นางร้ายยอดรัก (ชื่อเิดิมพิศวาสรักกำมะลอ)
‘ภัทรศยาภา’ นางร้ายสาวที่มุ่งหมายอยากมีผู้ชายดีๆ สักคนไว้ข้างกาย เล็ง ‘วิรุฬห์’ พระเอกหนุ่มชื่อดังเอาไว้มั่นเหมาะ คิดการใหญ่หาทางเล่นละครด้วยกันสักเรื่องเพื่อเป็นข่าว แต่ผิดคาดเมื่อดันกลายเป็น 'เดนนิส' ดาวร้ายตัวฉกาจที่เธอไม่ชอบขี้หน้าเสียได้

หญิงสาวยิ่งตกที่นั่งลำบากเมื่อตกเป็นข่าวคาวๆ กับเขา จนต้องยอมเป็นแฟนหลอกๆ เพื่อพลิกวิกฤตเป็นโอกาส

หัวใจจ๋า...อย่าเผลอใจให้นายตัวร้ายเชียว!

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 3 คู่รักแห่งปี !!!

บทที่ 3



นัยน์ตาแพรวพราวเจ้าเล่ห์จับจ้องเรือนร่างระหงตรงๆ ไล่มองตั้งแต่เรือนผมลอนสวยเคลียไหล่เปลือยดูเซ็กซี่สมกับเป็นนางร้าย เนินอกอวบอิ่มโผล่พ้นสายเดี่ยวสีชมพูอ่อนมานิดหนึ่งพอให้หัวใจได้กระชุ่มกระชวย เอวคอดกิ่วอย่างน่าตวัดร่างเข้ามาแนบชิด เรียวขางามที่ก้าวไขว้ไปมาราวนางแบบก็ช่างเรียกร้องอยู่ในที รู้สึกว่าตนเองมีบุญเหลือเกินที่ได้ยลร่างงามตรงหน้ามาแล้วครั้งหนึ่ง แม้จะเกิดเรื่องเกิดราวใหญ่โต แต่ไม่รู้ทำไม เดนนิสถึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ดีใจที่จะได้เป็นข่าว ไม่สิ...เป็นแฟนกับเธอ

ร่างบางก้าวมาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทางเกรงๆ ด้วยเขายังคงจับจ้องอย่างไม่วางตา ภัทรศยาภารู้สึกทำตัวไม่ถูก จึงได้แต่ยืนกอดอกนิ่ง เชิดใบหน้าสูงอย่างไว้ตัว

“สวัสดีครับแพม” เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยทักพร้อมรอยยิ้มหวานกระชากหัวใจ

ภัทรศยาภาเลือกที่จะนิ่งเงียบราวไม่ได้ยินเสียงทักทายของเขา เธอเกลียดแสนเกลียดที่บังอาจมาย่ำยีศักดิ์ศรี หญิงสาวต้องทำใจอยู่นานกว่าจะกล้ามาพบเขาได้โดยไม่เสียน้ำตาต่อหน้า เธอต้องการเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายที่รัก ทว่าเดนนิสกลับทำลายมันจนสิ้น คิดแล้วก็อยากกรีดร้องดังๆ ใส่หน้าเขานัก!

“แพม คุณเป็นอะไรหรือเปล่า” น้ำเสียงถามบ่งชัดว่าห่วงใย มือหนาเอื้อมไปแตะที่ข้อศอกเป็นเชิงเรียกสติคนน้ำตาคลอเบ้า หัวใจคนมองสั่นไหวอย่างน่ากลัว รู้สึกราวทำความผิดร้ายแรง น้ำตาของเธอกำลังจะประหารเขาในไม่ช้า…

“อย่ามายุ่งกับฉัน” หญิงสาวกระชากเสียงบอกก่อนจะกระชากแขนออกห่างจากเขา สายตา ท่าทาง แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจจนชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่

นี่ต้องให้เขาพูดอีกกี่รอบว่าไม่ได้ทำอะไร เพียงเปลี่ยนเสื้อผ้าให้จะได้ไม่เหม็นกลิ่นเหล้าเท่านั้น ไม่น่าคิดแกล้งยัยแม่มดนี่เลย เธอเปราะบางกว่าที่เขาคิดนัก

