บ่วงพราย
ขนมงจีนถูกส่งไปที่คฤหาสน์สีขาว ที่นั่นเป็นบ้านของคุณหลวง ทว่า...เธอได้พบกับวิญญานชายหนุ่ม ที่แม้แต่ที่อยู่และสถานที่ที่ตัวเองตาย ก็ยังไม่รูั้เลย แล้วเธอจะทำอะไรดีเนี่ย
Tags: รักหวานแหวว หวานซึ้ง พล็อดสนุก สนุกสนาน
ตอน: คฤหาสน์สีขาว
บ่วงพราย
บทที่ 1
คฤหาสน์สีขาว
ขนมจีนมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านคฤหาสน์สองชั้น ข้างบนเป็นหน้าต่างเรียงรายปิดสนิทแน่นราวกับไม่มีช่องให้เล็ดรอดเข้าไปได้เลย ต้นไม้ใหญ่เรียงรายอยู่ทุกหย่อมหญ้า คฤหาสน์หลังนี้เป็นของคุณหลวงทิ้งเอาไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลาน เธอเองไม่เคยมาที่นี่นักหรอก แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตทั้งคู่ บ้านของพวกญาติที่อยู่ติดกันไม่ไกลเกิดนึกสงสาร เลยให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้และหางานทำ
“คฤหาสน์สีขาวหลังนี้น่ะเหรอ” เธอลอบมองเข้าไปในประตูรั้ว
รู้สึกว่ามันยาวนานเสียเหลือเกิน เธอมองไปบนหน้าต่างที่ปิดสนิท คฤหาสน์สีขาวที่เธอยืนอยู่ มันปิดตายมาตั้งแต่สมัยคุณหลวงตาย แปลกเหลือเกินตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่เคยเห็นใครเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้เลยสักคน
“เอาล่ะ เธอย้ายเข้าไปอยู่ที่นี่ได้นะ”
“แล้วคุณป้าละคะ”
“ฉันเหรอ ฉันก็อยู่บ้านของฉันนะสิ บ้านหลังโน้นที่เธอเห็นตอนแรกน่ะ คนมันก็แน่นขนัดไปหมดเธออยู่ที่นี่ดีกว่า” คำว่าแน่นขนัดของคุณป้ามีกันอยู่แค่สามคน
“เหรอคะ”
“เออ จริงสิแล้วมรดกของพ่อกับแม่ล่ะ เขาได้ทำประกันให้เธอหรือเปล่า”
“ก็พอมีค่ะ”
“ดีแล้ว เพราะเธอจะมาเอากับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะยายแววกับตาชิตน่ะเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยจบกัน ค่าใช้จ่ายก็ตั้งเยอะดี ยังดีนะที่เธอยังมีสมบัติ”
ขนมจีนนิ่งเงียบ ใช่ว่าเธอไม่รู้หรอกว่าญาติที่เหลืออยู่พึ่งพาอาศัยไม่ได้ค่อยได้ พ่อกับแม่ก็มาสูญเสียไปอีก แถมเธอยังต้องมาอาศัยอยู่คฤหาสน์หลังสีขาวแบบนี้อีก
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูไม่เคยคิดจะไปพึ่งใคร”
“งั้นเหรอ” ผู้เป็นป้าชำเลืองมองมาอย่างโล่งใจ “ก็ดีแล้วนี่”
“หนูเข้าไปอยู่ได้เลยหรือเปล่าคะ”
“เข้าไปได้เลย นี่ลูกกุญแจ...ว่าแต่เธออยู่คนเดียวได้หรือจ๊ะ”
“ทำไมคะ”
“ก็แบบว่า คฤหาสน์หลังที่ทิ้งไว้นาน ๆ มันอาจจะมีแมลงหรือพวกสัตว์เลื้อยคลานอะไรพวกนี้อยู่ก็ได้” ผู้เป็นป้าลอยหน้าลอยตาถาม
ขนมจีนมองขึ้นไปบนคฤหาสน์หลังสีขาวเธอมองเห็นเงาจาง ๆ ปกคลุมบ้านนี้อยู่ แต่ว่าเธอมีทางเลือกซะที่ไหนกันล่ะ ความจริงเธอก็ไม่ค่อยอยากเห็นนักหรอก แต่เมื่อเธอต้องเป็นผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูดูแลตัวเองได้” เธอยิ้ม ๆ
“ดีแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ”
เมื่อผู้เป็นป้าเดินออกไปนอกประตูรั้วแล้ว เธอค่อย ๆ หยิบเอากุญแจไขประตูเข้าไป เสียงเปิดประตูดังแอ้ดภายในดูมืดมัวและเต็มไปด้วยหยากไย่ เธอเงยหน้ามองขึ้นไปบนรูปภาพใบใหญ่ เธอมองเห็นรูปของคุณหลวงท่านมีรอยยิ้มอ่อนโยน เธอเดินเข้าไปมือปัดหยากไย่ออกจากใบหน้า
“คุณหลวงคะ หนูมาแล้วค่ะ” เธอเอ่ยเบา ๆ “เสียใจด้วยนะคะ ที่หนูไม่ได้พาพ่อและแม่มาด้วย หวังว่าคุณหลวงคงอยู่สบายดีนะคะ”
