รักก็คือรัก(เรื่องสั้น)
รัก... คือความรู้สึกดีๆ หากจะมีความหมายก็คงอธิบายไม่ได้ เพราะความหมายนั้นคงเปลี่ยนไปแล้วแต่ใครสักคนจะนิยาม
Tags: รัก, ซึ้ง, สบาย, คิดถึงนะ, รชต

ตอน: รักก็คือรัก part 1

“คาราเมล คาปูชิโน่ปั่น แก้วหนึ่งค่ะ”


เสียงใสจากลูกค้าเรียกพ่อค้าที่ง่วนอยู่กับการจัดเคาท์เตอร์ให้เงยหน้าขึ้น เขาส่งยิ้มขอโทษที่เพิกเฉยต่อการมาของเธอ รับคำไปแบบง่ายๆ “ครับ”

เสียงดนตรีบรรเลงเพลงลูกกรุงร่วมสมัยดังขึ้นแผ่วเบา ในอากาศเย็นฉ่ำจากเครื่องปรับอากาศช่วยผ่อนคลายความร้อนจากอากาศด้านนอกได้เป็นอย่างดี กลิ่นหอมของกาแฟและขนมอบทำให้หญิงสาวสูดหายใจลึก อดใจไม่ได้ที่จะลุกขึ้นเข้าไปดูขนมที่อยู่ในตู้กระจก

“น่ากินจังเลยค่ะ” หญิงสาวยิ้มขณะที่สายตายังคงมองขนมที่เรียงกันอวดความสดใหม่

เสียงเครื่องปั่นดังก้องสะท้อนห้องที่มีเขาและเธออยู่เพียงสองคน เสียงห้าวทุ้มไม่ดังเท่าใดนัก “เค้กเราทำสดทุกวันครับ วันนี้มีบานาน่าเครปเค้กราดซอสราสเบอร์รี่ ชีสเค้กมะม่วง บานาน่าช็อกโก้มัฟฟินครับ”

“มีแต่ผลไม้ไทยทั้งนั้นเลย”

“ครับ ตามฤดูน่ะครับ รับชิ้นไหนดีครับ”

นิ้วเรียวชี้ไปที่ชิสเค้กมะม่วงทั้งที่พ่อค้าไม่ได้มอง “นี่ก็แล้วกันค่ะ”

เมื่อสั่งของที่ต้องการแล้วเธอจึงกลับมานั่งที่หยิบหนังสือนิตยสารเกี่ยวกับการจัดสวนและบ้านมาอ่าน สีเขียวของต้นไม้ช่วยผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี เหมือนกับสวนหน้าร้านที่เธอนั่งมองสลับกับหนังสือ เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น หม้อ กระทะ ชามเล็กๆ ถูกนำมาดัดแปลงเป็นกระถางต้นไม้ จัดไว้อย่างพอเหมาะพอดี

“คาราเมล คาปูชิโน่ปั่นครับ”

เสียงวางแก้วดังกึกช่างแผ่วเบาเมื่อเธอหันมาสบตากับพ่อค้าหนุ่ม โครงหน้าเข้มของเขาไม่มีส่วนใดเลยที่บ่งบอกว่าเป็นบาริสต้า

“เอ่อ... ขอโทษนะครับ”

“อ่อ... คะ” หญิงสาวหลุดจากภวังค์

“เมื่อกี้คุณสั่งเค้กอะไรนะครับ พอดีผมไม่ทันได้ฟัง”

ริมฝีปากสีแดงเข้มยิ้มให้เธอ แก้มสีชมพูนั้นทำให้เธอรู้สึกร้อนขึ้นมาทันที การทำงานของเครื่องปรับอากาศดูเหมือนจะไม่เป็นผลกับเธอในตอนนี้

“อืม... ชีสเค้กมะม่วงน่ะค่ะ”

“อ้อ... รอสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มรับคำแล้วเดินกลับไปยังเคาท์เตอร์ของเขา และเดินกลับมาพร้อมขนมที่สาวเจ้าสั่ง

