นางบำเรอตีทะเบียน By อัญจรี น้ำจันทร์
คำโปรยหน้า
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
Tags: ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ธราธร
ตอน: บทที่ 1 โสเภณีตีตรา 50% ไม่มีฉากรักให้หัวใจวายแน่นอน คอนเฟิร์มค่า ^/\^
นางบำเรอตีทะเบียน
บทที่ 1
โสเภณีตีตรา
ณ โรมแรมสุดหรูกลางกรุงเมืองใหญ่ซึ่งหนึ่งในห้องบอลรูมด้านในได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเพื่อการกุศล เหล่าดวงดาราทั่วฟ้าเมืองไทยต่างตบเท้าเข้างานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หนึ่งในนั้นก็คือ...
ละอองดาว จตุรศิลป์
หล่อนไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ไฮโซ หรือผู้ดีมีสกุล แต่หล่อนก็อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้ด้วย ร่างสวยอรชรในชุดราตรีสีฟ้าครามสามารถสะกดสายตา บรรดาหนุ่มๆ ที่มาในงานค่ำคืนนี้ได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวผ่านประตูเข้ามา แม้แต่สตรีด้วยกันเมื่อมองผ่านยังต้องเหลียวกลับมามองอีกหน ด้วยว่าชุดราตรีตัวสวยปล่อยชายยาวระพื้น ยาวปกปิดช่วงคอเรียวจนถึงแต่ทว่าแผ่นหลังคว้านลึกเปิดเปลือยแทบจะถึงบั้นท้ายงอนงาม
เจ้าตัวรู้ดีว่าเสียงฮือฮาจะตามหลังเธอมาทุกก้าวที่เธอเดินผ่าน แต่ทว่า...นั่นคือสิ่งที่เธอ ต้องการ
เวลาเดียวกันนั้นบุรุษร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมได้รูป จมูกโด่งเป็นสันคมกำลังใช้สายตาแลหาบางอย่างบนพื้นพรม เขาคงไม่มีวันหามันเจอเพราะเจ้าสิ่งนั้นมันกลิ้งหลุนๆ มาหยุดอยู่แทบเท้าละอองดาวนี่เอง
หญิงสาวก้มลงหยิบปากกาด้ามทอง หล่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาชายผู้นั้น แล้วยื่นปากกาคืนให้ เขาควรกล่าวขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถ้าจะให้ดีควรมีเครื่องดื่มกำนัลให้เธอสักแก้วเป็นสิ่งตอบแทนที่เธอช่วยเก็บของให้ แต่ไม่เลย! เขาเอ่ยเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองใจ อย่างแรง!
“ถึงบ้านเมื่อไหร่ ชุดเธอได้กลายเป็นพรมเช็ดเท้าแน่นอน ละอองดาว!”
ละอองดาวยกยิ้มมุมปาก การป่วนอารมณ์ของ สามี สำเร็จอีกแล้ว เธอสนุกที่ได้กวนอารมณ์เขาเช่นนี้ ก็นานๆ ทีจะได้อวดสวยบ้าง เธอก็ขออวดเนื้อหนังเป็นอาหารตาเสือสิงห์หน่อยจะเป็นไร ในเมื่อวันข้างหน้าเธอก็ต้องเลิกรากับเขา เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ขอโปรยทางไว้เผื่ออนาคตบ้างจะเป็นไรไป คงมีหนุ่มๆ หล่อๆ และรวยๆ สักคนกระมังที่ไม่สนความหลัง ยอมจดทะเบียนตีตรากับเธออีกรอบ
“ด้วยความยินดีค่ะ คุณโย คงอยากกลับไปเช็ดเท้าที่ บ้านของเรา บ้าง หลังจากไป เช็ด ที่อื่นมานานแรมเดือน แต่วางใจได้ค่ะ ทั้งคู่ค้า และคู่ขาของคุณตบเท้าเข้าบ้านของเราจนดาวต้องเอาพรมเช็ดเท้ามาซักวันละสามเวลา จนมันสะอาดเอี่ยมอ่องและคงดีกว่านี้ ถ้าคุณโยจะกลับไปซักมันเอง ก่อนที่ดาวจะหาคนมาช่วย ซัก”
ละอองกล่าววาจาเป็นนัยดังที่ใจปรารถนา และ วาโย จตุรศิลป์ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก
“ฉันจะหักคอเธอละอองดาว ถ้าเธอกล้าทำอย่างนั้น” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดสาดใส่ภรรยาสาว
“โอ...คุณโยขา ดาวรอคุณโยมาหักคอทุกนาทีทีเดียวค่ะ หึๆ ก่อนอื่นหาทางกลับบ้านให้เจอก่อนดีกว่าไหมคะ ถ้าวันนี้ดาวไม่มางานนี้ คงไม่รู้ตัวว่า คุณสามี ก็มาด้วย ว้า...แย่จัง ดาวหมดสนุกกันพอดี”
หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อย ทำหน้าทำตาราวกับว่าเรื่องที่คงไม่ได้ทำนั้น มันน่าเสียดายเสียเต็มประดา
“อย่ายั่วโมโหฉันให้มากนัก เธอก็รู้ดีว่าฉัน ไม่เหมือนใคร” ใบหน้าเขากลับมาเรียบเฉย แต่นัยน์ตาสะท้อนประกายวับวาว ดุจประกายไฟจากพระเพลิงกองใหญ่กำลังเผาไหม้ในหน่วยตาคู่นั้น
“บังเอิญว่านอกจากคุณ ดาวก็ไม่เคยมีใคร จึงไม่รู้จะเทียบความเหมือนหรือแตกต่างกับใครดี เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะมารูปแบบไหน ดาวรับได้ค่ะ คุณสามี” ละอองดาวยิ้มพราวยั่วเย้าสามี