ขนมจีนมองดูไปรอบคฤหาสน์สีขาว คฤหาสน์หลังนี้ยังมีชั้นหนังสือเป็นสัน เธอมองไปที่เฟอร์นิเจอร์ทุกแห่งแต่มันคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว เธอคลี่ผ้าคลุมผืนหนึ่งแต่มันเต็มไปด้วยฝุ่นจนเธอไอโขลก ๆ
“ฝุ่นหนาจังเลย” เธอปิดปาก
เฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีรูปแกะสลักเป็นรูปดอกบัว แต่ละชิ้นสวยงามและเก่าแก่มาก เธอรู้มาว่าคุณหลวงของเธอเป็นขุนนางเก่าแก่ เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าคลุมออกมาเพื่อทำความสะอาด
“มีหนังสือตั้งเยอะแนะ” เธอชะโงกดูตัวหนังสือ และก็ต้องตกใจเพราะเห็นเงาใครบางคนทับซ้อนอยู่ในนั้น เธอสะดุ้งหันขวับไปมองทันที
ที่แท้ก็เป็นกระจกอยู่ด้านหลังเธอ
“กระจกเหรอ” เธอถอนหายใจยาว
เธอเดินไปดูหน้าตัวเองมองมันอยู่นาน กระจกมีลายกรอบไม้สวยงาม
“น่าแปลกจัง แถวนี้มีกระจกด้วยเหรอ” เธอเอ่ย
หลังจากเธอเก็บกวาดทำความสะอาดภายในคฤหาสน์เป็นเวลานาน เธอปัดฝุ่นที่หนาเตอะภายในบ้านแล้วก็ทำความสะอาดพื้นเสียยกใหญ่ กว่าจะเสร็จก็นานพอดู ภายในคฤหาสน์สีขาวหลังนี้ดูนานมาก นานจนแทบไม่มีใครเข้ามาเลย มันเพราะอะไรกันนะ
ขนมจีนมองดูรอยยิ้มของคุณหลวง
“คุณหลวงคะ หนูขออยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ”
เพล๊งง
ขนมจีนสะดุ้ง แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะจู่ ๆ ก็ตกลงมาแตกซะอย่างนั้น เธอนึกแปลกใจอยู่ดี ๆ ทำไมเธอถึงทำมันแตกได้ ตอนแรกเธอก็วางมันอยู่บนชั้นแท้ ๆ เธอถอนหายใจยาว เดินลงไปเก็บเศษแก้วลงในถังขยะ จู่ ๆ เศษแก้วของมันก็บาดเอานิ้วของเธอมีเลือดไหล
“อุ้ย...” เธออุทานแผ่ว “เจ็บจัง”
ทันใดนั้นเอง ก็บังเกิดลมหมุนพัดพาเอาเศษฝุ่นตรงหน้าเธอไหลวนขึ้นด้านบนศีรษะจนต้องใช้มือปิดหน้าเอาไว้ สายลมประหลาดพัดพาเส้นผมของเธอมันพลิ้วไสว ก่อนจะสลายลงไปในพริบตา
“ลมหมุน มาจากไหนกันน่ะ”
เธอมองดูรอบกาย ไม่เห็นว่าจะมีช่องอากาศให้สายลมพัดเข้ามาได้เลย เธอถอนหายใจยาวเริ่มเก็บแจกันที่ทำหล่นใส่ถัง แล้วเริ่มทำความสะอาด
ห้องนอนของเธออยู่บนชั้นสอง เธอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง มีเตียงนอนสีขาวอันใหญ่แล้วมีตู้เล็ก ๆ โต๊ะเขียนหนังสือวางไว้อย่างเรียบร้อย เธอเดินเข้าไปเปิดหน้าต่างรับสายลมเย็นข้างนอก อากาศข้างนอกบริสุทธิ์พัดโชยเข้ามาจนเธอสูดลมหายใจลึก
“อากาศดีจัง” เธอยิ้มละไม
จู่ ๆ ประตูของเธอที่เปิดกว้างก็ปิดดังโครมใหญ่ เธอสะดุ้งหันไปมอง
มันเกิดอะไรขึ้นนะ
“แปลกจัง ประตูทำไมถึงปิดได้ล่ะ” เธอขมวดคิ้ว บางทีตาของเธอก็มองเห็นเงาลาง ๆ อยู่ภายในนี้ แต่ว่าเธอไม่กลัว เพราะต่างคนต่างอยู่คนละที่กัน
หญิงสาวเอาพระที่ตนห้อยคอขึ้นมาพนมมือพร้อมกับอธิษฐานว่า
“ขอให้พระพุทธเจ้า ทรงคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเถิดนะคะ อย่าให้มีอุปสรรคขัดขวางเลยค่ะ” ขนมจีนกระซิบแผ่ว “เอาล่ะ ทำความสะอาดบ้านแล้วค่อยนอนดีกว่า”
“แม่คะ ขนมจีนเป็นยังไงบ้าง”
แววเชิดหน้า เธอสวมชุดกระโปรงแต่งสั้นเดินมานั่งกับแม่
“อะไรล่ะ”
“ก็...ขนมจีนไงคะ เราไม่ให้เขาอยู่ที่บ้านเรา แล้วแม่ให้เขาไปอยู่ที่ไหนละคะ”
แม่ของเธอถอนหายใจยาว
“อยู่คฤหาสน์สีขาวของคุณหลวงยังไงล่ะ”
“คฤหาสน์สีขาว แม่หมายถึงคฤหาสน์ของคุณหลวงน่ะเหรอคะ”
“ใช่ ถ้าไม่ให้อยู่บ้านหลังนั้น แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
