กล้วยไม้ในมือมาร
กล้วยไม้คือผู้หญิง...เธอคือผู้หญิงชาวจีนที่ถูกซื้อมาเป็นสาวรับใช้ตั้งแต่วัยเด็ก...นวนิยายเรื่องนี้ฉายภาพสยามประเทศใน พ.ศ. 2473
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 47


47...

ยิ่งนานวัน...เครื่องบินทิ้งระเบิดก็มาถี่ขึ้น มาระยะหลังมาทั้งกลางวันและกลางคืน กล้วยไม้กับปองไปซื้อของ เครื่องบินก็มาทิ้งระเบิด ทั้งสองต้องทิ้งข้าวของวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน พอระเบิดตูมสะเก็ดรัเบิดก็ปลิวว่อน มันคมกริบขนาดตัดคอคนที่วิ่งๆ กล้วยไม้ขาดกระเด็นต่อหน้าต่อตาเธอ
“กรี๊ดด...” หญิงสาวร้องด้วยความตกใจ
ปองรีบดึงให้เธอหมอบลงราบกับพื้นถนน โดยเอามือและแขนรองทรวงอกไว้ ระเบิดที่ตกลงมาทำให้พื้นสะเทือน ถ้าไม่ใช้มือและแขนปกป้องทรวงอกไว้อาจถูกกระทบกระเทือนถึงกระอักเลือดได้
ทุกอย่างเป็นเหมือนฝันร้ายสำหรับประชาชนชาวไทย และกับทหารญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองไทยด้วย แล้วฝันร้ายที่สุดของชาวญี่ปุ่นก็เกิดขึ้น...
วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2488 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูลงที่ฮิโรชิมา และอีกสามวันต่อมาวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 ถูกทิ้งลงที่นางาซากิ
วันที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2488 ญี่ปุ่นจึงประกาศยอมแพ้สงคราม!
ทหารญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยต่างเศร้าโศก เอาแต่ดื่มเหล้า พวกขี้ขโมยเข้าไปขนของในค่ายทหารอย่างเปิดเผย บ้างก็ถ่มน้ำลายเยาะเย้ยว่า...ไอ้พวกญี่ปุ่นขี้แพ้
ส่วนประเทศไทยรอดพ้นจากฐานะผู้แพ้สงครามเพราะเสรีไทย!!
ผู้กองคุโบตะเคาะประตูห้องทำงานของท่านนายพ่อผู้เป็นพ่อ...ไม่มีเสียงตอบ...เขาจึงเปิดประตูเข้าไป ภาพที่เห็นทำให้เขานิ่งตัวแข็งอยู่สามวินาที
ท่านนายพลคุมะยิงขมับตนเองเสียชีวิตแล้ว
ผู้กองคุโบตะทำความเคารพผู้เป็นพ่ออย่างมีระเบียบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะปิดประตูกลับดังเดิม
เขาขับรถทหารที่เหลือมาที่คฤหาสน์ของพระยาสุรเดช เห็นมีรถเข้าทางประตูใหญ่มากมาย เหมือนมาแสดงความยินดี เขาจึงเลี่ยงไปยังประตูข้าง เขาจอดรถเอาไว้ข้างนอก แล้วปีนข้ามประตูไม้เข้าไป ลองเดินไปลอบมองห้องโถงใหญ่ เห็นผู้คนแต่งเต็มยศมากหน้าหลายตา ต่างมาแสดงความยินดีกับท่านพระยาสุรเดช ผู้เป็นพ่อตาของเขา
“ท่านเจ้าคุณ คิดไม่ถึงเลยท่านจะเป็นหัวหน้าเสรีไทยคนหนึ่ง ท่านถึงกับยอมลงทุนให้ลูกสาวคนเดียวของท่านแต่งงานกับลูกชายแม่ทัพญี่ปุ่น”
และอีกมากมายที่ผู้คนเหล่านั้นสรรหามาพูดยกย่องเยินยอพระยาสุรเดช