วาโย จตุรศิลป์ กัดกรามดังกรอดๆ เขาไม่นึกเลยว่าภรรยาตีตราที่เขาเหินห่างมานานจะสามารถก่อเพลิงโทสะและราคะในกายให้ลุกโพลงร้อนแรงได้ถึงเพียงนี้ เขาควรจะทำอย่างไรดีล่ะถึงจะสาสมกับวาจาไม่ลดราวาศอกของหล่อน หรือต้องให้โชว์จุมพิตอันดูดดื่มอวดใครต่อใครไหม หล่อนจะได้รู้สำนึก
วินาทีต่อมา ร่างอ้วนล่ำของชายเชื้อสายจีน เดินมาหยุดยืนตรงหน้าดวงดาราที่เจิดจรัสที่สุดในค่ำคืนนี้ บุรุษมากวัยโค้งพองามให้ดวงดาวในชุดสีฟ้าครามพร้อมรอยยิ้ม
“ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงนะครับคุณผู้หญิง ถือว่าเป็นการ ทำทาน แรกในงานคืนนี้ก็แล้วกัน”
ใบหน้าอวบอ้วนมีแววยินดี เมื่อเห็นละอองดาวยกมือปิดปากเพื่อกลั้นกิริยาอาการยามขบขันคำพูดของตน
“โธ่...ฉันไม่ใช่นักเต้นมืออาชีพนะคะ จะได้ทำทานด้วยการเต้นรำคู่กับท่าน” เธอยิ้มน้อยๆ อย่างไว้ตัว คำตอบก็ด้วย ไม่ใช่ตอบรับ หรือปฏิเสธ
“คุณผู้หญิงถ่อมตัวมากไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณนั่งตรงไหนครับ ผมจะได้โทรไปบริจาค สักล้าน สองล้าน” ชายร่างท้วมเอ่ยออกมาราวกับว่าคำว่าล้านสองล้านมีค่าเพียงกระดาษชำระใช้แล้วทิ้ง
“อวดรวย!” สามีแสนดีประชดประชันด้วยประโยคที่ภรรยาเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะหลุดออกมาจากปากเขา ดูท่าว่าวาโยที่พัดโชยเบาๆ เริ่มโมโหจวนกลายเป็นพายุลมแรงเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอคงต้องเลิกเล่นเสียทีกระมัง
วาโยเดินไปหากรรมการผู้จัดงานการกุศลในครานี้ เขาคงต้องกลับทั้งที่เพิ่งมาถึงนั่นเพราะภรรยาแสนดี ยั่ว เขาได้ถึงอารมณ์จริงๆ
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันขอตัวไปหาเพื่อนก่อน ขอโทษที่ต้องปฏิเสธน้ำใจของท่าน ขอโทษจริงๆ ค่ะ” เธอเอ่ยขอโทษแล้วเร่งฝีเท้าให้ทันสามี แต่น่าแปลก ปกติเขาจะเดินนำเธอ เดินอยู่ข้างหน้า ไม่มีทางหันมามองเลย แต่วันนี้ วินาทีนี้ เขากลับเดินย้อนกลับมา เพื่อ...
วาโยเดินกลับมาอีกครั้งเพื่อเหนี่ยวร่างน้อยมาไว้ในอ้อมแขน เขาบังคับท้ายทอยหล่อนให้แหงนเงยเพื่อรองรับรสจุมพิตร้อนๆ ท่ามกลางแสงแฟลชกะพริบพราวจากกล้องหลายสิบตัว
ละอองดาวใจเต้นระส่ำ เขาจูบเธอ! จูบต่อหน้านักข่าวและคนที่มาร่วมงานอีกเป็นร้อย ไม่น่าเชื่อ! มือเท้าหล่อนเย็นเฉียบตอนที่เขาถอนถอนริมฝีปากออกไป และครั้งนี้เขาก็ชนะอีกจนได้
“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมทำกุศลในงานวันนี้ ผมขอให้งานยังดำเนินต่อไปแม้ว่าจะขาดเจ้าภาพเช่นผม อ้อไม่ต้องอิจฉาผมล่ะ ผมบริจาคตั้งสิบล้านทำบุญเพื่อเด็กด้อยโอกาส เลยได้รับจูบจาก ภรรยา ตอบแทน ผมว่ามันคุ้มมากทีเดียว น่าเสียดายที่งานคืนนี้ไม่มีการขายจูบ ไม่งั้นหนุ่มๆ ในงานคงครึกครื้นกว่านี้ เอาล่ะ ผมคงต้องกลับเสียที ขอบคุณทุกท่านมากครับ”
วาโยค้อมศีรษะให้ทุกคน บรรดาเหยี่ยวข่าวต่างกระหน่ำบันทึกภาพของทั้งคู่มือเป็นระวิง กระทั่งทั้งสองเดินออกนอกบริเวณงานไปในที่สุด
คอนโดฯ จตุรศิลป์
วาโยเลี้ยวรถเข้ามาจอดใต้ถุนอาคาร เขาลงจากรถอย่างรีบเร่งเพราะบางสิ่งกำลังดุนดันกางเกงเขาจนแทบแตกปริ
“ถ้าเธอยังเดินช้าเป็นเต่า ฉันจะจับเธอแก้ผ้าแล้ว เอา มันตรงนี้!” เขาชี้นิ้วลงตรงพื้นในลานจอดรถ ยังผลให้คนสวยต้องรีบสาวเท้าก้าวตามไปขึ้นลิฟต์อย่างไว และพอลิฟต์ปิดสนิทลง วาโยก็ทำตามที่เขาคุยโวไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำทรวง ไม่แยแสต่อเสียงท้วงติงของเธอแม้แต่น้อย
“คุณโย! ดาวเจ็บ” เธอบอกเขาเพื่อที่เขาจะได้ผ่อนปรนเรี่ยวแรงในการบีบขยำในครานี้ แต่...
“ดี! เธอจะได้จำไว้ว่าร่างกายเธอมันเป็นของฉัน! อย่าเอามันไปให้ผู้ชายหน้าไหนมันมอง เข้าใจไหม!?” เธอพยักหน้า เขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน นัยน์ตาแดงก่ำใบหน้าบูดบึ้งขึงโกรธ เธอไม่ได้เตรียมตัวมาเผชิญหน้ากับพายุหมุนนะ เธอเตรียมการณ์ไว้แค่ลมทะเลพัดแรงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
ติ๊ง!!!
