Pai Journal (ปาย ในบันทึกถึงคุณ)
คุณที่รัก...
ผมอยากเล่าเรื่องราวหลังจากวันนั้นให้คุณได้ฟัง
มันเป็นการเดินทางระยะสั้นๆ ในช่วงเวลาชีวิตยาวนาน
ผมพบพานสิ่งต่างๆ ท่ามกลางความรู้สึกถึงคุณทุกขณะ
เรื่องมันมีอยู่ว่า...
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บันทึกถึงเวลาหลังจากนั้น



สามวันก่อนผมเก็บข้าวของลงกล่อง เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทาง หกกล่องใหญ่ๆ นั่นทำให้ผมนึกแปลกใจตัวเอง ไม่น่าเชื่อว่าข้าวของในห้องจะมีมากถึงขนาดนั้น การมีชีวิตหยุดนิ่งอยู่กับที่หลังจากใช้ชีวิตราวกับนักพเนจร หมายถึงออกเดินทางบ่อยๆ แบบเมื่อก่อน เปิดโอกาสให้ผมได้เลือกซื้อเลือกหาข้าวของมาไว้ในห้องพักมากมายขนาดนี้เชียวหรือ?

ผมถามตัวเองอย่างนั้น...

ก่อนที่ผมจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับเรื่องราวหลังจากวันนี้ ตอนนั้นผมมองดูกล่องนั้นเงียบๆ ในจำนวนทั้งหมดนั้น เกินกว่าครึ่งเป็นของของเรา อ้อ... ไม่ใช่สิ ของของคุณ ของที่คุณให้มาในโอกาสต่างๆ ผมจำได้ว่าตัวเองค่อยๆ เก็บและห่อมันอย่างดี ซึ่งก็ไม่ดีมากนักหรอกหากเทียบกับการเก็บของในระดับที่ผู้ชายทั่วไปคนหนึ่งจะทำได้

ถ้าสมมติว่ามีของในนั้นสักชิ้นที่ผมเกิดนึกอยากเก็บไว้กับตัว ผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะกล้าเปิดกล่องของเรา..

โทษที ผมคงติดคำว่า ของเรา มากไป และคุณคงไม่ว่าอะไรถ้าผมจะของใช้คำนี้ในระหว่างที่เล่าเรื่องของผมให้คุณฟัง

ผมก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะกล้าเปิดกล่องของเราอีกครั้งหรือไม่ ก็เพราะตอนที่เก็บของลงไปก็ใช้เวลาเป็นค่อนวันกับการนึกได้ถึงการได้มาและวันเวลาของสิ่งของแต่ละชิ้น ของพวกนี้คุณเป็นคนมอบให้ บางชิ้นเราก็ซื้อมาด้วยกัน และเพราะมันมีคุณมาเกี่ยวข้องก่อนที่มันจะมาอยู่กับผม ผมถึงได้ถือว่าของเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นของของเรา

เพราะการที่ผมจะออกเดินทางอีกสักครั้ง และเป็นการเดินทางที่ไม่มีระยะเวลา ทำให้ผมเลือกเคลียร์เพื่อส่งคืนห้องพักนี้ ผมเลยต้องจัดการเก็บทำความสะอาดห้องให้เรียบร้อยก่อน ห้องหลังจากลงมือเก็บของมีขยะพร้อมทิ้งกองโต ผมได้ขยะกองโตจริงๆนะจากการเลือกทิ้งสิ่งที่ผมเห็นว่ามันไม่จำเป็นกับตัวเองอีกต่อไปแล้ว

ถึงอย่างนั้นความคิดที่ว่ามันน่าจะยังมีประโยชน์อยู่บ้างก็มักทำสงครามประสาทแบบย่อยๆ กับความคิดที่เห็นว่าควรจะทิ้งไปอยู่เป็นระยะ บางชิ้นสรุปกันไม่ได้จนถึงขั้นต้องเพิ่มกองขยะรอทิ้งหรือรอเก็บไว้อีกกองหนึ่ง

ผมปลดรูปภาพในกรอบของคุณลงมาห่อกระดาษไว้อย่างดี มีรูกระจายอยู่บนผนัง ตอนแรกก็นั่งอึ้งอยู่พักใหญ่เพราะจำได้ว่าแผลเจาะผนังรูละสองร้อย แต่โชคดีหน่อยที่พอผู้จัดการขึ้นมาตรวจ เธอว่ามีแผลฉกรรจ์ที่ต้องคิดเงินแค่สองแผล เพราะมันเป็นรอยตอกตะปู ส่วนที่เหลือเป็นแผลเจาะด้วยดอกสว่านยังพอแก้ไขได้ง่ายหน่อย

แพ็คกล่องทั้งหกใบได้ ผมก็ขนมันอย่างทุลักทุเลลงจากตึกมาใส่ในรถตุ๊กๆ ที่ว่าจ้างมาขนไปฝากที่หอพักเพื่อนในคอนโดไม่ไกลกัน นับเป็นความอนุเคราะห์ที่แสนเป็นบุญเป็นคุณมากก่อนที่ผมจะได้ออกเดินทางอย่างหายห่วง

