เล่ห์รักลิขิตหัวใจ
รออัพนะคะ
Tags: ซาตาน

ตอน: ตอนที่1

เรื่องนี้เคยเอามาลงครั้งหนึ่งแล้วตอนเว็บเก่าค่ะแต่ลงไปไม่กี่ตอนเพราะยังเขียนไม่เสร็จ ...เสร็จแต่โครงตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จเหมือนเดิมลงไปเขียนไปค่ะ

ตอนที่ 1


ณ. หนองโสน อำเภอหนึ่งในจังหวัด นครราชสีมาที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปงานปั้นซึ่งล้วนทำมาจากหินทรายแทบทุกครัวเรือนยึดอาชีพหล่อทรายเป็นอาชีพหลัก ซึ่งงานแต่ละชิ้นมีราคาตั้งแต่หลักสิบ จนกระทั่งถึงหลักแสน

ท่ามกลางผู้คนมากมายในยามเช้าไม่ว่าจะเป็นพ่อค้าแม้ค้าจากทั่วสารทิศ จนไปถึงนักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ต้องการมาหาของตกแต่งบ้านดีไซน์เก๋ด้วยตนเอง ต่างเดินขวักไขว่ในซอยกว้างที่สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านตุ๊กตาหินทราย ปูนปั้น หรือแม้แต่อิฐประสานที่แต่ละร้านมีเอกลักษณ์และความโดดเด่นเฉพาะตัว เมลียาสะดุดตาเข้ากับชายหนุ่มผิวสีแทน ใบหน้าหล่อเหลาดวงตาคมรับกับคิ้วเรียวดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน เขากำลังยืนมองปฏิมากรรมหินทรายชิ้นที่สวยที่สุดในร้าน แต่เมื่อสายตาคู่หวานของเมลียามองต่ำลงก็ต้องยิ้มออกมาด้วยความดีใจ

“ใช่แล้ว งานผนังหินทรายภาพนางกินรีริมสระอโนดาต”เธอดีใจที่ได้พบชิ้นงานที่ตนกำลังหาอยู่ จึงรีบพาร่างระหงเข้าไปในร้านทันที

“ภาพนี้เมย์ขอจองค่ะ พี่อาร์ท” เมลียาได้รับออร์เดอร์มาจากลูกค้าย่านพุทธมณฑล ต้องการงานผนังหินทรายแบบจิ๊กซอว์ภาพนางกินรีไปตกแต่งบ้าน งานนี้เธอซื้อไปหลักพันแต่จะขายออกได้ในราคาหลักหมื่น

ช่างหล่อทรายที่กำลังลงสีฝุ่นหันมาทางเมลียาและยิ้มเจื่อนๆ

“น้องเมย์ครับ พอดีมาช้าไปคุณคนนี้เขาสั่งจองก่อนแล้วนะสิ”

อะไรนะ !

อธิเดชหันใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับรูปสลักกรีกมาเผชิญกับหญิงสาวรูปร่างระหงใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตากลมโตรับกับคิ้วเรียวสวย แต่ที่สะดุดตาคือรักยิ้มบนแก้มป่องทั้งสองข้าง

“เสียใจด้วยครับคุณผู้หญิง ภาพนี้ผมจองก่อนแล้ว” เขากยิ้มอย่างผู้มีชัย จนทำให้เมลียารู้สึกหมั่นไสร้

“ของานชิ้นนี้ให้ฉันได้ไหมคะ คุณเอ่อ...” เมลียาพูดออกไปตรงๆเพราะมันจำเป็นมากสำหรับเธอ

“ผมอธิเดชครับ แต่เสียใจด้วยเพราะผมก็ถูกใจมันมาก คงจะเสียสละให้คุณไม่ได้หรอกครับ” จากนั้นอธิเดชก็หยิบกระเป๋าสตางค์หนังยี่ห้อแพงขึ้นมาก่อนจะดึงพันธบัตรสีเทาห้า ใบส่งให้ช่างหล่อทราย

“นี่ครับสำหรับงานชิ้นนี้ ช่วยห่อให้อย่างดีด้วยผมจะให้คนขับรถมารับงาน” จากนั้นอธิเดชก็พาร่างสูงโปร่งก้าวออกจากร้าน

“เดี๋ยวครับคุณ ให้เงินเกินมาตั้งสองพันบาท” ช่างหล่อทรายยื่นพันธบัตรสองใบคืนให้กับอธิเดชแต่เขาไม่ยอมรับกลับ

