หนึ่งรักเหนือรุ้ง
เหนือฟ้า.... เออีสาวแสนสวยแห่งบริษัทโฆษณาปั้นคิด พยายามหาเงินทุกวิถีทางเพื่อซื้อบ้านหลังใหม่ให้แม่ หลังโดนคุณป้ามหาประลัยตามราวีทุกวัน ร้อยเล่ห์มารยาถูกนำมาใช้เพื่อดึงดูดใจลูกค้า แต่ทว่า... เิงินก้อนโตที่เธอควรจะได้รับ กลับถูกใครบางคนขัดขวาง แถมจองล้างจองผลาญไม่ยอมให้เธอไปจากบ้านของเขา

แล้วเธอจะทำอย่างไรล่ะ ในเมื่อเขาเป็นทั้งเจ้านาย และอดีตพี่ชายที่เคยทำให้เธออกหัก การแข่งขันเพื่อชิงชัยแบบไม่มีใครยอมใครจึงเริ่มต้นขึ้น

งานนี้ไม่รู้ว่าใครจะอยู่ใครจะไป ใครจะแพ้ใจตัวเองก่อน มาร่วมลุ้นกัน ^^


Tags: เหนือฟ้า , เพลงรัก , ชินชนะ , รัก , กุ๊กกิ๊ก

ตอน: บทที่แปด : ฟ้าถล่ม

ยิ่งกว่าฟ้าถล่มลงมาตรงหน้า เมื่อเออีสาวได้รู้ว่าชิ้นปลามันที่เธอหมายตาเอาไว้ ถูกแมวขโมยหน้าตี๋ย่องมาคาบไปเสียแล้ว

“ผมขอโทษนะครับคุณเหนือ แต่ไอ้ชินเพิ่งบอกผมว่ามันขอรับผิดชอบงานนี้ มันเลยออกไปแล้ว ผมก็มัวแต่ยุ่งๆ เลยลืมบอกคุณ ขอโทษจริงๆ นะครับ”

ซีอีโอหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด แต่มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า ในเมื่อตอนนี้เหนือฟ้ารู้สึกเหมือนโดนฟาดด้วยไม้หน้าสาม สาดตามด้วยน้ำเย็นเฉียบถึงจุดเยือกแข็ง แถมยังมีเข็มนับพันเล่มทิ่มแทง... เจ็บ ชา มึนงง จนพูดอะไรไม่ออก

ที่เธอพิถีพิถันแต่งตัวมาเพื่ออะไร ชุดสูทสีเทาเรียบหรูที่เพิ่งถอยมาใหม่ ลิปสติกสีแดงที่บรรจงแต่งแต้ม เรือนผมสีน้ำตาลที่อุตส่าห์เกล้ามวยสูงดูเรียบร้อยประหนึ่งจะไปรับปริญญา ไม่รวมถึงการตั้งหน้าตั้งตาศึกษาข้อมูลของอิสระฟู้ด เพื่อเสนอไอเดียให้ทีมครีเอทีฟคิดงานได้ตามโจทย์ของลูกค้า ทุกอย่างมันสูญค่า... ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย

เออีสาวพาหัวใจที่บอบช้ำเพราะความผิดหวังกลับมายังโต๊ะทำงาน ทุกการเคลื่อนไหวเป็นไปตามอัตโนมัติเพราะสมองตื้อตันเกินกว่าจะสั่งการใดๆ ดวงหน้ารูปไข่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียด เนิ่นนานที่นั่งนิ่งจมดิ่งกับความหดหู่ แต่แล้วจู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งโหยง เมื่อเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างตัว

‘แท้นแท้นแท้นแถ่น...’