เมื่อสันญาณจากสวรรค์ดังขึ้นวาโยก็ตวัดแขนช้อนร่างอรชรขึ้นมาอุ้มแล้วเดินตรงสู่ห้องริมสุดซึ่งกินพื้นที่มากกว่าครึ่งของชั้นบนสุด นาทีต่อมาประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยมือหนาและปิดลงอย่างแรงด้วยบาทาของเขาเช่นกัน
ชายหนุ่มวางร่างหล่อนลงในทันทีที่เข้ามาในห้องชุดสุดหรูเป็นที่เรียบร้อย สองร่างโรมรันพันตูไปตั้งแต่ห้องนั่งเล่นจนถึงหน้าห้องนอน ตอนนี้เสื้อสูทเนื้อดีไม่มีความหมาย วาโยดึงมันออกจากร่างกายหล่อน ชุดสีฟ้าครามแสนจะขัดใจก็เช่นกัน มันได้กลายเป็น พรมเช็ดเท้า ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
“อย่า!...”
ละอองดาวรู้ดีว่าห้ามไปก็เท่านั้น เขาไม่มีวันหยุดหรอกหากได้เริ่มลงมือ ริมฝีปากหยักบดเบียดจุมพิตร้อนผ่าวลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่ประวิงเวลาด้วยการโลมเล้าเอาใจ พอจับร่างอรชรให้เหลือเพียงกายเปลือยเปล่าได้ก็อุ้มหล่อนตรงรี่ไปที่ เตียง!
เสื้อผ้าอาภรณ์จากร่างหนารวมทั้งชั้นในจ้อยจิ๋วจากร่างบางปลิวว่อนร่วงลงบนพื้น เสียงหอบหายใจดังประสานกันด้วยความต้องการอันแรงกล้าคุกรุ่น
ตัดฉากรักรัก ^,.^
พายุสวาทโหมกระหน่ำสองร่างลูกแล้วลูกเล่าจนกระทั่งรุ่งเช้า วาโยเพิ่งสำเหนียกได้ว่าช่วงเวลาที่เขาไม่กลับบ้านทำให้ร่างกายเขาโหยหาแม่ภรรยาคนนี้จนแทบจะกลืนกินร่างหล่อน แม่โสเภณีที่รักทำสิ่งใดกับกายร่างเขากันนี่!
สามปีมาแล้วที่วาโยและละอองดาวผูกพันกันด้วยกระดาษแผ่นบางที่ชื่อว่า ทะเบียนสมรส มันร้อยรัดเขาและหล่อนเอาไว้จนยากจะทำเป็นลืม แต่ก็นั่นล่ะ เขาชอบทำเป็นลืมอยู่เรื่อย มันช่วยไม่ได้ในเมื่อหัวใจเขาไม่ได้อยู่ที่หล่อน มันอยู่กับสตรีที่งดงามและแสนดียิ่งกว่า แม่โสเภณีคนนี้ หล่อนคนนั้นชื่อ...วีนุตตรา
แสงตะวันตอนบ่ายคล้อยสาดส่องผ่านเข้ามาทางผ้าม่านลายกุหลาบ หญิงสาวพลิกกายช้าๆ เหลียวหานาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง...ไม่มี? เธอลืมไป นี่มันคอนโดฯ ของสามี มิใช่ เรือนไม้หอม ของภรรยา!
“ตื่นแล้วรึ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดทอดสายตาออกไปนอกระเบียงห้องนอน ด้านล่างนั้นเป็นทะเลสาบกลางกรุงของโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่บังเอิญมาสร้างติดรั้วของคอนโดฯ จตุรศิลป์
“น่าแปลกที่คุณยังอยู่” เธอประชดเล็กน้อย ขนาดวันแรกที่ตกเป็นของเขา เขายังใจดีหลบลี้หนีหน้า กลับมาอีกทีเอาตอนสามเดือนให้หลัง ปล่อยให้เธอต้องรบราฆ่าฟันอยู่กับสาวๆ คู่ขานับสิบนับร้อยของเขาที่มาทวงความรับผิดชอบจากคุณสามี
“อย่ามาประชดในเมื่อฉันกลับมาแล้ว” เขาโต้กลับเสียงเรียบเย็น ไร้วี่แวววาโยผู้ร้อนรุ่มกระหายรักเช่นเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง
ร่างอรชรยันกายลุกขึ้นนั่ง เธอก้าวลงจากเตียงในสภาพเปล่าเปลือย ไม่มีเขินอายต่อหางตาของสามีที่ลอบชำเลืองมา ช่วยไม่ได้ เขาอยากทำร้ายเธอด้วยวิธีนี้ เขาก็ต้องโดนเอาคืนด้วยวิธีนี้เช่นเดียวกัน
“จะยั่วฉันหรือไง เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีทางมอบมันให้เธอ แม้ว่าเธอจะใช้ร่างกายมาเดิมพัน” เขาเยาะเย้ย นัยน์ตาสีสนิมฉายแววเหยียดหยันอย่างโจ่งแจ้ง มันตรงกันข้ามกับร่างกายที่เริ่มร้อนขึ้นมาทีละนิด เรือนร่างสะโอดสะองโค้งเว้าเปล่าเปลือยทำให้กายเขาสนองตอบต่อสิ่งเร้าที่เห็นได้ด้วยสายตา เขาลุกขึ้นยืนเมื่อการนั่งทำให้กางเกงเขา คับ ขึ้นมาดื้อๆ
“อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย วันนี้ต้องขึ้นเราเครื่องไปสิงคโปร์” เขาสั่งสั้นๆ แต่ทำเอาภรรยาถึงบางอ้อ
“นี่ต่างหากเหตุผลจริงๆ ที่คุณกลับมา คุณไม่กลับมาง่ายๆ หรอกจนกว่าจะถึงเวลาต้องใช้งานฉัน!”
