เสน่ห์นางหงส์
ตมิสา แม่หงส์สวยแสนเสน่ห์ เซเลบฯ สาวจอมหยิ่ง ขี้วีน ปากร้าย แล้งน้ำใจ ไม่เคยเห็นใครอยู่ในสายตา แต่ทำไม๊ทำไมคนอย่าง คณาธิป เจ้าของไร่ "พระจันทร์” หนุ่มหล่อพ่อไม่รวยถึงได้ตกหลุมเสน่ห์แม่หงส์จนถอนตัวไม่ขึ้น
ในอดีตเขาคือ "ไอ้เด็กวัด" แสนเชยที่คอยตามตอแยเธอตลอด แต่สาวเจ้าหรือจะชายตาแล และเมื่อฐานะเปลี่ยน งานนี้เขาจึงต้องปฏิบัติการขั้นเด็ดขาดเพื่อพิชิตหัวใจเย็นชาของแม่สาวจอมขี้วีนอย่างเธอมาให้ได้ ดั่งคำกล่าวว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล เมื่อไม่ได้ด้วยกลก็เอาด้วยคาถา คำว่า "มารยา" ใครว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่ใช้เป็น

Tags: นิยายรัก สาริน

ตอน: ตอนที่ 2 70%

คณาธิปยืนไขว้หลังมองคนงานในไร่กำลังขุดแปลงเตรียมปลูกกาแฟล็อตใหม่ พันธุ์อาราบิก้าที่ราคากำลังขึ้นสูงและเป็นที่นิยมของตลาด หลังจากล็อตแรกได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเขาจึงต้องเร่งเพิ่มผลผลิต
สายตาของเขาทอดจับไปยังคนงานใหม่ที่เขาอุตส่าห์หอบหิ้วมาจากกรุงเทพฯ ท่าทางทำงานแข็งขันนั้นทำให้เขาพอใจ
เขาเองเห็นแล้วก็เวทนา อย่างน้อยก็ช่วยให้นายเป็ดกับลูกเมียมีที่อยู่ที่กิน คนงานในไร่ก็ดูจะรักและเมตตาลูกชายของมันอยู่มาก
เมื่อเห็นหน้านายเป็ดเขาก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใครอีกคน
ตมิสา…ชื่อของเธอแปลว่าพระจันทร์ เช่นเดียวกับชื่อไร่ จนแล้วจนรอดเขาก็ยังเอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ ผู้หญิงที่ทำลายความเชื่อมั่นในตัวเองของเขาจนแทบหมดสิ้น นานพอดูกว่าเขาจะตั้งหลักหยัดยืนขึ้นมาได้อีกครั้งจนมาเป็นเจ้าของไร่พระจันทร์ในวันนี้
จากวันนั้น วันที่เขาได้พบเธออีกครั้งหลังไม่ได้พบกันเกือบสิบปี สายตาที่เธอมองเขามันว่างเปล่าไร้แววจดจำ แต่ก็นั่นแหละคนอย่างตมิสาจะนึกถึงใครถ้าไม่ใช่ตัวเอง
ผู้หญิงอย่างนั้น….
ชายหนุ่มหลับตาลงคล้ายเข้าสู่ภวังค์เมื่อความคิดล่องลอยย้อนกลับไปในช่วงที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย ในตอนนั้นเขาเรียนปีสองคณะวิศวกรรม เข้าช้าไปสองปีเพราะสอบไม่ติด ในขณะที่นักศึกษาสาวปีหนึ่งดาวเด่นอย่างตมิสาเรียนนิเทศศาสตร์ เธอเป็นคนสวยโดดเด่นไม่ว่าใครเห็นเป็นต้องมองเหลียวหลังไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายรวมทั้งตัวเขาเองด้วย
แต่คณาธิป…ตัวสูงแต่ผอมเก้งก้าง ผิวค่อนข้างคล้ำ แก้มตอบเหมือนคนอมโรค สวมแว่นตาหนาเตอะเพราะสายตาสั้นแล้วยังสะพายย่ามแสนเชยบรรจุข้าวของทุกอย่างอยู่ในนั้น
เขาหลงเสน่ห์เธอตั้งแต่แรกพบ ในตอนนั้นเขากำลังปั่นจักรยานไปเรียนอย่างรีบเร่ง เพราะพักอยู่ที่วัดกับหลวงลุงซึ่งระยะห่างจากมหาวิทยาลัยพอสมควร แต่พอขับรถผ่านมาพบตมิสา ดูเหมือนทุกอย่างในชีวิตเขารวมทั้งเวลาจะหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครถูกใจเขาอย่างนี้มาก่อน
“สวย…” ชายหนุ่มพึมพำ เพราะมัวแต่มอง รถจักรยานเก่าๆ ของเขาจึงแฉลบชนถังขยะจนล้มทั้งคนทั้งถังขยะ หลายคนหันมามอง บ้างก็ซุบซิบบ้างก็นินทาแต่ส่วนใหญ่จะหัวเราะเสียมากกว่า เขารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก หันไปมองตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาได้รับความอับอายครั้งนี้ก็เห็นว่าหญิงสาวเพียงแค่ปรายตามอง มองหมิ่นๆ คล้ายเหยียดแคลนแล้วเดินต่อ
คณาธิปคอตก ถอนหายใจยาว….