“คุณเดนนิส แค่เป็นแฟนแบบหลอกๆ ต่อหน้านักข่าวและประชาชนเท่านั้น จะไม่มีอะไรเกินเลยอีก” เชอร์รี่ย้ำเสียงห้วน

ดาวร้ายหนุ่มพยักหน้ารับส่งๆ ไป พลางคิดว่าดุอย่างกับเสือทั้งเจ้านาย ทั้งลูกน้องเชียว

“แต่ยังไงก็ต้องมีโอบกอดกันบ้างเพื่อความสมจริง” กำธรแย้งขึ้นมาหน้าขรึม

“มีด้วยเหรอคะพี่เชอร์รี่” ภัทรศยาภาตะปบแขนแกร่งของผู้จัดการส่วนตัวสาวประเภทสอง สีหน้าหวั่นกลัวจนหัวใจเดนนิสกระตุกซ้ำอีกครั้ง

“เอ่อ...ก็แค่นิดหน่อยน่ะคะ ทนหน่อยนะคุณน้องแพม โถๆ” เชอร์รี่พยายามปลอบใจ

เดนนิสเห็นดังนั้นก็ต้องแปลกใจ เขามองภัทรศยาภาผิดมาโดยตลอดหรือนี่ หญิงสาวไม่ได้ร้าย แรง เหวี่ยงอย่างภาพลักษณ์ที่พยายามแสดงออกมาแม้สักนิดเดียว แต่กลับอ่อนแอ น่าปกป้อง น่าทะนุถนอมต่างหาก

“ผมรับรองว่าจะไม่มีอะไรเกินเลย แค่แสดงตามบทบาทเท่านั้น เหมือนแสดงละครน่ะครับคุณแพม” กำธรออกหน้าแทนเจ้านายหนุ่ม

“นายกับเจ้านายมันคนละคนกัน นายจะมารับปากแทนได้ยังไง” เชอร์รี่จิกกัดเต็มที่ ขณะยังโอบกอดภัทรศยาภาอย่างให้กำลังใจ

เดนนิสเผยยิ้มบางๆ ก่อนจะก้าวเข้าไปยืนตรงหน้าภัทรศยาภา สีหน้าท่าทางแง่งอนนั้น มองมุมไหนก็น่ารักเหลือเกิน ชายหนุ่มค้อมศีรษะลงนิดหนึ่งแล้วเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“จะไม่ทำอะไรเกินเลยครับคุณผู้หญิง”

“ถ้าคุณทำล่ะก็...ฉันจะฆ่าคุณ!” ภัทรศยาภาตอกกลับเสียงจริงจัง หลังจากสำนึกได้ว่าหากเธอทำตัวอ่อนแอเรื่อยไป คงไม่แคล้วถูกเขาฉวยโอกาสอีกแน่ คนอย่างเธอต้องลุกขึ้นสู้

“โหดร้ายจัง” รอยยิ้มและดวงตาแพรวพราวช่างเจ้าเล่ห์นัก

“เฉพาะกับคนร้ายๆ อย่างคุณ”

ให้ตาย! เธอเกลียดยิ้มเจ้าเล่ห์และดวงตาบ้าๆ แบบนี้จริง

“ได้เวลาแล้ว เดนนิสกับคุณแพม ช่วยทำหน้าตาให้ชื่นบานสักหน่อยแล้วก็พูดอย่างที่เตรียมการกันไว้นะ” กำธรห้ามทัพด้วยการเอ่ยเป็นการเป็นงาน

ภัทรศยาภาพยักหน้าก่อนจะปั้นหน้ายิ้มหวาน ดูมีความสุขเต็มที่ เดนนิสก้าวเข้ามาใกล้กว่าเดิมแล้วคว้าเอวบางเข้ามาโอบเร็วๆ

“อุ๊ย! ปล่อยนะนายบ้า”

“อย่าเขินสิที่รัก”

