จุมพิตอัคคี (ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม) by น้ำจันทร์ อัญจรี
วางแผง 28-3-56 งานหนังสือบูธทัชนะคะ C1 บูธ M 20

จุมพิตอัคคี
(ภาคต่อหัวใจใกล้เกินเอื้อม)

เมรภัทร เอวะโยธิน
น้องพาย เธอเก่ง เธอสวย เธอเซ็กซี แต่เธอไร้หัวใจ

เดลลอร์ฟ เจมส์
เดลทุกอย่างทำเพื่อ สตรีรัก ไม่ได้ใจร้าย แต่ไม่ยอมรามือ

หลังจากที่ จิตาภา พกพาความแค้นที่มีต่อ เมธาวีและธีรภัทรคนรักมานานหลายปี
(อ่านเรื่องของภาคแม่ได้ใน หัวใจใกล้เกินเอื้อม สามารถหาซื้อได้ในงานหนังสือมีนานี้ และที่ร้านซีเอ็ด นายอินทร์ เพราะหน้าเว็บ สำนักพิมพ์ Touch Publishing หมดสต็อกแล้วค่ะ 15-3-56 )
เวลานี้ก็ถึงเวลาสะสาง นางให้หลานชายบุญธรรม คือเดลลอร์ฟ มาขืนใจ เมรภัทร ลูกสาวของเมธาวี โดยแผนการนั้นมีอยู่ว่าเดลจะต้องเอาโรงแรมทิพย์ธารามาขึ้นกับเจมส์ให้ได้แล้วเดลจะได้รางวัลเป็น การแต่งงาน กับ เจนนิตา ลูกสาวของนาง หารู้ไม่ว่า ลูกสาวที่หวงยิ่งกว่าไข่ในหินกำลังปลูกต้นรักอย่างเงียบๆ กับภีรภัทร น้องสาวของเมรภัทร ลูกอีกคนของเมธาวี

เดลลอร์ฟถูกเมรภัทรซ้อนแผน หล่อนเสแสร้งให้เขารักในบทบาทของน้องพาย ผู้หญิงที่เป็นเพียงเหยื่อในแค้นครั้งนี้ เดลลอร์ฟหลงน้องพายหัวปักหัวปำ เขาโอนทุกอย่างให้น้องพาย แม้แต่หุ้นของเจมส์ เพราะเขาเกรงว่าหากวันหนึ่งถูกปองร้ายจากศัตรู น้องพายกับลูกของเขาจะได้ไม่ลำบาก หารู้ไม่ว่า คนที่สั่งการให้มือสังหารมายิงตัวเองคือเมรภัทรภรรยาที่แสนดีนั่นเอง
********** วางแผง 28-3-56 งานหนังสือ ระดับชาติศูนย์ศิริฯ*************

ไรเตอร์รั่วๆ แต่จริงใจ ^_^

เข้ามาแล้วไซร้ไยไม่กดถูกใจละเจ้าคะ

^_^ งุงิงุงิ อ้อนๆๆๆๆๆ












Tags: สำนักพิมพ์ ViVa ในเครือ Touch

ตอน: บทที่ 1แค้นฝังใจ...ลงที่ใครดี วางแผง 28-3-56 โซน C1 บูธ M20 สำนักพิมพ์ ทัชจ้า


เสียงรถยนต์คันหรูแล่นมาจอดที่หน้าคฤหาสน์ สาวน้อยนัยน์ตาใสซื่อรีบจัดการกับเสื้อผ้าหน้าผมของตัวเองจนแม่นมคนดีอดท้วงไม่ได้

“แหม...คุณจี๊ด ทำอย่างกับว่า คุณจิน เธอเพิ่งกลับมาจากนอกอย่างนั้นล่ะค่า ตื่นเต้นได้ทุกวันเลยจริงๆ” สาวน้อยหน้างอ แต่ไม่หืออืออะไรกับแม่นมที่รัก เธอรู้ดีว่าท่านเพียงเย้าแหย่เธอเล่นเท่านั้น