“ผมให้คุณ ถ้าผมไปซื้อกับแม่ค้าหน้าเลือดที่กรุงเทพฯ” อธิเดชหันมาสบตาเมลียา “งานชิ้นนี้คงราคาไม่ต่ำกว่าหมื่น” จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านไป เพื่อไปหาชิ้นงานสวยๆ ที่ร้านอื่น

เมลียาเหยียดริมฝีปากบาง “อวดร่ำ อวดรวย” ก่อนจะกระแทกบั้นท้ายงอนงามลงที่ที่เก้าอี้ข้างๆช่างหล่อทรายหน้าตาดี ที่รู้จักกันมานานเพราะเธอมาซื้องานจากเขาจนสนิท

“น้องเมย์ ทำไมไม่โทรมาบอกพี่เอาไว้ก่อนล่ะ พี่จะได้ล็อคงานเอาไว้ให้ พอดีพึ่งจะตกลงขายงานให้กับคุณอธิเดชไปก่อนหน้าน้องเมย์จะมาไม่ถึงสิบนาที จะให้บอกยกเลิกลูกค้าก็คงไม่ได้เพราะตกลงกันแล้ว”

“ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอกค่ะพี่อาร์ท นายขี้เก๊กนั่นให้ราคาดีกว่าเมย์ใช่ไหมคะ”

“เปล่าสักหน่อย พี่ไม่ได้คิดอย่างนั้น ถ้าเป็นน้องเมย์ทำให้ฟรีก็ยังได้เลย” ช่างหล่อหินทรายหนุ่มส่งสายตากรุ้มกริ่มให้เมลียา เพราะแอบติดใจในความน่ารักของแม่ค้าสาวรายนี้มานานแล้ว

“คืออย่างนี้ค่ะ พี่อาร์ทเมื่อวานลูกค้าเมย์มาสั่งงานฝาผนังจิ๊กซอร์รูปนางกินรีริมสระน้ำ และต้องการของด่วนเมย์ติดต่อพี่ไม่ได้เลย ก็เลยขับรถออกมาจากกรุงเทพ ฯ ตั้งแต่ตีสี่พึ่งจะมาถึงนี่ล่ะค่ะ”

“เออ...จริงด้วยพี่ปิดมือถือตั้งแต่เมื่อวานแล้วลืมเปิดเครื่องขอโทษจริงๆนะเมย์”

“นั่นว่าแล้วเชียวพี่อาร์ทคงปิดมือถือหนีสาวๆ ล่ะสิคะ ทำให้เมย์อดได้งานเลย ขับรถเปลืองค่าน้ำมันมาตั้งหลายพันบาท” เมลียาบ่นอุบ

“เอาน่าพี่จะรีบทำให้ใหม่เลย ไม่เกินสามวันน่าจะเสร็จ” ช่างหล่อทรายกำลังแก้ปัญหาให้กับลูกค้าสาวคนสวย

“ กลัวจะไม่ทันการณ์นะสิคะ เพราะลูกค้ารายนี้ต้องการใช้ด่วน แถมยังให้ราคาดีเสียด้วย” เมลียาบ่นอย่างเสียดาย

“แย่จริง รู้สึกผิดยังไงก็ไม่รู้ที่ทำให้น้องเมย์ต้องเสียเที่ยว ถ้าอย่างนั้นกลางวันนี้พี่ขอเลี้ยงข้าวเป็นการไถ่โทษได้ไหมครับ”

“จะจีบเมย์หรือคะพี่อาร์ท ไม่ไหวหรอกค่ะกลัวสาวโคราชจะมารุมตบเมย์” เมลียาพูดตรงๆ จนเจ้าของร้านหนุ่มต้องหัวเราะออกมาเสียงดังที่เห็นลูกค้าสาวสวยพูดเสียตรงจุด แต่เขาก็ชอบความตรงไปตรงมาของเธอ

“อะไรกันเมย์ พี่ไม่ได้เสน่ห์แรงขนาดนั้นสักหน่อย”

“ถ้าอย่างนั้นคงไม่ต้องปิดมือถือหนีบรรดาสาวๆ จริงไหมคะ”

“แหม...บางที พี่ลงสีงานก็อยากจะใช้สมาธิบ้างจริงไหม”