เสียงเพลงซิมโฟนี นัมเบอร์ 5 ของบีโทเฟ่นที่ตั้งไว้ทำให้เธอตกใจ...สงสัยจะต้องเปลี่ยนใหม่ซะแล้ว ทำเอาผวาอยู่เรื่อย
หญิงสาวคิดขณะคว้าโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานขึ้นมาดู เบอร์แปลก... อย่าบอกนะว่าใครบางคนโทรมาเพื่อเยาะเย้ยเธอ ใจหนึ่งสั่งว่าอย่ารับ แต่อีกใจ...ถ้าเป็นลูกค้าล่ะ

“สวัสดีค่ะ” เหนือฟ้ากรอกเสียงหวานลงไป เพราะคติประจำใจ... ต่อให้ข้างในจะขุ่นมัวแค่ไหน แต่ภายนอกก็ต้องสดใสเสมอ

“สวัสดีค่ะคุณเหนือ มุกเองนะคะ”

มุกไหน? เธอถามตัวเองในใจ ก่อนภาพหญิงสาวร่างอวบกับแว่นตากรอบกลม กับใบหน้าเกลี้ยงกลมอย่างพระจันทร์วันเพ็ญจะลอยเด่นเข้ามา

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เพราะเป็นคืนเดือนแรม นภาสีดำจึงไร้ดวงจันทร์ประดับ ดวงดาวมิอาจสู้หลอดไฟที่แข่งกันระยิบระยับ ราตรีนี้จึงปราศจากแสงสว่างจากฟากฟ้า

แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะมืดมิดเงียบเหงา เพราะภายในร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไฟกระพริบถูกประดับประดาจนพร่างพราว และยิ่งวิบวับแวววาวเมื่อสะท้อนกับระลอกคลื่นจากเรือด่วน ดั่งหิ่งห้อยนับพันเริงระบำอยู่ในลำน้ำ
มันควรเป็นบรรยากาศโรแมนติกที่ชวนฝันหวาน หากว่ามือทั้งสองข้างของเขาจะไม่ชื้นไปด้วยเหงื่อ ชายหนุ่มร่างผอมสูงดันแว่นกรอบเหลี่ยมให้ขึ้นไปอยู่บนสันจมูกโด่ง ยามก้มลงสำรวจเสื้อเชิ้ตสีขาวกับเนคไทลายทางของตัวเอง ทุกอย่างเรียบร้อยดี... แต่ความประหม่าที่มีก็ไม่ได้ลดน้อยลง

“หล่อแล้วค่ะคุณหนึ่ง” มุกมาลา...เลขานุการสาวอวบที่นั่งฝั่งตรงข้ามเอ่ยเสียงเบา ทำให้เขาเงยหน้าขึ้นมอง พอดีกับที่แสงเทียนสะท้อนในแววตาใต้แว่นของเธอ เขาจึงเห็นร่องรอยขบขันในนั้น

“นี่คุณกำลังล้อผมอีกแล้วนะคุณมุก” มาวินว่า แต่ไม่จริงจังนัก แค่อยากกลบเกลื่อนความเขินอายของตัวเอง อายุปูนนี้แล้ว ยังทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มออกเดทครั้งแรก

“เปล่านะคะ มุกก็แค่... เฮ้อ จะแก้ตัวไปทำไม คนไม่ใช่ทำอะไรก็ผิดเนอะ” เธอแกล้งว่าเสียงเศร้า ก่อนจะหลุดหัวเราะ คราวนี้เขารู้เลยว่าเธอจงใจล้อเลียนเขาจริงๆ

“คุณมุก!!!” ชายหนุ่มทำเป็นปรามเสียงเข้ม แต่ใบหูแดงเรื่ออย่างคนที่เขินจัด มุกมาลาเห็นเข้าก็ต้องรีบกลั้นยิ้ม ก่อนจะอุทานเมื่อคนที่นัดไว้ปรากฏตัว

“อุ้ย คุณเหนือมาแล้ว” เธอว่า ทำให้มาวินหันขวับไปมองยังทางเข้า และเมื่อเห็นร่างบางที่เขาเฝ้ารอกำลังเดินตรงมา ชายหนุ่มก็รีบลุกขึ้นต้อนรับทันที

