รักหลัง...วันวิวาห์
หล่อนไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่ไม่ได้รักผู้ชาย และเกลียดเกย์ที่สุด

เขาไม่ชอบผู้ชาย แต่ไม่ได้รักผู้หญิง และไม่ปฏิเสธทอม

แล้วทั้งสองจะเป็นอย่างไรเมื่อต้องมาแต่งงานกัน




หากเป็นโลกนิยายรักหวานหยดคงปิดท้ายด้วยฉาก
ที่หล่อนกำลังเผชิญ แต่นี้ชีวิตจริงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นมันแค่การเริ่มต้น ตอนจบจะงดงามตระการตา หรือโศกสลดยิ่งกว่านิยายฆาตรกรรม หล่อนคงได้แต่ปล่อยวาง แต่หญิงซันไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค อะไรจะมาก็เชิญ


ในเมื่อสวรรค์มีอำนาจกำหนดคู่ชีวิต หล่อนก็มีสิทธิสร้างสรรค์ส่วนที่เหลือด้วยกำลังสติปัญญา



“แล้วเจ้าสาวแกเป็นไง พอจะทำให้แกหันมาชอบผู้หญิงได้มั้งเปล่าวะ"
“รู้จักกันมาแต่เล็ก น่าจะรู้ว่าฉันไม่ได้ชอบผู้หญิง"
“แกนะเฮ้อ บ้าชัดๆ คนอย่างแกก็มีในโลกนี้ด้วย แล้วอย่างนี้น้องเขาไม่ตกนรกทั้งเป็นเหรอว่ะ แต่งกับคนอย่างแกนะ รู้ว่าไม่ชอบแต่ก็ยังไปรับหมั้น ทำตามคำขอของแม่ไม่ผิดหรอก แต่แกกำลังทำร้ายผู้หญิงไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกคนเลยนะ"
“พูดไปนายอาจหาว่าฉันแก้ตัว แต่จะบอกให้รู้ ว่าที่เจ้าสาวฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย"
“ว่าไรนะ"
“ได้ยินไม่ผิดหรอก"
“แล้วแกสองคนก็แต่งกันทั้งที่ทั้งคู่ไม่มีทางจะรักกันได้ บ้าพอกันเลยวะ อวยพรให้มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมืองเลย"
“ทำไมแกไม่คิดอีกอย่าง เพราะการที่ฉันได้แต่งกับคนที่ไม่สามารถรักผู้ชายได้ก็ดีออก อย่างน้อยเธอคนนั้นก็ไม่ไปแย่งผู้หญิงอีกคนที่อาจจะเป็นคนรักของนาย และการที่เขาไม่รักผู้ชายก็ยิ่งดี เพราะก็คงไม่มีทางมารักกันเชิงชู้สาวได้ แต่เราอาจอยู่ร่วมกันในรูปแบบของเพื่อนพี่น้อง ดูแลกันและกัน อยู่กันแบบนั้นอย่างมีความสุข
แม่ฉันแม่เขาก็มีความสุขที่จะเห็นเราแต่งงานกัน เหตุผลแค่นี้ไม่พอที่จะทำให้ฉันตกลงแต่งงานกับเขาอีกเหรอ อีกอย่างถ้าฉันไม่ยอม หม่อมแม่หาใครไม่รู้มา แล้วบังเอิญว่าเธอคนนั้นสามารถรักผู้ชายได้ ฉันไม่เรียกว่าทำร้ายผู้หญิงคนนั้นหรือ"
“ฉันนะอยากให้คนประหลาดอย่างแกตกหลุมรักว่าที่ภรรยาเหลือเกิน แล้วถ้าให้ดี ตอนนั้นขอเจ้าหล่อนยังชอบผู้หญิงอยู่นะ ฉันละจะสมนำ้หน้าแกเลย"
“ไม่หรอก ฉันทิ้งเรื่องความรักเชิงชู้สาวไปนานมากแล้ว มันอาจจะไม่เคยมีติดตัวฉันมาตั้งแต่เกิดก็ได้"

แม่เจ้า นี่เจ้าพี่รู้จักแต่รักเชิงชู้ชายตั้งแต่จำความได้ แล้วระหว่างที่เราแต่งงานกันเจ้าพี่จะไม่ไปหาเหยื่อนอกบ้านกินเหรอ

Love looks not with the eyes but with the wind ...




