รักวุ่นวายของเเวมไพร์ที่ไม่เย็นชา
ใหนชีวิตฉันมันต้องมาหยุดอยู่ปลายทางอย่างนี้ล่ะ ฉันเป็นนักร้องชื่อดังอยู่ในวงการบันเทิงนะ ทำไม่ต้องมาโคจรเจอกับนายด้วนนะ ไอเเวมไพร์จอมเจ้าเหล์
มาบอกว่าฉันเป็นเเวมไพร์ เเถมต้องเเต่งงานกับนาย ชีวิตฉันมันจะดำเนินต่อไปอย่างไรเนี้ย เอาเเล้วไงไปๆมาๆฉันชักจะอินเลิฟกับนายเเล้วนะ ฉันจะทำไงดีล่ะที่นี้ ตานายมันบ่งบอกความเศร้าอยู่นะมันมีอะไรหว่า หน้าสงสัยๆ เเล้วอนาคตของฉันมันจะเป็นอย่างไงล่ะ ตายเเน่ๆชีวิตของช้านนนน!!!ToT
Tags: เเวมไพร์

ตอน: บทที่1






ทันทีที่เพลงของฉันจบพลุงไฟก็ทำงานทั้นที อ้อลืมไปฉันชื่อ เมเบล เพลงที่ฉันร้องไปเมื่อกี้ได้รับการตอบรับอย่างสูงจากแฟนเพลงของฉัน มันเป็นเพลงที่ฉันแต่งเอง ฉันหาจังหวะจบเพลงได้อย่างไพรเราะและลงตัว ฉันเป็นพวกชอบร้องเพลงแบบแนวดรามาร์ที่จริงฉันมีชื่อที่คุณพ่อตั้งให้แต่ฉันไม่ชอบเพราะมันดูเศร้าไปเลยปฎิเสธมาตลอด ฉันถูกพ่อเรียกชื่อนี้มาตั้งแต่เด็กแต่พอพ่อตายไปฉันก็ไม่ได้ยินชื่อนี้อีกเลย มิเอโกะ นี้คือชื่อที่พ่อเคยเรียกฉันแต่ตอนนี้มันไม่มีอีกแล้ว “เหล่าแฟนเพลงที่รักเชิญพบกับมินคุงได้ ณ บัดนี้เลยค่า~~” นี้คือชื่อของ ไอดอลที่ดังระเบิดเป็นพลุแตกในขณะนี้ เขาเป็นแขกรับเชิญในงานเปิดอัลบัมเพลงใหม่ล่าสุดของฉัน
“สวัสดีครับ~~แฟนเพลงของเมเบล ผมมาเป็นแขกรับเชิญนะครับยังไงก็ช่วยโปรโหมดด้วยนะครับ”
“เมเบลจ๊ะ จบงานนี้แล้วไปถ่ายแบบต่อนะจ๊ะ” นี้คือเสียงของคุณนิวโปรดิวเซอร์หรือผู้จัดการส่วนตังของฉันเอง
“ค่ะ”ตอบรับอย่างง่ายดายทั้งที่ตัวเองก็เหนื่อยมาก ม๊ากมาก
“ปัง!!” เย้!!ดีใจจนอยากลงไปนอนแดดินในถิ่นดินแดง(อะไรอะ)เพราะตอนนี้คอนเสิร์ดเปิดตัวก็จบลงแล้วแต่ตัวฉันมันยังไม่จบมันยังต้องมี งาน! งาน! แล้วก็งาน!!
