หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่หก : จะใจแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน

“ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคุณนะคะคุณชินชนะ”

เสียงหวานจากสตรีวัย 40 ปี ซึ่งสวมชุดสูททำงานสีดำเรียบหรู ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้เออีสาวที่นั่งดูอยู่ ได้มากเท่ากับภาพที่ฝ่ายนั้นลุกขึ้นจับมือกับเจ้านายคนใหม่ของเธอด้วยไมตรีจิตชนิดที่เธอไม่เคยสัมผัส
คุณปิ่นปฏิเสธทุกงานที่เธอเป็นคนนำเสนอ แต่กลับตอบรับง่ายดายเพียงผู้ชายที่แนะนำตัวว่าเป็นผู้บริหารอีกคนของปั้นคิดออกความคิดเห็น อาทิเช่น....

‘เพราะส่วนแบ่งตลาดของน้ำดื่มทุกวันนี้มีการแข่งขันกันสูงมาก การตอบโจทย์เรื่องความสดชื่นเพียงอย่างเดียวจึงไม่เพียงพอ และตัวสินค้าอย่างน้ำดื่มกรีนดริ้งเองก็มีส่วนผสมของสมุนไพรที่ดีต่อร่างกาย ดังนั้นครีเอทีฟของเราจึงพยายามคิดโฆษณาที่เชื่อมโยงกับจิตใต้สำนึกของผู้บริโภค คือปกติคนเราจะมีความรักตัวเองอยู่ รู้ว่าต้องดูแลตัวเอง แต่ก็ยังชอบของอร่อย ชอบตามใจปาก ดังนั้น โฆษณาความยาว 0.43 วินาทีของเรานี้ จะพูดถึงคนที่ไม่ดูแลตัวเอง ใช้ชีวิตสนุกสนานเฮฮา จนเกือบจะสายเกินไป ในตอนที่เขานอนเดียวดายไม่เหลือใคร เขาก็เพิ่งคิดได้ว่าในทุกๆ ช่วงเวลาที่เขากำลังเริงร่า เอร็ดอร่อยกับอาหารต่างๆ อยู่นั้น มีน้ำดื่มเพื่อสุขภาพอยู่ใกล้ๆ เขาเสมอ น้ำดื่มที่อยากให้เขารักตัวเอง และในตอนหลัง เราจะทำให้ผู้บริโภคได้เห็นว่า ต่อให้เขาจะยังกินตามใจปาก แต่แค่เขาเลือกดื่มน้ำของเรา เขาก็สามารถทำเพื่อสุขภาพของตัวเองได้ แถมยังได้ความสดชื่นคลายร้อนอีกด้วย’

‘โอมายกอช.... ปิ่นชอบมาก ไลค์มากค่ะไอเดียนี้ ซื้อค่ะ ซื้อเลย ปิ่นโอเคเลยค่ะ’

อ้าว แล้วไหนล่ะสิ่งที่บอกกับเธอเมื่อคืนว่าอยากได้ความเย็นฉ่ำเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง เธอได้บอกทีมคิดไปอย่างนั้น แล้วเรื่องสุขภาพกับจิตใต้สำนึกนี่มันโผล่มาได้ยังไง

ความสงสัยในตอนนั้นของเธอ ถูกทำให้กระจ่างโดยทำนุทัพที่หันมากระซิบ

‘คุณชินเป็นคนเสนอไอเดียนี้มาตอนพวกผมประชุมกัน ทุกคนเห็นด้วย’

ก็เลยไม่ทำตามความต้องการที่ลูกค้าบรีฟมา แต่คิดงานใหม่ที่โดนใจลูกค้าได้มากกว่า.... อยู่ๆ เหนือฟ้ารู้สึกว่าสิ่งที่เธอกระหือรือล้นมาตลอดเช้ามันไร้ค่า

“ขอโทษนะคุณเหนือ”

เสียงเรียกจากปิ่นทำให้เออีสาวสะดุ้งจากภวังค์ เธอมองคนเรียกที่ทรุดตัวลงนั่งที่เดิม ก่อนขานรับสั้นๆ “คะ”
“ทางปั้นคิดน่าจะส่งคุณชินชนะมาคุยกับฉันตั้งแต่แรก จะได้ไม่เสียเวลา”

ถ้อยคำที่ปิ่นพูดมาไม่ต่างจากคมธนูที่พุ่งตรงกลางใจ เหนือฟ้าเจ็บจี๊ดแต่ก็ยังต้องฝืนยิ้มเอาไว้

“คุณชินชนะเพิ่งกลับมาจากอเมริกาน่ะค่ะ เพิ่งเข้ามาทำงะ...”