เกริ่นไปเยอะแยะมากมาย แต่ดูไม่บอกอะไรเนอะ แต่นี่กำลังจะบอกและ--->
คำเตือน 1 นิยายเรื่องนี้ปราศจากนางร้าย ไร้ฉากรุนแรงและสารตกค้าง อันพาให้จิตใจเศร้าหมอง
2 ชื่อบรรดาตัวละครมาจากจินตนาการอันไร้ทิศทาง แลสถานที่รวมถึงทฤษฎีบ้าบอที่ยกมาควรทำการศึกษาข้อมูลก่อนนำไปใช้
3 อาจได้ฮาเป็นระยะตามอัตภาพ พร้อมหมั่นไส้ตัวละครเป็นพักๆเพราะไม่ได้ดังใจ
สุดท้าย ระวัง...คุณอาจตกลงหลุมรัก...ถ้าคุณขุดมันลึกพอ (เกี่ยวไรกะนิยายปะ อันสุดท้าย...บอกเลยว่าไม่ แค่ทั่วๆไปแหละ )

ถ้าพร้อมแล้วก็...เชิญเลยจ้า
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 1 Neutral Grain Spirit 1/2

บทที่ 1 Neutral Grain Spirit






ไม่ใช่สวยเลือกได้ แต่เป็นแนวถึงไม่สวยแต่จะเลือก
ส่วนคานเลื่อมเพชรก็ไม่อยากอยู่ แต่ถ้าต้องแต่งกับเกย์ ขอบาย






"ว้ายอกอีแป้นจะแตกหล่อนเนี่ยนะจะแต่งงาน"
“เออซิ" สาวหมวยหน้าคมสะบัดเสียงใส่


หม่อมแม่ตลกแน่ละคราวนี้ รู้ทั้งรู้ว่าหล่อนเกลียดผู้ชายยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือ ยังกล้าจับไปขึ้นเขียงแร่เนื้อจัดใส่พานประเคนให้กับหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสง หม่อมแม่ของเจ้าพี่จันทรมาศที่ หล่อนมักเติมปราคาแทนมาศหลังชื่อ อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคือเจ้าพี่ไม่ได้ตัวดำเหมือนจันทรุปราคาที่โดนราหูอม แต่ไอ้เรื่องดำมืดมีแน่นอน

ถ้าไม่บอกคุณๆ คงงงค่ะ ว่าคืออะไรแล้วทำไมยัยจิ๊บแม่เพื่อนชายใจสาว ยังอุทานภาษาโบราณต่างด้าวขนาดนี้ ก็เพราะหม่อมพี่หนะสนใจเพศแม่ที่ไหน โดยเฉพาะคู่หมั้นอย่างหล่อน ชนิดที่หางตายังไม่แลมาเลย แล้วจะให้เเต่งงานกันนี่ สงสัยต้องไปจัดกันในฝันแล้ว

ไม่อยากเม้าท์เจ้าพี่เลยจริงๆ หญิงสาวลูกพระอาทิตย์อย่างเธอหน่ะ สวยเฉียว ผิวขาว ตาคม ปากนิด จมูกหน่อย เนื้อ นม ไข่ อีกต่างหาก แต่ก็อย่างว่า ก็คนไม่เคยแต่งตัวให้เห็นของดีๆ จนผู้หวังดีในรุ่นที่เรียนด้วยกันทนไม่ได้ต้องมาจับแต่งตัวเปลี่ยนคุณหนูซันหรืออาทิตยาที่เพื่อนๆสมัยมหาลัยมักขนานนามว่า หญิงซัน เพราะเรียกธรรมดาว่าคุณเธอดันไม่หัน พอคนเรียกอารมณ์เสียเลยใส่ หญิง เข้ามาให้ เท่านี้เจ้าหล่อนก็หันขวับพร้อมตาดุๆ ทว่าตั้งแต่นั้นมาก็ถูกเรียกแบบนี้เสียจนชิน

การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นทำให้ทอมบอยกลายเป็นหนูน้อยสวยใสได้บ้างเป็นครั้งคราวที่ต้องการ แต่ก็น้อยครั้งที่จะแต่ง ดังนั้นโทษว่าเขาคนเดียวคงไม่ได้ แต่เอ๊ะ เริ่มผิดประเด็นค่ะ อันนี่นะเรื่องหญิงซันไม่ใช่เจ้าพี่