“เมเบลจ๊ะขึ้นรถจ๊ะ”
“ค่ะ -_-;;” เฮ้อ!เหนื๊อยเหนื่อย เบื๊อเบื่อ เซ๊งเซง (เลิกทำเถอะงานน่ะ พูดซะ :Devil Rabbit)
“เมเบล!” ใครเรียกตูหว่า คนยิ่ง เหนื่อย เบื่อ เซง อยู่
“ค่ะ” ที่แท้ ก็พ่อมินคุงสุดหล่อของฉันเองนี่นา >-<
“นี้ช่อดอกไม้ครับ” อะไรของนายเนี้ย มาให้ช่อดอกไม้แบบนี้เขินนะ ตะเอง>//<
“ขอบคุณคะ มินคุงให้ฉันเหรอ” ตั้งสติไว้ยัยเมเบล
“เปล่าหรอครับแฟนเพลงฝากมาให้น่ะครับ” สติหลุดออกไปโลด
“เหรอคะ งั้นก็ฝากขอบคุณแฟนเพลงด้วยนะคะ” จงกลับมาสติของฉันจ๋า
“บรื๋น!!!” ทันทีที่ฉันก้าวขึ้นรถรถก็ออกโดยไม่ดูว่าฉันนั้นคาดเข็มขัดนิรภัยหรือยังจึงทำให้ฉันหัวไปโผลอยู่ตรงระหว่างเบาะข้างหน้า
“ขอโทษครับผมนึกว่าคุณเมเบลนั่งเรียบร้อยแล้วน่ะครับ” ไม่เอาให้หัวฉันไปโขกหัวนายเลยล่ะ
“ไม่เป็นไรค่ะ คราวหลังก็ช่วยระวังนิดนึงนะคะแล้วก็ก่อนออกรถเนี้ยดูว่าคนเขาเรียบร้อยรึยังนะคะ”ฉันพูดแบบจิกกัดลงไปนิดนึงเพื่อโชเฟอร์จะคิดได้
“ครับผมจะระวังนะครับ”
“เมเบลจ๊ะ คราวนี้เป็นถ่ายแบบคู่นะจ๊ะ” คุณนิวบรรยายงานที่ฉันต้องทำให้ฉันฟัง
“ค่ะ”ตอบรับจบก็มาถึงสตูดิโอพอดี แล้วใครคือคนที่ฉันต้องถ่ายแบบด้วยหว่า สงใสจังวุ้ย
“นี้จะ ห้องแต่งตัว” แหม่ขัดจังหวะความนึกคิดนะคะคุณนิว
“ค่า~~”ตอบรับไปแบบเซงเซงแล้วไปนังปักหลักอยู่ที่โต๊ะแต่งหน้าทำผม
“ไงคะคุณน้อง”เสียงของพี่ช่างแต่งหน้าทำผมเรียกฉัน
“มีอะไรหรอคะ”ถามไปแบบงงงวย
“หน้าคุณน้องดูเซงเซงยังไงไม่รู้นะค่ะ เหนื่อยหรอคะ”
“ใช่ค่ะ เหนื่อยมากค่ะ”
“แหม่อยู่ในวงการก็แบบนี้แหละค่ะ ต้องทำงาน แหม่เห็นคุณน้องทำหน้าแบบนี้แล้วเหนื่อนแทน เอ้าเสร็จแล้วค่ะคุณน้อง”
“O-O” ฉันเบิกตาโตเป็นไข่ห่าน เพราะพี่ช่างแต่งนี้พูดกับฉันเค่นิดเดียวทำผมแต่งหน้าเสร็จเรียบร้อยผ่านในเวลาไม่กี่นาที ในตอนนี้ใส่ชุดและแต่งหน้าทำผมเสร็จแล้วฉันจึงออกไปยื่นรอถ่ายแบบข้างนอก ฉันจึงถามคุณนิวว่า…
“ใครคือคู่ถ่ายแบบของเมเบลค่ะ”
