เพลิงสีมุก
“อุ๊ย เออ” ไม่ใช่สิ่งของหรือบุปผาแต่เป็นเพลิง เทพธากร เจ้าเหนือหัวแห่งเกาะสีมุกที่กำลังมองวิลันดาด้วยสายตาเฉียบคมจนหญิงสาวแทบไม่อยากหายใจอีกต่อไป พลางคิดว่าเขารู้ได้ยังไงว่าหล่อนอยู่ที่นี่และกำลังจะหนี
เพลิงมีเพียงกางเกงขายาวเพียงตัวเดียวและรองเท้าผ้าใบ เพราะเขามักจะออกวิ่งทุกเช้าเพื่อเรียกเหงื่อและความกระปรี่กระเปล่าให้ตัวเองก่อนจะไปทำงาน
“ทำไมไม่ไปต่อล่ะ ไปสิ ฉันให้โอกาสเธออีกครั้ง แต่ถ้าครั้งนี้เธอพลาดก็อย่าหวังว่าจะออกจากเกาะแห่งนี้ไปได้เป็นอันขาด” เพลิงกอดอกมองหญิงสาวด้วยแววตาสมเพช
“คุณขังฉันทำไม ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้คุณ”
“เธอไม่... แต่พี่ชายเธอทำ ไอ้หน้าตัวเมียอย่างพี่ชายเธอ ให้ตายต่อหน้าฉันก็ไม่สะใจเท่าที่เอาน้องของมันมาทรมานเหมือนที่มันทำร้ายน้องของฉันหรอก” เพลิงย่างสามขุมเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“พี่วิสไปทำอะไรน้องของคุณ อ้อ ที่ว่าท้อง แล้วหาว่าพี่ชายฉันเป็นพ่ออย่างนั้นเหรอ ฮึ” วิลันดาพ้นลมออกจากจมูกอย่างดูแคลน
“ใช่ ไอ้วิสมันเลว” กรามหนาบดเข้าหากันแน่น ไหนจะแววตาคมดุ ใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา มันส่งให้เขาดูน่ากลัวไม่น้อยเลย แต่ไม่ใช่วิลันดา หล่อนจะไม่กลัวเขาเป็นอันขาด
“แล้วมาลงที่ฉันทำไม ทำไมไม่ไปคุยกับพี่วิสเอาเอง”
“เธอไปมุดหัวอยู่ไหนล่ะตอนที่ฉันไปหามันที่เชียงใหม่ห๊า มันเอาเงินฉันไปไม่พอ มันยังทำให้ยัยเพลงต้องเสียใจจนต้องหนีออกจากบ้านไป ฉันถามหน่อยเถอะมันสมควรเป็นคนอยู่ไหม” เสียงตะคอกทำให้หญิงสาวต้องขยับถอยหลังไปอีกนิด แม้ว่าปากจะบอกว่าไม่กลัวเขา แต่ใจตอนนี้ยอมรับว่าหวั่นไม่น้อย
“เรื่องของคุณกับพี่วิสไปเคลียร์กันเอาเองฉันไม่เกี่ยว ปล่อยฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะ”
“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าฉันให้โอกาสเธอแค่ครั้งเดียว ถ้าไปไม่รอดก็อย่าหวังจะได้ออกไปอีกเลย ไปสิ!”
วิลันดามองหน้าเหี้ยมเกรียมอย่างชั่งใจ แต่ก็ยันตัวลุกขึ้นด้วยความรวดเร็ว แล้ววิ่งผ่านหน้าของเพลิงย้อนกลับไปทางเก่า ในเมื่อเขาให้โอกาสออกจากเกาะได้แล้ว หล่อนจะไม่ละทิ้งโอกาสอันดีอันนี้ไปแน่

Tags: เพลิงที่กำลังจะเผาหญิงสาวเก่งกล้าอย่าวิลันดาให้หมดไหม้

ตอน: ตอนที่ 4 ไม่รู้จักพอ Part 2 จบตอยค่ะ

“ช่วยผมหน่อยเถอะ”

