ดาวปาฏิหาริย์
เพราะ 'เธอ' ประสบอุบัติเหตุตอนที่อยู่กับเขา
สิตะจึงต้องรับผิดชอบ
ปากบอกไม่ชอบหน้า แต่ว่ากลับปรารถนาจะอยู่ใกล้ๆ
การเดินทาง 'หนี' คนร้ายที่ทำลายชีวิต กลับทำให้เขาค้นพบปาฏิหาริย์ในชีวิตที่ค้นหามานาน
Tags: เกาหลีใต้

ตอน: ดาวปาฏิหาริย์ บทที่ 17



ความตั้งใจแรกของอนณ คือทำตามคำสั่งของสิตะ

แต่เมื่อเขาพบบางอย่างที่ผิดปกติในตอนสายของวัน บอดี้การ์ดหนุ่มก็เริ่มกังวลแล้วว่าเขาจะรอให้ถึงกำหนดได้ไหม เมื่อเทียนแก้วหายตัวไป... นักสืบสาวที่ควรจะมาป้วนเปี้ยนแถวที่พักตั้งแต่เช้า แต่จนป่านนี้เขายังไม่เห็นแม้แต่เงา มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่

ด้วยความสงสัยและลางสังหรณ์ ทำให้เขาไปหาฝ่ายนั้นที่เกสเฮ้าท์ตามที่อยู่ที่พลัชให้ไว้ ไม่ไกลออกไป ตามตอกซอกซอยที่คดเคี้ยว พนักงานต้อนรับบอกว่ามิสเทียนแก้วและสหาย ได้สะพายกระเป๋าใบย่อมออกไปตั้งแต่เมื่อเช้า ไวเท่าความคิด บอดี้การ์ดหนุ่มรีบต่อสายถึงบรรณาธิการหนุ่มทันที

“คุณพลัช ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนครับ”

“อ๋อ คุณอนณ ผมกำลังออกนอกเมือง ตามคุณเทียนไปหาคุณสิตะน่ะครับ”

คำตอบที่ได้รับทำให้คิ้วขมวดเข้าหากัน “คุณรู้หรือว่าคุณสิตะอยู่ไหน”

“ผมไม่รู้หรอกครับ แต่คุณเทียนรู้ เธอถามจากเพื่อนของดาวประกายมา”

คุณจูน!?!... อนณอุทานในใจ ทำไมจิลลาถึงบอกเทียนแก้วแต่ไม่บอกเขา

“คุณกำลังจะไปที่ไหนกัน”

เขาถามออกไป ก่อนสัมผัสได้ว่าโทรศัพท์กำลังถูกเปลี่ยนมือ

“คุณอนณ...” เสียงนิ่งๆ ของเทียนแก้วดังขึ้น ก่อนที่เธอจะเอ่ยต่อ “ฉันใช้ความพยายามของฉันในการค้นหา ฉันหวังว่าคุณจะใช้ความสามารถของคุณเหมือนกัน”

เอ่ยจบก็ตัดสาย เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่อนณรู้สึกหงุดหงิดจนอยากขว้างโทรศัพท์ทิ้ง แต่อึดใจต่อมา เขาก็สูดลมหายใจช้าๆ เพื่อระงับสติอารมณ์ และกลับมาเป็นอนณคนเดิม

บอดี้การ์ดหนุ่มตั้งสติ ก่อนเตรียมต่อสายถึงจิลลา แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเธอโทรศัพท์เข้ามาพอดี

“พี่อ้น อยู่ไหนเนี่ย”



