แผนรักพันใจ
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 20
เชฟหนุ่มหรือจะเรียกว่าเชฟสาวในร่างชายหนุ่มอย่างนิคมเงยหน้าจากการแต่งหน้าขนมคัพเค้กเมื่อพนักงานคนหนึ่งมาแจ้งในครัวเบเกอรี่ว่ามีแขกมาพบ
"แขกที่ไหน...โพกผ้ารึเปล่า หรือมาแนวเจ้าชายอาหรับ"
"ไม่ใช่ค่ะคุณคม" เด็กสาวยิ้มขัน "คนไทยบอกว่าชื่อคุณธนิน"
"อ้อ...นึกว่าใคร บอกว่าเดี๋ยวตามไป แต่งหน้าคัพเค้กอีกไม่กี่ชิ้นก็เสร็จแล้ว ถามคุณเค้าด้วยว่าจะรับเครื่องดื่มหรือขนมอะไรรึเปล่า แล้วก็บอกที่แคชเชียร์ด้วยว่าคนนี้ไม่ต้องคิดเงิน" นิคมสั่งการแล้วนึกขึ้นได้ว่าอาจเกิด 'ข่าวลือ' สะพัดจากฐานะพิเศษของแขกคนนี้ได้ จึงรีบอธิบาย "คนนี้เพื่อนคุณจา...จำคุณจาได้ใช่ไหม ไม่ต้องเอาไปลือกันผิด ๆ นะจ๊ะ พี่ไม่รับประทานผู้ชายของเพื่อน"
นิคมใช้เวลาอีกพักใหญ่กับการแต่งหน้าคัพเค้กพักใหญ่กว่าจะเรียบร้อยพร้อมให้ลูกจ้างนำไปใส่ตู้แช่ ถอดผ้ากันเปื้อนแขวนแล้วเดินออกจากครัวไปมองหา 'แขก'
ร่างสูงของธนินมองเห็นได้ไม่ยากนัก นิคมเดินไปหยุดยืนมองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะสลับกับสีหน้าที่ดูซังกะตายของผู้มาเยือนแล้วส่ายหน้า หย่อนตัวลงนั่ง
"กลัวนิกกี้คิดเงินหรือไงคะคุณนิน สั่งน้ำเปล่าขวดเดียว" ธนินดูร้อนรนไม่มีท่าทีว่าจะนึกขันกับการยั่วล้อทำเอาคนที่ตั้งใจจะพูดให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นต้องถอนใจหนักออกมาเสียเอง "อย่าทำหน้าแบบนี้สิคุณนิน ปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้กลุ้ม"
"แล้วมันไม่น่ากลุ้มเหรอครับคุณนิกกี้"
"มาก" นิคมยอมรับตามตรง
"ผมติดต่อคุณจาไม่ได้เลย"
"คุณยายบังคับให้เปลี่ยนเบอร์" นิคมบอกความจริงกับชายหนุ่ม เมื่อเห็นธนินชันตัวตรงก็รู้ทันทีว่าเขาจะเอ่ยถามอะไร "อ๊ะ...บอกไม่ได้นะคุณนิน แค่นี้คุณยายยังโกรธนิกกี้อยู่เกือบเดือน อีกอย่างคุณยายมีมาตรการล็อคสองชั้นป้องกันสองเด้ง นอกจากเปลี่ยนเบอร์แล้วตอนนี้คุณยายต้องสกรีนทุกสายที่โทร.เข้า กว่าจะได้คุยกับยัยจา แล้วเวลาคุยก็ต้องผ่านสปีกเกอร์โฟน"
"ผมเลยไม่มีโอกาสคุยกับคุณจาเลย คุณยายตามมาเฝ้าที่โรงเรียนจนตอนนี้หมดคอร์สไปแล้ว"
"คุณยายยอมให้ยัยจาไปสอนต่อจนจบคอร์สก็บุญแล้วล่ะคุณนิน ตอนนี้ประกาศเลยว่า ยัยจาจะไปสอนไปทำอะไรที่ไหนก็จะตามไปคุมทุกที่...นึกถึงละครที่เคยดูน่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อนมีหวังเพื่อนฉันโดนโซ่ล่ามขาไว้กับเตียงแล้วล่ะ"
"ทำยังไงคุณยายจะใจอ่อนล่ะคุณนิกกี้" ธนินถอนใจ "ผมเพียรไปเฝ้าคุณจาที่ร้าน ดักที่ทางเข้าสวนอาหารแต่คุณยายก็คุมแจ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรกับคุณจาเลยสักคำ"
"เฮ้อ...โลกมันกลมจริง ๆ นะ ไม่คิดเลยว่าแม่คุณจะไปหมายตาจินนี่เข้า คุณยายเลยยิ่งพื้นเสีย ไหนจะโดนหลานโกหก ไหนจะโดนสองแม่ลูกนั่นมาถอนหงอกถึงบ้านอีก"
ธนินไม่รู้จะตอบอะไรเพราะเรื่องทั้งหมดที่ได้รับรู้จากผู้เป็นอานั้นก็เกินความคาดหมายของเขาไม่น้อยและทำให้รู้สึกว่าโอกาสที่จะเข้าถึงตัวจารุดาได้ยิ่งยากเย็นยิ่งกว่าเดิม
หลังเกิดเรื่องยายจันทร์ยื่นคำขาดไม่ให้เขาไปเป็นลูกค้าที่บ้านสวนคุณจันทร์อีก เขาจึงได้รู้เรื่องราวในอดีตของคนบ้านสวน รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างจารุดาและสุจิรา รวมถึงได้รู้ว่าแม้แต่ผู้เป็นอาเองก็ต้องยอมที่จะตัดใจจากผู้หญิงที่ตัวเองรัก เพราะคุณจอมขวัญเลือกที่จะไม่ทำร้ายจิตใจของผู้เป็นน้า ครองตัวเป็นโสดดูแลน้าและหลานสาวมาจนบัดนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นประกอบกับลิลลี่กำลังวุ่นวายกับกิจกรรมของโรงเรียนคุณบัณทัตก็ตัดสินใจที่จะทิ้งระยะ 'การไปเป็นลูกค้า' ที่บ้านสวนคุณจันทร์ไปสักพัก เขาจึงไม่ได้รู้ความเป็นไปของจารุดาเลย
"ผมจนปัญญาจริง ๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีล่ะคุณนิกกี้ ช่วยคิดหน่อย"
"โอ๊ย...ถ้ามันง่ายอย่างนั้น คนที่ทั้งสวยทั้งฉลาดอย่างนิกกี้คิดออกไปนานแล้วล่ะค่ะ คุณนินเจ้าขา" คนสวยและฉลาดทำหน้าเซ็งโลก "เอาจริง ๆ คุณนินรอเวลาหน่อยก็แล้วกัน"
"เวลา...เวลาอะไรครับ"
"ก็รอจนกว่าจะถึงเวลานั้น"
"คุณนิกกี้ว่าคุณยายของคุณจาจะใจอ่อนเองง่าย ๆ เหรอ"
นิคมส่ายหน้า "ไม่ใช่รอเวลาให้คุณยายใจอ่อน...โอ๊ย...อย่าให้พูดสิ มันไม่ดี เหมือนแช่งคนแก่"
"โธ่...คุณนิกกี้ อย่าพูดเล่นสิ"
"ไม่ได้พูดเล่นนะคุณนิน นิกกี้ช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ นะคะ นี่ทั้งคร่ำครวญรำพัน คุกเข่าขอโทษคุณยายอยู่ตั้งนานกว่าคุณยายจะรำคาญตัดใจยกโทษให้ ขืนเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคุณนินกับยัยจาอีก คราวนี้คุณยายได้ฆ่านิกกี้แน่ ๆ ตัดใจดีไหมคุณนิน คิดซะว่าไม่ได้เป็นคู่กับยัยจา ผู้หญิงในชีวิตคุณ สวยเซ็กส์เอ็กซ์บึมกว่าเพื่อนฉันทั้งนั้น กินง่ายอีกต่างหาก เพื่อนฉันดูธรรมดาหน้าตาไม่น่ากินแถมกินยากหนามเยอะ"
"ผมไม่มีทางตัดใจจากคุณจาแน่ ๆ คุณนิกกี้"
"ถ้าไม่ยอมตัดใจแล้วจะไปทำอะไรได้ล่ะคุณนิน แค่จะหาวิธีเอาชนะใจคุณยายจันทร์ยังทำไม่ได้เลย เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดถึง"
"มันต้องมีสักทาง ต้องมีโอกาสที่ผมจะทำให้คุณยายมองผู้ชาย มองคนอย่างผมใหม่"
"ไหนจะปัญหาเรื่องจินนี่อีกล่ะ ตกลงคุณปฏิเสธกับแม่ไปแน่แล้วเหรอว่าไม่เอาแน่ ๆ หรือว่ายังแบ่งรับแบ่งสู้"
"เรื่องจินนี่...ผม...เอ่อ..."