“เอาวิธีของฉันดีกว่าค่ะ รับรองคุณจะติดใจ” หญิงสาวยิ้มยั่วแล้วใบหน้าสวยก็ก้มต่ำฉกเอาน้องชายของวิสรัชที่กำลังเต้นเดือดอยู่เข้าไปในปาก ชายหนุ่มครางสะท้านอีกรอบ เนื้อตัวสั่นสยิวเสียวซ่าน ซีดปากอย่างถูกใจเมื่อพีรญาขบเม้มส่วยยอดและหยั่งลึกเข้าไปในปากจนน้องชายเขาจมหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่น้องชายเขาก็ใช่ย่อยเสียที่ไหน หญิงใดเห็นก็ต้องตาโตตกตะลึงด้วยกันทั้งนั้น

“อือ ดีมากเลย คุณเยี่ยมจริงๆ” วิสรัชกดศีรษะหญิงสาวแน่น นิ้วยาวสอดเข้าไปยังกลุ่มผมนุ่ม อีกมือเอื้อมไปบีบเคล้นอกอิ่มที่กำลังบดเบียดอยู่กับหน้าขาของเขา

วิสรัชทนต่อไปไม่ไหว เขาไม่ยอมที่จะจนมุมเพราะผู้หญิงช่างยั่วคนนี้แน่ ชายหนุ่มจับร่างขาวพลิกลงใต้ร่างเขาอย่างรวดเร็ว พีรญาหัวเราะร่วนอย่างชอบใจที่หล่อนทำให้เขาทรมานยิ่งกว่าที่เขาทำหล่อนเสียอีกวิสรัชจัดการกับเครื่องป้องกันอย่างที่เคยๆ แล้วก็นำลำกายแข็งแกร่งจดจ่อเข้ากับกลีบกุหลาบแย้มบานสะพลั่ง ภายในรถมีแสงรอดผ่านเพียงนิดแต่ก็ยังทำให้เห็นอะไรๆ ของหญิงสาวได้แจ่มชัด พีรญาครางเสียงหลงเมื่อวิสรัชเอาน้องชายแข็งแกร่งถูกไถไปตามความงามกลีบดอกอย่างเย้ายวนแล้วก็กดแนบลงไปอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยจนหญิงสาวผวาชอบใจแต่ครวญครางเหมือนว่าเจ็บปวด

“อือ โอ๊ย... คุณใจร้อนเหลือเกินนะ แต่ไม่เป็นไร คุณมายังไงฉันก็รับได้หมด ไม่เชื่อลองสิ” หญิงสาวท้าทายเขาเสียงเซ็กซี่ หล่อนไม่รู้หรอกว่ากำลังท้าใครอยู่ คนอย่างวิสรัชนอนกับหญิงมานักต่อนักแล้ว หลากหลายรูปแบบ หลากหลายอารมณ์ มีหรือเขาจะไม่รู้วิธีปราบความเร่าร้อนของหญิงใต้ร่างคนนี้

วิรชัยิ้มมุมปากก่อนจะจับร่างขาวพลิกค่ำแล้วอัดกระแทกสะโพกทันทีจนหล่อนต้องร้อนเพราะท่วงท่ายังไม่พร้อม ชายหนุ่มหัวเราะอย่างชอบใจที่หล่อนเสียทีเขา ชายหนุ่มยังคงกระแทบสะโพกเข้าไปหาเนื้อนุ่มด้วยแรงที่ไม่มียั้ง

“เป็นไง รับได้ไหม” วิสรัชซีดปากด้วยความเสี่ยวสยิวขณะที่ถามออกไป

พีรญาหันมามองหน้าเขาใบหน้าบอกว่าสุขอย่างไม่มีอะไรเทียบ มือเรียวคว้าเบาะแน่นไม่คิดว่าเขาจะร้อนได้ใจหล่อนเหลือเกิน นานแล้วที่ไม่เจอผู้ชายพลังดุช้างสารอย่างเขา ทั้งท่วงท่าที่เร้าใจ ลีลาไม่น้อยหน้าใคร วิสรัชเพิ่มแรงกระแทกจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันชัด รถคันโตโยกไหวไปตามแรงกระแทกจนประตูที่ไม่ได้ปิดสนิทนักเปิดแง้มออกจนกว้างแต่ทั้งสองไม่สนใจเพราะที่บริเวณนั้นไม่ค่อยมีใครเดินผ่านมากนัก

