นางบำเรอตีทะเบียน By อัญจรี น้ำจันทร์
คำโปรยหน้า

บุพเพฤาชะตา ที่นำพามาพบเจอ

หน้าที่เมียบำเรอ เขาให้เธอจำขึ้นใจ

ฉากหน้าแสนโสภา ภรรยานิตินัย

ฉากหลังนั่งร้องไห้...นางบำเรอตีทะเบียน



คำโปรยหลัง

เมื่อความรักที่มีไม่ได้รับความเห็นชอบจากมารดาที่รัก

วาโย จึงต้องหาใครสักคนมาแก้แค้นผู้เป็นมารดาให้สมกับที่ท่านกีดกันเขาและสาวคนรักออกจากกัน

ละอองดาว คือผู้หญิงที่เหมาะสมที่สุดในเวลานั้น เพราะหล่อนไม่ใช่ไฮโซ ไม่ใช่ลูกผู้ลาภมากดี

หล่อนเป็นเพียงแค่ โสเภณี ที่เขาบังเอิญถูกชะตา

วาโยไม่รอช้าจดทะเบียนตีตรากับหล่อนเพื่อประชดมารดาในทันที

โดยหารู้ไม่ว่าแม่โสเภณีที่เขาซื้อมาหล่อนยังไร้ ราคี!



สามปีให้หลังเมื่อสัญญานางบำเรอสิ้นสุดลง ละอองดาวดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธะสัญญาที่ไร้รัก

แต่ทว่าสามีผู้หลงใหลในเรือนร่างคุณภรรยา กลับไม่ยอมหย่าให้!



เวลาต่อมา

เมื่อสตรีที่วาโยรักนักรักหนากำลังจะดับดิ้นสิ้นลมหายใจ เขาจึงอยากจะได้ใบหย่าไปให้สาวเจ้าชื่นชม

แต่ทว่า ตอนที่เธออยากหย่าเขาไม่ยอมหย่าให้ ตอนนี้ก็อย่าหวังเลยว่าเขาจะได้มันไป เช่นกัน!

ความเจ็บปวดใดๆ ที่สามีเคยทำไว้กับภรรยา นาทีนี้ก็เตรียมตัวรับความเจ็บปวดเช่นนั้นกลับไป สองเท่าตัว!




ชื่อเดิม โสเภณีตีทะเบียน -> คมทันฑ์สิเน่หา -> มาจบที่ นางบำเรอตีทะเบียน ค่า
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย ห้ามมิให้ผู้ใดทำซ้ำหรือดัดแปลงแก้ไข ใครอุบอิบเอาของเขาขอให้แฟนทิ้งแฟนมีหญิงใหม่ สาธุ ^/\^

เตรียมใจตั้งแต่เนิ่นๆ นิยายอัพถึงบทที่ 15 นะคะ อาจจะแถมให้ถึง 16 ถ้าคนอ่านช่วยกระหน่ำไลค์ แต่เรื่องอัพจบคงไม่อัพจบค่าเพราะนิยายเรื่องนี้อัพมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ขอบคุณนะคะที่ยังให้กำลังใจกันด้วยดี ป,ล ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยจร้า นักเขียนตัวน้อยยังด้อยประสพการณ์ ^/\^
Tags: ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ธราธร