“เอามาค่ะ เร็วเข้า คุณแม่มาแล้ว”

สาวน้อยเร่งเร้า เดือดร้อนคนแก่อย่างนมอ่อนต้องกุลีกุจอเอาน้ำส้มคั้นในตู้เย็นใส่แก้วมายื่นให้

“ขอบคุณจ้านมอ่อนคนสวย ตั้งโต๊ะได้เลยนะคะ เดี๋ยวคุณแม่หิวแย่”

คนสวยสั่งแม่นมคนดีแล้วรีบเดินออกมาจากห้องครัว มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่ออีกหนด้วยไม่อยากให้มารดาแลมองแล้วต้องรำคาญใจ

“คุณแม่ขาน้ำส้มคั้นเย็นๆ มาแล้วค่ะ ดื่มเลยนะคะ” ลูกสาวคนสวยคะยั้นคะยอแต่มารดากลับเชิดใส่

“ฉันยังไม่ได้บอก...ว่าอยากกินน้ำส้ม”

จิตาภา กล่าวเสียงเรียบเย็น กวักมือให้หลานชายเอาของมายื่นให้

“วันนี้วันเกิด ฉันให้”

จิตาภายื่นซองสวยลายดอกไม้เล็กๆ ให้บุตรสาว เจนนิตายิ้มกว้างยกมือไหว้แล้วจะโผเข้ากอดมารดาให้สมกับความยินดีที่ท่านให้ของ แต่มารดากลับถอยหลัง ไม่ยอมให้กอด

“ฉันเหนื่อย เหนียวตัวด้วย อย่ากอดเลย” หล่อนบอกปัด หัวใจไหววูบเมื่อเห็นสาวน้อยหน้าเสีย

“อ้อ...วันนี้ไม่ได้ออกไปไหนใช่รึเปล่า”

เจนนิตารีบหลบสายตาคมของมารดา เธอกำลังจะโป้ปด

“ค่ะ วันนี้จี๊ดไม่ได้ออกไปไหนเลยค่ะ พอครูสอนเปียโนกลับไป จี๊ดก็เข้าครัวช่วยนมอ่อนทำอาหารค่ะ คุณแม่...วันนี้ไม่มีงานเลี้ยงใช่ไหมคะ จี๊ดอยาก...”

“ยังไม่แน่ใจ ถ้าไม่มี ก็เห็นอยู่บ้านเองนั่นล่ะ” เอ่ยเพียงเท่านั้นแล้วก้าวออกไปจากห้อง

สาวน้อยหน้าสลดลงทันที นัยน์ตาวาวหวานมีหยดน้ำมาขังคลอ พี่ชายคนดีรีบเข้ามาปลอบใจเมื่อสบโอกาส

“วันนี้คุณอาไม่มีเลี้ยงที่ไหนหรอก เชื่อพี่นะคนเก่ง สุขสันต์วันเกิดนะคนดีของพี่เดล”

เจนนิตาปาดน้ำตาโผเข้ากอดพี่ชายที่รัก หารู้ไม่ว่ากายชายเริ่มรุ่มร้อนเพราะเรือนร่างสาวสะพรั่งของน้องสาวแสนดีเข้ามาแนบชิด

“ขอบคุณค่ะพี่เดล”

สาวน้อยสะอื้นฮักขณะขอบคุณพี่ชาย ใบหน้าสวยหวานมีน้ำตาเปรอะเปื้อนไปทั่ว

“ขี้แยไปได้ จะยี่สิบแล้วนะเราน่ะ” เดลลอร์ฟล้อเลียนน้องสาว

“ใครว่า ยี่สิบเอ็ดต่างหาก ขอบคุณนะคะสำหรับของขวัญ พี่เดลรีบขึ้นห้องไปอาบเถอะค่ะ จี๊ดจะไปตั้งโต๊ะอาหารรอ หวังว่าคงไม่มีนัดกับสาวที่ไหนนะคะ” เจนนิตาอดประชดไม่ได้

“แน่นอนครับ วันนี้ว่างถึงเช้าเลย จะยืมไปนอนกอดยังได้” ชายหนุ่มเย้าแหย่ นัยน์ตาสีเงินยวงพราวระยับ

“บ้า! พี่เดล อย่ามาหื่นแถวนี้นะ นี่จี๊ดนะไม่ใช่สาวๆ ของพี่เชอะ!”

