ต้องมนต์ปรารถนา
เพียง "ชาร์ล" ผู้ปกครองหนุ่มใหญ่ พบ "หนูนิ่ม" เด็กในอุปการะครั้งแรกก็ราวต้องมนต์สะกดให้หลงใหลเธอ จนวาดหวังอยากได้มาเป็น "เมีย" วางแผนสารพัด ให้หญิงสาวพลัดตกหลุมรัก!
Tags: ปรารถนา,ต้องมนต์,ความรัก,โคแก่กินหญ้าอ่อน

ตอน: บทที่ 4 เริ่มหึง

บทที่ 4

ร่างบางหอบเอกสารกองโตเข้ามายังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่ม ทุลักทุเลจนเตชินต้องรีบกุลีกุจอเข้ามาช่วยหอบไปวางไว้บนโต๊ะทำงานเสียเอง
“ขอบคุณนะคะ” วิรงรองยิ้มเหนื่อย
“คราวหน้าไม่ต้องหอบเยอะสิครับ คุณนิ่มตัวเล็กนิดเดียวเองจะยกไหวได้ยังไง” เขาเตือน
“ฉันทะนงตัวเองไปนิดหนึ่งค่ะ คิดว่าจะไหว”
“อย่าคิดแบบนั้นสิครับ”
“เผอิญเป็นเอกสารเซ็นด่วนด้วยน่ะค่ะ เลยรีบเอามาให้”
“งั้นเชิญนั่งก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเซ็นให้เดี๋ยวนี้เลย” ชายหนุ่มผายมือเชิญก่อนจะย้ายตัวเองกลับไปนั่งที่เก้าอี้ทำงานดังเดิม
มือหนาหยิบแฟ้มเสนอเซ็นมาวางตรงหน้า อ่านรายละเอียดอย่างรวดเร็ว แล้วตวัดปลายปากกาไม่ถึงครึ่งวินาที แฟ้มต่อไปถูกนำมาวางอีก จวบจนเซ็นเอกสารในแฟ้มสุดท้ายเสร็จ ชายหนุ่มจึงเงยหน้าขึ้นมามองเลขานุการนิ่ง จนคนถูกจับจ้องถึงกับทำหน้าตาไม่ถูก ยิ้มแหยๆ แล้วจะเอื้อมหยิบแฟ้ม แต่ถูกมือหนายกขึ้นห้ามเสียก่อน
“มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณนิ่มสักหน่อย แต่คุณนิ่มไม่ต้องตอบก็ได้นะครับเพราะอาจเป็นเรื่องส่วนตัว” เตชินเอ่ยบอกอย่างลำบากใจ อันที่จริงเขาอยากรู้มานานแล้ว แต่ไม่กล้าถามเสียที วันนี้เห็นหน้าสาวน้อยแล้วก็ยิ่งตอกย้ำความรู้สึกในใจว่าชอบเธอ หากไม่รู้แน่เกี่ยวกับสิ่งที่คลางแคลงใจ คงจะทรมานจนนอนไม่หลับ
“ค่ะ” วิรงรองตอบรับไม่เต็มเสียงนัก
“ผู้ชายคนนั้นที่บอกว่าเป็นผู้ปกครองของคุณ เขา...เป็นอะไรกับคุณหรือ” เตชินตัดสินใจถามตรงๆ โดยไม่อ้อมค้อม หัวใจดวงโตร้อนรุ่มราวมีเหล็กร้อนนาบระหว่างรอคำตอบจากสาวตรงหน้า
“คุณชาร์ลน่ะหรือคะ ท่านเป็นผู้ปกครองของฉันจริงๆ ค่ะ”
“หมายถึงพี่ชายอะไรทำนองนี้หรือเปล่าครับ” ถามไปแล้วก็รู้สึกโกรธตัวเองที่ทำตัวไม่มีมารยาท ถามเรื่องส่วนตัวของเธอเช่นนี้
“เปล่าค่ะ คือ...ฉันเป็นเด็กกำพร้าค่ะ คุณชาร์ลอุปการะนิ่มมาตั้งแต่เล็กๆ” วิรงรองตอบตามความจริง เธอไม่เคยรู้สึกอายที่ไม่มีพ่อแม่ กลับภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่ได้บอกให้คนอื่นได้รู้ว่าคุณชาร์ลเป็นคนใจดีแค่ไหน
“อย่างนั้นหรอกหรือ” เตชินค่อยเบาใจ ตอนนี้ก็ได้แต่หวังว่าสมภารคงไม่กินไก่วัด
“ใช่ค่ะ”
“เอ่อ...คือที่ผมถามเพราะแปลกใจน่ะครับ อายุอานามของคุณชาร์ลน่าจะเพิ่งสามสิบต้นๆ พอบอกว่าเป็นผู้ปกครอง จะว่าเป็นพี่ชายก็คงไม่ใช่”
“ไม่แปลกหรอกค่ะ ตอนฉันเจอคุณชาร์ลครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกัน นึกว่าคุณชาร์ลจะอายุสักห้าสิบ” ว่าจบ หญิงสาวก็หัวเราะคิก
“นั่นสิครับ” เตชินถือโอกาสเออออ
“เดี๋ยวฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“ครับ” ชายหนุ่มรับคำ มองตามร่างบางไปอย่างมีความหวัง

