กล้วยไม้ในมือมาร
กล้วยไม้คือผู้หญิง...เธอคือผู้หญิงชาวจีนที่ถูกซื้อมาเป็นสาวรับใช้ตั้งแต่วัยเด็ก...นวนิยายเรื่องนี้ฉายภาพสยามประเทศใน พ.ศ. 2473
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 48 (บทจบ)



กล้วยไม้ในมือมาร

บทจบ...

ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ...เสียงประทัดดังสนั่นหวั่นไหว แล้วเสียงกลองเชิดสิงโตก็ดังขึ้น สิงโตสีแดงตัวเหลืองกำลังเชิดแข่งกันอยู่ที่ลานหน้าโรงแรมหรูหรา “ไวท์ออคิด”

กล้วยไม้ คุณชายป้อ ซาเสี่ยเนี้ย และเด็กชายอายุแปดขวบคนหนึ่ง ยืนตบมืออยู่กับบรรดาแขกผู้มีเกียรติ ก่อนจะเชื้อเชิญให้ทุกคนเข้าไปในห้องโถงของโรงแรม

“ขอแสดงความยินดีกับท่านรัฐมนตรีปองกับคุณหญิงกล้วยไม้ที่เปิดโรงแรมไวท์ออคิดสาขาสามด้วยนะครับ”

แฟลซกล้องถ่ายรูปวูบวาบ

“แม่ครับ...ผมปวดฉี่” เด็กชายกระซิบกล้วยไม้

“จ๊ะๆ...แม่พาไปห้องน้ำเดี๋ยวนี้” เธอจูงมือเด็กชายฝ่าวงล้อมของนักข่าวที่สนใจจะสัมภาษณ์คุณชายป้อมากกว่า พอผ่านกลางห้องโถงที่ประดับรูปวาดขนาดใหญ่รูปหนึ่ง เด็กชายก็ถาม “แม่ครับ นั่นรูปใคร”

“รูปลุงกุ่ยจ้า”

“ลุงกุ่ยเป็นใครครับ?” เด็กชายถามอีก

“เป็นผู้มีพระคุณของแม่จ๊ะ...ถ้าวันนั้นลุงกุ่ยไม่ช่วยแม่เอาไว้ แม่คงจะ...”

กล้วยไม้คิดถึงความหลัง...

เสี้ยววินาทีแห่งความเป็นตายของเธอ มีมือแข็งแรงผลักร่างเธอให้พ้นรัศมีดาบ เจ้าของมือเอาร่างตนเองเป็นเกาะกำบังให้ ดาบฟันลงที่กลางหลังอากุ่ยพอดี

ปัง...เสียงปืนดังขึ้น ร่างของทาเคชิสะดุ้ง แต่เขาหันกลับไปมองคนยิงด้วยดวงตาแดงฉานราวกับสีเลือด

ปองในชุดผู้ชายยืนอยู่ตรงนั้น ในมือของปองถือปืนสั้นอยู่

ย๊ากกก...ทาเคชิส่งเสียง ยกดาบวิ่งเข้าใส่

ปังๆ...กระสุนอีกสองนัดยิงตัดขั้วหัวใจของนายทหารญี่ปุ่น ร่างของเขาทรุดลง ห่างจากปองเพียงเมตรครึ่ง

“พี่กุ่ยๆ...” กล้วยไม้มองเลือดที่เต็มมือของตนแล้วตกใจ

“กล้วยไม้ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?” อากุ่ยถาม

“ฉันไม่เป็นอะไรพี่กุ่ย...พี่ก็ต้องไม่เป็นอะไรนะ”

อากุ่ยส่ายหน้า “พี่รู้ตัวดี พี่คงไม่รอด” พร้อมกับคำพูดเลือดสดๆ ไหลออกทางปากและจมูกของเขา “พี่อยากถามคำหนึ่ง กล้วยไม้เคยนึกรักพี่สักนิดบ้างไหม”

“รัก...รักสิ...รักมากด้วย” กล้วยไม้เอ่ยพลางร้องไห้พลาง “ฉันรักพี่กุ่ยเหมือนพี่ชายแท้ๆ เลยล่ะ”