“จบจากอเมริกาหรือคะ ไม่ทราบว่ารัฐอะไรคะ” ปิ่นหันไปถามชายหนุ่มก่อนที่เหนือฟ้าจะทันได้พูดจบ ชินชนะเหลือบมองเออีสาวเล็กน้อย ก่อนตอบสั้นๆ

“แคลิฟอร์เนียครับ”

“อย่าบอกนะคะว่าจบจากเบิร์กลีย์...”

“ครับ”

“โอ้มายกอช จบจากเบิร์กลีย์นี่เอง มิน่าพูดจาฉะฉาน ดูมีความรู้ไม่เหมือนคุณเหนือ”

โดนเข้าไปอีกดอก สัตว์ที่บาดเจ็บอยู่แล้วถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่นายพรานใจร้ายก็ไม่ได้สน “เพื่อนของปิ่นหลายคนก็จบจากที่นี่ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้เราไปทานข้าวกันไหมคะ คงมีเรื่องคุยเยอะแยะเชียวล่ะ”

“เย็นนี้หรือครับ” ชินชนะทำท่าคิดหนึ่งวินาทีพอเป็นมารยาท “เสียใจจริงๆ ครับ ผมนัดประชุมกับทีมงานไว้แล้ว ไว้เป็นโอกาสหน้าก็นะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ คราวหน้าก็ได้... คุณชินชนะนี่สมเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่เลยนะคะ เอาการเอางานดีจัง”

“ขอบคุณครับ” ชายหนุ่มกล่าวสั้นๆ ก่อนตัดบทอย่างนุ่มนวล “ดีใจอีกครั้งนะครับ ที่ได้ร่วมงานกับคุณ ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะไปคุยกับโปรดิวเซอร์เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิต มีอะไรคืบหน้าแล้วจะโทรมาแจ้งนะครับ”

แล้วทีมจากปั้นคิดนำโดยผู้บริหารหนุ่มก็ขอตัวกลับ ทั้ง 4 ก้าวออกจากห้องประชุม ขณะที่ตรงไปยังลานจอดรถด้านหน้าของอาคาร เด็กสาวที่ติดตามมาดูงานก็เอ่ยชมเพื่อนพี่ชายด้วยความปลาบปลื้ม

“พี่ชินนี่เก่งจริงๆ เลยนะคะ มาคุยแค่ครั้งเดียวก็ขายงานได้แล้ว”

ไม่ได้มีเจตนาจะกระทบกระเทียบใคร แต่ใครบางคนก็รู้สึกว่าโดนเปรียบเทียบไปแล้ว

“เพราะงานของเรามันดีอยู่แล้วต่างหาก ดีล่าชมพี่ท็อปด้วยสิคะ”

ดิสราเบ้หน้า ทำเป็นไม่ได้ยินเสียอย่างนั้น ทำนุทัพขี้เกียจสนใจ เขาจึงหันมาทางหญิงสาวที่เดินอยู่ข้างๆ และนั่นก็ทำให้เขาเห็นใบหน้าเคร่งเครียดของเธอ

“พี่เหนือ เป็นอะไรหรือเปล่า”

ตอนแรกเหนือฟ้าเกือบไม่ได้ยินเพราะมัวแต่ใจลอย แต่พอดีหางตาเหลือบเห็นว่าครีเอทีฟหนุ่มมองมา จึงตั้งใจฟังได้ทัน “เปล่านี่จ๊ะ ไม่ได้เป็นอะไร”

“แล้วทำไมทำหน้าแบบนั้น ดูไม่ค่อยดีเลย” ทำนุทัพตั้งข้อสงสัยเสียงดัง พลอยทำให้อีกสองคนที่เดินนำหันมามองด้วยความสนใจ

“เออ จริงด้วย พี่เหนือ พี่เหนือไม่สบายหรือเปล่า หน้าซีดเชียวค่ะ”

หญิงสาวอ้าปากเตรียมปฏิเสธ แต่ใครอีกคนก็แทรกขึ้นมาก่อน

“สงสัยจะไม่สบายจริงๆ ...ท็อป ช่วยไปเอารถมารับตรงนี้ที ส่วนดีล่า ไปเป็นเพื่อนพี่ท็อปหน่อยนะ”

