สนิมดอกรัก (ตีพิมพ์แล้ว - สนพ.อรุณ)
แพรวเพชร สิริณธรณ์ ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง
เมื่อเผ่าภาคินที่เธอเข้าใจว่าเสียชีวิตไปแล้วเกือบสี่ปี
จู่ๆจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
แถมยังมาในมาดมหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่อ ร่ำรวย
และโหดเหี้ยมเหมือนในนิยายเป๊ะ!
.
.
.
.
“เชิญกรอกข้อมูลส่วนตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะแนะนำรายละเอียดและขอบเขตการให้บริการให้ฟัง อ้อ...ต้องให้ดิฉันแจ้งค่าใช้จ่ายให้ทราบคร่าวๆก่อนไหมคะ เพราะค่าบริการของเราไม่แพงก็จริง แต่สำหรับคนกำลังเก็บเงินแต่งงาน มันก็...เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลย”

“ดูเหมือนว่าเงินจะเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตคุณเสมอเลยนะ คุณแพรวเพชร” เผ่าภาคินหยัน

“พูดอย่างกับว่ามันไม่สำคัญสำหรับคุณงั้นแหละ” หญิงสาวบิดริมฝีปากนิดๆอย่างดูถูก จากนั้นเดินไปยังโต๊ะที่วางชิดผนัง ดึงเอกสารแผ่นหนึ่งจากแท่นใสทรงกระบอกถือมากางตรงหน้าชายหนุ่ม พลางอธิบายด้วยท่าทีเหมือนทองไม่รู้ร้อน ไม่สนใจแม้จะเห็นว่าสายตาที่จ้องเธอแทบจะแผดเผาลุกเป็นไฟ

“นี่ค่ะ อัตราค่าสมัครแรกเข้าสำหรับลงทะเบียนเป็นสมาชิกของคิวปิดฯ ส่วนคอร์สที่คุณจะเข้าใช้บริการแยกคิดเป็นรายครั้ง เรามีรายการให้คุณเลือกเยอะค่ะ ทั้งดำน้ำ วาดรูป อบรมบุคลิกภาพ เที่ยวพิพิธภัณฑ์ ทำบุญไหว้พระ ทำขนม อ้อ...แต่สุดท้ายนี่ฉันไม่แนะนำนะคะ เพราะคุณคงไม่อยากให้ครูคนนั้นรู้ว่ามาสมัครเป็นลูกค้าที่นี่”

“แล้วมีคอร์สสับรางไม่ให้รถไฟชนกันบ้างไหม หรือไม่ก็พวก...วิธีซ่อนชู้ ซ่อนกิ๊กอะไรแบบนี้น่ะ ผมสนใจเป็นพิเศษ และถ้าให้แนะนำ ผมว่าคุณน่ะเหมาะจะเป็นวิทยากรมาก ใช้ประสบการณ์ตรงมาสอนก็ได้ คงมีคนอยากเรียนกันเยอะแยะ”

แพรวเพชรหัวเราะขัน “แปลกนะคะ คุณพูดเองแท้ๆว่าฉันไม่ได้มีเกียรติ มีเสน่ห์ หรือว่ามีค่าพอให้คุณเสียดมเสียดายอะไรแล้ว แต่ไอ้ที่คุณพูดๆมาเนี่ย เหมือนว่า...คุณจะจำเรื่องราวเกี่ยวกับตัวฉันได้แม่นยำจังเลย”

หญิงสาวดักคอและลอยหน้าเอ่ยประโยคต่อไปว่า “เอ...หรือว่าอันที่จริงแล้วคุณไม่ได้คิดอย่างที่พูด แต่กำลังเรียกร้องความสนใจจากฉัน หรือบางทีไอ้ที่บอกว่าจะแต่งงานกับคุณนวลนรีนั่นก็เป็นแค่การโกหก แกล้งทำเป็นโชว์ออฟ เพียงเพราะอยากให้ฉันรู้สึกรู้สาไปด้วยเท่านั้นเอง ประชด...อะไรทำนองนั้นน่ะเหรอคะ”

ปฏิกิริยาที่ไม่ได้คาดไว้ล่วงหน้าทำให้เผ่าภาคินค้นหาคำตอบโต้ไม่พบแม้แต่คำเดียว

แพรวเพชรแต้มยิ้มทำสีหน้าสมเพช จากนั้นก้าวเข้ามาใกล้ เอื้อมมือแตะแก้มอีกฝ่ายแผ่วเบาหยอกเย้า “โถ...น่ารักจริง แต่ขอโทษด้วยที่ต้องทำให้ผิดหวัง ฉันแต่งงานแล้ว และก็ไม่เคยคิดนอกใจสามี เพราะเขาเป็นคนดีมาก ยิ่งเขาดีเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งนึกเสียดายที่เคยไปเกลือกกลั้วกับของสกปรกมาก่อน โชคดีที่เขาไม่ถือสาอดีตของฉัน ไม่เช่นนั้นฉันคงไม่ได้เป็นผู้หญิงโชคดีอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้”

ประโยคสุดท้ายทิ่มแทงหัวใจคนฟังจนแทบทนไม่ไหว และเพียงเสี้ยววินาทีที่เผ่าภาคินปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความควบคุม อุ้งมือแข็งแรงก็ตวัดคว้าต้นแขนหญิงสาวพร้อมทั้งบีบรุนแรง กระแสบางอย่างที่แล่นปราดผ่านปลายนิ้วทำให้ชายหนุ่มเกือบจะปล่อยมือ แต่เขาก็ฝืนกำมือแน่น เค้นเสียงลอดไรฟันเอ่ยคำถัดมา

