นางบำเรอตีทะเบียน By อัญจรี น้ำจันทร์
คำโปรยหน้า
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ
หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ
ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย
ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน
คำโปรยหลัง
เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก
วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน
ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี
หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา
วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที
โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!
สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก
แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!
เวลาต่อมา
เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม
แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!
ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!
ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^
เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
Tags: ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ธราธร
ตอน: บทที่ 1 โสเภณีตีตรา 100% ไม่มีฉากรักให้หัวใจวายแน่นอน คอนเฟิร์มค่า ^/\^
เมื่อควบคุมความต้องการของตนเองให้เข้าสู่โหมดปกติได้แล้ว วาโยก็รั้ง (ลาก) ร่างของภรรยาตรงดิ่งไปลงลิฟต์เพื่อลงไปยังห้องอาหารชั้นล่าง และทันทีที่ไปถึงละอองดาวก็แลเห็นบุรุษร่างสูงใหญ่ท่าทางภูมิฐานท่านหนึ่งยืนยิ้มรอคอยสามีเธออยู่ที่หน้าห้องวีไอพี เขาอาจเป็นมิสเตอร์คิงส์ ช่างน่าประหลาดใจแท้ที่เขายังไม่แก่ชรามากเท่าที่เธอคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า
“โอ...มิสเตอร์ รบกวนมากไปแล้ว ความจริงไม่ต้องออกมาต้อนรับก็ได้ผมเกรงใจเหลือเกิน” วาโยเอ่ยวาจาลื่นหู มันช่างเป็นธรรมชาติจนน่าหมั่นไส้ในความรู้สึกของละอองดาว
“สวัสดีเช่นกันครับคุณวาโย และก็ไม่ลำบากเลยที่ผมมารอคุณที่หน้าห้อง เพราะมันทำให้ผมได้มองสิ่งสวยงามที่สุดที่เคียงคู่มากับคุณ”
บุรุษร่างสูงยิ้มกริ่มในหน้า วาโยเองก็เช่นกัน เขาคิดไม่ผิดที่พาละอองดาวมาด้วย ท่าทีของตาแก่คิงส์คงจะพอใจภรรยาเขามิใช่น้อย
“นี่ภรรยาผมเองครับ ละอองดาว”
ละอองดาวทำท่าจะยกมือไหว้ แต่มิสเตอร์คิงส์กลับคว้าหมับเอามือขวาเธอไปจุมพิตบนหลังมือเสียดื้อๆ
หญิงสาวหันไปมองสามีเล็กน้อย เห็นเพียงใบหน้าและแววตาเรียบเฉยดั่งที่เคยเป็นมาไม่มีวี่แววหึงหวงให้แลเห็นสักกระผีก ‘หึงหวงฉันบ้างก็ได้นะคุณสามีที่รัก’
“เข้าไปด้านในกันเลยไหมครับ” โจนาธาน คิงส์ หรือมิสเตอร์คิงส์ที่วาโยเรียกขานชักชวนคู่สามีภรรยาเข้าไปในห้องที่ตนได้เปิดไว้เพื่อรับรองทั้งคู่
ละอองดาวพยายามถอนมือน้อยออกจากมือหนาของคู่ค้าคนสำคัญ เขาไม่ได้ชรามากมาย แต่ยังมีความเป็นชายชาตรีอยู่แทบทุกอณูเนื้อ เห็นได้ชัดจากแรงลากจูงที่บังคับให้เธอต้องก้าวตาม
‘วาโย...ใจคอคุณจะให้ผู้ชายคนนี้จับมือเมียคุณไปถึงไหน!?’