“นั้นไง มานู้นแล้วจะ” สิ่งที่ฉันเห็นคือผู้ชายที่มีผิวขาวซีดตัดกับผมสีดำสนิดสไลด์ระต้นคอในตาสีนิลที่นิ่งสงบและยากจะหยั่งถึง ใครหว่าคุ้นๆแหะ เมื่อเข้าอยู่ในระยะสองเมรตฉันก็จำได้ทันที่ นายอาร์เธอร์เพื่อนรวมห้องของฉันเอง ลืมบอกไปว่าตอนนี้ฉันยังเรียนอยู่ม.ปลายปีสาม ฉันรู้ว่าเขาเป็นนายแบบและฉันไม่เห็นเขาจะคุยกับใครในห้องเลยยกเว้นเพื่อนที่เข้ามาเรียนกับเขา ตลอดม.ต้นปีสองจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่พูดกับฉัน
“ว้าย!!” ฉันร้องเสียงหลงเมือฉันโดนพี่ทีมงานชน
“เจ็บ ๆๆ ไม่เจ็บแหะ=๐=” เมื่อฉันลงมองตัวเองก็รู้ตัวว่าฉันนั้งทับเขาอยู่นี้เอง
“ฉันสิเจ็บ ระวังหนอยสิ” อาร์เธอร์ตะหวาดใส่ฉันอย่างโมโห
“ฉันขอโทษนะอาร์เธอร์ ไม่เป็นไรใช่มั๊ย”ถามอย่างห่วงใย
“ไม่เป็นไรได้ไง”
“ฉันถามนายดีดีนะทำไม่ต้องตะคอกใส่ด้วยหล่ะ”
“หึ”ไม่พูดต่อเปล่าแถมยังเชิ่ดใส่ฉันด้วย
“แล้วเมื่อไรจะลุกออกจากตัวฉันสักที”
“!ลุกแล้ว!”พูดอย่างหงุดหงิดแล้วลุกออกจากตัวเขาอย่างง่ายดาย
“เอ่อ คุณนิว เมเบลต้องถ่ายแบบกับนายอาร์เธอร์จริงๆหรอคะ -_-” ยิ่งไม่อย่างกวนอารมณ์อีตานี้อยู่
“จ๊ะ^U^” คุณนิวยิ้มให้ในสิ่งที่ฉันถามออกไปเมิ่อกี๊ โอ่แม่จ๋าช่วยลูกด้วย
“=๐= มีอะไร ไม่อยากถ่ายกับฉันขนาดนั้นเลยหรอ”เขาถามขึ้นเมื่อเห็นฉันทำหน้าเซง
“อืมใช่แล้วทำไม-๐-++” โมโหจนตอบไปแบบนั้น เลยโดนตอบกลับมาแบบนี้…
“ไม่ทำไมหรอ แค่ไม่อยากให้เธอดูเป็นผู้หญิงงี่เง่า”โอ้โหเจ็บแหะ เดียวเลิกงานนายโดนฉันดูเลือดแน่
ลืมบอกไปฉันเป็นแวมไพร์นะจะบอกให้ เพราะงานถ่ายแบบนี้ให้ฉันใส่ชุดเป็นแวมไพร์ แหมะเดี๋ยวฉันจะกัดนายให้ตายเลย
“แฮ่~~”ฉันแยกเขี้ยวให้นายอาร์เธอร์ (ของปลอมนะจ๊ะ) อย่างโมโหโทสะ
“แยกเขี้ยวให้ฉันทำไม จะดูดเลือดหรอ อะ” อีตานี้พูดจบก็เอียงคอมาให้ฉัน แต่ทำไมพอดูคอของอาร์เธอร์แล้วมันกระหายนะ …
“เมเบล”ใครเรียกน่ะ
“เมเบล”ใครเรียก
“O-O”ฉันเบิกตาโตพร้อมกับมองดูรอบๆห้องแต่แปลกแหะฉันเป็นอะไรไปหว่า
“เมเบล”ฉันมองมาหาคนที่เรียกฉัน
“O๐Oอาร์เธอร์”ฉันตกใจเมือเขาเรียกฉันทำไม (อะไรของเกเนี่ย: Devil Rabbit)
“เธอเป็นลมน่ะ สงใสทำงานมากไป”
“เป็นลม…?” ฉันถามอย่างสงใสว่าไปเป็นตอนใหน
“อืม”
“แล้วงานถ่ายแบบล่ะ”แล้วถามไปอีกรอบด้วยความสงใสตามเดิม
“ทีมงานบอกว่าต้องถ่ายให้ได้ จะรอจนเธอตื่นแล้วถ่ายต่อ”