คุโบตะไม่อยากฟัง...แค่นี้เขาก็เจ็บปวดลึกซึ้งเกินเยียวยา...เขาเดินกลับไปยังส่วนที่จัดให้เป็นห้องหอของเขา มองดูเตียงนอนกว้างใหญ่ เขาใช้มือไล้เบาๆ คิดถึงวันเวลาที่ได้อยู่ร่วมกับคุณหนูพิกุล แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่เขาก็มีความสุขมากล้น มากจนไม่ได้หวาดระแวงว่าเขากำลังถูกหลอกลวงโดยภรรยาผู้แสนสวยของเขา
คุโบตะเดินต่อไปยังห้องนั่งเล่นที่ปูเสื่อแบบญี่ปุ่นมีโต๊ะเตี้ยอยู่ตรงกลาง...ที่นี่เขาเคยดีดซึงซึ่งคล้ายเครื่องสายของญี่ปุ่นให้ภรรยาฟัง เขาถอนหายใจลึก...มันกลายเป็นความหลังไปหมดแล้ว
เขาเดินไปนั่งคุกเข่าที่หน้าโต๊ะเตี้ยวางดาบสั้นคมกริบลงบนโต๊ะ...นั่งมองมัน และบอกย้ำกับตนเองว่า อีกไม่กี่นาทีข้างหน้า...ตรงนี้คือจุดจบของเขา!
นายทหารหนุ่มผู้พ่ายแพ้สงครามแกะกระดุมเสื้อยศออก แล้วถอดออกวางอย่างเรียบกาย ก่อนจะถอดเสื้อยืดคอกลมสีขาวที่เป็นเสื้อตัวในออกอีกตัว ใช้สองมือจับด้ามมีดสั้น จ่อปลายแหลมคมที่ท้องของตนเอง
ทันใด...
“อย่าค่ะ...” เสียงคุณหนูพิกุลซึ่งมาถึงหน้าประตูห้องและเห็นภาพนั้นร้องห้ามสุดเสียง
แต่คุโบตะยังคงแทงมีดลงและออกแรงคว้าน!!
คุณหนูพิกุลวิ่งเข้าไปกอดร่างที่เต็มไปด้วยเลือด
“คุณทำอย่างนี้ทำไม” คุณหนูคนงามร้องไห้ไปพูดไป
“ไม่มีแผ่นดินจะให้ผมอยู่อีกแล้ว เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม” เขาเอ่ยเสียงไม่ดังนั้น นั่นเพราะเขาต้องข่มความเจ็บปวดในการจะพูดออกมา
“หมอๆ” คุณหนูพิกุลหันไปทางคนรับใช้ที่มาอออยู่หน้าประตู “ตามหมอเร็วๆ เข้า”
“ไม่มีประโยชน์ ผมรู้ดี”
“คุณอย่าพยายามพูด มันจะกระเทือนให้คุณเจ็บ” พิกุลน้ำตาไหลหยดลงบนตัวของสามี
“ไม่มีอะไรเจ็บเท่ากับที่คุณทรยศผม”
“ฉันขอโทษ...” พิกุลร้องไห้สะอึกสะอื้น
“คุณไม่ต้องขอโทษผม คุณทำเพื่อชาติ คุณมาได้รักผม ผมได้ยินคุณพูดก่อนที่เราจะแต่งงานกัน แต่ผมรักคุณ ที่จริงผมสมควรจะฆ่าคุณก่อนค่อยฆ่าตัวตาย
แต่ผมทำไม่ได้ เพราะผมรักคุณเกินกว่าจะฆ่าคุณได้
ผมจึงขอไปแต่เพียงผู้เดียว และขออวยพรให้คุณพบคนที่คุณรักและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีลูก มีหลาน...” พูดถึงตรงนี้เขาก็สะอึก
“คุโบตะๆ...คุณเข้าใจผิด” คุณหนูพิกุลเอ่ยเสียงดังแทบจะตะโกน เพราะกลัวสามีจะไม่ได้ยิน “ความจริง...ฉันก็รักคุณ...คุณอย่าตายนะ ฉันอยากมีลูกมีหลานกับคุณเท่านั้น”
คุโบตะพยายามฝืนยิ้ม รอยยิ้มของเขากระตุกด้วยความเจ็บปวด
“ผม...ดี...ใจ...ที่ได้ยิน...คำนี้...ลาก่อน ซากุระ...ของ...ผม...” แล้วคุโบตะก็สะอึกอีกครั้ง พร้อมกับลมหายใจสุดท้ายที่ดับสูญ
คุณหนูพิกุลร้องไหโฮอย่างไม่อายใคร...