ละอองดาวขึ้นเสียง เธอโกรธเขา โกรธมาก! เขาหลอกเธอ หลอกมาตั้งแต่ต้นด้วยการซื้อตัวแม่สาวชาวดอยคนนี้จากซ่องแล้วแต่งงานด้วยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอดีใจจนเนื้อเต้น ไม่มีสิ่งใดจะดีใจมากไปกว่ามีผู้ชายแสนดีราวเทพบุตรฉุดเธอขึ้นมาจากปลักโคลนของกามารมณ์ แต่เธอผิดหวังอย่างแรง เมื่อเขาโยนสิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าลงมาให้ เธอตกเป็นของเขาก็จริง ทั้งร่างกายและหัวใจ แต่เขาให้เธอได้เพียงแค่ร่างกาย และทะเบียนสมรส!
สามปีแล้วนะ สามปี! เธออยากรู้จริงๆ เขาจะปล่อยเธอไปเมื่อไหร่กัน
“คุณโย! ถ้าไม่ให้หัวใจกันก็ปล่อยฉันไปเสียเถิด ฉันเหนื่อยแล้วนะกับผู้ชายอย่างคุณ” เธอพูดเท่านั้นแล้วเดินลงส้นเท้าแรงๆ ไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วก้าวเข้าห้องน้ำ
วาโยหลับตาพยายามข่มความโกรธ บทจะเอาแต่ใจแม่โสเภณีที่รักหล่อนก็ทำได้ดีจริงๆ
สองทุ่มตรงที่ท่าอากาศยาน...ประเทศสิงคโปร์
วาโยและละอองดาวนั่งเครื่องบินมาลงที่สิงคโปร์ เมืองที่อุดมด้วยความมั่งคั่ง หลังจากลงเครื่องไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทั้งสองก็เข้าพักที่ โรงแรมรอยัล พลาซ่า ออน สก็อตส์ ซึ่งสะดวกสำหรับนักธุรกิจที่มีเวลาจำกัดเช่นเขา ด้วยระยะห่างจากสนามบินเพียงยี่สิบนาทีทำให้เขาเลือกพักที่โรงแรมแห่งนี้ แม้ว่าราคาต่อคืนนั้นจะอยู่ที่เจ็ดพันบาทปลายๆ ทีเดียว
หลังจากพักผ่อนจนหายเหนื่อย ละอองดาวก็ได้รับคำสั่งจากสามีให้เปลี่ยนชุดสำหรับการไปรับประทานอาหารค่ำ เธอปฏิเสธชุดที่เขายื่นให้ ไม่ใช่ว่ามันเซ็กซี่เกินไป แต่เหตุผลที่เขาให้เธอใส่ต่างหากมันทำให้เธอละอายใจ แต่กระนั้น เธอก็ไม่สามารถขัดคำสั่งเขาได้อยู่ดี
“ไหนว่าไม่ชอบให้ใครมองดาว” เธอย้อนเขาติดประชดเล็กน้อย ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเธอได้ยินเต็มสองหูว่าเขาไม่ชอบให้ใครมามองร่างกายเธอ แต่สิ่งที่เขากำลังยัดเยียดให้ในขณะนี้มันกลับตรงกันข้าม
“คราวนี้อนุโลม แลกกับเงินของมิสเตอร์คิงส์ เขาจะช่วยฉันได้หากต้องลงทุนอะไรในประเทศนี้ และมันคงจะดี ถ้าเขาเอาแต่มองเธอจนเผลอรับปากเป็นหุ้นส่วนกับฉัน หวังว่าเธอจะเข้าใจ”
“ใช่! ดาวเข้าใจ เข้าใจว่าคุณทำให้ดาวรังเกียจตัวเอง” เธอบอกเขาตามตรง
“คิดมากไปได้ ถือว่าช่วยฉันจะเป็นไร มิสเตอร์คิงส์เขาอายุมากก็จริง แต่ยังไม่สิ้นลายเรื่องอย่างว่า และถ้าวันนี้เขาพอใจเธอ ตอนเธอเลิกกับฉัน ฉันจะช่วยพูดกับเขาเอง เรื่องแบบนี้คนรักสนุกอย่างมิสเตอร์คิงส์เขาไม่ถือหรอก หึๆ”
ละอองดาวจ้องหน้าสามีราวกับจะเฉือนเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆ พูดออกมาได้ว่าจะช่วยหาคนมาเลี้ยงดูเธอตอนเธอเลิกกับเขา คนใจร้าย คุณจะร้ายกับภรรยาคนนี้ไปถึงไหน วาโย!
“ความจริง...เลิกกันวันนี้เลยก็ได้นะ ไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ดาวจะได้ไม่เสียเที่ยว” เธอประชด
“ดาว! อย่ามาประชด ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น” เหมือนน้ำเย็นจัดสาดซัดใส่หน้าภรรยาสาว ละอองดาวฝืนยิ้มเยือกเย็นกลับไปเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยว่า
“ดาวก็ไม่ได้ล้อเล่น วันนี้ดาวชักอยากลองเซ็กซ์ของหนุ่มใหญ่ดูบ้าง บอกตามตรงว่าอยู่กับคุณนานๆ มันเบื่อ!” เธอเชิดหน้าท้าทายสามีอย่างไม่เกรงกลัว
วาโยตัวสั่นเทิ้มเมื่อถูกละอองดาวสบประมาท มือแกร่งกำรัดข้อมือน้อยไว้แน่น ขณะที่มืออีกข้างเหนี่ยวรั้งเอาท้ายทอยแม่ภรรยาคนงามมาประกบจูบดูดดื่มอย่างมิอาจห้ามใจ
“อย่าบอกว่าเบื่อฉัน ฉันไม่ชอบ!”
ละอองดาวกายร่างสั่นระริกเพราะถูกจุมพิตร้อนผ่าวเข้าเล่นงาน เธอพยักหน้าให้เขาแทนคำตอบทันทีที่เขาถอนจูบ หากว่ายังดื้อดึงที่จะเป็นผู้ชนะละก็ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเสื้อผ้าอาภรณ์คงได้หลุดลงไปกองบนพื้นอีกรอบ
บทที่ 1
โสเภณีตีตรา
ณ โรมแรมสุดหรูกลางกรุงเมืองใหญ่ซึ่งหนึ่งในห้องบอลรูมด้านในได้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงเพื่อการกุศล เหล่าดวงดาราทั่วฟ้าเมืองไทยต่างตบเท้าเข้างานกันอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง หนึ่งในนั้นก็คือ...