ใจเจ้ากรรมของหญิงสาวสั่น อดไม่ได้ที่จะมองไปยังคนที่ทำตัววุ่นอยู่ด้านในร้านนั้น แม้เสียงเพลงยังคงคลออากาศแสนสบายนั้น แต่เหมือนมันช่างเงียบสงัด เสียงอื่นใดคงไม่เท่าเสียงทุ้มนุ่มของเขา ภาพงดงามเพียงใดก็คงไม่เท่ารูปหน้าอันคมเข้มของเขา เธอยิ้มอายกับตัวเอง ปล่อยความเงียบทำหน้าที่ของมันผ่านเวลาที่ล่วงเลยไป น้ำสีเหลืองนวลในแก้วค่อยๆ ลดลงจนเกือบจะหมดไป ขณะที่หยดน้ำใสข้างแก้วค่อยๆ ไหลลงสู่จานรองเล็กข้างใต้

กระดิ่งที่หน้าร้านดังอีกครั้ง ร่างบางสมส่วนเดินออกลับหายไปหลังแผ่นประตู วาคิมยิ้มกับตัวเองเมื่อนึกถึงกิริยาลุกลี้ลุกลนของเธอ ตาโตๆ คู่นั้นดูสุกใสเมื่อเขาสบตา แก้มสีชมพูจากบลัชออนก็ดูเข้มในยามที่เธอก้มมองหนังสือในมือหรือมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมรอยยิ้ม

คงไม่ใช่คนแถวนี้ เขาคิดคนเดียวในใจ มองออกไปยังสวนเล็กๆ หน้าร้านของเขา ข้างนอกนั่นหยดน้ำฝนกำลังร่วงหล่นไปตามฤดูกาล

ฝนตกมันช่างน่าเศร้า ใครๆ เขาก็บอกแบบนั้น

ฝนตกมันช่างน่าเศร้า เขาก็เริ่มคิดแบบนั้นเช่นกัน ความคิดนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเขาผันตัวเองมาเป็นบาริสต้า เมื่อใดที่ฝนตก เมื่อนั้นร้านเขาก็เงียบสงบเหมือนเช่นตอนนี้



หยาดฝนหล่นรดต้นไม้เขียวขจีในสวนให้ชุ่มฉ่ำ ในยามที่ลมพัดน้ำใสพลันร่วงกรูรวมกับน้ำฝนที่ร่วงหล่น เขาชอบนั่งเงียบฟังเสียงฝน มองพื้นหญ้าสีเขียวฉ่ำน้ำ มันช่วยให้จิตใจสดชื่นได้โดยอัตโนมัติ

เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับหญิงสาวคุ้นหน้าที่เดินเข้ามา ร่มสีดำถูกวางลงตรงที่วางข้างประตู ความเพลิดเพลินจากหยาดฝนขาดหายไปเป็นระยะตามจังหวะของหัวใจ หญิงสาวในชุดเซกสีน้ำเงินเข้มยิ้มให้เขา เรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่อาจลืม

“สวัสดีคิม ขออะไรอุ่นๆ ให้เราสักแก้วได้ไหม”

วาคิมลุกขึ้นเหมือนหุ่นยนต์ที่ถูกป้อนคำสั่งจากเธอเรียบร้อยแล้ว นั่นรวมถึงรอยยิ้มตอบของเขาเช่นกัน “คุณจะดื่มอะไรดีล่ะ แก้ว”

“อะไรก็ได้ค่ะ เราดื่มได้หมด”

รัตนมณีนั่งลงที่โซฟาริมหน้าต่าง สวนของเขาดูน่ารัก โดยเฉพาะไม้พุ่มที่ปลูกเป็นกำแพงนั้นเขาคงดูแลมันอย่างดี ต้นไม้ที่เธอและเขาก็ชอบเช่นเดียวกัน ต้นแก้ว

โครงหน้าที่มองจากด้านข้างดูงดงาม ตั้งแต่คิ้ว สันจมูก ริมฝีปากบาง รวมถึงพวงแก้มสีชมพูระเรื่อนั้นเช่นกัน

เสียงแก้วกระทบพื้นโต๊ะดังกึก วาคิมนั่งลงตรงหน้าเธอ “พายุดีเปรสชั่นพัดมาหรือเปล่านะคุณแก้ว”

หญิงสาวชอบใจกับอารมณ์ขันของชายหนุ่ม เธอยกโกโก้ร้อนขึ้นจิบ “พูดซะเวอร์ พอดีมีเรื่องให้ช่วยหน่อย”