“ปล่อยมือฉันได้แล้วค่ะ เอ่อ...พอดีแหวนแต่งงานของฉันมันกำลังจะหลุด” เธอเสแสร้งบอกไปเช่นนั้นเพราะทนไม่ไหว การแตะเนื้อต้องตัวบุรุษที่ไม่ใช่วาโยมันทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างไรก็ไม่รู้
มิสเตอร์คิงส์ผู้มีใบหน้ากรุ้มกริ่มเป็นนิจจำต้องปล่อยมือบางโดยปริยาย เขาพยายามแล้วที่จะไม่รุ่มร่ามกับภรรยาคนงามของคู่ค้าคนสำคัญ ทว่าพอเห็นใบหน้าหวานๆ พร้อมรอยยิ้มอันงดงามของสาวเจ้าเขาก็พ่ายแพ้แก่อารมณ์อ่อนไหวในหัวใจทุกที เกิดมาตั้งสี่สิบสามปียังไม่เคยมีหญิงใดกระตุกหัวใจเมามายเพียงนี้ แม้แต่ภรรยาที่ร้างรากันไปนานแล้วก็ตาม
ทั้งสามนั่งพูดคุยด้วยเรื่องที่ละอองดาวทำได้เพียงเป็นผู้ฟังที่ดี การเจรจาธุรกิจบางครั้งก็น่าเบื่อกว่าที่เธอคิด
“คุณคิดว่าจะทำได้หรือวาโย” หนุ่มใหญ่ผิวขาวเหลือง ใบหน้าและเรือนกายที่ขัดกันบอกให้รู้ว่าเขาเป็นลูกครึ่งอย่างแน่แท้ แต่จะครึ่งอะไรเธอก็สุดจะคาดเดา รูปกรามแข็งแกร่งช่วยให้โครงหน้านี้ชวนมอง จมูกโด่งเป็นสันเชิดขึ้นน้อยๆ ราวเด็กน้อยผู้ดื้อรั้น แล้วนั่นนัยน์ตาสีฟ้าราวกับน้ำทะเลช่างรับกับเรือนผมสีนิลสนิทของเขาได้ดีเหลือเกิน มิหนำซ้ำยังเปล่งประกายระยิบระยับอย่างเจ้าชู้อยู่ทุกวินาที เธอไม่ปฏิเสธเลยว่าดวงตาสีฟ้าครามมันทำให้บุรุษผู้นี้ดูมีเสน่ห์ สรุปแล้วเขาแก่แต่หล่อเหลาอย่างร้ายกาจ
“ผมทำได้แน่ถ้ามิสเตอร์จะช่วยเบิกทาง ที่นี่ถึงประชากรไม่มากมายแต่ทุกสิ่งกำลังเจริญเติบโต ถ้ามีคอนโดฯ ราคากลางๆ ผุดขึ้นกลางเมือง ผมเชื่อว่ามันต้องไปได้สวยและคงทำให้เจ้าของร่ำรวยในไม่ช้า แต่นั้นก็อยู่ที่ว่าเจ้าของที่ดินผืนนั้นจะยอมเป็นหุ้นส่วนกับผมหรือเปล่า” วาโยเลียบเคียงเจ้าของที่ดิน
“น่าแปลกที่คุณไม่บอกตรงๆ ว่าขอซื้อที่ดินผม แต่มาขอให้ผมเป็นหุ้นส่วน ทำไมล่ะ?” หนุ่มใหญ่เอ่ยถามด้วยภาษาไทยแปร่งปร่าไม่ชัดเจน ทว่าคนที่ตอบกลับไม่ใช่วาโย
“เพราะคุณคิงส์ฉลาดเกินกว่าจะขายที่ดินกลางเมืองใหญ่ให้ใครง่ายๆ นะสิคะ เราเห็นว่าที่ดินว่างเปล่าทิ้งไว้เฉยๆ ก็คงไม่มีเม็ดเงินงอกเงย ถ้าทำเป็นคอนโดฯ ที่ว่า ก็น่าจะดีนะคะ ให้มีสระว่ายน้ำด้วยนะ อืม...วิวมันคงสวยมาก ถ้าดาวได้สวมบิกินีว่ายน้ำท่ามกลางแสงจันทร์บนชั้นสูงสุดของคอนโดฯ ของเรา อืม....มันคงจะดีไม่น้อย...จริงไหมคะ”
