สายธารรักซาตาน
อสมา อิศรานุกูล

หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้น ๆ ผู้ร่ำรวยจากฐานพ่อแม่เล็กน้อย แล้วต่อยอดมาเองจนกลายเป็นเศรษฐีหนุ่มโสดผู้ถูกคนในวงสัมคมจับตามอง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายต่อหลายคนที่หมายจะจับเขามาแนบครอง แต่เขากลับทำตัวไม่เป็นที่โดดเด่น และหนีสังคมอันน่าเบื่อไปใช้ชีวิตอยู่ในสวนเพียงลำพังอย่างเงียบสงบ เพราะได้รับบาดแผลจากครอบครัวในอดีต โดยมีผู้พ่อเป็นคนหยิบยื่นให้







ปาลิตา พฤกษาชาติ

นักศึกษาสาวที่อีกหกเดือนจะจบปริญญาแล้ว จำเป็นจะต้องก้าวเข้ามาในชีวิตอสมาอย่างไม่รู้ตัวมาก่อน เมื่อด้วงผู้เป็นแม่เลี้ยง กับนิรมลแม่แท้ ๆ ของตัวเองเอาที่สวนมาจำนองกับอสมาไว้ด้วยวงเงินสูงถึงห้าล้าน แต่ไม่มีปัญญามาไถ่ถอนเมื่อเลยเวลามามากแล้ว ด้วงที่ขี้เหล้าขี้บ่อนและเห็นแก่ตัว จึงรีบเสนอเอาลูกเลี้ยงอย่างปาลิตามาแลกกับหนี้ห้าล้านทันที นิรมลไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง อสมาเองก็ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้เช่นกัน





นันทิตา

น้องเล็กของบ้านที่อสมารักและห่วงใยเสมอมา แต่หารู้ไม่ว่าน้องเขาเองคือคนที่นำความทุกข์ใจมาให้โดยไม่รู้ตัว





เจนนิเฟอร์

ภรรยาคนแรกและคนเดียวที่อสมารักมาตลอด และรู้สึกผิดไม่มีวันจืดจางกับความผิดพลาดจากชีวิตการแต่งงานในอดีต พลาดจนเขาไม่คิดจะย้อนกลับไปมีชีวิตแบบนั้นอีก ถ้าหากคนที่จะก้าวมาเป็นภรรยาอีกไม่ใช่เจนนิเฟอร์คนนี้



แต่เมื่อเขาเห็นปาลิตาแล้วก็เกิดสงสารขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก และกลัวว่าสักวันเด็กสาวจะต้องถูกด้วงทำมิดีมิร้ายด้วยแน่ ๆ เขาจึงตกลงใจรับข้อเสนอ โดยมีเงื่อนไขเพียงแค่ให้ปาลิตาอยู่รับใช้เขาสองปี จากนั้นเขาก็จะคืนที่สวนให้ทันที ปาลิตาที่มีสิงหาเป็นคนรักอยู่แล้วเสียใจร้องไห้ฟูมฟายอย่างหนัก แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเมื่อสงสารแม่จับใจ ส่วนพ่อเลี้ยงนั้น ปาลิตาเกลียดเข้าไส้จนไม่เคยมองหน้าและไม่พูดด้วยเลย และความเกลียดชังนี้ก็ถูกเหมารวมไปถึงอสมาด้วย เพราะปาลิตา สิงหา และอริสา เพื่อนสนิทของปาลิตาและเป็นลูกของคนในสวนอสมาเอง

ต่างได้ยินกิติศัพท์ของอสมาดีว่าเพลบอยแค่ไหน เขาใช้เงินฟาดหัวผู้หญิงทุกคนที่เอาเรือนร่างมาบนเปรอเขาโดยไม่คิดจะจริงจังด้วยแม้แต่คนเดียว และถ้าใครคิดจะจับเขาด้วยวิธีปล่อยให้ท้อง เขาก็จะจัดการขั้นเด็ดขาดนั่นคือให้ไปทำแท้ง และไม่เรียกใช้งาน ไม่ให้เงินอีก ผู้หญิงของเขาทุกคนจึงเกรงกลัวในเรื่องนี้มาก

ปาลิตาก็เป็นหนึ่งในนั้นที่กลัว แต่จะมีความเกลียดในตัวเขามากกว่า แม้จะต้องมาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาตามลำพังแต่ก็จำใจมาเท่านั้น และจะหลับหูหลับตาทำหน้าที่ลูกหนี้จำนองให้เขาจนครบสองปี แล้วจะรีบหนีไปให้ไกลสุดไกลทีเดียว แต่อสมาไม่คิดจะเข้าใกล้ปาลิตาแต่อย่างใด นอกจากมอบหน้าที่ทำงานบ้านและทำอาหารให้เขาเท่านั้น ยังความงุนงงให้เธอไม่น้อย แต่นั่นเธอก็เห็นเป็นเรื่องดีที่สุด จึงทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่องควบคู่กับการไปเรียนต่อให้จบ เพราะอสมามองเห็นความสำคัญในจุดนี้ จึงอนุญาตให้เธอไปเรียนต่อและรับเป็นคนส่งเสียเอง