“อ๋อ งั้นก็ไปถ่ายกันสิ”
“ไปสิ”
“นายก็ไปสิ”
“เธอก็ลุกสิ”เอ๊ะ อีตานี้หนิ
“นายก็ลุกก่อนสิ”
“จะจีบกันอีกนายมั๊ยจ๊ะ”คุณนิวถามขึ้นอย่างเหลืออด
“นายลุกสิขวางทางลุกของฉันน่ะ”เอ่ แต่อีตานี้อยู่บนโซฟาตั้งแต่ตอนใหนเนี้ย
“เสร็จแล้วครับ ขอบคุณมากนะครับ” ช่างถ่ายภาพเอ่ยขึ้นหลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าๆ
“ไม่เลวหนิอาร์เธอร์”
“มืออาชีพอย่างฉันมันก็งี้แหละ” ชิ หลงตัวเอง (=3=)
“นี้ อาร์เธอร์ฉันไม่เห็นนายคุยกับเพื่อนในห้องเลยทำไม่อะ”ต่อมสงใสเริ่มทำงาน
“…” ไม่ตอบแหะ
“ก็ได้ ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร ไว้เจอกันที่โรงเรียนนะ บ๊ายบาย”พูดจบก็โบกมือลาให้อีตานิ่งเงียบ
“ว้าวในที่สุดก็หยุดสักที พรุ่งนี้ก็ไปโรงเรียน นอนพักผ่อนดีกว่า” พูดกับตัวเองจบก็ปิดไฟนอนทันที
“อืม หนาวจัง”เมื่อฉันหันไปดูก็พบว่าหน้าต่างถูกเปิด แต่ฉันปิดไปแล้วไม่ใช่หรอ สงใสลืมละมั้ง
วิ้ว~~~~
“กลิ่นหอมจัง น้ำคาง สายลม ความมืด และแสงของพระจันทร์ ช่างหน้าหลงใหลเหลือเกิน เหมือนเคย…สัมพัธท์มาก่อน…” ฉันมายืนดูกลิ่นอายของยามค่ำคืนโดยไม่รู้ตัว
“หิวจัง…”พูดจบก็ยกมือตัวเองขึ้นมากัด แต่ไม่ทันไรก็มีคนมายืนอยู่ตรงหน้า
“อึก”กลืนน้ำลายตัวเองอย่างกระหาย ฉันเป็นอะไปนะ
ตุบ!!!
มีใครบางคนช้อนตัวฉันหลังจากที่ฉันล้มลงไปขึ้นไว้บนตักแล้วกัดแขนของตัวเอง อะไรมันใหลลงมาในปากฉันน่ะ เลือดหรอ แต่ฉันไม่สนแล้ว ฉันหิว กระหาย ไม่ว่าฉันจะเป็นปีศาษหรือตัวอะไรก็ช่าง ฉันจับแขนของคนๆนั้นขึ้นมาแล้วดูดเลือดอย่างบ้าครั่ง สิบวินาทีที่ฉันดูดเลือดของคนๆนั้นฉันก็ปล่อยมันออก
“นะ นายเป็นใคร”เมื่อฉันกลับสู่สภาวะปกติฉันก็ถามคนๆนั้น
“เปิดไฟสิ” เขาพูดแบบนี้ และทันทีที่ฉันเปิดไฟฉันก็ต้องตกใจ เมือพบว่าคนตรงหน้าคือ
“อะ อาร์เธอร์!!” และต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่าชุดนอนสีขาวของฉันเต็มไปด้วยเลือด
“ละเลือด ฉันเป็นอะไรไป”จู่ๆทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลงไปราวกลับเป็นเพียงฝัน
“ขอให้ทุกสิ่งเป็นเพียงฝันด้วยเถอะ”เสียงสุดท้ายของฉันหลุดออกจากปากก่อนทุกอย่างจะมืดลงไป
