ปาฏิหาริย์แห่งรัก...บนผืนแผ่นทราย
เจ้าชาย มกุฎราชกุมารหนุ่มรูปหล่อแห่งราชอาณาจักร อาหรับสุไลมาน แห่งผืนทรายอาระเบียน ชีคนาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัลฟาราห์ ได้สูญเสียชายาอันเป็นที่รัก และลูกน้อยที่ถือกำเนิดก่อนกำหนดก็ใกล้จะตาย ด้วยปาฏิหาริย์ได้ชักพาให้ลูกศิษย์สาวของน้องชาย คือจัสมิน พยาบาลสาวสวยชาวยิวแห่งนครเยรูซาเล็มมาช่วยกู้ชีวิตเจ้าหญิงองค์น้อย เขาได้พบกับเธอ ด้วยความประหลาดใจว่าเธอมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับชายาเขาราวกับคนคนเดียวกัน
คู่พระนาง

ชีค นาสเซอร์ บิน คาลิฟาห์ บิน รามานห์ อัล ฟาราห์
เจ้าชายรูปงาม ร่างสูงโปร่ง เป็นมกุฎราชกุมารแห่ง ราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน เป็นชีคหนุ่มผู้แสนดี อ่อนโยน เจ้าน้ำตา แต่ไม่อ่อนแอ รักพี่น้อง มีความเป็นพ่อสูง มีความสามารถด้านกวี แต่ต้องสูญเสียชายาเอกไปก่อนวัยอันควร มีลูกสาว1 คนคือ เจ้าหญิงชิมาห์

จัสมิน
หญิงสาวชาวยิว จากนครเยรูซาเล็ม อ่อนหวาน อ่อนโยน แต่แฝงไปด้วยความฉลาด เข้มแข็ง กล้าหาญ เป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกเก็บมาจากทะเลทรายซีนาย ได้มาอาศัยอยู่กับแม่อธิการที่คอนแวนด์ ต่อสู้ชีวิต จนจบการศึกษาด้านพยาบาล จึงติดตามชีคกาลิด น้องช้ายชีคนาสเซอร์มาช่วยเหลือ เจ้าหญิงชีมาห์ ลูกสาวของชีคนาสเซอร์ที่คลอดก่อนกำหนดแล้วหัวใจล้มเหลว เธอมีรูปร่างหน้าตาที่เหมือนกับ อมีนาห์ ชายาเอกของชีคนาสเซอร์ เพราะแท้จริงแล้ว เธอคือ เจ้าหญิง จัสมีนาห์ น้องสาวฝาแฝดของอมีนาห์ ที่ถูกลักพาตัวไปปล่อยกลางทะเลทรายซีนายตั้งแต่แรกเกิด

