โอเอซิส...พิชิตรัก
นิยายกึ่งทะเลทรายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเจนกับอัสซิมเหมือนแมวไล่จับหนู ชิงไหวชิงพริบ ปฏิเสธความรู้สึก ปิดบังบางอย่างต่อกันเสมอ พระนางไม่ค่อยเผยความรู้สึก ออกแนวพูดต่างภาษา แต่ต้านแรงดึงดูดระหว่างกันไม่ได้ ทำให้เกิดความผูกพัน เป็นคนเก่งทั้งคู่ แล้วพยายามอ่านกันและกันตลอดเรื่อง อิอิ สู้กันจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียวค่ะ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรของผู้เขียนค่ะ
Tags: ทะเลทราย โจร แก้แค้น

ตอน: 1

โอเอซิส...พิชิตรัก (My Dear OASIS.)
เป็นนิยายกึ่งทะเลทราย ทำไมถึงกึ่งทะเลทราย เพราะมีฉากทะเลทรายอยู่ไม่กี่ฉากค่ะ 555+
นิยายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเจนกับอัสซิมเหมือนแมวไล่จับหนู ชิงไหวชิงพริบ ปฏิเสธความรู้สึก ปิดบังบางอย่างต่อกันเสมอ พระนางไม่ค่อยเผยความรู้สึก ออกแนวพูดต่างภาษา แต่ต้านแรงดึงดูดระหว่างกันไม่ได้ ทำให้เกิดความผูกพัน เป็นคนเก่งทั้งคู่ แล้วพยายามอ่านกันและกันตลอดเรื่อง อิอิ สู้กันจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียวค่ะ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรของผู้เขียนค่ะ

โอเอซิส...พิชิตรัก ตอนที่ 1

เซอิดะห์ อัชราฟ....

ชื่อที่ไม่มีใครจดจำ ชื่อธรรมดาๆ ของเด็กหญิงที่ตายไปกลางทะเลทรายพร้อมกับพ่อแม่เธอ และเธอกำลังทำให้ราชาบ่อน้ำมันฉงนหนัก ติดที่ว่าพูดไม่ได้

“คุณคงจำนามสกุลอัชราฟได้ดีสินะ อาลี มาห์นาซ” น้ำเสียงของหญิงสาวโตเต็มวัยราบเรียบและไม่เหลือคราบของเด็กหญิงอ่อนเยาว์อีกแล้ว เธอกำลังเดินไปรอบๆ ปิดหน้าและถือมือดาบสั้นประดับนิลสีดำล้อมด้วยมุกสีดำ มีสัญลักษณ์ประจำตระกูลอัชราฟ ซึ่งบัดนี้ได้ก้มหัวให้อาลี มาห์นาซแล้ว

“มูฮัมหมัด อัชราฟ หลานชายที่น่าภาคภูมิใจของคุณได้ขึ้นมาเป็นประมุขตระกูล พร้อมทั้งยกตระกูลอัชราฟสวามิภักดิ์กับตระกูลมาห์นาซ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดีกับคุณเหลือเกิน” หญิงสาวพูดเยาะในตอนท้าย

อัชราฟ...

อาเหม็ด อัชราฟ...ชายที่เขาส่งน้องสาวให้ไปแต่งงานด้วย เพื่อพิชิตตระกูลอัชราฟ และตอนนี้หลานชายเขาก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล ดูแลกิจการบริษัทสัมปทานน้ำมันแทนพ่อ ช่วยให้ตระกูลเขายิ่งใหญ่ เมื่อหลานชายหลีกทางให้ทุกเรื่อง ตามคำสั่งฟอเซย์...น้องสาวเขา

“ทำหน้าสงสัยมากจริงๆ วันนี้ฉันจะแก้แค้นให้คนสามคน อาเหม็ด อัชราฟ ดวงแก้ว วรรณมณีศิลป์ และเซอิดะห์ อัชราฟ ขอจงมอบชีวิตให้โดยไม่โกรธแค้นกันเถอะนะ” เธอใช้มีดประจำตระกูลที่หามาได้ จ้วงแทงไปหลายแผลประหนึ่งกำลังแทงบนเบาะนวม ไม่สนใจเสียงร้องเครือของอีกฝ่าย

จากนั้นก็หันไปกดอัดถ่ายภาพ ส่งสารไปยังตระกูลมาห์นาซ ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวาย

“ซาลาม” เธอพูดทักทายทุกคน และรู้ดีว่าภาพจะถ่ายทอดช้ากว่าที่เป็นอยู่หนึ่งชั่วโมง และเมื่อถึงตอนนั้นอาลีต้องตายไปแล้ว เมื่อเธอไม่ต้องการให้ใครมาช่วยอาลีได้ทัน

ภาพถ่ายทอดเพื่อประกาศการแก้แค้นของตระกูลอัชราฟ เพราะรู้ว่าตระกูลมาห์นาซวางแผนสังหารอาเหม็ดผู้นำตระกูลคนก่อน ในห้องทำงานของอาลี เสร็จแล้วเธอก็เชือดคออาลีแล้วกระโดดลงจากตึกชั้นสูงสุด

อัสซิมมองภาพแล้วถอนหายใจยาว รู้สึกโล่งอกมากกว่า เพราะถ้าพ่อเขาตาย เขาก็ได้ขึ้นเป็นใหญ่ในตระกูล เขาไม่แคร์ ติดแต่ใครในตระกูลอัชราฟที่ต้องการแก้แค้นให้กับอาเหม็ดที่เขายังไม่เข้าใจ แล้วในอนาคตจะยังมีการแก้แค้นอีกไหม เขาก็สุดจะรู้ แต่สองตระกูลนี้เป็นศัตรูกันมานาน ย่อมต้องกระทบกระทั่งกันต่อไป

ตระกูลอัชราฟและตระกูลมาห์นาซต่างก็เป็นชาวเปอร์เซียที่สืบเชื้อสายราชวงศ์เหมือนกัน แต่เป็นศัตรูกันมานาน เมื่อย้ายมาตั้งรกรากที่ซาอุดีอาระเบีย ก็นำแค้นเก่ามาด้วย ทำให้สู้รบกันเองมานาน แค้นเก่าใหม่จึงสะสมยากจบลงได้ ทั้งที่อยู่เมืองห่างกันเพียงมีทะเลทรายขวางกั้นเท่านั้น