"แสดงว่าเรื่องจินนี่ยังไม่จบใช่ไหมคุณนิน" นิคมถอนใจแรง "บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าไม่เคลียร์เป็นเรื่อง ๆ ยัยจินนี่ตามไปวี๊ดที่บ้านสวนอีก รับรองเรื่องของคุณกับยัยจาปิดฉาก ไม่ต้องหวังอะไรกันอีกต่อไป"
"ผมจะจัดการเรื่องนั้นให้เด็ดขาดแล้วก็จะทำให้คุณยายใจอ่อนให้ได้ ไม่เชื่อคุณนิกกี้คอยดูก็แล้วกัน"
นิคมกรอกตาลงพื้นขณะที่ก้มหน้าซ่อนยิ้มขัน...ให้มันได้อย่างนี้สิว่าที่คุณเพื่อนเขย
หญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าปีตื่นนอนแต่เช้าในวันที่จารุดาต้องไปควบคุมการจ่ายตลาดของแม่ครัว แม้จะยังแข็งแรงดีแต่เพราะเคร่งเครียดกับการต้องคอยคุมหลานสาวอย่างเข้มงวดมาตลอดเวลาร่วมหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะตื่นเช้าไปตลาด คอยตามไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่หลานสาวต้องไป ทำให้ร่างกายของคุณยายจันทร์เริ่มอ่อนเพลียเมื่อกลับมาถึงบ้านสวนยืนคุมจนจารุดาสั่งการให้แม่ครัวและลูกจ้างนำของไปเตรียมต่อในครัวแล้ว หญิงชราก็หันหลังเดินขึ้นบันไดตั้งใจจะกลับเข้าไปเอนหลังนอนพักที่ห้อง แต่ก้าวขึ้นบันไดเพียงไม่กี่ก้าวก็เกิดอาการหน้ามืดเกือบจะหงายหลัง ดีที่จารุดาซึ่งเดินตามขึ้นมาปรี่เข้าประคองไว้ทัน
"ยาย...หน้ามืดใช่ไหมจ๊ะเนี่ย...จาบอกยายแล้วว่าไม่ต้องตื่นไปคุมจาก็ได้"
"เป็นห่วงยายหรือว่าอยากจะเป็นอิสระ จะได้หาโอกาสแอบนัดแนะไอ้หนุ่มคนนั้น"
"อย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นเลยนะจ๊ะยาย ยายหน้าซีดมากเดี๋ยวเป็นลมล้มพับไปตรงนี้จะอันตราย" จารุดาเอ่ยอย่างใส่ใจในอาการของผู้เป็นยายมากกว่าจะสนใจคำประชดประชันนั้น "ไปจ๊ะ เดี๋ยวจาพายายไปนอนพักที่ห้องนะจ๊ะ"
หญิงชราขยับจะเอ่ยอะไรแต่เมื่อเห็นแววตาของหลานสาวแล้วก็เปลี่ยนใจยอมให้จารุดาประคองให้เดินไปที่โถงกลางเรือนซึ่งมีหมอนสามเหลี่ยมวางอยู่บนเสื่อใกล้กับโต๊ะเล็กสำหรับนั่งรับประทานอาหารกับพื้น หลานสาวช่วยให้ผู้เป็นยายหย่อนตัวลงนั่งบนเสื่อเสร็จก็รีบเดินไปที่ตู้ยาซึ่งแขวนอยู่กับผนังด้านหนึ่งนำยาดมกลับมาส่งให้คุณยายจันทร์
"ยาดมจ๊ะ เดี๋ยวจาไปดูในครัวนะจ๊ะว่าน้าขวัญทำอะไรอยู่ จะได้รีบยกมาให้ยาย"
คุณยายจันทร์เพียงพยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มอ่อนให้หลานสาวแต่กิริยาเพียงเล็กน้อยนั้นกลับสร้างให้เกิดรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของจารุดา หญิงชราชะงัก มองตามหลังคนที่เดินลงบันไดไปที่ครัวใต้ถุนเรือน
ตั้งแต่วันที่สองแม่ลูกมาโวยวายเรื่องจารุดาไปยุ่งเกี่ยวกับธนินซึ่งคุณสโรชาหมายตาไว้เป็นคู่หมั้นคู่หมายของลูกสาว หญิงชราก็ทำท่าทีมึนตึงกับจารุดา แม้จะคอยติดตามหลานสาวไปทุกที่ รู้ดีตลอดว่าคนเป็นหลานพยายามเอาอกเอาใจตนและยอมทุกอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ ทั้งไม่ต้องการให้ผู้เป็นยายต้องกลัดกลุ้ม แต่คุณยายจันทร์ก็ยังอยากจะให้บทเรียนกับจารุดาโดยการทำทีเฉยชากับความพยายามเอาใจใส่ของหลานสาว
การต้องทำเป็นไม่สนใจหลานนั้นสร้างความเหน็ดเหนื่อยใจให้กับหญิงชรามากกว่าความเหนื่อยล้าทางร่างกายที่ต้องคอยตามจารุดาไปทุกที่เพื่อคอยกีดกันไม่ให้ธนินได้เข้ามาใกล้
ชายหนุ่มไม่ได้หายหน้าไปอย่างที่คุณยายจันทร์คิด ธนินเพียรมาจอดรถดักรอที่ทางเข้าบ้านสวน คนเป็นยายพยายามจับสังเกตหลานสาวรู้ว่าจารุดามองเห็นชายหนุ่มแต่ต้องพยายามตัดใจทำเหมือนไม่สนใจ รวมไปถึงตอนที่พบชายหนุ่มในฐานะครูและศิษย์ในโรงเรียนสอนทำอาหาร จารุดาก็ใส่ใจธนินเพียงในฐานะลูกศิษย์ ไม่มีการพูดคุยวิสาสะใด
การที่จารุดาแสดงท่าทีว่าเลือกที่จะตัดขาดกับชายหนุ่มมากกว่าที่จะขัดใจผู้เป็นใจรวมทั้งความใส่ใจที่หลานสาวมีให้ในวันนี้ทำให้หญิงชราตัดสินใจที่จะเลิกมาตรการเพิกเฉยต่อหลานสาว แต่อย่างไรเสีย...เรื่องธนินจะยอมไม่ได้เด็ดขาด
การสูญเสียพี่สาวทั้งสองคนรวมถึงหลานสาวอีกหนึ่งคนคอยย้ำเตือนเสมอว่าจะยอมให้ใครพลาดพลั้งจนชีวิตพังทลายไปอีกไม่ได้
แต่ไอ้หนุ่มนั่นยังไม่ยอมหยุดสักที...ตามตื้อต่อแบบนี้ มีหวังหนูจาของยายต้องใจอ่อนกับมันเข้าสักวัน...แล้วนี่ยายจะทำยังไงดี
จารุดาเสียบเมมโมรี่การ์ดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาซึ่งตอนนี้ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ เพราะคุณยายจันทร์ตัดการติดต่อกับโลกภายนอกของหลานสาวในทุกวิถีทาง หากจะใช้คอมพิวเตอร์หญิงสาวต้องไปใช้เครื่องที่สำนักงานภายใต้การควบคุมของผู้เป็นยายเท่านั้น โทรศัพท์มือถือหมายเลขใหม่ที่คุณยายจันทร์เปลี่ยนให้ก็จะพูดคุยได้แต่เรื่องงานหรือเพื่อนที่คุณยายรู้จักเท่านั้นและเมื่อถึงเวลาเข้าห้องนอนก็จะโดนริบไว้
เมื่อคลิกเปิดโฟลเดอร์ขึ้นมาภาพของเธอและธนินที่นิคมแอบถ่ายไว้ในอิริยาบถต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ หญิงสาวกดเลื่อนดูรูปภาพไปทีละรูป ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในภาพนั้น
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้จารุดาต้องรีบพับปิดคอมพิวเตอร์พกพาเก็บเอาไว้ในลิ้นชักทันที คืนนี้เป็นคืนแรกที่คุณยายจันทร์ย้ายกลับไปนอนที่ห้องนอนของตนเอง คืนอิสระส่วนหนึ่งให้หลานสาวหลังจากวันที่คุณสโรชาและสุจิรามาอาละวาดเผยความจริงของเธอกับธนิน หากคุณยายมาเห็นว่าหลานสาวกำลังทำอะไรอยู่ดีไม่ดี อิสรภาพที่ได้คืนมาคงจะหมดไป เผลอ ๆ จะโดนควบคุมเสียยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเดินไปที่ดึงสลักไม้แง้มประตูห้องเห็นว่าคนที่ยืนอยู่คือคุณจอมขวัญ หญิงสาวก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งดึงเปิดประตูกว้างขึ้น คุณจอมขวัญเหลียวหลังมองไปรอบโถงเรือนเหมือนจะระแวดระวังอะไรอยู่ก่อนจะรีบก้าวเท้าเข้ามา อาการของผู้เป็นน้าทำให้จารุดาขมวดคิ้วอย่างสงสัย
"น้าขวัญมีเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ”
คุณจอมขวัญยกนิ้วมือขึ้นแตะริมฝีปาก ส่งโทรศัพท์มือถือที่ถืออยู่ในมือให้หลานสาว จารุดาเห็นชื่อบนหน้าจอแล้วต้องหันไปมองน้าสาวด้วยความตกใจ ต้องรวบรวมสติอยู่พักหนึ่งกว่าจะยกขึ้นกล่าวคำทักทายกับปลายสายได้
“คุณจา”
“คุณนิน”
“ผมรู้จากคุณอาว่าคืนนี้คุณยายยอมให้คุณจานอนคนเดียวแล้ว เลยโทร.หาคุณน้าคุณคิดว่าเราคงจะหาทางคุยกันได้”
“คุณนินคะ...ฉัน...”