เสียงเคาะประตูดังขึ้น มือบางที่กำลังม้วนผมลอนเคลียไหล่เล่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเกลียวสวยหยุดชะงัก เสียงหวานใสเอ่ยอนุญาตทันทีตามความเคยชิน
“เข้ามาเถอะค่ะ”
ร่างบางลุกจากโต๊ะเครื่องแป้งมาทรุดกายกับเตียงนอนพร้อมกับร่างท้วม สีหน้าของป้าบุญตาที่แปลกไปทำให้หญิงสาวขมวดคิ้ว
“ป้าบุญตามองหนูนิ่มแปลกๆ นะคะ” วิรงรองเอ่ยถามเมื่อจับสังเกตได้ว่าไม่เพียงสีหน้าเท่านั้น แต่แววตาด้วยที่มองเธอคล้ายห่วงใยมากกว่าปกติ
“หนูนิ่มไม่ได้ล็อคประตูห้องหรอกหรือคะ”
“หนูนิ่มก็ไม่เคยล็อคนี่คะ”
บุญตาถอนหายใจยาว เอื้อมมือลูบศีรษะทุยเบาๆ
“ก็เมื่อก่อนมีแค่ป้ากับหนูนิ่ม ส่วนตามีก็อยู่เรือนเล็ก แต่ตอนนี้...คุณใหญ่อยู่ด้วย หนูนิ่มเป็นผู้หญิงก็น่าจะล็อคประตูห้องเสียหน่อยนะคะ”
“ป้าบุญตา!” หญิงสาวร้อง เบิกตาโต ใบหน้านวลใสร้อนวูบวาบเมื่อคิดจินตนาการไปไกลสุดกู่ จนเมื่อสลัดความคิดนั้นออกไปได้ สาวน้อยจึงส่ายหน้าเร็วๆ พลางแอบต่อว่าป้าบุญตาในใจว่าคิดอะไรไม่รู้ อย่างคุณชาร์ลน่ะหรือจะทำอะไรแบบนั้น
“ป้าไม่ได้หมายความอย่างที่หนูนิ่มคิดนะคะ แต่เราเป็นผู้หญิง มีผู้ชายเข้ามาอยู่ในบ้านก็ควรจะระวังตัว ป้าไม่ได้หมายถึงคุณใหญ่คนเดียว แต่ถ้าบังเอิญต้องไปอยู่ที่อื่น หนูนิ่มจะได้ระวังตัวเป็นน่ะค่ะ” บุญตาสาธยายยาวยืดเพื่อหว่านล้อมให้สาวน้อยเชื่อ
“อ้อ...ถ้าอย่างนั้นหนูนิ่มต้องขอบคุณป้าบุญตามากนะคะที่เตือน แหม...ตอนแรกหนูนิ่มตกใจหมดเลย”
“คราวหน้าอย่าลืมนะคะ” บุญตาย้ำอีกครั้ง...นัยน์ตาปิดซ่อนความจริงไว้ นางคิดอย่างที่สาวน้อยคิดนั่นแหละ แม้คุณใหญ่จะใจดีมีเมตตาและยังไม่มีพันธะกับใครจริงจัง แต่เรื่องผู้หญิงก็เบาเสียที่ไหน วิรงรองสวยหยาดเยิ้มเหลือเกิน ผู้ชายคนไหนเห็นก็หลงรักทั้งนั้น คุณใหญ่เองก็เถอะ เห็นนิ่งๆ แบบนั้น คงเผลอใจบ้าง หากคิดว่าหญิงสาวเป็นสมบัติของเขาแล้วจะผูกมัดไว้เป็นของตัวคงน่าเศร้าใจ นางเองก็คงทำอะไรไม่ได้ ที่พอจะทำก็เพียงเตือนให้วิรงรองระวังตัวทางอ้อม แต่มิรู้ว่าสาวหัวอ่อนจะมีเซ็นส์บ้างหรือไม่
“ค่ะ” สาวน้อยรับคำเสียงหนักแน่น ก่อนจะเอ่ยถามต่อ “แล้วนี่ป้าบุญตามาหาหนูนิ่ม มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ”
“คุณใหญ่เรียกหนูนิ่มไปพบนะค่ะ”
“ตอนนี้น่ะหรือคะ” วิรงรองถามกลับพลางเหลือบตาไปมองนาฬิกา จะสามทุ่มแล้ว เขาเรียกเธอทำไมกันนะ
“ใช่ค่ะ เห็นว่าจะถามเรื่องงาน เธอรออยู่ที่ห้องทำงานน่ะค่ะ” บุญตาบอกไปก็ไม่ค่อยสบายใจเท่าที่ควร ไม่รู้ว่า ชาร์ลเรียกสาวน้อยไปทำไมตอนดึกๆ แบบนี้ ได้แต่หวังว่าชาร์ลจะไม่คิดอะไรแบบที่นางกังวลใจ
“เหรอคะ”
“ตอนนี้เลยนะคะ คุณใหญ่รออยู่ค่ะ” บุญตาบอกก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป ทิ้งให้หญิงสาวพะว้าพะวงกับชุดที่เหมาะสมแก่การไปพบผู้ใหญ่
