มลทินสวาทมาเฟีย
เขาต้องก้าวเข้ามาเป็น ‘มาเฟีย’ เพราะถูกบังคับด้วยคำว่า ‘ความกตัญญู’ ต้องหันหลังให้ชีวิตสุขสงบ มาผจญกับคนเลวสารพัดรูปแบบ มือต้องเปื้อนเลือด เท้าต้องเดินข้ามซากศพของศัตรูและคู่แข่ง เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเจ้าพ่อมาเฟียแห่งเกาะฮ่องกง
เธอคือลูกสาวของอดีตหัวหน้าแก๊งค์มาเฟียที่โดนลูกน้องคนสนิททรยศจนถูกฆ่าตาย เมื่อขาดผู้ปกป้องเธอจำต้องเข้ามาอยู่ภายใต้ร่มเงาของเจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ บุญคุณของเขามากมายล้นฟ้า หากต้องแลกด้วยชีวิตและพรหมจรรย์เพื่อตอบแทนบุญคุณเธอก็พร้อมยอมทำ

Tags: นิยาย มาเฟีย รวิญาดา ผการุ้ง

ตอน: ตอนที่ 5. เผลอตัวไม่เผลอใจ 100%

ตอนที่ 5. เผลอตัวไม่เผลอใจ 100%



ต่อจ้า...



หลังจากไปพบแพทย์ประจำตัวเพื่อตรวจแล้ว พบว่าอาการของเพียงลดายังทรงตัวไม่ได้แย่ไปกว่าที่เคยเป็น แต่ก้อนเนื้องอกในสมองก็ใหญ่ขึ้นมากทำให้หญิงสาวมีอาการปวดศีรษะรุนแรง จนต้องเพิ่งยาแก้ปวดทุกๆ สี่ชั่วโมง เธอรู้ดีว่าเวลาของเธอเหลือน้อยลงทุกทีแล้วการจากลาคงเกิดขึ้นในไม่ช้า เพียงลดาได้แต่ทำใจยอมรับชะตากรรมของตัวเองด้วยความเข้มแข็ง เธอเดินทางกลับฮ่องกงทันเมื่อตรวจเสร็จ โดยมีคุณจันทร์ฉายเดินทางมาส่งที่สนามบิน

“หนูลดา หนูต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ นะลูก” คนสูงวัยกุมมือลูกสะใภ้ไว้แน่น มองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยแววตาห่วงใย เมื่อสิ้นสามีคุณจันทร์ฉายก็หันหน้าเข้าวัด ปลดภาระทางโลกมุ่งหาความสงบให้บั้นปลายชีวิตของตน จึงมองการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดาโลก แต่ยังเหลือความห่วงใยตามประสาคนผูกพันกันอยู่ เธอห่วงความรู้สึกของลูกชายไม่น้อย หากหลี่เจิ้งรู้ว่าเพียงลดากำลังจะตาย เขาคงจะเสียใจและเจ็บปวดมาก ลูกชายของเธอรักภรรยามาก คนทั้งคู่คบหาดูใจกันมาตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย รักใคร่ผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ถ้าคนหนึ่งตายจากอีกคนจะทนมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร

“ลดาจะดูแลตัวเองค่ะคุณแม่” เพียงลดากระชับมือตอบแม่สามี คลี่ยิ้มละมุนปลอบโยนคนแก่ “หมอบอกว่าลดาอาจมีชีวิตอยู่ไม่นาน แต่ลดาอยากใช้ช่วงเวลานี้ทำทุกอย่างเพื่อให้คุณเจิ้งมีความสุขที่สุด”

“เจิ้งเขารักหนูมาก ถ้าหนูเป็นอะไรไป ลูกชายของแม่คงเสียใจมาก”

“ลดาไม่ได้อยากจากคุณเจิ้งไป แต่ลดาก็ห้ามความตายไม่ได้ ลดาหวังเพียงว่าคุณเจิ้งจะมีชีวิตต่อไป”