ชินชนะสั่งการอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว แม้ดิสราจะทำท่าอิดออดในตอนแรกเพราะไม่อยากไปกับทำนุทัพ แต่ดวงตาเฉี่ยวคมที่มองมาอย่างขอร้องแกมบังคับ ก็ทำให้เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ และเมื่อชายหญิงคู่นั้นจากไป ชายหนุ่มร่างสูงก็ปราดมาชิดใกล้ ‘คนไม่สบาย’ ทันที

“จะไม่ชมพี่สักหน่อยเหรอ” เขาเอ่ยอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำให้เหนือฟ้าเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ก่อนจะตั้งสติรับมือกับความว่องไวของเขาได้

“คุณจะให้ฉันชมเรื่องอะไรคะ เรื่องที่คุณหลอกให้ท็อปกับดีล่าออกไป เพื่อคุณจะได้อยู่กับฉันตามลำพัง หรือว่าเรื่องที่คุณทำให้ฉันกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถต่อหน้าลูกค้าและคนอื่นๆ ได้สำเร็จ”

เธอจงใจประชด แต่เขากลับหัวเราะร่วน

“ถ้าพี่เก่งทุกเรื่อง รุ้งจะชมพี่ทุกเรื่องก็ได้นะ”

หญิงสาวเหล่มองเขาด้วยหางตา ดูเอาเถิดว่าเขาช่างกวนประสาทขนาดไหน ทำให้เธอหงุดหงิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วยังมีหน้ามาหัวเราะอีก

“รู้สึกว่าคุณจะหลงตัวเองเกินไปหน่อยนะคะ”

“พี่อาจจะหลงตัวเองนะ แต่ก็ไม่เท่ากับที่หลงรุ้งหรอก”

เหนือฟ้าหันขวับมองเขาทันที ในสถานการณ์เช่นนี้... เขายังกล้า

“ฮึ ต่อให้คุณหลงฉันหัวปักหัวปำ แต่ฉันก็ไม่มีวันหลงกลคนอย่างคุณ”

“งั้นก็ไม่ต้องหลงกล... แค่หลงรักก็พอแล้ว”

“คุณชินชนะ!!!”

เหนือฟ้าขึ้นเสียงดังอย่างกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ยิ่งเห็นอีกฝ่ายยิ้มร่า ท่าทางสนุกที่ยั่วเธอได้ หญิงสาวก็ต้องนับหนึ่งถึงสิบในใจ ก่อนจะตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ฉันคงไม่หลงผิดคิดสั้นขนาดนั้นหรอกค่ะ เก็บคำพูดของคุณไว้หว่านเสน่ห์กับผู้หญิงคนอื่นดีกว่า เพราะสำหรับฉัน มันไม่มีความหมาย”

“งั้นเหรอ ก็ได้ แล้วพี่จะรอดู”

“รอดูอะไร” หญิงสาวถามด้วยความแปลกใจ ชายหนุ่มยักคิ้วข้างเดียวให้ ก่อนจะยื่นหน้ามาเพื่อตอบเสียงเบา

“รอดูว่ารุ้งจะใจแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน”


----------------------------------------------------------------------------

“โอ๊ย... นี่มันมากเกินไปแล้วนะ ฉันชักจะทนไม่ไหวแล้ว...”

หญิงสาวร่างบางที่นอนก่ายหน้าผากอยู่บนโซฟาสีแดงร้องครวญออกมา โดยมีสายตาของเพื่อนรักทั้งสามที่มารวมตัวกันพร้อมหน้า ณ บ้านสามชั้นของขีโรชาคอยเฝ้ามองดูอยู่

เพลงรัก...หญิงสาวร่างสมส่วนในชุดกระโปรงสีครีมเหลือบมองเจ้าของบ้านเป็นเชิงสงสัย แต่ขีโรชากลับส่ายหน้าอย่างระอา จนฉายฉันท์...สตรีร่างบอบบางในชุดลูกไม้สีขาวต้องเอ่ยถาม

“มีเรื่องอะไรหรือคะรุ้ง” สาวเรียบร้อยที่ฝักใฝ่ในธรรม ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงเนิบช้า แต่เหนือฟ้ามัวแต่ยันตัวลุกขึ้น ไม่ทันอ้าปาก เพื่อนที่รับรู้เรื่องมากที่สุดก็ตอบแทน

“ก็เรื่องเดิมๆ... เรื่องป้า เรื่องบ้าน เรื่องที่ทำงาน อ๋อ แล้วก็เรื่องใหม่อีกเรื่อง... อดีตชายในฝัน”

“ไอ้ขิม!!”