ท้ายที่สุด วิรงรองจึงตัดสินใจเปลี่ยนจากชุดนอนสีชมพูหวานเป็นชุดลำลองเรียบร้อยแทน ร่างบางก้าวมาหยุดยืนที่หน้าห้องทำงานแล้วเคาะประตูเบาๆ สามครั้ง เสียงอนุญาตดังตามมาแทบจะทันที ฟ้องชัดว่าชาร์ลรอเธออยู่
ร่างบางก้าวเข้าไปยืนตรงหน้า มือหนาที่ผายเชิญช้าๆ ทำให้หญิงสาวกล้าทรุดกายลงนั่ง เผยยิ้มบางๆ ส่งให้เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าหน้านิ่งเหลือเกิน
“ทำไมถึงมาช้า”
น้ำเสียงไม่ได้ฟังดูดุอย่างที่ควรจะเป็น แต่กลับแฝงความเว้าวอน รอคอยอย่างน่าประหลาด หากเธอคงคิดมากไป ที่ชาร์ลรอเธอเพราะเมื่อเขาคุยธุระเสร็จจะได้รีบทำงานต่ออย่างไรเล่า
“เอ่อ...หนูนิ่มแต่งตัวอยู่ค่ะ”
ทันทีที่พูดจบ ดวงตาคมกริบก็กวาดตามองสำรวจร่างบาง พยักหน้าช้าๆ ก่อนว่าเสียงขรึม
“ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรนักหรอกนะ”
“ค่ะ” วิรงรองพยักหน้ารับช้าๆ
“ทำงานเป็นยังไงบ้าง”
“ก็สนุกดีค่ะ หนูนิ่มชอบทำงานด้านนี้”
“แล้วถ้าวันหนึ่งฉันดึงเธอมาทำงานด้วย เธอจะว่ายังไง”
“เอ่อ...” วิรงรองอึ้งไปพักหนึ่งก่อนจะตอบ “หนูนิ่มจะทำตามความต้องการของคุณชาร์ลค่ะ” เธอจะปฏิเสธความต้องการของผู้มีพระคุณได้อย่างไร ทุกวันนี้วิรงรองคิดอยู่เสมอว่าชาร์ลเป็นเจ้าของชีวิต
“ไม่ใช่อย่างนั้นสิ เธอตัดสินใจตามความสมัครใจ ไม่ใช่เพราะเป็นความต้องการของฉัน ฉันไม่ชอบฝืนใจใครหรอกนะ”
“หนูนิ่มจะมาทำงานกับคุณชาร์ลค่ะ” หญิงสาวยังยืนยันเสียงหนักแน่น
“เพราะอะไร” เขาแสร้งถาม ทั้งๆ ที่พอรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“หนูนิ่มอยากตอบแทนพระคุณคุณชาร์ลค่ะ ถ้าสามารถทำได้เมื่อไร หนูนิ่มจะรีบทำทันที”
“ขอบใจ” เขาเอ่ยอย่างพึงพอใจ ก่อนว่าต่อ “ฉันดีใจนะที่เธอเป็นเด็กดี และดีใจที่อุปการะคนไม่ผิด เธอเติบโตมาอย่างคุณภาพจริงๆ”
วิรงรองยิ้มบางๆ หัวใจพองโตคับอกที่ได้รับคำชมจากเขา
“เป็นเพราะคุณชาร์ล ถ้าไม่มีคุณชาร์ลก็คงไม่มีหนูนิ่มในวันนี้”
“เอาเถอะๆ เธอยกย่องฉันเกินไปแล้ว”
“ก็เพราะคุณชาร์ลจริงๆ นี่นา”
“พอๆ ที่ฉันเรียกเธอมาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ก็ไม่ใช่อะไร กลัวว่าหากปล่อยให้ถึงพรุ่งนี้จะลืม แถมเธอยังต้องไปทำงานกว่าจะกลับมาเจอกันก็ลืมพอดี”
วิรงรองฟังเขาแล้วก็หัวเราะเบาๆ คุณชาร์ลพูดยังกับตัวเองแก่แล้วอย่างนั้นแหละ
“คุณชาร์ลมีอะไรหรือเปล่าคะ”
“อย่างที่เปรยไว้ว่าบางทีฉันอาจจะพาเธอมาทำงานเสียด้วยกัน ซึ่งอาจต้องไปอยู่ที่ฝรั่งเศส” ยังไม่ทันพูดจบ หญิงสาวก็อุทานเสียงดังขัดจังหวะเสียก่อน
“ฝรั่งเศส!” ดวงตากลมโตเปล่งประกายวาววับ ริมฝีปากบางสวยคลี่ยิ้มน้อยๆ ก่อนเจ้าตัวจะบอกความนัยอย่างไม่มีปิดบัง “หนูนิ่มอยากไปฝรั่งเศสมานานแล้วค่ะ อยากไปชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์”
“Musée du Louvre?” (พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์)