Tags: อาหรับ ทะเลทราย โรแมนติก

ตอน: ปฐมบท การสูญเสียที่ไม่มีวันกลับ

หญิงสาวสวยนอนสงบนิ่งปราศจากลมหายใจ แม้ร่างกายนั้นจะเปรอะเปื้อนด้วยโลหิตสีแดงฉานแผ่กระจายอยู่เต็มชายกระโปรงชุดคลุมสีขาว ใบหน้าสวยงามของนางนั้นหลับพริ้ม ไม่ได้รับรู้ถึงหยาดน้ำตาของชายหนุ่มรูปงามผู้สูงศักดิ์ที่ไหลรินราวกับจะเป็นสายเลือด เสียงร้องร่ำพร่ำรำพันขอให้หญิงสาวอันเป็นที่รักกลับมานั้นแหบพร่าสั่นเครือนั้นเริ่มขาดหายเป็นช่วงราวกับจะขาดใจตายตามเธอผู้เป็นที่รัก
“ โอ...อมีนาห์..อย่าทิ้งพี่ไป...อมีนาห์..”
สองมือของเขาประคองใบหน้าอันงดงามนั้นอย่างทะนุถนอม จับจ้องด้วยดวงตาอันพร่ามัวด้วยน้ำตาของบุรุษที่กำลังสูญเสียชายาอันเป็นที่รัก บัดนี้ใบหน้าแสนสวยที่เคยอบอุ่นมีเลือดฝาดกลับซีดเซียวเย็นชืดอย่างไร้ชีวิตชีวา
“อมีนาห์...พี่รักเธอ ...ได้ยินไหม ...พี่รักเธอ..อมีนาห์”
ชีคหนุ่มรูปงามวัยยี่สิบแปดปี ในชุดกันดูร่าสีดำ ซบหน้าร่ำไห้ลงบนฝ่ามืออย่างโศกเศร้าอาดูร และเจ็บปวดกับการสูญเสีย นายแพทย์ถึงกลับกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ เขาอดทนรอให้ชีคมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมาน ได้แสดงความเสียใจกับการสิ้นพระชนม์ของชีคคาอมีนาห์ ชายาอันเป็นที่รักซึ่งมีอายุเพียงยี่สิบปี ก็สิ้นใจ เวลาผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง จึงเดินเข้าไปคุกเข่าตรงหน้า กราบทูลด้วยเสียงแผ่วเบา
“ ขอพระราชทานอภัยพระเจ้าค่ะ ข้าบาทพยายามช่วยเหลือท่านชีคคาเต็มที่แล้ว แต่ท่านชีคคาสูญเสียพระโลหิตมาก และพระธิดา....”
คำกราบทูลของนายแพทย์ ช่วยเรียกสติของมกุฎราชกุมารหนุ่มรูปงามผู้สูงศักดิ์กลับคืนมา แล้วร่ำร้องเรียกหาลูกน้อย
“ลูก..ลูกของฉันอยู่ที่ไหน”
ทันใดนั้นเอง หญิงสาวร่างท้วมในชุดพยาบาลสีขาวยาวกรอมเท้าคลุมฮิญาบสีขาวบริสุทธิ์ จึงกราบทูลด้วยน้ำตานองหน้า
“พระธิดาเป็นฝาแฝดเพคะท่านชีค แต่เราสามารถช่วยเหลือให้รอดชีวิตได้เพียงคนเดียว ส่วนฝาแฝดอีกคน สิ้นบุญแล้ว เพคะ”
สิ้นเสียงของนางพยาบาล มกุฎราชกุมารหนุ่มรูปงามถึงกับทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาอย่างอ่อนล้า หัวใจของผู้เป็นพ่อเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ราวกับจะแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ
“ โอ..ลูกพ่อ..ช่างบุญน้อยเหลือเกิน “
มกุฎราชกุมารร่ำไห้เปี่ยมใจจะขาด สูญเสียหญิงสาวผู้เป็นที่รักแล้วยังไม่พอ ยังต้องสูญเสียลูกน้อยซึ่งเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ มันช่างเจ็บปวดเหลือเกิน
“ ส่วนพระธิดาฝาแฝดอีกองค์ ตอนนี้พระอาการแย่ลงทุกที เพราะหัวใจเต้นอ่อนลงมาก ”