สิตะสำเหนียกได้ทันทีว่าเกิดความผิดปกติภายในห้อง

ไม่เพียงแค่คนบนเตียงหายไป แต่กระเป๋าสะพายที่ตกอยู่บนพื้นไม้ กับเนทบุ๊คสีแปร๋นที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ก็ทำให้ชายหนุ่มที่ก้าวกลับเข้ามาเริ่มเป็นกังวลอย่างช่วยไม่ได้ เหมือนเธอหายไปอย่างเร่งร้อน ไปไหน ไปอย่างไร มีใครพาเธอไปหรือเปล่า เขารีบกวาดตาไปทั่วห้อง ก่อนสังเกตเห็นว่าบานตู้เสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลถูกเปิดแง้มไว้ ประหนึ่งมีใครซ่อนตัวอยู่ในนั้น

โดยสัญชาตญาณ สิตะในเสื้อคอเต่าสีดำรีบตั้งท่าเหมือนจาพนมกำลังตามหาช้างของตน ในเมื่อไม่มีอนณ หน้าที่พิสูจน์จึงตกเป็นของเขา ทั้งที่ใจเต้นเหมือนกำลังเล่นหนังสยองขวัญ แต่ชายหนุ่มก็วางแผนแล้วว่าหากคนร้ายกระโจนออกมา เขาจะใช้กระบวนท่าไหนในการสั่งสอน สองเท้าค่อยๆ ก้าวย่อง ก่อนนับหนึ่ง สอง สามในใจ แล้วกระชากบานไม้ออกอย่างรวดเร็ว

“เอ๊ย!!! เขาอุทานทันทีเมื่อเห็นว่าใครขดตัวอยู่ในนั้น ร่างบางในกองเสื้อและกระเป๋าส่งยิ้มแห้งๆ มาให้ ก่อนพึมพำกับตัวเอง “ในละครมันต้องซ่อนมิดสิ ทำไมหาเจอเนี่ย”

“นี่เธอกำลังทำอะไร” เขาถามเสียงดังด้วยความตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ ชายหนุ่มก็พยายามรักษาระดับน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติ “คิดจะเล่นซ่อนหาหรือไง”

“เปล่า”

“แล้วเข้าไปอยู่ในตู้ทำไม”

“ก็….คือ” หญิงสาวตัวเล็กที่กำลังก้าวออกมาจากตู้ไม้อ้ำอึ้ง ก่อนทำตาโตเมื่อหาข้อแก้ตัวได้ “คุณเคยได้ยินหรือเปล่า ว่าถ้าเข้าไปอยู่ในตู้เสื้อผ้าแล้วจะออกไปนอกโลกได้ พ่อฉันเคยบอกอย่างนั้น ฉันก็เลยลองดู”

“หา!!!” สิตะอุทาน แต่ไม่นานก็เริ่มเปลี่ยนใจ เขาจะตกใจทำไม ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ก็มีเรื่องประหลาดใจให้เขาอยู่เป็นประจำ “แล้วพ่อเธอสอนด้วยเหรอว่าต้องเอากระเป๋าคนอื่นเดินทางไปด้วย... นี่เธอคิดจะขโมยกางเกงในฉันไปนอกโลกด้วยเหรอไง”

“เอ๊ย!!!” คราวนี้คนตัวเล็กอุทานทานบ้าง ก่อนโยนกระเป๋าในอ้อมแขนทิ้งทันที ไม่ได้มองว่าซิปถูกเปิดไว้ พอมันร่วงลงพื้น ข้าวของข้างในจึงหล่นกระจาย

เจ้าของกระเป๋าถอนใจยาว ฟังไม่ออกว่าเบื่อหน่ายแกมระอาหรือเปล่า แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไรยามก้มลงโกยของใช้ของตัวเองกลับลงกระเป๋า สาวร่างบางที่อุตริคิดจะเป็นนักสืบจึงต้องย่อตัวลงบ้าง แต่ทันใดนั้น สายตาก็เหลือบไปเห็นวัตถุบางอย่างที่ปลิวตกมาอยู่ใกล้เท้าของคนเสียก่อน

ซองจดหมายลายการ์ตูนที่คุ้นตาทำให้เธอคว้ามันขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ แต่ยังไม่ทันเอ่ยถามใดๆ เขาที่หันมาเห็นก็รีบเอื้อมมือมาตะครุบมันกลับคืน