“ใช่ค่ะ”
“ไว้ฉันจะพาเธอไปเอง” ชายหนุ่มบอกอย่างใจดี
“ขอบคุณนะคะคุณชาร์ล” สาวน้อยรีบพนมมือไหว้เขาเพื่อเป็นการขอบคุณล่วงหน้า ดีอกดีใจราวเด็กน้อยได้ของเล่นที่ถูกใจ
“เธออาจจะแค่อยากไปเที่ยว แต่ถ้าต้องไปอยู่เสียเลย จะอยู่ได้หรือเปล่า”
“หนูนิ่มอยู่ได้ค่ะ” อีกครั้งที่หญิงสาวรีบตอบรับ เธอไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น คิดเพียงแค่อยากตอบแทนพระคุณคุณชาร์ลเท่านั้น
“ดี” เขายิ้มอย่างพอใจ ดวงตาสีเทาที่จับจ้องหญิงสาวแฝงนัยบางอย่าง ลึกล้ำ มีความหมายลึกซึ้ง ทว่าสาวน้อยมองไม่ออก
“คุณชาร์ลจะให้หนูนิ่มทำงานตำแหน่งอะไรหรือคะ” ถึงหญิงสาวจะเต็มใจไปทำงานกับเขา แต่เธอก็อดอยากรู้ไม่ได้ว่างานนั้นคืออะไร และเป็นงานที่ชอบหรือเปล่า
“ยังก่อน ฉันยังไม่ให้เธอมาทำงานตอนนี้หรอก เอาไว้ถึงเวลาแล้วจะบอกเองว่าจะให้ทำตำแหน่งอะไร ตอนนี้บอกได้อย่างเดียวว่างานนั้นต้องใช้ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส”
“เอ่อ...”
“ภาษาอังกฤษคงได้อยู่แล้ว ว่าแต่เธอได้ภาษาฝรั่งเศสบ้างมั้ยวิรงรอง”
หญิงสาวรีบส่ายหน้า เธอพออ่านอีเมล์ภาษาฝรั่งเศสได้ แต่หากให้สนทนานั้นยาก
“หากไปอยู่ฝรั่งเศสต้องได้ภาษาฝรั่งเศสด้วย”
“แล้วคุณชาร์ลมีกำหนดไหมคะว่าจะให้หนูนิ่มไปทำงานที่ฝรั่งเศสเมื่อไร หนูนิ่มจะได้รีบศึกษาภาษาให้คล่องก่อนถึงเวลานั้น”
“ยัง” เขายิ้มอ่อนโยน “แต่ฉันดีใจนะที่เธอมีความพยายามและตั้งใจที่จะไปอยู่ฝรั่งเศสด้วยกัน”
คำพูดกำกวมของชายหนุ่มทำให้ใบหน้านวลร้อน เธอห้ามสมองที่คิดเลยเถิดไปไม่ได้ น่าโมโหตัวเองจริง ชาร์ลแค่หมายความว่าหากไปทำงานด้วยกัน มิใช่ไปอยู่ด้วยกันแบบนั้นเสียหน่อย
“ถ้าอย่างนั้น หนูนิ่มจะรีบหาที่เรียนภาษาฝรั่งเศส แล้วรีบเรียนรู้ให้อ่าน เขียน และสื่อสารได้เร็วที่สุดนะคะ”
“ดี ถ้าได้ที่เรียนแล้วเอามาให้ฉันพิจารณาก่อนนะ จะได้รู้ว่าดีหรือไม่ดี”
“ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้หนูนิ่มจะหาสถาบันสอนมาให้คุณชาร์ลคัดเลือกนะคะ”
เขาพยักหน้ารับ
“ว่าแต่หากลาออก เจ้านายของเธอจะว่าอะไรไหม” น้ำเสียงถามเริ่มจริงจัง ชาร์ลสูดลมหายใจเข้าปอดลึกราวกับตื่นเต้น
“คงจะพยายามยื้อไว้น่ะค่ะ แต่ถ้าหนูนิ่มตัดสินใจแล้ว ใครก็ห้ามไม่ได้หรอกค่ะ” หญิงสาวยืนยันเสียงหนักแน่นเพื่อให้ชาร์ลสบายใจ การไปอยู่ฝรั่งเศสเป็นหนทางที่เธอสามารถแทนคุณได้ หากไม่รีบทำอาจจะไม่มีโอกาสอีกเลย
“เขากับเธอไม่ได้เป็นแฟนกันหรอกหรือ”
สาวน้อยทำสีหน้าตระหนก ดวงตาบ้องแบ๊วเบิกกว้าง ก่อนจะส่ายหน้าเร็วๆ
“เปล่านะคะ หนูนิ่มยังไม่มีแฟนสักหน่อย”
“ฉันแค่สงสัย ขอโทษด้วยที่เข้าใจผิด” ชายหนุ่มเอ่ยบอกเสียงเรียบนิ่ง จับจ้องสาวน้อยอย่างพึงพอใจ บางสิ่งบางอย่างในหัวใจที่เลือนรางค่อยแจ่มชัดขึ้น
ฉันดีใจที่เธอยังไม่มีใคร...วิรงรอง

หญิงสาวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เธอตอบไม่ได้จริงๆ ว่าตื่นเต้นที่จะได้ตอบแทนพระคุณหรือไปอยู่ฝรั่งเศสกับเขากันแน่ ตอนนี้วิรงรองหอบเอกสารจากสถาบันสอนพิเศษหลายที่ เดินตรงไปยังห้องทำงานของชาร์ล
มือบางที่เอื้อมเคาะประตูสั่นน้อยๆ อย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมถึงตื่นเต้นขนาดนี้ นี่เธอกำลังเป็นอะไรไปนะ
“เข้ามาครับ” เสียงอ่อนโยนตอบกลับมา ยิ่งเพิ่มอาการสั่นไหวของหัวใจคนรอ
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกสองสามรอบก่อนจะเปิดประตูเข้าไป เพียงเห็นดวงตาคมกริบที่เหลือบขึ้นมามองก็รีบหันหลังกลับโดยอัตโนมัติ แสร้งปิดประตูอย่างเชื่องช้า หลับตาลงครู่หนึ่งเพื่อทำใจ เวลาที่ผ่านไปทำให้วิรงรองจำต้องก้าวเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตามมือหนาที่ผายเชิญอย่างอ่อนโยน
นี่เธอตื่นเต้นเรื่องอะไรนะ วิรงรองยังคงถามตัวเอง
“ว่าไงครับ” ชายหนุ่มวางมือจากงานแล้วเงยหน้าขึ้นมาจับจ้องหญิงสาวตรงๆ น้ำเสียงอ่อนโยนก็จริง แต่ใบหน้าไม่ปรากฏรอยยิ้มตามสไตล์ของเขา ทำให้สาวน้อยใจฝ่อลงเกือบครึ่ง
“คุณชาร์ลยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ” หญิงสาวเอ่ยถามตามประสาเด็กขี้เกรงใจ
“อืม...” ชายหนุ่มหยุดคิดนิดหนึ่ง เหลือบมองเอกสารในอ้อมแขนของสาวน้อยแล้วจึงตอบ “คุยได้ครับ”
“อ่า...หนูนิ่มเอาเอกสารสถาบันสอนภาษาฝรั่งเศสมาให้คุณชาร์ลเลือกค่ะ”
“ส่งมาสิครับ”
มือหนาเอื้อมมารอรับ ไม่นานเอกสารมากมายก็ถูกส่งมาอยู่ในมือ ชายหนุ่มค่อยๆ เปิดดูทีละหลักสูตรอย่างถ้วนถี่ แม้ว่าวิรงรองจะหามาเสนอมากมายก็ตาม สาวน้อยเฝ้ามองการเลือกสรรตาไม่กะพริบ รู้สึกว่าหัวใจพองโตยามทอดมองดวงตาสีเทาเข้มที่เพ่งดูเอกสารอย่างมุ่งมั่น วิรงรองเห็นถึงความใส่ใจ