แววทำหน้าเบ้ กอดอดขนลุกขนพอง
“ไอ้คฤหาสน์หลังนั้นน่ะ ต่อให้ตายหนูก็ไม่ยอมไปเด็ดขาด”
“นี่ยายแวว คฤหาสน์หลังนั้นเป็นของคุณหลวงเรานะ อย่าพูดมากเด็ดขาด”
“ก็จริงนี่คะ ตั้งแต่คุณหลวงตายก็ไม่มีใครอยู่บ้านนั้นเลย ว่าแต่ยายขนมจีนนั่นช่างกล้าน่าดูนะคะ สงสัยคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่เลย”
“จะกล้าหรือไม่กล้า ก็ต้องอยู่”
“แม่คะ ทำไมไม่ขายออกไปซะล่ะ”
“แม่ก็อยากขายจะแย่อยู่แล้ว แต่พอคนซื้อมาดูก็เกิดลมพัดกรรโชก ของหล่นแตกกระจาย แล้วแบบนี้จะมีใครกล้ามาอยู่อีกล่ะ”
แววทำหน้าตาประหลาด จะว่าไม่ใช่ผีมันก็กระไรอยู่
“น่ากลัวจังเลย”
“กลัวอะไร บ้านเราก็อยู่ห่างจากคฤหาสน์แค่ไม่กี่หลังคาเรือนเองนะ”
“นั่นแหละค่ะ ที่ว่าน่ากลัว เกิดคุณหลวงหรือใครที่อยู่ในบ้านเกิดมาเยี่ยมแม่ มีหวังกรี้ดแตกกันทั้งบ้าน”
“ยายแวว ซี้ซั้วพูดน่า”
“ก็จริงนี่คะไม่เอาล่ะหนูไปก่อนดีกว่า” แววนุ่งกระโปรงสั้นเดินถือกระเป๋า
“นั่นแกจะไปไหนน่ะ”
“ไปช้อปปิ้งค่ะ”
“นี่น้อย ๆ หน่อยนะ บ้านเราก็มีหนี้สินล้นพ้น แกก็เหมือนกันเรียนจบมาก็ตั้งนานแล้ว ตาชิตก็อีกคนเมื่อไหร่จะหางานทำกันสักที”
“โธ่ แม่คะ หนูก็พยายามอยู่ อย่าเพิ่งโมโหสิคะ”
“เฮ้อ”
“หนูไปก่อนนะคะ” แววหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินไปช้อปปิ้งส่วนตัว
ป้าผกาส่ายหน้าเบา ๆ ดูเอาเถอะลูกของเธอสองคน อีกคนก็ช้อปปิ้งอีกคนก็เอาแต่นอน เธอจะไปพึ่งใครก็ไม่ได้ ทีนี้ก็ต้องมาดูแลยายขนมจีนลูกของน้องชายเธออีก คิดแล้วมันน่าปวดหัวจริง ๆ เลย
“คงอยู่ได้นะ” เธอกระซิบแผ่ว
....คืนนี้ขนมจีนหลับสนิท เธอหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางความมืดสลัวมีเงาจรดอยู่ตรงพื้นค่อย ๆ ทาบทับไปบนแผ่นกว้าง แผ่ขยายออกไปทุกที ๆ พันเข้าที่ข้อเท้าเธอและแขนขาเธอ จนทำให้ขนมจีบอึดอัด เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ และเห็นเงารูปร่างเหมือนควันไฟมีโพรงเหมือนลูกกะตาสองคู่ เธอเลือดในกายจับตัวเป็นก้อนแข็ง อะไรกันนี่
ควันสีเทาขาวค่อนข้างใหญ่ เธอหายใจด้วยความอึดอัด จนกระทั่งไฟนั้นมาสัมผัสถูกพระที่คอห้อยคำถึงกับถอยร่นลงไป ทำเอาขนมจีนถึงกับหายใจด้วยความหอบ
“อะไรกันเนี่ย ฉันแค่มาอยู่ที่นี่เท่านั้นนะ”
หนีไปซะ
“อะไรนะ”
รีบหนีไปซะ ไม่อย่างนั้นเธอจะประสบกับความวิบัติ
“ฉันไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น นี่เป็นบ้านของคุณหลวง ฉันเป็นหลานของท่าน และฉันได้รับอนุญาตให้มาอยู่แล้วด้วย” ขนมจีนโมโห ถึงแม้ว่าเธอจะมีสัมผัสวิญญาณแต่การถูกบุกจู่โจมอย่างนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก
ภาพที่ปรากฏอยู่บนกลางห้อง เป็นรูปคุณหลวงที่สวมชุดสีขาวทั้งลำตัว ใบหน้าที่มองดูหลานมีรอยหมองหม่น ขนมจีนสะดุ้งด้วยความตกใจ
“คุณหลวง” เธอกระซิบแผ่ว
ภาพคุณหลวงหน้าไม่มีรอยยิ้ม มือของแกชี้ไปยังหน้าบ้าน เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด
“คุณหลวงคะ ตอนนี้พ่อและแม่หนูประสบอุบัติเหตุ หนูไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว”
รีบหนีไป
“คุณหลวง...แต่ว่า ว้าย”
จู่ ๆ ก็บังเกิดสายลมหมุนพัดพาเอาเส้นผมของเธอ และข้าวของภายในห้องกระจัดกระจายเกลื่อน จนกระทั่งมันหยุดลง เธอเบิกตากว้างมองไปภาพภายในห้องที่กระจัดกระจายเกลื่อน...