ต่างสร้างอำนาจขึ้นใหม่ด้วยการหาทางแต่งงานกับลูกสาวหัวหน้าเผ่า กำจัดผู้สืบทอดจนได้กลายเป็นหัวหน้าเผ่าแทน สะสมสมบัติไว้มากเสียจนไม่รู้จะใช้ยังไงหมด แม้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่ก็เหมือนหลายชนเผ่าที่เอาตัวรอดมาได้

พ่อเขาวางแผนส่งน้องสาวเข้าไปแต่งงานเป็นภรรยาอันดับที่หนึ่ง ทำทีเพื่อสันติภาพ และพ่อเขาก็รับหญิงสาวจากเมืองที่ตระกูลอัชราฟดูแลมาเป็นภรรยา ซึ่งก็คือแม่เขานั่นเอง เขาจึงตกที่นั่งลำบาก เพราะตระกูลมาห์นาซเป็นตระกูลที่ชื่นชมผู้ชนะและการแข่งขัน ใครอ่อนแอต้องถูกเหยียบให้จมดิน

กว่าเขาจะขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ ต้องสังหารพี่ชายไปกี่คน ต้องสั่งฆ่าอาตัวเองอีกกี่คน จนเหลือเขาเป็นผู้สืบทอดคนเดียวแบบนี้ จากลูกของภรรยาคนที่สาม ได้ขึ้นมาระดับนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แม่เขาจะรบเร้าให้เขาแต่งงาน เขาก็ไม่คิดจะแต่งให้ใครมาเป็นตัวถ่วง เป็นจุดอ่อนให้ชีวิตเขา

เขาดูย้อนหลังขณะที่ลูกน้องไปช่วยพ่อ มองดูเจ้าของรูปร่างสมส่วน ในชุดสีดำรัดกุม ท่าทางจะรูปร่างดีไม่ใช่ย่อย แต่เขานึกไม่ออกว่าน้องสาวคนไหนของมูฮัมหมัดจะรูปร่างแบบนี้ เพราะแต่ละคนแต่งกายรัดกุม แถมยังลอบขึ้นตึกสูง หลบหนีด้วยการร่อนจากตึกสูงอีก ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปได้ง่ายๆ น้องสาวแต่ละคนของมูฮัมหมัด ไม่น่าจะทำแบบนั้นได้ เขาก็ได้มาลิ้มลองอยู่สองคน ไม่เห็นจะเก่งอย่างนี้

“ท่านอาลีตายแล้วครับ ไปไม่ทัน” ลูกน้องคนหนึ่งเข้ามารายงาน “เตรียมตัวนะครับ”

“รู้แล้ว” อัสซิมยักไหล่เล็กน้อย ประหยัดพลังงานไปเยอะ ไม่ต้องลงมือเอง

เขามองภาพเธอที่หยุดนิ่ง รู้ว่าตระกูลนี้จะสักสัญลักษณ์ตระกูลอัชราฟไว้ที่ไหนสักแห่งตั้งแต่เด็กแล้ว ถ้านี่เป็นลูกของอาเหม็ด อัชราฟ

“นายครับ เครื่องเพชรสีดำของตระกูลอัชราฟหายไป” ลูกน้องรายงานอีกรอบ

อัสซิมไม่อยากจะสนใจ แต่คงได้ตามน้ำไป เพราะไม่งั้นจะมีคนไม่พอใจเขามากขึ้น คาดว่าเขาต้องตามล่าคนที่ฆ่าพ่อเขา เพียงแต่เขาไม่คิดจะฆ่าหล่อนแต่อยากเห็นหน้าของหล่อนเท่านั้น

ผู้หญิงใจเด็ด...จะลีลาดีเหมือนพี่น้องหล่อนรึเปล่า

*******************************

ตู้เย็นเรียงรายอยู่เต็มไปหมด ขนาดมีเครื่องปรับอากาศยังว่าร้อนอยู่ แต่เธอก็ไม่ใส่ใจนัก สั่งเครื่องใช้ไฟฟ้าไปใส่คอนโดเพื่อนอยู่หลายเครื่อง

“เออ แกอยากได้อะไรอีกไหม” เจนถามเพื่อนชาวไทยของเธอ

“ได้โปรดเถอะ ท่านหญิงฮาร์ทฟอร์ด อย่ารื้ออะไรออกจากคอนโดทุกครั้งที่มาจะได้ไหม เข้าใจว่าลูกสาวท่านเอิร์ลฮาร์ทฟอร์ดรวย ช่วยกันประหยัดบ้างก็ได้” ลีลาส่ายหน้าช้าๆ เมื่อเพื่อนสาวจากสังคมชั้นสูงเลือกของแต่งบ้านใหม่ทุกครั้งที่มา

“จะเอาอะไรไหม” เจนไม่พูดมาก เบื่อจะฟังเพื่อนเตือนเรื่องใช้เงิน

“อยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเถอะ” ลีลาตัดปัญหาในตอนท้าย ขืนพูดมากเดี๋ยวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

เจนจึงบอกลาเพื่อนแล้วเลือกอีก “โฮเวิร์ดเอานี่กับนี่ เดี๋ยวไปเลือกเฟอร์นิเจอร์ใหม่”

เจนสั่งคนสนิทที่ติดตามมาแล้วก็เดินเล่นไปในห้าง เห็นของใช้ใหม่ ถ้าชอบก็เลือก

ท่านหญิงแห่งฮาร์ทฟอร์ดหรือเจน ซีมัวร์...เป็นชื่อที่ใครๆ เรียกเธอในเวลานี้ พ่อเธอคือท่านเอิร์ลแห่งฮาร์ทฟอร์ด เจ้าของโรงแรมห้าดาวบนเกาะเล็กๆ ของอังกฤษ ตัวเธอเองมีไร่องุ่นอยู่ที่ฝรั่งเศส ผลิตไวน์ขาวและไวน์แดงพอมีชื่ออยู่บ้าง

ดวงหน้าสวยเข้ม นัยน์ตาคม จมูกโด่งเป็นสันดังภาพวาดสาวอาหรับ มากกว่าจะเป็นสุภาพสตรีสูงศักดิ์ของอังกฤษ ทว่าประวัติเธอมีมารดาเป็นหญิงสาวชาวเปอร์เซียที่พบรักกับพ่อ ขณะที่พ่อเธอเดินทางไปเจรจาธุรกิจที่ซาอุดีอาระเบีย