“ทำไม ก็แกไม่ให้ฉันเรียกเขาว่าพี่หนึ่ง ฉันก็ไม่เรียกแล้วไง เขาเป็นอดีตชายในฝันของแกไม่ใช่เหรอ เรียกอย่างนี้ก็ถูกแล้ว”

“ไม่...”

“พี่หนึ่งกลับมาจากอเมริกาแล้วเหรอ เมื่อไร แล้วเขาว่ายังไงบ้าง” เพลงรักร้องถามอย่างตื่นเต้น ดูเหมือนว่าตั้งแต่เธอมีแฟนเป็นนักร้องหนุ่มชื่อดังที่เด็กกว่า ครูสาวที่เคยอมทุกข์ก็สนอกสนใจเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคนอื่นมากขึ้น

“ขอร้องนะ ไหว้เลยก็ได้ ช่วยเรียกเขาว่าคุณชินชนะเถอะ”

เหนือฟ้ายกมือขณะบอกเพื่อน ก่อนเล่าเรื่องที่เคยเล่าไปแล้วให้สาวอีกสองคนฟัง ทั้งเพลงรักและฉายฉันท์เป็นเพื่อนตั้งแต่มัธยมเช่นเดียวกับขีโรชา จึงรู้ดีว่า ‘คุณชินชนะ’ เป็นใคร และเคยทำอะไรไว้

“ตอนนี้ฉันมีภัยจากทุกทิศทุกทางเลย มีเขาตามไปหลอกหลอนที่ทำงาน กลับบ้านก็ต้องเจอเขาและป้าของเขาอีก ฉันไม่อยากกลับบ้านแล้ว…ไม่อยากไปทำงานด้วย ฉันควรทำยังไงดี”

ปิดท้ายด้วยคำถามอย่างหนักใจ ฉายฉันท์เป็นคนแรกที่ตอบ

“ทำใจให้สบายค่ะ คุณหนูขาคิดว่ารุ้งโชคดีมากเลยนะคะที่มีโอกาสปฏิบัติธรรมตลอดเวลา คิดดูสิคะ รุ้งได้ฝึกขันติบารมีกับคุณป้าของรุ้งทุกวันเลยนะ แล้วก็ได้ฝึกใจให้มีความเมตตา รู้จักวางอุเบกขากับพี่ชายของรุ้งด้วย...”

“คุณหนูขา อย่างไอ้รุ้งน่ะ ก่อนที่มันจะทำใจได้อย่างนั้น มันคงสร้างกรรมยาวเป็นหางว่าวไปก่อนแล้วล่ะ”
สาวห้าวเบรกเพื่อน ซึ่งเหนือฟ้าก็พยักหน้าเห็นด้วย

“ขิมพูดถูกนะคุณหนูขา อย่างฉันน่ะ กรรมหนักเกินกว่าจะเข้าถึงธรรมะได้ง่ายๆ กว่าฉันจะทำใจได้ ฉันก็คงเพิ่มกรรมให้ตัวเองไปมากแล้ว... ฉันอยากออกมาจากที่ตรงนั้น ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนบ้านนั้นอีก ฉันอยากได้บ้านใหม่”

“มาซื้อบ้านฉันไหมล่ะ ฉันคิดว่าจะขายอยู่พอดี ฉันอยู่ที่นี่คนเดียวก็ดูแลไม่ไหว ตั้งใจจะไปอยู่คอนโดฯ” ขีโรชาเสนอรวดเร็ว ทำให้หญิงสาวบนโซฟาทำตาลุกวาว

“เหรอ แกจะขายเหรอ เท่าไรอ่ะ”

“ก็ประมาณ... 15 ล้าน”

“หา!!! 15 ล้าน นี่แกกะจะปล้นเพื่อนเพื่อไปตั้งตัวหรือไง”

“ก็ถ้าให้นายหน้ามาประเมินราคาก็ประมาณนี้ ถึงจะอยู่ในซอยลึกไปหน่อย แต่ว่าอีกไม่นานก็จะมีรถไฟฟ้าผ่านมาแถวนี้แล้วนะ แล้วบ้านใหญ่ขนาดนี้ มีสระว่ายน้ำด้วย 15 ล้านน่ะ ถูกแล้ว”

