รอยต่อแห่งฝัน
เป็นเรื่องของการวาดหวังในความรัก ของแต่ละบุคคล ไม่ว่าจะเป็น นิศา อัฐ
มาย ทุกคนต่างฝันถึงรักในแบบของตัวเอง
แต่ในความเป็นจริง คนเราไม่อาจคาดหวังในความรักแบบที่เราต้องการได้

บางคนยอมรับกับความพลาดหวังได้
บางคนไม่อาจยอมรับได้
หลายคนจึงพลัดตกลงไป ในรอยต่อระหว่างความฝันกับความจริง


Tags: love lale

ตอน: ตอน 6


***สวัสดีค่ะ กลับมาอีกทีเมื่อชีวิตเข้ารูปเข้ารอยขึ้น แม้จะยังมีเรื่องความเศร้าโศกแฝงอยู่บ้างเป็นบางคราว แต่เชื่อว่าระยะเวลาจะช่วยให้บรรเทาลงได้ หวังว่ายังคงไม่ลืมกันนะคะ***by "เทียนจันทร์"



ท่ามกลางหมอกหนา แต่หล่อนยังมองเห็นเขายืนอยู่ตรงนั้น นิศาร้องเรียกเขา มายพูดอะไรบางอย่างซึ่งนิศาไม่ได้ยินก่อนจะหันหลังเดินไป นิศาพยามวิ่งตามแต่ไม่ว่าหล่อนจะวิ่งเร็วแค่ไหนยังคงตามมายไม่ทัน

“ไม่นะมาย ไม่ ๆ อย่าทำอย่างนั้น” นิศาตะโกนสุดเสียงเมื่อเห็นเขาเดินลงไปในทะเลอย่างช้า ๆ
“ได้โปรดมาย ได้โปรด” น้ำตาหล่อนอาบแก้มเมื่อเขาไม่ฟังหล่อนแม้สักนิด

น้ำขึ้นมาถึงเข่า หน้าอก และเพียงไม่กี่วินาทีมายก็จมหายไปในท้องทะเล

“มาย...!!!” นิศาตะโกนดังลั่น

หล่อนใจเต้นแรงใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อผุดลุกขึ้นนั่ง อา...หล่อนฝันไป แต่มันเหมือนจริงมากจนนิศาใจแกว่ง

“นิศา นิ เกิดอะไรขึ้นเปิดประตูหน่อย” เสียงแพรวาร้องเรียกอยู่นอกห้อง

นิศาลุกจากเตียงไปเปิดประตู ก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เตียง

“แพรได้ยินเสียงนิตะโกน” แพรวานั่งลงข้างหล่อน เอามือลูบผมซึ่งเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อของนิศา
“นิฝันร้าย เกี่ยวกับมาย” หล่อนบอกใบหน้าซีดเผือด
“มันก็แค่ฝัน ไม่มีอะไรจริงหรอก”
“แต่มันเหมือนจริงมากเลยนะแพร มายฆ่าตัวตายเขาตั้งใจทำอย่างนั้น”
“เป็นเพราะนิคิดถึงมายจนเก็บเอามาฝัน”

นิศาส่ายหน้า

หล่อนเชื่อจริง ๆ ว่ามายฆ่าตัวตาย ความฝันครั้งนี้ต้องสื่ออะไรบางอย่างแน่นอน จากจิตวิญญาณของมายถึงหล่อน

**
**

ความทรงจำในวันนั้นวินาทีนั้นประทับแน่นในใจ มันช๊อคความรู้สึกของเด็กสาว ร่างแน่นิ่งไร้สติซึ่งคนกลุ่มหนึ่งลากขึ้นมาจากทะเลบนชายหาดที่เปียกชื้น เหมือนเขานอนหลับอยู่อย่างมีความสุข เอินพยามเชื่ออย่างนั้น

เด็กสาวเรียกชื่อเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ไม่มีทีท่าว่ามายจะลุกตื่นขึ้นมา และหลังจากนั้นเอินก็จำไม่ค่อยได้นัก มันเป็นแค่ภาพที่ไม่มีคำบรรยายผ่านไปเป็นช๊อต ๆ อย่างรวดเร็ว