นั่นทำให้ปาลิตาค่อยมองเขาในแง่ดีขึ้นมาบ้าง แต่ก็ถูกลบล้างลงเรื่อย ๆ เมื่อเขาหอบผู้หญิงสวยเสด็จเข้ามาปรนเปรอในบ้านอย่างไม่เกรงใจเธอเลย แต่นั่นก็เป็นเรื่องดีอีกที่เธอจะได้ไม่ต้องมอบความสาวให้เขาเชยชม จะได้เก็บไว้ให้สิงหาคนรัก ที่ไม่รู้เรื่องราวอะไรเกี่ยวกับการย้ายเข้ามาอยู่บ้านของอสมาเลย แม้จะระแคะระคายบ้างจากคนรอบข้าง และด้วงที่จงใจจะพูดให้สิงหารู้

ปาลิตาเห็นความดีของอสมาในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะความมีน้ำใจที่เขามีให้ต่อเธอ และน้อง ๆ ต่างพ่อที่จนกรอบแทบไม่มีข้าวจะกิน เขาก็แบ่งปันเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ไม่ขาด แต่ความปลื้มปีตินี้ ก็โลดแล่นไปพร้อม ๆ กับความเกลียดชังในตัวเขา ที่โหดร้ายทารุนกับผู้หญิงของเขาหลายคนที่มาบอกข่าวเรื่องการตั้งท้อง แล้วถูกเขาไล่ออกจากบ้านอย่างไม่ไยดี แต่ท้ายที่สุดความดีของเขาก็เอาชนะความเกลียดของเธอได้ เมื่อเธอเรียนจบแล้วเขาประสงค์จะเรียกใช้งานเธอเป็นครั้งแรก เธอก็ยินยอมพร้อมใจไม่ได้ขัดขืนเหมือนที่เคยคิดไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับเขาเลย

และความรักของปาลิตาก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดอสมา และได้ไปไหนต่อไหนหรือได้ข้าวของเงินทองอย่างที่ไม่เคยได้มาก่อน อสมาเองก็ปลื้มเธอไม่น้อย เพราะเป็นคนไม่ยุ่ง ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้ขี้บ่น อยู่ใกล้ ๆ แล้วทำให้เขาสบายใจ ไม่อยากจะไปหาใครอีก ทั้งคู่ต่างแสดงความรักออกมาให้กันและกันผ่านแววตาอันหวานซึ้ง การกระทำอันอ่อนนุ่มที่หยิบยื่นให้กันไม่ว่างเว้น





ตามคำ ดุ ด่า ว่า กล่าว ตัก เตือน ของผองเพื่อนที่แสนดีจร้า

ช่วงนี้กันเกราเลยต้องออกจากป่าชั่วคราว เพื่อมามองตาดูชาวโลกบ้าง เลยถือโอกาสเอานิยายไปแปะไว้ที่เวปประจำ (แต่ไม่ค่อยได้เอานิยายไปลง) ให้อ่านกัน

และจะพยายามตามอัพให้ด่วนจี๋ ทันกับเวปอื่น ขอกำลังใจให้คนป่าด้วยนะคร้าาาาา

เหงาๆๆๆๆ ต้องการเพื่อนๆๆๆๆๆ มากดไล้ท์ มาแชร์ มาติชม ด่วนที่สุดจร้าาาาาา












Tags: พระเอกหนุ่มใหญ่ นางเอกสวยใส

ตอน: เครื่องสังเวยความใคร่ที่ใจยังไม่อยากมี

นิรมลหันไปมองผัวที่เอาแต่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากมาตั้งแต่บ่ายแก่ ๆ โดยไม่คิดจะหันมาเหลียวแลงานบ้านงานสวนช่วยเลยแม้แต่น้อย แม้ใจจะคิดถึงผัวคนแรกมากแค่ไหน แต่ตอนนี้ก็รู้ดีว่าทำอะไรไม่ได้แล้ว นอกจากทำใจให้ยอมรับเท่านั้น ก็ในเมื่อตัวเองหลวมตัวหลวมใจเข้าไปแล้ว จะมาร้องไห้ฟูมฟายหรือเอะอะมะเทิ้งจนต้องทะเลาะเบาะแว้งให้ลูกได้ยินก็จะเสียอารมณ์เสียเวลาเปล่า ๆ ปลี้ ๆ

จึงก้มหน้าก้มตาไปหางานที่จะทำเงินเข้าบ้านจะดีกว่า ส้มโอหลายร้อยลูกที่เก็บมากองเต็มบ้านเพื่อรอการคัดสำหรับพ่อค้าที่จะมารับถึงสวนคืองานในช่วงนี้ เพราะเป็นหน้าเก็บเกี่ยว ลูกชายวัยสิบกว่าขวบทั้งสามดูเหมือนจะช่วยงานได้มากทีเดียว ก็นับว่ายังไม่โชคร้ายมากเท่าไหร่ที่ได้ผัวห่วยแตก ผัวแย่ ๆ แต่ลูก ๆ กลับดีเอางานเอาการทุกคน