ละอองดาวเอ่ยด้วยใบหน้าเคลิ้มฝัน หล่อนลูบท้ายทอยเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ และนั่นทำให้บุรุษทั้งสองหันมามองเธอเป็นตาเดียว ด้านโจนาธานนั้นนัยน์ตาที่กรุ้มกริ่มอยู่แต่เดิมฉายชัดถึงความต้องการอันมากล้นในตัวของละอองดาว เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าหล่อนจะเป็นภรรยาของคู่ค้าที่นั่งอยู่เบื้องหน้า
“คุณดาวคิดว่าอย่างนั้นหรือครับ” หนุ่มใหญ่ลองเชิง
“แน่นอนค่ะมิสเตอร์ เวลาที่คุณโยไม่อยู่ดาวจะได้ออกกำลังกายแบบ...ส่วนตัว ซึ่งคุณโยก็ไม่อยู่บ่อยๆ เสียด้วย จริงไหมคะสามี”
ละอองดาวทำตามที่สามีปรารถนา เธอทั้งชม้ายชายตาพร้อมทำนัยน์ตาออดอ้อนให้หนุ่มใหญ่เห็นพ้องต้องกันในสิ่งที่เธอเสนอ มิหนำซ้ำฝ่ามือบางของเธอยังเลื่อนไปลูบหลังมือหนุ่มใหญ่เล่นเบาๆ ราวกับเชิญชวน
“ฮะแอ้ม!...เอ่อ..เรื่องตกลงหรือไม่ตกลงเอาไว้ก่อนดีกว่านะครับ ผมว่าเราเริ่มมื้อค่ำของเราจะดีกว่าไหม ผมหิวแล้วล่ะ” วาโยตัดบทแล้วส่งสัญญาณให้บริกรนำอาหารมาเสิร์ฟ
การรับประทานอาหารมื้อพิเศษเป็นไปด้วยดีเกินคาด วาโยรู้สึกว่ามิสเตอร์คิงส์คู่ค้าจะหลงเสน่ห์ละอองดาวเสียแล้ว
“เชียส...”
ละอองดาวชนแก้วกับคู่ค้าของสามี มื้อค่ำผ่านไปตบท้ายด้วยไวน์รสเลิศและผู้ชายไร้หัวใจสองคน ผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องประกอบทางกายเฉกเช่นเสื้อผ้าและเครื่องประดับ สามีที่รักได้แต่ทำเสียงกระแอมไอเมื่อเธอเข้าใกล้คู่ค้าหนุ่มใหญ่มากเกินจำเป็น แต่ช่วยไม่ได้ในเมื่อเขาทำกับเธอเยี่ยงเกอิชา เธอก็จะเป็นให้ดู!
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
“อืม...ดาวเมาแล้วค่ะ คุณคิงส์ขา...” ละอองดาวส่งยิ้มพราวระยับ นัยน์ตาหล่อนกำลังจะปิดอยู่รอมร่อ
“คุณดาวคออ่อน ดื่มไปไม่เท่าไหร่ก็เมาซะแล้ว”
“ดาวไม่ค่อยได้ดื่มนะครับ คราวนี้เห็นว่าเป็นคุณคิงส์เลยเว้นให้เป็นกรณีพิเศษ”
วาโยเอ่ยเสียงขรึม ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากทำมากที่สุดไม่ใช่เอาสัญญามาให้มิสเตอร์คิงส์เซ็น แต่เป็นการพาภรรยากลับที่พักให้เร็วที่สุด รู้สึกว่าภรรยาตัวดีจะทำเกินหน้าที่เสียแล้ว
‘กลับบ้านเมื่อไหร่ เธอโดนจัดชุดใหญ่แน่ๆ ละอองดาว!’