ภาพบนชายหาด ภาพออกจากเกาะ ภาพบุรุษพยาบาลเข็นมายอย่างรีบเร่งเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และสุดท้ายคือการรอคอยที่ยาวนานวันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า เป็นเดือน

สองพี่น้องปิดบ้านบนเกาะกลับมาอยู่บนฝั่งในเมือง เอินอยู่โยงเฝ้ามายทุกวันหลังจากกลับจากโรงเรียน ผลัดเปลี่ยนกับออยซึ่งต้องไปบริหารซุปเปอร์เซ็นเตอร์ กิจการที่ออยสร้างมากับมือเมื่อหลายปีก่อน เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่ผงาดเคียงข้างร้านต่างสัญชาติอย่างไม่น้อยหน้า

“ไปเดินเล่นกันมั๊ยคะ” เด็กสาวชวนคนหนุ่มผู้ยังคงใช้สายตาเฝ้ามองออกไปยังท้องทะเล ผมของเขายาวประบ่าแล้วตอนนี้ แลดูแปลกตาไปไม่เหมือนมายคนเก่าซึ่งเธอเคยรู้จัก
“ตรงรีสอร์ทใกล้บ้านเราวันนี้มีกองถ่ายหนังโฆษณามา ไปดูกันนะคะ เอินอยากดูเขาทำงาน”

ชายหนุ่มยิ้ม

“ไปสิ” เขาลุกจากขอนไม้ขนาดใหญ่หน้าบ้าน

เอินจับมือเขาไว้ข้างหนึ่ง แหงนหน้าขึ้นมองใบหน้าซึ่งดูผ่อนคลายขึ้นของมาย

“ทำไมไม่ใส่รองเท้า” มายถามก้มมองเท้าเปลือยเปล่าของเด็กสาว
“เอินชอบให้เท้าสัมผัสทรายค่ะ มันทำให้รู้สึกดีมันนุ่ม ๆ” เด็กสาวใช้เท้าเขี่ยทรายเล่น
“ระวังด้วยล่ะเผื่อจะเจอเศษแก้ว”
“ค่ะ” เด็กสาวรับคำพร้อมรอยยิ้มพราย

มายอาจจะยังไม่กลับมาเต็มร้อยเหมือนเดิมนัก ความทรงจำเขาดูเลือนลางแต่เขาก็ดีขึ้น อย่างเห็นแก่ตัวในบางคราวเอินก็อยากให้เขาเป็นแบบนี้ตลอดไป เป็นมาย ณ.ช่วงเวลานี้ ไม่ใช่มายคนเก่าซึ่งหลงงมงายในความรักอย่างที่ผ่านมา อีกใจหนึ่งเอินก็หวังว่ามายจะหายเป็นปกติ เธอเองก็ไม่รู้แน่ชัดว่าต้องการแบบไหนมากว่ากัน

เด็กสาวครุ่นคิดจนหลงลืมคนที่เดินอยู่เคียงข้าง

“เป็นอะไรรึเปล่า” มายก้มถาม
“คะ”
“เห็นเงียบไปเลยแปลกใจ” มายว่ายิ้ม ๆ เพราะปกติเอินมักจะชวนเขาคุยนั่นคุยนี่อยู่ไม่หยุด พาเขาเดินเล่นตามชายหาด เล่าเรื่องของเพื่อนที่โรงเรียนให้ฟัง จนตอนนี้คล้ายกับว่ามายรู้จักเพื่อน ๆ ในห้องของเธอดีทุกคน
“อีกไม่นานก็เรียนจบแล้วไช่ไหม”
“ค่ะ”
“จะไปต่อที่ไหนดี”
“...............”