เรามาลุยเรื่องเจ้าพี่จันทรุปราคาก่อนดีกว่า ต้องนิยามเฮียแกคร่าวๆว่า "เนียบ เรียบ นิ่ง สุขุม นุ่ม ลึก" อันนี้ไว้ต่อหน้าหม่อมแม่และสาธารณชนเท่านั้น ลับหลังเมื่อไหร่ละก็ นิยามนี้เลย " เรียบ ร้อย เหมือน ผ้าพับไว้ พร้อม จริต เอียงอาย ชะมดชม้อย ชายตา" เริ่มไปไกล มากกว่านี้เดี๋ยวเจ้าพี่จะกลายเป็นสัตว์ประหลาดเสียก่อน ค่ะ นี่นิยามพอเป็นนำ้จิ้มก่อนจะเข้าออเดิร์ฟ อยากรู้จักมุมเวลาอยู่ต่อหน้า หรือลับหลังก่อน สาวหมวยจะได้เสิร์ฟถูก แต่ถ้าอยากแซบๆ ละแนะนำเวอร์ชั่นลับหลัง หม้อไฟแกงป่าผัดเผ็ดชิดซ้ายเลย

ต้องเท้าความย่อๆก่อน ตอนนั้นอาทิตยาเพิ่งจบมหาลัย อายุราวยี่สิบเอ็ดยี่สิบสอง ก็เข้าทำงานช่วยธุรกิจ "เพชรสยามนำ้งาม"กับครอบครัว วันนั้นหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสงมาเยี่ยมหม่อมแม่ของหล่อนเข้า ซึ่งจริงๆแล้วสองสาววัยรุ่นใจร้อนคู่นี้ก็ไปมาหาสู่ เม้าท์นู้นนั่นนี้กันแทบทุกวันอยู่แล้ว แต่วันนี้สายตาหม่อมท่านดูหน้ากลัวที่สุด ตอนแรกก็ว่าอุปาทาน แต่ดันบังเอิญไปสบตาคุณเธอเข้าจังๆซักสองรอบ ประกายระยิบระยับนี่ดูไม่น่าไว้ใจ จิตใต้สำนึกเตือนแบบนั้น และเพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม หญิงซันจึงวางตัวทโมนทันที ตีหลังกาม้วนหน้าสองตลบก่อนยกมือพนมลงหมอบกราบ เล่นเอาหม่อมแม่ของเธอกรี๊ดเสียงหลง ส่วนหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสง สูดยาดมสองรูจมูกไปเลย แต่หม่อมท่านยังไม่กลับค่ะ เอาซิแสดงอิทธิปาฏิหาริย์ขนาดนี้ ยังจะกล้าพูดเรื่องที่หมั้นหมายกันแต่เป็นวุ้นอยู่ในท้องก็เอา

อย่ามองกันด้วยสายตาแบบนั้น หญิงซันไม่ใช่สวยเลือกได้ แต่เป็นแนวถึงไม่สวยแต่จะเลือก ส่วนคานเลื่อมเพชรก็ไม่อยากอยู่ นักหรอกนะ แต่ถ้าต้องแต่งกับเกย์ ขอบาย อ้อ หรือใครจะเอาหญิงซันยกให้นะคะ แถมสร้อยเพชรในวันแต่งด้วยเอ้า

แต่นั่นแหละ เย็นวันนั้นหญิงซันโดนทำโทษตามระเบียบ ด้วยคำสั่งออกเดตเเรกกับชายหนุ่มคู่หมั้น ในอีกสองสัปดาห์ถัดไป พอจะเงยหน้าเถียง ไอ้คนที่หม่อมแม่อยากให้ซันเดตด้วยเนี่ยนิยมไม้ป่าเดียวกัน หม่อมท่านก็หันมาสวนเสียงเรียบไพเราะพร้อมรอยยิ้มแสยะแสนสยอง " ไม่ไปก็หักเงินเดือนค่าหมอค่ายาค่าทำขวัญ...ของฉัน"

ค่ะ ในที่สุดหญิงซันก็รับกรรมตามระเบียบที่บังอาจทำวัยรุ่นเหลือน้อยสองคนเกือบหัวใจวายตาย

อาทิตยา ได้แต่ปวดกระบาลที่พลาดท่าให้หม่อมแม่จับทำโทษจนได้ๆทั้งที่รู้ว่า อีกคนกำลังหาโอกาสให้หล่อนได้มีคู่ตุนาหงันออกเย้าออกเรือนเสียที " ขี้เกียจเลี้ยงแล้ว " ประโยคนี้แม่พูดประจำ แต่เรื่องจริงคือ เป็นห่วงมากกว่า พ่อก็เสียไปแล้ว หากนางเป็นอะไรไป ใครจะอยู่กับหล่อนกัน