“สวัสดีค่ะ คุณมาวิน คุณมุก...” เออีสาวเป็นฝ่ายร้องทักเสียงใสมาแต่ไกล และเมื่อเดินเข้าไปใกล้เธอก็รีบทำหน้ารู้สึกผิดทันที “มารอกันนานแล้วเหรอคะ ขอโทษจริงๆ นะคะที่มาช้า”

“ไม่ครับ ไม่ช้าเลย ผมกับมุกมาก่อนเวลาเองต่างหาก” ลูกค้าหนุ่มรีบตอบ ขณะที่ตาตี่ใต้แว่นหนาของเขายังคงจับจ้องที่ดวงหน้าหมดจดของเธอ

ก็แน่ล่ะสิ เธออุตส่าห์แต่งหน้าใหม่ ให้ดูใส ไร้เดียงสา เพราะจำได้ที่ทำนุทัพพูดว่า ‘เจ้านายของพี่มุกชมว่าพี่เหนือเรียบร้อย น่ารักดี’ ดังนั้นลุคสาวเปรี้ยวเปิ๊ดสะก๊าด ปากแดงฉ่ำ กับอายลายเนอร์หนาคงใช้ไม่ได้กับคนนี้ และนี่...ถือว่าวันนี้เธอยังโชคดีที่ใส่สูทสีเทามาด้วย เพราะลำพังแค่เดรสสดำสั้นกุดข้างใน คงหวือหวาเกินกว่าพ่อหนุ่มแว่นหนาจะรับได้แน่ๆ

“วันนี้คุณเหนือสวยจังเลยนะคะ คราวก่อนที่เจอว่าสวยแล้ว คราวนี้ยิ่งสวยกว่า... จริงไหมคะคุณหนึ่ง”

“ครับ...สวยครับ” มาวินเอ่ยได้แค่นั้นเพราะกำลังเขินจัด มุกมาลาที่อุตส่าห์ ‘ชง’ ให้ต้องรีบเสมองไปทางอื่นเพื่อซ่อนยิ้ม ผู้ชายอะไร ขี้อายชะมัด.... ขณะที่เหนือฟ้าคิดว่าคนแบบนี้ก็น่ารัก ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยเจอ

“ขอบคุณคุณมุก แล้วก็คุณมาวินนะคะ ชมซะเหนืออยากไปประกวดนางงามเลย อย่างนี้ไม่ต้องกินอะไรแล้วล่ะค่ะ อิ่มทิพย์ไปหลายวัน”
หญิงสาวว่าก่อนหัวเราะเบาๆ พลอยทำให้บรรยากาศรื่นรมย์และเป็นกันเองขึ้น... ดีเหลือเกินที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงนั่งจมความเครียดอยู่เพียงลำพังที่ไหนสักแห่ง อาจคิดวางแผนทำอะไรโง่ๆ ลงไปเพราะเศร้าใจ เหนือฟ้าคิดพลางมองหนุ่มสาวตรงหน้าอย่างขอบคุณ

ความจริงเธอเกือบลืมพวกเขาไปแล้ว เพราะเรื่องที่เธอขอร้องให้แวะเข้าห้องน้ำเมื่อคราวก่อน คือความอับอายที่เธอไม่อยากคิดถึง ขนาดนมถั่วเหลืองเธอยังงดไปตั้งหลายวัน ดังนั้นไม่ว่าใครหรืออะไรก็ตามที่เชื่อมโยงถึงเหตุการณ์วันนั้น เธอก็พยายามลบทิ้ง นี่ถ้าเลขาฯ สาวร่างอวบติดต่อไปที่บริษัท ไม่ได้โทรเข้ามือถือเธอโดยตรง เธอคงขอร้องให้เออีคนอื่นรับช่วงต่องานนี้ไปแล้ว

“เราจะทานกันก่อนหรือว่าคุยงานก่อนดีคะ คุณมุก คุณมาวินหิวกันหรือยัง” เออีสาวเอ่ยถาม หลังจากมาวินเลื่อนเก้าอี้ข้างๆ ให้เธอนั่ง ท่าทางสุภาพของเขาทำให้เธอนึกชมโดยไม่บอกใคร

“คุณเหนือละครับ”