เมลียาก็เห็นว่าช่างอาร์ทคนนี้เป็นคนหน้าตาดีคนหนึ่งเชียว เขาไม่ใช่ช่างพื้นบ้านที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษแบบรุ่นสู่รุ่นหรือครูพักลักจำ แต่พี่อาร์ทคนนี้จบจากศิลปากรและครอบครัวก็เป็นชาวหนองโสนเมื่อเรียนจบเขาจึงไม่ไปทำงานที่ไหนแต่กลับมาทำงานที่บ้านเกิดเปิดร้านของตัวเองและได้รับความนิยมอย่างสูง

“เอาล่ะค่ะวันนี้เมย์คงต้องขอตัวก่อน ต้องรีบไปหางานที่ร้านอื่นก่อน เดี๋ยวมีคนเหมางานไปหมดเมย์จะไม่ได้อะไรกลับไปพอดี” จากนั้นเมลียาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และรีบเดินออกจากร้าน

“เดี๋ยวสิเมย์ ตกลงว่าไงเมื้อกลางวัน” ช่างหล่อทรายมาดเซอร์รีบถาม

เมลียาหันมายิ้มให้เขาก่อนจะตอบว่า “คราวหน้าล่ะกันค่ะพี่อาร์ท” จากนั้นก็รีบขับรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ออกไป

“ว้า...ใจแข็งจริงๆ แต่ยังไงก็ต้องมาที่นี่อีก สักวันพี่ต้องจีบเธอมาเป็นแฟนให้ได้” จากนั้นเขาก็หันกลับไปสนใจงานของตนที่ทำค้างอยู่

เมลียาขับรถผ่านมาอีกหลายร้านเธอหยิบกระดาษขนาดเอสี่ขึ้นมาดูรายการของที่จะซื้อ และที่ร้านเหลือน้อย

“อ่ะ ร้านนี้”

น้ำผุด น้ำริน ชุดอ่างบัว จำนวนมากหลากสีสันที่กำลังประชันความงามกัน เป็นร้านที่เมลียาซื้ออยู่บ่อยครั้งเช่นกัน เธอจอดรถกระบะไว้หน้าร้านและรีบลงมาทักทายเจ้าของร้านสาวใหญ่ที่ยืนยิ้มอย่างอารมณ์ดีอยู่หน้าร้าน

“สวัสดีค่ะพี่หวาน”

“สวัสดีค่ะน้องเมย์ แหมวันนี้มาเหมาร้านไหนที่หนองโสนล่ะคะ”

“ก็จะมาเหมาร้านพี่หวานยังไงล่ะคะ ตอนนี้ชุดน้ำผุด น้ำริน ที่ร้านเมย์เหลือไม่กี่ชุดเอง ว่าแต่วันนี้มีแต่งานสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะค” เมลียามองสินค้าหน้าร้านที่สวยสะดุดตาอยู่หลายชุด

“สวยสิคะ แบบใหม่ๆ ทั้งนั้นเลย เสียแต่ว่ามีคนเหมาไปหมดแล้วค่ะ”

“พี่หวานพูดใหม่สิคะ”

“มีคนเหมาไปหมดแล้วค่ะน้องเมย์ พี่เสียใจด้วยจริงๆนะคะ”

“วันนี้วันอะไรมีแต่คนตัดหน้าเมย์” เมลียารู้สึกหงุดหงิดทั้งอากาศที่เริ่มร้อนและการที่เธอถูกตัดหน้าของชิ้นสวยๆ ไปหลายชิ้น

“นั่นไงน้องเมย์ ผู้ชายคนนั้นคนอะไรไม่รู้หล่อจริงๆ ยังกับพระเอกหนัง” สาวใหญ่เจ้าของร้านชี้ให้เมลียาดูลูกค้ากระเป๋าหนักที่เหมางานเธอไปหมด และกำลังไปดูงานที่ร้านฝั่งตรงข้ามซึ่งขายตุ๊กตาเด็กไหว้

“นายคนนี้อีกแล้วหรือ พี่หวานคะเมย์ขอตัวก่อนนะคะ” จากนั้นเมลียารีบเดินข้ามมาฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นร้านขายตุ๊กตาเด็กไทย

“เมย์เหมาหมดทั้งร้านค่ะ” อาเฮียเจ้าของร้านหันมามองหญิงสาวที่คุ้นหน้าเป็นอย่างดี เพราะเธอก็เคยมาซื้อของที่ร้านเขาบ่อยๆ