เอาวะ เป็นไงเป็นกัน หล่อนจะหาหลักฐานไปยืนยันกับหม่อมแม่ให้ได้ว่าเจ้าพี่จันทรุปราคามีใจปฏิพัทธ์ต่อเหล่าแมกไม้มากกว่าหมู่มวลบุปผา

หล่อนปรึกษาเพื่อนใจหญิงคนสนิทนามเดิมเมธี ซึ่งเจ้าหล่อนเปลี่ยนใหม่เป็นนิรมิต พร้อมชื่อเล่นเก๋ไก๋ น้องจิ๊บ ขานี้ช่ำ่ชองเรื่องวงในโดยเฉพาะในรั้วในวังเป็นอย่างดี และยิ่งเรื่องหม่อมเจ้าจันทรุปราคา มีข่าวเต็มไปหมด ตั้งแต่งานการกุศลยันเรื่องลับๆ ซึ่งแน่นอนมันหนักไปอย่างหลังมากกว่า เช่น ชายเจ้านามดาวบริวารของโลกคบไม้ป่าเดียวกัน ควงกัน กินข้าวด้วยกัน เพิ่งออกจากโรงแรมด้วยกันตอนเช้า ล่าสุดเพิ่งประกบปากกับนายแบบหนุ่มชื่อดังนาม ก รับบทนักรักพระเอกหน้ามนเรื่อง ร้อยรัก ในที่สาธารณะ เฮ้อ…ถ้าจะเขียนข่าวกันขนาดนี่ จะใช้ชื่อย่อกันทำไม และเมื่อรายงานข่าวอย่างกับตาเห็นจบลง แผนจับตายคุณชายเกย์ก็เกิดขึ้น และมันก็เป็นเรื่องจนได้

ด้วยแผนการที่วางไว้ สาวหน้าหมวยและเพื่อนใจหญิงเลยต้องมาจมปรัก ตามหนุ่มหน้าหวาน ทุกเย็นเจ้าพี่จันทรุปราคาจะทรงยานยนต์รับลมเปิดประทุนยี่ห้อดังกะรันตีความไม่ธรรมดาของคนใช้ ซึ่งไม่เหมาะกับสภาพภูมิอากาศร้อนระอุในประเทศไทย หล่อนได้แต่ค่อนคอดในใจ มหาเศรษฐีไร้รอยหยักในสมอง รวยอย่างเดียวคงซื้อไม่ได้ต้องโง่แถมให้เท่านั้นแหละ เจ้าพี่โฉบเฉี่ยวในราตรีพร้อมเพื่อนพ้องเพศเดียวกันที่แสนน่ารัก สู่สถานที่ที่มีแสงไฟส่องเพียงริบหรี่ ที่หิ้งห้อยอาจชนะ ประตูรถเปิดออก พร้อมหญิงสาวร่างบาง…ก็เมื่อครู่ สาวหมวยสวยเก๋อย่างหล่อนแอบสะกดรอยตามมา แล้วทำไมเป็นเช่นนี้...หม่อมเจ้าจันทรมาศหายไปไหนเสียแล้ว กลับถูกแทนที่ด้วยหญิงสาวหุ่นดีสวมเดรสยาวกรอมเท้ารัดรูปสีแดงเลือดนก ผ่าขึ้นถึงต้นขาขาวจั๊วะน่าเจี๊ยะ จนต้องเผลอกัดริมฝีปากเลือดหยดติ๋งๆ ขนาดเป็นผู้หญิงด้วยกันยังอดมองไม่ได้ นี่ถ้าผู้ชายเห็นไม่น้ำลายหกเหรอ แม่เจ้าโว้ย นี่พี่ชายจันทรมาศ หรือจันทราส่องแสงกันแน่

ตอนแรกเคยคิดว่าคู่หมั้นเป็นเกย์ แต่พ่อคุณแต่งหญิงขนาดนี้ ตุ๊ดแล้วละ แต่จะว่าไปพี่ท่านแต่งแค่ตอนเที่ยวกลางคืน ยามกลางวันก็ปกติ อย่างนี้จะจัดเป็นอะไรดี แต่ที่แน่ๆ ฟันธงได้เลย...ชายในห้วงคะนึงเป็นพวกนิยมไม้ป่าเดียวกัน