“นี่มันเรื่องอะไรกันนะ”
เธอกระซิบแผ่ว ‘ให้ออกไปหรือ’ เธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ
“คุณหลวงคะ ถึงบอกให้หนูออกไปหนูก็ไม่มีที่ให้กลับหรอก” เธอเอ่ยบาง ๆ
....ตอนเช้าคุณป้าที่เป็นผู้อุปการะเธอมาเดินกดกริ่งที่หน้าบ้านพร้อมกับแววที่เกาะแม่อยู่ตลอดเวลา
ขนมจีนที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดภายใน เธอได้ยินเสียงกริ่งและก็ออกมาเปิดประตูให้ สีหน้าของป้าและลูกพี่ลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าบ้านคล้าย ๆ จะแปลกใจที่เห็นเธอสบายดีอยู่ ขนมจีนยกมือไหว้และเชิญเข้าไปในบ้าน เธอบอกว่าเพิ่งทำความสะอาดชั้นล่างเสร็จ
“นี่เธอเมื่อคืนนอนสบายเลยหรือ”
“ค่ะ” เธอยิ้ม “ห้องนอนกว้างใหญ่มาก มีอะไรเหรอคะ”
“แล้วผี เอ่อวิญญาณน่ะ...มากวนเธอบ้างไหม” แววแอบอยู่ข้างหลังแม่ถาม
ขนมจีนยิ้ม ๆ แน่ล่ะป้าของเธอกับแววรู้อยู่แล้วว่าบ้านหลังนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลขึ้น แต่สำหรับเธอที่มีสัมผัสทางนี้ถือว่าไม่แปลกใจอะไร ป้าและน้องสาวเธอต่างหากที่กลัวจนไม่มีใครเข้ามาอยู่ที่นี่
“ไม่มีนี่คะ หรือว่าคุณป้ากับแววจะมาอาศัยอยู่ด้วย พอดีมีห้องกว้าง ๆ อีกตั้งหลายห้อง”
“ไม่เอาดีกว่า กลัวผีหักคอตาย”
“ยัยแวว พูดอะไรหัดให้เกียรติพี่เขาบ้างได้ไหม”
“ก็จริงนี่ ลองให้แม่มาอยู่แม่ก็คงไม่มาอยู่เหมือนกันแหละ”
“เอ๊ะ ยายแวว”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวหนูขอไปทำความสะอาดภายในต่อนะคะ” เธอยิ้มหวานหยด
“เดี๋ยวก่อน ถ้ามีอะไรขึ้นมาให้รีบบอกฉัน”
“คุณป้าจะให้หนูเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยงั้นหรือคะ”
“บ้าน่ะสิ ฉันมีห้องเช่าราคาถูกแบ่งให้เธอเช่าก็ได้นะ”
“ขอโทษทีค่ะ ที่ตอนนี้หนูไม่มีปัญหาอะไร ขอตัวก่อนนะคะ”
ขณะที่เธอเดินกลับเข้าไปในบ้าน ป้าของเธอกับแววก็หันไปนินทากัน เธอรู้อยู่แล้วว่าพวกนั้นต้องแอบคิดว่าเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วจะเปิดห้องเช่าให้ เธอถอนหายใจยาว เงินทองนี่มันไม่เข้าใครออกใครเอาเสียเลย รู้ ๆ ทั้งรู้ว่าเธอเป็นหลานแต่ป้าจะทำหน้าที่ญาติที่เหลืออยู่แค่คนเดียวไม่ได้เลย
“สงสัยว่าผีคงจะไม่มีแล้วมั้งคะ”
“ไม่มีทางหรอก แค่แม่เปิดประตูเข้าไปยังกลัวแทบตายเลย”
“แล้วแม่จะทำยังไงคะ ให้มันมาอยู่บ้านเดียวกับหนู หนูไม่เอานะคะ”
“ใครจะให้มันอยู่ล่ะ คอยดูเถอะอีกไม่นานต้องร้องไห้มาหาแน่”
“แล้วเราก็จะให้มันอยู่บ้านไม้เก่า ๆ หลังสวน”
“คิดว่าเช่าราคาถูก ๆ หน่อย มันคงมาอยู่เองละมั้ง”
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันสนุกปาก ไฟตรงสวนก็แตกละเอียดจนสองคนร้องว้ายหน้าตาซีดเผือด แววกับคุณป้าหันไปมองหน้ากัน ไม่มีอะไรเป็นเสียงเตือนเลยว่ามันจะหล่นแตก
“นั่นมัน...เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ถามแม่แล้วจะให้แม่ไปถามใครล่ะ” เธอตอบเสียงสั่น
“ไปกันเถอะค่ะ บ้านหลังนี้มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
สองแม่ลูกเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง โดยที่ขนมจีนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเธอเก็บกวาดภายในบ้านจนสะอาดเอี่ยม เธอถอนหายใจยาว เพียงแค่เอาผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วเช็ดไปตามรูปภาพ ทุกอย่างก็สะอาดหมดจดหมดแล้ว เธอเอาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดไปยังรูปภาพริมผนัง เมื่อถึงคุณหลวงที่ยิ้มให้เธอก็ยิ้มบาง