“ใครที่รักของคุณ กรี๊ด!” หญิงสาวเถียงกลับทันควัน และด้วยความที่ทำอะไรไม่ได้จึงกรีดร้องเบาๆ ออกมาอย่างสุดกลั้น เรียกเสียงหัวเราะจากชายหนุ่มข้างกาย ซึ่งภัทรศยาภาก็ได้แต่ฮึดฮัดขัดใจเท่านั้น

“อย่าดื้อน่า ไปเถอะครับ” เขาบอกเสียงหวาน ดวงตาแพรวพราวจับจ้องใบหน้าหญิงสาวนิ่งอย่างสะกดให้เชื่อฟัง นางร้ายสาวยอมเคลื่อนกายตามคนที่บอกว่าเกลียดแสนเกลียดไปอย่างจำใจ จวบจนมาทรุดกายลงนั่งที่โซฟาแล้ว จึงค่อยสบายใจที่ไม่ต้องตกอยู่ในอ้อมแขนของเขา

ท่ามกลางสื่อมวลชน ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวต่างยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อหันมามองหน้ากันก็ส่งสารตาหวานเชื่อมอย่างน่าอิจฉา เสียงนักข่าวร้องฮือฮา

“เราสองคนพร้อมจะให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วครับ” เดนนิสตัดริบบิ้น เป็นเชิงให้นักข่าวยิงคำถามเข้ามาได้

“คุณแพมไม่สบาย หายดีแล้วหรือคะ” น้ำเสียงไม่เชื่อในที ทำให้ภัทรศยาภาต้องกัดฟันตอบ

“หายดีแล้วค่ะ ไม่ได้เป็นอะไรมาก”

“หายดีเร็วขนาดนี้เพราะได้บุรุษพยาบาลดูแลดีหรือเปล่าคะ”

“ก็ต้องอย่างนั้นสิครับ ผมต้องดูแลหัวใจของผมอย่างดีที่สุดอยู่แล้ว” ดาวร้ายหนุ่มตอบเสียงนุ่มก่อนจะหันมายิ้มจริงใจกับนางร้ายสาว

นักข่าวต่างส่งเสียงฮือฮากับความหวานของเดนนิสอีกครั้ง ปกติดาวร้ายหนุ่มแสดงบทบาทคนเลว พูดจากระโชกโฮกฮาก ดวงตาแพรวพราวก็ถูกใช้มองอย่างดุกร้าวมากกว่า จึงไม่ค่อยเห็นมุมอ่อนโยนแสนหวานอย่างนี้เท่าใดนัก

ภัทรศยาภามองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ดวงตาพราวหวานของเขาช่างน่ามอง หัวใจเผลอสะท้านไหวจนต้องรีบควบคุมให้เป็นปกติโดยพลัน

“แล้วคุณแพมไปคอนโดของคุณเดนนิสบ่อยแค่ไหนคะ”

คำถามจาบจ้วงทำเอาภัทรศยาภาถึงกับหน้าตึง ดวงตาคู่สวยสั่นระริก เจ้าตัวกัดริมฝีปากแน่นอย่างปวดใจ เธอเคยเป็นข่าวหลายต่อหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเที่ยวผับ เมาเหล้า อิจฉานางเอกละครบ้าง ก็ยังไม่เคยรู้สึกราวถูกตบเข้าที่ใบหน้าอย่างเรื่องโลกีย์แบบนี้ เพราะนายเดนนิสคนเดียวที่ทำให้เธอต้องอับอายและถูกถามด้วยคำถามที่ตอบได้ยากเช่นนี้

“เอ่อ...” นางร้ายสาวอ้ำอึ้ง ด้วยไม่รู้จะตอบอย่างไร อายปากเหลือเกิน คิดแล้วก็โมโหนายบ้าที่นั่งข้างๆ นี่จริงๆ

“แพมไปบ่อยครับ” ชายหนุ่มตอบหน้าตาเฉย ทำเอาผู้เสียหายอย่างภัทรศยาภาหันขวับมามองตาเขียวด้วยความไม่พอใจ

ตาบ้า! เขาคิดจะแกล้งให้เธอเสียหายหนักขึ้นหรือยังไงกัน

“ไปบ่อยหรืออยู่ด้วยกันเลยคะ”