เจนนิตาสะบัดก้นงอนๆ จากไป เหลือไว้เพียงกลิ่นสาบสาวบางเบาติดปลายจมูก มันน่าละอายเหลือเกินที่หลงมีใจให้ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง ที่สำคัญ หล่อนเห็นเขาเป็นเพียงพี่ชาย พี่ชายที่แสนดี



คืนนี้เขาควรได้อยู่ฉลองวันเกิดกับน้องสาวคนดี แต่กาลกลับตาลปัตรเมื่อคุณอาที่รักบัญชามาว่าให้เขา รุกเป้าหมายโดยด่วน ละครเวทีที่เขาไม่เคยชายตาแล วันนี้จึงต้องง้อมันหนหนึ่ง เขาติดสินบนเจ้าของโรงละคร ให้ทั้งรอบมีเพียงเขาและหล่อนเท่านั้น แน่นอนว่า เมรภัทรไม่มีทางล่วงรู้



ละครเวทีสุดคลาสสิก บนเวทีมีฉากหลังเป็นบ้านเมืองสมัยโบราณงดงามแปลกตา ช่างมีมนต์ขลัง ตัวละครต่างประดับกายด้วยอาภรณ์ย้อนยุคและกำลังขับขานบทเพลงให้คนฟังดื่มด่ำไปกับเสียงทรงพลังและบรรยากาศที่อวลอบด้วยความรักแสนอมตะ

โรเมโอ รูปงามพึงใจ จูเลียต ลูกศัตรู ทั้งสองมั่นคงในรัก แม้การดับสูญก็พรากจากเพียงกายร่าง มิอาจพรากหัวใจรักของพวกเขา

เสียงปรบมือดังขึ้นเมื่อละครจบลง เมรภัทรหลับตานิ่งเพื่อ เสพ ความอิ่มเอมใจ ความรักมั่นคงของตัวละครทั้งสอง ตราตรึงในหัวใจของเธอไม่คลาย แต่จะมีจริงหรือความรักที่มั่นคงเช่นนั้น แม้แต่ความตายก็ไม่อาจพรากจาก...ไม่มีทาง แต่เว้นให้ โรเมโอกับจูเลียต ของ วิลเลียม เชกสเปียร์ ก็แล้วกัน

ร่างอรชรลุกจากที่นั่ง น่าแปลกที่ทั้งรอบของละครเวทีวันนี้มีเพียงเธอและ เขา

“เจ้าหญิง ทักทายสักหน่อยไม่ได้หรือยังไงครับ”

เดลลอร์ฟขยับขวางทางเป้าหมาย

“กรุณาหลีกทาง ฉันไม่คิดว่าตัวเองจะค้างที่นี่”

เมรภัทรบอกเขา ไม่รู้จะจองเวรจองกรรมเธอไปถึงไหน

เดลลอร์ฟยิ้มที่มุมปาก มันเป็นไปเองโดยอัตโนมัติเมื่อได้ฟังถ้อยคำของหล่อน คำพูดวกไปวนมา เขาฟังจนชินเสียแล้ว

“ผมไม่ได้บอกว่าจะชวนคุณค้าง แต่ถ้าคุณปรารถนา ผมชวนก็ได้ เอ่อ...เราค้างที่นี่ด้วยกันไหมครับคุณหนู” เขาล้อเลียน

เมรภัทรหน้าตึง ขยับผ้าคลุมหัวไหล่เมื่อมันร่นถึงข้อพับ เธอจะไม่เดือดร้อนหากว่าสายตาคมของเขาไม่ไล้มองผิวเนื้อของเธอให้รำคาญ