คิดถึงเรื่องเรียนต่อแล้วเอินก็เกิดอาการหงอยขึ้นมาอีก เธอเป็นห่วงมายกลัวชายหนุ่มจะเหงาเวลาต้องอยู่คนเดียว เพราะทั้งอาทิตย์ของออยจะอยู่ที่ร้านเสียเป็นส่วนใหญ่ จะขึ้นเกาะมาก็เป็นเย็นวันศุกร์

“เป็นห่วงพี่เหรอ”
“ค่ะ เอินกลัวมายเหงา” เด็กสาวบอกกับเขา
“ลืมไปรึไง เดี๋ยวนี้โลกเราไปถึงไหนแล้ว” มายขยี้ผมคนที่ทำหน้าเศร้า
“อะไรคะ”
“เราสไกป์กันได้ทุกวันไม่ใช่รึไง”
“จริงด้วยค่ะ เอินลืมไปเลย” เด็กสาวหัวเราะให้กับความหมกมุ่นของตัวเองในเรื่องมายจนลืมคิดถึงเรื่องอื่นไป

“โห...ไทยมุงเยอะเหมือนกันนา มีฝรั่งมุงด้วย” เอินว่าเมื่อเดินมาถึงบริเวณที่มีการถ่ายทำโฆษณากันอยู่
“ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ” เด็กสาวพูดอยู่ไม่หยุดฉุดมือมายให้แทรกผ่านผู้คนซึ่งกำลังยืนดูการถ่ายทำ

ส่วนมายก็ต้องพยักหน้าขอโทษตามหลังเธออีกทีอย่างกระอักกระอ่วนใจ แต่ยังไงเสียเอินก็เป็นเด็กจ้าวถิ่นซึ่งเกิดและเติบโตที่นี่ ทุกคนจึงคุ้นเคยกับเด็กสาวคนนี้ดีไม่มีใครถือสาหาความเจ้าหล่อน พอได้ที่เหมาะเด็กสาวก็นั่งจุ้มปุ๊กลงทันที ฉุดให้มายนั่งลงด้วยเมื่อเขายังคงยืนนิ่งเป็นรูปปั้น

มายรู้สึกเหมือนคุ้นเคย การทำงาน ผู้คน ดอลลี่ กล้อง คล้าย ๆ ผ่านเข้ามาในความรู้สึก บรรยากาศแบบนี้แสนเคยคุ้น

“มาย”

เสียงใครบางคนเรียกชื่อเขา มายรู้สึกตัวมองหาคนเรียกแต่เขาไม่รู้จัก ชายหนุ่มคนนั้นก็เหมือนกันเขาดูลังเลใจเมื่อเห็นแววตาของมาย

“มายรึเปล่า” เขาสืบเท้าเข้ามาใกล้
“ไม่ใช่” เอินลุกขึ้นเข้าขวางไว้
“เขาไม่ใช่คนที่คุณรู้จัก” เด็กสาวรีบฉุดมือมายออกมา

ชายหนุ่มเดินตามแรงฉุดของเด็กสาวอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์ของเธอยามนี้นัก

“โอ๊ย...!” เอินปล่อยมือจากมาย นั่งลงมองดูเท้าที่ตอนนี้มีเศษแก้วปักคาอยู่ เด็กสาวเริ่มหน้าซีดเมื่อเห็นเลือดไหลออกมาจากบาดแผล เหงื่อซึมออกมาตรงขมับกับบริเวณหน้าผาก เด็กสาวกลัวเลือดเป็นที่สุดโดยเฉพาะของตัวเองด้วยแล้วจะอาการหนักกว่าปกติ

“หายใจไม่ออก” เอินว่าเมื่อมายก้มลงดึงเศษแก้วออกเลือดแดงสดไหลออกมา เด็กสาวหลับตาปี๋ มายฉีกเสื้อพันเท้าของเด็กสาวไว้
“ไหวรึเปล่า หายใจลึก ๆ ช้า ๆ” มายว่าทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

เด็กสาวลืมตาขึ้นทำตามคำแนะนำสูดลมหายใจเข้าออกช้า ๆ

“ขึ้นหลังพี่สิ” มาย่อตัวลงตรงหน้าเด็กสาว
“ไม่เป็นไรค่ะ เอินเดินเองได้”
“อย่าดื้อ”
“เอินตัวหนักมายเหนื่อย” เธอยังคงอินออด
“ไม่เป็นไรหรอก พี่แข็งแรงดีแล้ว” มายยืนยัน
“เธอดูแลพี่ดีออกอย่างนี้” ชายหนุ่มทำทีเป็นเบ่งกล้ามให้ดู เอินปล่อยเสียงหัวเราะคิกขึ้นมาได้
“งั้นหนูจะขี่หลังนะคะพี่ชาย...” เด็กสาวทำเสียงอย่างในซีรีย์เกาหลี