เขานำพาเธอออกจากครอบครัวแล้วพามายังประเทศอังกฤษ นำพาเธอเข้าสู่ศาสนาคริสต์แล้วมีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน เหตุที่ทราบว่ามารดาเป็นคนเปอร์เซีย เพราะมารดาได้บอกพ่อไว้ก่อน เป็นคนที่หลบหนีมาจากอิหร่านนั่นเอง และความรักชักพาทำให้เธอยอมสละทุกอย่างแล้วตามเขามาอยู่อังกฤษ ด้วยเส้นสายที่มีทำให้ไม่มีใครกล้าว่าอะไร

เจนมองดูเฟอร์นิเจอร์ไปตกแต่งคอนโดเพื่อนทุกครั้งที่มา และเพื่อนต้องขนของเก่าออกไปที่บ้านเสมอ เธอเจอเพื่อนสาวชาวไทยที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่อังกฤษและสนิทสนมกันมานาน เพื่อนเธอมีเชื้อสายทางเจ้าของไทย มียศหม่อมหลวง แต่ดูเหมือนจะเป็นคนสมัยใหม่จนไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

อำนาจในการจับจ่ายของเจนมาจากธุรกิจแทบทั้งสิ้น เธอไม่เคยแตะต้องเงินทองของบิดามานานแล้ว ตั้งแต่บิดาให้เงินก้อนแรกในการทำธุรกิจ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เธอหันไปรับสายแล้วพูดกับปลายสายเป็นภาษาฝรั่งเศส ก่อนจะหันมาเห็นหนุ่มอาหรับที่เกือบจะชนเธอเข้าให้ ด้านหลังเขามีผู้ติดตามอยู่สองคน ขณะที่เธอมีเพียงคนเดียว

“ขอโทษค่ะ” เธอพูดขอโทษเป็นภาษาสากล แล้วก็คุยกับปลายสายก่อน แต่โดนกระชากแขนเอาไว้

“จำผมไม่ได้เหรอ” อัสซิมถามเธอที่มองเขาอย่างประหลาดใจ

“ขอประทานโทษนะครับ กรุณาปล่อยมือจากท่านหญิงฮาร์ทฟอร์ดด้วย” โฮเวิร์ดขออย่างสุภาพ แต่สายตาเขาดุดัน

เจนมองมือเขาแล้วขมวดคิ้ว ก่อนตัดบทปลายสายแล้วยืนตัวตรงพร้อมสะบัดแขน พูดกับอีกฝ่ายอย่างทะนงตน “ฉันจำคุณไม่ได้ และไม่คิดว่าสมควรต้องจำ หรือฉันควรจะรู้จักคุณ”

“ผม อัสซิม มาห์นาซ” อัสซิมแนะนำตัว ตอนนี้เขาสวมสูทและยังคงสวมผ้าคลุมศีรษะตามแบบชนชั้นสูงอยู่ เขามองเธออย่างพิจารณา เห็นสีหน้าท่าทางของเธอแล้ว กลับต้องทบทวนข้อมูลใหม่

“ขอตัวก่อนนะคะ” เจนพูดอย่างสุภาพแล้วเดินไปอีกทาง

อัสซิมเดินตามเธอแล้วจับข้อมือเธออีกครั้ง “ผมยังพูดกับคุณไม่จบ”

เจนสะบัดข้อมือแรงๆ แต่ยากจะหลุดได้ จึงพยายามข่มใจพูดกับเขา “ไม่ทราบคุณมีธุระอะไรกับฉันอีก ฉันไม่รู้จักคุณ และไม่นิยมผู้ชายอย่างคุณด้วย ปล่อยมือฉัน”

“กรุณาสุภาพกับท่านหญิงฮาร์ทฟอร์ดด้วยนะครับ” โฮเวิร์ดยังคงพยายามเตือนอย่างสุภาพ

อัสซิมจึงปล่อยมือเธอ จ้องมองเธอที่มองหน้าเขาเหมือนคนไม่รู้จัก และเธอไม่พอใจมากที่เขาทำแบบนั้น จึงพูดขอโทษ “ขออภัยถ้าผมแสดงกิริยาไม่สุภาพกับคุณ แต่คุณหน้าตาเหมือนคนที่ผมรู้จักมาก”

“เอาเถอะ ถ้าเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ฉันก็ยกโทษให้ กลับกันเถอะ โฮเวิร์ด เอมม่าคงรอแย่แล้วล่ะ” เจนกวักมือเรียกโฮเวิร์ดแล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

อัสซิมมองหล่อนเดินจากไป เป็นไปได้ยังไง เมื่อเขาตรวจสอบหลักฐานจนมั่นใจแล้วว่าต้องเป็นเธอ แค่สงสัยว่าทำไมเธอต้องแก้แค้นให้กับอาเหม็ด อัชราฟ หรือแม่ของเธอเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลอัชราฟ

เขาหาความเชื่อมโยงไม่ได้ แต่รู้ว่าทุกครั้งที่มีการแสดงเครื่องเพชรประจำตระกูลเก่าแก่ของตระกูลอัชราฟ เธอจะต้องไปดูเสมอ เขารู้มาว่าเธอชอบอัญมณีสีดำเป็นพิเศษ และมันต้องหายไปทุกครั้ง หลังเธอออกนอกประเทศแล้ว มันย่อมไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าเธอย้อนกลับมาทางไหนแน่

เขาอยากพิสูจน์เพราะตอนนี้ที่ประเทศไทยกำลังมีงานอัญมณีขึ้น และมีเครื่องเพชรของตระกูลอัชราฟชิ้นที่สิบเจ็ดออกแสดงด้วย คิดแล้วก็รู้สึกสมเพช เพราะลูกพี่ลูกน้องเขาบริหารงานไม่เป็น จนต้องขายสมบัติของตระกูลออกทีละชิ้น และชิ้นนี้ก็ไม่ได้ขอมาแสดงจากน้องชายเขา แต่เจ้าของใหม่นำมาจัดแสดงต่างหาก

แน่นอนว่างานเลี้ยงคืนพรุ่งนี้ ท่านหญิงเจน ซีมัวร์ แห่งฮาร์ทฟอร์ดต้องมาร่วมงานด้วยแน่นอน

*******************************

งานราตรีแห่งนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงเครื่องเพชรและหาเงินทุนเพื่อการกุศลสำหรับชาวต่างชาติ เป็นงานส่วนตัวที่ชาวต่างชาติร่ำรวยหาโอกาสพักจากความวุ่นวายและมาท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย

ชุดราตรีผ้าซาตินสีดำแนบชิดไปกับเรือนร่างได้สัดส่วน เครื่องเพชรสีขาวสะท้อนแสงเล่นไฟ ใบหน้าสวยคมโดดเด่นที่สุดในงาน เธอเดินอย่างสง่างาม โดยมีผู้ติดตามอยู่ด้านหลังสองคน ถือกระเป๋าประดับเพชรน้ำดี แล้วเดินไปหาเพื่อนที่ตอนนี้ยืนอยู่กับแม่ของเธอ

“สวัสดีค่ะ” เจนเข้าไปทักทายด้วยการแตะแก้มกับแม่เพื่อน ก่อนหันมาทางเพื่อน “ขอโทษที่ส่งของไปให้ที่บ้านอย่างนั้น รับรองว่าคราวหน้าจะไม่ซื้ออะไรอีก”

“ขอให้มันจริงเถอะ ฉันไม่รู้จะเอาเฟอร์นิเจอร์ที่แกซื้อทิ้งซื้อขว้างไปไว้ที่ไหนแล้วนะ” ลีลา หรือหม่อมหลวงรัตนวดีบ่นเพื่อนรักที่มาเที่ยวประเทศไทยทุกปี และต้องโละเฟอร์นิเจอร์ทุกปี

“ของมันใช้ได้อยู่ แจกไปสิ” เจนพูดแล้วควงแขนเพื่อนไปหาที่นั่ง “ไปหาที่นั่งคุยกันดีกว่า ขอตัวนะคะ”

โต๊ะที่เจนพาเพื่อนไปนั่งมีนักธุรกิจชาวอังกฤษนั่งอยู่เพียบ แล้วเธอก็ชวนเพื่อนคุยไปเรื่อยๆ

“ชุดเธอสวยนะ ถึงจะสีดำก็เถอะ” ลีลาสวมชุดสีบานเย็นสวยไม่แพ้เพื่อน แต่ดูก็รู้ว่าเพื่อนสวยเพราะหน้าตาและรูปร่าง

“ฉันเอามาด้วยน่ะ แหม ต้องออกงานใหญ่อย่างนี้ไม่เอามาไม่ได้หรอก ไม่อยากมาซื้อที่นี่” เจนพูดแล้วก็สั่งไวน์ดื่ม

“แกมาถึงก็มารื้อเฟอร์นิเจอร์กับเครื่องใช้ไฟฟ้าออกหมด แล้วยังจะบอกว่าไม่อยากซื้ออีกเหรอ” ลีลาออกจะแปลกใจเพื่อนแสนร่ำรวยของเธอนัก

“เสื้อผ้าดีๆ ต้องพกมาเอง จะมาหาเอาข้างหน้าไม่ได้หรอกนะ” เธอตอบชัดเจน ก่อนถาม “ว่าแต่มีอะไรเหรอ ถึงไม่อยากคุยสาย”

ลีลากวักมือเรียกน้องชาย “นี่หม่อมหลวงธีรพงษ์ น้องชายฉัน เขาอยากให้ฉันแนะนำให้เธอรู้จักอย่างเป็นทางการ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ธีรพงษ์จับมือเธอแล้วจับแล้วจูบอย่างสุภาพบนแหวน

“ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งค่ะ สงสัยคุณจะจำไม่ได้แล้วล่ะมั้ง ว่าเราเคยเจอกันที่หอพักของลีลา” เจนถามแล้วอมยิ้มกับเพื่อน ก่อนถามเพื่อน “เธอไม่ได้บอกเขาเหรอ”

“ไม่ ฉันอยากเห็นหน้าเขาแปลกใจ” ลีลายิ้มเจ้าเล่ห์กับเพื่อน

“อะไรเหรอครับพี่” ธีรพงษ์เป็นงง เมื่อเพื่อนพี่สาวผู้สูงศักดิ์พูดในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจ

“นายอาจจะจำไม่ได้ แต่นี่ก็คือเพื่อนที่ชอบอ่านหนังสือของฉัน คนที่เฉิ่มๆ นั่นแหละ ใส่เสื้อกีฬาหลวมๆ กางเกงนอนตัวใหญ่ๆ ไง” ลีลาพยายามทวนความจำให้น้องชาย

“ตลกน่า” ธีรพงษ์พูดเป็นภาษาไทยกับพี่สาว

“ไม่เชื่อเหรอ เชื่อเถอะ ภายใต้แว่นตา ผมกระเซอะกระเซิง เนี่ยแหละ เห็นแบบนี้นะ ไม่เคยอ้วน สิวสักเม็ดก็แทบจะไม่เคย อ๋อ แล้วก็อย่าไปนินทาเขานะ เขาฟังภาษาไทยออกจ๊ะ เห็นไหม เพื่อนรักพี่น่ะ รักพี่มาก ถึงกับยอมเรียนภาษาไทยเลยเชียว” ลีลาหัวเราะน้องชายที่ทำหน้าเหวอเป็นงง

“สมัยเรียนฉันไม่อยากให้เป็นที่สังเกตน่ะ อีกอย่างท่านพ่อของฉันก็ชอบความสงบ ไม่ออกงานตั้งแต่เกิดเรื่องกับคุณแม่ฉัน ฉันจึงต้องตั้งใจเรียนให้จบโดยเร็วแล้วกลับบ้านน่ะ ไม่มีเวลามาแต่งเนื้อแต่งตัวหรอก อีกอย่างฉันไม่นิยมคนอายุน้อยกว่า เสียใจด้วยนะจ๊ะ” เจนตบหลังมือของน้องชายเพื่อนแล้วก็ดื่มไวน์แก้วที่สอง

ลีลามองน้องชายที่เดินจากไปอย่างงุนงง แล้วหันมาถามเพื่อน “เธอจะบริจาคไหม”

“ฉันเตรียมเช็คมาแล้ว” เจนยื่นเช็คหนึ่งล้านบาทให้

“ขอบใจ แล้วนี่จะอยู่เมืองไทยนานเลยเหรอ” ลีลาไม่เคยเห็นเพื่อนอยู่เมืองไทยนานเกินสองอาทิตย์สักที