“ฉันบอกคุณชัดเจนว่ากรุณาหลีกทาง แถมยังบอกเป็นนัยว่าอย่างไรเสียฉันต้องออกไปจากที่นี่ไม่มีวันค้างคืนแน่นอน ฉันคิดว่านักธุรกิจพันล้านอย่างคุณ น่าจะเข้าใจ แต่ว่าสมองของพวกคุณคงคิดแต่เรื่อง ขาดทุนและกำไร จนไม่สามารถเข้าใจความนัยธรรมดาๆ ของฉัน เพราะฉะนั้น ฉันจะพูดอีกครั้งก็ได้ กรุณาหลีกทางให้ฉันด้วยค่ะ คุณเดลลอร์ฟ เจมส์”

เมรภัทรพยายามทำใจให้นิ่งสงบเพื่อสมองจะได้ถูกใช้งานอย่างเต็มที่ แต่จนแล้วจนรอด ร่างสูงใหญ่ตรงหน้าก็ยังยืนเฉยเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่เช่นเดิม

“ฉันจะไม่ถามว่าคุณต้องการอะไร เพราะถ้าคุณอยากได้ คุณคงบอกฉันแล้ว”

เดลลอร์ฟยิ้มขัน ทั้งเหนื่อยหน่ายระคน หล่อนจะพูดประโยคธรรมดาๆ เหมือนชาวบ้านเขาไม่เป็นหรืออย่างไร

“อ่า...คุณคิดว่าความรักของโรเมโอกับจูเลียต น่าประทับใจมากไหม?”

เขาถามเรื่อยเปื่อยเพื่อยืดเวลาสนทนาให้นานยิ่งขึ้น อย่างน้อยก็จนกว่าคนของเขาจะลวง บอดีการ์ดของหล่อนไปพ้นจากหน้าโรงละคร

“ไม่รู้สิ บังเอิญฉันไม่ใช่จูเลียต”

“อ้อ...ขอโทษทีลืมไปว่าคุณเป็น สโนว์ไวท์”

“เอ๊ะ!” ใบหน้าสวยขึ้นสีด้วยเคืองโกรธ

“ไม่ๆๆ ผมหมายถึงความสวยกับความขาวของคุณต่างหาก ไม่ได้หมายความว่าคุณผิวขาวเหมือน หิมะ แล้วจะ เย็นชา เหมือนหิมะนะ ผมไม่ได้พูดอย่างนั้นสักหน่อย”

เดลลอร์ฟยั่วยิ้มพราวระยับ เขาว่ากระทบหล่อนโดยที่หล่อนเอาผิดเขาไม่ได้

“คนขี้ขลาด ว่าฉันแล้วทำไมไม่ยอมรับ แค่บอกว่าฉันเย็นชาเป็นน้ำแข็งขั้วโลก แค่นี้! พูดไม่เป็นรึ!? อ้อ...ฉันลืมไป คุณเดลลอร์ฟคงไม่ถนัด ภาษาคน เพราะขนาดว่าฉันบอกว่าให้ช่วยหลีกทาง คุณยังนิ่งเฉยอยู่ได้ อืม...กระดูก ก็ไม่มีเสียด้วย ฉันจะเอาอะไรล่อคุณดีล่ะ ถึงจะเลิกขวางทางฉันสักที หรือว่าต้องให้ลูบหัวลูบหาง โอย...ไม่ไหวหรอก พอดีฉันแพ้ ขนสัตว์!”

เมรภัทรเชือดนิ่มๆ ด้วยวาจาคมกริบปานใบมีด บุรุษหนุ่มเจ้าของนัยน์ตาสีเงินยวงเจ็บจุกราวถูกเฉือนเนื้อในออกมาเป็นริ้วๆ

“ปากดีไม่มีใครเกิน เมรภัทร ทั้งวงการเนี่ย เธอจะลงให้ฉันสักคนจะเป็นไรไปฮะ”

“ทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น ในเมื่อความจริงคือฉัน เก่งกว่าคุณ”

หล่อนท้าทาย แต่ถอยหลังกรูดเมื่อเขาเข้าประชิดร่างด้วยความรวดเร็ว

“ปล่อย!”