แต่ช้าไปหน่อยไหม ยังไงเธอก็เห็นเสียแล้วว่าหน้าซองเป็นลายมือใคร และจ่าหน้าถึงใคร

จดหมายที่เธอฝากพลัชให้แสงศศิ ใช่...ต้องใช่แน่ๆ

“ไปอาบน้ำซะดาวประกาย เดี๋ยวเราจะออกไปข้างนอกกัน”

“ไปไหนคะ”

“เดี๋ยวเธอก็รู้” เขาตอบสั้นๆ เป็นการตัดบทขณะยัดกระเป๋าเสื้อเก็บใส่ตู้ ก่อนหันมาไล่เธอไปอาบน้ำ ดาวประกายยอมทำตาม เพราะมั่นใจว่าอีกไม่นาน...ปริศนาทั้งหมด เธอต้องได้รู้



“ทำไมคุณไม่บอกผมว่าคุณสิตะอยู่ที่ไหน”

น้ำเสียงของบอดี้การ์ดหนุ่มไม่เรียบนิ่งอีกต่อไป ยามเอ่ยถามตรงๆ เพราะทนไม่ไหว กับหญิงสาวที่นั่งกินวาฟเฟิลอยู่ตรงหน้า เพราะเธอโทรศัพท์มาหาพอดี เขาจึงนัดเธอมาเจอที่ร้านกาแฟแทนที่จะเสียเวลากลับไปรอที่บ้าน แต่เธอก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงยามที่เขาถามถึงที่อยู่ของสิตะ

“ฉันก็บอกไปแล้วไงว่าบอกไม่ได้ พี่เสือสั่งไว้”

“แต่คุณบอกคุณเทียนแก้ว”

“เอ๊ย ฉันไม่ได้บอก” จิลลาเถียง พร้อมเงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ จนวิปครีมบนช้อนที่กำลังจะเข้าปากเปรอะปลายคาง ร้อนถึงอนณต้องหาทิชชูมาเช็ดให้

“ฉันไม่ได้บอกพี่เทียนจริงๆ นะ เอ๊ะ หรือว่าบอก”

“คุณจิลลา....”

“ก็ฉันมั่นใจว่าไม่ได้บอกชื่อสถานที่ แต่ตอนพี่เทียนบอกว่า กลัวพี่เสือจะเหนื่อยเพราะเดินทางกลางคืน ฉันก็ตอบไปว่าไม่เหนื่อยหรอก รถบัสมันไปถึงเลย ก็เหมือนที่ฉันบอกพี่อ้นใช่ไหม แล้วตอนที่พี่เทียนพูดว่า ไปไกลๆ จะมีที่เที่ยวเหรอ ฉันก็แค่บอกว่ามี ตามรอย autum in my heart ไง แค่นั้นเองนะ พี่เที่ยนจะรู้ได้ไง เป็นพี่อ้น พี่อ้นรู้เหรอว่าที่ไหน”

อนณถอนหายใจ ถึงเขาจะไม่รู้ว่าเทียนแก้วมีประสบการณ์จาก ‘หนาว รัก เพลง’ ของพลัช แต่เขาก็เชื่อว่านักสืบสาวมีวิธีค้นหา

“เสิร์ชในอินเตอร์เนทจะเจอไหม”

“อุ้ย...” จิลลาอุทานเสียงต่ำ ก่อนทำหน้าจ๋อย “ก็น่าจะเจอ แต่ๆ แต่ถึงรู้ว่าพี่เสือไปเที่ยวซกโช ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าพี่เสือพักที่ไหน เมืองมันไม่ใช่เล็กๆ จะไปเจอได้ไง... แต่เดี๋ยวนะ ทำไมพี่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ด้วย แค่พี่เสือไปเที่ยว แล้วพี่เทียนจะตามไป แค่นั้นเองนะ”