“ใช่ ฉันมันเลว ชั่ว แต่ก็สมกันดีแล้วไม่ใช่เหรอ ผู้ชายสกปรกกับผู้หญิงที่น่าขยะแขยงน่ะ แพรวเพชรคนอ่อนโยนไร้เดียงสาที่ฉันเคยรู้จัก มาวันนี้กลับกลายเป็นผู้หญิงกร้านโลก หลายใจ น่ารังเกียจไปแล้ว ทุเรศที่สุด”

“ในเมื่อพี่เผ่าคนที่ฉันเคยรู้จักตายไปแล้ว แพรวเพชรคนที่คุณเคยรู้จักก็สมควรจะตายไปได้แล้วเหมือนกัน ถือว่าเราเสมอกันไงคะ” หญิงสาวยิ้มกว้างอย่างสะใจ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เนื้อหาทั้งหมดที่ปรากฎบนหน้าเพจนี้สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พุทธศักราช ๒๕๓๗ ห้ามมิให้ทำการคัดลอก ดัดแปลง หรือแก้ไข บทความเพื่อนำไปใช้ก่อนได้รับการอนุญาต

หากฝ่าฝืน สิริณ จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งจำและปรับ โดยไม่มีการประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น

ผู้ใดชี้เบาะแสการคัดลอก สิริณ มีรางวัลนำจับให้ด้วยนะคะ ^^
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๗

“เจ้านายจะให้พี่ทำอะไรนะคะ” เลขานุการสาวใหญ่ทำหน้างงเมื่อฟังคำสั่งจากเผ่าภาคินจบ

“ผมกำลังทดสอบระบบให้ลูกค้าอยู่ คุณนิดกำลังจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบใหม่ที่ผมเพิ่งค้นพบนะ” ชายหนุ่มหยิบความดีความชอบมาหลอกล่อ

ซึ่งได้ผล เพราะสาวใหญ่ที่ศรัทธาความสามารถของเขาหมดความสงสัยโดยสิ้นเชิง “พี่ต้องทำอะไรบ้างคะ”

“สมมติว่าคุณนิดคือผู้หญิงที่ชื่อศกุนตลา กำลังจะโทร.เข้าไปขอเลื่อนนัดจากสองทุ่มไปเป็นห้าโมงเย็น ถ้าเขาถามรายละเอียดเพื่อยืนยันว่าคุณนิดคือศกุนตลาจริงหรือเปล่า ก็ใช้โพยนี้ตอบคำถามนะ” เขาเลื่อนกระดาษแผ่นหนึ่งที่มีปากกาแถบสีเน้นข้อความบางตอนไว้เด่นชัดไปให้

เผ่าภาคินหยิบโทรศัพท์ประจำโต๊ะมากดปุ่มคำสั่งง่วนเรียกไปยังเลขหมายปลายทางที่ต้องการ แล้วจึงยื่นโทรศัพท์ให้เลขาฯ แม้จะไม่เข้าใจนัก แต่นิดาก็ปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย

หลังนิดาออกจากห้องทำงานไปไม่นาน โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น “คุณจันทโครพคะ ดิฉันโทร.จากบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์ค่ะ ดิฉันจะเรียนให้ทราบว่า คุณศกุนตลาซึ่งเป็นคู่นัดของคุณในวันนี้โทร.เข้ามาขอเลื่อนนัดให้เร็วขึ้นเป็นห้าโมงเย็น ไม่ทราบว่าคุณสะดวกที่จะเลื่อนเวลานัดไหมคะ”

“ตกลงครับ ห้าโมงเย็น แล้ว...สถานที่นัดหมายยังเป็นที่เดิมไหมครับ” เขาแสร้งเติมความกระตือรือร้นลงในน้ำเสียงเล็กน้อย ไม่ให้คนฟังสงสัย

เพียงวางสายเรียบร้อย เผ่าภาคินก็เปิดตารางนัดหมายบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าทันที ไม่ใช่กำหนดการทำงานของบริษัทเขา แต่เป็นตารางนัดของบริษัทผู้ช่วยกามเทพ!

ชายหนุ่มอ่านข้อมูลจากหน้าจอ ซึ่งเขาใช้ความสามารถ ‘เล็กๆน้อยๆ’ ลักลอบเข้าไปในระบบของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ และทำให้รู้เห็นทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ง่ายดายราวกับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบริษัทตัวเอง!

เผ่าภาคินยิ้มพึงใจเมื่อทุกอย่างเป็นไปดังต้องการ สายตามุ่งมั่นเพ่งมองหน้าจอสมใจ รอยยิ้มนั้นเหี้ยมเกรียม ขณะเจ้าตัวรำพึงเสียงเบา “เรากำลังจะได้เจอกันอีกแล้วนะ...แพรวเพชร!”
.
.
.
ภัตตาคารหรูบนดาดฟ้าอาคารชั้นที่ ๖๓ ของโรงแรมกลางกรุงเทพฯค่อนข้างโล่ง ด้วยยังมิใช่เวลาอาหารมื้อเย็น ท้องฟ้าสีครามแต้มเจือด้วยสีส้มจากดวงตะวันยังปริ่มอยู่ตรงริมขอบฟ้า

เผ่าภาคินมองเวลาบนนาฬิกาแล้วหยิบโทรศัพท์กดเรียกไปยังเลขหมายหนึ่งอย่างใจเย็น คอยจนปลายทางรับสาย ทักทายด้วยชื่อบริษัท แล้วจึงปั้นเสียงขรึมกรอกลงไป “ผมคอยมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว ตกลงว่าคู่นัดของผมจะมาหรือเปล่า” คนพูดมั่นใจว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเขาคือใคร เพราะระบบคอลเซนเตอร์สมัยใหม่จะดึงชื่อและรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเขาจากฐานข้อมูลขึ้นมาบนหน้าจอให้ประชาสัมพันธ์ของบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์เห็นได้ทันที

