตอบนั้นทำให้กีมองหน้าเพื่อนเก่าด้วยแววตาแปลกใจ นัทพาเพื่อนสาวไปคุยในร้านอาหารไม่ไกลจากจุดที่เจอกันมากนัก หญิงสาวเขี่ยน้ำปั่นในแก้วไปมาเหมือนรอคอยคำพูดของคนตรงหน้ามากกว่าเรื่องอื่น นัทพยายามเรียบเรียงคำพูดให้ดี ๆเสียก่อนที่จะเอ่ยปากออกไป

“ฉันเห็นเธอสองครั้งแล้วที่ร้านถ่ายรูปนั่น”นัทเริ่มเรื่องที่ตัวเองคิดได้ เขาอยากถามเรื่องอื่นมากกว่าก็จริงแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี

“อ้อ ฉันนัดเพื่อนคนหนึ่งไว้ที่นั่นน่ะ เขาเป็นช่างภาพ”กีรติตอบ มองหน้าเพื่อนชายที่ทำเหมือนหนักใจที่จะพูดอะไรออกมา

“มีอะไรหรือเปล่า อยากพูดอะไรกับฉันหรือนัท นายคงไม่ได้มาหาฉันเพื่อถามเรื่องนี้หรอกมั้ง”

“เราไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นพูดว่ายังไงดีเหมือนกัน”สีหน้านัทธีเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาไม่ได้ทำหน้าเฉย ๆ เหมือนเมื่อครั้งที่เรียนด้วยกัน แต่มีความหวั่นวิตกปะปนอยู่ในแววตาคู่นั้น

“ว่ามาเลย นายอยากถามเราเรื่องอะไร”

“เรื่องที่เธอช่วยรัชต์ เธอช่วยเขาเพราะอะไร ฉันไม่อยากให้เธอหัวเราะเยาะเขาลับหลัง รัชต์ไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอเห็นหรอกนะ ตอนที่เธอหายไปรัชต์ตามหาเธอโดยไม่สนใจการเรียนเลยเขาไม่เป็นตัวของตัวเองตั้งแต่เธอหายไปกว่าที่เขาจะหายดีก็ใช้เวลานานมากนะกี ฉันไม่รู้ว่าช่วงที่เรียนจบเกิดอะไรขึ้นแต่มันเป็นอดีตไปแล้ว ในตอนนี้ ฉันไม่อยากให้รัชต์เป็นอย่างนั้นอีกแค่เรื่องน้องสาว มันก็เจ็บปวดพอแล้ว”

“ฉันรู้ ฉันอยากช่วยเขาจริง ๆ เพราะเราเป็นเพื่อนกันไงนัท ฉันจะไม่ทำให้เขาเป็นอย่างนั้นอีก”

“ใช่ เธออาจจะคิดอย่างนั้นแต่สำหรับรัชต์มันไม่ใช่ คนที่อ่อนไหวยังไงก็ยังคงเป็นคนที่เจ็บที่สุดอยู่ดี ฉันพูดเพราะฉันเป็นเพื่อนมันไม่อยากให้มันเป็นเหมือนเดิมอีก เมื่อเธอกลับมาก็เป็นเหมือนปาฏิหารย์สำหรับรัชต์ ถ้าฉันขอร้อง ให้เธออยู่ข้าง ๆ มันตลอดไปจะเป็นไปได้ไหม”คำขอนั้นกลั่นมาจากใจของนัท เขาอยากให้เป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขากลัวว่ารัชต์จะเป็นอะไรไปถ้าหากกีหายไปอีกครั้ง ตอนนี้รัชต์ไม่เหลืออะไรแล้วทั้งครอบครัวและคนที่รัก ถ้านี่คือสิ่งเดียวที่จะทำให้เพื่อนได้เขาก็อยากทำ ตอนที่ดาวตาย รัชต์แทบจะตายตามน้องสาวไปด้วยเพราะเขารักดาวมาก ครอบครัวที่ไม่เหลือใครมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะมี รัชต์เคยพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ยังคงดูแลน้องสาวอยู่ห่าง ๆ ปากแม้จะพูดอย่างนั้นแต่ใจเขาก็รักและโหยหาครอบครัวมาโดยตลอด ยิ่งมาเจอกีอีกครั้งมันก็เหมือนความหวังที่ก่อตัวขึ้นใหม่

“ฉันคงทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะนัท”

“ทำไม ในเมื่อ”

“ฉันทำไม่ได้ สาเหตุที่ฉันหายไปก็เพราะสิ่งที่นายขอฉันนั่นแหละนัท ฉันไม่อยากให้รัชต์มาอยู่ในโลกที่ฉันอยู่” คำตอบของเพื่อนสาวทำให้นัทถึงกับถอนหายใจ หลังจากที่พูดคุยกับกีจบนัทก็ขับรถออกไปหารัชต์ที่ห้อง เขาพยายามคิดถึงคำว่า”โลกที่ฉันอยู่”ของเพื่อนสาวด้วยความไม่เข้าใจ มันคืออะไรกันแน่?

“ทำไมเธอถึงได้พูดอย่างนั้น”นัทพยายามคิดถึงเพื่อนที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับกีอย่างน้อยต้องมีคนที่รู้สาเหตุของการหายไปของกี เพื่อนที่กีสนิทก็มีแค่ปานใจและโต้สองคนนี้ต้องรู้เรื่องมากกว่าที่คนอื่นรู้อย่างแน่นอน

กีรตินั่งแท็กซี่ออกมาจากหอพักตั้งแต่เช้าโดยไม่เจอกับรัชต์ซึ่งเขาจะมาอยู่ที่ห้องน้องสาวตั้งแต่เริ่มสืบเรื่องแล้ว สองวันที่ผ่านมาเธอจงใจที่จะเลี่ยงไม่เจอรัชต์ คำบางคำมันยังก้องอยู่ในหัวของเธอเสมอ คำพูดของนัทธีทำให้เธอหวั่นไหว แต่ทว่าโลกที่เธออยู่มันแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง สองมือนี้มันคงไม่ดีพอสำหรับใคร แม้แต่ตัวเธอเองยังเกลียดมัน

เสียงอื้ออึงในห้องเรียนแม้จะทำให้เธอรำคาญอยู่บ้างแต่มันก็สนุกที่ได้เห็นเพื่อน ๆ มีความสุข สองวันก่อนกีรติได้ยินพ่อคุยกับใครหลายคนเรื่องธุรกิจบางอย่าง เธอรับรู้แค่ว่าพ่อทำงานรับจ้างทั่วไปแต่ก็แปลกใจทุกครั้งที่พ่อมีเงินจ่ายค่าเทอมให้โดยไม่ต้องกระเบียดกระเสียรอะไรซักนิด ถ้าเธอรู้คำตอบอยู่แล้ว เธอจะไม่มีวันเข้าไปพัวพันเรื่องเหล่านั้นเลย

“นี่กี เย็นนี้ไปหาลุงจ่ากันไหม ”เสียงโต้หันมากระซิบถามหน้าตาตื่นเต้น หลังจากที่รวมกลุ่มกันแอบอ้างที่จะทำชมรมนักสืบโดยมีลุงจ่าธวัชชัยเป็นที่ปรึกษาโดยไม่รู้ตัว โต้ก็ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เข้าไปพูดคุยกับลุงจ่า

“ได้สิ แล้วปานละไม่ไปเหรอ”

“เห็นว่ามีประชุมคณะกรรมการนักเรียนน่ะ ช่วงนี้เขาไม่สนใจพวกเราหรอกมีแต่ ตามติดรัชต์แจเลย”

“แน่ละ ”กีรติทิ้งท้ายไว้อย่างนั้นเป็นที่รู้กันว่าปานใจคิดอย่างไรกับรัชต์เพื่อนนักเรียนที่มีทั้งรูปร่างหน้าตาดี ฐานะทางบ้านก็ร่ำรวยแถมมีดีกรีการเรียนที่เลิศกว่าผู้ชายคนอื่นในห้อง