“หนูเมย์ วันนี้คงได้ไม่กี่คู่นะครับ คุณผู้ชายคนนี้เขาเหมาจนหมด ของที่เหลือก็ยังไม่ได้ลงสี”

เมลียา รู้สึกฉุนที่โดนตัดหน้าอีกแล้วแขนเรียวสองข้างยกขึ้นมาเท้าเอว “นี่คุณ จะเหมาคนเดียวทั้งหนองโสนไปเลยไหมคะ”

อธิเดชหันมายิ้มให้กับเมลียา “ครับถ้างานสวยมีเท่าไหร่ผมก็เหมาหมด”

อีตานี่ กวนจริงๆ เมลียาต่อว่าเขาในใจ

“นี่คุณจะมากไปแล้วนะ คิดจะเหมาคนเดียวไม่แบ่งให้คนอื่นบ้างเลยรึไง”

“ผมไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อยผมโทรมาสั่งเอาไว้ก่อน บางร้านผมเห็นก่อนคุณผมก็ซื้อ แล้วคุณจะมาโวยวายทำไมกัน”

“คุณจะซื้อไปโถมที่หรือยังไงกัน ถึงได้ขนซื้อไปมากมายขนาดนี้” เมลียามองรถบบรทุกสิบล้อที่กำลังลำเลียงสินค้าขึ้นไปในรถ

“ผมซื้อไป จัดสวน”

“คุณไม่ได้ซื้อไปขายอย่างนั้นหรือคะ” เมลียามีสีหน้าที่ไม่เข้าใจ เขาไม่ได้ซื้อไปขายและขนไปทำไมเยอะแยะขนาดนี้

อธิเดชเป็นเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง เมื่อก่อนเขามักจะใช้บริการจากบริษัทรับจัดสวนและรู้สึกว่าของแต่ละชิ้นถูกบวกเกินราคาไปมาก เพราะอธิเดชเคยมาเที่ยวที่นี่ครั้งหนึ่งเมื่อปี่ที่แล้วกับเพื่อนจึงทำให้รู้แหล่ง เขาจึงเริ่มสนใจไปเข้าคอร์สเรียนจัดสวนจนได้ใบประกาศมาจากนั้นเริ่มจัดสวนให้กับโรงแรมของตนเอง จนมีคนเอ่ยชมกันอย่างมากว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้

“ใช่แล้ว ผมซื้อไปจัดสวนให้กับโรงแรมของผม แต่ถ้าคุณอยากได้หอมแก้มผมสิ บางที่ผมอาจจะใจอ่อนแบ่งงานให้คุณบ้างก็ได้นะ” เขายิ้มอย่างขันๆ

“ทุเรศ ฉันไม่ตลกกับคุณด้วยหรอกนะ” เมลียา สะบัดใบหน้าสวยที่มีเชื้อสายเสปนใส่อธิเดช และเดินหนีไปยังร้านอื่นแทน โดยไม่เห็นว่าสายตาคมยังมองตามร่างระหงของเธอไปจนสุดสายตา

“เธอมาซื้อของที่นี่บ่อยหรือครับ” อธิเดชหันไปถามเจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ที่กำลังเล่งแพคสินค้าให้เขา

“ใช่ครับ น้องเมย์เปิดร้านอยู่แถวพุทธมณฑลนะครับ เธอมาซื้อของที่นี่เกือบจะทุกอาทิตย์ แม่ค้าอะไรก็ไม่รู้นะครับสวยเป็นบ้าเลย คุณว่าอย่างนั้นไหมาครับ”

“เอ่อ...ไม่รู้สิครับ แต่ที่รู้น่าจะปากจัดพอตัวอยู่เหมือนกัน”

จากนั้นทั้งสองหนุ่มต่างวัยก็หัวเราะกัน อธิเดชเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรกอีกทั้งเป็นคนที่เข้ากับคนง่ายเขาไม่เลือกคบคนทีฐานะจึงทำให้เขาเป็นคนที่มีมิตรสหายอยู่มาก รวมถึงบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ที่เข้ามาตีสนิทหวังจะพิชิตหัวใจของอธิเดชแต่ก็ยังไม่มีใครทำได้สำเร็จ

+++++++++++++++++++++++

เมลียาบีบแตรเสียงดังหน้าร้าน “แม่คะ ให้คนช่วยมายกของลงไปหน่อยค่ะ”