ละอองดาว จตุรศิลป์
หล่อนไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ไฮโซ หรือผู้ดีมีสกุล แต่หล่อนก็อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้ด้วย ร่างสวยอรชรในชุดราตรีสีฟ้าครามสามารถสะกดสายตา บรรดาหนุ่มๆ ที่มาในงานค่ำคืนนี้ได้ตั้งแต่ก้าวแรกที่ก้าวผ่านประตูเข้ามา แม้แต่สตรีด้วยกันเมื่อมองผ่านยังต้องเหลียวกลับมามองอีกหน ด้วยว่าชุดราตรีตัวสวยปล่อยชายยาวระพื้น ยาวปกปิดช่วงคอเรียวจนถึงแต่ทว่าแผ่นหลังคว้านลึกเปิดเปลือยแทบจะถึงบั้นท้ายงอนงาม
เจ้าตัวรู้ดีว่าเสียงฮือฮาจะตามหลังเธอมาทุกก้าวที่เธอเดินผ่าน แต่ทว่า...นั่นคือสิ่งที่เธอ ต้องการ
เวลาเดียวกันนั้นบุรุษร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมได้รูป จมูกโด่งเป็นสันคมกำลังใช้สายตาแลหาบางอย่างบนพื้นพรม เขาคงไม่มีวันหามันเจอเพราะเจ้าสิ่งนั้นมันกลิ้งหลุนๆ มาหยุดอยู่แทบเท้าละอองดาวนี่เอง
หญิงสาวก้มลงหยิบปากกาด้ามทอง หล่อนลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาชายผู้นั้น แล้วยื่นปากกาคืนให้ เขาควรกล่าวขอบคุณด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ถ้าจะให้ดีควรมีเครื่องดื่มกำนัลให้เธอสักแก้วเป็นสิ่งตอบแทนที่เธอช่วยเก็บของให้ แต่ไม่เลย! เขาเอ่ยเพียงสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงขุ่นเคืองใจ อย่างแรง!
“ถึงบ้านเมื่อไหร่ ชุดเธอได้กลายเป็นพรมเช็ดเท้าแน่นอน ละอองดาว!”
ละอองดาวยกยิ้มมุมปาก การป่วนอารมณ์ของ สามี สำเร็จอีกแล้ว เธอสนุกที่ได้กวนอารมณ์เขาเช่นนี้ ก็นานๆ ทีจะได้อวดสวยบ้าง เธอก็ขออวดเนื้อหนังเป็นอาหารตาเสือสิงห์หน่อยจะเป็นไร ในเมื่อวันข้างหน้าเธอก็ต้องเลิกรากับเขา เพราะฉะนั้นวันนี้ก็ขอโปรยทางไว้เผื่ออนาคตบ้างจะเป็นไรไป คงมีหนุ่มๆ หล่อๆ และรวยๆ สักคนกระมังที่ไม่สนความหลัง ยอมจดทะเบียนตีตรากับเธออีกรอบ
“ด้วยความยินดีค่ะ คุณโย คงอยากกลับไปเช็ดเท้าที่ บ้านของเรา บ้าง หลังจากไป เช็ด ที่อื่นมานานแรมเดือน แต่วางใจได้ค่ะ ทั้งคู่ค้า และคู่ขาของคุณตบเท้าเข้าบ้านของเราจนดาวต้องเอาพรมเช็ดเท้ามาซักวันละสามเวลา จนมันสะอาดเอี่ยมอ่องและคงดีกว่านี้ ถ้าคุณโยจะกลับไปซักมันเอง ก่อนที่ดาวจะหาคนมาช่วย ซัก”
ละอองกล่าววาจาเป็นนัยดังที่ใจปรารถนา และ วาโย จตุรศิลป์ ก็เข้าใจได้ไม่ยาก
“ฉันจะหักคอเธอละอองดาว ถ้าเธอกล้าทำอย่างนั้น” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดสาดใส่ภรรยาสาว
“โอ...คุณโยขา ดาวรอคุณโยมาหักคอทุกนาทีทีเดียวค่ะ หึๆ ก่อนอื่นหาทางกลับบ้านให้เจอก่อนดีกว่าไหมคะ ถ้าวันนี้ดาวไม่มางานนี้ คงไม่รู้ตัวว่า คุณสามี ก็มาด้วย ว้า...แย่จัง ดาวหมดสนุกกันพอดี”
หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อย ทำหน้าทำตาราวกับว่าเรื่องที่คงไม่ได้ทำนั้น มันน่าเสียดายเสียเต็มประดา
“อย่ายั่วโมโหฉันให้มากนัก เธอก็รู้ดีว่าฉัน ไม่เหมือนใคร” ใบหน้าเขากลับมาเรียบเฉย แต่นัยน์ตาสะท้อนประกายวับวาว ดุจประกายไฟจากพระเพลิงกองใหญ่กำลังเผาไหม้ในหน่วยตาคู่นั้น
“บังเอิญว่านอกจากคุณ ดาวก็ไม่เคยมีใคร จึงไม่รู้จะเทียบความเหมือนหรือแตกต่างกับใครดี เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณจะมารูปแบบไหน ดาวรับได้ค่ะ คุณสามี” ละอองดาวยิ้มพราวยั่วเย้าสามี
วาโย จตุรศิลป์ กัดกรามดังกรอดๆ เขาไม่นึกเลยว่าภรรยาตีตราที่เขาเหินห่างมานานจะสามารถก่อเพลิงโทสะและราคะในกายให้ลุกโพลงร้อนแรงได้ถึงเพียงนี้ เขาควรจะทำอย่างไรดีล่ะถึงจะสาสมกับวาจาไม่ลดราวาศอกของหล่อน หรือต้องให้โชว์จุมพิตอันดูดดื่มอวดใครต่อใครไหม หล่อนจะได้รู้สำนึก