“คิดว่าน่าจะอยู่นานกว่าที่คาดไว้ เพื่อน ก็เรื่องกิจการผ้าไหมที่ฉันไปลงทุนอยู่” เจนอธิบายความแล้วถอนหายใจ สักพักมีคนมากระแอมข้างๆ เธอหันไปพยักหน้า แล้วโฮเวิร์ดยื่นกระดาษให้เจ้านาย

เจนหันไปมองนักธุรกิจหนุ่มสวมสูทและผ้าคลุมศีรษะ แต่ก็จำได้แม่น เพราะเขากวนอารมณ์เธออยู่ไม่น้อย

“เธอรู้จักเขาด้วยเหรอ” ลีลาถามเพื่อน เพราะหนุ่มคนนั้นหน้าตาหล่อเหลาคมคายสมชายชาตรี จึงเป็นที่สนใจของผู้หญิง

“รู้จักเมื่อวาน ตอนไปซื้อของนั่นแหละ” เจนอธิบายความ แล้วส่ายหน้าช้าๆ โบกมือไล่โฮเวิร์ด

“เขาหล่อนะ เธอ ไม่สนใจเหรอ ฉันรู้ว่าเธอรักเจมส์มาก แต่เขาไปดีแล้ว เธอก็น่าจะเปิดโอกาสให้คนอื่นบ้างนะ” ลีลาเตือนสติเพื่อน

“ฉันจะเปิดโอกาสก็ต่อเมื่อ ฉันรู้สึกดีกับคนคนนั้น แต่กับผู้ชายอาหรับ ฉันคิดว่าคงไม่ อย่าลืมสิว่าคุณแม่ฉันต้องผ่านอะไรมา กว่าจะมาเจอคุณพ่อ และสุดท้ายก็ต้องมาตายด้วยฝีมือผู้ชายอาหรับอีก เรื่องนี้ฉันไม่มีทางลืมแน่นอน และฉันก็ไม่อยากเป็นภรรยาหมายเลขหนึ่ง สอง สาม หรือสี่ หรือเป็นสมบัติในครอบครองของผู้ชาย” เจนแสดงความเห็นชัดเจน

ลีลามองกระดาษในมือเพื่อนเป็นภาษาอาหรับก็งุนงง “เธออ่านภาษายึกยือนี่ออกด้วยเหรอ”

“ไม่หรอก ฉันจะอ่านออกได้ยังไง คุณแม่ฉันไม่เคยสอน ถ้าท่านยังอยู่ ท่านคงสอน” เจนพูดแล้วลูบปากแก้วไวน์อย่างหงอยเหงา

ลีลาโอบไหล่เพื่อนปลอบ “อย่าคิดมาก แม่เธอไปสบายแล้ว เอาล่ะ ฉันขอตัวไปคุยกับญาติฉันก่อนนะ”

เจนเรียกไวน์เพิ่ม ก่อนเปลี่ยนเป็นบรั่นดีแทน จากนั้นก็คุยกับคนจากสถานทูตอังกฤษ ทักทายตามธรรมดา แล้วเขาก็เดินเข้ามาจับมือเธอ แล้วจูบอย่างสุภาพ

“เชิญคุณไปนั่งเป็นเพื่อนผมสักครู่นะครับ” อัสซิมเปลี่ยนท่าทีผยองเป็นสุภาพกับเธอมากขึ้น

เจนเชิดหน้าขึ้นแล้วลุกขึ้นเดินตามเขาไปอย่างไม่ขัดขืน เพราะครั้งนี้เขาแสดงท่าทีให้เกียรติเธอ เธอจึงให้เกียรติเขา โดยโบกมือไม่ให้โฮเวิร์ดกังวล

ท่าทางการเดินของเธอสง่าผ่าเผย ไม่เพียงแต่ดวงหน้าสวยคม เธอยังมีบุคลิกที่สูงสง่า กิริยาท่าทีดูเป็นกุลสตรีชั้นสูง เมื่อไปถึงโต๊ะที่นั่งด้วยกัน เขาก็เลื่อนเก้าอี้ให้เธออย่างให้เกียรติ

“ทำไมผมเชิญคุณครั้งแรก คุณถึงไม่มาล่ะครับ” อัสซิมถามขึ้น สั่งคนยกเครื่องดื่มมาให้

“ภาษาอะไรฉันอ่านไม่ออก แล้วจะรู้เหรอคะ ว่าคุณเชิญ” เจนตอบไปเช่นนั้น ปล่อยให้เขาจับมือเธออยู่ตลอดเวลาโดยไม่ดึงมือกลับ

“ผมนึกว่าคุณอ่านออก เพราะแม่คุณเป็นชาวเปอร์เซีย” อัสซิมสืบประวัติจนรู้เรื่องของเธอมากอยู่

“ถ้าคุณรู้ว่าคุณแม่ฉันเป็นชาวเปอร์เซีย คุณก็ควรจะรู้ว่าแม่ของฉันเสียไปก่อนที่ท่านจะมีโอกาสสอนฉัน” เจนอธิบายความ ก่อนถามเขา “ว่าแต่คุณมีอะไรเหรอคะ จึงเชิญฉันมา”

“อยากทำความรู้จักคุณให้มากกว่านี้” อัสซิมวางมือบนมือเธอ ดวงตาเฉียบคมกำลังมองเธออยู่

ดวงหน้าสวยคมของเธอดูงามอย่างเปอร์เซีย มากกว่าสุภาพสตรีอังกฤษ หากใครๆ ก็เคยเห็นภาพเธอตอนเด็ก เธอไปทางเปอร์เซียเหมือนแม่เธออยู่มาก แม้แต่ผิวพรรณก็ไปทางแม่เธอ ทำให้เธอน่าหลงใหล มีกลิ่นไอที่แสนลึกลับอย่างชาวเปอร์เซีย

เจนเพียงยิ้มแล้วดื่มเครื่องดื่มของเธอ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเขาเชยคางเธอแล้วเข้ามาจูบเธอแบบกะทันหัน เธอจึงปัดแก้วเครื่องดื่มใส่เขา แล้วถอยเมื่อเขาหยุดจูบ