ตอน: บทที่ 9 หนามตำใจ 100% แม่ผัวแซบเวอร์ค่า ^__^

นางบำเรอตีทะเบียน

อรุณรุ่งเช้าวันใหม่
สองสามีภรรยาเพิ่งฟื้นตื่นจากนิทรา ทั้งสองนอนสบตากันนิ่งนานประหนึ่งจะให้นัยน์ตาสื่อสารแทนวาจา ฝ่ายสามีนั้นเห็นภรรยายอมอ่อนลงให้มิได้มีท่าทางดื้อรั้นอวดดีก็สบายใจไปเปลาะหนึ่ง เขาคาดการณ์ไว้ว่าหากเอ่ยร้องขอเรื่องใบหย่าคงได้มันมาโดยไว ซึ่งตรงข้ามกับฝ่ายภรรยา ละอองดาวกำลังครุ่นคิดว่าจะทำเช่นไรความอ่อนโยนที่สามีมอบให้จึงจะเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
“อุ้บส์!...”
ร่างอวบอิ่มของภรรยาดีดตัวลุกจากที่นอนเพื่อไปโก่งคออาเจียนในห้องน้ำ สามีที่อ่อนโยนต่อภรรยามาตลอดทั้งคืนก็รีบตามเข้าไปช่วยเหลือ นับเป็นครั้งแรกที่ละอองดาวอาเจียนจนหมดแรงแล้วยังสามารถยืนทรงกายอยู่ได้ อาจเป็นเพราะได้รับกำลังแรงใจจากสามีที่ยืนอยู่เคียงข้างกันในเวลานี้
“เป็นยังไงบ้างดีขึ้นหรือเปล่า” วาโยเอ่ยถามรัวเร็วด้วยความตระหนก สีหน้าละอองดาวไม่ค่อยดีนักและยังคงซีดเซียวแม้ว่าหล่อนจะนอนพักมาตลอดทั้งคืนก็ตาม
“ค่ะ ดี...ดีขึ้นแล้วค่ะ”
ละอองดาววักน้ำขึ้นล้างปากขณะที่วาโยยังลูบหลังให้ไม่หยุด
“พอแล้วค่ะ วันนี้คุณโยไม่ไปไหนหรือคะ” เธอถามต่อแล้วให้เขาพยุงออกมาจากห้องน้ำ
“ก็...สายๆ อาจจะแวะไปบ้านนุตแล้วช่วงบ่ายคงแวะไปดูงานที่บริษัทสักหน่อย”
ละอองดาวพยักหน้าเข้าใจ เขาพาเธอมานั่งที่ปลายเตียง ทั้งสองนั่งเงียบๆ ฟังเสียงหัวใจของกันและกันชั่วครู่
“แล้วคอนโดฯ ที่สิงคโปร์ล่ะคะไปถึงไหนแล้ว” เธอถามเพราะห่วงใยมิได้อยากก้าวก่ายหวังว่าสามีคงเข้าใจ
“ก็เรื่อยๆ เดือนหน้าว่าจะแวะไปดูการก่อสร้างสักอาทิตย์ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” เขาตอบแล้วถอนหายใจเบาๆ ทุกๆ วันที่ผ่านพ้นไปเหมือนว่าเขาไม่ได้มีภาระหน้าที่การงานอะไรที่ยุ่งยากให้ต้องจัดการแต่พอมานั่งนึกดูดีๆ ก็เพิ่งประจักษ์แจ้งแก่ใจว่าตัวเองชักจะโหมงานหนักมากไปแล้ว
ละอองดาวเอื้อมมือไปกุมมือของวาโย เธออดยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อเขาบีบเบาๆ ตอบกลับมา
“ดูแลตัวเองด้วยนะคะคุณโย เงินทองเป็นของนอกกายคุณจะรีบไปทำไมนักหนา ความสุขต่างหากที่คุณต้องไขว่คว้ามาให้ตัวเอง” เธอเตือนสติสามี
“ความสุขของฉันอยู่ที่ไหนเธอก็รู้ดี เธอ...เข้าใจแล้วใช่ไหม” เขาถามอย่างประหม่ากลัวว่าเจ้าหล่อนจะยังใจแข็งไม่ยอมหย่าให้
“ค่ะ เข้าใจดี...คุณ...ไปอาบน้ำเถอะค่ะ”
ละอองดาวตัดบทแล้วบอกให้เขาไปอาบน้ำเพราะไม่อยากให้เขาเผลอพูดออกมาว่าความสุขเขาอยู่ที่ใด มันโหดร้ายทรมานเกินไปสำหรับคนฟังอย่างเธอ
ขณะนั้นสาวใช้นกเอี้ยงก็มาเคาะประตูแจ้งแก่นายทั้งสองว่าคุณนายวิภาเรียกไปรับประทานอาหารเช้าด้วยกันบนตึกใหญ่ วาโยจึงได้จำใจเลี่ยงกลับห้องนอนของตน