“ขออภัยค่ะ คุณจันทโครพ เดี๋ยวดิฉันจะตรวจสอบให้นะคะ”

เขาฟังเสียงความเงียบอยู่ครู่ใหญ่ จึงได้รับคำขอโทษขอโพยอีกคำรบ “ในตารางนัดหมายมีการแจ้งเปลี่ยนแปลงเวลานัดสองครั้งค่ะ ครั้งแรกโทร.เข้ามาตอนเช้า ขอเลื่อนเวลาจากสองทุ่มเป็นห้าโมงเย็น แล้วเมื่อสักหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมามีการขอเลื่อนเวลานัดกลับไปเป็นเวลาเดิมอีกครั้งค่ะ”

“นี่ผมมาเสียเที่ยวงั้นเหรอ” เขาแสร้งทำเป็นไม่พอใจ “ขอคุยกับใครก็ได้ที่มีอำนาจตัดสินใจหน่อย ผมต้องการร้องเรียน โอนสายให้ผมคุยกับเจ้านายคุณเดี๋ยวนี้” เผ่าภาคินใช้น้ำเสียงดุๆแสดงอำนาจ

“ค่ะๆ รอสักครู่นะคะ” ปลายสายละล่ำละลักรับคำ และชายหนุ่มก็มั่นใจว่าคนที่มารับสายแก้ปัญหานี้ให้เขาจะต้องเป็นแพรวเพชรแน่นอน เพราะเขาตรวจสอบมาแล้วว่าอิงอรุณกำลังวุ่นอยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมกับลูกค้านักแสวงบุญอีกกลุ่มหนึ่งอยู่

“สวัสดีค่ะคุณจันทโครพ” เพียงครู่เดียวเสียงของคนที่เขาอยากได้ยินมาตลอดทั้งสัปดาห์ก็กรอกผ่านสายโทรศัพท์มาอย่างเป็นการเป็นงาน

“คนของคุณนัดให้ผมมานั่งเล่นที่ร้านอาหารโดยไม่ส่งคู่นัดมาให้ ถามจริง! นี่เล่นขายของกันอยู่หรือไง” ประชดไปแล้ว แวบหนึ่งเผ่าภาคินนึกรังเกียจตัวเองนิดๆ ที่จัดฉากทุกอย่างขึ้นมาเองทั้งหมด แล้วยังจะไปโทษอีกฝ่ายหน้าตาเฉย!

“คงมีความเข้าใจผิดเกิดขึ้นในระหว่างการประสานงานน่ะค่ะ ดิฉันต้องขอโทษแทนพนักงานด้วย เดี๋ยวจะตรวจสอบกับทางคุณศกุนตลาให้คุณทันที”

“แล้วระหว่างนี้คุณจะให้ผมนั่งคอยไปเรื่อยๆงั้นเหรอ” เขาย้อนถามด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง

“ปกติเวลาที่มีการนัดหมายผ่านผู้ช่วยกามเทพ จะต้องมีพนักงานของเราไปอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าอยู่แล้ว แต่เพราะนี่มีความคลาดเคลื่อนเรื่องเวลา ทางเราเลยไม่ได้ส่งใครไปรับรองคุณ ต้องขอโทษด้วยนะคะ”

“งั้นให้อิงอรุณมาจัดการเรื่องนัดหมายของผมให้เรียบร้อยสิ” เพียงจบประโยคเขาก็ได้ยินเสียงถอนหายใจดังลอดมาแผ่วๆ เผ่าภาคินนึกภาพออกง่ายดายว่าหญิงสาวกำลังกลอกตาไปมา ขบริมฝีปากระหว่างกำลังใช้ความคิด ก็นั่น...เป็นกิริยาที่เธอทำบ่อยไป!

“อิงกำลังทำกิจกรรมกับลูกค้าที่วัดน่ะค่ะ” เธออึกอักอยู่ชั่วครู่ คล้ายกำลังชั่งใจอย่างหนัก สุดท้ายจึงเอ่ยต่อเสียงอ่อย “เดี๋ยวดิฉันจะไปดูแลจนกว่าคู่นัดคุณจะมาเองค่ะ ถ้าคุณ...เอ้อ...ไม่ว่าอะไร”

“ผมควรจะรู้สึกเป็นเกียรติมากกว่าที่เพื่อนเก่าอุตส่าห์มีน้ำใจกับผมขนาดนี้” เผ่าภาคินทิ้งท้ายด้วยความสมใจ ก่อนจะวางสายพร้อมด้วยรอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้า!
.
.
.
เพียงออกจากลิฟต์ชั้น ๖๓ แพรวเพชรยืนนิ่ง สูดหายใจเข้าลึกๆ เตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับการเผชิญหน้ากับเผ่าภาคิน

การพูดคุยกันตามลำพังครั้งหลังสุดไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเลย ผู้ชายที่เธอเคยรักกลายเป็นคนปากร้าย ช่างกระแนะกระแหนไปได้อย่างเหลือเชื่อ ทุกถ้อยคำที่เขาเลือกใช้ประหัตประหารความรู้สึกเธอ ค่อยๆกรีดรอยแผลลงในใจคนฟังให้เจ็บปวดจนเกินทน

โต๊ะสี่เหลี่ยมบนลานกว้างนอกอาคารถูกคลุมด้วยผ้าสีขาว มีชุดอุปกรณ์รับประทานอาหารจัดเป็นระเบียบเรียงราย เธอไม่ประหลาดใจสักนิดที่เห็นความโหรงเหรงเบื้องหน้า เพราะภัตตาคารแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดัง ได้รับการลงคะแนนจากนิตยสารต่างประเทศในเรื่องความหรูหรา ความสวยงาม และที่สำคัญ...ราคาไม่ธรรมดาเลย