“คุณหลวง พ่อของหนูพูดถึงคุณหลวงบ่อย ๆ”
เธอเดินไปหยิบรูปถ่ายของพ่อแม่เธอออกมาจากกระเป๋า เป็นรูปที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม เธอเอามาติดไว้ที่ด้านล่างของคุณหลวงเธอ เป็นรูปถ่ายที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
เธอยิ้ม “กรุณาอย่าไล่หนูเลยนะคะ หนูไม่มีที่ไปแล้ว”
******************
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ ^__^
จุ๊บ ๆๆ
บทที่ 1
คฤหาสน์สีขาว
ขนมจีนมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านคฤหาสน์สองชั้น ข้างบนเป็นหน้าต่างเรียงรายปิดสนิทแน่นราวกับไม่มีช่องให้เล็ดรอดเข้าไปได้เลย ต้นไม้ใหญ่เรียงรายอยู่ทุกหย่อมหญ้า คฤหาสน์หลังนี้เป็นของคุณหลวงทิ้งเอาไว้ให้เป็นสมบัติของลูกหลาน เธอเองไม่เคยมาที่นี่นักหรอก แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตทั้งคู่ บ้านของพวกญาติที่อยู่ติดกันไม่ไกลเกิดนึกสงสาร เลยให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้และหางานทำ
“คฤหาสน์สีขาวหลังนี้น่ะเหรอ” เธอลอบมองเข้าไปในประตูรั้ว
รู้สึกว่ามันยาวนานเสียเหลือเกิน เธอมองไปบนหน้าต่างที่ปิดสนิท คฤหาสน์สีขาวที่เธอยืนอยู่ มันปิดตายมาตั้งแต่สมัยคุณหลวงตาย แปลกเหลือเกินตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เธอก็ไม่เคยเห็นใครเข้าไปอยู่ในบ้านหลังนี้เลยสักคน
“เอาล่ะ เธอย้ายเข้าไปอยู่ที่นี่ได้นะ”
“แล้วคุณป้าละคะ”
“ฉันเหรอ ฉันก็อยู่บ้านของฉันนะสิ บ้านหลังโน้นที่เธอเห็นตอนแรกน่ะ คนมันก็แน่นขนัดไปหมดเธออยู่ที่นี่ดีกว่า” คำว่าแน่นขนัดของคุณป้ามีกันอยู่แค่สามคน
“เหรอคะ”
“เออ จริงสิแล้วมรดกของพ่อกับแม่ล่ะ เขาได้ทำประกันให้เธอหรือเปล่า”
“ก็พอมีค่ะ”
“ดีแล้ว เพราะเธอจะมาเอากับฉันไม่ได้หรอกนะ เพราะยายแววกับตาชิตน่ะเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยจบกัน ค่าใช้จ่ายก็ตั้งเยอะดี ยังดีนะที่เธอยังมีสมบัติ”
ขนมจีนนิ่งเงียบ ใช่ว่าเธอไม่รู้หรอกว่าญาติที่เหลืออยู่พึ่งพาอาศัยไม่ได้ค่อยได้ พ่อกับแม่ก็มาสูญเสียไปอีก แถมเธอยังต้องมาอาศัยอยู่คฤหาสน์หลังสีขาวแบบนี้อีก
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ หนูไม่เคยคิดจะไปพึ่งใคร”
“งั้นเหรอ” ผู้เป็นป้าชำเลืองมองมาอย่างโล่งใจ “ก็ดีแล้วนี่”
“หนูเข้าไปอยู่ได้เลยหรือเปล่าคะ”
“เข้าไปได้เลย นี่ลูกกุญแจ...ว่าแต่เธออยู่คนเดียวได้หรือจ๊ะ”
“ทำไมคะ”
“ก็แบบว่า คฤหาสน์หลังที่ทิ้งไว้นาน ๆ มันอาจจะมีแมลงหรือพวกสัตว์เลื้อยคลานอะไรพวกนี้อยู่ก็ได้” ผู้เป็นป้าลอยหน้าลอยตาถาม
ขนมจีนมองขึ้นไปบนคฤหาสน์หลังสีขาวเธอมองเห็นเงาจาง ๆ ปกคลุมบ้านนี้อยู่ แต่ว่าเธอมีทางเลือกซะที่ไหนกันล่ะ ความจริงเธอก็ไม่ค่อยอยากเห็นนักหรอก แต่เมื่อเธอต้องเป็นผู้อาศัยอยู่ในคฤหาสน์หลังนี้ มันก็ช่วยไม่ได้นี่นะ
“ไม่ต้องห่วงค่ะ หนูดูแลตัวเองได้” เธอยิ้ม ๆ
“ดีแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ”