ปากอากุ่ยขยับเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

“แต่พี่รักกล้วยไม้ไม่ใช่แบบน้องสาว พี่รักกล้วยไม้แบบที่ผู้ชายคนหนึ่งรักผู้หญิงคนหนึ่ง รักมาก มากกว่าชีวิตของตนเองเสียอีก”

“พี่กุ่ย...” กล้วยไม้ได้แต่ร้องไห้

“พี่รู้ว่ากล้วยไม้รักคุณชายป้อ...คุณชายป้อ” คำหลังเขาเรียกหาคุณชายป้อ

คุณชายป้อซึ่งเข้ามายอบตัวดูอาการของอากุ่ยอยู่ ก็รับคำ “ครับ พี่กุ่ย”

“รับปากอั๊วนะ ว่าจะรักกล้วยไม้ให้เท่าที่อั๊วรัก จะไม่ทำให้กล้วยไม้ต้องเสียใจอีก” อากุ่ยพยายามพูดกระท่อนกระแท่น

“ครับ...ผมรับปากพี่กุ่ย ผมสาบานว่าจะรักกล้วยไม้ไปตลอดชีวิตของผม จะรักกล้วยไม้เพียงคนเดียว และไม่ทำให้เธอต้องเศสร้าเสียใจอีกเป็นอันขาด”

ปากของอากุ่ยขยับเหมือนยิ้ม พร้อมกับคอที่อ่อนพับ และสิ้นลมหายใจ

“พี่กุ่ย...” กล้วยไม้ร้องไห้โฮ



หลังจากจัดงานศพของพี่กุ่ย แสงซึ่งถูกฟันคอขาดในห้องจัดเลี้ยง และผู้กองทาเคชิเรียบร้อย...คุณชายป้อก็ส่งจดหมายไปให้แม่ที่เมืองจีนพร้อมกับค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาประเทศไทย เพราะคุณชายรู้ว่าคุณพ่อของคุณชายเสียชีวิตแล้วระหว่างเกิดมหาสงครามโลกครั้งที่สอง

ซาเสี่ยเนี้ยเดินทางมาไทย กลับไปอยู่บ้านเก่า ซึ่งคุณชายป้อซ่อมแซมเรียบร้อย

“แม่ครับ ผมขออนุญาตแต่งงานกับอาลั้ง” คุณชายคุกเข่าต่อหน้ามารดาเอ่ยคำนี้อย่างหนักแน่นมั่นคง หลังจากเล่าเรื่องของตนเอง และชีวิตอันระทมขมขื่นของอาลั้งให้มารดาฟัง

“อาลั้งไม่ใช่สาวๆ แล้ว แต่งงานมีลูกคนหนึ่ง ลูกไม่รังเกียจเหรอ?”

“ไม่ครับ ผมสงสารเธอมากกว่า และผมจะรับลูกของเธอเป็นลูกของผมเช่นกัน” คุณชายป้อยืนยันหนักแน่น

“โบราณถึงว่า...คู่แล้วไม่แคล้วกัน” ซาเสี่ยเนี้ยเอ่ยเบาๆ “ที่ผ่านมาแม่เองก็มีส่วนผิด ที่ขัดขวางลูกกับอาลั้งทุกวิถีทาง เมื่อลูกกลับมาพบกันใหม่ แสดงว่าฟ้าลิขิต แม่เองก็ไม่อยากจะสร้างความเสียใจให้กับใครอีก ลูกหาฤกษ์หายามจัดพิธีแต่งงานกันเองนะ แม่คงไม่วิ่งเต้นเป็นแม่งานให้”

ซาเสี่ยเนี้ยหยุดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยต่อว่า “แต่แม่ก็ดีใจด้วย ขอให้ลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง”



หลังพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องตามประเพณี แต่เป็นพิธีที่จัดเล็กๆ...ปองกับกล้วยไม้ก็เดินทางไปหาฮวดสามีเก่าของกล้วยไม้ เพื่อขออาเล้งที่ขณะนั้นมีอายุเจ็ดขวบมาเลี้ยงดู