“ผมอยากคุยกับคุณจามากเลยครับคุณจารู้ไหม”
ธนินเอ่ยขัดทำให้จารุดาไม่อาจพูดสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ ตั้งแต่เห็นยายจันทร์ทำท่าเหมือนจะเป็นลมเมื่อเช้า หญิงสาวก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้เป็นยายสบายใจ ทำอย่างไรให้ตนเองสามารถตัดธนินออกไปจากชีวิตได้ แต่เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของชายหนุ่มก็ทำให้เธอลืมความคิดนั้นไปเสียหมด
“คุณนิน...ฉันไม่อยากทำให้ยายเสียใจ”
“คุณจาฟังผมนะครับ จะไม่มีใครต้องเสียใจ เพราะผมจะไม่ทำให้คุณจาเสียใจ คุณยายคุณไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาเสียใจกับเรื่องของเราสองคน”
ธนินเอ่ยโดยไม่มีสิ่งใดมาเป็นหลักประกันแต่แปลกที่หญิงสาวเชื่อเขาแทบจะทันทีที่หูได้ยินน้ำเสียงที่สื่อชัดถึงแววของความอาวรณ์โหยหานั้น
“เราจะทำยังไงกันดีคะ”
“ผมจะพยายามทำให้คุณยายของคุณใจอ่อนให้ได้ ผมสัญญาครับคุณจา ผมจะไม่ยอมแพ้” น้ำเสียงของธนินร้อนรนเล็กน้อย “แต่ผมไม่อยากรออีกต่อไปแล้วนะครับคุณจา ผมจะเดินหน้า ไม่อยู่เฉยอีกแล้ว”
“อาการยายวันนี้ไม่ค่อยดีเลย คุณอย่าเพิ่งรีบร้อนนะคะ ฉันขอร้อง รออีกสักหน่อย”
“ก็ได้ครับ ระหว่างนี้ผมจะได้จัดการเรื่องของผมให้เรียบร้อย”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องจินนี่...ผมจะยืนยันกับทุกคนว่ายังไงผมก็ไม่มีทางจะชอบจินนี่ได้ เพราะผมชอบคุณจา”
“คุณนิน”
“ผมสัญญาครับ ว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย จะไม่มีเรื่องของคนอื่นมาพัวพันกับเราอีก ต่อไปเราจะได้แก้ปัญหาของเราด้วยกัน”
คุณจอมขวัญที่ยืนมองหลานสาวอยู่ขยับเดินเข้ามาใกล้กระซิบเตือนหลานสาวไม่ให้ใช้เวลานานเกินไปนัก จารุดาจึงจำต้องตัดบทจากธนินก่อนเอ่ยราตรีสวัสดิ์ ส่งคืนอุปกรณ์สื่อสารให้ผู้เป็นน้า
“น้าขวัญ...ทำแบบนี้เสี่ยงมากนะจ๊ะ ถ้ายายรู้เข้าล่ะก็”
“น้าจันทร์ไม่ได้สงสัยน้ากับพี่...เอ่อ...คุณทัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางนั้นมีเบอร์โทรศัพท์ของน้า จาเองก็อย่ากระโตกกระตากไปก็แล้วกันนะ” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าอ่อนใจ “น้าจันทร์ผ่านเรื่องร้ายมามากก็จริง แต่ระยะหลังมานี่น้าจันทร์ดูจะลืมเรื่องพวกนั้นไปได้แล้ว แต่จะให้ยอมรับผู้ชายเข้ามาในชีวิตของลูกหลานคงจะยากสักหน่อย”
“จากกลัวว่ายายจะล้มป่วยไปอีกเหมือนที่น้าขวัญเล่าให้ฟัง”
“ตอนนั้นน้าจันทร์เสียทั้งพี่สาว เสียทั้งหลาน มันคงเกินรับได้ แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วนะหนูจา”
“น้าขวัญไม่เคยคิดเรื่อง...เอ่อ...”
“เรื่องผู้ชายน่ะเหรอจ๊ะ” คุณจอมขวัญส่ายหน้า “น้าดูแลน้าจันทร์ดูแลจามาจนเลยวัยที่จะคิดถึงเรื่องนั้นแล้วล่ะ”
“ถึงแม้ว่าจะมีคนที่น้าขวัญอยากจะร่วมชีวิตด้วยน่ะเหรอจ๊ะ”
จารุดาตัดสินใจเอ่ยถามในสิ่งที่คิด เธอพอมองออกถึงเหตุผลที่ผู้เป็นน้าสนับสนุนเธอ ทั้งจากพฤติกรรมที่เทียวมาอุดหนุนร้านอาหารแทบจะวันเว้นวันของคุณบัณทัตที่จะว่าไปแล้วไม่ต่างกับธนินเท่าใดนักเพียงแต่โชคดีที่มีลิลลี่มาเป็นตัวประสาน ทั้งจากการที่คุณจอมขวัญยอมที่จะมีเบอร์โทรศัพท์ของคุณบัณทัตไว้ในเครื่อง
ไม่ใช่ว่าจะไม่คิด หากคุณจอมขวัญเลือกที่จะยอมเก็บงำความต้องการของตนมาโดยตลอด
“น้าขวัญนึกถึงยาย นึกถึงจามาตลอด ถ้าจาทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง...ก็เหมือนกับว่าจาเอาเปรียบน้าขวัญ”
“สถานการณ์มันต่างกันนะหนูจา ตอนนั้นน้าเองก็อยู่ในความสูญเสียเหมือนกัน เห็นน้ำตา เห็นความทุกข์ของคนบ้านนี้มามากจนไม่อยากจะเห็นอีกแล้ว...แต่สำหรับของหนูจามันต่างไป” คุณจอมขวัญระบายความในใจ “น้าโชคดีที่ยังมียายแล้วก็มีหนูจา แต่อีกหน่อยถ้าน้าไม่อยู่ ยายไม่อยู่ หนูจาจะทำยังไง การเป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวยามแก่เฒ่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว”
หญิงสาวที่ยืนฟังผู้เป็นน้านิ่งคิดตาม
“นอกเสียจากว่าหนูจาไม่ได้รักคุณนินเค้า”
อาการนิ่งของหลานสาวแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี คุณจอมขวัญจึงได้แต่ยิ้มอ่อน ยกมือขึ้นวางบนบ่าของจารุดาอย่างปลอบประโลม
ธนินเงยหน้าจากแฟ้มข้อมูลแผนการประชาสัมพันธ์ของห้างเดอะเบสท์ เมื่อได้รับแจ้งจากเลขานุการสาวผ่านเครื่องอินเตอร์คอมว่ามารดาของเขามาพบ เพียงไม่นานประตูห้องก็เปิดออก หญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อแขนกระบอก กระโปรงผ้าไหมสีเขียวเดินยิ้มแย้มเข้ามาหาลูกชายคนเล็ก หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับลูกชาย
"งานยุ่งไหมตานิน"
"ช่วงนี้ก็ไม่มากเท่าไหร่ครับคุณแม่" ธนินปิดแฟ้มข้อมูล "ผมว่ากำลังจะพักเที่ยง คุณแม่ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ"