“นี่คุณทำบ้าอะไร” เจนโกรธจัดแล้วลุกขึ้นทันที ทีนี้สะบัดมือจนหลุดแล้วเดินหนีทันที

“ผมขอโทษ ก็ผมนึกว่าคุณชอบผม” อัสซิมพูดขณะเดินตามเธอออกไปข้างนอก

“ชอบคุณเหรอ มีผู้ชายที่หน้าตาดีกว่าคุณอีกหลายคน เข้ามาพูดจาอ้อล่อฉัน ฉันยังไม่สนเลย แล้วคิดว่าคุณเป็นใคร ทำไมฉันต้องสนด้วย เอาล่ะ หลีกทาง ฉันจะกลับ” เจนพูดแล้วกวักมือให้โฮเวิร์ดไปเอารถ แล้วก็เรียกเอมม่ามายืนใกล้ๆ ขวางไม่ให้อัสซิมเข้าใกล้มากกว่านี้

“ผมเสียใจ ผมชอบคุณมากเกินไป” อัสซิมพยายามเข้าใกล้เธอให้ได้อีกครั้ง แต่เขาก็รู้ว่าเธอหัวเสียเกินกว่าจะยอมให้เขาทำอย่างนั้น เขาจึงทำได้เพียงมองเธอเดินจากไป

ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปเมื่อเธอไปแล้ว สายตาคมกริบมองเจ้าหล่อนแล้ววิเคราะห์อยู่อย่างเงียบๆ ตระกูลเขากำลังตามล่าผิดทาง ขณะทีเขามั่นใจว่าเขาตามล่าถูกทาง ท่าทางเขาจะต้องอยู่ประเทศนี้อีกพักใหญ่

“มีใครดูอยู่ไหมว่า เครื่องเพชรตระกูลอัชราฟยังอยู่ไหม” อัสวิมหันไปถามลูกน้อง

“ยังไม่เริ่มการแสดง แล้วเท่าที่รู้ยังอยู่” คาลิมรายงานเจ้านาย และเขาก็ยังให้ลุกน้องคอยสังเกตการอยู่

“รอดูต่อไป มันจะต้องหายแน่ เหมือนทุกชิ้นที่ถูกนำออกมาแสดงนั่นแหละ” อัสซิมกลับเข้าไปในงานต่อ ก่อนจะสั่งความขึ้น “กลับไปคิดว่าต้องใช้อะไรถึงจะทำให้ท่านหญิงเจนสนใจได้อีกนะ”

คาลิมรับคำ แล้วเดินตามเจ้านายไป ก่อนถาม “ลองเป็นเครื่องเพชรประจำตระกูลอัชราฟดูไหมครับ เผื่อเธอจะสนใจ”

อัสซิมหันไปมองคาลิม ก่อนพยักหน้า “ช่วงที่รอของมา หาดอกไม้กับช็อคโกแล็ตส่งไปให้ก่อนแล้วกัน”

คาลิมรับคำ เขากับพวกตามเจ้านายมาเป็นการส่วนตัว

อัสซิมเผลอสัมผัสที่ริมฝีปาก ลูบเบาๆ แล้วนึกถึงสุภาพสตรีสูงศักดิ์ ท่าทางเจ้าหล่อนจะชอบจูบของเขาอยู่ไม่น้อย หากพอได้สติถึงผละจากเขา อาจด้วยฤทธิ์น้ำเมาด้วย แต่ก็บอกได้ว่าเขามีโอกาสค้นตัวเธอแน่นอน

เมื่อนางแบบแสดงเครื่องเพชรประจำตระกูลอัชราฟเดินออกมา เพชรสีขาวสว่างไสวประดับด้วยมุกสีดำล้ำค่าหลายเม็ดมูลค่าหาไม่ได้แล้วถูกนำออกมาแสดงโชว์ เมื่อนางแบบเดินกลับเข้าไปก็ต้องเตรียมตัวออกมาเดินกับแขก โดยมีเจ้าของเดินมาด้วย เพชรยังคงอยู่ที่คองามระหงส์

คนของอัสซิมยังคงคุมเชิงอยู่ เครื่องเพชรถูกขนย้ายไปแล้วก็แยกย้ายกลับที่พัก เขาเข้านอนเพียงลำพัง เพราะเขาไม่ไว้ใจให้ใครนอนข้างๆ มานานแล้ว แม้แต่น้องสาวของลูกพี่ลูกน้องเขา เมื่อเสร็จกิจ เขาให้คนของเขาพาออกไปจากห้องทันที

การจะขึ้นสูงจุดสูงสุดของตระกูล ต้องแลกมาด้วยหลายอย่าง เขาสร้างศัตรูไว้มาก ดังนั้นเขาจึงต้องไว้ใจเพียงตนเองเท่านั้น

*******************************

นัยน์ตาคมมองช่อดอกไม้ที่เขาส่งมาทุกวันแล้วก็ยักไหล่ ห้องเธอตอนนี้เต็มไปด้วยช่อดอกไม้นานาชนิดที่เขาขยันส่งมา เอมม่าช่วยจัดวางให้ และเธอก็ไม่สนใจเท่าไรนัก

“คุณเตรียมตัวกลับได้แล้วเอมม่า” เจนสั่งคนสนิทที่ไว้ใจได้

“ค่ะ ท่านหญิง” เอมม่ารับคำแล้วเตรียมสัมภาระง่ายๆ พร้อมกับสัมภาระพิเศษที่เจ้านายต้องการให้นำไปเก็บไว้

“แล้วนำเครื่องกลับมารับฉันกลับด้วย ฉันขอจัดการกับธุระให้เสร็จก่อน” เจนสั่งเป้นครั้งสุดท้าย และเอมม่าก็แสดงความเคารพเธอก่อนกลับ

โฮเวิร์ดต้องเป็นคนไปส่งเอมม่า เขาจึงหันมามองเจ้านายอีกครั้ง เห็นเจ้านายโบกมือให้ไปเร็วๆ ขณะดื่มกาแฟและทานอาหารเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมทั้งเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจัดการงานของเธอ

สักพักก็มีคนมากดออดหน้าห้อง เธอเดินไปดูแล้วเห็นเป็นคนส่งดอกไม้ก็เปิดประตู เซ็นชื่อแล้วปล่อยออกไป สักพักก็มีคนมากดออดอีก แต่เธอไม่เปิดประตูรับ

“ไม่ทราบมากดออดทำไม” เธอถามคนที่อยู่ข้างนอก

“ผมมีการ์ดเชิญจากเจ้านายของผม” คาลิมยื่นที่ช่องมองประตู

“สอดใต้ประตู” เจนบอก เมื่อเขาสอดมาแล้วเธอก็บอกลาแล้วเอามาอ่าน

‘เชิญทานมื้อค่ำที่ห้องสวีตของผมนะครับ, อัสซิม มาห์นาซ’

ฝันไปเถอะ...