ด้วยความที่เป็นสาวใสซื่อวัยอยากรู้และที่สำคัญหล่อนอยากได้หลักฐานเปิดทางสู่อิสรภาพ จึงวางก้นแปะลงกับเก้าอี้ขาสูงไร้พนักหน้าบาร์ โยกเนื้อตัวตามจังหวะเพลง พลางลอบสังเกตอีตาเจ้าพี่แอ๊บแมน แม่หมั้นหมายกับใครเขาตั้งแต่ลูกยังไม่คลอดออกมาได้ไงกัน ทีหลังช่วยดูอะไรให้มันยาวๆหน่อย คอยจนโตให้มั่นใจว่าชายแท้ ไม่ใช่แค่เพศชาย หล่อนจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งปั่นจิ้มปั่นเจ๋อแบบนี้

แล้วนี่ นัวเนีย นุบหนับ ไม่อายผีสางเทวดา แหวะจะอ้วก ในที่สุดหล่อนก็ทนดูฉากเด็ดของเจ้าพี่จันทรมาศในชุดเดรสรัดรูปแลกลิ้นทะลุโลกกับชายที่หล่อนไม่รู้จักไม่ไหว ร่างบางวิ่งไปอาเจียนโอ้กอ้ากนับสิบเที่ยว ก่อนจะกลับมานั่งที่เดิมอย่างอ่อนระโหยโรยแรง

“ทำมาเป็นไม่เคยเห็นไปได้ ในหนังรักแห่งสยามก็มี นี่ฉันถ่ายไว้ให้และ ช็อตเด็ดทั้งนั้น แกเอาให้แม่แกดูซะ จะได้ไม่ต้องมานั่งดูหนังสดอีก เสียสายตา" จุ๊บจิ๊บบ่นกระปอดกระแปดไปตลอดทางกลับไปลานจอดรถ ว่าหล่อนหนะสาวบริสุทธิ์ ไม่น่าจะต้องมาเห็นอะไรบัดสีบัดเถลิง ถ้าหม่อมแม่ของหล่อนรู้จะต้องโกรธที่ไม่รักนวลสงวนตัวที่ไปแอบมองอะไรแบบนี้ อาทิตยาที่เพิ่งหายจากอาการคลื่นไส้พอจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาก็สวนกลับทันที

“แผนเธอนะยัยจิ๊บ แล้วขอโทษเถอะ รักนวลสงวนตัวเขาไม่ใช้กับผู้ชายหย่ะ"

“เออ…นังเพื่อนอกตัญญู ใครจะคิดว่าเจ้าพี่แกมันจะบ้าอย่างนี้ ตอนแรกฉันเชื่อที่ไหนไอ้ข่าวคบชู้สู่ชายที่เล่ากัน เฮ้อ"

“อย่าทำมาบ่น ฉันซิผู้หญิง แหวะขนลุก"

“แล้วไง แกมันแมนจะตาย"

“เออ แมน แต่เมื่อกี้ฉันอ้วกจนหมดไส้หมดพุง สยองจริงหนังสดๆ สงสัยไอ้อะไรที่มันอยู่ที่ลำไส้ใหญ่ก็ออกมาด้วยกัน"

“พอเลย ฉันจะอ้วก พูดจาน่าเกลียด สมบัติผู้ดีแกนะมีบ้างไหม"

“ตายไปจากฉันตั้งแต่ยังไม่เกิดแล้ว"

ยัยจิ๊บอาสาขับรถกลับบ้านให้ เพราะอาทิตยายังดูเพลียๆจากเรื่องที่เพิ่งประสบ ไม่นานทั้งสองก็นำของกลางมาแสดงต่อหน้าคุณเพชรา คุณแม่ของอาทิตยาที่เจ้าหล่อนมักเรียกหม่อมแม่ ทั้งๆที่เป็นแค่สามัญชนคนธรรมดา เหตุผลง่ายคือ คุณแม่หล่อนชอบ เสียที่ไหนกัน เพราะเจ้าหล่อนเองต่างหากที่เรียกด้วยความสนุกปากจนเกิดเป็นความเคยชิน

หม่อมแม่พิจารณารูปทีละใบ คิ้วยับย่น ปากที่เริ่มจะหย่อนคล้อยตามเเรงดึงดูดของโลกถูกลู่ให้มาอยู่ใกล้กัน ก่อนสิ่งที่หญิงซันคลาดไว้จะพังคลืนลงมา