เจ้าชายรูปงามแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงที่จะรับฟัง เหตุการณ์ที่ผ่านมากว่าสามชั่วโมงนั้นยังติดตรึงฝังแน่นอยู่ในหัวใจ พระชายาแสนงามที่ตั้งครรภ์ฝาแฝดได้เพียงเจ็ดเดือน มีอาการเจ็บครรภ์อย่างแสนสาหัส ร้องโหยหวนครวญครางอย่างทุกข์ทรมาน โลหิตไหลหลั่งนองพื้นห้อง เจ็บปวดทรมานจนสิ้นใจก่อนจะถึงโรงพยาบาล พอมาถึงโรงพยาบาลทีมแพทย์และพยาบาลจึงผ่าตัดเพื่อช่วยเหลือทารกฝาแฝด แต่แล้วทารกก็รอดเพียงหนึ่งคน ส่วนอีกคนนั้นก็สิ้นบุญกลายเป็นสายเลือดไปเสียแล้ว แพทย์ตรวจพบว่า หญิงสาวโดนยาขับเลือด แม้พระธิดาฝาแฝดคนเดียวที่รอดมาได้ อาการก็ไม่สู้ดีนัก
“ ลูกของฉันอีกคนอยู่ที่ไหน ได้โปรด พาฉันไปหาลูกทีเถิด ”
ทีมแพทย์พยาบาล พามกุฎราชกุมารหนุ่มไปยังห้องไอซียู ทารกน้อยที่รอดชีวิตมาได้นอนหายใจรวยรินในตู้อบท่ามกลางเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือทางการแพทย์นั้นเต็มตัว ทำให้ผู้เป็นพ่อหัวใจแทบจะแหลกสลายเมื่อเห็นสภาพของลูกน้อย
“ โอ..ลูกรักของพ่อ..ใจพ่อจะขาดเสียให้ได้ ..ลูกรัก”
มกุฎราชกุมารร่ำไห้ราวกับจะขาดใจ เป็นภาพที่สะเทือนใจมากสำหรับทีมแพทย์พยาบาลและเหล่าข้าราชการผู้จงรักภักดี
“ได้โปรดเถิด...ช่วยลูกฉันด้วย..ช่วยที ช่วยให้เขารอด”
มกุฎราชกุมารคุกเข่าลงอย่างอ่อนแรง จนนางพยาบาลต้องช่วยประคอง ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้ที่จงรักภักดี ธิดาน้อยในตู้อบหายใจอ่อนลง หัวใจของผู้เป็นพ่อก็แทบจะขาดรอน ขบวนเสด็จขององค์เอเมียร์และองค์รานีแห่งราชอาณาจักรอาหรับสุไลมานมาถึงโรงพยาบาล เพื่อมารับศพของ ชีคคาอมีนาห์และลูกน้อยกลับไปฝังตามราชประเพณี มกุฎราชกุมารเห็น บิดา มารดา จึงโผเข้าไปกอดด้วยน้ำตานองหน้า
“ นาสเซอร์..ลูกพ่อ”
“ท่านพ่อ ลูกใจจะขาดอยู่แล้ว” องค์เอเมียร์โอบกอดโอรสด้วยน้ำตานองหน้าเช่นกัน
“ พ่อเข้าใจลูก พ่อเองก็ใจแทบขาดเช่นกัน หากนาสเซอร์เป็นอะไรไป”
องค์รานีเห็นสภาพของทารกน้อยในตู้อบก็สะเทือนใจ จึงเข้าไปโอบกอดโอรส ซึ่งกำลังเศร้าโศกรกเสียจอย่างแสนสาหัส
“ ลูกแม่ เข้มแข็งไว้นะลูกนะ อย่าเป็นอะไรไปอีกคนนะลูกรัก”
องค์รานีโอบกอดโอรสรูปงามด้วยความสงสารจับใจ มองร่างทารกน้อยที่หายใจรวยรินอย่างน่าเวทนา ไม่นึกไม่ฝันว่าเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นกับราชวงศ์อัลฟาราห์ได้อย่างไร มกุฎราชกุมารหนุ่ม เข้าไปในห้องไอซียู กุมมือลูกน้อยไว้แนบอก จูบที่ศีรษะของลูกด้วยความรัก และความคาดหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์
“ ลูกรักของพ่อ เข้มแข็งไว้นะลูก พ่อเสียแม่และฝาแฝดของลูกไปแล้ว ลูกอย่าทอดทิ้งพ่อไปอีกคนเลยนะลูกนะ ...พ่อรักลูกเหลือเกิน..ดวงใจของพ่อ”



พลอยพัด
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.พ. 2556, 10:40:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.พ. 2556, 11:01:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 1103





   บทที่ 1 เยรูซาเล็ม นครแห่งศรัทธา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account