“ผมเป็นห่วงคุณสิตะ”

“โห อยู่ห่างๆ กันบ้างเถอะพี่ คนรักกันก็ควรมีช่องว่างให้กันนะ ไม่งั้นอึดอัดตาย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราก็ตามไปแล้ว อดทนหน่อย คิดถึงมาก จะได้รักกันมากๆ ไง”

คำตอบของเธอทำให้บอดี้การ์ดหนุ่มถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนนึกขึ้นได้ การที่จิลลาไม่ห่วงดาวประกาย ไม่ใช่เพราะฝ่ายนั้นเป็นผู้หญิงกร้านโลกไปไหนกับผู้ชายก็ได้ แต่เพราะสาวผิวเข้มเชื่อว่าสิตะเป็นผู้ชายที่ชอบผู้ชาย เป็นผู้ชายที่ไม่มีวันล่วงเกินเพื่อนของเธอ

ให้ตายสิ เขาน่าจะนึกเร็วกว่านี้ จะได้เอาความจริงเรื่องนี้ง้างปากของเธอ

“ผมไม่ได้เป็นแฟนกับคุณสิตะ”

“หา!!!”

“ผมไม่ได้เป็นแฟนกับคุณสิตะ”

“หา!!!”

เหมือนแผ่นเสียงตกร่องที่เธอกับเขาพูดประโยคเดียวกันย้ำไปย้ำมา จิลลาที่อุทานซ้ำเพราะความประหลาดใจ ใช้เวลาตั้งสติอยู่พักใหญ่กว่าจะประมวลผลได้ “พี่อ้นหมายความว่าไง”

“คุณสิตะเป็นผู้ชายทั้งแท่งนะครับ เขาไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกัน เขาชอบผู้หญิง แล้วการที่เขาไปกับเพื่อนคุณสองต่อสอง บางที...”

“ทำไม!? เขาจะทำอะไรปลาดาวเหรอ!?!”

“ผมไม่แน่ใจ” แม้จะรู้ว่าเจ้านายเป็นสุภาพบุรุษพอจะไม่เอาเปรียบใคร แต่...ขอโทษจริงๆ นะครับคุณสิตะ คงมีวิธีนี้วิธีเดียวที่จะทำให้เธอยอมบอกว่าคุณไปซ่อนอยู่ที่ไหน

“เอ๊ย แรงอ่ะ แล้วทำไมพี่ถึงเพิ่งบอก สมยอมเป็นเกย์อยู่ได้ตั้งนาน แล้วทำไมปลาดดาวหลอกฉัน อ๋อ หรือว่ากลัวฉันฟ้องที่บ้าน ร้ายนักนะ โทรไปฟ้องน้าเดือนเลยดีกว่า”

“อย่าเพิ่งเลยครับ เรายังไม่รู้ว่าพวกเขาทำอะไรกันบ้าง สู้ไปดูให้เห็นกับตาแล้วค่อยรายงานทีเดียวดีกว่า”

“ไม่ต้องมาแนะนำ พี่ยังมีคดีติดตัวเรื่องที่รวมหัวกับทุกคนหลอกฉัน”

“ผมแค่ไม่อยากให้รีบร้อนเกินไป ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่”

“งั้นก็ไม่ต้องทำอะไร ปล่อยมันไป มันอายุ 25 แล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว ขนาดมากับเกาหลีกับผู้ชายแปลกหน้าได้ ก็คงไปเที่ยวต่างจังหวัดกับใครก็ได้ทั้งนั้น” จิลลาว่าด้วยความหงุดหงิด ก่อนคว้าสมาร์ทโฟนบนโต๊ะลงกระเป๋าเตรียมจะกลับ อนณเห็นท่าไม่ดีจึงรีบบอก

“คุณไม่กลัวว่าเพื่อนคุณจะท้องก่อนแต่งเหรอครับ”