กรี๊ด! เธอจะทนนั่งตรงนี้ไม่ไหวแล้วนะ ให้ตายเถอะ ทำไมชีวิตถึงต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้กันนะ ภัทรศยาภาคิดในใจอย่างเศร้าหมอง

“ผมให้เกียรติคนที่ผมรัก ถึงแม้แพมจะไปหาผมที่คอนโดแต่เราไม่เคยมีอะไรกัน ผมไม่เคยล่วงเกินเธอ วันที่เป็นข่าว แพมไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วเกิดไม่สบายจึงโทรให้ผมมารับ พอไปถึงเธอก็ล้มลงไป ผมจึงพาแพมกลับไปที่คอนโด ที่นั่นมีผม น้องสาว และก็พี่เชอร์รี่ที่ช่วยกันดูแลแพมจนหายครับ” เดนนิสชี้แจงเสียงน่าฟัง ภัทรศยาภาได้ยินก็ค่อยหายใจสะดวกขึ้น ถึงแม้ว่านายดาวร้ายจะโกหกหน้าตาย เอาดีใส่ตัวอย่างไม่น่าให้อภัย แต่เธอก็ไม่เสียหายกับเรื่องที่เกิดขึ้น

“ถ้าอย่างนั้น แสดงว่าคุณแพมกับคุณเดนนิสแอบคบกันมานานแล้วใช่ไหมคะ” นักข่าวสาวผลัดกันถามด้วยท่าทางกระตือรือร้น

“แพมครับ เราคบกันมานานเท่าไรแล้ว”

จู่ๆ ชายหนุ่มก็หันมาถาม ทำเอาคนที่ยังนั่งตัวลอยๆ ถึงกับหน้าเหวอ แต่ด้วยทักษะการเป็นพิธีกรรายการจิกกัดดาราจึงสามารถคิดหาคำตอบที่เลิศหรูตามน้ำได้ทัน

“หนึ่งปี สองเดือน ยี่สิบวันค่ะ” ภัทรศยาภาตอบแล้วยิ้มหวานให้คู่รักกำมะลอ

“จำได้ถึงขนาดนี้เลย หวานกันจังเนอะพวกเรา” บรรดานักข่าวที่รายล้อมหันไปพยักเพยิดกัน สายตาหลายคู่มองมายังเธอด้วยความอิจฉา ภัทรศยาภาอดตัวพองไม่ได้พลางนึกในใจว่าหากได้เป็นแฟนกับผู้ชายที่ใส่ใจเธออย่างนี้จริงๆ ก็คงดีไม่น้อย

“ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าคบกันตั้งแต่คุณแพมเข้าวงการมาใหม่ๆ เลยน่ะสิคะ จำได้ว่าคุณแพมเข้าวงการได้ประมาณปีครึ่ง”

“ใช่ครับ”

“แล้วทำไมถึงปิดไม่ให้ใครรู้เลยล่ะคะ”

“ผมกลัวแพมจะเรตติ้งตกน่ะครับ อย่างว่า...แฟนผมทั้งสวยและเซ็กซี่ขนาดนี้ ถ้าแฟนคลับรู้ว่ามีแฟนแล้ว คงจะไม่ก้าวหน้าอย่างวันนี้”

“แล้วคุณแพมน้อยใจบ้างไหมคะ ที่คุณเดนนิสไม่ได้เปิดเผยฐานะ แถมยังมีข่าวกับนางแบบคนอื่นๆ อีกมากมาย”

“เอ่อ...” อีกครั้งที่ภัทรศยาภาต้องอ้ำอึ้ง ก็จะให้เธอตอบว่าอย่างไรเล่า ไม่ใช่นางเอกที่จะบอกว่าไม่เป็นไรที่แฟนตัวเองไปมีข่าวกับคนอื่นแล้วปิดฐานะของเธอ ทำอย่างกับเป็นเมียเก็บแบบนี้ ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะก็...นายเดนนิสหัวแบะแน่!