วินาทีต่อมา ร่างอ้วนล่ำของชายเชื้อสายจีน เดินมาหยุดยืนตรงหน้าดวงดาราที่เจิดจรัสที่สุดในค่ำคืนนี้ บุรุษมากวัยโค้งพองามให้ดวงดาวในชุดสีฟ้าครามพร้อมรอยยิ้ม
“ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงนะครับคุณผู้หญิง ถือว่าเป็นการ ทำทาน แรกในงานคืนนี้ก็แล้วกัน”
ใบหน้าอวบอ้วนมีแววยินดี เมื่อเห็นละอองดาวยกมือปิดปากเพื่อกลั้นกิริยาอาการยามขบขันคำพูดของตน
“โธ่...ฉันไม่ใช่นักเต้นมืออาชีพนะคะ จะได้ทำทานด้วยการเต้นรำคู่กับท่าน” เธอยิ้มน้อยๆ อย่างไว้ตัว คำตอบก็ด้วย ไม่ใช่ตอบรับ หรือปฏิเสธ
“คุณผู้หญิงถ่อมตัวมากไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นคุณนั่งตรงไหนครับ ผมจะได้โทรไปบริจาค สักล้าน สองล้าน” ชายร่างท้วมเอ่ยออกมาราวกับว่าคำว่าล้านสองล้านมีค่าเพียงกระดาษชำระใช้แล้วทิ้ง
“อวดรวย!” สามีแสนดีประชดประชันด้วยประโยคที่ภรรยาเองยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะหลุดออกมาจากปากเขา ดูท่าว่าวาโยที่พัดโชยเบาๆ เริ่มโมโหจวนกลายเป็นพายุลมแรงเสียแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอคงต้องเลิกเล่นเสียทีกระมัง
วาโยเดินไปหากรรมการผู้จัดงานการกุศลในครานี้ เขาคงต้องกลับทั้งที่เพิ่งมาถึงนั่นเพราะภรรยาแสนดี ยั่ว เขาได้ถึงอารมณ์จริงๆ
“ขอโทษด้วยนะคะ ฉันขอตัวไปหาเพื่อนก่อน ขอโทษที่ต้องปฏิเสธน้ำใจของท่าน ขอโทษจริงๆ ค่ะ” เธอเอ่ยขอโทษแล้วเร่งฝีเท้าให้ทันสามี แต่น่าแปลก ปกติเขาจะเดินนำเธอ เดินอยู่ข้างหน้า ไม่มีทางหันมามองเลย แต่วันนี้ วินาทีนี้ เขากลับเดินย้อนกลับมา เพื่อ...
วาโยเดินกลับมาอีกครั้งเพื่อเหนี่ยวร่างน้อยมาไว้ในอ้อมแขน เขาบังคับท้ายทอยหล่อนให้แหงนเงยเพื่อรองรับรสจุมพิตร้อนๆ ท่ามกลางแสงแฟลชกะพริบพราวจากกล้องหลายสิบตัว
ละอองดาวใจเต้นระส่ำ เขาจูบเธอ! จูบต่อหน้านักข่าวและคนที่มาร่วมงานอีกเป็นร้อย ไม่น่าเชื่อ! มือเท้าหล่อนเย็นเฉียบตอนที่เขาถอนถอนริมฝีปากออกไป และครั้งนี้เขาก็ชนะอีกจนได้
“ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมทำกุศลในงานวันนี้ ผมขอให้งานยังดำเนินต่อไปแม้ว่าจะขาดเจ้าภาพเช่นผม อ้อไม่ต้องอิจฉาผมล่ะ ผมบริจาคตั้งสิบล้านทำบุญเพื่อเด็กด้อยโอกาส เลยได้รับจูบจาก ภรรยา ตอบแทน ผมว่ามันคุ้มมากทีเดียว น่าเสียดายที่งานคืนนี้ไม่มีการขายจูบ ไม่งั้นหนุ่มๆ ในงานคงครึกครื้นกว่านี้ เอาล่ะ ผมคงต้องกลับเสียที ขอบคุณทุกท่านมากครับ”
วาโยค้อมศีรษะให้ทุกคน บรรดาเหยี่ยวข่าวต่างกระหน่ำบันทึกภาพของทั้งคู่มือเป็นระวิง กระทั่งทั้งสองเดินออกนอกบริเวณงานไปในที่สุด
คอนโดฯ จตุรศิลป์
วาโยเลี้ยวรถเข้ามาจอดใต้ถุนอาคาร เขาลงจากรถอย่างรีบเร่งเพราะบางสิ่งกำลังดุนดันกางเกงเขาจนแทบแตกปริ
“ถ้าเธอยังเดินช้าเป็นเต่า ฉันจะจับเธอแก้ผ้าแล้ว เอา มันตรงนี้!” เขาชี้นิ้วลงตรงพื้นในลานจอดรถ ยังผลให้คนสวยต้องรีบสาวเท้าก้าวตามไปขึ้นลิฟต์อย่างไว และพอลิฟต์ปิดสนิทลง วาโยก็ทำตามที่เขาคุยโวไว้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำทรวง ไม่แยแสต่อเสียงท้วงติงของเธอแม้แต่น้อย
“คุณโย! ดาวเจ็บ” เธอบอกเขาเพื่อที่เขาจะได้ผ่อนปรนเรี่ยวแรงในการบีบขยำในครานี้ แต่...
“ดี! เธอจะได้จำไว้ว่าร่างกายเธอมันเป็นของฉัน! อย่าเอามันไปให้ผู้ชายหน้าไหนมันมอง เข้าใจไหม!?” เธอพยักหน้า เขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน นัยน์ตาแดงก่ำใบหน้าบูดบึ้งขึงโกรธ เธอไม่ได้เตรียมตัวมาเผชิญหน้ากับพายุหมุนนะ เธอเตรียมการณ์ไว้แค่ลมทะเลพัดแรงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น
ติ๊ง!!!