“ไม่! เธอว่าฉันเป็นสัตว์ใช่ไหม อะไรดีล่ะ หมา แมว หรือว่างูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตอบดีๆ ล่ะ ถ้าเธอตอบว่าฉันเป็น หมา ฉันจะเลียปากเธอให้ดู ถ้าบอกว่าเป็น แมว ฉันจะคลอเคลียบดเบียดร่าง นมชนนม กันอยู่อย่างนี้ และถ้าบอกว่าฉันเป็น งู ฉันจะได้จองโรงแรมเพราะเราคงต้องสวมชุดวันเกิด ก่อนจะขึ้นไปกอดรัดกันบน เตียง ว่าไง!? อะไรดี เมรภัทรคนสวย”

เขายั่วต่อ เมรภัทรกัดฟันดังกรอดๆ ระงับความโกรธที่พลุ่งพล่านจนร้อนทั่วเรือนกาย

“ต่ำ! คุณต่ำกว่าสัตว์พวกนั้น เพราะว่าคอกของคุณ มันอยู่ใต้ฝ่าเท้าฉันนี้ไง สัตว์นรก...อื้อ...”

เดลลอร์ฟจัดการลงทัณฑ์คนปากดีด้วยปากของเขา ร่างสองร่างบดเบียดแนบชิดเป็นเนื้อเดียว แสงไฟริบหรี่ด้วยคำสั่งของเดลลอร์ฟทำให้แลเห็นสองร่างกอดรัดกันเป็นเงาตะคุ่มๆ เท่านั้น

ฝ่ามือหนาลูบไล้ทั่วเรือนกายเต่งตึงของวัยสาว ขณะที่เจ้าของพยายามดิ้นหนีสุดชีวิต แต่ไม่อาจต้านทานรสเสน่หาจากเรียวปากคมไปได้

เผียะ!!!

ฝ่ามือบางเงื้อขึ้นสุดแขนแล้วฟาดแรงๆ ลงบนใบหน้าคมคายของศัตรูตัวฉกาจ หล่อนอาศัยวินาทีที่เขาปล่อยให้สูดอากาศเข้าปอดตอบโต้เขา

“ฉันเกลียดที่สุดพวก เดนมนุษย์ ไร้การศึกษา ต่ำ กรี๊ด!!!”

เสียงกรีดร้องจางหายชั่ววินาทีเมื่อจุมพิตลงทัณฑ์บดบี้ลงมาอีกหน ชุดสวยแนบเนื้อแทบจะหลุดติดมือเขา เสียงเมรภัทรทุบอกแกร่งดับตุบๆ แรงๆ ไม่ยั้ง แต่มันไม่สามารถหยุดบทลงทัณฑ์ของซาตานอย่างเขาลงได้

“ว้า...ชุดสวยพังหมดแล้ว”

เดลลอร์ฟยิ้มเย้ย ผลักร่างหล่อนลงบนเก้าอี้ เมรภัทรเข่าอ่อนไม่อาจบังคับกายให้ยืนขึ้นต่อสู้ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเก็บเศษสายเดี่ยวผ้าพลิ้วให้เข้าที่ ดีที่เธอสวมกางเกง ถ้าหากสวมกระโปรงเหมือนเช่นทุกวันคงได้เปลืองตัวมากกว่านี้

น้ำตาหยดหนึ่งรินรดบนหลังมือ สายเดี่ยวตัวสวยขาดวิ่นหาดีไม่ได้ ถ้าออกไปสภาพนี้คงไม่แคล้วได้อายชาวบ้าน

“ปล่อย!” เธอร้องเสียงหลงเมื่อเขาบังคับเชยคางมนของเธอให้เงยขึ้น

“โอ๊ะโอ...น้ำตาเจ้าหญิงหิมะ น่าเสียดายจริงๆ อยากเก็บไปเป็นที่ระลึกจัง”

เขาไม่ว่าเปล่าแต่ดันร่างของหล่อนขึ้นมาแนบชิดอีกหน

“อยากได้งั้นรึ ได้...ถุย!” หยดน้ำลายเปื้อนเปรอะใบหน้างดงามราวเทพบุตรของเดลลอร์ฟ

“เมรภัทร! อยากลองดีใช่ไหมฮะ!”