หนึ่งชั่วโมงต่อมาที่โต๊ะอาหารบ้านจตุรศิลป์
กวางน้อยหน้ามนพาใบหน้าซีดเซียวมากล่าวลาคุณนายวิภาที่นั่งอยู่กับบุตรชายคนโตที่โต๊ะอาหาร เธอไม่อยากติดรถไปกับบอสที่ชื่อกุมภัณฑ์เพราะกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อนแล้วกระโจนลงวังวนพิศวาสของเขาอีกรอบ
“กวางไปทำงานก่อนนะคะคุณท่าน” หญิงสาวบอกกล่าวจะยกมือไหว้ลา แต่นางวิภาโบกมือห้ามไว้แล้วชวนมานั่งรับประทานอาหารเช้าด้วยกัน สมันน้อยเตรียมก้าวลงไปนั่งที่เก้าอี้เพราะยินดีกับความเมตตาของเจ้านาย แต่เสียงกระแอมไอของคุณป้าสุดที่รักที่ดังไล่หลังมาทำให้เธอไม่อาจหย่อนกายลงไปนั่งบนนั้นได้
“ไม่ดีกระมังคะคุณ ยัยกวางเป็นลูกหลานบ่าวไพร่ในเรือนจะมานั่งรับประทานอาหารตีตนเสมอท่านได้ยังไง”
สิมันตรากลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ ให้คุณนายวิภาแล้วยกมือไหว้นางและท่านประธานแห่งจตุรศิลป์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก่อนจะหันหลังกลับมาไหว้คุณป้าสุดที่รักแล้วเดินออกจากห้องไป
“ไม่เห็นเป็นไรเลยครับป้าเจรียง คนกันเองแท้ๆ” วาโยพูดตามที่คิดขณะหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่าน
“ใช่ๆ พี่เจรียงพูดอะไรออกมารู้หรือเปล่า แม่กวางเสียใจนะนั่นน่ะ” นางวิภาที่ไม่ได้คิดอย่างคุณแม่บ้านคู่ใจ เอ่ยออกมาด้วยนึกห่วงใยหัวจิตหัวใจของกวางน้อย นางมิได้รังเกียจสิมันตราเลยตรงกันข้ามกลับนึกเอ็นดูแม่กวางน้อยคนงามหลานสาวคุณแม่บ้านด้วยซ้ำ
“ช่างยัยกวางเถอะค่ะ เจ็บใจเสียใจมันก็เท่านั้น บ่าวก็คือบ่าวไม่มีทางเผยอหน้าไปนั่งเคียงข้างเจ้านายได้หรอกค่ะคุณภา” นางเอ่ยแล้วยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาซับหยดน้ำที่ปริ่มๆ ที่หัวตา
เสียงเครื่องมือสื่อสารดังขึ้นขัดจังหวะวาจาของนางเจรียง วาโยเอ่ยขออภัยแล้วขอตัวลุกไปรับโทรศัพท์ นางวิภาได้โอกาสจึงลุกไปซักไซ้แม่บ้านคู่ใจในทันที
“พี่เจรียงรู้อะไรๆ ที่ฉันไม่รู้หรือเปล่า”
นางเจรียงขบเม้มริมฝีปากของตนจนซีดขาว นางไม่อยากเอ่ยออกมาแต่หากเอ่ยแล้วคุณนายวิภาสามารถช่วยนางได้นางก็จะเปิดเปลือยจนหมดเปลือก
“เมื่อคืนนี้...อิฉัน อิฉันเห็นหลานสาวกับคุณยักษ์...กอดกันอยู่ในสวน มันไม่สมควรเกิดขึ้นแต่อิฉันไม่รู้จะห้ามยังไงค่ะคุณภา อิฉันมืดแปดด้าน คุณภาช่วยอิฉันทีอย่าให้คุณยักษ์มายุ่งกับยัยกวางเลย อิฉันไม่อยากเห็นหลานเสียใจ ช่วยอิฉันด้วยนะคะคุณภา...”