แสงตะวันสุดท้ายลาลับขอบฟ้าไปแล้ว ทุกโต๊ะจึงต้องจุดเทียนไว้ในครอบแก้ววับแวม แสงสลัวกอปรกับไฟที่ตามไว้ใต้แนวกระถางต้นไม้พอทำให้เห็นทางได้ไม่ชัดเจน เป็นข้อดีสำหรับคู่นัดที่ยังไม่สนิทสนมกันมากนัก เพื่อจะได้รู้สึกถึงความลึกลับของกันและกัน และไม่ต้องอึดอัดใจที่จะต้องนั่งมองหน้ากันโจ่งแจ้งด้วย

โชคดีที่ลูกค้าทั้งสองฝ่ายมิได้แจ้งขอความเป็นส่วนตัวสูงสุด การนัดหมายจึงอยู่ในระดับที่สามารถเห็นหน้าค่าตากันได้บ้าง เพราะหากลูกค้าต้องการนัดบอดชนิดสมบูรณ์แบบ เธอจะต้องจองห้องอาหารในภัตตาคารที่มืดเกือบสนิทและเป็นส่วนตัวกว่านี้ ซึ่งในสถานการณ์ที่ต้องมาดูแลอำนวยความสะดวกให้เผ่าภาคินด้วยตัวเอง เธอคงจะอึดอัดยิ่งขึ้น เพราะไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าในความมืดนั้นเผ่าภาคินจะคิดทำอะไรบ้าๆหรือไม่!

“ดิฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ คุณศกุนตลาแจ้งว่าไม่ได้โทร.ขอเลื่อนนัด เธอยืนยันขอมาตามเวลานัดเดิมค่ะ คงเป็นความผิดพลาดในระบบการสื่อสาร ดิฉันจะนำไปแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก” หญิงสาวค้อมศีรษะขณะอธิบาย รอฟังคำกระแนะกระแหนของอีกฝ่ายด้วยใจหดหู่

“เพชร! เรียกตัวเองว่าเพชรเหมือนเดิมไม่ได้หรือ” น้ำเสียงนุ่มๆปะปนด้วยอาการขอร้องนั้นทำให้แพรวเพชรเงยหน้าขึ้นช้าๆ สบตาอีกฝ่ายด้วยความฉงน

“คุณว่าอะไรนะคะ”

“พี่เผ่า...เพชรเคยเรียกพี่แบบนี้”

คนฟังกลืนน้ำลายลงคออย่างไม่เข้าใจ นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าควรตอบเขาอย่างไร ต้องมีอะไรผิดปกติในประสาทการรับฟังของเธอ หรือไม่ก็มีไฟฟ้าลัดวงจรในสมองผู้ชายคนนี้แน่ๆ ผู้ชายที่ดูหมิ่นประณามว่าเธอเป็นฮิสทีเรีย จู่ๆวันนี้กลับทำตัวอ่อนโยนเหมือนเมื่อเกือบสี่ปีก่อนเปี๊ยบ นี่เขาจะมาไม้ไหนกันแน่!

“ระหว่างที่คู่นัดของพี่ยังไม่มา เพชรนั่งเป็นเพื่อนพี่ก่อนได้ไหม”

“เอ้อ...”

“เพชร...ได้โปรด”

หญิงสาวก้าวถอยหลังโดยไม่ตั้งใจ เรียวคิ้วขมวดด้วยความงุนงง คิดอ่านอะไรไม่ออก เธอเหลียวมองรอบกาย คล้ายกำลังมองหาทางออกจากสถานการณ์ที่แปลกประหลาดและคาดไม่ถึงที่สุดอย่างหมดหวัง

ยังไม่ทันได้ตัดสินใจอะไร ข้อมือก็ถูกล็อกไว้ด้วยอุ้งมืออุ่น

“เอ๊ะ! คุณ! ปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้นะ” แพรวเพชรตกใจ พยายามบิดข้อมือจากการเกาะกุมนั้น

“จะนั่งดีๆหรือจะให้พี่บังคับให้นั่ง เลือกเอา” ใช่แค่น้ำเสียงดุดัน แต่ท่าทีที่เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ก้าวเข้าประชิดตัวเธอ ยังแลคุกคามและข่มขวัญอีกด้วย

แพรวเพชรถอยกรูดจนขาชนเก้าอี้ หนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว จู่ๆเผ่าภาคินก็ปล่อยข้อมือเธอเป็นอิสระ ทว่ายังไม่ทันที่หญิงสาวจะหลบไปทางไหน สองมือของเขาก็วางบนบ่า กดให้คนตัวเล็กกว่าจำต้องทรุดลงนั่งอย่างไร้ทางเลือก

“เพชรจะลองลุกหนีดูก็ได้นะ เผื่อว่าคนแถวๆนี้จะได้ดูอะไรสนุกๆ หรือถ้าโชคดีเกิดมีนักข่าวสายสังคมอยู่ด้วย พรุ่งนี้พี่คงจะได้อ่านข่าวประเภท...ไฮโซสาวนัดชู้มาลักลอบพบกันที่โรงแรม สนุกดีเหมือนกันเนอะ”

แพรวเพชรตวัดตามองรอบกายด้วยความหวาดระแวง มองหาว่าคุ้นหน้าใครจากบรรดาแขกกลุ่มอื่นๆของโรงแรมหรือไม่ แม้จะค่อนข้างแน่ใจว่าอีกฝ่ายแค่ขู่เล่นๆ แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยงเป็นจุดสนใจหรือถูกจับตามองโดยไม่จำเป็น หญิงสาวเชิดหน้ายืดหลังตึง มองเมินไปทางอื่นเพื่อประกาศด้วยกิริยาว่าไม่เต็มใจนั่งอยู่ตรงนั้นสักนิด