เขาควรจะเจียมตัวมากกว่านี้ เด็กวัดอย่างเขา อย่าว่าแต่ผู้หญิงสวยอย่างนั้นเลย ต่อให้เป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในนี้คงจะไม่มอง
นับแต่นั้นมานักศึกษาหนุ่มชั้นปีสองอย่างคณาธิปก็ตัดใจแต่ทว่าก็มีเรื่องให้เขาต้องข้องเกี่ยวกับสาวเจ้าอยู่บ่อยๆ จนหัวใจของเขามันเริ่มมีเธอเข้ามาแทรกซึมทีละนิดๆ จนเต็มทั้งสี่ห้องยากจะแกะแงะแซะซอนมันออกมา แม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอมีคนที่ชอบอยู่แล้วก็ตาม
เขมทัศน์ รุ่นพี่คณะเดียวกับเขา รูปหล่อ พ่อรวยเป็นที่คลั่งไคล้ของสาวๆ และบังเอิญอีกนั่นแหละที่เขาดันเกิดเป็นน้องรหัสของเขมทัศน์เข้า เขาจึงได้มีโอกาสร่วมโต๊ะกับคนอย่างเธอ แต่เขาดูอย่างไรก็เห็นว่าทั้งคู่ช่างแตกต่างกันอย่างเหลือเกิน
เขมทัศน์เข้ากับคนง่ายไม่ถือตัว ในขณะที่หญิงสาวเย่อหยิ่ง ไม่ค่อยยอมคบหากับใครนอกจากคนในระดับเดียวกัน เขาจึงได้แต่ทำตัวลีบแต่ก็พยายามหาโอกาสชวนคุย อย่างน้อยแม้รู้ตัวดีว่าเธอคงไม่มองแต่ก็อยากจะได้ยินเสียงของเธอซักนิด ให้เก็บเอาไปฝันเล่นก็ยังดี
“จันทร์ เย็นนี้ไปดูพี่เตะบอลนะ พี่อยากได้กำลังใจ” เขมทัศน์หยอดคำหวานในตอนท้าย หวังให้เธอตอบรับทว่าหญิงคนรักส่ายหน้าดิก
“ไม่ไหวละค่ะ เย็นของพี่ก็ยังมีแดด อีกอย่างคนก็เยอะ จันทร์ไม่ชอบตกเป็นเป้าสายตาใคร”
เขาไม่รู้ว่าเขมทัศน์เสียใจไหมที่ได้ยินอย่างนั้นรู้แต่ว่าแววตาดูหม่นเศร้าจนเขานึกเห็นใจ เขมทัศน์เองไม่เคยถือตัวว่ามีอะไรเหนือกว่าเขา ทว่าให้ความช่วยเหลือแนะนำเป็นอย่างดี
หลายครั้งที่เขาได้ไปไหนมาไหนกับคนทั้งคู่และเห็นว่าตมิสามักพูดจาตรงๆ ไม่รักษาน้ำใจใครต่อใครอยู่เสมอ เขาแอบคาดเดาในใจเงียบๆ ว่าความรักของทั้งคู่จะยืนยงอยู่ถึงเมื่อไหร่
รู้สึกว่าหลังจากที่เขาคาดเดาอย่างนั้นเพียงไม่นานทั้งสองก็เลิกกัน นัยว่าเขมทัศน์มีคนใหม่ ผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนอื่นไกล เธอชื่อปิ่นอนงค์ เพื่อนสนิทเขาเอง
เรื่องแบบนี้มันพูดยากในเมื่อตมิสาไม่เคยปรับตัวเองให้เข้ากับใครได้เลย ชีวิตของเธอเลิศหรู ฟุ้งเฟ้อและจมไม่ลงเขาแทบไม่เห็นเธอไปไหนมาไหนกับใคร เพราะดูจะเข้ากับใครได้ยากเต็มที เพื่อนในกลุ่มก็มีแค่ไม่กี่คนที่คงมาจากพื้นเพสูงส่งพอกัน
หลังถูกผู้ชายบอกเลิก เขาคิดว่าจะได้เห็นหญิงสาวเศร้าซึมเหมือนคนอกหักทว่าเขาก็ยังเห็นท่าเดินคอตั้งเฉิดฉายอยู่เหมือนเดิม จึงดูไม่ออกว่าหญิงสาวเสียใจบ้างหรือเปล่า แต่ไม่นานก็เห็นเธอมีคู่ควงคนใหม่ คนนี้เป็นถึงดาราดังพลอยทำให้หญิงสาวตกเป็นข่าวอยู่บ้างประปราย
แม้จะรู้ว่าตมิสาเป็นคนอย่างไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้หัวใจวิบไหวไปกับเสน่หาร้อนแรงของเธอโดยที่เธอไม่ต้องออกแรงยั่วยวนให้เมื่อย