นางวิภายกมือทาบอกอย่างตระหนกตกใจทว่ามุมปากกลับติดรอยยิ้มบางๆ สิ่งที่นางเคยคิดไว้เป็นจริงจนได้ช่างรวดเร็วทันใจดีแท้ ไม่รู้ว่าสองคนนั้นเกินเลยกันไปถึงไหนแล้ว นางเข้าใจที่คุณแม่บ้านห่วงใยหลานสาวเพราะบุตรชายของนางก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะรักจริงหวังแต่งกับใครสักคน นางเข้าใจดี แต่บางทีมันอาจจะถึงเวลาที่กุมภัณฑ์อยากจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวก็ได้ใครจะรู้
“พี่เจรียงไม่คิดจะให้โอกาสลูกฉันบ้างหรือ บางทีตายักษ์อาจจะรู้สึกดีๆ กับยัยกวางก็ได้” ผู้เป็นนายโยนหินถามทาง แต่ดูเหมือนว่านางจะโยนแรงไปหน่อยคนตอบเลยตอบอย่างตรงไปตรงมาไม่มีอ้อมค้อมบ้างเลย
“ความรู้สึกดีๆ ที่สุดท้ายไปจบบนเตียงหรือคะ อิฉันเลี้ยงคุณยักษ์มาพร้อมๆ กับคุณ รู้ดีทีเดียวว่าคุณยักษ์ไม่เคยรักใครจริงจัง แล้วอย่างนี้คุณภายังจะหวังให้อิฉันให้โอกาสคุณยักษ์มาทำลายยัยกวางหรือคะ สงสารยัยกวางเถอะค่ะคุณ หลานสาวอิฉันตามเล่ห์กลคุณยักษ์ไม่ทันหรอกค่ะ”
นางวิภาไม่รู้จะหาทางออกกับปัญหานี้ได้อย่างไร นางเจรียงกางปีกปกป้องหลานสาวตั้งแต่พายุร้ายเพิ่งเริ่มตั้งเค้า แล้วนางจะทำอย่างไรดีล่ะในเมื่อใจนางอยากได้ยัยกวางน้อยของคุณแม่บ้านมาเป็นสะใภ้เล็กนี่นา
“แล้วฉันจะหาทางคุยกับตายักษ์ก็แล้วกัน พี่เจรียงอย่างเพิ่งคิดมากเลยนะเรื่องของเด็กๆ อย่ากังวลนักเลย บางทีมันอาจจะไม่ร้ายแรงอย่างที่เราคิดก็ได้น่า นะพี่นะ อย่าวิตกไปเลย”
นางวิภาจับมืออวบอูมของนางเจรียงแล้วตบเบาๆ พร้อมกับคลี่ยิ้มกว้างปลอบประโลมคุณแม่บ้านคู่ใจให้คลายกังวล เห็นทีว่านางต้องหาทางคุยเรื่องนี้กับบุตรชายคนเล็กจริงๆ จังๆ เสียที
หลังจากที่สิมันตราออกไปทำงานได้ไม่กี่นาทีร่างของละอองดาวก็ปรากฏขึ้นแทนที่ที่หน้าประตู นางวิภาสบโอกาสพานางเจรียงเลี่ยงหลบออกจากความขุ่นข้องหมองใจในเรื่องลูกหลาน นางหันมายิ้มให้กับลูกสะใภ้ที่เดินมานั่งยังโต๊ะอาหาร
“อิฉันจะไปเรียกให้เด็กยกสำรับมาเดี๋ยวนี้ค่ะ” นางเจรียงบอกผู้เป็นนายแล้วเลี่ยงเข้าห้องครัว
คุณนายวิภาหันซ้ายแลขวาเมื่อไม่พบแม้เงาของบุตรชายก็ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะถามลูกสะใภ้เบาๆ
“วันนี้แพ้ท้องมากหรือเปล่า” ละอองดาวพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะกล่าวเสริม
“นิดหน่อยค่ะคุณแม่ แต่เอ๊ะ ดูเหมือนว่าจะมีบางคนอาการน่าเป็นห่วงกว่าดาวแล้วล่ะค่ะ”
นางวิภายังไม่เข้าใจในตอนแรก ทว่าพอมองตามสายตาลูกสะใภ้ไปที่ประตูห้องอาหารก็เห็นบุตรชายคนโตเดินกลับเข้ามาพร้อมกับวงหน้าที่ซีดเซียวผิดสังเกต และการคาดเดาของละอองดาวก็เป็นจริงเมื่อวาโยยกมือปิดปากแล้วเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำที่อยู่ซ้ายมือเพื่ออาเจียนเสียงดังลั่นบ้าน นางวิภายิ้มแก้มปริก่อนจะยกนิ้วหัวแม่มือให้ลูกสะใภ้หนึ่งทีด้วยความพออกพอใจ พอบุตรชายกลับมาที่โต๊ะในเวลาต่อมานางก็แสดงความห่วงใยอันล้นเหลือด้วยการเอ่ยถามถึงสาเหตุของอาการที่เขาเป็นแม้ว่าในใจจะรู้สึกสะใจมากกว่าเห็นใจก็ตาม