“หึ งั้นฉันผ่อนส่งเดือนละ 1000 ได้ไหม รายจ่ายฉันเยอะ”

เจ้าของบ้านไม่ว่าอะไร นอกจากคว้าโทรศัพท์มากดเป็นเครื่องคิดเลข อึดใจก็เงยหน้าขึ้นมา

“15 ล้าน หาร 1000 หาร 12 เดือน.... ไอ้รุ้ง... 1,250 ปีเชียวนะเว้ย นี่คือโลกแตก จนสร้างใหม่ แกก็ยังผ่อนไม่หมดเลยนะ”

“ก็ถ้าฉันผลิตเงินเองได้ในสวนหลังบ้าน ฉันก็คงจ่ายสดงดเชื่อไปแล้ว โอ๊ย ตั้งราคามาได้ไม่เกรงใจคนหาเช้ากินค่ำเลย” เหนือฟ้าประชดอย่างหัวเสีย ก่อนที่เพลงรักซึ่งเงียบมาตลอด จะเสนอความคิดเห็นบ้าง

“ถ้าอย่างนั้น รุ้ง แกไปอยู่คอนโดฯ ของทองก่อนไหม อาจจะไม่ได้ฟรี แต่ก็คงลดราคาค่าเช่าให้ได้” ครูสาวหมายถึงทองทิม...หลานชายที่อายุมากกว่าซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ ดวงตาของเหนือฟ้าเบิ่งกว้างอีกครั้งด้วยความสนใจ แต่ยังไม่ทันเอ่ย ขีโรชาก็แทรกขึ้นอีกครั้ง

“ฉันว่าแกมาอยู่บ้านฉันนี่แหละ ไม่ต้องไปรบกวนคุณทอง คุณทองเขามีลูกมีเมียแล้ว”

“ไอ้บ้า... พูดอย่างกับรู้ว่าฉันคิดอะไร” เธอแกล้งพูดไปอย่างนั้น ก่อนลุกขึ้นไปกอดไหล่เพื่อน “ขอบใจนะแก”
แค่นั้นสำหรับเพื่อนสนิท ก็เพียงพอแล้วที่จะรู้ว่าซาบซึ้งเพียงใด ขีโรชาพยักหน้าให้ ก่อนจะเสริม

“อย่าลืมเตรียมเครื่องสำอางมาให้พร้อมด้วยล่ะ จะได้ไม่บ่นอีกว่าบ้านฉันขาดแคลน”

บทสนทนาเปลี่ยนไปในหลายๆ เรื่องอย่างลื่นไหล ทั้งเรื่องการมากรุงเทพฯ ของครูสาว ที่ต้องมาสอนเปียโนให้นางเอกหน้าใหม่ที่รับเล่นละครเรื่องเดียวกับแทนกวี... นักร้องชื่อดังซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเธอ และเรื่องของฉายฉันท์ กับการตามหาพี่สาวฝาแฝดที่ถูกแยกจากกันตั้งแต่เด็ก ก่อนสุดท้ายจะวกกลับมาเรื่องของเหนือฟ้าอีกครั้ง โดยการตั้งคำถามของเพลงรัก

“รุ้ง ฉันขอถามหน่อย ที่แกไม่อยากเจอพี่หนึ่ง...เอิ่ม คุณชินชนะน่ะ เพราะแกกลัวใจตัวเองหรือเปล่า”

“ห้ามโกหกนะคะรุ้ง ต่อหน้าคนมีศีลอย่างคุณหนูขา ถ้ารุ้งโกหก มันจะยิ่งบาป”

“มีทฤษฎีนี้จริงๆ เหรอคุณหนูขา”

“ก็น่าจะมีนะคะรุ้ง ก็อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้เกี่ยวกับอานิสงค์ของการให้ทานไงคะ ทำบุญกับสัตว์เดรัจฉาน 100 ครั้ง ไม่เท่ากับทำบุญกับขอทาน 1 ครั้ง การทำบุญกับขอทาน 100 ครั้ง ได้บุญไม่เท่าทำกับคนมีศีลแล้วศีลขาด 1 ครั้ง ทำบุญกับคนมีศีล แล้วศีลขาด 100 ครั้ง ก็ไม่เท่ากับทำบุญกับพระโสดาปัตติมรรค 1 ครั้ง…ทำบุญกับ...”