“ว่าไงคะคุณแพม”

“อ๋อ...คือแพมกับเดนนิสเราคุยกันแล้วค่ะ เราเข้าใจกันดีมาก ที่เดนนิสทำไปทั้งหมดก็เพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของแพม อีกอย่างหากเขาไม่มีข่าวเรื่องผู้หญิงเลยก็จะดูผิดปกติไป แพมไม่ถือค่ะ ยังไงเขาก็รักแพมคนเดียว” หญิงสาวให้สัมภาษณ์ไปหัวเราะไป

“โอ้โห! คุณแพมไม่หึงหวงบ้างเลยหรือคะ”

น่าหึงตายล่ะ ไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย คนถูกถามคิดในใจ หากคำตอบจริงตรงข้ามราวขาวกับดำ

“แพมรักเขา แพมก็ต้องเชื่อใจเขาค่ะ”

“คุณเดนนิสเป็นผู้ชายที่โชคดีมากเลยนะคะ คุณรู้สึกอย่างนั้นหรือเปล่าคะ”

“แน่นอนครับ” เขาตอบก่อนจะหันมามองแฟนกำมะลอตาพราว แขนแกร่งเอื้อมโอบไหล่เปลือย เจ้าของร่างสะดุ้งเฮือกพลางจ้องคนฉวยโอกาสตาเขียว ชายหนุ่มยักคิ้วหลิ่วตาให้แล้วว่าต่อ “ผมโชคดีมากที่มีแฟนทั้งสวยทั้งดีอย่างแพม”

“คุณแพมล่ะคะ รู้สึกอย่างไรบ้างคะที่คบหากับคุณเดนนิสมาปีกว่าแล้ว” นักข่าวยังคงซอกแซกถามต่อจนภัทรศยาภารู้สึกอึดอัด แต่อย่างไรก็ต้องปั้นหน้ายิ้มตอบคำถาม

“แพม...รู้สึกประทับใจในตัวเขาค่ะ ถึงแม้เดนนิสจะดูเป็นหนุ่มคาสโนว่าในสายตาคนอื่นๆ แต่กับแพม เขาให้เกียรติแพมมาตลอด แพมซึ้งใจมากๆ ค่ะ” หญิงสาวพูดไป ตาเป็นประกายไปด้วยกลั่นน้ำตามาคลอเบ้าพอสมจริง ทั้งๆ ที่อยากจะก่นด่านายเดนนิสใจแทบขาดว่าไร้ความเป็นสุภาพบุรุษ ฉวยโอกาส ไม่เคยให้เกียรติผู้หญิง และอีกสารพัดที่เธออัดอั้นตันใจ

“เป็นคู่ที่หวานกันมากๆ เลยนะคะ ในเมื่อคุณเดนนิสเปิดตัวคบหากับคุณแพมอย่างเป็นทางการแล้ว จะเลิกควงนางแบบเล่นๆ อีกหรือเปล่าคะ” สีหน้านักข่าวสาวคนหนึ่งดูซีเรียสยิ่งกว่าเธอเสียอีก จะจริงจังอะไรปานนั้น

“แน่นอนสิครับ ที่ผ่านมาผมก็แค่แกล้งทำตัวปกติน่ะครับ คือคบหาผู้หญิงบ้าง ไม่อย่างนั้นคงมีข่าวออกมาว่าผมเป็นเกย์แน่ๆ” เดนนิสหัวเราะเสียงดังกังวาน

“แหม! อย่างนี้ ต่อไปก็ต้องควงกันออกงานสังคมน่ะสิคะ”

“หะ...หา!” ภัทรศยาภาเผลอร้องออกมาอย่างตกใจ แค่เธอมานั่งให้สัมภาษณ์ก็ถูกนายเดนนิสโอบไหล่แล้วโอบไหล่อีก หากต้องออกงานด้วยกัน มีหวังนายจอมกะล่อนต้องฉวยโอกาสกับเธอมากกว่านี้เป็นแน่ ชีวิตช่างน่าเศร้าอะไรอย่างนี้

“อ๋อ...แพมเขาไม่เคยควงใครออกงานสังคมน่ะครับเลยตกใจนิดหน่อย” เดนนิสรีบแก้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะหันมามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาจริงจัง มือหนาเอื้อมกุมมือนุ่มเอาไว้พร้อมบีบกระชับก่อนว่า “ที่รักครับ ต้องหัดเข้าสังคมด้วยกันให้ชินนะครับ อีกหน่อยเราต้องออกงานด้วยกันนะ”