“จุ๊ๆ นี่แกไปแอบดูใครเขาทำอะไรกันไม่พอ ยังมีหน้ามาแอบอ้างว่าเป็นคุณจันทร์อีกเหรอ ผู้หญิงหน้าหวานขนาดนี้ยังมาบอกว่าเป็นหม่อมเจ้าจันทรมาศ แกนี่มันน่าจริงๆ แต่งเรื่องโกหกผู้ใหญ่ทำตัวเหมือนเด็กเล็กเล่นขายของ นี่ดีไม่หอบรูปไปประจานตัวเองที่บ้านหม่อมเจ้าจันทร์จรัสแสง" หญิงซันแหกปากเถียงสุดฤทธิ์แข่งกับหม่อมแม่ แต่ทว่าเพราะนางเป็นถึงหม่อมแม่ แล้วหญิงซันจะสู้อะไรได้ แพ้ทางเสียงไม่พอ ร่างกายก็ไม่เว้น หม่อมท่านจับหูเล็กๆบางๆของเจ้าหล่อนบิดไปมา ยัยจิ๊บเห็นท่าไม่มี ส่งซิกอำลาปากพะงาบๆ ประมาณว่าเรื่องครอบครัวคนนอกขอตัวนะ แล้วเพื่อนตัวดีก็พนมมือไหว้แล้วลากลับ ก่อนจะส่งยิ้มแหยๆให้เธอเป็นการบอกลา

ให้มันได้อย่างนี้ซิ รักกันเห็นๆ

จบค่ะ จบไม่สวย นี่แค่เรื่องเเรกแซบจริง แซบจนแสบ เพราะหูของหญิงซันต้องถูกทายาอีกหลายวันหลังจากที่โดนบิดจนเขียว แต่แค่นี้คนอย่างหล่อนไม่มีทางเข็ดหรอก หัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะไม่ออกเดตกะเจ้าพี่ใจแต๋วแน่นอน

แผนแรกล่มไม่เป็นท่า เพราะหลักฐานไม่แน่นหนาพอ สาวเจ้าจึงออกล่าอีกครั้ง แต่คราวนี้จะได้อะไรกลับมาหญิงซันไม่เคยคาดคิด แต่มันเปลี่ยนโลกที่สวยสดใสให้หมองหม่นยิ่งกว่าลงนรกอเวจี ที่มันไม่ใช่สีชมพู

อาทิตยาโทรไปหาเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดพร้อมคาดโทษจากเมื่อครั้งก่อนทิ้งหล่อนไว้กับหม่อมแม่แทนที่จะช่วยซักนิด พร้อมกับถ้อยคำขู่ ขอร้อง และบลาๆ ในที่สุด นิรมิตตอบตกลงแม้จะต้องมางงทีหลังว่าตรูตกลงกับมันไปได้อย่างไร

แผนนี้ยัยจิ๊บต้องหาหนุ่มซักคนที่หน้าตาพอที่เหยื่อเคี้ยวยากอย่างเจ้าพี่จันทรุปราคาจะตะครุบไว้ แล้วก็ระเริงลีลาสุดงดงามด้วยกัน จะบนเตียงหรือที่ไหนไม่สน แต่มีข้อแม้ว่าผู้ชายคนนั้นต้องลบรอยเครื่องสำอางที่แปลงโฉมบุรุษเป็นสตรีให้เผยใบหน้าแท้จริงของหม่อมเจ้าจันทรมาศออกมา แล้วเก็บภาพที่แสดงถึงความไม่สมชายให้มากที่สุด เอาซักกุรุสแบบชัดเน้นๆ ไม่ต้องเพ่ง และต่อให้ตาเป็นต้อกระจก ต้อหิน ต้อเนื้อ ก็รู้ว่าคนที่อยู่ในรูปมันเป็นใคร

นั่นแหละซวยใคร ก็ยัยจิ๊บสุดสวยซิ ที่ต้องเจริญสัมพันธไมตรีกับบรรดาพวกเดียวกัน หลายคนได้ยินแผนเข้าถึงกับกลืนน้ำลายตอบปฏิเสธทันที บางทีมีคิดแล้วเซโน ผ่านไปห้าวัน ยังไม่มีเพื่อนในสังกัดคนไหนยอมมาเป็นเหยื่อโอชะให้ จริงอยู่ไม่มีใครอยากพลาดของดีอย่างคุณชายจันทรมาศ แต่ถ้าไม่สำเร็จถูกจับได้นี่หัวหลุดแน่ๆ ก็คุณชายเนี่ยไม่ธรรมดา โดนเก็บขึ้นมาใครจะไปช่วยจากท่านยมบาล