“กรี๊ด~~! แห่กๆๆ” ฉันตื่นขึ้นมาพลางหอบแห่กๆเพราะอาการตกใจ เมื่อเหลือบมองหน้าต่างก็พบว่าเช้าแล้วแต่หน้าต่างบานเดิมก็ยังเปิดอยู่
“เลือด!” ฉันก้มมองดูชุดนอนสีขาวที่เมื่อคืนเต็มไปด้วยเลือดแต่ก็ไม่พบอะไรบนชุดนอนสีขาวนี้
“ เฮ้อ! ในที่สุดฉันก็ฝันไป แต่เหมือนจริงมาก ทั้งกลิ่น และรสชาติของเลือด แต่ช่างมันเถอะยังไงฝันก็คือฝันเนาะ” ฉันกับมายิ้มให้กับตัวเอง เมื่อฉันอาบน้ำเสร็จก็เตรียมตัวไปโรงเรียนแต่ก็ต้องพบว่าคุณแม่ไปทำงานตอนเช้ามืดอีกแล้ว
“คุณแม่…คิดถึงจัง เมเบลอยู่บ้านคนเดียวเหงานะอยากเจอคุณแม่ตอนเช้าทุกวันจังเลย”
“คุณพ่อเมื่อคืน มิเอโกะฝันร้ายด้วยนะ เหงาจังเลยค่ะคุณพ่อ”ฉันพูดอยู่กับรูปของคุณพ่อที่เสียไป ฉันใช้ชื่อที่คุณพ่อชอบเรียกบ่อยๆตั้งแต่เด็ก
“ไปก่อนนะคะ คุ้มครองมิเอโกะด้วยนะคะคุณพ่อ” พูดจบอีกรอบก็ออกมาจากบ้านก็พบว่าอาร์เธอร์มายื่นรออยู่หน้าบ้าน
“มาทำไม”ฉันถามออกไปอย่างไมสบอารมณ์
“มารับเธอ”
“มารับทำไม ฉันมีขาเดินเองได้ แค่ยี่สิบนาทีก็ถึงโรงเรียนแล้ว ไม่ต้องใช้รถหรอก”
“ไม่ได้ ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ”
“นั้นแขนไปโดนอะไรมาน่ะ”ฉันถามเขาเพราะเหมือนในฝันฉันจะเห็นอาร์เธอร์ด้วย
“เอ่อ… ฉันหกล้มน่ะ แต่เธอจะขึ้นรถได้รึยัง”
“ได้สิ ^๐^ เอ๊!>O< จะบ้ารึไง!บอกไม่ขึ้นก็ไม่ขึ้นสิ ยังจะชวนอยู่ได้”
“จะขึ้นหรือไม่ขึ้น”
“ไม่=<>=”
“ว้าย!! นี้นายจะทำอะไรเนี้ย ปล่อยน้า~~” อาร์เธอร์อุ้มฉันแล้วพาไปยังรถของเขา
“ก็เธอไม่ยอมขึ้นดีๆฉันเลยต้องทำแบบนี้”
“! อะไรของนายเนี้ย ตั้งแต่นายเข้ามาที่โรงเรียน นายก็ไม่เคยคุยกับฉันหรือคนอื่นเลย จนถึงเมื่อวานเนี้ย นายก็คุยกับฉันนายบ้ารึเปล่า วันนี้ก็อีกนายนี้มันบ้าบอที่สุดเลย ชิ!” ฉันโวยวายในรถของเขาทั้งที่อยู่ในท่าอุ้มเจ้าสาวนี้แหละ
“จบรึยัง”เขาถามฉัน
“จบแล้ว”ฉันตอบเขา
“ดี ฉันมีเรื่องจะบอก”
“มีไรก็ว่ามาสิ”
“เธอะต้องเป็นแฟนของฉัน”
“ว่าไงนะ”
“เธอต้องเป็นแฟนกับฉัน”
“ทำไมอะ นายไม่ได้รักฉันแล้วฉันก็ไม่ได้รักนาย เราสองคนไม่ได้รักกันมันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเป็นเฟนกัน!”