"ก็ดีเหมือนกันนะ วันนี้พ่อเค้าคงไม่ว่างกินข้าวกลางวันกับแม่ วันนี้ขอควงลูกชายสักวันก็แล้วกัน แต่ออกไปกินข้างนอกกันนะลูกแม่เบื่อหาร้านในห้างแล้ว"
"ครับ แต่เดี๋ยวผมขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับ"
"ตามสบายจ๊ะ แม่จะได้คิดด้วยว่าจะไปกินอะไรกันดี"
คุณธนัญญารอกระทั่งลูกชายเดินออกจากห้องทำงานจึงค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสาย ไม่ได้ใช้เวลากับการคิดเลือกร้านอาหารอย่างที่บอกไว้แต่จัดแจงเลือก 'คน' มาร่วมโต๊ะอาหารกลางวันด้วย
ธนินบอกกับเลขานุการหน้าห้องว่าอาจจะใช้เวลาพักกลางวันนานเล็กน้อยก่อนจะพามารดาเดินทางออกจากห้างสรรพสินค้าเดอะเบสท์ไปยังร้านอาหารที่มารดาเลือกและโทรไปจองโต๊ะไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่เป็นจุดหมายธนินก็เดินเคียงคุณธนัญญาเข้าไปภายในตัวร้านซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นแต่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยอยู่ที่ของประดับร้าน ทั้งรูปภาพ เครื่องปั้น เครื่องไม้สลัก เมื่อพนักงานได้รับแจ้งชื่อจากคุณธนัญญาก็เดินนำไปที่โต๊ะที่จองเอาไว้
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าที่โต๊ะมีใครคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขาและมารดา ลุกขึ้นเดินเข้ามากระพุ่มมือไหว้คุณธนัญญา
"คุณป้า พี่นิน...จินนี่ยังไม่ได้สั่งอาหารนะคะ รอให้พี่นินกับคุณป้ามาช่วยเลือกด้วย กลัวว่าสั่งไปแล้วจะไม่ถูกปาก"
"แหม...ป้าให้หนูจินนี่เป็นคนช่วยเลือกร้าน แล้วหนูจินนี่ก็แนะนำว่าร้านนี้อร่อยหนูก็ต้องรู้ดีกว่าป้ากับพี่นินอยู่แล้วล่ะจ๊ะว่ามีอะไรอร่อยบ้าง"
"จินนี่ให้คุณป้ากับพี่นินเลือกเผื่อว่าจินนี่จะได้ลองอะไรใหม่ ๆ ด้วยไงคะ"
หญิงสาวยิ้มอ่อนหวานเกาะแขนคุณธนัญญาพาเดินไปที่นั่งที่โต๊ะ สองแม่ลูกนั่งฝั่งเดียวกัน สุจิราขยับไปนั่งคนละฝั่งโต๊ะ พนักงานนำรายการอาหารอีกสองเล่มมาส่งให้ผู้ที่เพิ่งมาถึง
ธนินเปิดดูรายการอาหารซึ่งมีภาพอาหารน่ารับประทานและกวาดตาผ่านชื่ออาหารแต่ละชนิดแต่ใจกลับครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จลุล่วง
ชายหนุ่มปล่อยให้มารดาและสุจิราสั่งอาหารกันเพียงสองคนและนั่งร่วมโต๊ะตามมารยาทแทบไม่เอ่ยอะไรกับสุจิราแม้ว่าคุณธนัญญาจะพยายามสร้างหัวข้อสนทนาให้หนุ่มสาวทั้งคู่ได้พูดคุยกัน
สุจิรายังคงยิ้มให้เขาและแม่อยู่ตลอดเวลาแต่ธนินไม่รู้สึกถึงความสดใสของหญิงสาวเพราะใจนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้รับรู้จากผู้เป็นอาและนิคม สองแม่ลูกที่ดูมีอัธยาศัยดีกลับไปก่อเรื่องระรานครอบครัวของจารุดา ทั้งที่คุณสโรชาถือว่าเป็นคนที่มีส่วนทำให้ครอบครัวของจารุดาต้องพบกับการสูญเสียครั้งสำคัญ
มารดาของเขาไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของสองครอบครัวและธนินก็ไม่คิดว่าการนำเรื่องเหล่านั้นมาขยายต่อจะเป็นเรื่องดี เขาเพียงแค่ต้องแสดงความต้องการหรือจะให้ถูก...แสดงความไม่ต้องการให้ผู้ให้กำเนิดเห็น
หลังจัดการจ่ายค่าอาหารมื้อนั้นเรียบร้อยทั้งสามก็พากันเดินไปที่รถของธนิน คุณธนัญญาให้ลูกชายติดเครื่องยนต์รถให้เข้าไปนั่งรอยกมือรับไหว้เมื่อสุจิราไหว้ลาก่อนสั่งให้ธนินเดินไปส่งสุจิราที่รถ หญิงสาวมองอาการนิ่งเฉยของธนินแล้วเอ่ยคล้ายน้อยอกน้อยใจ
"จินนี่เดินไปเองได้ค่ะคุณป้า คงไม่รบกวนพี่นิน"
"ไม่ได้จ๊ะ...พี่เค้าเป็นผู้ชายก็ต้องดูแลหนู"
ธนินไม่รับคำหรือปฏิเสธแต่เดินไปหยุดยืนรอเมื่อหญิงสาวเดินตามสมทบก็ก้าวเท้าสั้นรักษาระยะเพื่อให้สุจิราเดินไปยังทิศที่เธอจอดรถเอาไว้
"พี่นินไม่พอใจอะไรจินนี่รึเปล่าคะ" จู่ ๆ สุจิราก็เอ่ยถามขึ้น
"ไม่ครับพี่คงไม่คิดอะไรกับจินนี่"
"พี่นิน"
"พี่ขอโทษนะครับจินนี่ พี่ไม่ได้ชอบจินนี่"
"พี่นินชอบนัง..." สุจิราเหมือนพยายามสะกดอารมณ์ "ชอบพี่จาใช่ไหมคะ"
ธนินเลือกที่จะไม่ตอบอะไรหากเลือกที่จะใช้ความนิ่งแทนคำตอบรับ
"พี่นินรู้ไหมคะ พี่จาไม่ได้ชอบพี่นิน เขาแค่อยากจะทำร้ายจิตใจจินนี่เท่านั้น" หญิงสาวเสียงสั่น "พี่นินรู้ไหมคะว่าพี่จากับจินนี่เป็นอะไรกัน"
"พี่ทราบดีครับ"
"พี่จาอิจฉาจินนี่เพราะพ่อเลือกแม่กับจินนี่ไม่ได้เลือกแม่เขา พอรู้ว่าจินนี่ชอบพี่นินเขาก็เลยพยายามจะแย่งพี่นินไปจากจินนี่ พี่จาอยากให้จินนี่เสียใจ"
"จินนี่ครับ...คุณจาไม่ได้พยายามแย่งพี่ไปจากจินนี่ คุณจาไม่เคยพยายามทำอะไรเลย แต่พี่ต่างหากที่เป็นคนไปชอบคุณจาเอง" ธนินเอ่ยเสียงเรียบ "พี่หวังว่าจินนี่จะเข้าใจนะครับ และคงไม่ไประรานอะไรคนที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวอีก พี่ขอส่งจินนี่แค่นี้"
ธนินพูดจับก็หมุนตัวเดินกลับไปอีกทางหนึ่ง ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองหญิงสาวและเขาคิดว่าคงต้องบอกกับมารดาอย่างหนักแน่นเสียทีว่าใครคือคนที่เขาต้องการอย่างแท้จริง
"แขกที่ไหน...โพกผ้ารึเปล่า หรือมาแนวเจ้าชายอาหรับ"