“เหนือยังไม่ค่อยหิวหรอกค่ะ แต่ว่าทานก่อนก็ดีนะคะ จะได้อารมณ์ดี เผื่อมีงานตรงไหนไม่ถูกใจ คุณมาวินกับคุณมุกจะได้ไม่หงุดหงิดใส่เหนือ”

“ผมดูเหมือนคนที่โมโหหิวเหรอครับ” มาวินถามเสียงจริงจัง ทำเอาเหนือฟ้าที่แกล้งว่า ปรับอารมณ์ตามไม่ถูก

“เปล่าค่ะ เหนือแค่ล้อเล่น ขอโทษนะคะ”
เธอว่าเสียงสลด รู้สึกผิดไปเลยที่เล่นไม่ดูกาลเทศะ แต่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ จากคนข้างๆ เธอก็รีบหันไปมองหน้า ทำให้เห็นว่าชายหนุ่มหน้าตี๋กำลังส่งยิ้มให้เธอ

“ผมก็ล้อเล่นเหมือนกันครับ”

“โถ่ คุณมาวินน่ะ” หญิงสาวทำเสียงกระเง้ากระงอด ขณะที่ในใจคิดว่าเขาก็ไม่ได้เป็นผู้ชายทื่อๆ ไร้ลูกไม้ใดๆ อย่างที่เข้าใจ บางทีที่ทำเขินอาย หน่อมแน้มไม่ประสีประสา ก็เผื่อให้ผู้หญิงตายใจต่างหาก
ยังไงผู้ชายก็คือผู้ชาย ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น

“คุณเหนือกับคุณหนึ่งคะ เดี๋ยวมุกขอตัวไปเข้าห้องน้ำแปปนึงนะคะ” อยู่ๆ มุกมาลาก็เอ่ยเช่นนั้น ก่อนขยับตัวลุกขึ้น มาวินเงยหน้ามองเพราะสำเหนียกได้ถึงความผิดปกติ และเมื่อเขาเห็นเธอหลิ่วตามาให้ ชายหนุ่มก็เข้าใจทันที

คิดจะเปิดโอกาสให้เขาได้อยู่ตามลำพังกับเหนือฟ้า... ร้ายจริงๆ นะเลขาฯ คนนี้

มุกมาลายิ้มให้อีกครั้งก่อนเดินจากมา ประสบการณ์สอนให้เธอรู้ว่า เมื่อถึงเวลา ตัวช่วยก็สามารถกลายเป็นส่วนเกินได้ง่ายๆ หญิงสาวก้มหน้าก้มตาเดินเพื่อซ่อนความรู้สึกบางอย่างไว้ ทำให้ไม่เห็นร่างสูงของใครคนหนึ่งที่ยืนเด่นอยู่หน้าห้องน้ำ

ชายหนุ่มในเสื้อเชิ้ตสีขาวกับสูทสีเทาพอดีตัวและกางเกงสีเดียวกัน ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู... เพิ่งสองทุ่มกว่าเองหรือ ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าอาหารมื้อค่ำที่เพิ่งผ่านไปใช้เวลายาวนานกว่านั้น หรือเป็นเพราะใจที่ร้อนรุ่มของเขาเองทำให้ทุกอย่างดูเชื่องช้าไปเสียหมด
บทสนทนาแสนสนุกและลื่นไหลที่เขามีให้พราวพัช....เลขานุการสาวคนสวยของอิสระที่เขาเพิ่งรู้จักวันนี้ ช่างยืดเยื้อเหลือเกินในความรู้สึก เขาผิดเองที่เสนอตัวจะเลี้ยงข้าวเธอ ทั้งที่หัวใจอยากเหาะกลับไปหาใครคนหนึ่งที่ออฟฟิศตั้งแต่คุยงานเสร็จ