หนึ่งชั่วโมงให้หลัง ละอองดาวก็ถูกสามีกึ่งลากกึ่งจูงมาถึงห้องพัก หล่อนเมาจนไม่สามารถจัดการกับร่างกายตนเองได้ วาโยจึงต้องถอดเสื้อผ้าของหล่อนออกแล้วนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวจนหล่อนสะอาดเอี่ยมอ่อง
“ฉันไม่เข้าใจเลยละอองดาว ทำไมฉันต้องมาทำอะไรอย่างนี้ด้วย มันไม่ใช่หน้าที่ฉันสักนิด”
สามีหนุ่มพึมพำกับร่างที่หลับสนิทบนเตียงนอน จากที่คิดว่าจะสั่งสอนเจ้าหล่อนให้รู้สำนึกที่ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายได้ดีจนเกินพอใจ เขากลับต้องมาปรนนิบัติหล่อนแทน มันน่าโมโหเสียจริง
ชายหนุ่มถอนหายใจแรงๆ แล้วฉวยผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำ
เขากลับออกมาอีกครั้งเมื่อชำระล้างร่างกายเสร็จสรรพ เบ็ดเสร็จกินเวลาราวยี่สิบนาที เขาควานหาชุดนอนในกระเป๋าเดินทางที่วางอยู่ เพราะแน่ใจว่ายังไม่ได้หยิบมันออกมาแขวนในตู้ แต่ไม่น่าเชื่อ ละอองดาวจัดการกับเสื้อผ้าของเขาเรียบร้อยแล้ว ด้วยการนำมันมาแขวนในตู้อย่างเป็นระเบียบ
ชายหนุ่มคลี่ยิ้มบางๆ ให้กับเสื้อผ้าในตู้ เขาหยิบชุดนอนออกมาหนึ่งชุด สวมมันแล้วเดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง หยิบหวีมาสางผมเล็กน้อยบีบครีมบำรุงผิวของแม่ภรรยาลงฝ่ามือแล้วลูบบนใบหน้าสากสองสามที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
“เอา...โลชันทาตัวมาทาหน้า! เดี๋ยวสิวขึ้นนะคุณโย!”
คนที่เมาหลับเมื่อไม่กี่นาทีที่แล้วลุกขึ้นมานั่งตวาดเขาด้วยเสียงอันดัง หล่อนคงไม่รู้กระมังว่าหลังจากเช็ดตัวเสร็จแล้ว เขาไม่ได้สวมเสื้อผ้าคืนให้ ตอนนี้ร่างขาวนวลท่อนบนเปล่าเปลือยจึงประจักษ์แก่สายตา มันช่างงดงามราวรูปปั้นเทพีในนิทานปรัมปราของกรีกโบราณ ดวงตาที่ปรือบางๆ ทอดมองมาอย่างออดอ้อนโดยไม่รู้ตัว จมูกโด่งรั้นช่างรับกับใบหน้าของหล่อนเหลือเกิน แล้วริมฝีปากก็อีก แม้จะถูกเจ้าตัวขบเม้มจนซีดจาง แต่ก็ไม่อาจปิดบังความน่าลองลิ้มชิมรสหวานของมันออกไปได้ เรือนผมสีน้ำตาลทองยุ่งเหยิงเล็กน้อยยาวระทรวงอวบ น่าขัดใจนักที่มันปิดส่วนปลายถัน ของอกอิ่มพอดิบพอดี
วาโยกระแอมไอเล็กน้อยเมื่อใจกลางร่างอันอ่อนไหวถูกปลุกให้ลุกฮือด้วยเรือนร่างของเทพีจนร้อนรุ่มทุกสัดส่วนสรรพางค์ เขาเคลื่อนกายสูงใหญ่เข้ามาหาเทพีที่ได้ชื่อว่าภรรยาทันที
“คุณ...โย...อย่ารังแกดาว ดาวเมานะ” เธอค้านเสียงเครือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่สามีไม่หยุดฟังด้วยซ้ำ