เขาพยายามตัดใจและเกือบจะตัดใจได้แล้วหากจะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก
แฟนใหม่ของเธอ ภาสกร…ดาราหนุ่มเจ้าเสน่ห์
ผู้ชายคนนั้นมอมเหล้าหวังจะรวบหัวรวบหาง แต่โชคดีที่เขาเห็นเข้า เพราะทำงานพิเศษในผับดังกล่าว แม้เขาจะเป็นคนเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟให้ด้วยตัวเองทว่าหญิงสาวก็ทำเหมือนไม่เคยรู้จักเขามาก่อน เป็นเพราะเธอจำเขาไม่ได้จริงๆ หรือสมองไม่อยากจดจำเขาก็ไม่แน่ใจ
หญิงสาวอ่อนระทวยในอ้อมแขนของภาสกร ดาราหนุ่มกึ่งโอบกึ่งประคองหญิงสาวออกมาจากผับ ท่าทางคอพับคออ่อนอย่างนั้นทำให้เขาเอะใจ
เขารีบร้อนตามไปโดยยืมมอเตอร์ไซค์ของเพื่อนร่วมงาน ทันได้เห็นว่าดาราหนุ่มเลี้ยวรถเข้าโรงแรมม่านรูด เมื่อเขาไปถึงก็ตรงเข้าเคาะห้องนั้นด้วยความร้อนใจ หากใครมาสัมผัสเนื้อตัวของเขาตอนนี้ก็คงเห็นว่ามันร้อนรุ่มราวกับไฟ กลัวตัวเองมาช้าไป
ทันทีที่เห็นหน้าคนมาขัดจังหวะ ดาราหนุ่มหน้าซีดเผือด คณาธิปไม่ฟังข้อแก้ตัวอื่นใด เขาตรงเข้าชกต่อยจนภาสกรลนลานหนีออกไปเพราะไม่อยากตกเป็นข่าวอื้อฉาว ส่วนตมิสายังคงนอนหลับไม่รู้เรื่องเพราะฤทธิ์ยานอนหลับ ทว่ายังมีท่าทางกระสับกระส่ายไปมาให้เห็น
“คุณตมิสา” ชายหนุ่มเขย่าร่างบางเบาๆ เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้แตะเนื้อต้องตัวเธอ หัวใจเขาเต้นแรง ถี่ระรัวด้วยความตื่นเต้น อดไม่ไหวที่จะหย่อนกายลงเคียงข้าง ใบหน้าหวานล้ำหลับตาพริ้มไม่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น ริมฝีปากของพลเมืองดีอย่างเขาจึงคลี่ยิ้มน้อยๆ
“คุณจะรวบรวมความสวยมาไว้กับตัวเองคนเดียวหรือไงนะตมิสา” เขาพึมพำ ปัดปอยผมที่ปลิวมาปิดหน้าเธอออกไปด้านหนึ่งแล้วนั่งมองอยู่อย่างนั้น
ครู่ใหญ่ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืนเพราะกลัวตัวเองจะเผลอพลั้งแตะเนื้อต้องตัวเธอมากไปกว่านี้ เขาหลับตาลงเพื่อระงับความรู้สึกบางอย่างแล้วจึงใช้โทรศัพท์มือถือของเธอโทรหาปิ่นอนงค์ ฝ่ายนั้นแม้จะยุ่งยากใจที่จะต้องเอาตัวมาข้องเกี่ยวกับแฟนเก่าของคนรักทว่าเมื่อคณาธิปร้องขอจึงต้องมา
“จะให้เราทำไง” เธอถามขึ้นเมื่อมองสภาพหงส์ไร้ปีก ไม่มีเรี่ยวแรงช่วยเหลือตัวเองของอดีตคนรักของเขมทัศน์ ยังจำสายตาของตมิสาได้ดีตอนรู้ว่าเธอคือคนที่แย่งชิงเขมทัศน์ไป
แม้ไม่มีเสียงต่อว่าคร่ำครวญหรือด่าทอ ทว่าสายตาหมิ่นแคลนในวันนั้นเธอยังจดจำได้ไม่ลืม สายตาที่บอกให้เธอรู้ว่า คนอย่างเธอไม่อาจเทียบชั้นคนมองได้ซักนิด
‘เฮอะ…มันน่าปล่อยให้ถูกข่มขืนให้เข็ด’
“ช่วยพาเขาไปพักที่ห้องนงค์ได้ไหม ให้นอนในนี้คงไม่ดี”
“ทำไมไม่ปลุกล่ะ” หญิงสาวปรายตามองตมิสาที่นอนเหยียดยาวอยู่บนที่นอนแล้วลงมือปลุกแต่คนได้ยานอนหลับไปพร้อมเหล้าจึงไม่ยอมตื่น