ผู้กองทาเคชิลอบมาหากล้วยไม้ที่บ้าน พร้อมกับกระเป๋าเดินทางหวายสองใบ เขาเดินลิ่วเข้ามาในบ้าน ปืนของเขาถูกริบไปแล้ว เหลือแต่ดาบซามูไรที่ห้อยเอว เขาเดินเข้ามาบริเวณที่จัดเลี้ยง ซึ่งเป็นห้องโถงชั้นล่าง พอดีพบกล้วยไม้ยืนอยู่กลางห้อง หญิงสาวกำลังเศร้าใจต่อภาพที่เห็นเมื่อเช้า ทหารชั้นผู้น้อยของญี่ปุ่นดื่มเหล้าเมามายนอนพับอยู่บนฟูก พวกฉวยโอกาสก็ฉวยโอกาสที่ญี่ปุ่นแพ้สงครามเข้าไปรื้อค้นเอาข้าวของในค่ายทหาร แม้แต่ฟูกที่นอนอยู่ เขายังดึงมา และถีบคนนอนทิ้ง
“กล้วยไม้...”
เสียงเรียกของเทเคชิทำให้หญิงสาวหันไปมองเขา แล้วถามว่า
“คุณเป็นอย่างไรบ้างคะ”
เขายิ้มที่เห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยเขา
“อย่าเพิ่งพูดเรื่องอื่นเลย ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ”
“อะไรหรือคะ”
“กระเป๋าสองใบนี้ ผมใส่ธนบัตรไทย ที่ผมจะต้องเผาทิ้ง เพราะทหารญี่ปุ่นเป็นผู้พิมพ์ แต่ผมกันเอาไว้สองกระเป๋า ผมเอามาให้คุณ ชั่วชีวิตของคุณต่อไปจะได้สุขสบาย แม้ไม่มีผมอยู่ด้วย คุณเก็บไว้ให้ดี” ทาเคชิบอกกับกล้วยไม้ด้วยน้ำเสียงเข้มแข็ง
“คุณจะไปไหนคะ” กล้วยไม้ถาม เพราะคุพูดของอีกฝ่ายฟังทะแม่งๆ
“ผมจะไปอยู่บนสวรรค์กับเหล่าทหารกล้า!”
“หา...” กล้วยไม้อุทาน
พอดีแสงซึ่งแต่งกายเป็นชายแล้วเข้ามาในห้องโถงนั้น และเรียก “คุณกล้วยไม้”
ทาเคชิหันไปมองเขา แสงตกตะลึง แต่ไม่คิดว่าทาเคชิจะนึกออก
ทว่า...ทาเคชิกลับมีสายตามที่แหลมคม
“แม่แสง...”
นายทหารญี่ปุ่นมองสลับระหว่างแสงกับกล้วยไม้ด้วยสายตาที่น่ากลัว
“กล้วยไม้...คุณทรยศผมเหรอ” เสียงเขาราวฟ้าผ่า
กล้วยไม้ตัวสั่นงันงก “ฉัน...เอ่อ...อิฉัน...”
ทาเคชิชักดาบซามูไรออกมาถือมั่น จ้องมองทั้งแสง และกล้วยไม้เขม็ง
แสงยกโต๊ะเตี้ยตัวหนึ่งขึ้นมาถือปกกันตัว เผยให้เห็นว่า ใต้โต๊ะมีเครื่องดักฟัง ยิ่งทำให้ทาเคชิโกรธมากขึ้นเป็นหมื่นเท่าพันทวี
เขาฟันดาบซามูไรใส่แสงทันที พร้อมๆ กับที่แสงตะโกน
“กล้วยไม้หนีไป”
กล้วยไม้ออกวิ่งไม่เหลียวหลัง...แต่ขณะวิ่ง เธอกลับคิดถึงความหลัง
พ่ออมข้าวป้อนให้เธอ...เธอจำได้
พ่อไม่สบาย แม่จูงเธอไปขาย...เธอจำได้
พ่อบุญธรรมซื้อตุ๊กตาตัวแรกและตัวเดียวในชีวิตให้เธอ...เธอจำได้
คืนที่จะต้องจากแม่ชั่วชีวิต คืนนั้นเธอปวดท้อง...เธอจำได้
มาเมืองสยาม และถูกเฆี่ยนตีอย่างไม่มีเหตุผล...เธอจำได้
ที่จำได้แม่นยำที่สุดคือ...ดวงหน้าของคุณชายป้อ
กล้วยไม้วิ่งถึงริมฝั่งน้ำก็หยุดชะงัก เธอว่ายน้ำไม่เป็น หญิงสาวหันกลับมาก็เห็น...ทาเคชิถือดาบยาววิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว แล้วเงื้อมดาบขึ้น พร้อมกับฟันลงมา

(โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)




คำรัก
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 เม.ย. 2556, 11:53:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 เม.ย. 2556, 11:53:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1765





<< ตอนที่ 46   ตอนที่ 48 (บทจบ) >>
pattisa 5 เม.ย. 2556, 12:09:23 น.
ไม่ใช่ว่ากล้วยไม้ตายนะ


หมีสีชมพู 5 เม.ย. 2556, 13:11:51 น.
ถ้ารอดตายคราวนี้กล้วยไม้คงสบาย+มีความสุขสักทีนะคะ


konhin 5 เม.ย. 2556, 20:09:13 น.
เศร้าาา


ree 6 เม.ย. 2556, 01:38:50 น.
ตอนนี้กลับสงสารทหารญี่ปุ่น ที่อุตส่าห์รักจริงหวังแต่งแต่กลับต้องเสียใจเพราะรู้ตัวว่าโดนหักหลัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account