ในชีวิตเด็กกำพร้า ไม่เคยมีใครคอยใส่ใจรายละเอียดอะไรมากนัก ที่ผ่านมาก็อยู่แต่โรงเรียนประจำ เข้ามหาวิทยาลัยก็มีเพื่อนสนิทบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับใส่ใจในทุกรายละเอียดชีวิต แม้แต่ป้าบุญตาที่เปรียบเหมือนผู้ปกครองคนเดียวในขณะนั้นก็ยังมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป จนทำให้วิรงรองน้อยใจหลายครั้ง แต่ก็มิอาจบอกความนัยได้ วันนี้ผู้ปกครองตัวจริงของเธอกำลังเลือกสิ่งดีๆ ให้ หญิงสาวจึงปลื้มใจสุดประมาณ
นานพอดูกว่าเอกสารฉบับสุดท้ายจะถูกวางลง คิ้วดกหนาขมวดมุ่น ยุ่งยิ่งกว่าผูกโบว์จนหญิงสาวต้องขมวดคิ้วตามด้วยความไม่เข้าใจ หรือเธอหามามากมายเกินไปจนเลือกไม่ถูก แต่ก็ไม่น่าใช่ ระดับผู้บริหารอย่างเขาน่ะหรือจะตัดสินใจไม่ได้ แล้วหากไม่ใช่เรื่องนี้ จะเป็นเรื่องอะไรกันนะ
“มีเท่านี้หรือ” เขาถามเสียงเรียบ ใบหน้ายุ่งเหยิง
“ค่ะ”
“ตัวหลักสูตรโอเคอยู่สองสามสถาบัน...” เขาเปรย แล้วเว้นช่วงอยู่นานจนวิรงรองเกือบจะเอ่ยปากถามต่อแล้ว แต่น้ำเสียงทุ้มเข้มพูดต่อเสียก่อน “แต่อาจารย์ไม่โอเค”
“เอ่อ...ทำไมหรือคะ อาจารย์ที่หนูนิ่มคัดเลือกมาก็มีทั้งคนไทย ทั้งคนต่างชาตินะคะ แต่ละท่านหนูนิ่มได้สืบประวัติมาทั้งหมดแล้วค่ะ ต่างมีประสบการณ์การสอนภาษาไม่ต่ำกว่าห้าปีเชียวนะคะ” วิรงรองอธิบายละเอียดยิบ หากจะให้หาอาจารย์ใหม่คงไม่โอเคเท่าที่เธอหามาแล้ว เนื่องจากคัดเลือกมาเฉพาะแนวหน้า หัวกะทิล้วนๆ ทั้งนั้น หญิงสาวออกจะงุนงงไม่น้อยที่ชาร์ลบอกว่าอาจารย์ไม่โอเค
“เรียนตัวต่อตัวใช่ไหม” เขาซักต่อ
“ใช่ค่ะ หนูนิ่มว่าจะสามารถเรียนได้ตรงจุดกว่าเรียนเป็นคลาส” เธอให้เหตุผล
“แต่ละหลักสูตรเรียนนานเกินไปนะ” เขาเปรยเบาๆ คล้ายหนักใจ แต่วิรงรองไม่เข้าใจ ในเมื่อชาร์ลบอกเองว่ายังไม่ถึงเวลาไปฝรั่งเศส และแต่ละหลักสูตรก็ไม่ได้นานอะไรขนาดนั้นแค่สามเดือนเอง หญิงสาวยังกลัวด้วยซ้ำว่าจะสั้นไปจนทำให้เรียนแล้วไม่รู้เรื่อง
“ทำไมหรือคะ” ทนความข้องใจไม่ไหว สาวน้อยจึงต้องเอ่ยถาม
“อาจารย์เป็นผู้ชาย!” ชาร์ลเอ่ยเสียงเครียดก่อนจะสบดวงตาบ้องแบ๊วตรงๆ หญิงสาวถึงกับสะดุ้งเมื่อสัมผัสได้ถึงนัยความหมายบางอย่าง ได้แต่ปฏิเสธอยู่ในอกว่า...ไม่จริง
ชาร์ลหวงเธอ!