เมื่อผู้เป็นป้าเดินออกไปนอกประตูรั้วแล้ว เธอค่อย ๆ หยิบเอากุญแจไขประตูเข้าไป เสียงเปิดประตูดังแอ้ดภายในดูมืดมัวและเต็มไปด้วยหยากไย่ เธอเงยหน้ามองขึ้นไปบนรูปภาพใบใหญ่ เธอมองเห็นรูปของคุณหลวงท่านมีรอยยิ้มอ่อนโยน เธอเดินเข้าไปมือปัดหยากไย่ออกจากใบหน้า
“คุณหลวงคะ หนูมาแล้วค่ะ” เธอเอ่ยเบา ๆ “เสียใจด้วยนะคะ ที่หนูไม่ได้พาพ่อและแม่มาด้วย หวังว่าคุณหลวงคงอยู่สบายดีนะคะ”
ขนมจีนมองดูไปรอบคฤหาสน์สีขาว คฤหาสน์หลังนี้ยังมีชั้นหนังสือเป็นสัน เธอมองไปที่เฟอร์นิเจอร์ทุกแห่งแต่มันคลุมไว้ด้วยผ้าสีขาว เธอคลี่ผ้าคลุมผืนหนึ่งแต่มันเต็มไปด้วยฝุ่นจนเธอไอโขลก ๆ
“ฝุ่นหนาจังเลย” เธอปิดปาก
เฟอร์นิเจอร์ไม้สักมีรูปแกะสลักเป็นรูปดอกบัว แต่ละชิ้นสวยงามและเก่าแก่มาก เธอรู้มาว่าคุณหลวงของเธอเป็นขุนนางเก่าแก่ เธอค่อย ๆ คลี่ผ้าคลุมออกมาเพื่อทำความสะอาด
“มีหนังสือตั้งเยอะแนะ” เธอชะโงกดูตัวหนังสือ และก็ต้องตกใจเพราะเห็นเงาใครบางคนทับซ้อนอยู่ในนั้น เธอสะดุ้งหันขวับไปมองทันที
ที่แท้ก็เป็นกระจกอยู่ด้านหลังเธอ
“กระจกเหรอ” เธอถอนหายใจยาว
เธอเดินไปดูหน้าตัวเองมองมันอยู่นาน กระจกมีลายกรอบไม้สวยงาม
“น่าแปลกจัง แถวนี้มีกระจกด้วยเหรอ” เธอเอ่ย
หลังจากเธอเก็บกวาดทำความสะอาดภายในคฤหาสน์เป็นเวลานาน เธอปัดฝุ่นที่หนาเตอะภายในบ้านแล้วก็ทำความสะอาดพื้นเสียยกใหญ่ กว่าจะเสร็จก็นานพอดู ภายในคฤหาสน์สีขาวหลังนี้ดูนานมาก นานจนแทบไม่มีใครเข้ามาเลย มันเพราะอะไรกันนะ
ขนมจีนมองดูรอยยิ้มของคุณหลวง
“คุณหลวงคะ หนูขออยู่ที่นี่ด้วยคนนะคะ”
เพล๊งง
ขนมจีนสะดุ้ง แจกันที่วางอยู่บนโต๊ะจู่ ๆ ก็ตกลงมาแตกซะอย่างนั้น เธอนึกแปลกใจอยู่ดี ๆ ทำไมเธอถึงทำมันแตกได้ ตอนแรกเธอก็วางมันอยู่บนชั้นแท้ ๆ เธอถอนหายใจยาว เดินลงไปเก็บเศษแก้วลงในถังขยะ จู่ ๆ เศษแก้วของมันก็บาดเอานิ้วของเธอมีเลือดไหล
“อุ้ย...” เธออุทานแผ่ว “เจ็บจัง”
ทันใดนั้นเอง ก็บังเกิดลมหมุนพัดพาเอาเศษฝุ่นตรงหน้าเธอไหลวนขึ้นด้านบนศีรษะจนต้องใช้มือปิดหน้าเอาไว้ สายลมประหลาดพัดพาเส้นผมของเธอมันพลิ้วไสว ก่อนจะสลายลงไปในพริบตา
“ลมหมุน มาจากไหนกันน่ะ”
เธอมองดูรอบกาย ไม่เห็นว่าจะมีช่องอากาศให้สายลมพัดเข้ามาได้เลย เธอถอนหายใจยาวเริ่มเก็บแจกันที่ทำหล่นใส่ถัง แล้วเริ่มทำความสะอาด
ห้องนอนของเธออยู่บนชั้นสอง เธอเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง มีเตียงนอนสีขาวอันใหญ่แล้วมีตู้เล็ก ๆ โต๊ะเขียนหนังสือวางไว้อย่างเรียบร้อย เธอเดินเข้าไปเปิดหน้าต่างรับสายลมเย็นข้างนอก อากาศข้างนอกบริสุทธิ์พัดโชยเข้ามาจนเธอสูดลมหายใจลึก
“อากาศดีจัง” เธอยิ้มละไม
จู่ ๆ ประตูของเธอที่เปิดกว้างก็ปิดดังโครมใหญ่ เธอสะดุ้งหันไปมอง
มันเกิดอะไรขึ้นนะ
“แปลกจัง ประตูทำไมถึงปิดได้ล่ะ” เธอขมวดคิ้ว บางทีตาของเธอก็มองเห็นเงาลาง ๆ อยู่ภายในนี้ แต่ว่าเธอไม่กลัว เพราะต่างคนต่างอยู่คนละที่กัน
หญิงสาวเอาพระที่ตนห้อยคอขึ้นมาพนมมือพร้อมกับอธิษฐานว่า
“ขอให้พระพุทธเจ้า ทรงคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเถิดนะคะ อย่าให้มีอุปสรรคขัดขวางเลยค่ะ” ขนมจีนกระซิบแผ่ว “เอาล่ะ ทำความสะอาดบ้านแล้วค่อยนอนดีกว่า”
“แม่คะ ขนมจีนเป็นยังไงบ้าง”
แววเชิดหน้า เธอสวมชุดกระโปรงแต่งสั้นเดินมานั่งกับแม่
“อะไรล่ะ”
“ก็...ขนมจีนไงคะ เราไม่ให้เขาอยู่ที่บ้านเรา แล้วแม่ให้เขาไปอยู่ที่ไหนละคะ”
แม่ของเธอถอนหายใจยาว
“อยู่คฤหาสน์สีขาวของคุณหลวงยังไงล่ะ”