“ว่าไงฮึตาโย ทำไมอาเจียนได้ล่ะลูก” นางวิภาจีบปากจีบคอถามพลางยกยิ้มที่มุมปากให้ละอองดาว เจ้าหล่อนกำลังประคองบุตรชายให้นั่งลงยังเก้าอี้
วาโยรู้สึกเหมือนถูกเยาะเย้ยอย่างไรพิกลทั้งๆ ที่มารดาเอ่ยถามด้วยความห่วงใยแท้ๆ เขานั่งลงแล้วยกมือคลึงขมับทั้งสองข้าง หลังจากที่อาบน้ำแปรงฟันเขาก็มีอาการประหลาดๆ ทันที รู้สึกว่าจะเริ่มจากตอนที่แปรงสีฟันล้วงคอนั่นล่ะ มันรู้สึกผะอืดผะอมไม่หาย แล้วตอนที่คุยโทรศัพท์กับนิลอรก็รู้สึกวิงเวียนชอบกลจนกระทั่งมาอาเจียนเมื่อครู่นี้
“ผมรู้สึกแปลกๆ ครับ มันผะอืดผะอมบอกไม่ถูก เวียนหัวด้วย” เขาตอบคำถามมารดาด้วยแรงที่ยังพอมี โอ...นี่เขาเป็นโรคบ้าอะไรกัน
“แล้วจะไปทำงานไหวหรือลูก” นางวิภาถามย้ำ ถ้าเป็นไปได้นางจะผูกบุตรชายติดกับร่างลูกสะใภ้เสียเลย
“ไหวครับ ผมไปนะครับ” เขาว่าแล้วตั้งท่าจะลุกแต่เหมือนว่าเพิ่งนึกอะไรออก “เอ่อ...ดาว...เธอจะไปอำเภอกับฉันวันไหน”
แค่กๆ แค่กๆ
นางวิภาไอค่อกแค่กราวกับว่าวาจาของบุตรชายทำให้ลำคอของนางระคายเคือง ส่วนละอองดาวนั้นนั่งนิ่งตัวแข็งเป็นรูปปั้น หล่อนพยายามปั้นหน้าให้เป็นปกติก่อนจะถามกลับสามีที่รัก
“ไป...ไปทำไมคะ?” สีหน้าท่าทางซื่อใสทั้งน้ำเสียงไร้เดียงสาทำเอาวาโยสะดุดกึก เจ้าหล่อนจะมาไม้ไหนกับเขากันล่ะนี่นึกว่าเมื่อคืนเจรจากันรู้เรื่องแล้วเสียอีก
“ก็ไปหย่าไง!?” เขาบอกเสียงห้วนกระชากเพราะเริ่มโกรธขึ้นมาตงิดๆ
“ตาโย! หัวหงอกๆ ของฉันไม่ใช่หัวหลักหัวตอนะ เกรงใจน่ะรู้จักหรือเปล่ายะ” นางวิภาเหน็บแนมทั้งๆ ที่รู้ว่าบุตรชายเลิกสนใจตัวเองนานแล้ว ถ้าลูกเกรงใจนางอยู่บ้างคงไม่ขอหย่ากับเมียต่อหน้าต่อตานางหรอก
“คุณแม่ครับ ผมขอล่ะนี่มันเรื่องของผมกับเมีย” วาโยเถียงเสียงเรียบแต่นางวิภาก็หายอมไม่
“เมียแกเป็นลูกสะใภ้ฉัน! ถ้าไม่ใช่ยัยดาวฉันก็ไม่เอาใครทั้งนั้น แม้แต่แม่วีนุตตรา ฉันก็ไม่เอา!”
“คุณแม่คะ ดาวว่า...”
ละอองดาวปวดหนึบที่หัวใจ มารดากับบุตรชายมีปากเสียงกันเพราะเธอเป็นต้นเหตุอีกแล้ว
“เธอเอาอะไรให้แม่ฉันกินห๊ะ ทำไมแม่ฉันถึงออกอาการหลงเธอขนาดนี้ เธอบอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะละอองดาว!”
วาโยลุกพรวดพราดไม่ลืมที่จะคว้าร่างอวบอิ่มของละอองดาวติดมือขึ้นมาด้วย