เดลลอร์ฟไม่รอฟังคำตอบ บังคับร่างบอบบางแนบชิดแผงอก ก่อนจะบดเบียดจุมพิตร้อนๆ บนเรียวปากอิ่มสวย เอาคืน ที่หล่อนกล้าถุยน้ำลายรดหน้าเขา

แผ่นหลังของเจ้าหญิงหิมะสัมผัสกับพนักพิงเก้าอี้อีกครั้ง หล่อนขัดขืนแต่ไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยร่างกายได้ สายเดี่ยวผ้าพลิ้วบางเบาขาดวิ่นอีกระรอก คราวนี้คงฝืนสวมต่อไปไม่ไหว ทรวงอกนุ่มหยุ่นถูกเขาฟอนเฟ้นนวดคลึงผ่านเกาะอกตัวใน

เมรภัทรอยากตายเสียให้ได้ เหตุใดเขาจึงใช้วิธีนี้ลงโทษเธอ มันน่าภาคภูมิใจอย่างนั้นหรือ...

“ฮึกๆ ...ฮึก”

เสียงสะอื้นผะแผ่วดังลอดไรฟันให้เขาได้ยิน เดลลอร์ฟผละออกจากร่างเย้ายวน

เมรภัทรกลั้นสะอื้น สองแขนยกขึ้นกอดกายท่อนบนเพื่อปกปิดเนื้อนวลจากสายตาเขา มันน่าอดสูเมื่อต้องโกยสองเต้าเย้ายวนตาให้เข้าไปอยู่ในเกาะอกตัวจ้อยจิ๋ว

“จำไว้สิ เมรภัทร เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง อย่าปากกล้าให้มากนักเดี๋ยวจะเดือดร้อนไม่รู้ตัว”

เขากระซิบบอกเสียงพร่า เมรภัทรฮึดสู้ หล่อนยืนขึ้นด้วยสองขาของตัวเอง ปาดหยาดน้ำตาให้พ้นใบหน้า ก่อนจะรูดสายเดี่ยวผ้าพลิ้วที่เหลือเศษอยู่รอบเอวออกทางศีรษะแล้วปาใส่เขา ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัว หล่อนจึงเหลือเพียงกางเกงขาสั้นเอวสูงสีดำสนิท กับเสื้อเกาะอกสีเดียวกัน

“แล้วนายคิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหนถึงมากำหนดว่าฉันจะเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ อย่าคิดว่ารังแกฉันได้แล้วฉันจะยอมตกเป็นเบี้ยล่าง เป็นทาสนาย ไม่มีทาง! อยากเห็นฉันอับอายผู้คนใช่ไหม ได้!”

เมรภัทรปาผ้าคลุมไหล่ใส่หน้าเขาอีกผืน ถ้าอยากให้เธออับอายชาวบ้าน ผ้าพันคอผืนบางนี้เธอก็ไม่ควรจะถือมันไป มือเรียวฉวยกระเป๋าที่ร่วงบนพื้นพรมแล้วก้าวขึ้นบนเก้าอี้ก่อนจะกระโดดลงช่องว่างระหว่างทางเดินของเก้าอี้อีกแถว

เดลลอร์ฟไม่มีทางให้ลูกไก่ในกำมือหลุดลอดไปได้ มือหนาคว้าเอวบางได้อีกครั้งเขาแบกหล่อนเข้าหลังเวทีละคร ท่ามกลางเสียงกรีดร้องแสบแก้วหู

“ฉันจะเอาเรื่องนายให้ถึงที่สุด นายเดล! ปล่อย!”

ตุ้บ!