เสียงหัวเราะหึๆดังอยู่บนศีรษะ และเธอต้องฝืนบังคับตัวเองอย่างหนักมิให้ตวัดตาขึ้นไปมองหรือค้อนใส่จอมเผด็จการสักขวับ แพรวเพชรค่อยผ่อนลมหายใจออกได้โดยสะดวก เมื่อเผ่าภาคินถอยห่างจากเก้าอี้ของเธอและเดินอ้อมโต๊ะไปนั่งที่ฝั่งตรงข้าม

“เพชรสบายดีไหม” น้ำเสียงนุ่มนวลนั้นช่างเหมือนกับถ้อยคำอ้อนวอนที่พึมพำเรียกชื่อเธอในอดีตนัก แม้จะรู้ว่าความจริงที่ผุดขึ้นมาในใจจะต้องแลกด้วยความเจ็บปวด แต่หญิงสาวก็จำต้องยอมรับว่า เกือบสี่ปีที่ผ่านมา...ไม่เคยมีวันไหนเลยที่เธอไม่คิดถึงผู้ชายคนนี้!

ความต้องการสองอย่างต่อสู้กันอยู่ในใจแพรวเพชรหนักหน่วง สุดท้ายความปรารถนาเบื้องลึกที่สุดก็สั่งให้เธอตวัดตาขึ้นสบสานกับเขานิ่งๆ ทั้งแปลกใจที่เขาทำราวกับมิเคยโกรธขึ้งกันมาก่อน และยังรู้สึกคล้ายใจจะขาดรอนๆเมื่อได้ยินน้ำเสียงเอื้ออาทรอ่อนหวานนั้นจี้ตรงเข้ามายังจุดเปราะบางในหัวใจ แค่เห็นริมฝีปากบางของผู้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามแย้มออกเล็กน้อย หัวใจแพรวเพชรก็กระตุกวาบ อยากให้สี่ปีที่อยู่ตรงกลางระหว่างคนสองคนเป็นความฝัน

“ก็สบายดีตามอัตภาพค่ะ” เธอยอมให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาดว่ากำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่

“แต่พี่ไม่สบายเลย หลายครั้งที่คิดถึงเพชร อยากรู้ว่าเพชรเป็นยังไง ชีวิตยังเป็นไปด้วยดีหรือเปล่า เพชรมีความสุขดีอยู่ไหม แล้วเขา...ดีกับเพชรมากกว่าพี่หรือเปล่า”

“เขาดีกับฉันมากค่ะ” ปฏิกิริยาการปกป้องตนเองโดยอัตโนมัติทำให้แพรวเพชรเลือกตอบแค่คำถามสุดท้าย

“เสียดายจัง นึกว่าจะได้ยินเพชรบอกว่าเขาไม่ดีกับเพชร พี่จะได้...”

“คุณต้องการอะไรกันแน่คะ” แพรวเพชรตัดบท

“พี่พยายามบอกตัวเองให้เกลียดเพชร ย้ำกับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่...พี่ทำไม่สำเร็จ แล้วพี่ก็จะไม่เสแสร้งแกล้งทำในสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับความรู้สึกตัวเองอีกต่อไปแล้วด้วย”

หญิงสาวส่ายหน้า “ทั้งคุณทั้งฉัน เราต่างก็ตายจากความทรงจำของอีกฝ่ายไปแล้ว จำไม่ได้หรือไงคะ”

“โธ่...เพชร พี่แค่ประชดเพราะความน้อยใจเท่านั้นเอง”

“เหรอคะ ฉันไม่เห็นจำได้เลยว่าคุณประชดเป็นด้วย”

“ดีใจจังที่เพชรจำได้ว่าเมื่อก่อนพี่ไม่เคยประชดใคร” คนพูดยิ้มกว้างขึ้น พลางเอนตัวมาด้านหน้าอีกนิด

แพรวเพชรผงะเล็กน้อย มิได้ตกใจกับระยะห่างระหว่างกันที่ลดน้อยลง แต่เพราะคาดไม่ถึงต่างหากว่าเขาจะแสดงปฏิกิริยา ‘รุก’ โจ่งแจ้งเช่นนี้ มือบอบบางเลื่อนไปจับหูกระเป๋า“ฉันจะกลับแล้ว”

“คู่นัดพี่ยังไม่มาเลย เพชรจะทิ้งพี่ไว้อย่างนี้หรือ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าสีตาอ้อนวอนเช่นนี้ แพรวเพชรเกือบจะเชื่อสนิทใจว่าเขาคือ ‘พี่เผ่า’ คนเดิมของเธอ ถ้าไม่ใช่เพราะ...

“เพชรใจร้ายกว่าที่พี่จำได้นะ” นั่นละ...เขาประชดเธออีกแล้ว!

“ยกเลิกนัดวันนี้ดีไหมคะ แล้วดิฉันจะนัดหมายกับคุณศกุนตลาให้คุณใหม่”

“ไหนๆก็มาแล้ว กินข้าวด้วยกันก่อนไม่ได้หรือ” เขาตอบไปอีกทางตลอดเวลา ทั้งยังผายมือไปบนโต๊ะอาหาร “หรือว่าเพชรรังเกียจพี่”

“คุณเป็นลูกค้า”

“ไม่ใช่! พี่เป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียน แล้วก็เป็นแฟนเก่าของเพชรต่างหาก” คนพูดอ้างสิทธิ์หน้าชื่น

“คุณ!”