รุ้งจะว่ายังไงบ้างที่โดนพี่แย่งงาน จะอาละวาดโวยวายอะไรหรือเปล่า พี่อยากบอกรุ้งจริงๆ ว่าพี่ทำไปเพราะอะไร แต่รุ้งจะฟังพี่ไหม.... ชินชนะผ่อนลมหายใจเบาๆ ก่อนทอดสายตาไปยังแม่น้ำยามค่ำคืน มองคู่รักที่นั่งเคียงกันท่ามกลางบรรยากาศแสนหวาน เขาต้องทำยังไงถึงให้ผู้ชายตรงนั้นเป็นเขา และผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ คือเธอ

เอ๊ย!!! เดี๋ยวก่อนนะ นี่เขาคิดถึงเธอมากเกินไปจนตาฝาด หรือว่า... ภายใต้แสงสลัวของเทียนไขบนโต๊ะอาหาร วงหน้ารูปหัวใจที่คุ้นตาไม่มีทางเป็นคนอื่นได้ เขาจดจำได้อย่างแม่นยำแม้อยู่ในระยะห่างไกล ว่าแต่..เธอมากับใครกัน

ความสงสัยจากสมองสั่งสองเท้าให้ก้าวไปพิสูจน์ แต่หญิงสาวร่างอวบอิ่มได้สัดส่วนในเชิ้ตสีขาวและกระโปรงทรงสอบสีเขียวแมลงทับก็ก้าวออกมาจากห้องน้ำเสียก่อน

“เสร็จแล้วค่ะคุณชิน” พราวพัชเอ่ยพร้อมส่งยิ้มมาให้ ชินชนะไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากยิ้มหวานตอบกลับไป ก่อนจำใจเดินเคียงเธอไปยังลานจอดรถหน้าร้าน

“เราน่าจะไปหาร้านนั่งฟังเพลงกันต่อ...” เธอเอ่ยเมื่อเดินมาถึงรถคันเล็กของเธอ ชายหนุ่มแสร้งทำหน้าเสียดาย

“ทำยังไงดีล่ะครับ ผมต้องกลับไปเคลียร์งานที่ออฟฟิศ พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้าเสียด้วย ไว้เป็นโอกาสหน้าดีไหมครับ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีก”

“ต้องได้เจออยู่แล้วสิคะ” เลขาฯ ของอิสระว่านัยน์ตาแฝงความนัยบางอย่าง ชายหนุ่มรับรู้ได้ทันทีว่าการมากินข้าวคราวนี้ไม่เสียเวลาเปล่า เขายิ้ม ก่อนเปิดประตูรถให้เธอ

“แล้วผมจะโทรไปหานะครับ”

นั่นคือคำทิ้งท้าย ที่ทำให้เธอช้อนตายั่วยวนมาให้ ชินชนะรีบทิ้งสายตามหาเสน่ห์กลับไป สบกันอยู่ครู่ก่อนเธอจะก้าวขึ้นรถ

ไม่ต้องเดาเลยว่าเขาจะทำอะไรต่อ ชายหนุ่มรีบสาวเท้ากลับไปด้านใน...มุ่งสู่โต๊ะอาหารริมน้ำทันที

------------------------------------------------------------------------------------------------

“เพราะครุอุดมเป็นสินค้าที่อยู่คู่คนไทยมายาวนาน โฆษณาตัวนี้จึงจะสื่อถึงเรื่องความผูกพันระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค เปิดตัวด้วยฉากสมัยก่อนที่พ่อแม่จีบกันด้วยจดหมาย ให้ยืมยางลบที่วาดรูปหัวใจ เขียนคำอวยพรให้ลูกในวันเกิด ลูกใช้ปากกาสอบเข้ามหาวิทยาลัย ได้เจอเพื่อน ระบายสีหน้าแกล้งกัน จากนั้นก็เจอคนรักที่ทำดินสอตกไว้ ช่วยติวหนังสือโดยใช้มาร์กเกอร์ ปิดท้ายเป็นวันครบรอบแต่งงาน นั่งดูแฟ้มที่เก็บรูปถ่ายต่างๆ พอปิดแฟ้มก็จะเห็นโลโก้ของครุอุดม...”