วาโยกดร่างภรรยาลงไปบนเตียงอีกครั้งก่อนจะดึงรั้งชุดนอนที่เพิ่งสวมออกไปจากร่างของตนเองแล้วเคลื่อนกายลงทาบทับบนเรือนร่างอรชร เขาเริ่มด้วยการสำรวจผิวกายหล่อนด้วยปลายจมูก สูดดมปัดผ่านไปทั่วซอกคอ เนินอก และเนินหน้าท้องเพื่อสูดดมเอาความหอมของสาบสาวมาปลุกเร้ากำหนัดในกายให้ตื่นเพริศ
ละอองดาวรู้สึกราวกับว่ากำลังเดินเล่นในสวนอีเดนต้องห้าม อยากลองรสรักที่เขากำลังจะปรนเปรอ อยากแทะเล็มลูบไล้เรือนกายอันหนั่นแน่นที่หอมกรุ่นและคงหวานราวผลแอปเปิล จริงๆ แล้ว เธออยากวอนขอว่าต้องการสิ่งที่เขากำลังจะมอบให้ แต่ปากยังไม่กล้าเอ่ยเท่านั้นเอง
ริมฝีปากหยักร้อนผ่าวไต่ขึ้นจากนวลหน้าท้องบนกายสาวมาหยุดนิ่งพิงพักบนริมฝีปากกระจับนุ่มอวบตึง วาโยขบเม้มดึงทึ้งริมฝีปากล่างของละอองดาวอย่างเอร็ดอร่อย รสชาติของไวน์รสเยี่ยมยังติดจางๆ ทั่วปลายและโคนลิ้น มันชวนให้การจุมพิตครั้งนี้หวามหวานซาบซ่านเหลือเกิน
“อือ...คุณโย...ขา...ดาว หายใจไม่...ออก แฮ่กๆ”
ละอองดาวหายใจหอบแรง เมื่อสามีปลดปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระ
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะฆ่าเธอให้ตายด้วยซ้ำ ลงโทษที่เธอชม้ายชายตากับคู่ค้าของฉัน!”
สามีหนุ่มตะคอกเบาๆ แต่หนักแน่น แน่นจนภรรยาผวาเฮือกเพราะสามีสอดประสานกายแกร่งเข้ามารวมกันในทันที
“เจ็บ! ปล่อย! ปล่อยนะคนบ้า!” ละอองดาวเริ่มสร่างเมาเพราะความเจ็บแปลบจากแรงกระทำของสามีกำลังบีบบี้กายร่างเธออย่างหนักหน่วง
“ดี! เธอจะได้รู้ไง ว่าอย่าทำอะไรที่มันเกินหน้าที่ อย่าไปทอดสะพานให้ใครๆ ทั้งๆ ที่สามีนั่งหัวโด่อยู่ตรงนั้นด้วย”
วาโยเอ่ยจบก็โถมกายเข้าหาร่างหล่อนแรงๆ ถี่ๆ จนละอองดาวอดไม่ไหวร้องไห้ออกมาในที่สุด แต่มีหรือที่วาโยระลอกนี้จะหยุดการกระทำ ความโมโหที่สมองค้านว่ามิใช่เพราะหึงหวงกำลังเล่นงานหัวใจเขาอย่างหนักหน่วง มันเกิดขึ้นพร้อมๆ เสียงกรีดร้องของละอองดาวที่ดังระงมทั่วห้องกว้างราวกับว่ากายเนื้อเจ้าหล่อนถูกดึงทึ้งให้แยกจากกัน
เกือบสองชั่วโมงที่เพลิงโทสะบวกกับเพลิงราคะ แผดเผาสองร่างอยู่เช่นนั้น และเมื่อแรงกระแทกครั้งสุดท้ายสิ้นสุดลง สติอันพร่าเลือนของละอองดาวก็สิ้นสุดลงไปด้วย หล่อนนอนนิ่งไม่ไหวติง ขณะที่วาโยเหยียดหยันใส่ร่างด่างพร้อยด้วยรอยจูบเล็กน้อย แล้วเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยความสุขสมและสะใจ
Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ก.พ. 2556, 04:02:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ก.พ. 2556, 04:02:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 5494
<< บทที่ 1 โสเภณีตีตรา 50% ไม่มีฉากรักให้หัวใจวายแน่นอน คอนเฟิร์มค่า ^/\^ | บทที่ 2 เจ้าของสายลม 50% >> |