“โอว... อือ ว่าไง คุณรับได้ไหม” วิสรัชถามหญิงสาวพร้อมทั้งดึงแขนหล่อนข้างหนึ่งขึ้นมาโอบต้นคอเขา จนพีรญาต้องเปลี่ยนท่าไปในตัว หญิงสาวเกร็งตัวสั่นสะท้ายด้วยแรงร้อนจากอารมณ์ดิบเถื่อนของเขา

“อือ รับได้ อา อย่างนี้แหละที่ฉันต้องการ” ปากเรียวควานหาริมฝีปากหยักของชายหนุ่มสะเปะสะปะและก็เมามันอยู่กับมันจนกระทั่งวิสรัชเริ่มเปลี่ยนบทรุกเป็นรับบ้างเมื่อพลิกร่างนอนเหยียดให้พีรญาคร่อมทับเรือนร่างเซ็กซี่ลีลาเย้ายวนได้อารมณ์ มือหนาโอบประคองสะโพกมนนำพาให้ขยับเร็วขึ้นพร้อมเสียงครวญครางดังกระเส่าทั้งสองฝ่าย

“ฉันไม่ไหวแล้ว ช่วยเร็วหน่อยสิคะ” สะโพกมนส่ายว่อนด้วยความเสียวกระสั่นสุดกำลัง เสียงพร่าเปล่งออกมาอย่างแหบแห้งอย่างคนเจียนขาดใจ

วิสรัชพลิกร่างขาวลงด้านล่างใส่แรงม้ากระแทกกระทั่งสุดแรงเกิดเพื่อพาสาวสวยไปส่งให้ถึงฝั่งฝัน เขาเองก็เจียนจะระเบิดเต็มที แรงขยับส่งให้รถทั้งคนโยกอย่างรุนแรง เสียงหอบประสานกันราวเสียงสวรรค์ ปลายทางกำลังจะมาถึงสำหรับพีรญา หญิงสาวเกร็งขนลุกซูทั้งตัว เหงื่อเม็ดโตผุดพรายเต็มใบหน้าและไรผม และแล้วสวรรค์ที่หล่อนพยายามไขว่คว้ามันก็มาอยู่ในมือหล่อนเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวทิ้งร่างอ่อนแรง หอบหายใจจนอกกระเพื่อม ใบหน้างามสุขสมหลับตาพริ้มอย่างสุดแสนจะรัญจวนใจ

แต่สำหรับวิสรัชยังไม่จบชายหนุ่มจับร่างขาวอ่อนระโหยพลิกคว่ำอีกครั้ง และพาตัวเองทยอยกระแทกสะโพกใส่จนกระทั่งสายธารหลั่งไหลจนหมดตัว กายหนาสั่นเกร็งกระตุกพร้อมเสียงครางต่ำแล้วก็ทิ้งร่างหนาลงนอนทับร่างขาวหอบระทวยมือเรียวคว้าใบหน้าเขาขึ้นมาจูบดูดดื่มเพื่อให้รางวัลที่ทำให้หล่อนได้สุขสมแบบสุดๆ อย่างที่ไม่ได้เจอมาหลายเดือนแล้ว

“คุณเยี่ยมมากเลยรู้ตัวไหม เราจะเจอกันอีกได้หรือเปล่า”

“แน่นอน คุณก็ถูกใจผมจริงๆ” วิสรัชบีบเคล้นอกนุ่มอย่างมันมือ พีรญาเองก็แอ่นอกอย่างเชิญชวนเต็มที่ ร่างขาวลุกขึ้นมาเกยทับเรือนร่างสูงใหญ่ ถึงแม้ภายในรถจะแคบเพียงไหนแต่มันก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับการมีสัมพันธ์ในครั้งนี้ แล้วหญิงสาวก็ชะงัก

“มองอะไรยะ”

“บัดสีบัดเถลิงสิ้นดี”นักพนันในคราบคุณหญิงไม่กล้ามองเข้าไปในรถตรงๆ ก็ในเมื่อหญิงสาวที่ถามหล่อนออกมานั้นสภาพเปลือยเปล่าไม่ได้รู้สึกอับอายกับเรือนร่างของตัวเองแม้แต่น้อย

“มองไม่ได้ก็อย่างมองสิ ไปสิป้า”

“ฉันก็ไม่อยากอยู่ให้เป็นเสนียดหรอกจ๊ะ ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย มานอนกับผู้ชายในรถก็น่าเกียจพอแล้วนี่ยังจะเปิดประตูรถให้ใครต่อใครเห็นอีก หน้าด้าน”