////////////////////////////////

ฝากกดไลค์แฟนเพจนิดนึง https://www.facebook.com/jarodpairong

ว่าแต่ว่า...
คุณชาร์ลหึงเปิดเผยไปหรือเปล่าคะ อิอิ



จรดปลายรุ้ง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 มี.ค. 2556, 21:54:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 มี.ค. 2556, 21:54:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 11257





<< บทที่ 3 กุหลาบรัก   บทที่ 5 คุณชาร์ลใจดี >>
เจนิส 2 มี.ค. 2556, 08:31:56 น.
เอาล่ะสิ สมภารวางแผนระยะยาวเลยวุ้ย อิอิ ติดตามต่อค่า


จรดปลายรุ้ง 2 มี.ค. 2556, 13:08:49 น.
ตอบนักอ่านจ้า ^^
คุณเคสิยาส์ : เพลงได้ใจส้มมากเลยค่ะ 555+ ส่วนเรื่องเทรนด์พระเอกนี่ท่าทางแนวกินเด็กจะมาแรงจริงๆ

คุณ inin : ขอบคุณมากๆ ค่ะ ลงตอนใหม่แล้ว อย่าลืมติดตามน้า ^^

คุณ เจนิส : ตอบ 2 เม้นเลยนะ สมภารเค้ามีแผนการอันแยบยล หนูนิ่มแสนซื่อจะทันเค้าเมื่อไรน้า


NB 2 มี.ค. 2556, 14:24:50 น.
ชอบคุณชาร์ลค่ะ อิอิ


ลิลลี่ 20 มี.ค. 2556, 18:29:04 น.
5555555 หวงล่ะสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account