ร่างสวยงอคู้อยู่บนกองผ้าม่าน ด้านหลังเวทีมีแสงสว่างรำไร เมรภัทรแลเห็นอุปกรณ์ประกอบฉากจำพวกโต๊ะตู้รวมกันอยู่อีกด้าน ให้ตายเถอะ! ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นใดในนี้ นอกจากเขาและเธอ

นัยน์ตาคมวาววับทั้งตระหนกและหวาดหวั่น แต่ด้วยหัวใจที่สู้ไม่ถอยทำให้เมรภัทรยังดิ้นรนขัดขืน เสียงหวีดร้องของเจ้าหญิงหิมะระงมก้องโรงละคร

อนิจจา เวรกรรมจากฟ้าหรือชะตาลิขิตให้เจ้าหญิงบนหอคอยถูกกระทำย่ำยี ราวสตรีสาธารณะ

“อย่า! ได้โปรด อย่าทำอะไรฉันเลย นายอยากได้อะไรฉันจะให้ เดล ขอร้อง”

เมรภัทรสะอื้นฮักอยู่ใต้ร่าง ความเป็นหญิงถูกเผยออกทีละนิดด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว เขาดึงทึ้งกางเกงตัวสวยจนหลุดจากร่าง สองมือของเธอถูกตรึงเหนือศีรษะ เจ็บร้าวทรมานเพราะการกระทำต่ำทรามเยี่ยงสัตว์นรก!

“ฉันไม่รู้ว่าสิ่งใดทำให้เราสองคนต้องมาเจอกันในสภาพนี้ แต่ฉันบอกได้คำเดียว มันแค่เริ่มต้นเท่านั้น”

เสียงคำรามต่ำด้วยพึงพอใจยังก้องอยู่ในหู เมรภัทรหลับตากล้ำกลืนความเจ็บปวด ริมฝีบางถูกเขาบดจุมพิตครั้งแล้วครั้งเล่า เมรภัทรไม่เข้าใจ เธอไม่เคยมีคนรัก ไม่รู้ว่าหญิงชายร่วมรักกันต้องจูบกันดูดดื่มถึงเพียงนี้ หลายครั้งที่เธอแทบขาดใจเพราะเขาเพียรจูบจุมพิตไม่ยอมปล่อย

“ไม่! เดล...อย่า!” หล่อนร้องขอเมื่อเห็นกายแกร่งผงาดง้ำอยู่ต่อหน้า

หัวใจหญิงสาวเต้นถี่ระรัว เขาจะรู้บ้างไหม เจ้าหญิงหิมะบนหอคอยน้ำแข็ง ไม่เคยต้องมือชาย

เดลลอร์ฟตาเบิกโพลงไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวตนของเขาได้สัมผัส เมรภัทร หล่อนยัง...บริสุทธิ์

เดลลอร์ฟคำรามลั่น กรามแกร่งบดเบียดกันแน่น จะหยุดตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว

ใบหน้าสวยหวานบิดเบ้เหยเก เจ็บจุกที่ช่องทางเสน่หา หยาดน้ำตาเอ่อคลอเต็มสองเบ้าก่อนจะไหลลงเป็นทางยาวอาบแก้มนวลหยดแล้ว...หยดเล่า

เดลลอร์ฟจับยกเรียวขางามให้ตั้งชัน รั้งเอวบางคอดกิ่วให้เข้าใกล้อีกนิด หล่อนรับเขาไว้ไม่ได้ มันคับติ้วจนเขาอยากปลดปล่อยให้รู้แล้วรู้รอด เขาจำต้องรีบเปลี่ยนท่วงท่าก่อนที่หล่อนจะขาดใจตายเสียก่อน

เมรภัทรสะดุ้งเฮือกหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเขาถอดถอนความเป็นชายออกไป มันเข้ามาได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น แต่ให้ตายเถอะ เจ็บปวดสุดบรรยาย!!!

ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนในท่ามั่นคง หล่อนคับแคบเกินไปในท่วงท่าเริ่มต้น เขาก้มลงไปเหนี่ยวรั้งเอวคอดกิ่วให้ลุกขึ้นมาด้วยกัน

“นาย...จะทำอะไร?”

เสียงแหบแห้งสั่นเครือถามออกไป หล่อนหวีดร้องจนไม่มีเสียงจะเอ่ยให้เขาได้ยิน

“ชู่ว์...ปล่อยตัวตามสบาย เมรภัทร แล้วเธอจะผ่านมันไปได้ เชื่อฉัน”

ตัดฉากXXX**********************

เจ้าหญิงหิมะผู้เลอโฉม สโนว์ไวท์ของเดล หล่อนยังไม่เคยมีใคร...น่าภูมิใจจริงๆ

เสียงหัวเราะหึๆในลำคออย่างพึงพอใจ เมรภัทรหน้าเสีย ถอยหลังชิดฝาผนัง แต่เดลลอร์ฟก็คว้าเอวของเธอจนได้ เขาอุ้มเธอไปวางบน เตียงของจูเลียต เธอจำได้ เมื่อสักครู่จูเลียตสังหารตัวเองบนเตียงนี้ สังหารตัวเองด้วยความรักที่มีต่อโรเมโอ...แล้วเธอเล่าเมรภัทร เธอกำลังเข่นฆ่าตัวเองอยู่ใช่หรือไม่ อาวุธที่เธอใช้ มันคือความจริงนั่นไง ความจริงที่น่าละอาย มันไม่อาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายของเธอสุขสมเหลือเกินจากการถูก ข่มขืน ในครานี้

“อะไร!”

เมรภัทรร้องอย่างตกใจเมื่อเขาเล้าโลมเธออีกหน เจ้าแก่นกายเครียดขึงร้อนผ่าวก็เอาแต่ถูไถที่ประตูสู่สวรรค์ไม่หยุดหย่อน ขนอ่อนบนเรือนกายลุกตั้งชูชันทั้งที่มันสงบลงแล้วเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา

“ไม่เอาน่า สโนว์ไวท์ของเดล ใจคอจะทิ้งกันง่ายๆ อย่างนี้หรือ ไม่มีทาง อย่างนี้เอาเปรียบกันชัดๆ”

เขาตัดพ้อเสียงอ่อนลงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าหล่อเหลาเกินชายก้มลงจุมพิตแก้มนวลอย่างหลงใหล เมรภัทรสับสนกับท่าทีที่อ่อนลง

“พอเถอะเดล พายเจ็บ” หล่อนร้องเสียงเครือ คำแทนตัวที่ใช้กับคนในบ้านและญาติสนิทถูกนำออกมาใช้ด้วยหวังให้เขาเอ็นดู

เดลลอร์ฟหัวใจกระตุก เขาไล้ปลายนิ้วหัวแม่มือบนริมฝีปากบวมเจ่ออย่างชั่งใจ

“มันจะไม่เจ็บเชื่อเดลนะคนดี”

เขาพร่ำบอกเสียงนุ่มอ่อนโยน เมรภัทรไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเขา หล่อนเผลอแยกเรียวขาออกให้ทีละน้อย เดลลอร์ฟยิ้มกว้างก้มลงหอมแก้มนวลดังฟอดแรงๆ อย่างหมั่นเขี้ยว เมรภัทรตาขวางแต่เดลไม่แยแส

= =" พระนางจ้ำจี้บ่อยมาก ตัดฉากค่า Y^Y



“นาย! ลืมป้องกัน!” หล่อนตวาดเสียงดังลั่น น้ำตาร่วงริน

“ทุเรศ! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้ ลุกออกไปจากฉัน!” หล่อนประกาศกร้าวทั้งน้ำตา เดลลอร์ฟใจอ่อนยวบจะให้หล่อนรู้ได้อย่างไรว่าเขา ตั้งใจ



Lilly
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 มี.ค. 2556, 03:35:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 มี.ค. 2556, 03:35:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1368





   บทที่ 2ปมมัดใจ >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account