สาวผิวเข้มชะงัก ก่อนหันกลับมา “เอ๊ย!! ถึงขั้นนั้นเลยเหรอ…เฮ้อ!!! จริงๆ เลย แล้วเอาไงล่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องไปมหาวิทยาลัยวันสุดท้าย ตามไปตอนนี้ไมได้”

“ถ้าอย่างนั้นเธอก็แค่บอกมาว่าเขาอยู่ไหน”

เสียงที่ตอบไม่ได้ดังมาจากผู้ชายตรงหน้า หากแต่เป็นหญิงสาวร่างบางระหงที่ไม่รู้ว่านั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไรต่างหาก จิลลานิ่วหน้าเล็กน้อย แม้จะจดจำเจ้าของใบหน้าสวยหวานได้ทันทีว่าเป็นใคร แต่ความไม่พอใจที่มีอยู่ก็ทำให้เธอเอ่ยออกไปเสียงห้วน

“คุณที่ให้ปลาดาวยืมเงิน มาอยู่นี่ไงได้ ปลาดาวมันไม่อยู่หรอกนะ”

“ฉันได้ยินแล้ว... ฉันตามเธอมาจากที่พัก เธอไม่เห็นเหรอ”

“ไม่เห็น” เสียงตอบสั้นคล้ายตวาด ตอนนี้เธอกำลังหงุดหงิด อะไรๆ ก็ขวางหูขวางตาไปเสียหมด “คุณนี่เป็นคนยังไงนะ หนึ่งแอบฟัง สองสะกดรอยตาม ถ้าไม่ได้มีเรื่องด่วนมาก ก็ต้องไร้มารยาทมากเลยสินะ”

“คุณจูน!!!” อนณรีบเอ่ยปรามเพื่อไม่ให้จิลลาลามปามอีกฝ่ายมากไปกว่านี้ สาวผิวเข้มกระแทกลมหายใจอีกครั้ง ก่อนคว้ากระเป๋าแล้วลุกขึ้น แต่ชายหนุ่มก็รีบเอื้อมมือไปรั้งเอาไว้

“ฉันกำลังอารมณ์ไม่ดี ถ้าพี่อ้นยังอยากคุย อีกสักสิบห้านาทีค่อยโทรมา” เธอว่าแล้วเตรียมสะบัดหน้า แต่คราวนี้คนที่รั้งกลับเป็นช่อชมพู

“ฉันจะไม่รอถึง 15 นาที เธอต้องบอกฉันตอนนี้ว่าสิอยู่ที่ไหน”

“เอ๊ะ!?!” จิลลาทำเสียงไม่พอใจ ขณะที่ช่อชมพูหันไปเอ่ยกับอนณ

“เมื่อเช้า คนของพ่อแยกออกไปสองคน ถ้าเกิดว่าพวกเขาตามสิไป ฉันคนเดียวที่จะหยุดพวกเขาได้ คุณเป็นบอดี้การ์ดของสิ คุณคงไม่อยากให้สิตกอยู่ในอันตรายใช่ไหม”

“นี่คุณพูดเรื่องอะไร พี่อ้น ผู้หญิงคนนี้พูดถึงอะไร คนของพ่อ ใคร แล้วใครเป็นบอดี้การ์ด”

คราวนี้นัยน์ตาของหนุ่มหน้าหนวดวูบไหว ก่อนความเคร่งเครียดจะปรากฏจางๆ บนสีหน้า

“ผู้ชายคนนี้ไง บอดี้การ์ดของสิตะ แล้วฉัน ก็เป็นแฟนของสิ... เธอควรจะบอกพวกเราได้แล้วนะ ว่าตอนนี้สิอยู่ที่ไหน ถ้าไม่อยากให้เพื่อนเธอตกอยู่ในอันตรายไปด้วย”