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับป้า ไปสิมายืนทำบ้าอะไร หรืออยากดูหนังสดฉันแสดงให้ดูอีกรอบเอาไหม แก่คราวนี้คงห่างหายมานานแล้วสิถึงได้จ้องเอาๆ”

“เด็กเมื่อวานซืน ฉันไม่อยากต่อปากกับหญิงไร้ยางอายอย่างเธอหรอก อยากจะทำอะไรยังไงก็เชิญ ฉันไม่อยู่ขัดขวางพวกเธอหรอก”

“มีอะไร”ชายหนุ่มลุกขึ้นมานั่งเมื่อคุณหญิงวัยกลางคนเดินหายไปในมุมมืดแล้ว

“อ้อ ก็ป้าแก่ๆ คนหนึ่งนะคะ ประตูรถมันเปิดป้าแกก็เลยมายืนดู ดีนะคะที่ไม่ช็อกไปเสียก่อน”

“มีคนเห็นเราเหรอ”วิสรัชถามออกไปอย่างตกใจ เขาไม่ได้ตั้งใจให้ใครมาดูหนังสดของเขาเสียหน่อย แต่อารมณ์ตอนนั้นมันคงไปหาที่ไหนไม่ทันแล้วก็เลยปล่อยไป

“แหม ไม่ต้องตกใจหรอกค่ะ คุณจะต่ออีกไหม ฉันพร้อมเต็มที่เสมอนะคะ”พีรญายิ้มมุมปากอย่างยั่วยวนดูไม่เดือนเนื้อร้อนใจ

“ที่อื่นเถอะ ว่าแต่คุณชื่ออะไร”วิสรัชถามออกไปขณะที่ดึงประตูปิดและก็ใส่เสื้อผ้าทันที

“พีชค่ะ พีรญา” หญิงสาวเบียดอกอิ่มตึงกับแผ่นอกแกร่งของวิสรัชจนชายหนุ่มเกิดอาการขนลุกเกรียวมือหนาเลื่อนขึ้นกอบกุมมันบีบเคล้นอีกครั้งด้วยแรงอารมณ์ที่ยังดับไม่หมด แต่เขาต้องการไปต่อที่อื่นมากกว่า วันนี้เขาอารมณ์ดี ได้ทั้งเงินได้ทั้งสาวสวยๆ ถึงไม่สดก็เป็นที่แก้ขัดชั้นเยี่ยม

ก่อนเข้าบ้านเพลิงแวะเข้ามาที่กระท่อมท้ายเกาะเพื่อดูเฉลยสาว เสียงอะไรบางอย่างทำให้เท้าที่กำลังก้าวเดินต่อไปต้องหยุดชะงักลง เพลิงนิ่งฟังด้วยอาการสงบ มือตบลงไปยังปืนที่อยู่ในซองเข็มขัดของเขา เสียงค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆเมื่อเขาเดินเข้าไปใกล้กระท่อมหลังน้อย แสงจากตะเกียงส่องผ่านฝาผนังไม้ออกมา ทำให้เพลิงเดินไปสะดวกมากขึ้น เท้าจรดไปตามพื้นทรายตรงไปยังช่องระบายอากาศระดับอก ชายหนุ่มชะโงกคอเข้าไป พบว่าวิลันดากำลังนั่งชันเข่าหันหลังให้ แต่ในมือถืออะไรบางอย่างเพื่อจัดการกับโซ่เส้นใหญ่ที่ข้อเท้า

ปัง! เสียงทุบฝาผนังทำให้หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวก่อนที่สิ่งของที่อยู่ในมือจะตก วิลันดาหันไปตามเสียง แล้วเมื่อเห็นว่าเป็นใครหล่อนเลยขยับตัวนั่งทับเลื่อยเหล็กอันเล็กที่กำลังใช้จัดการกับโซ่

“คิดจะหนีเหรอ”

“ฉันนั่งอยู่นี่ หนีที่ไหน ไอ้โซ่นี่ก็เหมือนกัน เส้นใหญ่จะตาย”