“เจ็บ! คุณโย ดาวเจ็บ!” ละอองดาวร้องบอก ตอนที่เขากระชากเธอขึ้นมานั้นตรงท้องน้อยกระทบขอบโต๊ะจนเธอรู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ทีเดียว
“ตาโย! แกปล่อยยัยดาวเดี๋ยวนี้นะเดี๋ยวก็ได้หกล้มเจ็บเนื้อเจ็บตัวกันพอดี ปล่อยนะ!”
นางวิภาเข้าแย่งยื้อร่างลูกสะใภ้ออกจากการคุกคามของบุตรชาย นางเจรียงที่เพิ่งได้ยินเสียงรีบออกมาห้ามทัพ หากนางช้ากว่านี้กระดูกลูกสะใภ้คุณนายวิภาคงจะแหลกคามือนายน้อยคนโตของนางแล้ว
“แกจะฆ่าเมียแกรึไงห๊ะ!”
นางวิภาตวาดถามบุตรชายด้วยน้ำเสียงที่ปรุงแต่งด้วยโทสะ ตอนนี้นางได้ละอองดาวมาอยู่ในอ้อมแขนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“คนบ้านนี้เป็นอะไรกันไปหมด! หลงแม่โสเภณีจนหัวปักหัวปำ ทำไมไม่เกลียดเธอห๊ะ! เธอกำลังจะจับผมนะแม่ก็รู้นี่!”
เผียะ!!!
นางวิภาฟาดฝ่ามือใส่ซีกแก้มบุตรชาย ไม่มีเหตุผลใดๆ มาอธิบายการกระทำในครั้งนี้ นางรู้แต่เพียงว่าโสเภณีก็มีศักดิ์ศรี วาโยอย่าได้ย่ำยีหัวใจบางๆ ดวงนี้ของละอองดาวอีกเลย
“ไม่มีใครจับใครทั้งนั้นตาโย แกผิดสัญญาก่อนแกก็ต้องรับกรรม ถ้าแกเซ็นใบหย่าให้กับแม่ดาวตามสัญญาแกก็ไม่ต้องมาทรมานอย่างนี้ มัวแต่ขลุกอยู่กับแม่วีนุตตราชั่วนาตาปีมันก็สมควรแล้วที่ยัยดาวจะเอาคืน สมน้ำหน้า!”
“คุณภา...” นางเจรียงครวญชื่อเจ้านายที่รัก ร่างสูงใหญ่ที่นางประคองอยู่ถึงกับเซเลยทีเดียว นายน้อยของนางคงทนฟังวาจาเยาะเย้ยถากถางของมารดาไม่ไหวแล้ว
“คุณแม่!...” เขาครางชื่อมารดาเช่นเดียวกับคุณป้าเจรียงก่อนจะจิกสายตาไปกัดกร่อนละอองดาวจนแทบไม่เหลือแม้เศษเถ้าธุลี “ฉันเกลียดเธอ แม่โสเภณี!”
วาโยเย้ยหยันคนที่ยืนน้ำตานองหน้าอยู่หลังมารดาตน ช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่บ้านเจ้าหล่อนคงออเซาะฉอเลาะจนคุณนายวิภาใจอ่อนยอมรับในตัวตนของหล่อน ทุเรศ! คนปลิ้นปล้อนหลอกลวง
“ถึงยัยดาวเป็นโสเภณีหล่อนก็ทำงานแลกเงิน ไม่เหมือนแม่วีนุตตรา หน้าด้านหน้าทน ฉันเห็นคอยแต่จะตั้งท่าอ้าขาให้แกฟรีๆ หรือไม่จริง แกเถียงฉันสิ เถียงสิ!”
นางวิภายกเรื่องเก่าตั้งแต่ครั้งโน้นมาทับถมบุตรชาย นางรู้ว่าไม่สมควรเอาเรื่องนี้มาพูด แต่จะเป็นไรไปในเมื่อทุกคนที่นี่ก็ไม่ใช่คนอื่นสักนิด
วาโยพูดไม่ออกเมื่อมารดาพูดแทงใจดำ เขายอมรับว่ามีสัมพันธ์มากกว่าคำว่าแฟนตั้งแต่ตอนที่เขายังเรียนไม่จบมหาลัย แต่นั่นก็เพราะเขามั่นใจแล้วว่าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขาก็คือวีนุตตรา เขามั่นใจพอๆ กับที่หล่อนมั่นใจในตัวเขานั่นล่ะ แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นดังที่หวัง เพราะใครล่ะ เพราะมารดาคนนี้นี่ไง!