ช่อชมพูเอ่ยเสียงดังฟังชัดด้วยความมั่นใจ ซึ่งทำให้จิลลาถึงกับอ้าปากค้าง

เรื่องที่เพื่อนเธอตกอยู่ในอันตรายก็ส่วนหนึ่ง เรื่องที่สิตะมีแฟนเป็นผู้หญิงก็ส่วนหนึ่ง แต่เรื่องที่อนณ... คนที่เธอคิดมาตลอดว่าเป็นคู่ขาของสิตะ กลับเปลี่ยนฐานะมาเป็นบอดี้การ์ด มันทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก

อยู่ด้วยกันมาหลายวัน ถ้าเขาไม่ได้ปิดบังเธอเก่งมาก เธอก็คงจะซื่อบื้อมาก ถึงได้ไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง



เทียนแก้วยิ้มกับตัวเอง เมื่อหยิบรูปถ่ายในโทรศัพท์ ขึ้นเทียบกับป้ายหน้าที่พักที่อยู่ตรงหน้า

แม้ GPS ที่เธอแอบใส่ไว้ในกระเป๋าของดาวประกายจะถูกใครบางคนค้นพบและทำลายทิ้งไปแล้ว แต่ปากพล่อยๆ ของจิลลา ทำให้เธอได้เบาะแสเรื่อง Autumn in my heart ไม่ยากที่จะรู้ว่ามันคือชื่อซีรีย์เรื่องดัง ที่ใช้ชายหาดแห่งหนึ่งในซกโชเป็นสถานที่ถ่ายทำ แค่ค้นหาในอินเตอร์เนท วิธีตามรอยก็ปรากฏให้เห็นในหลายเวบไซต์ ส่วนเรื่องโรงแรมที่พัก.... ก็ต้องขอบคุณ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์กที่ทำให้การเป็นนักสืบของเธอง่ายขึ้น

เพราะส่วนใหญ่แล้ว การที่คนเราจะแนะนำให้ใครไปที่ไหน ก็แสดงว่าเราต้องเคยไปที่นั่นมาก่อน เธอก็แค่สมัครเฟสบุ๊คแล้วเข้าไปดูข้อมูลของจิลลา อัลบั้มรูปถ่ายที่เขียนว่าซกโชพร้อมระบุวันที่ ฝ่ายนั้นลงภาพทุกอย่างที่เคยมาเยือนเอาไว้ รวมทั้งโฮลเทลเล็กๆ แห่งนี้ด้วย

“แค่โฮลเทลเหรอครับ คุณสิตะไม่น่าจะมาพักที่นี่นะครับ” พลัชที่ติดตามมาออกความเห็น ขณะหยีตาเงยหน้ามองตัวอาคารหกชั้นที่รูปทรงก็เหมือนตึกทั่วๆ ไป หากแต่ด้านหน้ามีระเบียงไม้ยื่นออกมา พร้อมตกแต่งด้วยกระถางต้นไม้เล็กๆ.... ดูน่ารัก แต่ไม่ใช่สไตล์ของสิตะแน่ๆ

“เราเข้าไปถามดีกว่าค่ะ” เป็นการตัดบท ก่อนที่นักสืบสาวจะก้าวผ่านประตูกระจกเข้าไปโดยไม่รอ

-------------------

มาต่อตอนใหม่แล้วนะคะ กลัวจะลืมกันเลยรีบมา 5555

เที่ยวสงกรานต์กันสนุกไหมคะ ขอให้สนุกกับการอ่านด้วยนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^





ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 เม.ย. 2556, 23:47:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 เม.ย. 2556, 23:47:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 1166





<< ดาวปาฏิหาริย์ บทที่ 15   ดาวปาฏิหาริย์ บทที่ 19 >>
goldensun 14 เม.ย. 2556, 17:34:38 น.
เทียนเก่งสมเป็นนักสืบจริงๆ แล้วท่าทางดาวจะรู้ความลับของสิตะแล้ว หลักฐานเพียบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account