เจนฉีกจดหมายเชิญทิ้งลงขยะ แล้วก็เปลี่ยนชุดเพื่อลงไปว่ายน้ำด้านล่าง แล้วก็เจอคาลิมยืนรออยู่หน้าห้อง

“มีอะไรอีกล่ะ” เจนถาม เพราะตอนนี้มีอีกสองคนเดินเข้ามา เธอโบกมือห้าม แล้วมองคนส่งสารอีกครั้ง “ว่ายังไง”

“ขอคำตอบของบัตรเชิญครับ” คาลิมบอกสิ่งที่ต้องการ

“ไม่” เจนตอบแล้วเดินไปที่ลิฟต์ เพื่อว่ายน้ำ เธอสวมผ้าคลุมไว้ และเมื่อคาลิมจะเดินตามมา คนของเธออีกสองคนก็ห้ามไว้ “ไปบอกเจ้านายคุณว่า ไม่”

คนทั้งสองเข้าไปในลิฟต์กับเธอ แล้วลิฟต์ก็ปิด คาลิมได้แต่ถอนหายใจแล้วรอลิฟต์ตัวต่อไป เขากลับไปขึ้นรถแล้วโทรรายงานเจ้านาย

อัสซิมกลับยิ้มเยาะ ก่อนจะบอก “กลับมาก่อน พรุ่งนี้ค่อยส่งการ์ดไปใหม่”

หล่อนก็ร้ายใช่เล่น หากไม่ใช่เพราะตอนนี้เครื่องเพชรประจำตระกูลอัชราฟหายไป และเขาเชื่อว่ามันคงไม่อยู่ที่เธอแล้ว อาจจะออกนอกประเทศไปแล้วก็ได้...ใครจะรู้

*******************************

อีกวันเขาเอาภาพมีดสั้นประจำตระกูลอัชราฟใส่ซองไปด้วย เจนมองแล้วก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะให้คำตอบเดิมคือไม่ แล้วทิ้งจดหมายลงในถังขยะ

“เจ้านายผมต้องการมอบของขวัญนี้ให้คุณนะครับ” คาลิมพูดขึ้น

“ทำไมฉันต้องการมีดสั้นด้วย ในเมื่อฉันมีมันอยู่เยอะแล้ว พ่อฉันคือใคร เจ้านายคุณจะไม่รู้เชียวเหรอ ฉันไม่ต้องการเครื่องเพชรของพวกคุณหรอกนะ บอกให้เจ้านายคุณหยุดส่งของมาให้ฉันสักที” เจนบอกชัดแล้วให้คนพาคาลิมออกไป

เธอสวมชุดว่ายน้ำอีกครั้ง แล้วลงไปว่ายน้ำตามเดิม เธอว่ายน้ำอยู่ระยะหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นจากน้ำก็เห็นเขายืนอยู่ริมสระน้ำ เธอจึงหยุดแล้วม้วนตัวกลับว่ายไปอีกทาง จนคนของเธอต้องหยุดเขา

“แค่ต้องการพูดกับคุณ” อัสซิมพูดกับเธอ ขณะที่เธอขึ้นจากน้ำ โดยที่คนของเธอไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ โฮเวิร์ดสวมเสื้อคลุมให้เธอ แล้วหยุดมอง

“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ” เจนสวมเสื้อคลุมแล้วรับเครื่องดื่มมาดื่ม

“ผมขอโทษที่เข้าใจผิด ให้ผมพาคุณไปทานมื้อค่ำสักมื้อ เพื่อเป็นการขอโทษจะได้ไหม” อัสซิมถามอย่างใจเย็น

“ขอโทษงั้นเหรอ คุณเชิญฉันไปทานอาหารในห้องพักคุณ นั่นเหรอ วิธีการให้เกียรติผู้หญิงของคุณ” เจนถามแล้วส่ายหน้าช้าๆ เมื่อคนของเธออีกสองคนจะเข้ามา

“ผมขอโทษที่คิดน้อยไปหน่อย ผมแค่ชอบความเป็นส่วนตัว เอาล่ะ ถ้าคุณต้องการ ผมขอโอกาสแก้ตัวอีกสักครั้ง เราไปทานอาหารที่ห้องอาหารที่ดีที่สุดของกรุงเทพก็ได้” อัสซิมยื่นข้อเสนอใหม่

เจนมองหน้าเขาอีกครั้ง ท่าทางเขาจะไม่เบื่อที่จะตื้อเธอจนกว่าจะได้ในสิ่งที่ต้องการ “ตกลง เมื่อไรล่ะ”

“ผมจะโทรไปจองก่อน ได้เมื่อไรผมจะโทรมาบอก” อัสซิมมองเสื้อคลุมที่เริ่มเปียกและผ้าก็แนบเรือนร่างเธอ

ช่วงขาเธอไม่มีรอยสัก ยังมีพื้นที่ที่เขาต้องสำรวจอีกมากนัก เพียงแต่เขาต้องใช่เย็นกว่านี้ เขาจึงบอกลาเธอแล้วกลับ

งานบางอย่างเขาต้องลงมือทำเอง โดยเฉพาะกับสาวชาวลูกครึ่งอังกฤษเปอร์เซียอย่างเธอ

หล่อนน่าสนใจ...

*******************************

ชุดราตรีสีแดงเพลิงกับรองเท้าเข้ากับสีชุด ด้านหลังเปิดกว้างเผยผิวเนียนสวยถึงเอว มีสร้อยเพชรแกว่งไปมาอยู่ด้านหลังตามจังหวะการเดินของเธอ เธอเดินเข้ามาในห้องอาหารอย่างสง่างาม โดยไม่สนใจแขกคนอื่นในห้องอาหาร มีหลายคนมองเธอเดินเข้ามาแล้วไม่อาจถอนสายตากลับคืนได้โดยเร็ว

เจนเดินมาหยุดที่โต๊ะ ซึ่งเขานั่งรออยู่แล้ว กัปตันห้องอาหารดึงเก้าอี้ให้เธอ เธอนั่งลงแล้วยื่นมือให้เขา อัสซิมรู้มารยาท เขาจับแล้วจุมพิตเบาๆ ได้กลิ่นหอมจากผิวนวลของเธอ