เพียงลดาผ่อนเสียงเบาลงเมื่อก้อนสะอื้นแล่นมาจุกที่คอหอย พยายามไม่ให้ตัวเองหลั่งน้ำตาให้แม่สามีเห็น เกรงคนสูงวัยกว่าจะพลอยไม่สบายใจไปด้วย เธอเตรียมการทุกอย่างไว้แล้ว หากวันใดเธอจากไปหลี่เจิ้งจะมีคนคอยดูแลอยู่ข้างเขาในฐานะตัวแทนของเธอ วันหนึ่งเขาจะยอมรับและรักผู้หญิงคนนั้นและจะมีชีวิตต่อไปอย่างปกติสุข หญิงสาวได้แต่หวังว่าคนเป็นสามีจะยอมรับความปรารถนาดีของเธอ และคนที่เธอหมายตาไว้เป็นตัวแทนจะยอมทำตามที่เธอขอร้อง

“ลดาไม่อยากให้เขาต้องเจ็บปวดกับการจากไปของลดา จนทำให้เขาหมดอาลัยตายอยากในชีวิต เขามีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ มีคนที่เขาต้องดูแลอีกมากมาย เขาต้องอยู่ให้ได้ค่ะ”

คุณจันทร์ฉายดึงเพียงลดามากอดไว้ ลูบแผ่นหลังของลูกสะใภ้อย่างเห็นใจ เพียงลดารักหลี่เจิ้งมากและคงเจ็บปวดไม่น้อยกว่าลูกชายของเธอ หรืออาจจะเจ็บปวดมากกว่าเมื่อต้องปิดบังไม่ให้เขารู้ว่าเธอกำลังจะตาย สวรรค์ช่างใจร้ายนัก พรากคนที่รักให้จากกันอย่างเลือดเย็น หากเลือกได้เธอยินดีเอาชีวิตของตัวเองแลกกับความสุขของทั้งสองคน

“เข้มแข็งไว้นะลูก แม่เป็นกำลังใจให้”

“ขอบคุณค่ะคุณแม่ ลดาจะเข้มแข็งให้มากกว่านี้” หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ ปรับสีหน้าของตัวเองให้สดใสขึ้น “คุณแม่คะ ลดามีเรื่องจะปรึกษาค่ะ”

คุณจันทร์ฉายคลายอ้อมแขน พลางมองหน้าลูกสะใภ้ “หนูมีเรื่องอะไรก็พูดมาสิจ้ะ ถ้าแม่ช่วยได้แม่ก็จะช่วย”

เพียงลดาคลี่ยิ้มละไม ถอนหายใจยาวครั้งหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นเล่าถึงสิ่งที่ตัวเองตั้งใจทำให้ผู้เป็นแม่สามีรับรู้ สีหน้าของคุณจันทร์ฉายเมื่อได้ยินสิ่งที่เพียงลดาบอก กระอักกระอ่วนใจนัก แต่ก็ยอมรับฟังจนจบ

“หนูแน่ใจนะ ว่าเจิ้งเขาจะยอมรับได้ ผู้หญิงคนนั้นดีพอสำหรับเจ้งเขาหรือลูก” คุณจันทร์ฉายอดท้วงไม่ได้

“ลดาเชื่อค่ะ ว่าเธอเหมาะกับคุณเจิ้ง และเชื่อว่าเธอสามารถทำให้คุณเจิ้งรักเธอได้ แต่คงต้องใช้เวลาและความอดทนสักหน่อย คุณเจิ้งเป็นคนหนักแน่นมั่นคงต่อความรัก เขาอาจจะต่อต้านเธอในช่วงแรก แต่ถ้าเธออดทนพอและรักเขาด้วยใจจริง ลดาคิดว่าคุณเจิ้งจะใจอ่อนและรักเธอได้เอง” เพียงลดาบอกอย่างเชื่อมั่น

“หนูเป็นภรรยาที่รักสามีมากเกินไปหรือเปล่าลูก อะไรกันวางแผนหาเมียใหม่ให้สามี ตั้งแต่ตัวเองยังไม่ตาย”