เหนือฟ้าอธิบาย ขณะเปิดไอแพดของตนให้อีกฝ่ายดูสตอรี่บอร์ดที่ครีเอทีฟเพิ่งวาดเสร็จสดๆ ร้อนๆ

“ผมชอบนะครับไอเดียนี้ แต่ผมอยากเพิ่มอะไรสักหน่อย คือประมาณเดือนหน้าผมจะมีกิจกรรมค่ายศิลปะ ผมอยากให้มีฉากสอนเด็กอยู่ในโฆษณาตัวนี้ด้วย อาจจะเป็นช่วงรุ่นลูก หลังเข้ามหาวิทยาลัย ก็ไปทำกิจกรรมกัน... คุณเหนือว่ายังไงครับ”

“ค่ายศิลปะหรือคะ น่าสนใจจัง อย่างนี้ก็สามารถเห็นสินค้าได้หลายตัวเลยน่ะสิ... ดีค่ะ เหนือจะไปบอกทีมงานนะคะ อย่างที่คุณมาวินเสนอ ช่วงรุ่นลูกกำลังเหมาะ ไปค่ายศิลปะกัน สอนเด็กโดยใช้เครื่องเขียนต่างๆ ของครุอุดม”

เออีสาวบอกอย่างกระตือรือร้น ก่อนจดสิ่งที่ลูกค้าต้องการลงในสมุดโน้ต แล้วหันกลับไปถาม

“แล้วอย่างนี้คุณมาวินต้องการให้ถ่ายทำตอนจัดกิจกรรมจริงๆ เลยหรือเปล่าคะ”

“ถ้าเป็นไปได้นะครับ”

“เหนือจะจัดการให้นะคะ” เธอตอบกลับด้วยรวดเร็วด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ ทำให้นักธุรกิจหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่า การที่ผู้หญิงจริงจังกับงาน ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างเหมือนกัน

ชายหนุ่มเผลอไผลจ้องมองเธออย่างนั้น จนกระทั่งทำนองเพลงแสนหวานที่คุ้นหูจะดังขึ้น ทั้งเขาและเธอหันซ้ายหันขวาเพื่อดูว่าเสียงมาจากไหน ก่อนที่เธอจะทำท่านึกขึ้นได้

“โทรศัพท์เหนือเองค่ะ” เธอรับสีหน้าอายๆ ขณะที่มาวินคิดในใจ นี่เธอใช้เพลง ‘เสน่หา’ เป็นเสียงเรียกเข้าหรือเนี่ย

ก็แหงล่ะสิ... เธออุตส่าห์ไปหาดาวน์โหลดมาด้วยความยากลำบากเพราะรู้ว่าจะได้มาเจอเขา อึ้งไปเลยหรือไง หญิงสาวลอบยิ้มด้วยความลำพองใจเมื่อเห็นประกายตื่นเต้นในดวงตาเล็กๆ ของคนข้างๆ แต่ความดีใจของเธอก็อยู่ไม่นาน เมื่อเบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอทำให้เธอชะงัก

แปลกไหม... แม้ไม่ได้บันทึกเอาไว้ แต่เธอก็รู้ทันทีว่าเลขหมาย 10 หลักนี้เป็นของใคร สงสัยสมองเธอจะจดจำเพื่อสั่งตัวเองไม่ให้รับ คิดดังนั้นจึงกดตัดสาย ทำเอาชายหนุ่มที่นั่งใกล้อดถามไม่ได้

“ไม่รับหรือครับ”

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เธอตอบสั้นๆ แล้วกลับมาหา ทำเหมือนว่าไม่สนใจสายที่โทรเข้ามาเลยสักนิด “ยังไงเหนือจะแก้สตอรี่บอร์ดให้คุณมาวินดูอีกครั้งนะคะ… ถ้ามีเพิ่มเติมอะไรคุณมาวินติดต่อเหนือได้ตลอดเลยนะคะ ให้คุณมุกโทรมาเรียกก็ได้ เอ๊ะ พูดถึงคุณมุก นี่เธอหายไปนานแล้วนะคะ เหนือไปตามดีกว่า”...เผื่อจะได้มีเวลาโทรกลับไปหาคนที่เธอเพิ่งตัดสายทิ้งด้วย