“หรือเพชรจะบอกว่าไม่ใช่ ในเมื่อเราเคย ‘รักกัน’ ขนาดนั้น ถ้าไม่เรียกว่าแฟนเก่าแล้วเพชรจะเรียกอะไร” เผ่าภาคินยิ้มกวน ย้ำบางคำในประโยคเสียงเข้ม

แพรวเพชรหลุบตาลงมองมือที่บีบกันแน่นบนตัก ปลายเล็บจิกลงในอุ้งมือรุนแรงเพื่อระบายความอดสู

“ขอบคุณค่ะที่ยังกรุณาให้เกียรติ ไม่ถึงกับประจานออกมาตรงๆว่าฉันมัน ‘ง่าย’ ขนาดไหน”

“เพชร! พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มหน้าตาตื่น น้ำเสียงมีรอยร้อนรน “พี่ไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้เพชรเสียใจนะ พี่แค่...พี่ยอมรับนะว่าโกรธที่เพชรทำเย็นชากับพี่อย่างนี้”

“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ เพราะคุณไม่ได้พูดอะไรผิดนี่คะ มันเป็นความจริงทั้งนั้น” คราวนี้เธอลุกขึ้นยืน “ฉันจะโทร.ยกเลิกนัดกับคุณศกุนตลาให้คุณ แล้วจะให้อิงจัดการนัดหมายให้ใหม่อีกครั้ง ต้องขอประทานโทษด้วยสำหรับความไม่สะดวกในครั้งนี้” เธอก้มศีรษะแล้วหมุนกายเดินไปทางประตูภัตตาคารทันที

เผ่าภาคินไม่หยุดคิดสักวินาทีที่จะเดินแกมวิ่งตามไป แทนที่จะคว้าเนื้อตัวอีกฝ่ายเพื่อรั้งเธอ เขากลับปราดไปยืนตรงหน้าขวางทางหญิงสาวไว้แทน “พี่ไม่ให้ไปจนกว่าเพชรจะยกโทษให้พี่ก่อน พี่เสียใจจริงๆที่พูดแบบนั้น เพชรมีสิทธิ์โกรธ แต่พี่อยากขอร้อง ให้อภัยพี่เถอะนะ เพชรไม่เข้าใจหรอกว่าคนถูกทิ้งมันเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องมีบ้างที่น้อยอกน้อยใจจนขาดสติ”

“ฉันไม่ได้ทิ้งคุณ แต่คุณดีไม่พอสำหรับฉันต่างหาก” แพรวเพชรยืนตัวตรง คอแข็ง เอ่ยเสียงเข้ม

“แล้วสิ่งที่พี่ปากพล่อยพูดในวันนี้ก็ทำให้เพชรยิ่งดีใจใช่ไหม...ที่วันนั้นเพชรไม่ได้เลือกพี่”

“คุณเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ” เพียงประตูลิฟต์เบื้องหลังเขาเปิดออก หญิงสาวก็เบี่ยงตัวเดินผ่านหน้าเขาเข้าลิฟต์ไปทันที

เผ่าภาคินมองตามประตูลิฟต์ที่ปิดลงช้าๆ แล้วรอยยิ้มเยือกเย็นสมใจก็แต้มขึ้นบนใบหน้า เชื่อมั่นว่าสิ่งที่ตั้งใจไว้ต้องอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ขณะที่แพรวเพชรคอยจนประตูปิดลงสนิท แล้วจึงคว้าราวโลหะยึดไว้แน่นมิให้ตนเองซวนเซร่วงลงไปกองกับพื้น ศีรษะเอนพิงผนังกระจกอย่างสิ้นแรง ใบหน้าที่เห็นจากเงาสะท้อนเต็มไปด้วยความสะเทือนใจ

ให้เขาพูดจากระแนะกระแหน ประชดประชันกันเหมือนครั้งนั้นยังดีเสียกว่า อย่างน้อยก็จะได้บอกตัวเองว่าเขาเกลียดเธอ แต่มาทำดีแบบนี้...หัวใจเจ้ากรรมจึงคอยแต่จะโหยหาวันวานที่แสนดี

นี่เธอต้องทำอย่างไรจึงจะเอาชนะใจตัวเองได้ดังที่เคยทำมา

หญิงสาวหายใจเข้าถี่กระชั้น พยายามรวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงให้กลับมารวมกันอย่างยากเย็น ย้ำกับตัวเองซ้ำๆว่า เธอจะไม่ทำให้นราธิปต้องเสียใจเพราะเธอเป็นครั้งที่สองเด็ดขาด!
.
.
.
คฤหาสน์เทียมสุบรรณทั้งหลังเงียบสงัดเมื่อแพรวเพชรจอดรถที่หน้ามุข ไม่มีคนรับใช้กุลีกุจอลงมาช่วยรับกระเป๋า ไม่มีคนขับรถกระหืดกระหอบมารับรถไปเก็บที่โรงจอด มีแต่ความว่างเปล่าที่รอรับเธอกลับบ้าน โคมไฟใหญ่ที่ดับเป็นเครื่องหมายบอกให้รู้ว่านราธิปขึ้นไปพักผ่อนแล้ว เจ้าบ้านฝ่ายหญิงลากเท้าขึ้นบันไดโค้งไปยังชานพักชั้นสอง ผลักประตูเข้าไปห้องนอนของลูกสาวอย่างคนไร้ความรู้สึก

เตียงไม้สำหรับเด็กที่จัดอยู่กลางห้องมีแผงไม้ซี่เล็กติดตั้งโดยรอบเพื่อกันเด็กดิ้นจนตกลงมา ตรงกลางฟูกหนานุ่มบุนวมลายการ์ตูนสีชมพูหวาน กานติมาหลับสนิทดวงตาพริ้มอยู่บนนั้น เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงเบาๆช่วยขับกล่อมให้เด็กหญิงเพลิดเพลินและหลับสบายยิ่งขึ้น