“คฤหาสน์สีขาว แม่หมายถึงคฤหาสน์ของคุณหลวงน่ะเหรอคะ”
“ใช่ ถ้าไม่ให้อยู่บ้านหลังนั้น แล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน”
แววทำหน้าเบ้ กอดอดขนลุกขนพอง
“ไอ้คฤหาสน์หลังนั้นน่ะ ต่อให้ตายหนูก็ไม่ยอมไปเด็ดขาด”
“นี่ยายแวว คฤหาสน์หลังนั้นเป็นของคุณหลวงเรานะ อย่าพูดมากเด็ดขาด”
“ก็จริงนี่คะ ตั้งแต่คุณหลวงตายก็ไม่มีใครอยู่บ้านนั้นเลย ว่าแต่ยายขนมจีนนั่นช่างกล้าน่าดูนะคะ สงสัยคืนนี้คงนอนไม่หลับแน่เลย”
“จะกล้าหรือไม่กล้า ก็ต้องอยู่”
“แม่คะ ทำไมไม่ขายออกไปซะล่ะ”
“แม่ก็อยากขายจะแย่อยู่แล้ว แต่พอคนซื้อมาดูก็เกิดลมพัดกรรโชก ของหล่นแตกกระจาย แล้วแบบนี้จะมีใครกล้ามาอยู่อีกล่ะ”
แววทำหน้าตาประหลาด จะว่าไม่ใช่ผีมันก็กระไรอยู่
“น่ากลัวจังเลย”
“กลัวอะไร บ้านเราก็อยู่ห่างจากคฤหาสน์แค่ไม่กี่หลังคาเรือนเองนะ”
“นั่นแหละค่ะ ที่ว่าน่ากลัว เกิดคุณหลวงหรือใครที่อยู่ในบ้านเกิดมาเยี่ยมแม่ มีหวังกรี้ดแตกกันทั้งบ้าน”
“ยายแวว ซี้ซั้วพูดน่า”
“ก็จริงนี่คะไม่เอาล่ะหนูไปก่อนดีกว่า” แววนุ่งกระโปรงสั้นเดินถือกระเป๋า
“นั่นแกจะไปไหนน่ะ”
“ไปช้อปปิ้งค่ะ”
“นี่น้อย ๆ หน่อยนะ บ้านเราก็มีหนี้สินล้นพ้น แกก็เหมือนกันเรียนจบมาก็ตั้งนานแล้ว ตาชิตก็อีกคนเมื่อไหร่จะหางานทำกันสักที”
“โธ่ แม่คะ หนูก็พยายามอยู่ อย่าเพิ่งโมโหสิคะ”
“เฮ้อ”
“หนูไปก่อนนะคะ” แววหอมแก้มแม่ฟอดใหญ่ ก่อนจะเดินไปช้อปปิ้งส่วนตัว
ป้าผกาส่ายหน้าเบา ๆ ดูเอาเถอะลูกของเธอสองคน อีกคนก็ช้อปปิ้งอีกคนก็เอาแต่นอน เธอจะไปพึ่งใครก็ไม่ได้ ทีนี้ก็ต้องมาดูแลยายขนมจีนลูกของน้องชายเธออีก คิดแล้วมันน่าปวดหัวจริง ๆ เลย
“คงอยู่ได้นะ” เธอกระซิบแผ่ว
....คืนนี้ขนมจีนหลับสนิท เธอหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอ ท่ามกลางความมืดสลัวมีเงาจรดอยู่ตรงพื้นค่อย ๆ ทาบทับไปบนแผ่นกว้าง แผ่ขยายออกไปทุกที ๆ พันเข้าที่ข้อเท้าเธอและแขนขาเธอ จนทำให้ขนมจีบอึดอัด เธอค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ และเห็นเงารูปร่างเหมือนควันไฟมีโพรงเหมือนลูกกะตาสองคู่ เธอเลือดในกายจับตัวเป็นก้อนแข็ง อะไรกันนี่
ควันสีเทาขาวค่อนข้างใหญ่ เธอหายใจด้วยความอึดอัด จนกระทั่งไฟนั้นมาสัมผัสถูกพระที่คอห้อยคำถึงกับถอยร่นลงไป ทำเอาขนมจีนถึงกับหายใจด้วยความหอบ
“อะไรกันเนี่ย ฉันแค่มาอยู่ที่นี่เท่านั้นนะ”
หนีไปซะ
“อะไรนะ”
รีบหนีไปซะ ไม่อย่างนั้นเธอจะประสบกับความวิบัติ
“ฉันไม่ไปที่ไหนทั้งนั้น นี่เป็นบ้านของคุณหลวง ฉันเป็นหลานของท่าน และฉันได้รับอนุญาตให้มาอยู่แล้วด้วย” ขนมจีนโมโห ถึงแม้ว่าเธอจะมีสัมผัสวิญญาณแต่การถูกบุกจู่โจมอย่างนี้ถือว่าเป็นครั้งแรก
ภาพที่ปรากฏอยู่บนกลางห้อง เป็นรูปคุณหลวงที่สวมชุดสีขาวทั้งลำตัว ใบหน้าที่มองดูหลานมีรอยหมองหม่น ขนมจีนสะดุ้งด้วยความตกใจ
“คุณหลวง” เธอกระซิบแผ่ว
ภาพคุณหลวงหน้าไม่มีรอยยิ้ม มือของแกชี้ไปยังหน้าบ้าน เธอไม่เข้าใจเลยสักนิด
“คุณหลวงคะ ตอนนี้พ่อและแม่หนูประสบอุบัติเหตุ หนูไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว”
รีบหนีไป
“คุณหลวง...แต่ว่า ว้าย”
จู่ ๆ ก็บังเกิดสายลมหมุนพัดพาเอาเส้นผมของเธอ และข้าวของภายในห้องกระจัดกระจายเกลื่อน จนกระทั่งมันหยุดลง เธอเบิกตากว้างมองไปภาพภายในห้องที่กระจัดกระจายเกลื่อน...