“กลับมาแล้วหรือลูก เดี๋ยวแม่จะให้คนไปช่วยยกของเข้าร้านนะลูก” นางปรานี บอกบุตรสาวก่อนจะหันไปบอกลูกจ้างชาวพม่าคนหนึ่งซึ่งจ้างมาอย่างถูกต้องให้ไปแบกของลงจากรถ

“เมย์ ไปหนองโสนคราวนี้ทำไมกับมาไวนักล่ะลูก”

“แม่คะ เมย์แทบจะไม่ได้งานอะไรใหม่ๆ มาเลย พูดแล้วก็ยิ่งโมโหค่ะ”

“ทำไมล่ะลูก แล้วงานจิ๊กซอร์หินทรายรูปนางกินรีที่ลูกค้าสั่งด่วนมาได้รึเปล่า”

“ไม่ได้ค่ะแม่ โดนตัดหน้าไปเสียก่อน ใครที่ไหนก็ไม่รู้เหมาตัดหน้าเมย์ไปหมด หมอนั่นเอารถสิบล้อไปบรรทุกมาเป็นคันรถเลยค่ะ เมย์ไปคราวนี้ได้งานมาไม่ถูกใจเลยค่ะ” ดวงตากลมโตฉายแววความไม่พอใจออกมาอย่างเด่นชัด

“ช่างมันเถอะลูก การค้าขายก็แบบนี้แหละใครดีใครได้” นางปรานีปลอบใจบุตรสาว

“แต่นายคนนั้นเขาไม่ได้ซื้อไปเพื่อขายนะคะแม่ บอกว่าจะเอาไปใช้จัดสวนไม่รู้บ้านเขาใหญ่เท่าวังหรือยังไงกัน”

เมลียามองร้านของตนเอง มันเป็นร้านที่เธอสร้างมากับมือแม้จะเป็นธุรกิจเล็ก ๆแต่เธอก็สร้างมันมาด้วยสองแขนของเธอ

++++++++++++++++++++++++++++

เช้าวันรุ่งขึ้น เมลียากำลังรดน้ำต้นไม้และเดินทักทายกับเจ้ากล้วยไม้ และคัทลียาสีสวย รถกระบะบโรทั่งสีเหลืองก็ขับมาจอดหน้าร้าน

ชายสูงวัยผิวคล้ำลงมจากรถ

“คุณครับ คุณเป็นเจ้าของร้านใช่หรือเปล่าครับ”

“ใช่ค่ะ” เมลียายิ้มให้ลูกค้าอย่างเป็นมิตร

“ผมต้องการเจ้าต้นไม้พวกนี้จำนวนมากไม่ทราบว่าคุณจะพอจัดหาให้เราได้ไหมครับ” เขายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เธอ”

เมลียาคลี่มันออก “ต้นโฮยา หนึ่งพันต้น ต้นแก้วขนาดความสูงไม่เกินเจ็ดนิ้ว หนึ่งพันต้น ต้นคริสมาสแดงสองร้อยต้น สับปะรดสีสองร้อยต้น และยังมีอื่นอีกมาก

“ไม่ทราบว่าจะเอาไปจัดงานพืชสวนโลกหรือคะ ถึงได้มากมายขนาดนี้” มาลียาพูดติดตลกในใจนึกดีใจเพราะกำลังคำนวณกำไรที่กำลังจะได้

“เปล่าครับเจ้านายผมเขาจะเอาไปจัดสวนต่างหาก”

“จัดสวนที่ไหนคะเยอะขนาดนี้บ้านของเจ้านายลุง คงใหญ่เหมือนวัง”

“เปล่าหรอกครับ นายผมเขามีโรงแรมหลายแห่งแต่ท่านอยากจะจัดสวนเอง”

“อย่างนั้นหรือคะแต่คงต้องใช้เวลาสักสองสามวันจึงจะจัดให้ได้ครบตามจำนวน”

“ไม่เป็นไรครับ แต่อย่านานกว่านี้ละกันเจ้านายของผมท่านใจร้อน”

“ได้ค่ะ แต่เมย์คงจะต้องขอเก็บมัดจำไว้ก่อนสักส่วนหนึ่งไม่ทราบว่าคุณลุงจะสะดวกไหมครับ”