“เอินขอโทษนะคะ” เด็กสาวกระซิบบอก โอบรอบคอเขาหลวม วางหน้าไว้บนไหล่ด้านหนึ่งของเขา

มายรู้สึกถึงอะไรเย็น ๆ ไหลลงมาตรงหน้าอก น้ำหยดหนึ่งจากดวงตาของเด็กสาว เขาเอื้อมมือไปขยี้ผมเธอโดยไม่พูดอะไร

เอินฟุบหน้าลงบนไหล่เขา น้ำตายังไหลไม่ยอมหยุด

“นั่งนี่ พี่ไปหายามาใส่ให้” มายจัดการให้เด็กสาวนั่งลงพร้อมกำชับ สักพักกลับมาพร้อมกล่องปฐมพยาบาลกับน้ำอุ่นใส่กะละมังใบเล็กมา
“ขอพี่ดูหน่อย” มายนั่งลงจับข้อเท้าเด็กสาว
“ไม่เป็นไรค่ะ เอินจัดการเอง” เธอพยามชักเท้ากลับรู้สึกเคอะเขิน
“อยู่นิ่ง ๆ สิ เดี๋ยวเลือดก็ไหลไม่หยุดหรอก”
“ค่ะ” เอินหน้าง้ำเมื่อมายพูดถึงเรื่องเลือด ยอมให้เขาดูแผลที่เท้า

ชายหนุ่มใช้สำลีจุ่มน้ำอุ่นเช็ดฝ่าเท้าให้จากนั้นซับให้แห้งด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก เช็ดบาดแผลด้วยแอลกอฮอล์ใส่เบตาดีน ก่อนปิดแผลไว้ด้วยผ้าก๊อต

“เอาล่ะเรียบร้อย แผลนิดเดียวเอง”
“ขอบคุณค่ะ” เอินยกมือไหว้เขา
“ไม่เป็นไรน่า เธอดูแลพี่มากกว่านี้อีก” เขาขยี้ผมเธอก่อนนั่งลงข้าง ๆ
“จะไม่ถามหน่อยเหรอ” เอินถามหลังจากเงียบไปพักหนึ่ง
“...............”
“ก็เรื่องผู้ชายที่ทักมายเมื่อกี้”

มายมองเด็กสาวยิ้มพลางส่ายหน้า

“พี่เชื่อการตัดสินใจของเธอ แล้วอีกอย่างพี่ก็ไม่รู้จักเขาด้วย”
“มายอาจจะรู้จักก็ได้นะ แต่จำไม่ได้” เอินพูดเบา ๆ ก้มหน้านิ่ง
“ช่างมันเถอะ อยากกินอะไรล่ะมื้อเที่ยง พี่จะเข้าครัวล่ะ”
“อะไรก็ได้ค่ะ เอินทานได้หมด”

มายพยักหน้าเดินเข้าบ้านไป หันมามองเด็กสาวเธอยังนั่งอยู่ในท่าเดิม แววตาส่อความกังวลใจฉายชัด

ชายหนุ่มถอนใจ เขาเองไม่อยากซักไซ้เธอนักแม้ว่ายังมีหลายอย่างในความทรงจำซึ่งเลือนราง คล้าย ๆ มีบางอย่างถ่วงความรู้สึกเขาอยู่ลึก ๆ ภายในใจ บางสิ่งบางอย่างซึ่งเขาจำไม่ได้

มายเอามือคลำบริเวณกระดูกไหปลาร้าด้านซ้าย มีบางสิ่งบางอย่างฝังอยู่.



เทียนจันทร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ค. 2556, 20:16:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ค. 2556, 20:22:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1139





<< ตอน ๕   ตอนที่ 7 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account