“นี่มันเรื่องอะไรกันนะ”
เธอกระซิบแผ่ว ‘ให้ออกไปหรือ’ เธอจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ
“คุณหลวงคะ ถึงบอกให้หนูออกไปหนูก็ไม่มีที่ให้กลับหรอก” เธอเอ่ยบาง ๆ
....ตอนเช้าคุณป้าที่เป็นผู้อุปการะเธอมาเดินกดกริ่งที่หน้าบ้านพร้อมกับแววที่เกาะแม่อยู่ตลอดเวลา
ขนมจีนที่มัวแต่ยุ่งอยู่กับการทำความสะอาดภายใน เธอได้ยินเสียงกริ่งและก็ออกมาเปิดประตูให้ สีหน้าของป้าและลูกพี่ลูกน้องที่ยืนอยู่หน้าบ้านคล้าย ๆ จะแปลกใจที่เห็นเธอสบายดีอยู่ ขนมจีนยกมือไหว้และเชิญเข้าไปในบ้าน เธอบอกว่าเพิ่งทำความสะอาดชั้นล่างเสร็จ
“นี่เธอเมื่อคืนนอนสบายเลยหรือ”
“ค่ะ” เธอยิ้ม “ห้องนอนกว้างใหญ่มาก มีอะไรเหรอคะ”
“แล้วผี เอ่อวิญญาณน่ะ...มากวนเธอบ้างไหม” แววแอบอยู่ข้างหลังแม่ถาม
ขนมจีนยิ้ม ๆ แน่ล่ะป้าของเธอกับแววรู้อยู่แล้วว่าบ้านหลังนี้มีเรื่องไม่ชอบมาพากลขึ้น แต่สำหรับเธอที่มีสัมผัสทางนี้ถือว่าไม่แปลกใจอะไร ป้าและน้องสาวเธอต่างหากที่กลัวจนไม่มีใครเข้ามาอยู่ที่นี่
“ไม่มีนี่คะ หรือว่าคุณป้ากับแววจะมาอาศัยอยู่ด้วย พอดีมีห้องกว้าง ๆ อีกตั้งหลายห้อง”
“ไม่เอาดีกว่า กลัวผีหักคอตาย”
“ยัยแวว พูดอะไรหัดให้เกียรติพี่เขาบ้างได้ไหม”
“ก็จริงนี่ ลองให้แม่มาอยู่แม่ก็คงไม่มาอยู่เหมือนกันแหละ”
“เอ๊ะ ยายแวว”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว เดี๋ยวหนูขอไปทำความสะอาดภายในต่อนะคะ” เธอยิ้มหวานหยด
“เดี๋ยวก่อน ถ้ามีอะไรขึ้นมาให้รีบบอกฉัน”
“คุณป้าจะให้หนูเข้าไปอยู่ในบ้านด้วยงั้นหรือคะ”
“บ้าน่ะสิ ฉันมีห้องเช่าราคาถูกแบ่งให้เธอเช่าก็ได้นะ”
“ขอโทษทีค่ะ ที่ตอนนี้หนูไม่มีปัญหาอะไร ขอตัวก่อนนะคะ”
ขณะที่เธอเดินกลับเข้าไปในบ้าน ป้าของเธอกับแววก็หันไปนินทากัน เธอรู้อยู่แล้วว่าพวกนั้นต้องแอบคิดว่าเธอจะอยู่ไม่ได้แล้วจะเปิดห้องเช่าให้ เธอถอนหายใจยาว เงินทองนี่มันไม่เข้าใครออกใครเอาเสียเลย รู้ ๆ ทั้งรู้ว่าเธอเป็นหลานแต่ป้าจะทำหน้าที่ญาติที่เหลืออยู่แค่คนเดียวไม่ได้เลย
“สงสัยว่าผีคงจะไม่มีแล้วมั้งคะ”
“ไม่มีทางหรอก แค่แม่เปิดประตูเข้าไปยังกลัวแทบตายเลย”
“แล้วแม่จะทำยังไงคะ ให้มันมาอยู่บ้านเดียวกับหนู หนูไม่เอานะคะ”
“ใครจะให้มันอยู่ล่ะ คอยดูเถอะอีกไม่นานต้องร้องไห้มาหาแน่”
“แล้วเราก็จะให้มันอยู่บ้านไม้เก่า ๆ หลังสวน”
“คิดว่าเช่าราคาถูก ๆ หน่อย มันคงมาอยู่เองละมั้ง”
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังคุยกันสนุกปาก ไฟตรงสวนก็แตกละเอียดจนสองคนร้องว้ายหน้าตาซีดเผือด แววกับคุณป้าหันไปมองหน้ากัน ไม่มีอะไรเป็นเสียงเตือนเลยว่ามันจะหล่นแตก
“นั่นมัน...เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ถามแม่แล้วจะให้แม่ไปถามใครล่ะ” เธอตอบเสียงสั่น
“ไปกันเถอะค่ะ บ้านหลังนี้มันแปลก ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
สองแม่ลูกเดินกลับไปยังบ้านของตัวเอง โดยที่ขนมจีนไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเธอเก็บกวาดภายในบ้านจนสะอาดเอี่ยม เธอถอนหายใจยาว เพียงแค่เอาผ้าสะอาดชุบน้ำแล้วเช็ดไปตามรูปภาพ ทุกอย่างก็สะอาดหมดจดหมดแล้ว เธอเอาผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดไปยังรูปภาพริมผนัง เมื่อถึงคุณหลวงที่ยิ้มให้เธอก็ยิ้มบาง
“คุณหลวง พ่อของหนูพูดถึงคุณหลวงบ่อย ๆ”
เธอเดินไปหยิบรูปถ่ายของพ่อแม่เธอออกมาจากกระเป๋า เป็นรูปที่เต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม เธอเอามาติดไว้ที่ด้านล่างของคุณหลวงเธอ เป็นรูปถ่ายที่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน
เธอยิ้ม “กรุณาอย่าไล่หนูเลยนะคะ หนูไม่มีที่ไปแล้ว”
******************
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ ^__^
จุ๊บ ๆๆ
เบลินญา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.พ. 2556, 16:58:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.พ. 2556, 16:58:07 น.
จำนวนการเข้าชม : 1852
วิญญานแปลกหน้า >> |
Auuuu 6 ก.พ. 2556, 19:57:43 น.
นางเอกเลิศศศศ
นางเอกเลิศศศศ
จิรารัตน์ 6 ก.พ. 2556, 22:52:44 น.
ชอบอ่ะเรื่องนี้
ชอบอ่ะเรื่องนี้
เบลินญา 7 ก.พ. 2556, 07:11:26 น.
ขอบคุณ คุณAuuuu และคุณจิรารัตน์มากค่ะ
ขอบคุณ คุณAuuuu และคุณจิรารัตน์มากค่ะ