“นั่นไง ว่าแล้วเชียว” วาคิมทิ้งตัวพิงพนักโซฟา “เรื่องรบกวนนี่มากหรือน้อยนะ”

“ไม่แน่ใจว่ามากไหม แต่สำคัญมาก”

รอยยิ้มพิมพ์ใจเป็นอย่างไรคงหาคำตอบได้ไม่ยาก หากแต่เขาคุ้นชินกับรอยยิ้มนี้ไปเสียแล้ว คุ้นเสียจนไม่อาจจะลบมันออกได้จากความทรงจำ แล้วในวันนี้เธอก็มาย้ำรอยยิ้มพิมพ์ลงในใจอีกครั้ง

“ก็ไม่พูดสักทีเนี่ย รอฟังอยู่” วาคิมพูดต่อด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนของเขา

“เราไม่รู้จะเริ่มไงดี” รัตนมณีหน้าขึ้นสี เหลือบตาลงมองแก้วที่อยู่ในมือก่อนที่จุดพูด “เราอยากให้คิมช่วยจัดสวนหน้าบ้านให้หน่อย เราไม่รู้จะให้ใครมาจัดให้ดี ก็เห็นมีแต่คิมนี่แหละที่ไว้ใจที่สุด”

“เรือนหอสินะ” ชายหนุ่มยิ้มล้อ ขณะที่หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

รัตนมณีพยักหน้า “ใช่ เราอยากให้มันออกมาดีที่สุด”

“ว้า... อิจฉาคนมีความรักจัง” วาคิมเงยหน้ามองเพดาน ข้างบนนั้นมีโคมไฟส่องแสงสีนวลซึ่งช่วยทำให้ห้องนี้สว่างไสว ยกเว้นสี่ห้องในใจของเขา

“ก็พูดแต่อย่างนี้”

“ก็หรือไม่จริง” เขาย้อนด้วยคำถามที่ไม่ใช่คำถาม “เรือนหอสร้างเสร็จแล้วเหรอ”

“อืม” เธอจิบโกโก้ร้อนอีกครั้ง “เหลือตกแต่งอีกนิดหน่อย แล้วก็รอสวนจากคุณวาคิมนี่ล่ะค่ะ”

“โอเค” เขาตอบโดยที่ไม่คิดสิ่งใด “เราจะเข้าไปดูวันพุธนี้แล้วกันนะ”

“ขอบคุณมากนะคิม”

น้ำเสียงอ่อนหวาน แววตาอ่อนโยน แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับวาคิม ความรักไม่ว่าผ่านไปนานเท่าไรมันก็ยังคงเป็นความรัก นานแสนนานแค่ไหนหากเป็นรักแล้วก็ไม่แปรเปลี่ยนเป็นอื่น

เสียงฝนด้านนอกไม่อาจแทรกเสียงสนทนาของเขาและเธอได้ เสียงหัวเราะที่ดังขึ้นเป็นระยะเหมือนจะพัดผ่านก้อนเมฆมืดมนให้พ้นไป แสงแดดยามบ่ายทอแสงต้องหยาดฝนบนใบไม้เป็นประกาย สายลมพัดเบาๆ หอบเอากลิ่นดินเข้าไปในร้าน เสียงกระดิ่งดังกรุ้งกริ้งขณะที่ร่างบางหายลับไปด้านหลังประตู



รชต
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 เม.ย. 2556, 13:14:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ค. 2556, 14:10:26 น.

จำนวนการเข้าชม : 1527





   รักก็คือรัก part 2 >>
รชต 30 เม.ย. 2556, 13:21:10 น.
ปล. กลับมาเพราะคิดถึง เรื่องเก่าก็ยังเขียนไม่จบ คาดว่าคงจะไม่จบ เศร้าๆ เอาเรื่องสั้นชิมลางไปก่อนนะคะ

คิดถึง คิดถึง จุ๊บ จุ๊บ ^.^


pkka 30 เม.ย. 2556, 21:50:33 น.
รอต่อเลยหล่ะ^^


คิมหันตุ์ 1 พ.ค. 2556, 16:19:43 น.
ตามมาอ่านจ่ะ เห็นว่าเป็นเรื่องสั้น อิอิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account