“ลื้อเป็นผัวใหม่อาลั้งเหรอ” อาเฮียงถามเสียงแหลม

อาฮวดจ้องคุณชายป้อเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ

“ใช่” คุณชายป้อตอบสั้นๆ ก่อนจะเสนอ “อั๊วจะให้เงินค่าเลี้ยงดูเด็กแก่พวกลื้อก้อนหนึ่ง พวกลื้อจะได้ซื้อที่ซื้อทางไม่ต้องเช่าเขาอย่างนี้”

“ไม่เอา” อาฮวดชิงพูดขึ้นก่อนที่อาเฮียงจะถามว่า...เท่าไหร่

“ถ้าอีอยากอยู่กับลูก ก็ให้อีกลับมาอยู่กับอั๊ว” อาฮวดพูดเสียงดังๆ

“อาตี๋...เราไม่ฟังก่อนเหรอว่า เขาจะให้เท่าไหร่” อาเฮียงทำเสียงอ้อนน้องชายแท้ๆ

“ไม่...เท่าไหร่อั๊วก็ไม่เอา” อาฮวดเสียงเฉียบขาด

ซึ่งปกติ...อาเฮียงจะไม่เคยเห็นน้องชายดุดันขนาดนี้ จึงไม่กล้าเสนอหน้าอีก

“ถ้าพูดกันดีๆ ไม่รู้เรื่อง ก็ต้องใช้กฎหมายกันล่ะ” คุณชายป้อเสียงแข็งเช่นกัน “แล้วอั๊วจะกลับมาเอาเด็กไปให้ได้” คุณชายป้อพูดทิ้งท้าย

เขาพากล้วยไม้กลับบางกอก ปรึกษาหารือทนายความ พอมีช่องทาง ก็พาทนายความ ตำรวจ และกล้วยไม้ ไปยังบ้านอาฮวดอีกครั้ง

แต่ที่บ้านว่างเปล่า

ถามชาวบ้านแถวนั้นก็ได้ความว่า

“พวกเขาสองคนกับเด็กย้ายไปแล้ว แต่ไปไหนไม่ได้บอกใครเลย”

กล้วยไม้ได้แต่ร้องไห้



“แม่ร้องไห้ทำไมครับ” เด็กชายเข้าห้องน้ำเสร็จกลับออกมาเห็นมารดาน้ำตาไหลก็ถามด้วยความสงสัย

กล้วยไม้เอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตา ยิ้มให้ลูกชายคนเล็กที่เกิดกับคุณชายป้อ ตอบว่า “เปล่าจ๊ะ แม่ไม่ได้ร้องไห้ ฝุ่นเข้าตาแม่นะจ๊ะ”

พลางในใจก็อธิษฐานถึงลูกชายคนโต

‘ขอให้ลูกแม่อยู่รอดปลอดภัย อยู่ดีมีสุขด้วยเถิด!’

อวสาน

*** จบเเล้วจ้า ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเเละติดตามเรื่องราวของกล้วยไม้นะคะ T^T ซึ้งใจสุดๆ ****




คำรัก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2556, 11:38:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2556, 11:38:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 2193





<< ตอนที่ 47   
เมล 8 เม.ย. 2556, 11:49:22 น.
ขอบคุณค่ะ สุดท้ายกล้วยไม่ก็มีความสุขสักที :)


saralun 8 เม.ย. 2556, 13:09:40 น.
เป็นกำลังใจให้ค่า...แต่จะมีเรื่องต่อมั๊ยน้าาา ^^


หมีสีชมพู 8 เม.ย. 2556, 14:05:19 น.
จะมีภาคต่อมั้ยคะ เหมือนจะมีภาคต่อเลย


ree 8 เม.ย. 2556, 14:33:21 น.
โธ่ สุดท้ายก็ไม่ได้เจอลูก จบแบบยังเศร้าๆ นิดนึงนะเนี่ย


wind 8 เม.ย. 2556, 16:51:52 น.
มีภาคต่อไหมคะ ยังไม่เจอลูกเลย


konhin 8 เม.ย. 2556, 20:02:16 น.
โอ้ สุดท้ายก็หาลูกไม่เจอ ก็ถือว่ามีความสุขเท่าที่มีได้นะ ขอบคุณค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account