เมื่อสันญาณจากสวรรค์ดังขึ้นวาโยก็ตวัดแขนช้อนร่างอรชรขึ้นมาอุ้มแล้วเดินตรงสู่ห้องริมสุดซึ่งกินพื้นที่มากกว่าครึ่งของชั้นบนสุด นาทีต่อมาประตูห้องนอนก็ถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยมือหนาและปิดลงอย่างแรงด้วยบาทาของเขาเช่นกัน
ชายหนุ่มวางร่างหล่อนลงในทันทีที่เข้ามาในห้องชุดสุดหรูเป็นที่เรียบร้อย สองร่างโรมรันพันตูไปตั้งแต่ห้องนั่งเล่นจนถึงหน้าห้องนอน ตอนนี้เสื้อสูทเนื้อดีไม่มีความหมาย วาโยดึงมันออกจากร่างกายหล่อน ชุดสีฟ้าครามแสนจะขัดใจก็เช่นกัน มันได้กลายเป็น พรมเช็ดเท้า ในเวลาเพียงเสี้ยววินาที
“อย่า!...”
ละอองดาวรู้ดีว่าห้ามไปก็เท่านั้น เขาไม่มีวันหยุดหรอกหากได้เริ่มลงมือ ริมฝีปากหยักบดเบียดจุมพิตร้อนผ่าวลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เขาไม่ประวิงเวลาด้วยการโลมเล้าเอาใจ พอจับร่างอรชรให้เหลือเพียงกายเปลือยเปล่าได้ก็อุ้มหล่อนตรงรี่ไปที่ เตียง!
เสื้อผ้าอาภรณ์จากร่างหนารวมทั้งชั้นในจ้อยจิ๋วจากร่างบางปลิวว่อนร่วงลงบนพื้น เสียงหอบหายใจดังประสานกันด้วยความต้องการอันแรงกล้าคุกรุ่น
ตัดฉากรักรัก ^,.^
พายุสวาทโหมกระหน่ำสองร่างลูกแล้วลูกเล่าจนกระทั่งรุ่งเช้า วาโยเพิ่งสำเหนียกได้ว่าช่วงเวลาที่เขาไม่กลับบ้านทำให้ร่างกายเขาโหยหาแม่ภรรยาคนนี้จนแทบจะกลืนกินร่างหล่อน แม่โสเภณีที่รักทำสิ่งใดกับกายร่างเขากันนี่!
สามปีมาแล้วที่วาโยและละอองดาวผูกพันกันด้วยกระดาษแผ่นบางที่ชื่อว่า ทะเบียนสมรส มันร้อยรัดเขาและหล่อนเอาไว้จนยากจะทำเป็นลืม แต่ก็นั่นล่ะ เขาชอบทำเป็นลืมอยู่เรื่อย มันช่วยไม่ได้ในเมื่อหัวใจเขาไม่ได้อยู่ที่หล่อน มันอยู่กับสตรีที่งดงามและแสนดียิ่งกว่า แม่โสเภณีคนนี้ หล่อนคนนั้นชื่อ...วีนุตตรา
แสงตะวันตอนบ่ายคล้อยสาดส่องผ่านเข้ามาทางผ้าม่านลายกุหลาบ หญิงสาวพลิกกายช้าๆ เหลียวหานาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง...ไม่มี? เธอลืมไป นี่มันคอนโดฯ ของสามี มิใช่ เรือนไม้หอม ของภรรยา!
“ตื่นแล้วรึ?” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโปรดทอดสายตาออกไปนอกระเบียงห้องนอน ด้านล่างนั้นเป็นทะเลสาบกลางกรุงของโครงการหมู่บ้านจัดสรรที่บังเอิญมาสร้างติดรั้วของคอนโดฯ จตุรศิลป์
“น่าแปลกที่คุณยังอยู่” เธอประชดเล็กน้อย ขนาดวันแรกที่ตกเป็นของเขา เขายังใจดีหลบลี้หนีหน้า กลับมาอีกทีเอาตอนสามเดือนให้หลัง ปล่อยให้เธอต้องรบราฆ่าฟันอยู่กับสาวๆ คู่ขานับสิบนับร้อยของเขาที่มาทวงความรับผิดชอบจากคุณสามี
“อย่ามาประชดในเมื่อฉันกลับมาแล้ว” เขาโต้กลับเสียงเรียบเย็น ไร้วี่แวววาโยผู้ร้อนรุ่มกระหายรักเช่นเมื่อคืนโดยสิ้นเชิง
ร่างอรชรยันกายลุกขึ้นนั่ง เธอก้าวลงจากเตียงในสภาพเปล่าเปลือย ไม่มีเขินอายต่อหางตาของสามีที่ลอบชำเลืองมา ช่วยไม่ได้ เขาอยากทำร้ายเธอด้วยวิธีนี้ เขาก็ต้องโดนเอาคืนด้วยวิธีนี้เช่นเดียวกัน
“จะยั่วฉันหรือไง เธอก็รู้ว่าฉันไม่มีทางมอบมันให้เธอ แม้ว่าเธอจะใช้ร่างกายมาเดิมพัน” เขาเยาะเย้ย นัยน์ตาสีสนิมฉายแววเหยียดหยันอย่างโจ่งแจ้ง มันตรงกันข้ามกับร่างกายที่เริ่มร้อนขึ้นมาทีละนิด เรือนร่างสะโอดสะองโค้งเว้าเปล่าเปลือยทำให้กายเขาสนองตอบต่อสิ่งเร้าที่เห็นได้ด้วยสายตา เขาลุกขึ้นยืนเมื่อการนั่งทำให้กางเกงเขา คับ ขึ้นมาดื้อๆ
“อาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อย วันนี้ต้องขึ้นเราเครื่องไปสิงคโปร์” เขาสั่งสั้นๆ แต่ทำเอาภรรยาถึงบางอ้อ
“นี่ต่างหากเหตุผลจริงๆ ที่คุณกลับมา คุณไม่กลับมาง่ายๆ หรอกจนกว่าจะถึงเวลาต้องใช้งานฉัน!”
ละอองดาวขึ้นเสียง เธอโกรธเขา โกรธมาก! เขาหลอกเธอ หลอกมาตั้งแต่ต้นด้วยการซื้อตัวแม่สาวชาวดอยคนนี้จากซ่องแล้วแต่งงานด้วยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เธอดีใจจนเนื้อเต้น ไม่มีสิ่งใดจะดีใจมากไปกว่ามีผู้ชายแสนดีราวเทพบุตรฉุดเธอขึ้นมาจากปลักโคลนของกามารมณ์ แต่เธอผิดหวังอย่างแรง เมื่อเขาโยนสิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าลงมาให้ เธอตกเป็นของเขาก็จริง ทั้งร่างกายและหัวใจ แต่เขาให้เธอได้เพียงแค่ร่างกาย และทะเบียนสมรส!