แพรวเพชรลดราวกั้นลงเล็กน้อยเพื่อยื่นหน้าก้มไปจูบหน้าผากนูนเกลี้ยงแผ่วเบาเหมือนเช่นทุกวัน เธอไม่ต้องจัดผ้าห่มหรือดูแลความเรียบร้อยใดๆด้วยซ้ำ เพราะนราธิปจัดการทุกอย่างเรียบร้อยไร้ที่ติเสมอ ยิ่งเขารักเธอเท่าไร ชายหนุ่มก็ยิ่งทุ่มเทความรักให้แก่กานติมามากเป็นเท่าทวีคูณ

หญิงสาวรู้ดี เหตุผลของนราธิปง่ายดายนัก ผู้ชายคนนี้รักเธอ และเมื่อเธอรักใคร เขาก็พร้อมจะรับคนผู้นั้นเข้ามาในหัวใจเช่นกันโดยไร้คำโต้แย้ง

มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่แพรวเพชรรัก แต่นราธิปเกลียดเข้าไส้

คนคนนั้น...เผ่าภาคิน!

เธอเปิดประตูบานที่เชื่อมต่อทะลุไปยังห้องนอนใหญ่ แล้วก็เป็นดังคาด...นราธิปยังไม่นอน เขาเอนพิงสบายๆอ่านหนังสืออยู่ที่โซฟา และเพียงได้ยินเสียงประตูเปิดก็เหลือบตาขึ้นมองทันที รอยยิ้มแต้มบนใบหน้าแทบจะในวินาทีเดียวกับที่เรือนร่างสูงสง่าลุกขึ้นและก้าวยาวๆเข้ามาหาเธอ ริมฝีปากอุ่นประทับลงที่หน้าผากเธอแทนการทักทาย “วันนี้เพชรกลับดึกจัง พี่ยังห่วงอยู่ว่าถ้าสามทุ่มยังไม่ถึงบ้าน คงต้องโทร.หาแล้ว”

“พอดีบริษัทจัดนัดเดตให้ลูกค้า เพชรเลยต้องไปดูแลความเรียบร้อยน่ะค่ะ” แพรวเพชรขยับตัวถอยห่างเล็กน้อย “เพชรยังไม่ได้อาบน้ำเลย เดี๋ยวทำพี่นราสกปรกไปด้วย”

นราธิปหัวเราะเบาๆ เย้าด้วยรอยยิ้ม “สกปรกตรงไหน หอมไปทั้งตัวออกอย่างนี้”

“เดี๋ยวเพชรขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ ถ้าพี่นราง่วงจะเข้านอนก่อนเลยก็ได้” แพรวเพชรเสหลบตาอีกฝ่าย ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะฝืนยิ้ม

ทว่าเพียงหมุนตัวจะแยกไปยังห้องน้ำ ข้อมือบางก็ถูกฉุดไว้เสียก่อน

“เพชร...มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า” เขาถามอย่างอาทร เห็นได้ชัดว่าช่างสังเกตแม้กระทั่งกับปฏิกิริยาเล็กน้อยของเธอ

หลังจากชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ในที่สุดแพรวเพชรจึงตัดสินใจโกหก “ไม่มีอะไรค่ะ แค่เหนื่อยกับงานนิดหน่อยเอง”

“พรุ่งนี้พี่ต้องไปต่อว่ายายอิงหน่อยแล้ว โทษฐานที่ใช้งานหุ้นส่วนหนักเกินไป”

“อย่าว่าอิงเลยค่ะ เขายุ่งเรื่องที่พรุ่งนี้ต้องพาลูกค้าไปทำบุญน่ะ ว่าแต่วันนี้หนูกานโยเยไหมคะ”

“นอกจากงอแงนิดหน่อยที่ไม่ได้กู๊ดไนต์คิสกับแม่แล้ว ก็ไม่มีอะไรจ้ะ”

แพรวเพชรหมุนกายซุกตัวเข้าสู่อ้อมกอดสามี ความเอื้ออาทรที่เขามีให้เสมอมาทำให้หญิงสาวรู้สึกคล้ายตนเองกำลังยืนอยู่ริมหุบผาแห่งความรู้สึกผิดชอบชั่วดี โดยมีสายลมเริงแรงพัดฮือโหมประหนึ่งกำลังเร่งเร้าให้เธอก้าวลงสู่ความเวิ้งว้างเบื้องหน้าอย่างไม่มีทางเลือก

‘พี่เป็นรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียน แล้วก็เป็นแฟนเก่าของเพชรต่างหาก’

น้ำเสียงห้าวมั่นใจคล้ายดังกระซิบอยู่ที่ริมหูครั้งแล้วครั้งเล่า และมันค่อยๆกัดเซาะกำแพงแห่งความเกลียดชังที่เธอก่อขึ้นกีดกั้นตัวเองกับผู้ชายคนนั้นให้โงนเงนกว่าครั้งไหนๆที่เคยเป็น

‘ฉันไม่ได้ทิ้งคุณ แต่คุณดีไม่พอสำหรับฉันต่างหาก’

สมองเธออึงอลด้วยถ้อยคำที่ตอกกลับใส่หน้าอีกฝ่าย ทั้งยังเน้นย้ำให้ตนเองเชื่อมั่นว่าทำถูกต้องแล้ว ทุกการตัดสินใจในวันวานเหมาะสม สมควร และเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

ในเมื่อเผ่าภาคินปฏิเสธที่จะรับผิดชอบลูก ผู้ชายแบบนั้นก็ ‘ดีไม่พอ’ จริงๆ อย่าว่าแต่กับเธอเลย เขาดีไม่พอสำหรับผู้หญิงคนไหนๆบนโลกนี้ทั้งนั้น!