คำค่อนขอดของแม่สามีเรียกรอยยิ้มจากคนฟัง “ลดาไม่อยากให้คุณเจิ้งต้องใช้ชีวิตที่เหลืออย่างปวดร้าวนี่คะ ลดาตายไปคงไม่รับรู้อะไรแล้ว แต่คนที่อยู่ต่างหากที่ต้องเจ็บปวดกว่า ลดาแค่อยากให้คุณเจิ้งมีใครสักคนมาทำหน้าที่แทนลดาในตอนที่ลดาจากไป”

ความตั้งใจจริงของเพียงลดาทำให้คุณจันทร์ฉายไม่อาจคัดค้านได้ เธอยอมทำตามคำขอร้องของลูกสะใภ้ที่ว่าให้ช่วยเกลี้ยกล่อมหลี่เจิ้งให้ยอมรับผู้หญิงคนใหม่เข้ามาแทนที่เธอ ในยามที่เธอจากไปแล้ว ซึ่งไม่รู้ว่าถึงตอนนั้นจริงๆ ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่เพียงลดาต้องการหรือเปล่า คุณจันทร์ฉายไม่อาจคาดเดาความคิดของลูกชายได้ คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามฟ้าลิขิตเท่านั้น...

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

หลี่เจิ้งรับรู้ว่าเพียงลดาเดินทางไปเมืองไทยจากปากของแม่บ้านหลังจากที่เข้ามารายงาน และได้รับโทรศัพท์จากภรรยาเมื่อเธอเดินทางไปถึงบ้าน เขาพูดคุยกับเธอเล็กน้อยไม่ได้ซักถามให้มากความ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับหลินหลิน หลี่เจิ้งไม่อาจเปิดปากบอกภรรยาได้ มันเป็นความผิดที่เขาทำลงไปเพราะความสะเพร่าของตัวเองอย่างไม่น่าให้อภัย มาเฟียหนุ่มไม่อยากให้เรื่องนี้ล่วงรู้ถึงหูของภรรยา เช้าวันรุ่งขึ้นจึงมาหาหลินหลินที่ห้องหวังพูดจากับเธอไม่ให้แพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป

ก๊อก ก๊อก ก๊อก !!!

ร่างสูงยืนอยู่หน้าห้องของหญิงสาว ยกมือขึ้นเคาะประตูเรียกคนในห้องอยู่หลายครั้ง ครู่หนึ่งหลินหลินก็เปิดประตูออกมา ใบหน้าของเธอซีดเซียวดวงตาบวมจากการร้องไห้ทั้งคืน หลี่เจิ้งได้แต่ซ่อนความเห็นใจไว้ภายใต้ใบหน้าเคร่งขรึมเย็นชา

“ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ ตามมาที่ห้องทำงานของฉันด้วย” เขาบอกแล้วหมุนกายเดินหนีไป

หลินหลินมองตามร่างสูงสง่าด้วยแววตาอ่อนเศร้า นึกเวทนาตัวเองที่ไปหลงรักคนที่เขาไม่มีหัวใจให้ แม้แต่หางตาหลี่เจิ้งยังไม่เคยเหลือบแลเธอ หญิงสาวถอนหายใจยาวไล่อาการร้อนผ่าวที่ขอบตาทิ้งไป เธอจะไม่ยอมร้องไห้เพราะเขาอีก ต่อให้ต้องเจ็บปวดแค่ไหนเธอจะไม่ยอมเป็นคนอ่อนแอให้เขาดูถูกเด็ดขาด และจะไม่อยู่ที่บ้านตระกูลหลี่ให้เกะกะสายตาเขาอีกต่อไป ร่างบางกลับเข้าไปในห้องของตัวเองจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย เรียกความมั่นใจให้ตัวเองเพื่อจะไปเผชิญหน้ากับเขา

“คุณเจิ้งคะ ฉันขออนุญาตค่ะ”

“เข้ามาสิ” เสียงคนในห้องร้องบอก หลินหลินจึงเปิดประตูเข้าไป

หญิงสาวปรับสีหน้าให้เรียบนิ่ง ขณะเดินตัวตรงเข้าไปหาคนที่นั่งรออยู่หลังโต๊ะทำงาน ใบหน้าหล่อเหลาคมคายของเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่เคร่งขรึมไม่เปลี่ยน เขาผายมือให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะ

“คุณเจิ้งมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉันหรือคะ” หลินหลินเอ่ยถามออกไป ดวงตาเรียวสวยจ้องมองเขาอย่างคนที่เตรียมตัวมาดี

หลี่เจิ้งนิ่วหน้าเล็กน้อยเมื่อเห็นอากัปกิริยาของหญิงสาว “ฉันจะคุยเรื่องเมื่อวาน...” น้ำเสียงของเขายังคงเรียบนิ่ง ดวงตาคู่คมจ้องตอบเธอ

“เรื่องเมื่อวานมันผ่านไปแล้วค่ะ ฉันไม่อยากพูดถึง” หลินหลินข่มความอดสู ฝืนสู้ตาคนที่รังแกเธออย่างกล้าหาญ

แม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะน่าละอาย แต่คนที่ควรจะรู้สึกผิดมากกว่าเธอน่าจะเป็นหลี่เจิ้ง เพราะเขาเป็นคนที่รังแกเธอ

“ฉันก็ไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้หรอกนะ แค่อยากเคลียร์กับเธอให้เข้าใจ”

อาการไม่แยแสของหลินหลินทำให้หลี่เจิ้งรู้สึกขัดใจ เธอทำราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กน้อย เขาควรจะพอใจที่หญิงสาวไม่คิดเอาเรื่อง แต่ทำไมถึงได้รู้สึกขัดใจเสียได้ หลี่เจิ้งไม่เข้าใจตัวเอง

“ฉันรู้ค่ะ ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด”

หลินหลินจิกมือแน่น หัวใจสะเทือนไหวกับสายตาที่เขาจ้องมองมา ได้แต่บอกตัวเองให้เข้มแข็งอย่าอ่อนแอให้เขาเห็น เธอจะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด

“ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟัง จะไม่บอกให้คุณลดารู้ คุณเองก็คงไม่อยากให้ฉันพูดออกไปใช่ไหมคะ” เธอเดาเจตนาของเขา

หลี่เจิ้งพยักหน้ารับ แค่นยิ้มออกมาอย่างยากลำบาก หลินหลินไม่ได้โง่เลยเธอฉลาดมากและรู้ว่าเขาเรียกเธอมาเพื่ออะไร มาเฟียหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของหญิงสาว

“ฉันอยากให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเราเป็นความลับ ฉันไม่ต้องการให้เรื่องนี้รู้ถึงหูลดา ฉันสัญญาว่าจะมี่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ขอให้เธอวางใจได้” เขาให้คำมั่น

“ฉันรู้ค่ะว่าควรทำยังไง” หลินหลินสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความเชื่อมั่นให้ตัวเอง “ฉันคิดว่าฉันไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป ฉันจะไปอิตาลี่ค่ะ ที่นั่นมีคนที่พร้อมจะดูแลฉันกับอาหลงได้ ถ้าคุณจะกรุณาขอให้คนของคุณไปส่งฉันกับน้องที่สนามบินก็พอ”

สิ่งที่ได้ยิน ทำให้หลี่เจิ้งขมวดคิ้ว “เธอจะไปจากที่นี่อย่างนั้นหรือหลินหลิน” เขาถามออกไป ด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ไม่พอใจที่หญิงสาวหาทางออกให้เรื่องนี้โดยไม่ปรึกษาเขา

“มันเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกของฉันอยู่แล้วนี่คะ คุณลุงฟรานเชสโก้ท่านยินดีดูแลฉัน และฉันเชื่อว่าคนของหย่งเซิ่งคงไม่กล้าทำอะไรฉันกับน้อง หากฉันอยู่ภายใต้การดูแลของมาเฟียอันดับหนึ่งของอิตาลี่” หญิงสาวเน้นเสียงแสดงเจตจำนงของตัวเองอย่างชัดเจน

“เธอคิดว่าฉันดูแลเธอได้ไม่ดีพอหรือไงหลินหลิน เธอจะหาข้ออ้างออกไปจากที่นี่เพราะเรื่องนี้ใช่ไหม หรือว่ามันเป็นแผนการของเธอตั้งแต่แรกแล้ว!”