ความเจ็บจนจุกผสมกับอาการที่ร่างกายเรรวนผิดปกติทำให้วาโยวูบไป ร่างสูงใหญ่ค่อยๆ ล้มลงไปกองกับพื้น นางเจรียงส่งเสียงร้องด้วยความตกใจนางพยุงร่างนายน้อยไม่ไหวสุดท้ายก็ล้มลงไปพร้อมๆ กัน
“คุณโย! คุณโยคะ!?”
ละอองดาวรีบเข้าไปประคองร่างสามีส่วนนางวิภายืนกระหยิ่มยิ้มย่องที่นางเป็นผู้ชนะ ให้มันรู้ไปสิว่าเบ่งมันออกมาแท้ๆ มันจะมาปีกกล้าขาแข็งกำแหงใส่นางได้ มันน่าตีให้ก้นลายจริงๆ ลูกคนนี้
“นายก่อ! นายก่อเอ๊ย! มาช่วยหามตาโยทีเร็วเข้า ลูกชายฉันมันใจเสาะโมโหแม่จนเป็นลม!”
คุณนายวิภาเดินนวยนาดออกไปร้องเรียกคนสวนสูงวัยให้มาช่วยกันหามวาโยไปห้องนั่งเล่น ไม่วายแดกดันคนที่หมดสติไปแล้วด้วยความสุขใจเล็กๆ วาโยคงจะแพ้ท้องแทนลูกสะใภ้กระมัง นางดูออก เขาว่ากันว่าสามีที่แพ้ท้องแทนภรรยาแสดงว่าสามีคนนั้นต้องรักภรรยามากๆ แล้วบุตรชายของนางนี่ล่ะอยู่ในกลุ่มนั้นด้วยหรือเปล่า ไม่รู้ล่ะ! ใช่ไม่ใช่ก็แล้วแต่ แต่...สมน้ำหน้ามันจริงๆ โฮะๆๆ
นางวิภายกผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาป้องปากแล้วหัวเราะด้วยความสะใจขณะที่คนอื่นๆ พยายามช่วยกันลากร่างวาโยไปที่ห้องนั่งเล่น
ละอองดาวรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าให้สามีขณะที่นางเจรียงจ่อยาดมเขากับจมูกผู้เป็นนาย เมื่อเช็ดหน้าเช็ดตาพอสมควรแล้ว ละอองดาวก็จะขอตัวกลับเพราะไม่อยากให้สามีตื่นมาเจอหน้าตน ถ้าเดาไม่ผิดเขาคงอยากบีบคอเธอเลยกระมัง
“จะไปไหน!?” นางวิภาที่ยืนสังเกตการณ์เงียบๆ ร้องถามลูกสะใภ้ เจ้าหล่อนปรนนิบัติพัดวีสามีอยู่ดีๆ พอเสร็จเรียบร้อยก็จะลุกหนีดื้อๆ
“นั่นสิคะ หรือว่าหิวคะป้าจะได้บอกให้เด็กยกโจ๊กมาให้ทาน” นางเจรียงอาสา
“ไม่ต้องหรอกจ้ะป้า คือว่าดาวไม่อยากให้คุณโยตื่นมาเจอดาว...แบบว่าเลี่ยงได้ก็อยากจะเลี่ยงค่ะ จริงๆ นะคะคุณแม่” ท้ายประโยคหันมาบอกแม่สามี
“เหลวไหล! หล่อนจะปิดทองหลังพระหรือไงยะ ตอนเจ็บป่วยหล่อนก็เดือดร้อนพัดวีพอตอนหายดีหล่อนจะยกความดีความชอบให้พี่เจรียงรึ? น้ำเน่าไปแล้วอีหนู นั่งลงเลยนะ ไม่ใช่นางเอกละครหลังข่าว ถ้าหล่อนทำดีหล่อนต้องได้รางวัล ใครจะด่าว่าก็ช่างหัวมันปะไร”
นางวิภาเตือนสติลูกสะใภ้ก่อนจะสะกิดให้นางเจรียงออกไปจากห้อง
“เดี๋ยวฉันจะให้เด็กยกข้าวเช้ามาให้ละกัน ฉันหิวแล้ว ขี้เกียจรอคนใจเสาะ เถียงแม่ไม่ชนะก็เป็นลม”
นางวิภาบ่นลูกชาย ละอองดาวได้แต่อมยิ้ม แม่สามีเธอนับวันก็ยิ่งเผยความน่ารักในมุมที่เธอไม่เคยเห็น นาทีนี้เธอไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดบิดาของวาโยจึงได้ปลงใจสมรสกับนาง