เพลิงไม่พูดแต่ย่างสามขุมเข้าไปหาวิลันดา หญิงสาวหวั่นกับท่าทางทะมึนทึกของเขาเลยต้องถอยอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้เพลิงเห็นเลื่อยเหล็กเล็กๆ และทันที่หล่อนจะคว้าไว้ได้นั้น เพลิงกลับใช้เท้าที่สวมรองเท้าคู่หนาเหยียบทับไว้ จากแรงของเขาที่ยกขึ้นมาบนแคร่ไม้ทำให้มันเกิดลั่นด้วยน้ำหนักของเขา

“นี่เหรอที่ว่าไม่หนี คิดอะไรตื้นๆ” เพลิงคว้าข้อมือเรียวหมับ ออกแรงบีบจนวิลันดานิ่วหน้า แล้วพยายามสะบัดจนหลุดจากมือเขา

“ใช่ ฉันคิดหนี ในเมื่อไอ้คนในเกาะนี้มันไม่คิดจะช่วยฉัน ฉันก็ต้องหนีด้วยตัวเอง”
“แล้วคิดเหรอว่าจะออกจากเกาะได้”

“มันต้องมีทางสิ เกาะทั้งเกาะ คนเป็นร้อย ให้มันรู้ไปว่าจะไม่มีสักคนที่ทนเห็นฉันถูกกดขี่ข่มเหงได้”

“แล้วเธอจะรู้เอง ว่านี่มันเกาะสีมุก ไม่ใช่ให้ใครทำอะไรได้ตามอำเภอใจ คิดจะมาก็มา เมื่อไม่พอใจก็จะไป แต่ฉันขอบอก ถ้าฉันไม่อนุญาตเธอก็ไม่มีทางออกไปได้เด็ดขาด ไอ้วิสมันส่งเธอมาเป็นของฉัน เธอก็ต้องเป็นสมบัติของฉันต่อไปจนวันตาย” เพลิงยกเท้าลงไปวางดังเดิม วิลันดาเลยคว้าเลื่อยเหล็กไว้ แต่ถูกเพลิงกระชากกลับ เลยทำให้บาดลึกยังฝ่ามือบอบบาง เลือดไหล่หยดลงแคร่ไม้

“สมน้ำหน้า เวรกรรมตามทัน คิดหนีเอง” เพลิงเอาเลื่อยอันนั้นใส่ส่วนปลายไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์เนื้อหนา

“คุณทำฉันเจ็บ”

“แล้วไง ต้องพาไปหาหมอไหม หรือต้องนอนโรงพยาบาลแพงๆ อีแค่แผลนิดเดียวทำสำออย เหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อทั้งพี่ทั้งน้อง ฉันไม่น่ารู้จักเธอสองคนพี่น้องได้เลย เวรแท้ๆ”

“ฉันเองก็ไม่น่ามารู้จักคนประสาทเสียอย่างคุณเหมือนกัน บ้านคุณคงประสาทกันทั้งบ้าน เที่ยวเอาคนโน้นคนนี้กักขังไปทั่ว”

“หยุดนะ หากเธอพูดอะไรถึงที่บ้านฉันอีกอย่าหาว่าไม่เตือน”

“ทำไม พวกคุณวิเศษมาจากไหนถึงแตะต้องไม่ได้ ตัวเป็นทองเหรอ เอ... ท่าจะจริง นางวรรณทองไง” วิลันดาหมายถึงน้องสาวเขา น้องสาวที่เขากล่าวอ้างว่าท้องกับพี่ชายหล่อน หาว่าพี่ชายหล่อนไม่ยอมรับเป็นพ่อเด็ก ผู้หญิงคนนั้นคงมั่วไปทั่ว เลยท้องแล้วพยายามจับพี่ชายหล่อน
เพลิงกัดกรามแน่น มือยกขึ้นหมายตบวิลันดา เขารู้ว่าหล่อนหมายถึงน้องสาวเขา แต่ด้วยความเป็นลูกผู้ชายมันทำให้เขาต้องค้างไว้แค่นั้น เดี๋ยวหล่อนจะหาว่าเขาไม่เป็นสุภาพบุรุษ รังแกผู้หญิง เขาไม่อยากเป็นเหมือนพี่ชายหล่อน ที่ทำอะไรแล้วไม่รับผิดชอบ หาความเป็นลูกผู้ชาย ความเป็นสุภาพบุรุษไม่ได้แม้แต่น้อย