หลี่เจิ้งผุดลุกขึ้น มือหนาจับไหล่บางบีบแน่นด้วยความโมโห เมื่อเข้าใจว่าหญิงสาววางแผนเพื่อให้เขายอมให้เธอไปจากบ้านหลี่ เขาคงเป็นคนโง่มากในสายตาของเธอ

“ฉัน ไม่ได้วางแผนบ้าบออะไรนั่นนะคะคุณเจิ้ง”

หลินหลินพยายามดึงมือเขาออกจากไหล่ของตัวเอง เมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บจากแรงบีบนั้น ใบหน้าของหลี่เจิ้งเครียดเคร่งดวงตาวาววับน่ากลัว จนเธอไม่อาจสบตาไหว

“ไม่ได้วางแผนหรือ แล้วเธอไปนอนในห้องของฉันทำไม เหตุผลที่เธออ้างมันฟังไม่ขึ้นนะหลินหลิน ลดาไม่น่าจะปล่อยให้เธอนอนอยู่แบบนั้น ทั้งๆ ที่ลดากำลังจะเดินทางออกจากบ้าน” เขาลงน้ำหนักเพิ่มแรงบีบมากขึ้นตามอารมณ์ที่พุ่งแรง รู้สึกโมโหความเจ้ามารยาของหญิงสาว ที่เกือบทำให้เขาเสียคน
“เธอรู้ใช่ไหมว่าลดาจะไม่อยู่ เลยไปนอนรอฉันในห้อง ตอนที่ฉันทำอะไรเธอทำไมถึงไม่ร้องห้ามฉันสักคำ มิหนำซ้ำยังสนองตอบฉันอย่างยังเตรียมตัวมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ”

เพลี๊ยะ !!!

หลินหลินสุดจะทนกับคำกล่าวหาที่น่าละอายนั้น หญิงสาวสลัดมือที่จับไหล่เธอออกแล้วง้างฝ่ามือตบคนปากเสียเต็มแรงเสียงดังสนั่น ใบหน้าของเจ้าพ่อมาเฟียสะบัดไปตามแรงกระทบจนหน้าหัน

“คุณมันบ้า! ทำผิดแล้วยังมาโยนโทษให้คนอื่น นี่หรือหัวหน้าแก๊งคหงส์ไฟที่ยิ่งใหญ่ คุณมันก็แค่ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็งคนหนึ่งเท่านั้น” แรงโกรธทำให้หลินหลินไม่ออมคำ หญิงสาวสาดคำพูดกระแทกใส่อีกฝ่ายไม่ยั้ง

หลี่เจิ้งลูบแก้มที่โดนประทุษร้าย ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความโมโห เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบหน้าเขามาก่อน ผู้หญิงคนนี้อายุน้อยกว่าเขานับยี่สิบปี เป็นแค่เด็กน้อยที่บังอาจมากระตุกหนวดพญามังกร เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มไม่ปล่อยให้คนหยามหน้าเขาลอยนวล ร่างหนาขยับกายก้าวเข้ามาหาอย่างคุกคาม

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

มาอัพที่เหลือแล้วนะคะ

ครึ่งหลังนี้ มาพบกับป๋าเจิ้งในโหมดโหดๆ กันสักนิด เฮียหลี่ขี้โมโหเจ้าอารมณ์เอาแต่ใจแค่ไหน ป๋าเจิ้งผู้เป็นพ่อก็เจ้าอารมณ์ไม่แพ้กัน ลูกเป็นยังไงพ่อก็เป็นแบบนั้น หลินหลินบังอาจไปตบหน้าป๋าจะรอดไหมเนี่ย ...

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

รวิญาดา/ผการุ้ง




รวิญาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.พ. 2556, 03:03:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.พ. 2556, 03:05:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 3248





<< ตอนที่ 5. เผลอตัวไม่เผลอใจ 80%   
mhengjhy 23 ก.พ. 2556, 07:26:18 น.
หึหึหึ ลูกแกะชัดๆ 5555


คิมหันตุ์ 23 ก.พ. 2556, 09:48:05 น.
ไม่น่ารอด...ฮ่าฮ่า แต่ เจ้ลดามาก่อนใช่ไหม...คิคิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account