“แต่เธอต้องเป็นแฟนกับฉัน”
“เพราะอะไรเล่า!!” ฉันเริ่มมีน้ำโห
“เพราะท่าเธอไม่อยากตายเธอก็ต้องเป็นแฟนกับฉันแล้วเราต้องแต่งงานกัน”
“ทำไมฉันต้องตาย”
“เพราะเธอเป็นแวมไพร์”
“วะวะแวมไพร์”
“ใช่”
“แล้วทำไมฉันต้องตายล่ะ”
“เพราะเธอดื่มเลือดของฉันไงล่ะ”
“ละแล้วแม่ของฉันล่ะ”
“ตามกฎของเมเดล ถ้าเธอเป็นแวมไพร์แล้วพ่อแม่เธอจะเป็นอะไร”
“แวมไพร์”
“อืม”
“แม่ฉันรู้เรื่องนี้รึยัง”
“รู้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว”
“งั้นเมื่อคืนก็ไม่ได้เป็นความฝันน่ะสิ”
“ใช่”
“แล้วดื่มเลือดนายทำไมต้องตาย”
“การที่อีกฝ่ายต้องการเลือด แล้วอีกฝ่ายที่ให้เลือดมันจะส่งผลกับแวมไพร์ที่ต้องการเลือดมากที่สุดท้าไม่แต่งงานเลือดของแวมไพรที่เป็นผู้ให้มันจะส่งผลกับคนที่ได้เลือดหนะสิและยกเว้นเลือดของพ่อแม่หรือญาตินะ”
“อ่าว แล้วแบบนี้ผู้หญิงไม่ต้องแต่งงานกับผู้หญิงผู้ชายไม่ต้องแต่งกับผู้ชายหรอ”
“การที่อีกฝ่ายจะให้เลือดได้ต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามเท่านั้น”
“อันตรายที่สุด”
“แล้วที่ฉันพูดมาทั้งหมดเธอไม่ตกใจเลยหรอ”
“=-=;;;”
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ…ย่ะอย่าบอกนะว่า~~~”
“>O<กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด”พอกรี๊ดจบก็สลบไปทันใด
“ฮะเฮ้ย OoO”
“ช่วยบอกทีสิว่านี้คือความฝันน่ะ อาร์เธอร์@o@”ฉันพูดกับอาร์เธอร์ด้วยอาการเวียนหัว
“เมเบล”
“@o@อืมกำลังฟังอยู่”ยังวิงเวียนอยู่
“มันคือความจริง”
“กรี๊ดดดดดดดดดด”ขอสลบอีกรอบ
“เมเบล”
“หื๊อ…”
“เมเบล…ถึงโรงเรียนแล้ว”
“อุ้มไปหน่อยสิ ไปห้องพยาบาลนะ ปวดหัวน่ะ”
“ได้สิ”เขากระซิบข้างหูของฉัน
“เมเบล”
“หื๊อ…”
“เธอจะแต่งงานกับฉันรึเปล่า”เขาถามฉันขณะเดินไปห้องพยาบาล
“แต่งสิ”ฉันตอบออกไปเบาๆราวกับไม่มีเสียง
“เธอพูดจริงรึเปล่า”
“ฉันโกหกน่ะ”
“เมเบล เดี๋ยวเธอได้ตายหลอก”
“ไม่ได้อยากตายสักหน่อย”
“เมเบล”
“อะไรอีกฉันปวดหัวนะ”
“ดูรอบตัวเธอสิ”
ฉันมองรอบตัวก็พบว่าคนทั้งโรงเรียนกำลังมองมาที่เราสองคน
“ทำไม่มีแต่คนมองล่ะอาร์เธอร์”
“ก็ฉันอุ้มเธออยู่”
“วะว่าไงนะO//o//O”
“ฉันอุ้มเธออยู่”
“น่ะ นายมาอุ้มฉันทำไมเนี้ย!”