“คุณสวยมาก และสง่างามกว่าใคร” เขาเอ่ยปากชมเธอทันที รอยยิ้มของเขาดูจริงใจแต่เจนไม่ได้สนใจนัก เขาขยับมานั่งข้างๆ เธอ อยากรู้ว่าหล่อนจะเย็นชาจืดชืดเหมือนท่าทีนี้หรือเปล่า

“ขอบคุณค่ะ” เจนตอบก่อนกวักมือเรียกเมนูไวน์ทันที

ระหว่างรอการประชุมที่แสนน่าเบื่อ เธอก็ไม่ได้ไปไหน ขลุกอยู่แต่ในห้องพัก เพราะเที่ยวมาหมดแล้ว แทบไม่เหลือที่เที่ยวอีก เมื่อถึงเวลากลางคืน เธอก็ดื่มบ้างตามนิสัย อีกทั้งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ เธอย่อมเพลิดเพลินกับไวน์รสเลิศได้

เธอสั่งไวน์ชั้นดี แม้ไวน์ของเธอจะไม่มีวางขายที่นี่ก็ไม่กระไรนัก ขอแค่ไวน์ชั้นดีก็เพียงพอแล้ว จากนั้นเธอก็สั่งอาหารแล้วมองเขาที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอ

“มีอะไรเหรอคะ” เจนถามเขาแล้วมองหาคนสนิทที่นั่งอยู่ไม่ไกล อีกโต๊ะเป็นคนสนิทเขา และเป็นมุมที่ไม่มีคนอื่นเข้ามาวุ่นวาย

“ต้องมีอะไรด้วยเหรอ ถึงจะเชิญคุณมาทานมื้อค่ำได้” อัสซิมยิ้มแล้วปล่อยมือเธอ ก่อนวางผ้าเช็ดปากไว้ที่ตัก เขาหันไปมองเธออีก

หล่อนช่างเป็นหญิงสาวชาวอังกฤษที่งามอย่างเปอร์เซีย แต่คงไม่แปลก เพราะได้ข่าวมาว่า อาเหม็ด อัชราฟ ก็จัดเป็นหนุ่มรูปงามเสียจนพ่อเขายังอิจฉา เขานับว่าโชคดีมากที่หน้าตาไปทางแม่เกือบค่อน ไม่งั้นคงหาเสน่ห์จากตัวเองไม่ได้แน่

เจนเพียงยิ้มเท่านั้น เมื่อนึกถึงบางอย่างในอดีต เธอหยิบผ้าเช็ดปากมาวางที่ตัก ก่อนมองอาหารว่างวางที่โต๊ะ เธอก็เริ่มทานก่อน โดยไม่แตะต้องไวน์

“เมื่อไรคุณจะกลับอังกฤษ” เขาถามเมื่อเธอดูประหยัดคำพูดกับเขา

“ราวสองอาทิตย์ เมื่อฉันจัดการธุระที่นี่เสร็จ แต่คงไม่ค่อยเสร็จดีเท่าไร คนไทยทำงานช้า ขั้นตอนเยอะและไม่รอบคอบ” เจนพูดตามที่เห็นจากธุรกิจที่เธอลงทุนไปสองสามอย่างที่นี่ และยิ่งเละเข้าไปใหญ่ เมื่อเจอบริษัทล่าสุดที่เธอเข้าไปลงทุนด้วย

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมคุณถึงอยากลงทุนที่เมืองไทยล่ะ” อัสซิมถามไปตามเรื่อง เขาไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอมากกว่า

“มีธุรกิจหลายอย่างที่ฉันสนใจ และธุรกิจผ้าไหมเป็นอีกธุรกิจที่สามารถทำกำไรได้ เพียงแต่คนไทยบริหารงานไม่ดีนัก แต่สินค้าไทยก็ยังมีดีอยู่หลายอย่าง หากไม่เพราะสินค้าดี ฉันคงไม่ลงทุนหรอก” เจนอธิบายความง่ายดายและทานอาหารของเธออย่างเงียบๆ มองบรรยากาศนอกห้องอาหาร จากตึกสูง

“สินค้าอะไรที่ว่าดี” อัสซิมไม่เพียงเป็นเจ้าของบ่อน้ำมัน เขายังมีธุรกิจอีกหลายอย่างที่เขาลงทุนด้วย

“ผ้าไหม แต่เสียดายบริษัทที่ฉันลงทุนด้วยแย่มาก ท่านพ่อของฉันบอกว่าเมื่อก่อนบริษัทนี้ผลิตแต่ผ้าไหมชั้นดี พอเกิดการเปลี่ยนแปลงภายใน ผู้บริหารชุดใหม่ทำงานแย่มาก ขาดทุนติดต่อกันหลายปี เพราะผลิตสินค้าแย่ๆ ออกมา” เจนเล่าเกี่ยวกับธุรกิจล่าสุดที่เธอกำลังมองว่าจะปรับเปลี่ยนมันยังไง

“แล้วคุณคิดจะทำยังไง” อัสซิมถามแต่ไม่สนใจนัก

“ทำอย่างที่ฉันเคยทำ ฉันลงทุนอะไรแล้วต้องได้ผลกำไร ถ้ารู้ว่าส่วนไหนไม่ดี ฉันก็จัดการเท่านั้น” เจนไม่อธิบายมาก เพราะไม่จำเป็นต้องบอกเขา

เมื่อจานที่สองลงโต๊ะ เธอก็ทานและเริ่มดื่มไวน์ เมื่อหมดขวดหนึ่งก็สั่งอีกขวดหนึ่งเป็นอย่างนี้อยู่เรื่อย

*******************************

สวัสดีค่ะ
มาตามสัญญาแล้วนะคะ
เรื่องใหม่กิ๊ก อิอิ
ใครที่ติดตามเฟสบุ๊คจะรู้ว่าเรื่องนี้กำลังจะมาค่า
ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายค่ะ
https://www.facebook.com/plerngwaree



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2556, 20:54:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2556, 20:54:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 1663





   02 >>
ตุ๊งแช่ 3 ส.ค. 2556, 21:45:01 น.
จัดไปจ้า ยัง งงงงๆตัวละคร ขอไปทำก้างปลาก่อน


แยมโรล 3 ส.ค. 2556, 21:58:02 น.
รบกวนไปจิ้มให้ด้วยนะคร๊


konhin 4 ส.ค. 2556, 04:45:54 น.
พระเอกแรงมากๆค่ะ


sai 4 ส.ค. 2556, 09:40:21 น.
ตามมาอ่านแล้วค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account