สามปีแล้วนะ สามปี! เธออยากรู้จริงๆ เขาจะปล่อยเธอไปเมื่อไหร่กัน
“คุณโย! ถ้าไม่ให้หัวใจกันก็ปล่อยฉันไปเสียเถิด ฉันเหนื่อยแล้วนะกับผู้ชายอย่างคุณ” เธอพูดเท่านั้นแล้วเดินลงส้นเท้าแรงๆ ไปคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วก้าวเข้าห้องน้ำ
วาโยหลับตาพยายามข่มความโกรธ บทจะเอาแต่ใจแม่โสเภณีที่รักหล่อนก็ทำได้ดีจริงๆ
สองทุ่มตรงที่ท่าอากาศยาน...ประเทศสิงคโปร์
วาโยและละอองดาวนั่งเครื่องบินมาลงที่สิงคโปร์ เมืองที่อุดมด้วยความมั่งคั่ง หลังจากลงเครื่องไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทั้งสองก็เข้าพักที่ โรงแรมรอยัล พลาซ่า ออน สก็อตส์ ซึ่งสะดวกสำหรับนักธุรกิจที่มีเวลาจำกัดเช่นเขา ด้วยระยะห่างจากสนามบินเพียงยี่สิบนาทีทำให้เขาเลือกพักที่โรงแรมแห่งนี้ แม้ว่าราคาต่อคืนนั้นจะอยู่ที่เจ็ดพันบาทปลายๆ ทีเดียว
หลังจากพักผ่อนจนหายเหนื่อย ละอองดาวก็ได้รับคำสั่งจากสามีให้เปลี่ยนชุดสำหรับการไปรับประทานอาหารค่ำ เธอปฏิเสธชุดที่เขายื่นให้ ไม่ใช่ว่ามันเซ็กซี่เกินไป แต่เหตุผลที่เขาให้เธอใส่ต่างหากมันทำให้เธอละอายใจ แต่กระนั้น เธอก็ไม่สามารถขัดคำสั่งเขาได้อยู่ดี
“ไหนว่าไม่ชอบให้ใครมองดาว” เธอย้อนเขาติดประชดเล็กน้อย ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้วเธอได้ยินเต็มสองหูว่าเขาไม่ชอบให้ใครมามองร่างกายเธอ แต่สิ่งที่เขากำลังยัดเยียดให้ในขณะนี้มันกลับตรงกันข้าม
“คราวนี้อนุโลม แลกกับเงินของมิสเตอร์คิงส์ เขาจะช่วยฉันได้หากต้องลงทุนอะไรในประเทศนี้ และมันคงจะดี ถ้าเขาเอาแต่มองเธอจนเผลอรับปากเป็นหุ้นส่วนกับฉัน หวังว่าเธอจะเข้าใจ”
“ใช่! ดาวเข้าใจ เข้าใจว่าคุณทำให้ดาวรังเกียจตัวเอง” เธอบอกเขาตามตรง
“คิดมากไปได้ ถือว่าช่วยฉันจะเป็นไร มิสเตอร์คิงส์เขาอายุมากก็จริง แต่ยังไม่สิ้นลายเรื่องอย่างว่า และถ้าวันนี้เขาพอใจเธอ ตอนเธอเลิกกับฉัน ฉันจะช่วยพูดกับเขาเอง เรื่องแบบนี้คนรักสนุกอย่างมิสเตอร์คิงส์เขาไม่ถือหรอก หึๆ”
ละอองดาวจ้องหน้าสามีราวกับจะเฉือนเนื้อเขาออกเป็นชิ้นๆ พูดออกมาได้ว่าจะช่วยหาคนมาเลี้ยงดูเธอตอนเธอเลิกกับเขา คนใจร้าย คุณจะร้ายกับภรรยาคนนี้ไปถึงไหน วาโย!
“ความจริง...เลิกกันวันนี้เลยก็ได้นะ ไหนๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ดาวจะได้ไม่เสียเที่ยว” เธอประชด
“ดาว! อย่ามาประชด ฉันแค่พูดความจริงเท่านั้น” เหมือนน้ำเย็นจัดสาดซัดใส่หน้าภรรยาสาว ละอองดาวฝืนยิ้มเยือกเย็นกลับไปเช่นกัน ก่อนจะเอ่ยว่า
“ดาวก็ไม่ได้ล้อเล่น วันนี้ดาวชักอยากลองเซ็กซ์ของหนุ่มใหญ่ดูบ้าง บอกตามตรงว่าอยู่กับคุณนานๆ มันเบื่อ!” เธอเชิดหน้าท้าทายสามีอย่างไม่เกรงกลัว
วาโยตัวสั่นเทิ้มเมื่อถูกละอองดาวสบประมาท มือแกร่งกำรัดข้อมือน้อยไว้แน่น ขณะที่มืออีกข้างเหนี่ยวรั้งเอาท้ายทอยแม่ภรรยาคนงามมาประกบจูบดูดดื่มอย่างมิอาจห้ามใจ
“อย่าบอกว่าเบื่อฉัน ฉันไม่ชอบ!”
ละอองดาวกายร่างสั่นระริกเพราะถูกจุมพิตร้อนผ่าวเข้าเล่นงาน เธอพยักหน้าให้เขาแทนคำตอบทันทีที่เขาถอนจูบ หากว่ายังดื้อดึงที่จะเป็นผู้ชนะละก็ อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเสื้อผ้าอาภรณ์คงได้หลุดลงไปกองบนพื้นอีกรอบ
Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.พ. 2556, 03:59:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2556, 03:59:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 4305
บทที่ 1 โสเภณีตีตรา 100% ไม่มีฉากรักให้หัวใจวายแน่นอน คอนเฟิร์มค่า ^/\^ >> |