“ได้ยัง" หญิงซันกรอกเสียงไปตามสาย

“ยัง นี่แกก็ช่วยกันหาซิยัยหญิงซัน เพื่อนฉันหนะอยากลองของเจ้าพี่แกนะ แต่เพราะแผนแกเนี่ย ใครเขาก็บายละ อีเจ้าพี่แกเนี่ยคนธรรมดาที่ไหน จะแนะอะไรให้ แกลองแต่งทอมบอย เอ้ย ลองแต่งชายไปดิ ไม่แน่ เจ้าพี่แกอาจจะมองแกก็ได้นะ ฮ่าๆๆ แล้วทีนี้แกอยากทำอะไรก็ทำตามสบาย เพราะยังไงเจ้าพี่คงไม่ฆ่าแกอยู่แล้ว "

เออแฮะ ความคิดดี ในเมื่ออยากได้หลักฐานแต่ไม่มีใครร่วมด้วย เอาตัวเองนี่แหละวะ สู้ตายหญิงซัน


วันนั้นหญิงซันหาผ้ามาพันอกเพื่อปกปิดอะไรที่มันนูนๆตามสรีระอย่างหญิงสาว อึดอัดจริงๆ เธอเป่าปากเบาๆ ก่อนจะจัดแจงตัวเองแบบแบดบอย เสื้อยืดดำ กางเกงยีนส์ขาดๆ ประดับด้วยต่างหูข้างเดียว แถมสร้อยห้อยเพชรนำ้งามรูปดวงอาทิตย์ที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลก เพราะหม่อมแม่คนสั่งชั่งมือดีออกแบบให้ในวันเกิดปีที่สิบแปด หญิงซันเลยสวมติดตัวตั้งแต่นั้นมา ตบท้ายด้วยแว่นกันแดดอำพรางใบหน้า

ก่อนจะออกจากบ้านหญิงสาวก็พยายามปลุกปลอบตัวเอง เจ้าประคุณ เทพยดา รุกขเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง โปรดอำนวยอวยพรให้ลูกช้างมีชัยในศึกครั้งนี้ด้วย เพี้ยง
(นี่ยัยหญิงซันท่าจะคิดว่าตัวเองจะสู้ศึก)


เสียงเพลงดังชวนให้เธอหมดสมาธิ คนก็เยอะ ยัยจิ๊บก็ติดธุระอีก หล่อนเลยต้องฉายเดี่ยว พร้อมชั่งภาพรุ่นน้องฝีมือดีที่นัดกันไว้ก่อนหน้านี้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ตกลงกันไว้ให้ถ่ายทุกช็อต ขอเน้นๆ เอาให้เห็นว่าเป็นหม่อมเจ้าจันทรมาศนัวเนียกับผู้ชาย

เฮ้อ...จะสำเร็จไหมนะ...

และแล้วเป้าหมายก็ปรากฏตัว วันนี้มาคนเดียวด้วยชุดเดรสสีดำคลับ

เอาไงดี หญิงซันเริ่มจิตตก ยังไม่ทันเริ่มอะไรก็มือสั่นแล้ว เพราะภาพเจ้าพี่ยังติดตาตรึงใจหลอกหล่อนในฝันอยู่สองสามคืน เล่นเอาวิ่งเข้าห้องนำ้ไปอาเจียนแทบไม่ทัน ดีที่อาการไม่หนักมากจนถึงกับหาหมอประจำตัวขอยามากิน

หม่อมเจ้าจันทรมาศในร่างสาวงามหยดย้อยที่หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่ส่งสายตาลามเลียออกมาซึ่งๆหน้า กำลังนั่งจิบเครื่องดื่มสีใสราวนำ้บริสุทธิ์ที่เด็กประถมก็เดาได้ว่าไม่ใช่นำ้เปล่าธรรมดาอย่างที่ตาเห็น

ดวงตาคมหวานมองตอบกลับสายตาทุกคู่ที่แสดงความปรารถนาออกมาอย่างเปิดเผยด้วยอาการสงบ และหนึ่งในนั้นมันรวมตาคู่สวยของหล่อนที่ตอนนี้ปราศจากแว่นตาดำอำพลางกางกั้น นัยน์ตาสีดำลึกลับคู่นั้นทอดมองมาที่เธอยาวนานพอควร และนานกว่าคนอื่นๆ