“เอิ่ม คุณหนูขา ฉันว่าพอก่อนเถอะนะ ยิ่งพูด ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองบาปกรรมเหลือเกิน ห่างศาสนาจนไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง เอาเป็นว่าเรื่องคุณชินชนะ…ฉันเคยบอกขิมไปแล้วว่าทำไมฉันถึงไม่อยากเจอเขา แค่เห็นหน้าเขา ฉันก็รู้สึกแย่ ความทรงจำร้ายๆ มันผุดขึ้นมาอย่างกับผดสิวที่ขึ้นมาตอนอากาศร้อน ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขาต้องการอะไร แต่ฉันรู้สึกได้ ว่าที่เขาทำไป แค่ต้องการเอาชนะเท่านั้น”

“บางทีพี่หนึ่ง เอ๊ย...คุณชินชนะเขาอาจจะจริงใจก็ได้นะ แกไม่คิดจะให้อภัยเขาเลยเหรอ”

“เพลง แกเข้าใจป่ะ ถึงฉันจะให้อภัย ฉันก็ไม่สามารถกลับไปไว้ใจเขาได้อีก สิ่งที่เขาทำกับฉันมันคือการหักหลัง ทำลายความศรัทธาทั้งหมดที่ฉันมี ฉันไม่คิดว่าฉันจะมองหน้าเขาเหมือนเดิมได้ ทางที่ดีที่สุด คือทำให้เรื่องระหว่างฉันกับเขาเป็นแค่อดีตเท่านั้น”
เหนือฟ้าว่าด้วยน้ำเสียงหนักแน่นอย่างคนที่คิดดีแล้ว แต่ขีโรชากลับส่ายหน้า แล้วเปรยออกมาเบาๆ

“จะเป็นแค่อดีตได้ไงวะ ในเมื่อปัจจุบันยังเจอกันอยู่ทุกวัน”







-----------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณทุกคนที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ

คุณพันธุ์แตงกวา : ตอนนี้เริ่มเครียดกับการตั้งชื่อตอนแล้วล่ะค่ะ 5555 กลัวจะไม่มีคนเข้ามาอ่าน ถ้าชื่อไม่โดน

คุณ wind : มาตามลุ้นกันค่ะ ว่าใครร้ายสุด

คุณ Amariys : นั่นสิคะ.... ฝากติดตามด้วยละกันนะคะ ^^

คุณ sai : เย้ๆ ขอบคุณมากค่ะ

คุณ เดิมเดิม : เอาใจช่วยเหนือฟ้า แต่ว่าอย่าลืมเชียร์พี่หนึ่งของเราด้วยนะคะ

คุณ Cherryfirm : ตั้งใจให้ชื่อเหมือนกัน กลัวว่าคนอ่านจะสับสนอยู่เหมือนกันค่ะ แต่ยังไง พระเอกของเราก็มีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นนะคะ ^^



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 มิ.ย. 2556, 00:02:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 มิ.ย. 2556, 00:02:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1715





<< บทที่สี่ : ผิดใจ    บทที่แปด : ฟ้าถล่ม >>
sai 26 มิ.ย. 2556, 00:30:18 น.
รุ้งสู้ๆๆๆ


พันธุ์แตงกวา 26 มิ.ย. 2556, 01:22:05 น.
ไม่ต้องเครียดน้า ปล่อยมันไปตามธรรมชาติ คนเรามีแม่นบ้างมั่วบ้างเป็นเรื่องธรรมดา555
เพลงรักคนนี้มาจากเพลงลิขิตฯใช่มั้ย มายั่วกันแบบนี้ ลงแดงตายก่อนพอดีกว่าจะได้อ่าน อ๊อก!
หน็อยปิ่น เจ้ากรรมนายเวรจริงๆเลย น้องเหนือสู้ๆ


Sukhumvit66 26 มิ.ย. 2556, 01:47:35 น.
น่าสนุกนะคะ มาลงชื่อจร้า เด่วต้องกลับไปอ่านตั้งแต่ต้น


ดังปัณณ์ 26 มิ.ย. 2556, 08:44:20 น.
ชอบคำนี้ค้า จะเป็นอดีตได้ไงวะ ก็เจอกันทุกวัน 555+ เหนือฟ้าจ๋า


เดิมเดิม 26 มิ.ย. 2556, 19:43:37 น.
พี่ชินทำไรน้องรุ้งอ่ะ


lookpud 27 มิ.ย. 2556, 20:57:29 น.
จะเป็นยังไงกันต่อไป


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account