"ไม่ใช่ค่ะคุณคม" เด็กสาวยิ้มขัน "คนไทยบอกว่าชื่อคุณธนิน"
"อ้อ...นึกว่าใคร บอกว่าเดี๋ยวตามไป แต่งหน้าคัพเค้กอีกไม่กี่ชิ้นก็เสร็จแล้ว ถามคุณเค้าด้วยว่าจะรับเครื่องดื่มหรือขนมอะไรรึเปล่า แล้วก็บอกที่แคชเชียร์ด้วยว่าคนนี้ไม่ต้องคิดเงิน" นิคมสั่งการแล้วนึกขึ้นได้ว่าอาจเกิด 'ข่าวลือ' สะพัดจากฐานะพิเศษของแขกคนนี้ได้ จึงรีบอธิบาย "คนนี้เพื่อนคุณจา...จำคุณจาได้ใช่ไหม ไม่ต้องเอาไปลือกันผิด ๆ นะจ๊ะ พี่ไม่รับประทานผู้ชายของเพื่อน"
นิคมใช้เวลาอีกพักใหญ่กับการแต่งหน้าคัพเค้กพักใหญ่กว่าจะเรียบร้อยพร้อมให้ลูกจ้างนำไปใส่ตู้แช่ ถอดผ้ากันเปื้อนแขวนแล้วเดินออกจากครัวไปมองหา 'แขก'
ร่างสูงของธนินมองเห็นได้ไม่ยากนัก นิคมเดินไปหยุดยืนมองสิ่งที่อยู่บนโต๊ะสลับกับสีหน้าที่ดูซังกะตายของผู้มาเยือนแล้วส่ายหน้า หย่อนตัวลงนั่ง
"กลัวนิกกี้คิดเงินหรือไงคะคุณนิน สั่งน้ำเปล่าขวดเดียว" ธนินดูร้อนรนไม่มีท่าทีว่าจะนึกขันกับการยั่วล้อทำเอาคนที่ตั้งใจจะพูดให้อีกฝ่ายอารมณ์ดีขึ้นต้องถอนใจหนักออกมาเสียเอง "อย่าทำหน้าแบบนี้สิคุณนิน ปัญหามีไว้แก้ไม่ได้มีไว้กลุ้ม"
"แล้วมันไม่น่ากลุ้มเหรอครับคุณนิกกี้"
"มาก" นิคมยอมรับตามตรง
"ผมติดต่อคุณจาไม่ได้เลย"
"คุณยายบังคับให้เปลี่ยนเบอร์" นิคมบอกความจริงกับชายหนุ่ม เมื่อเห็นธนินชันตัวตรงก็รู้ทันทีว่าเขาจะเอ่ยถามอะไร "อ๊ะ...บอกไม่ได้นะคุณนิน แค่นี้คุณยายยังโกรธนิกกี้อยู่เกือบเดือน อีกอย่างคุณยายมีมาตรการล็อคสองชั้นป้องกันสองเด้ง นอกจากเปลี่ยนเบอร์แล้วตอนนี้คุณยายต้องสกรีนทุกสายที่โทร.เข้า กว่าจะได้คุยกับยัยจา แล้วเวลาคุยก็ต้องผ่านสปีกเกอร์โฟน"
"ผมเลยไม่มีโอกาสคุยกับคุณจาเลย คุณยายตามมาเฝ้าที่โรงเรียนจนตอนนี้หมดคอร์สไปแล้ว"
"คุณยายยอมให้ยัยจาไปสอนต่อจนจบคอร์สก็บุญแล้วล่ะคุณนิน ตอนนี้ประกาศเลยว่า ยัยจาจะไปสอนไปทำอะไรที่ไหนก็จะตามไปคุมทุกที่...นึกถึงละครที่เคยดูน่ะ ถ้าเป็นสมัยก่อนมีหวังเพื่อนฉันโดนโซ่ล่ามขาไว้กับเตียงแล้วล่ะ"
"ทำยังไงคุณยายจะใจอ่อนล่ะคุณนิกกี้" ธนินถอนใจ "ผมเพียรไปเฝ้าคุณจาที่ร้าน ดักที่ทางเข้าสวนอาหารแต่คุณยายก็คุมแจ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรกับคุณจาเลยสักคำ"
"เฮ้อ...โลกมันกลมจริง ๆ นะ ไม่คิดเลยว่าแม่คุณจะไปหมายตาจินนี่เข้า คุณยายเลยยิ่งพื้นเสีย ไหนจะโดนหลานโกหก ไหนจะโดนสองแม่ลูกนั่นมาถอนหงอกถึงบ้านอีก"
ธนินไม่รู้จะตอบอะไรเพราะเรื่องทั้งหมดที่ได้รับรู้จากผู้เป็นอานั้นก็เกินความคาดหมายของเขาไม่น้อยและทำให้รู้สึกว่าโอกาสที่จะเข้าถึงตัวจารุดาได้ยิ่งยากเย็นยิ่งกว่าเดิม
หลังเกิดเรื่องยายจันทร์ยื่นคำขาดไม่ให้เขาไปเป็นลูกค้าที่บ้านสวนคุณจันทร์อีก เขาจึงได้รู้เรื่องราวในอดีตของคนบ้านสวน รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างจารุดาและสุจิรา รวมถึงได้รู้ว่าแม้แต่ผู้เป็นอาเองก็ต้องยอมที่จะตัดใจจากผู้หญิงที่ตัวเองรัก เพราะคุณจอมขวัญเลือกที่จะไม่ทำร้ายจิตใจของผู้เป็นน้า ครองตัวเป็นโสดดูแลน้าและหลานสาวมาจนบัดนี้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นประกอบกับลิลลี่กำลังวุ่นวายกับกิจกรรมของโรงเรียนคุณบัณทัตก็ตัดสินใจที่จะทิ้งระยะ 'การไปเป็นลูกค้า' ที่บ้านสวนคุณจันทร์ไปสักพัก เขาจึงไม่ได้รู้ความเป็นไปของจารุดาเลย
"ผมจนปัญญาจริง ๆ ไม่รู้จะทำยังไงดีล่ะคุณนิกกี้ ช่วยคิดหน่อย"
"โอ๊ย...ถ้ามันง่ายอย่างนั้น คนที่ทั้งสวยทั้งฉลาดอย่างนิกกี้คิดออกไปนานแล้วล่ะค่ะ คุณนินเจ้าขา" คนสวยและฉลาดทำหน้าเซ็งโลก "เอาจริง ๆ คุณนินรอเวลาหน่อยก็แล้วกัน"
"เวลา...เวลาอะไรครับ"
"ก็รอจนกว่าจะถึงเวลานั้น"
"คุณนิกกี้ว่าคุณยายของคุณจาจะใจอ่อนเองง่าย ๆ เหรอ"
นิคมส่ายหน้า "ไม่ใช่รอเวลาให้คุณยายใจอ่อน...โอ๊ย...อย่าให้พูดสิ มันไม่ดี เหมือนแช่งคนแก่"
"โธ่...คุณนิกกี้ อย่าพูดเล่นสิ"
"ไม่ได้พูดเล่นนะคุณนิน นิกกี้ช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ นะคะ นี่ทั้งคร่ำครวญรำพัน คุกเข่าขอโทษคุณยายอยู่ตั้งนานกว่าคุณยายจะรำคาญตัดใจยกโทษให้ ขืนเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องคุณนินกับยัยจาอีก คราวนี้คุณยายได้ฆ่านิกกี้แน่ ๆ ตัดใจดีไหมคุณนิน คิดซะว่าไม่ได้เป็นคู่กับยัยจา ผู้หญิงในชีวิตคุณ สวยเซ็กส์เอ็กซ์บึมกว่าเพื่อนฉันทั้งนั้น กินง่ายอีกต่างหาก เพื่อนฉันดูธรรมดาหน้าตาไม่น่ากินแถมกินยากหนามเยอะ"
"ผมไม่มีทางตัดใจจากคุณจาแน่ ๆ คุณนิกกี้"
"ถ้าไม่ยอมตัดใจแล้วจะไปทำอะไรได้ล่ะคุณนิน แค่จะหาวิธีเอาชนะใจคุณยายจันทร์ยังทำไม่ได้เลย เรื่องอื่นคงไม่ต้องพูดถึง"
"มันต้องมีสักทาง ต้องมีโอกาสที่ผมจะทำให้คุณยายมองผู้ชาย มองคนอย่างผมใหม่"
"ไหนจะปัญหาเรื่องจินนี่อีกล่ะ ตกลงคุณปฏิเสธกับแม่ไปแน่แล้วเหรอว่าไม่เอาแน่ ๆ หรือว่ายังแบ่งรับแบ่งสู้"
"เรื่องจินนี่...ผม...เอ่อ..."