“ไม่ต้องหรอกครับ คุณมุกส่งข้อความมาว่าเธอมีธุระด่วน ต้องรีบไปก่อน”

“อ้าว กลับไปแล้วหรือคะ ยังไม่ได้ลากันเลย”

“เดี๋ยวก็ได้เจอกันอีกครับ” เขาว่านัยน์ตายิ้ม หญิงสาวที่มีอคติกับผู้ชายทั้งโลกมีหรือจะไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร แหม... ทำมาดนิ่งเก๊กขรึมเหมือนพวกคงแก่เรียนได้ไม่เท่าไร ก็ออกลายหว่านเสน่ห์เสียแล้ว นี่คงสั่งให้เลขาฯ กลับไปก่อน เพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับเธอสองต่อสองสินะ

หึ..ผู้ชาย

“สวัสดีครับ” อยู่ๆ เสียงทักทายหนึ่งก็ดังขึ้นเกือบใกล้หู เหนือฟ้าสะดุ้ง รู้ว่าไม่ใช่เสียงจากคนที่เธอกำลังค่อนขอด เพราะมันมาจากอีกทางหนึ่ง หญิงสาวรีบหันขวับไปมองทันที แล้วร่างสูงที่คุ้นตาก็ทำให้เธอเลิกคิ้วด้วยความตกใจ

“คุณชินชนะ!!!”




----------------------------------------------------------
มาต่ออีกตอนแล้วนะคะ


คุณ Auuuu : ขอบคุณนะคะที่แวะมาเยี่ยมเยียนกัน พี่หนึ่งจะรู้หรือเปล่า ฝากติดตามด้วยนะคะ

คุณ ปิศาจสัญจร : นางสนุกที่ได้ร้ายค่ะ

คุณ nunoi : ยอมได้ไงละคะ ^^

คุณดังปัณณ์ : 5555 พระเอกคนนี้ปากไม่แข็งนะคะ

คุณ sai : สู้ตายค้า

คุณ sukhumvit66 : แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ยอมได้ไง

คุณแตงกวา : เดาว่านางเอกของเราคงกินทุกอย่าง ที่บอกว่าดีกับสุขภาพน่ะค่ะ 5555


ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ แวะเข้ามาทักทายกันได้เสมอค้าาา
ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ ^^



ปลายสี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 ก.ค. 2556, 00:01:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 ก.ค. 2556, 00:10:10 น.

จำนวนการเข้าชม : 1604





<< บทที่หก : จะใจแข็งไปได้อีกนานแค่ไหน   บทที่เก้า : คับแค้น >>
Auuuu 2 ก.ค. 2556, 00:21:58 น.
พระเอกเห็นฉากเด็ดตลอดๆๆ


พันธุ์แตงกวา 2 ก.ค. 2556, 08:02:33 น.
รู้แล้วว่าทำไมถึงไม่กินน้ำเต้าหู้อีก555
พี่ชินมาแย่งงานไปอย่างนี้ เอาคืนใหเข็ดเลยนะน้องเหนือ แต่ดูท่าทางแม่เลขาสบตาแบบนั้นกรรมจะตามสนองพี่ชินเองละเปล่าฮ่าๆๆๆสะใจ


ดังปัณณ์ 2 ก.ค. 2556, 08:58:02 น.
อุแหม่เจ้า 555+ ฟ้าถล่มจิงจิ๊ง เอาแล้วงานเข้า อิๆ


sai 2 ก.ค. 2556, 13:41:44 น.
นายชินชนะแย่งงานตลอดด เปนเราๆก้อเคืองงงง


nunoi 2 ก.ค. 2556, 15:27:04 น.
น่าสงสารน้องเหนือจริงๆ ดูเหมือนจะแพ้ทางพี่หนึ่งตลอดเลย


Sukhumvit66 2 ก.ค. 2556, 19:04:49 น.
ทำแบบนี้ เขาจะรู้ไหมเล่าว่าหวังดี


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account