“ทำไม จะตบเหรอ เอาสิ ฉันจะได้รู้ว่าหน้าอย่างคุณมันหน้าตัวเมีย ตบผู้หญิงได้หน้าไม่อาย” วิลันดาเชิดหน้าท้าทายเพลิง

“ฮึ หน้าเธอมันสกปรกเกินกว่าที่ฉันจะแตะต้อง”

“คุณมันก็ไม่ได้สะอาดไปกว่าฉันตรงไหนหรอก ฉันจะหนีให้ได้ ไอ้คนไร้หัวใจ”

“อย่าให้รู้ว่าเธอคิดหนีอีก ไม่อย่างนั้นเธอได้ไปนอนในทะเลแน่” เพลิงตัดบทเพียงแค่นั้น ชายหนุ่มหันหลังกลับ แต่เขาพลาดไปถนัดเมื่อวิลันดาลุกขึ้นมากระชากปืนที่ซองเข็มขัดเขา เอามาจ่อตรงมาที่ใบหน้าคมคร้ามแดดเล็กน้อย

“อย่าขยับนะ คิดเหรอว่าคนอย่าวิลันดาจะจนตรอก เอากุญแจมาให้ฉันเดี๋ยวนี้”มือเล็กที่กำด้ามปืนสั่นน้อยๆ เพราะเป็นครั้งแรกที่หล่อนจับมัน

“ถ้าไม่ให้”

“ฉันยิง”

“เอาสิ ยิงเป็นเหรอ อยากยิงตรงไหนก็เชิญ”

“แค่ปืน...” ถึงจะกลัวแต่วิลันดาก็ไม่ชอบให้ใครมาท้า หญิงสาวเหนี่ยวไก ตั้งใจให้แค่ถูกที่ไม่สำคัญเพราะหล่อนไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นฆ่าตกร“เอ๊ะ ทำไมยิงไม่ได้”

“ก็ถามแล้วว่ายิงเป็นเหรอ เชิญเลย อยากยิงเท่าไหร่ก็เชิญ” เพลิงยิ้มอย่างเป็นต่อ แล้วค่อยๆ ล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงตัวเอง เขาเองก็เพิ่งคิดขึ้นได้ว่าเขาเพิ่งจะเอากระสุนออก
จากกระบอกเมื่อเหยียบขึ้นเกาะ การทำธุรกิจของเขามันเสี่ยงอยู่แล้ว เกิดไปทับลายใครเข้าโดยไม่ตั้งใจก็เป็นเรื่อง เขาเลยต้องหาเครื่องป้องกันไว้บ้าง อย่างเช่นปืนกระบอกนี้ กระบอกที่เกือบจะทำร้ายเขาเข้าให้แล้ว ถ้าเขาไม่คิดถอดกระสุนออกเพื่อจะเอามันมาเช็ดล้างทำความสะอาด

“บ้าจริง” วิลันดาสบถอย่างหัวเสียแล้วคว้างปืนลงพื้น เพลิงรับมันไว้ก่อนที่จะตก

“อย่าคิดจะฆ่าฉันด้วยวิธีโง่ๆ ของเธอ”เพลิงแสยะยิ้ม เน้นแต่ละคำพูดใส่วิลันดา

“ฉันทำแน่ถ้ามีโอกาส ต่อให้เป็นวิธีโง่ๆ ก็เถอะ”

เพลิงยักไหล่แล้วหันหลัง เขาไม่อยากต่อปากกับวิลันดาให้เสียเวลา ชายหนุ่มเลยเลือกเดินจากไปเงียบๆ วิลันดาเองหัวเสียอย่างมาก แผนที่หล่อนจะหนีมันต้องล้มเลิกเพราะเขา ดึกๆ ดื่นๆ จะมาทำไมก็ไม่รู้




สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ ขอเพิ่มฉากร้อนๆ อีกสักนิดนะคะ คิดเห็นยังไงเม้นต์บอกหน่อยนะคะ ขอบคุณทุกเม้นต์ ทุกกำลังลังใจนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามจ้า
ปักเป้า/เรืองริน



เรืองริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 มี.ค. 2556, 02:54:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 มี.ค. 2556, 02:54:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1740





<< ตอนที่ 4 ไม่รู้จักพอ Part 1   
มะเหมี่ยว 24 เม.ย. 2556, 17:07:09 น.
รออ่านนานแล้วนะ
เมื่อไรจะลลงให้อ่าน
รออยู่ๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account