ไรเตอร์รั่วๆ แต่จริงใจ ^_^

เข้ามาแล้วไซร้ไยไม่กดถูกใจละเจ้าคะ

^_^ งุงิงุงิ อ้อนๆๆๆๆๆ





Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 มี.ค. 2556, 09:05:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 มี.ค. 2556, 09:05:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 19477





<< บทที่ 9 หนามตำใจ 50+70% บีบอารมณ์สุดติ่ง Y^Y   บทที่ 10 กวางน้อยน่ารักนายยักษ์เลยจับกิน 40% >>
kaelek 17 มี.ค. 2556, 10:14:17 น.
เยี่ยมค่ะ!!! คุณนายวิภา


ลิลลี่ 17 มี.ค. 2556, 13:20:22 น.
อยากรู้เรื่องวีนุตตรา ว่าทำไมแม่พระเอกถึงไม่ชอบนางเลย นางจะมาเกาะพระเอกจริงเหมือนที่แม่พระเอกพูด??

สงสารนางเอกจริงๆนะ ถ้าหาคนผิดคงต้องเป็นพระเอกทำไมถึงเวลาหย่าตอนนั้นถึงไม่หย่าปล่อยผ่านมาได้จนมาตอนนี้ตอนที่วีนุตตราใกล้ตายก็มาเร่งยิกๆจะเอาใบหย่าเพื่อไปให้วีนุตตรา ถามหน่อยหลังจากยัยนั่นตายไปแล้ว จะทำไงต่อ?!?! อยากให้ดาวหนีไปจริงๆเลย ไปต้องหย่าไรทั้งนั้นหนีไปให้ไกลๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account