“แล้วไง เรื่องคดียาเสพย์ติดที่ลุงจ่าเล่าให้ฟัง อยากให้พวกเราช่วยอะไรงั้นเหรอ”กีรติถามเพื่อนหลังจากที่เงียบไปนาน

“เขาอยากได้เด็กไปช่วยเป็นนกต่อ ให้ใครไปดี ฉันไปได้นะ”โต้เสนอตัวเอง

“ลืมแล้วหรือไง นายน่ะ ดีกรีนักกีฬาโรงเรียนแถมยังปากยังกับกรรไกร ไม่มีเค้าความน่าจะเป็นคนติดยาซักนิดเลยนะโต้ ต้องเป็นเด็กเรียนไม่เก่ง ท่าทางผอม ๆ หมกมุ่น ”

“อ้าววว อย่างนี้จะไปหาได้ที่ไหนละที่ไม่ทำให้ความแตก ”

“เดี๋ยวก็รู้เองแหละ ค่อย ๆ คิด ”

“อืม ผอม ๆ เรียนไม่เก่ง ทุกอย่างจะตรงข้ามกับเธอหมดเลยนะ”กีรติรู้สึกเหมือนเพื่อนชายเธอประชดอย่างไรก็ไม่ทราบ

“ฉันรู้จักอยู่คนหนึ่ง แต่ ไม่รู้จะได้ไหม”สีหน้าของโต้เหมือนหวาดเกรงอะไรบางอย่าง

“ใครเหรอ”

“ เอ่อ กานต์ น้องชายเธอไง”

“เฮ้ยยย ไม่ได้มันเสี่ยงเกินไป ”

“น้องชายเธอแหละ โอเค ผอมๆ แถมหมกมุ่นกับคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เรียนก็ไม่เก่ง ”

“ใครว่า กานต์เก่งคณิตศาสตร์ เขาอยากเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ ”กีรติแย้งแทนน้องชายตัวเอง แม้ใคร ๆ จะว่าน้องชายกับเธอต่างกันมากแต่เธอรู้ดีว่า กานต์มีความสามารถพิเศษ เขาทำอะไรได้มากกว่าที่เห็น เก่งในเรื่องที่คนอื่นว่ามันไร้สาระ

“ไม่ได้ ”คำตอบนั้นสั้นและได้ใจความแต่สุดท้ายแล้ว กานต์ก็ได้ทำงานนี้เพราะลุงจ่าขอร้องให้ช่วยงานนี้ โดยที่ไม่รู้ว่ามีแผนซ้อนแผนโดยหน่วยงานปราบปรามที่แฝงตัวมานานร่วมสิบปีเพี่อให้ได้หัวหน้ากลุ่มผู้ค้านยาเสพย์ติดที่แท้จริง ลุงจ่ากลับกลายเป็นคนที่ทำผิด มีคนตายจากเรื่องนี้สองคน หนึ่งในนั้นคือ กานต์ น้องชายของเธอ แต่ศพที่สาม เป็นฝีมือของเธอ


“คุณครับ ถึงแล้วครับ”เสียงคนขับแท็กซี่เรียกทำให้กีได้สติหันไปมองก่อนจะก้มลงหากระเป๋าเงิน

“เท่าไหร่คะ”เมื่อได้ยินราคากีจึงรีบจ่ายเงินก่อนจะลงจากรถ เธอหันไปมองบ้านไม้เก่า ๆ ที่อยู่ท้ายซอยนั้นด้วยความคุ้นเคยสี่ปีที่เธออยู่ที่นั่น ไม่กล้าสบตาใคร สิ้นหวังและไม่เหลืออะไรเลย เมื่อมาถึงหน้าบ้าน เธอเห็นชายแก่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่หน้าบ้านอย่างที่เคยทำทุก ๆวันหยุด