“ปลุกแล้วแต่เขาไม่ตื่น คงโดนยานอนหลับ”
ปิ่นอนงค์ถอนหายใจ เมื่อเห็นสายตาวิงวอนของคนเป็นเพื่อนจึงย้อนถาม
“ชอบเขารึไง”
“เอ่อ…”
“ยากหน่อยนะธิป ผู้หญิงคนนี้เขาไม่คิดว่าตัวเองอยู่ชนชั้นเดียวกับเราหรอก ตัวเขาอยู่สูงเสียดฟ้าในขณะที่คนอื่นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน” ปิ่นอนงค์เหยียดริมฝีปากปรายตามองร่างสวยในชุดดำรัดรูปทว่าออกแบบเก๋ไก๋ด้วยฝีมือของห้องเสื้อแพรวพรรณรายหมิ่นๆ
เธอเองไม่ได้คิดจะแย่งเขมทัศน์มาเลยซักนิดแม้ว่าลึกๆ แล้วเธอจะแอบชอบรุ่นพี่คนนี้อยู่มาก แต่เป็นเพราะตมิสาเองนั่นแหละที่ไม่เคยเข้าใจเลยว่าเขมทัศน์ต้องการอะไร และเพราะสนิทสนมกันในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องมากพอที่เขมทัศน์จะเห็นเธอเป็นที่ปรึกษาระบายทุกข์
แต่ละเรื่องที่แม่หงส์ทำให้เขมทัศน์เสียใจจนถึงขนาดร้องไห้ร่องห่มคร่ำครวญเอากับเธอ เธอฟังแล้วยังทนไม่ได้นับประสาอะไรกับคนเป็นแฟนกัน ปิ่นอนงค์ต้องคอยรับฟัง ปลอบประโลมและชี้แนะเท่าที่เธอจะนึกออก นานวันเข้าทำให้เอาตัวเข้าไปผูกกับเขาโดยไม่รู้ตัว
เขมทัศน์เองด้วยความที่หญิงคนรักไม่เคยให้ความสนใจใส่ใจ เมื่อมีปิ่นอนงค์คอยรับฟัง ปลอบใจ ไปไหนมาไหนยามตมิสาปฏิเสธด้วยเหตุผลร้อยแปด เขาเองก็ไขว้เขวจนในที่สุดก็รู้ใจตัวเองว่าอย่างไรเสียเขากับตมิสาดึงดันไปก็คงไม่รอดสู้บอกเธอไปตรงๆ จะดีกว่า
เขาคิดอยู่หลายตลบว่าจะบอกหญิงสาวอย่างไร กลัวว่าเธอจะเสียใจ กลัวจะต้องเห็นน้ำตาจากเธอ ทว่าเมื่อเขาบอกประโยคนั้น หญิงสาวกลับยืนรับฟังอย่างสงบราวกับรู้ตัวมาล่วงหน้า
“ตามใจสิคะ”
นี่เป็นประโยคที่เขมทัศน์ไม่คิดว่าจะได้ยินจากหญิงคนรัก ประโยคนี้มันทำให้เขาชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าที่ผ่านมา ตมิสามีใจให้เขาบ้างหรือเปล่า ที่ทนคบกันมาตั้งแต่มัธยมปลาย เป็นเพราะครอบครัวสนิทสนมกัน เลยพลอยทำให้เธอกับเขาคบหาเป็นเพื่อนเล่นมาตั้งแต่เด็ก หรือว่าเกิดจากความรักกันแน่
“จันทร์ ไม่เสียใจเลยหรือ จะไม่ถามพี่เลยหรือว่าทำไม” ชายหนุ่มถามคำถามโง่งมเหล่านี้ออกไปด้วยความอยากรู้ ทว่าคนร่างบางเพียงแต่แค่นยิ้มก่อนย้อน
“แล้วพี่คิดว่าจันทร์ควรจะต้องทำยังไงคะ ร้องไห้ฟูมฟายแล้วอ้อนวอนขอให้พี่กลับมาคืนดีงั้นหรือ” ตมิสาส่ายหน้า
ฝันไปเถอะ!!



สาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มิ.ย. 2556, 09:28:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2556, 09:28:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 1315





<< ตอนที่ 2 70%   ตอนที่ 2 100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account