สาบานได้เลยว่า...ไม่ได้คิดไปเอง

ดีละ เจ้าพี่จันทรุปราคาชอบแบดบอย เสร็จแน่ หญิงซันหมายมั่นปั้นมือ

ถ้าทอดสะพานเชิญชวนกันขนาดนี่ ไม่ข้ามไปนี่ กลับบ้านไปเก็บหญ้ากินคงจะดี

“ขอแบบคุณผู้หญิงที่นึงครับ" หญิงซันพยายามเก๊กเสียงหล่อสุดฤทธิ์ ชนิดถ้าเหล่าบรรดานางชะนีเพื่อนตัวแสบของยัยจิ๊บมาเจอคงจะพลีกายถวายชีวิตให้

บริกรหันมาถามยำ้อีกครั้งสีหน้าอึ้งสุดๆ “นั่นไม่ใช่แค่วอดก้าธรรมดาที่คุณผู้ชายเข้าใจนะครับ” แล้วไง จะกินแบบนั้นมีปัญหาไหม

“ขอเหมือนคุณผู้หญิงครับ” อาทิตยาในมาดผู้ชายย้ำคำสั่งเดิม ไม่นานน้ำ้สีใสๆลักษณะไม่แตกต่างจากของเจ้าพี่ก็วางอยู่ตรงหน้า ทีนี้ก็งานเข้าอายุยี่สิบสองก็จริงแต่ว่าหล่อนนะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรนัก นำ้สีใสข้างหน้านี่รสยังไงไม่รู้แต่เจ้าพี่กินไม่ตาย หล่อนก็ไม่น่าตาย

ของเหลวไร้สีไร้กลิ่นผ่านคอหล่อนไม่กี่หยดก็ทำเอาแทบจะสำลักออกมา ดีที่ละเลียดเข้าทีละน้อยตามคำสอนของเพื่อนที่เคยได้ยินเวลาพวกมันหัดรุ่นน้องที่ไม่เคยแตะของมึนเมา ส่วนหล่อนก็เอาแต่ปฏิเสธไม่ลองทุกครั้ง ก็รู้ทั้งรู้รสชาติแย่ เมาทีหนึ่งแสนทรมาน จะไปหัดกินทำไม ถ้าวันนั้นลองคงรู้ว่ามันแย่ขนาดนี้ คงไม่ต้องมานั่งทุรนทุรายกระเดือกลงคอ ซวยจริงแทนที่จะสั่งไวน์องุ่นที่กลืนง่ายกว่า

หญิงซันแกล้งกระดกมันเข้าไปอีกสองสามครั้งพอไม่ผิดสังเกตพลางส่งสายตาเจ้าชู้ให้หญิงสาวข้างกาย ที่ดูเหมือนจะทำเมินเสียอย่างนั้นทั้งที่เมื่อครู่จ้องมาตาไม่กระพริบ หรือว่าหล่อนจะคิดเองเออเอง

“ดิฉันเป็นผู้ชายนะคะ แต่ถ้าคุณชอบไม้ป่าเดียวกันอยากลองดูก็เอา ไม่ขัดศรัทธาค่ะ" จันทรมาศในคราบหญิงสาวยังคงแสดงสีหน้าเรียบเฉยประดับยิ้มเย็นๆ แววตาทอประกายล้อแสงระยิบระยับของดวงไฟที่เปิดสลัวๆ

เจ้าพี่จันทรทรุปราคากล้าบอกผู้ชายแบบนี้เชียวหรือนี่

แล้วก็ยังทำอะไรแบบนั้นกันต่อได้อีก...แต่เธอไม่ใช่ผู้ชาย ทำอย่างไรดี หญิงซันพยายามประคองสติ ไม่ลุกลี้ลุกลนต่อหน้าผู้ที่ดูเชี่ยวชาญในสมรภูมิ ตายแน่ เชื่อแล้วละว่าเจ้าพี่น่ากลัว



เปิดตัวตอนแรก ครบแล้วนะเออ ชะเอิงเอย ^ ^



เด่นเดือน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.พ. 2556, 22:37:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2556, 12:28:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1808





   บทที่ 1 Neutral Grain Spirit 2/2 >>
aom 27 ก.พ. 2556, 05:22:24 น.
ตลกดี


ศศิภา 27 ก.พ. 2556, 13:52:58 น.
น่าสนุกค่ะ


เด่นเดือน 2 มี.ค. 2556, 08:14:50 น.
ขอบคุณคร้า ^ ^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account