“ลุงจ่า สวัสดีคะ”ชายแก่เงยหน้าขึ้นมองต้นเสียง เขายิ้มกว้างเมื่อเห็นกีรติ

“ไอ้กีหลานรัก เป็นไงมาไงวะ” กียิ้มก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ ลุงจ่าธวัชชัย

“มาหาลุงจ่าแหละ พอดีมีเรื่องรบกวนลุงหน่อยค่ะ”

“เรื่องร้อนอะไรหรือเปล่า หรือเรื่องเงินเอาสิเดี๋ยวลุงหามาให้”สีหน้าของหลานสาวนั้นดูอึดอัดจนทำให้ลุงจ่าคิดเป็นห่วง

“เปล่าหรอกลุง”กีไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าทุกครั้งที่เธอได้เห็นบ้านหลังนั้นเธอรู้สึกถึงอดีตมันหวนกลับมาอีกครั้ง

“ว่าแต่เรื่องที่จะให้ช่วยเรื่องอะไรเหรอ”

“ลุงจำคดีที่มีเด็กฆ่าตัวตายที่หอพักกีได้ไหม ตอนนี้กีตามเรื่องนี้อยู่ กีอยากได้บันทึกสถานที่เกิดเหตุในวันที่ไปพบศพ” ลุงจ่าหันมามองหลานสาวด้วยแววตาแปลกใจ นานแล้วที่กีไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว เขายังจำได้ดีตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาสองมือที่เต็มไปด้วยเลือดประคองร่างของน้องชายไว้ในอ้อมกอด คำพูดสุดท้ายที่เธอหันมาบอกเขาในตอนที่เขาพยายามกันเธอไว้ในห้อง ’ทำไมไม่จับพวกมัน กีช่วยพวกคุณแต่พวกคุณกลับไม่รับรู้อะไรเลยอย่างนั้นหรือ ’ คำพูดนั้นสะท้อนเหมือนมีดที่ทิ่มแทงเขามาโดยตลอด เขาผิดเองที่เอาเธอมาพัวพันเรื่องราวทั้งหมด

“ทำไมถึงได้เลือกที่จะทำคดีนี้ในเมื่อกีบอกว่าจะไม่เกี่ยวข้องกับพวกเราอีก” กีนิ่งไปก่อนจะลุกขึ้นยืน

“พรุ่งนี้กีจะมาเอา ขอบคุณนะคะลุง”กีเดินออกไปแล้วเธอไม่หันกลับไปมองลุงจ่าที่ได้แต่มองเธอเดินจากมาจนสุดสายตา ความเจ็บปวดยังฝังลึกลงไปในดวงตาที่ฝ้าฟางนั้น อาจจะถึงเวลาแล้วที่ต้องฟาดฟันกันด้วยหลักฐาน เขาจะบอกเธอได้อย่างไรว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่สมควรรื้อฟื้นมันขึ้นมาอีก ถ้ากีรติเลือกที่จะรื้อคดีนี้ เขาก็เลือกที่จะทำลายมันเช่นกัน

นัทนั่งดื่มรอเพื่อนอยู่ที่ร้านเหล้าร้านเดิมที่เคยนัดกันเป็นประจำ ไม่นานรัชต์ก็เดินเข้ามาในร้านเขาโบกมือทักทายเพื่อนพอถึงโต๊ะก็นั่งลงตรงข้าม

“ตอนแรกกะว่าจะโทร.ชวนกีมาด้วยแต่ติดต่อเขาไม่ได้ทั้งวันเลย เมื่อวานก็ไม่รู้หายตัวไปไหน” สีหน้ากังวลของรัชต์ทำให้นัทยิ้ม

“ท่าทางนายจะกังวลกับกีมากเป็นพิเศษนะ”

“ก็ เปล่า เพื่อนกัน เพื่อนหายไปก็ย่อมเป็นห่วงสิวะ”รัชต์หลบตาเพื่อนก่อนจะหันไปรินเครื่องดื่มให้ตัวเอง นัทอมยิ้ม

“สองวันก่อนฉันเจอกันแล้ว”รัชต์หันไปมองเพื่อนด้วยความตกใจ

“อะไรนะแกไปหากีแล้วเหรอ”