“ก็เธอขอให้ฉันอุ้มเองนะ”
“ว่างฉันลงเดี๋ยวนี้”พูดจบอีตานี้ก็ว่างฉันลง สายตานับร้อยคู่มองมาที่เราสองคนอย่างสงใสว่าอุ้มกันมาทำไม
“ฉะฉันขึ้นห้องก่อนนะ”ฉันพูดกับอาร์เธอร์แล้วรีบวิ่งขึ้นห้องมาอย่างเขินอาย
“เมเบลสวัสดีจ๊ะ แหมหวานกันตั้งแต่เช้าเลยน้า~~~”
“วะหวานเหวินอะไรกันเล่า”ฉันพูดอย่างเขินๆกับยัยแบมบี้เพื่อนสนิทคนแรกของฉัน
“วี๊ดวิ้ว!!ไม่ยักรู้ว่าเธอมาโรงเรียนกับอาร์เธอร์มัน”เพื่อนของอาร์เธอร์มาแหย่ฉัน
“ปะเปล่าซะหน่อยวิล อาร์เธอร์เขาแค่ผ่านไปแล้วก็ผ่านมานน่ะ แฮ่ๆ =๐=;;;” เนียนๆไว้ยัยเมเบล อ้วนหนอผอมหนอ (มันต้องยุบหนอพองหนอไม่ใช่หรอ: Devil Rabbit)
“เฮ้!เธอรีบวิ่งขึ้นมาทำไมน่ะใหนบอกว่าปวดหัวไม่ใช่หรอ” พูดยังไม่ทันจะขาดคำเจ้าตัวก็มาและ
“ไงไอ้อาร์เธอร์แกมาแล้วหรอวะ” วิลทักอาร์เธอร์ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง
“ก็มาแล้วสิวะ ถ้าไม่มาเกจะเห็นฉันยืนอยุ่ตรงนี้หรอ” เออ ถามอะไรแปลกๆ
“ฉันแหย่แกเล่นๆ ไม่เห็นต้องโกรธเลยๆ อ่าวว่าแต่เมเบลไปใหนแล้วอะ?”
“เออว่ะ ?”
ฉันรีบเผ่นออกมาจากห้องแล้วตรงดิ่งมาห้องพยาบาลทันที
“ขออนุญาติค่ะ”
“เชิญจ่ะ เป็นอะไรล่ะ”
“เออ ปวดหัวนิดหน่อยค่ะคุณครู =-=;;;;”
“งั้นเดี๋ยวทานยาแล้วนอนพักนะ แล้ววขออาจายร์ประจำวิชารึยังจ๊ะ”
“ขอแล้วคะ”
“งั้นไม่มีปัญหา ทานยาแล้วนอนนพักนะ”
“ค่ะ” ครูนี้ถามยาวจริงๆ คนยิ่งปวดหัวอยู่ =^=;;;
ฉันกินยาเสร็จก่อนเดินมานอนที่เตียงแล้วรูดผ่านปิด หาว~~~ยานี้ฤทธ์แรงจริงๆกกินปุ๊ปง่วงปั๊ป
ไม่ไหวแล้ว หลับแลยแล้วกัน
กิ่ง~ก่อง~ กิ่ง~ก่อง~ กิ่ง~ก่อง~ กิ่ง~ก่อง~
“อืม อ่อดดังแล้วหรอเนี้ย ฉันนอนไปแป๊ปเดียวเองนะ”เมื่อฉันเหลื่อบมองดูนาฬิกาก็พบว่า
“โอ้ว!!!แม่เจ้า สามโมงแล้ว อะไรมันจะเร็วปานนั้น”มองซ้ายมองขวามองหน้าหันหลังรีบวิ่งไปที่ห้องเรียนทันทีเพื่อนไปหยิบกระเป๋าสะพายข้าง
โคร้ม!!!! รีบวิ่งไปหน่อยไปชนใครเขาเข้าอีกล่ะเนีย
“เจ็บๆๆๆๆๆ” อุทานออกมาด้วยความเจ็บ
“เจ็บๆๆๆๆๆ”
“>-O” ลืมตาขึ้นมาข้างนึงเพื่อดูว่าใครที่ร้องออกมาแบบเดียวกัน
“เมเบล เธอวิ่งระวังหน่อยได้มั๊ย!”