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา” คุณซีสั่งคนสวนมาเป็นอย่างดีว่าให้มาสั่งซื้อต้นไม้ที่ร้านนี้เท่านั้น และได้ให้เงินมัดจำมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เมลียาคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งสินค้ากับนายดำคนสวนของอธิคมเป็นที่เรียบร้อย เขาก็ให้แผนที่โรงแรมกับเธอเอาไว้ ซึ่งเมลียารู้จักโรงแรมนี้ดี เป็นโรงแรมใหญ่แห่งหนึ่งไม่อยากจะเชื่อว่าวันนี้โชคจะเข้าข้างเธอเงินก้อนใหญ่ถึงลอยมาแต่เช้า

“แม่คะ แม่อยู่ไหน”

เมลียาวิ่งเขาไปหามารดา ที่กำลังแกะรูปปั้นนางกินรีหินทรายหลายองค์ออกจากกล่องกระดาษที่แพคมาเป็นอย่างดี

“มีอะไรยัยเมย์เรียกแม่เสียงดังลั่นเชียว”

“เราได้ออร์เดอร์ใหญ่มาค่ะ ลูกค้ามัดจำไว้แล้วส่วนหนึ่งด้วยนะคะแม่ถ้าเราหาของได้ตามจำนวนยอดสั่งซื้อคงได้กำไรไม่ต่ำกว่าสามหมื่นเชียวนะคะ”

“มากขนาดนั้นเชียวหรือ โชคดีจริงๆ”

“ใช่ค่ะ ก็เมื่อวานเมย์ซวยมาทั้งวันแล้วนี่คะแม่ ถูกนายคนนั้นแย่งซื้อของไปจนหมด วันนี้สวรรค์เลยเข้าข้างสาวน้อยน่ารักอย่างเมย์ให้ลูกค้ามาสั่งออร์เดอร์ใหญ่แต่เช้า”

นางปราณี มองลูกสาวเพียงคนเดียวพลางอมยิ้มและส่ายศีรษะ “ยัยเมย์เอ๊ย”

++++++++++++++++++++++++++++++

ณ.โรงแรมหรูใจกลางเมือง

“เป็นยังไงลุง ได้เรื่องไหมที่ผมให้ไปจัดการ” เช้านี้เจ้าของโรงแรมเดินลงมาคุยกับคนสวนด้วยตนเอง
“ได้ครับคุณซี เห็นเจ้าของร้านบอกว่าจะเอาต้นไม้มาส่งด้วยตนเองเลยครับอีกสองวันข้างหน้า”
“ดีมากลุง”
“คุณซีครับ ร้านต้นไม้มีต้องเยอะร้านนั้นก็ขายออกจะแพงกว่าร้านอื่น ทำไมถึงเลือกร้านนั้นล่ะครับ”
“มันก็ต้องมีอะไรดีกว่าร้านอื่นบ้างนะสิลุง” คุณซี หรืออธิเดชยิ้มนิดหนึ่งก่อนจะหันหลังกับเดินเข้าโรงแรมไป
“เมลียา” อธิเดชจำชื่อนี้ได้เป็นอย่างดีตั้งแต่ได้พบกันเมื่อวันก่อน

+++++++++++++++++++++++++++




อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ค. 2554, 15:17:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ค. 2554, 15:17:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 2762





   ตอนที่ 2 >>
kaero 26 พ.ค. 2554, 16:32:26 น.
อ่านเป็นคนแรกเลย ดีใจอย่างแรง น่าติดตามจ้า


อัปสรา 26 พ.ค. 2554, 16:35:24 น.
ขอบคุณค่ะ คุณกบ


kaero 26 พ.ค. 2554, 16:40:34 น.
ว่าแล้วมัยมันคุ้นๆๆๆๆ พระเอกฝาแฝดนี่เอง


anOO 26 พ.ค. 2554, 17:47:10 น.
ตามมาอ่านอีกรอบค่ะ


lovemuay 26 พ.ค. 2554, 19:47:21 น.
อ่ะ เรื่องนี้จำได้ เคยมาลงแล้วก็หายไปเลย
คราวนี้เอาให้จบนะคะ อิอิ


ann 26 พ.ค. 2554, 20:59:31 น.
คราวนี้หวังว่าคงลงจนจบนะคะ อย่าให้ค้างแบบคราวที่แล้วน้า


ปูสีน้ำเงิน 27 พ.ค. 2554, 01:19:36 น.
ปูก็จำได้ว่าปูเคยอ่าน


Pat 27 พ.ค. 2554, 13:20:40 น.
น่าจะอ่านไปแล้ว2-3 ตอน


อัปสรา 27 พ.ค. 2554, 13:25:17 น.
ใช่เลยค่ะ คุณ Pat จำแม่นมากๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account