ผมตัดสินใจออกเดินทางจากเมืองของเรา เมืองที่เคยมีเรื่องราวของเราเป็นส่วนหนึ่งของฉากหลายๆ ฉาก เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะผมได้พบว่าหากยังอยู่ในที่เดิมๆ เมืองเดิมๆ ผ่านไปบนถนนสายเดิม สัมผัสบรรยากาศเดิม ที่มันไม่อาจจะมีกันและกันเหมือนเดิมอีกแล้ว ผมไม่สามารถจะอยู่ได้อย่างเป็นปกติ ตอนนี้เอาเป็นว่าแค่อยู่อย่างเป็นปกติในเมืองเดิมแต่ไม่มีคุณก็กลายเป็นเรื่องยากแล้ว

ดังนั้นผมควรจะพาตัวเองจากไปเสียดีกว่า

แต่ก็นั่นล่ะ นานทีเดียวกว่าที่ผมจะตัดสินใจจากไปได้จริงๆ เพราะเมื่อยังไม่พร้อมที่จะตัดใจเสียที ก็เหมือนมีห่วงรัดเอาไว้ไม่ให้ออกเดินทางไป การไปจากอะไรๆ ที่เป็นทุกอย่างของชีวิตต้องใช้ความเข้มแข็งมากทีเดียวเชียวล่ะ ไม่ง่ายเลย... หากว่าคุณจะมีความรู้สึกในสิ่งนั้นมากจนเข้าใจว่า การเสียมันไปเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิต

ก่อนจะออกเดินทาง ผมยังมีธุระประปรายให้จัดการให้เรียบร้อยเสียก่อน บางเรื่องก็จำเป็นสำหรับคนอื่น เช่น การเอาไฟล์งานที่ทำค้างไว้ไปส่งไม้ต่อให้คนทำแทน บางเรื่องก็จำเป็นสำหรับตัวเอง เช่นการหอบต้นไม้ไปบริจาคให้เพื่อนคนหนึ่งเลี้ยงดูต่อ บางเรื่องก็ไร้สาระเป็นต้นว่าไปเช่าตู้ไปรษณีย์สำหรับข้อความหรือถ้อยคำจากบรรดามิตรทางจดหมายและนิตยสารรายสามเดือนที่ยังไม่เลิกรับ ร่วมถึงตั้งใจจะเอาไว้เป็นที่เก็บบันทึกการเดินทางของตัวเองด้วย

คุณเห็นไหมว่าผมมีอะไรให้ทำมากมายวุ่นวายไปจนหมด แต่ก็พยายามเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนที่เวลาเดินทางจะมาถึง ในไม่กี่อึดใจ

เวลาที่กำหนดไว้บนหน้าตั๋วรถไฟในมือ

ในเวลาขณะนี้ ผมจัดการกับอะไรๆ ที่สามารถจัดการได้เรียบร้อยไปแล้ว ถ่มว่าเหนื่อยไหม? ก็มีความเหนื่อยบ้างแต่มันก็มีความโล่งใจมาประกอบ ตอนที่เคลียร์แต่ละเรื่องออกไปใจลึกๆ มันโหวงๆ เหวงๆ ชอบกล ผมพยายามไม่นึกว่ายังมีอะไรเกี่ยวกับคุณที่ผมยังติดค้างอยู่บ้าง เพราะจะอย่างไรผมก็ไม่มีเวลาให้ได้ทำแล้ว

เว้นเสียแต่ว่าผมจะมีโอกาสได้ย้อนกลับมาทำสิ่งเหล่านั้นให้คุณในวันข้างหน้า หวังว่าจะมีโอกาสนั้น

คุณที่รัก...

เวลาในเมืองนี้ของผมจบลงแล้ว แต่มันยังไม่สมบูรณ์และเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับการจะเรียกว่าจบลงโดยบริบูรณ์อย่างในท้ายละครตอนจบ

เสียงประกาศเรียกขึ้นรถไฟนั้นน่าใจหายกว่าทุกครั้งที่เคยได้ยิน วูบเดียวความโหยหาที่มีต่อเรื่องราววันเวลาเก่าๆ ก็กระโดดกอดผมไว้แน่น ทำใจได้ยากแต่ก็ต้องทน ชั่วเวลาหนึ่งที่ยากลำบากมันจะต้องผ่านไป ออกแรงแล้วสูดหายใจลึกๆ สะพายกระเป๋าขึ้นหลัง หิ้วซองกระเป๋ากีต้าร์ใบเก่งขึ้นไหล่ กลั้นลมหายใจแล้วลุกออกจากที่นั่ง

เท่านี้ก็แปลว่า ผมกำลังจะไปจากคุณได้มากขึ้นอีกหนึ่งก้าว.



นรมันร์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 ก.ค. 2556, 23:30:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 ก.ค. 2556, 23:30:53 น.

จำนวนการเข้าชม : 770





   แสงตะวันใหม่ในกรอบหน้าต่าง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account