"แสดงว่าเรื่องจินนี่ยังไม่จบใช่ไหมคุณนิน" นิคมถอนใจแรง "บอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าไม่เคลียร์เป็นเรื่อง ๆ ยัยจินนี่ตามไปวี๊ดที่บ้านสวนอีก รับรองเรื่องของคุณกับยัยจาปิดฉาก ไม่ต้องหวังอะไรกันอีกต่อไป"
"ผมจะจัดการเรื่องนั้นให้เด็ดขาดแล้วก็จะทำให้คุณยายใจอ่อนให้ได้ ไม่เชื่อคุณนิกกี้คอยดูก็แล้วกัน"
นิคมกรอกตาลงพื้นขณะที่ก้มหน้าซ่อนยิ้มขัน...ให้มันได้อย่างนี้สิว่าที่คุณเพื่อนเขย
หญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าปีตื่นนอนแต่เช้าในวันที่จารุดาต้องไปควบคุมการจ่ายตลาดของแม่ครัว แม้จะยังแข็งแรงดีแต่เพราะเคร่งเครียดกับการต้องคอยคุมหลานสาวอย่างเข้มงวดมาตลอดเวลาร่วมหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะตื่นเช้าไปตลาด คอยตามไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่หลานสาวต้องไป ทำให้ร่างกายของคุณยายจันทร์เริ่มอ่อนเพลียเมื่อกลับมาถึงบ้านสวนยืนคุมจนจารุดาสั่งการให้แม่ครัวและลูกจ้างนำของไปเตรียมต่อในครัวแล้ว หญิงชราก็หันหลังเดินขึ้นบันไดตั้งใจจะกลับเข้าไปเอนหลังนอนพักที่ห้อง แต่ก้าวขึ้นบันไดเพียงไม่กี่ก้าวก็เกิดอาการหน้ามืดเกือบจะหงายหลัง ดีที่จารุดาซึ่งเดินตามขึ้นมาปรี่เข้าประคองไว้ทัน
"ยาย...หน้ามืดใช่ไหมจ๊ะเนี่ย...จาบอกยายแล้วว่าไม่ต้องตื่นไปคุมจาก็ได้"
"เป็นห่วงยายหรือว่าอยากจะเป็นอิสระ จะได้หาโอกาสแอบนัดแนะไอ้หนุ่มคนนั้น"
"อย่าเพิ่งพูดเรื่องนั้นเลยนะจ๊ะยาย ยายหน้าซีดมากเดี๋ยวเป็นลมล้มพับไปตรงนี้จะอันตราย" จารุดาเอ่ยอย่างใส่ใจในอาการของผู้เป็นยายมากกว่าจะสนใจคำประชดประชันนั้น "ไปจ๊ะ เดี๋ยวจาพายายไปนอนพักที่ห้องนะจ๊ะ"
หญิงชราขยับจะเอ่ยอะไรแต่เมื่อเห็นแววตาของหลานสาวแล้วก็เปลี่ยนใจยอมให้จารุดาประคองให้เดินไปที่โถงกลางเรือนซึ่งมีหมอนสามเหลี่ยมวางอยู่บนเสื่อใกล้กับโต๊ะเล็กสำหรับนั่งรับประทานอาหารกับพื้น หลานสาวช่วยให้ผู้เป็นยายหย่อนตัวลงนั่งบนเสื่อเสร็จก็รีบเดินไปที่ตู้ยาซึ่งแขวนอยู่กับผนังด้านหนึ่งนำยาดมกลับมาส่งให้คุณยายจันทร์
"ยาดมจ๊ะ เดี๋ยวจาไปดูในครัวนะจ๊ะว่าน้าขวัญทำอะไรอยู่ จะได้รีบยกมาให้ยาย"
คุณยายจันทร์เพียงพยักหน้าเล็กน้อย ยิ้มอ่อนให้หลานสาวแต่กิริยาเพียงเล็กน้อยนั้นกลับสร้างให้เกิดรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของจารุดา หญิงชราชะงัก มองตามหลังคนที่เดินลงบันไดไปที่ครัวใต้ถุนเรือน
ตั้งแต่วันที่สองแม่ลูกมาโวยวายเรื่องจารุดาไปยุ่งเกี่ยวกับธนินซึ่งคุณสโรชาหมายตาไว้เป็นคู่หมั้นคู่หมายของลูกสาว หญิงชราก็ทำท่าทีมึนตึงกับจารุดา แม้จะคอยติดตามหลานสาวไปทุกที่ รู้ดีตลอดว่าคนเป็นหลานพยายามเอาอกเอาใจตนและยอมทุกอย่างเพื่อเป็นการไถ่โทษ ทั้งไม่ต้องการให้ผู้เป็นยายต้องกลัดกลุ้ม แต่คุณยายจันทร์ก็ยังอยากจะให้บทเรียนกับจารุดาโดยการทำทีเฉยชากับความพยายามเอาใจใส่ของหลานสาว
การต้องทำเป็นไม่สนใจหลานนั้นสร้างความเหน็ดเหนื่อยใจให้กับหญิงชรามากกว่าความเหนื่อยล้าทางร่างกายที่ต้องคอยตามจารุดาไปทุกที่เพื่อคอยกีดกันไม่ให้ธนินได้เข้ามาใกล้
ชายหนุ่มไม่ได้หายหน้าไปอย่างที่คุณยายจันทร์คิด ธนินเพียรมาจอดรถดักรอที่ทางเข้าบ้านสวน คนเป็นยายพยายามจับสังเกตหลานสาวรู้ว่าจารุดามองเห็นชายหนุ่มแต่ต้องพยายามตัดใจทำเหมือนไม่สนใจ รวมไปถึงตอนที่พบชายหนุ่มในฐานะครูและศิษย์ในโรงเรียนสอนทำอาหาร จารุดาก็ใส่ใจธนินเพียงในฐานะลูกศิษย์ ไม่มีการพูดคุยวิสาสะใด
การที่จารุดาแสดงท่าทีว่าเลือกที่จะตัดขาดกับชายหนุ่มมากกว่าที่จะขัดใจผู้เป็นใจรวมทั้งความใส่ใจที่หลานสาวมีให้ในวันนี้ทำให้หญิงชราตัดสินใจที่จะเลิกมาตรการเพิกเฉยต่อหลานสาว แต่อย่างไรเสีย...เรื่องธนินจะยอมไม่ได้เด็ดขาด
การสูญเสียพี่สาวทั้งสองคนรวมถึงหลานสาวอีกหนึ่งคนคอยย้ำเตือนเสมอว่าจะยอมให้ใครพลาดพลั้งจนชีวิตพังทลายไปอีกไม่ได้
แต่ไอ้หนุ่มนั่นยังไม่ยอมหยุดสักที...ตามตื้อต่อแบบนี้ มีหวังหนูจาของยายต้องใจอ่อนกับมันเข้าสักวัน...แล้วนี่ยายจะทำยังไงดี
จารุดาเสียบเมมโมรี่การ์ดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาซึ่งตอนนี้ไม่สามารถใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตได้ เพราะคุณยายจันทร์ตัดการติดต่อกับโลกภายนอกของหลานสาวในทุกวิถีทาง หากจะใช้คอมพิวเตอร์หญิงสาวต้องไปใช้เครื่องที่สำนักงานภายใต้การควบคุมของผู้เป็นยายเท่านั้น โทรศัพท์มือถือหมายเลขใหม่ที่คุณยายจันทร์เปลี่ยนให้ก็จะพูดคุยได้แต่เรื่องงานหรือเพื่อนที่คุณยายรู้จักเท่านั้นและเมื่อถึงเวลาเข้าห้องนอนก็จะโดนริบไว้
เมื่อคลิกเปิดโฟลเดอร์ขึ้นมาภาพของเธอและธนินที่นิคมแอบถ่ายไว้ในอิริยาบถต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ หญิงสาวกดเลื่อนดูรูปภาพไปทีละรูป ย้อนนึกถึงเหตุการณ์ในภาพนั้น
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นทำให้จารุดาต้องรีบพับปิดคอมพิวเตอร์พกพาเก็บเอาไว้ในลิ้นชักทันที คืนนี้เป็นคืนแรกที่คุณยายจันทร์ย้ายกลับไปนอนที่ห้องนอนของตนเอง คืนอิสระส่วนหนึ่งให้หลานสาวหลังจากวันที่คุณสโรชาและสุจิรามาอาละวาดเผยความจริงของเธอกับธนิน หากคุณยายมาเห็นว่าหลานสาวกำลังทำอะไรอยู่ดีไม่ดี อิสรภาพที่ได้คืนมาคงจะหมดไป เผลอ ๆ จะโดนควบคุมเสียยิ่งกว่าเดิม
เมื่อเดินไปที่ดึงสลักไม้แง้มประตูห้องเห็นว่าคนที่ยืนอยู่คือคุณจอมขวัญ หญิงสาวก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งดึงเปิดประตูกว้างขึ้น คุณจอมขวัญเหลียวหลังมองไปรอบโถงเรือนเหมือนจะระแวดระวังอะไรอยู่ก่อนจะรีบก้าวเท้าเข้ามา อาการของผู้เป็นน้าทำให้จารุดาขมวดคิ้วอย่างสงสัย
"น้าขวัญมีเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ”
คุณจอมขวัญยกนิ้วมือขึ้นแตะริมฝีปาก ส่งโทรศัพท์มือถือที่ถืออยู่ในมือให้หลานสาว จารุดาเห็นชื่อบนหน้าจอแล้วต้องหันไปมองน้าสาวด้วยความตกใจ ต้องรวบรวมสติอยู่พักหนึ่งกว่าจะยกขึ้นกล่าวคำทักทายกับปลายสายได้
“คุณจา”
“คุณนิน”
“ผมรู้จากคุณอาว่าคืนนี้คุณยายยอมให้คุณจานอนคนเดียวแล้ว เลยโทร.หาคุณน้าคุณคิดว่าเราคงจะหาทางคุยกันได้”
“คุณนินคะ...ฉัน...”