“เอ่อ...ค่ะ” ภัทรศยาภาพยักหน้ารับกลายๆ สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่เต็มใจ จนเมื่อเห็นนักข่าวต่างจับจ้องเป็นตาเดียวกันจึงรีบปรับเปลี่ยนสีหน้าเป็นสดชื่นยินดีอย่างรวดเร็ว

“แล้วอย่างนี้จะมีโอกาสได้เล่นละครด้วยกันไหมคะ พวกเราเคยเชียร์แต่ให้พระเอกนางเอกที่เป็นแฟนกันเล่นละครด้วยกัน ถ้านางร้ายกับตัวร้ายเล่นละครด้วยกันไม่รู้จะออกมาในรูปแบบไหน น่าตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ” สีหน้าท่าทางคุณเธอดูตื่นเต้นจริงๆ

“ปีนี้คงยังครับ แต่ก็ไม่แน่ ก็แล้วแต่ทางผู้ใหญ่ครับ”

“อยากให้ได้เล่นด้วยกันจังเลยค่ะ”

“แพมก็อยากเล่นกับเดนนิสเหมือนกันค่ะ ไม่ใช่อะไรนะคะ อยากอยู่ใกล้ตลอดเวลา”

และแล้วการสัมภาษณ์อันยาวนานก็จบลงด้วยการให้เธอยืนยันว่าจะคบกับเดนนิสไปชั่วนิรันดร์ แค่คำพูดที่ว่าเธออยากอยู่ใกล้นายนั่นตลอดเวลาก็กล้ำกลืนฝืนทนจะแย่ แต่นั่นยังไม่สิ้นความอึดอัดใจของภัทรศยาภาเพราะนักข่าวทั้งหลายอยากได้รูปคู่ที่สวีทหวานแหวว นายเดนนิสดี้ด้าอยากจัดให้เต็มที่ ส่วนเธอก็ได้แต่อดทนถูกเขาโอบ กอด แถมยังหอมแก้มไปอีกหนึ่งครั้ง

ทำไมชีวิตต้องพบเจอความโหดร้ายถึงเพียงนี้!



“แพมไม่ไหวนะคะพี่เชอร์รี่”

“โถๆ หลวมตัวไปแล้วนะคะคุณน้องแพมขา ถอนออกมายากค่ะ” เชอร์รี่ทำเสียงเหนื่อยหน่ายไปอย่างนั้นเอง ที่จริงอยากจะกรีดร้องด้วยความยินดีในความสำเร็จของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเดนนิสกับภัทรศยาภาจะตีบทแตก ทำเอานักข่าวซึ้งไปตามๆ กัน คราวนี้เชื่อขนมกินได้ว่านิตยสาร รายการทีวี รวมละครฟอร์มยักษ์ จะต้องดึงตัวคู่พระ – นางร้ายไปแสดงอย่างแน่นอน

“เข้าใจค่ะว่าต้องการกลบข่าว แต่ดูท่าแล้ว เรื่องจะยุ่งเหยิงยิ่งกว่าแค่กลบข่าวนะคะ เหมือนจะสร้างข่าวเสียมากกว่า” ภัทรศยาภาบ่นกระปอดกระแปดพลางยกมือขึ้นมากอดอกแน่น แสดงถึงความไม่พอใจ

“ก็ไหลตามน้ำไประยะหนึ่งเท่านั้นแหละค่ะ เดี๋ยวดาราคู่อื่นก็ต้องมาสร้างกระแส ตอนนั้นค่อยถอยออกมาก็ได้” ผู้จัดการส่วนตัวสาวประเภทสองก็พูดไปอย่างนั้นเอง เคยมีในประวัติศาสตร์ที่ไหน พระ – นางร้ายรักกัน แถมยังไม่เคยเล่นละครด้วยกันมาก่อนอีกด้วย

บอกได้คำเดียวว่า ‘เกิด!’