“กรี๊ด~~~อะอะอะปีเตอร์”ฉันรีบถอยกรูไปติดกำแผงอย่างรวดเร็วในสภาพนั่งเจ็บอยู่
“อาร์เธอร์ ต่างหากเล่ายัยเบอะเฟอะฟะ”เอ็ดตะโลใส่ฉันใหญ่เลยนะ
“ฉันขอโทษ >/ \O”ฉันยกมือขอโทษทันที
“ไม่เป็นไร ว่าแต่ไปใหนมา โดดเรียนตั้งหกคาบ”
“เออ…ไป…ไป”
“ไปใหนมาบอกมาเร็วๆสิ”
“โอ๊ย!!กำลังจะบอกเนี้ย จะรีบไปทำไรมิทราบ!! ฉันไปห้องพยาบาลมา”
“เป็นไร!”
“ปวดหัว บอกไปตอนเช้าแล้วม่ใช่หรอ =o=;;;;”
“ดูสีหน้าเธอไม่ดีเลยนะ เหงื่อเต็มเลยไหวมั๊ยเนี้ย”
“ไหวสิคนอย่างฉันมันกะโหลกหน้าอยู่แล้ว”(กี่เซนอะ: Devil Rabbit)
“เออๆให้จริงอย่างที่พูดเหอะ”
“แล้วนายทำไมไม่กลับบ้านล่ะ”
“ฉันเอากระเป๋าสะพายมาให้เธอน่ะ”
“ขอบใจนะ นายเย็นชาจอมจุ้น!! แบร่~~” ฉันแลบลิ้นให้นายนี้
“เดี๋ยวเหอะ =_=**”
“ช่วยม้ายด้ายแบร่~~”ฉันแลบลิ้นให้นายนี้อีกรอบ
“ยัยปีศาษจอมซุ่มซ่าม”
“=-=**ว่าไงนะ”
“เปล๊า!!ไม่มี๊ไม่มี”
“ไอ้คุณอาร์เธอร์ ทำเสียงสูงเชียวนะ”เมื่อกี้ได้ยินนะแต่ไม่อยากเอ่ย
“จะกลับยัง”
“จะกลับตั้ยแต่นายด่าฉันแล้วแหละ=o=;;”
“งั้นฉันไปส่ง”
“เอาสิฉันขี้เกียจเดินกลับ”
“ทีเมื่อเช้าเอะอะอยากจะลงเดินทีตอนนี้อยากจะขึ้นรถ”
“งั้นไม่ขึ้นก็ได้=_=”
“อะๆๆฉันล้อเล่น ไปๆ^///^”
เเล้วอาร์เธอร์ก็พาฉันขึ้นรถกลับบ้านเเบบเขินๆ^^คิกๆเห็นหน้าเขาเขินเเบบนี้ตลกดีจัง















ปีศาษกระต่าย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 เม.ย. 2556, 12:39:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 เม.ย. 2556, 12:39:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 1003





<< บทนำ   บทที่2 >>
ปีศาษกระต่าย 2 พ.ค. 2556, 18:56:20 น.
หนูเพิ่งเขียนเรื่องนี้เป็นเรื่องเเรก ถ้าไม่ชอบก้ขออภัยดว้ยนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account