“ผมอยากคุยกับคุณจามากเลยครับคุณจารู้ไหม”
ธนินเอ่ยขัดทำให้จารุดาไม่อาจพูดสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้ ตั้งแต่เห็นยายจันทร์ทำท่าเหมือนจะเป็นลมเมื่อเช้า หญิงสาวก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าจะทำอย่างไรให้ผู้เป็นยายสบายใจ ทำอย่างไรให้ตนเองสามารถตัดธนินออกไปจากชีวิตได้ แต่เพียงแค่คำพูดประโยคเดียวของชายหนุ่มก็ทำให้เธอลืมความคิดนั้นไปเสียหมด
“คุณนิน...ฉันไม่อยากทำให้ยายเสียใจ”
“คุณจาฟังผมนะครับ จะไม่มีใครต้องเสียใจ เพราะผมจะไม่ทำให้คุณจาเสียใจ คุณยายคุณไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาเสียใจกับเรื่องของเราสองคน”
ธนินเอ่ยโดยไม่มีสิ่งใดมาเป็นหลักประกันแต่แปลกที่หญิงสาวเชื่อเขาแทบจะทันทีที่หูได้ยินน้ำเสียงที่สื่อชัดถึงแววของความอาวรณ์โหยหานั้น
“เราจะทำยังไงกันดีคะ”
“ผมจะพยายามทำให้คุณยายของคุณใจอ่อนให้ได้ ผมสัญญาครับคุณจา ผมจะไม่ยอมแพ้” น้ำเสียงของธนินร้อนรนเล็กน้อย “แต่ผมไม่อยากรออีกต่อไปแล้วนะครับคุณจา ผมจะเดินหน้า ไม่อยู่เฉยอีกแล้ว”
“อาการยายวันนี้ไม่ค่อยดีเลย คุณอย่าเพิ่งรีบร้อนนะคะ ฉันขอร้อง รออีกสักหน่อย”
“ก็ได้ครับ ระหว่างนี้ผมจะได้จัดการเรื่องของผมให้เรียบร้อย”
“เรื่องอะไรคะ”
“เรื่องจินนี่...ผมจะยืนยันกับทุกคนว่ายังไงผมก็ไม่มีทางจะชอบจินนี่ได้ เพราะผมชอบคุณจา”
“คุณนิน”
“ผมสัญญาครับ ว่าทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย จะไม่มีเรื่องของคนอื่นมาพัวพันกับเราอีก ต่อไปเราจะได้แก้ปัญหาของเราด้วยกัน”
คุณจอมขวัญที่ยืนมองหลานสาวอยู่ขยับเดินเข้ามาใกล้กระซิบเตือนหลานสาวไม่ให้ใช้เวลานานเกินไปนัก จารุดาจึงจำต้องตัดบทจากธนินก่อนเอ่ยราตรีสวัสดิ์ ส่งคืนอุปกรณ์สื่อสารให้ผู้เป็นน้า
“น้าขวัญ...ทำแบบนี้เสี่ยงมากนะจ๊ะ ถ้ายายรู้เข้าล่ะก็”
“น้าจันทร์ไม่ได้สงสัยน้ากับพี่...เอ่อ...คุณทัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทางนั้นมีเบอร์โทรศัพท์ของน้า จาเองก็อย่ากระโตกกระตากไปก็แล้วกันนะ” หญิงวัยกลางคนส่ายหน้าอ่อนใจ “น้าจันทร์ผ่านเรื่องร้ายมามากก็จริง แต่ระยะหลังมานี่น้าจันทร์ดูจะลืมเรื่องพวกนั้นไปได้แล้ว แต่จะให้ยอมรับผู้ชายเข้ามาในชีวิตของลูกหลานคงจะยากสักหน่อย”
“จากกลัวว่ายายจะล้มป่วยไปอีกเหมือนที่น้าขวัญเล่าให้ฟัง”
“ตอนนั้นน้าจันทร์เสียทั้งพี่สาว เสียทั้งหลาน มันคงเกินรับได้ แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นสิบ ๆ ปีแล้วนะหนูจา”
“น้าขวัญไม่เคยคิดเรื่อง...เอ่อ...”
“เรื่องผู้ชายน่ะเหรอจ๊ะ” คุณจอมขวัญส่ายหน้า “น้าดูแลน้าจันทร์ดูแลจามาจนเลยวัยที่จะคิดถึงเรื่องนั้นแล้วล่ะ”
“ถึงแม้ว่าจะมีคนที่น้าขวัญอยากจะร่วมชีวิตด้วยน่ะเหรอจ๊ะ”
จารุดาตัดสินใจเอ่ยถามในสิ่งที่คิด เธอพอมองออกถึงเหตุผลที่ผู้เป็นน้าสนับสนุนเธอ ทั้งจากพฤติกรรมที่เทียวมาอุดหนุนร้านอาหารแทบจะวันเว้นวันของคุณบัณทัตที่จะว่าไปแล้วไม่ต่างกับธนินเท่าใดนักเพียงแต่โชคดีที่มีลิลลี่มาเป็นตัวประสาน ทั้งจากการที่คุณจอมขวัญยอมที่จะมีเบอร์โทรศัพท์ของคุณบัณทัตไว้ในเครื่อง
ไม่ใช่ว่าจะไม่คิด หากคุณจอมขวัญเลือกที่จะยอมเก็บงำความต้องการของตนมาโดยตลอด
“น้าขวัญนึกถึงยาย นึกถึงจามาตลอด ถ้าจาทำอะไรตามแต่ใจตัวเอง...ก็เหมือนกับว่าจาเอาเปรียบน้าขวัญ”
“สถานการณ์มันต่างกันนะหนูจา ตอนนั้นน้าเองก็อยู่ในความสูญเสียเหมือนกัน เห็นน้ำตา เห็นความทุกข์ของคนบ้านนี้มามากจนไม่อยากจะเห็นอีกแล้ว...แต่สำหรับของหนูจามันต่างไป” คุณจอมขวัญระบายความในใจ “น้าโชคดีที่ยังมียายแล้วก็มีหนูจา แต่อีกหน่อยถ้าน้าไม่อยู่ ยายไม่อยู่ หนูจาจะทำยังไง การเป็นผู้หญิงอยู่ตัวคนเดียวยามแก่เฒ่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายนะ เราไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีกแล้ว”
หญิงสาวที่ยืนฟังผู้เป็นน้านิ่งคิดตาม
“นอกเสียจากว่าหนูจาไม่ได้รักคุณนินเค้า”
อาการนิ่งของหลานสาวแทนคำตอบได้เป็นอย่างดี คุณจอมขวัญจึงได้แต่ยิ้มอ่อน ยกมือขึ้นวางบนบ่าของจารุดาอย่างปลอบประโลม
ธนินเงยหน้าจากแฟ้มข้อมูลแผนการประชาสัมพันธ์ของห้างเดอะเบสท์ เมื่อได้รับแจ้งจากเลขานุการสาวผ่านเครื่องอินเตอร์คอมว่ามารดาของเขามาพบ เพียงไม่นานประตูห้องก็เปิดออก หญิงวัยกลางคนในชุดเสื้อแขนกระบอก กระโปรงผ้าไหมสีเขียวเดินยิ้มแย้มเข้ามาหาลูกชายคนเล็ก หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับลูกชาย
"งานยุ่งไหมตานิน"
"ช่วงนี้ก็ไม่มากเท่าไหร่ครับคุณแม่" ธนินปิดแฟ้มข้อมูล "ผมว่ากำลังจะพักเที่ยง คุณแม่ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยนะครับ"
"ก็ดีเหมือนกันนะ วันนี้พ่อเค้าคงไม่ว่างกินข้าวกลางวันกับแม่ วันนี้ขอควงลูกชายสักวันก็แล้วกัน แต่ออกไปกินข้างนอกกันนะลูกแม่เบื่อหาร้านในห้างแล้ว"
"ครับ แต่เดี๋ยวผมขอไปห้องน้ำหน่อยนะครับ"
"ตามสบายจ๊ะ แม่จะได้คิดด้วยว่าจะไปกินอะไรกันดี"
คุณธนัญญารอกระทั่งลูกชายเดินออกจากห้องทำงานจึงค่อยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดต่อสาย ไม่ได้ใช้เวลากับการคิดเลือกร้านอาหารอย่างที่บอกไว้แต่จัดแจงเลือก 'คน' มาร่วมโต๊ะอาหารกลางวันด้วย
ธนินบอกกับเลขานุการหน้าห้องว่าอาจจะใช้เวลาพักกลางวันนานเล็กน้อยก่อนจะพามารดาเดินทางออกจากห้างสรรพสินค้าเดอะเบสท์ไปยังร้านอาหารที่มารดาเลือกและโทรไปจองโต๊ะไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อถึงร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่เป็นจุดหมายธนินก็เดินเคียงคุณธนัญญาเข้าไปภายในตัวร้านซึ่งตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นแต่มีกลิ่นอายของความเป็นไทยอยู่ที่ของประดับร้าน ทั้งรูปภาพ เครื่องปั้น เครื่องไม้สลัก เมื่อพนักงานได้รับแจ้งชื่อจากคุณธนัญญาก็เดินนำไปที่โต๊ะที่จองเอาไว้
ชายหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าที่โต๊ะมีใครคนหนึ่งนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอยิ้มกว้างเมื่อเห็นเขาและมารดา ลุกขึ้นเดินเข้ามากระพุ่มมือไหว้คุณธนัญญา
"คุณป้า พี่นิน...จินนี่ยังไม่ได้สั่งอาหารนะคะ รอให้พี่นินกับคุณป้ามาช่วยเลือกด้วย กลัวว่าสั่งไปแล้วจะไม่ถูกปาก"
"แหม...ป้าให้หนูจินนี่เป็นคนช่วยเลือกร้าน แล้วหนูจินนี่ก็แนะนำว่าร้านนี้อร่อยหนูก็ต้องรู้ดีกว่าป้ากับพี่นินอยู่แล้วล่ะจ๊ะว่ามีอะไรอร่อยบ้าง"
"จินนี่ให้คุณป้ากับพี่นินเลือกเผื่อว่าจินนี่จะได้ลองอะไรใหม่ ๆ ด้วยไงคะ"
หญิงสาวยิ้มอ่อนหวานเกาะแขนคุณธนัญญาพาเดินไปที่นั่งที่โต๊ะ สองแม่ลูกนั่งฝั่งเดียวกัน สุจิราขยับไปนั่งคนละฝั่งโต๊ะ พนักงานนำรายการอาหารอีกสองเล่มมาส่งให้ผู้ที่เพิ่งมาถึง
ธนินเปิดดูรายการอาหารซึ่งมีภาพอาหารน่ารับประทานและกวาดตาผ่านชื่ออาหารแต่ละชนิดแต่ใจกลับครุ่นคิดถึงสิ่งที่เขาจะต้องทำให้สำเร็จลุล่วง
ชายหนุ่มปล่อยให้มารดาและสุจิราสั่งอาหารกันเพียงสองคนและนั่งร่วมโต๊ะตามมารยาทแทบไม่เอ่ยอะไรกับสุจิราแม้ว่าคุณธนัญญาจะพยายามสร้างหัวข้อสนทนาให้หนุ่มสาวทั้งคู่ได้พูดคุยกัน
สุจิรายังคงยิ้มให้เขาและแม่อยู่ตลอดเวลาแต่ธนินไม่รู้สึกถึงความสดใสของหญิงสาวเพราะใจนึกถึงเหตุการณ์ที่ได้รับรู้จากผู้เป็นอาและนิคม สองแม่ลูกที่ดูมีอัธยาศัยดีกลับไปก่อเรื่องระรานครอบครัวของจารุดา ทั้งที่คุณสโรชาถือว่าเป็นคนที่มีส่วนทำให้ครอบครัวของจารุดาต้องพบกับการสูญเสียครั้งสำคัญ
มารดาของเขาไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของสองครอบครัวและธนินก็ไม่คิดว่าการนำเรื่องเหล่านั้นมาขยายต่อจะเป็นเรื่องดี เขาเพียงแค่ต้องแสดงความต้องการหรือจะให้ถูก...แสดงความไม่ต้องการให้ผู้ให้กำเนิดเห็น
หลังจัดการจ่ายค่าอาหารมื้อนั้นเรียบร้อยทั้งสามก็พากันเดินไปที่รถของธนิน คุณธนัญญาให้ลูกชายติดเครื่องยนต์รถให้เข้าไปนั่งรอยกมือรับไหว้เมื่อสุจิราไหว้ลาก่อนสั่งให้ธนินเดินไปส่งสุจิราที่รถ หญิงสาวมองอาการนิ่งเฉยของธนินแล้วเอ่ยคล้ายน้อยอกน้อยใจ
"จินนี่เดินไปเองได้ค่ะคุณป้า คงไม่รบกวนพี่นิน"
"ไม่ได้จ๊ะ...พี่เค้าเป็นผู้ชายก็ต้องดูแลหนู"
ธนินไม่รับคำหรือปฏิเสธแต่เดินไปหยุดยืนรอเมื่อหญิงสาวเดินตามสมทบก็ก้าวเท้าสั้นรักษาระยะเพื่อให้สุจิราเดินไปยังทิศที่เธอจอดรถเอาไว้
"พี่นินไม่พอใจอะไรจินนี่รึเปล่าคะ" จู่ ๆ สุจิราก็เอ่ยถามขึ้น
"ไม่ครับพี่คงไม่คิดอะไรกับจินนี่"
"พี่นิน"
"พี่ขอโทษนะครับจินนี่ พี่ไม่ได้ชอบจินนี่"
"พี่นินชอบนัง..." สุจิราเหมือนพยายามสะกดอารมณ์ "ชอบพี่จาใช่ไหมคะ"
ธนินเลือกที่จะไม่ตอบอะไรหากเลือกที่จะใช้ความนิ่งแทนคำตอบรับ
"พี่นินรู้ไหมคะ พี่จาไม่ได้ชอบพี่นิน เขาแค่อยากจะทำร้ายจิตใจจินนี่เท่านั้น" หญิงสาวเสียงสั่น "พี่นินรู้ไหมคะว่าพี่จากับจินนี่เป็นอะไรกัน"
"พี่ทราบดีครับ"
"พี่จาอิจฉาจินนี่เพราะพ่อเลือกแม่กับจินนี่ไม่ได้เลือกแม่เขา พอรู้ว่าจินนี่ชอบพี่นินเขาก็เลยพยายามจะแย่งพี่นินไปจากจินนี่ พี่จาอยากให้จินนี่เสียใจ"
"จินนี่ครับ...คุณจาไม่ได้พยายามแย่งพี่ไปจากจินนี่ คุณจาไม่เคยพยายามทำอะไรเลย แต่พี่ต่างหากที่เป็นคนไปชอบคุณจาเอง" ธนินเอ่ยเสียงเรียบ "พี่หวังว่าจินนี่จะเข้าใจนะครับ และคงไม่ไประรานอะไรคนที่มีศักดิ์เป็นพี่สาวอีก พี่ขอส่งจินนี่แค่นี้"
ธนินพูดจับก็หมุนตัวเดินกลับไปอีกทางหนึ่ง ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองหญิงสาวและเขาคิดว่าคงต้องบอกกับมารดาอย่างหนักแน่นเสียทีว่าใครคือคนที่เขาต้องการอย่างแท้จริง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 มี.ค. 2556, 23:28:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 มี.ค. 2556, 23:29:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 2963
<< ตอนที่ 19 | ตอนที่ 21 >> |

กมลภัทร 29 มี.ค. 2556, 23:36:52 น.
lovemuay >>>> รอดูว่าธนินจะเดินหน้ายังไงต่อนะครับ
nasa >>>> ^_^!
รักเร่ >>>> ร้ายเพราะรักน่ะครับ
ของขวัญ >>>> รอดูต่อนะว่าดาบจะลงตอนไหน
น้องอุด้ง >>>> ตามลุ้นกันนะครับ
panon >>>> คนเขียนก็ขอกำลังใจด้วยนะครับ เรื่องค่อนข้างเหวี่ยงจากที่วางโครงไว้พอสมควร พยายามตบให้เข้ารูปเข้ารอยอยู่เหมือนกัน ^_T
lovemuay >>>> รอดูว่าธนินจะเดินหน้ายังไงต่อนะครับ
nasa >>>> ^_^!
รักเร่ >>>> ร้ายเพราะรักน่ะครับ
ของขวัญ >>>> รอดูต่อนะว่าดาบจะลงตอนไหน
น้องอุด้ง >>>> ตามลุ้นกันนะครับ
panon >>>> คนเขียนก็ขอกำลังใจด้วยนะครับ เรื่องค่อนข้างเหวี่ยงจากที่วางโครงไว้พอสมควร พยายามตบให้เข้ารูปเข้ารอยอยู่เหมือนกัน ^_T

Sukhumvit66 30 มี.ค. 2556, 13:47:19 น.
คุณ นิน สู้ สู้
คุณ นิน สู้ สู้

nasa 30 มี.ค. 2556, 18:54:27 น.
ถึงเวลาลงดาบจัดการตัดยัยจินนี่กับแม่ขุ้ันเด็ดขาดซะที บ่ายเบี่ยงมาตั้งนาน เอาใจช่วยให้ธนินเคลียร์กะแม่ตัวเองให้ได้ค่ะ แล้วค่อยลุ้นคุณยายต่อ
ถึงเวลาลงดาบจัดการตัดยัยจินนี่กับแม่ขุ้ันเด็ดขาดซะที บ่ายเบี่ยงมาตั้งนาน เอาใจช่วยให้ธนินเคลียร์กะแม่ตัวเองให้ได้ค่ะ แล้วค่อยลุ้นคุณยายต่อ

รักเร่ 31 มี.ค. 2556, 12:49:03 น.
ให้มันได้อย่างนี้คุณนิน เชียร์ขาดใจเลย
ให้มันได้อย่างนี้คุณนิน เชียร์ขาดใจเลย

ของขวัญ 31 มี.ค. 2556, 23:45:55 น.
เชียร์ให้คุณนินจัดหนักๆเลยค่ะ
เชียร์ให้คุณนินจัดหนักๆเลยค่ะ

น้องอุด้ง 3 เม.ย. 2556, 09:33:14 น.
อร้ายยยสู้นะคุณนินนนนน
อร้ายยยสู้นะคุณนินนนนน

เพียงพลอย 3 เม.ย. 2556, 23:13:16 น.
อ๊ายยยยยย เริ่ดค่า กดไลค์ให้คุณนิน ถ้าตอนหน้าเคลียร์กับหม่อมแม่ได้จะตามมากดเลิฟคุณนินเรยยยยยยย
อ๊ายยยยยย เริ่ดค่า กดไลค์ให้คุณนิน ถ้าตอนหน้าเคลียร์กับหม่อมแม่ได้จะตามมากดเลิฟคุณนินเรยยยยยยย