“อืม .เธอสวยขึ้นนะ”นัทพูดแต่สายตาไม่ได้มองเพื่อน รัชต์กระแอมเพราะรู้สึกเหมือนคอแห้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น

“ นายแน่ใจเหรอว่าแค่เพื่อน”นัทหันมาถามเพื่อนชายตรง ๆ

“ฉันรู้ว่าแกรู้ แต่เขายืนยันว่าแค่เพื่อนนี่”รัชต์พูดสีหน้าเคร่งขรึม

“ฉันรู้สึกว่ากีเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกีคนที่เรารู้จัก ไม่รู้ว่านายจะสัมผัสได้หรือเปล่า”นัทเปิดประเด็นที่รัชต์เองก็คิดอยู่เช่นกัน

“ใช่ ฉันรู้สึกเหมือนแกแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดีเหมือนกันให้เธอกล้าเปิดใจ”

“อย่างกีคงจะยากหน่อยแต่ถ้าถามจากโต้หรือไม่ก็ปานใจน่าจะได้อะไรมาบ้าง”นัทเสนอ รัชต์ถอนหายใจเอนหลังกับพนักเก้าอี้

“สำหรับปานใจคงจะยากเพราะฉันรู้สึกว่าสองคนนี้มีอะไรแปลก ๆ ฉันนี่แย่มากเลยนายว่าไหม ขนาดนายเพิ่งมายังสังเกตเห็นความผิดปกติแต่ฉันอยู่กับกีทุกวันกลับมองไม่เห็น”

“เพราะนายรักเธอมากไง นายถึงไม่กล้า นายกลัวที่จะเสียกีไปอีกใช่ไหม” นัทพูดตรงเสียจนคนฟังแค่นหัวเราะออกมา

“ฉันนี่ปิดอะไรไม่ได้เลยจริง ๆ”

“ก่อนที่นายจะตามหาความจริงของดาว นายควรจะตามหาต้นตอของการหายไปของกีดีกว่าไหม วันที่เรียนจบเกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกนาย”คำถามของนัททำให้เพื่อนชายนิ่งไป

“ก่อนหน้านั้นทุกคนคิดว่าฉันกับกีเป็นคู่แข่งกันแต่จริง ๆ แล้วฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น ฉันชอบเขามาตลอดจนวันที่เรียนจบฉันตั้งใจจะบอกความจริงกับเขา เธอบอกว่าวันรุ่งขึ้นจะให้คำตอบแต่ฉันเชื่อว่ากีก็ไม่ได้คิดต่างจากฉันเท่าไหร่ พอถึงวันที่เรานัดกันกีไม่ได้มาตามนัด เธอหายตัวไป”

“เพราะอย่างนี้นายถึงดร็อปเรียนในปีแรกเพื่อตามหากีอย่างนั้นใช่ไหม ”รัชต์พยักหน้ายอมรับกับเพื่อน คราวนี้นัทเป็นฝ่ายถอนหายใจแทน

“การหนีปัญหาไม่ใช่นิสัยของกีแน่ๆ มันต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นระหว่างนั้นแน่ ๆ”นัทยิงประเด็นขึ้นมาอีก รัชต์พยายามคิดตาม มันเป็นเรื่องที่ค้างคาใจเขามานาน

“กีบอกฉันว่า โลกที่เขาอยู่ไม่เหมาะกับนาย” รัชต์เงยหน้าขึ้นสอบตากับเพื่อนชาย โลกที่กีอยู่อย่างนั้นหรือ?



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 20:34:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 20:34:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 2008





<< “ตอนที่ 2 สิ่งที่หายไป”   “ตอนที่ 4 โลกของเธอ” >>
lovemuay 24 พ.ค. 2554, 21:50:47 น.
สนุกมากเลย ลึกลับซ่อนเงื่อนดี
มาต่อเร็วนะคะ ^^


ปูสีน้ำเงิน 25 พ.ค. 2554, 02:55:52 น.
ยัยกีสู้ๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account