มือบอบบางยึดชายเสื้อนอนนราธิปแน่น หมายจะรั้งไว้เป็นเกราะคุ้มกันหัวใจ แพรวเพชรซบใบหน้ากับไหล่กว้าง พึมพำรวดเร็วก่อนที่ตัวเองจะเปลี่ยนใจ “ถ้าคืนนี้เพชรจะขอมาค้างกับพี่นราที่ห้องนี้ พี่จะว่ายังไงคะ”

มือใหญ่เกลี่ยเส้นผมที่ปรกใบหน้าเธอออกอย่างอ่อนโยน ขณะตอบด้วยน้ำเสียงนุ่มๆเอาอกเอาใจเช่นเคย

“เพชรเหนื่อยและเพลียมากแล้ว ไปอาบน้ำแล้วเข้านอนซะ พรุ่งนี้ตื่นมาก็ลืมให้หมดว่าเมื่อกี้พูดอะไรออกมา”

แพรวเพชรหน้างอ “พี่นราหาว่าเพชรฟุ้งซ่านหรือคะ”

ชายหนุ่มยิ้มอ่อนใจ “เปล่าจ้ะ แต่พี่ไม่อยากให้เพชรทำอะไรที่จะต้องมาเสียใจทีหลังต่างหาก” เขารุนหลังเธอไปทางห้องน้ำ คว้าผ้าขนหนูเนื้อนุ่มที่พับวางไว้บนราวข้างประตูมาส่งให้ ย้ำถ้อยคำสุดท้ายอีกครั้งว่า

“จำไว้ว่าพี่รักเพชร และรักของพี่...มีค่ามากกว่าแค่เรื่องอย่างนั้น!”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 มี.ค. 2556, 23:59:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 มี.ค. 2556, 00:00:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1721





<< ตอนที่ ๖   ตอนที่ ๘ >>
สิริณ 7 มี.ค. 2556, 00:04:21 น.
เฉลยปมแรกมาแล้ว อิอิ
หวังว่าจะทำให้อีกหลายคนเริ่มเดาเรื่องได้ง่ายขึ้นเนอะ
จะบอกว่ามีหลายคนเดาใกล้เคียง มีบางคนเดาถูกแล้วด้วย
มาลุ้นกันต่อค่ะ ว่าใครกันที่เดาถูก

สำหรับผู้ที่คอมเม้นต์
เมื่อหนังสือพิมพ์เสร็จ
สิริณจะเอารายชื่อมาจับสลากแจกหนังสือนะคะ

สำหรับตอนนี้...เช่นเคยค่ะ
ขอแรงกดไล้ค์คนละทีนะคะ
ปกติสิริณโพสต์วันจันทร์ พุธ และศุกร์
ถ้าไล้ค์ถึง 50 เดี๋ยวเอาตอนต่อไปมาลงให้ทันทีเลย อิอิ


Auuuu 7 มี.ค. 2556, 00:15:32 น.
เงื่อนงำน่าจะอยู่ที่คนๆเดียว นราธิป ต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแหงมๆ


goldensun 7 มี.ค. 2556, 00:30:30 น.
ทำไมเพชรว่าเผ่าไม่รับผิดชอบลูก ดูเหมือนเผ่าจะไม่รู้ด้วยซ้ำ


Pampam 7 มี.ค. 2556, 00:41:28 น.
ถ้าเดาว่านราธิปอยู่เบื้องหลังมันจะง่ายไปไหมคะ ตกลงใครสร้างปมไว้แน่


พันธุ์แตงกวา 7 มี.ค. 2556, 02:41:24 น.
อ้าว!(อีกแล้ว) อ่านตอนไหนก็อ้าวตอนนั้น ยังอยู่ที่บางอ้าว ไม่ถึงบางอ้อสักที555


หมูอ้วน 7 มี.ค. 2556, 06:35:07 น.
สงสารพี่นราจังเลยค่ะ อยากให้คู่กะหนูเพชรซะแล้วสิค่ะ


invisible 7 มี.ค. 2556, 07:08:24 น.
ไม่รู้ว่าพี่นราเป็นผู้อยู่เบื้องหลังหรือเปล่าเนี่ย...


Zugart 7 มี.ค. 2556, 09:36:31 น.
พี่นราแปลกๆอ่ะ


supayalak 7 มี.ค. 2556, 11:44:07 น.
อยากให้มีผู้ชายอย่างพี่นราเยอะๆจัง โลกนี้จะได้หมุนต่อไปได้ด้วยรักและหวังดีมากกว่าเรื่องอย่างที่พี่นราว่า จะว่าไปก็เริ่มรักพี่นราขึ้นมาเพ่ิมเรื่อยๆ แล้วหล่ะ


ปอปลาตากลม 7 มี.ค. 2556, 16:46:20 น.
ใครอยู่เบื้องหลังเนี่ย..พี่นราหรือป่าว?


ใบบัวน่ารัก 7 มี.ค. 2556, 18:59:03 น.
ยังอยากได้อยู่หรือ
แย่งกันไปมาไม่สงสาร
บ้างหรือไร


sai 7 มี.ค. 2556, 22:38:59 น.
ลุ้นๆๆๆๆ นราธิปคือผู้อยู้เบื้องหลังหรือ???


lookpud 7 มี.ค. 2556, 23:22:25 น.
ทำไมเป็นแบบนี้ รออ่านตอนต่อไปคะ


nunoi 8 มี.ค. 2556, 09:45:23 น.
อย่าบอกนะ ว่าเพชรกับพี่นรา แยกห้องนอนกันมาตั้งแต่แรกอ่ะ


ทราย 14 มี.ค. 2556, 19:25:33 น.
หรือ นราธิปจะเป็นคนดีจริงๆ โอยย คนอ่านสับสน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account