“แน่ใจเหรอคะ”

“แน่ใจสิคะ เชื่อพี่เชอร์รี่เถอะค่ะว่ามีแต่ผลดี” เชอร์รี่ที่นั่งอยู่โซฟาใกล้ๆ เอื้อมมือมาหยิกที่ปลายคางเรียวเบาๆ อย่างเอ็นดูสาวน้อยไร้เดียงสา หากเป็นนางร้ายคนอื่นสิ คงดี๊ด๊าดีใจที่ได้เป็นข่าวและจะมีงานหลั่งไหลมาไม่หยุดไม่หย่อน

“แพมเชื่อพี่เชอร์รี่นะคะ แต่แพมเกลียดเขา ไม่อยากให้เดนนิสมาถูกเนื้อต้องตัวอีก ขยะแขยง!”

“พี่เข้าใจค่ะคุณน้องแพม แต่เรื่องมันเสียไปแล้วพี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง นายเดนนิสนั่นก็ไม่รับผิดชอบด้วย เลวจริงๆ”

“ใช่ค่ะ เลวมาก แพมล่ะหมั่นไส้ที่สุดตอนให้สัมภาษณ์ ทำตัวดีราวเทพบุตร ทั้งๆ ที่เป็นซาตานร้ายชัดๆ”

“ยังไงคุณน้องแพมต้องอดทนนะคะ แล้วทุกอย่างจะดีเอง”

“ค่ะพี่เชอร์รี่ แพมจะอดทน”

“ดีมากค่ะคุณน้องขา งั้นเริ่มงานแรกเลยนะคะ”

“งานแรก? อะไรกันคะ ทำไมเร็วขนาดนั้น เพิ่งให้สัมภาษณ์ไปเมื่อวานนี้เอง” ทั้งน้ำเสียง สีหน้าและแววตาของหญิงสาวดูตกใจมาก ทั้งที่เมื่อก่อน หากผู้จัดการส่วนตัวพูดถึงงาน เธอจะดีใจมากที่สุด

“โอย...รายนี้โทรมาติดต่อตั้งแต่หลังให้สัมภาษณ์สดไปไม่ถึงสองชั่วโมงค่า นี่ยังมีรายอื่นๆ อีกนะคะ แต่เดี๋ยวพี่ค่อยๆ บอกดีกว่า กลัวคุณน้องแพมจะตกใจ”

“แค่รู้ว่าจะต้องไปอยู่ใกล้กับนายเดนนิส แพมก็ตกใจแล้วค่ะ” หญิงสาวกระชากเสียงอย่างไม่พอใจ

“ค่อยๆ ใกล้กันไปเดี๋ยวก็ชิน ยังต้องทำงานร่วมกันอีกหลายงาน คิดเสียว่าเป็นเพื่อนร่วมงานที่ก้าวเข้ามาช่วยเสริมให้ดังก็แล้วกันนะคะ”

“จะพยายามก็แล้วกันค่ะ” คร่ำครวญไปก็ไม่มีประโยชน์ สู้เธอทำใจยอมรับน่าจะดีกว่า

“ดีมากค่ะ เอาละ...งานแรกยักษ์มากค่ะ เป็นถ่ายแบบเวดดิ้ง”

“เวดดิ้งเหรอคะ”

หญิงสาวแทบจะยกมือยกเท้าก่ายหน้าผาก งานนี้ไม่ใช่เล่นๆ เสียแล้ว เธอจะปั้นหน้ายิ้มมีความสุขอย่างเจ้าสาวในอนาคตของเดนนิสได้อย่างไร



*****************************

ส้มฝากกดไลค์แฟนเพจด้วยนะคะ พออัพนิยายแล้วจะแจ้งที่นั่นค่ะ
จรดปลายรุ้ง นักเขียน
https://www.facebook.com/jarodpairong




จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.พ. 2556, 15:08:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.พ. 2556, 15:08:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 1629





<< บทที่ 2 งานเข้า!!!   บทที่ 4 ถ่ายแบบเวดดิ้ง - ลบจ้า >>
วนัน 9 เม.ย. 2556, 14:02:56 น.
น่าติดต่ามคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account