พลันก็อดคิดถึงลูกคนโตไม่ได้ หลายวันเต็มทีที่ไม่ได้เจอหน้ากัน มีแต่ข่าวคราวจากอ่วมกับสายหยุดเท่านั้นที่นิรมลมีโอกาสได้ถามไถ่เวลาเจอหน้ากันตอนไปตลาด รู้ดีว่าเวลานี้ลูกลำบากทั้งกายและใจ แต่ก็จนด้วยเกล้าจะช่วยอะไรได้ แถมเงินทองก็ไม่ได้ให้ลูกติดมือไว้เลย นับตั้งแต่วันที่กลับมาเก็บข้าวของไปอยู่กับเจ้าหนี้ วันนี้จึงตั้งใจเอาไว้แล้วว่าจะแอบเจียดเงินที่ได้จากการขายผลไม้ไปให้ใช้สอยหน่อย

“แม่! พี่แอ้ไปไหน ทำไมไม่กลับบ้านเลยล่ะ” อ้ำผู้เป็นลูกชายคนโตในวัยสิบสี่ปีถามถึงพี่สาวต่างพ่อ ซึ่งเขาเองก็รักไม่น้อย เพราะพี่ไม่เคยดุด่าหรือตบตีเหมือนพ่อเลย นิรมลถอนหายใจน้อย ๆ ก่อนตอบลูก

“พี่เขาไปทำงานหาเงินมาให้เราใช้ อย่ามัวถามแม่หน่อยเลยรีบ ๆ คัดของเข้าอีกหน่อยเจ้จะมาเอาแล้วเดี๋ยวไม่ทันก็อดได้เงินมาซื้อข้าวกินกันพอดี”

“เอาไปให้พ่อซื้อเหล้าเข้าบ่อนล่ะสิไม่ว่า”

อ้นลูกชายคนรองในวัยสิบสามขวบพูดรอดไรฟันออกมาด้วยความเหลืออด เพราะทุกครั้งที่ได้เงินมาก็มักจะถูกผู้พ่อแย่งไปต่อหน้าต่อตาจนแทบไม่เหลือไว้ซื้อข้าวสารกรอกหม้อด้วยซ้ำ

“ไอ้ห่าอ้น มึงว่ากูเหรอ ไอ้ลูกเนรคุณนินทาได้แม้แต่พ่อบังเกิดเกล้า เดี๋ยวแม่งถีบกระเด็นไปโน่นเลย”

กระนั้นผู้พ่อที่ยังอยู่ในอาการครึ่งหลับครึ่งตื่นครึ่งนั่งครึ่งนอนได้ยินเข้า จึงส่งเสียงด่าลูกออกมาจนลั่นบ้านอย่างไม่เกรงใจใคร มิหนำซ้ำส้มโอที่อยู่ใกล้มือก็ถูกขว้างมาใส่อย่างไม่รั้งรอ อ้นถึงกับฉุนในการกระทำของพ่อ

“พ่อทำอะไรน่ะ ไม่รู้เหรอว่านี่ของซื้อของขาย เสียหายหมดเดี๋ยวก็อดได้เงินไปกินเหล้าหรอก”

“พ่อนิสัยไม่ดี หนูไม่รักพ่อหรอกน้อพี่อ้นน้อ” อ่อนเด็กชายวัยสิบขวบที่นั่งช่วยงานแม่อยู่ก็อดว่าพ่อไม่ได้ ด้วงที่ยังอยู่ในอาการเมามายแถมกำลังได้ที่จึงลุกขึ้นเอะอะโวยวายเสียงดันลั่นบ้าน แถมเผื่อแผ่ไปถึงเพื่อนบ้านอีกต่างหาก

“ไอ้พวกลูกเวร เนรคุณกูดีนักนะพวกมึง ทำเป็นปากดีไม่มีกูแล้วพวกมึงจะรู้สึก”

“ใช่! รู้สึกสบายไงพ่อ ไม่มีคนมาคอยด่า และมาคอยแย่งเงินไปกินเหล้า” อ้ำรีบสวนกลับทันควัน

“ไอ้ลูกเวร! ปากดีนักนะมึง” แล้วส้มโอลูกที่สองสามสี่ก็ประดังเข้ามาหาลูก ๆ จนผู้แม่ทนไม่ได้

“พี่ด้วง! พอได้แล้ว ของนี่ต้องเอาไว้ขายนะ จะกินเหล้าก็กินไปเงียบ ๆ อย่ามากวนฉันกับลูกทำงาน เดี๋ยวจะคัดไม่เสร็จเจ้มาเอาได้ถูกด่าราบแน่ แล้วพี่ก็จะอดได้เงินไปซื้อเหล้าด้วย ถ้าไม่อยากอดรีบหุบปากนะ”

ไม่บ่อยครั้งนักที่นิรมลจะกำหราบผู้เป็นผัวได้อยู่หมัดอย่างเช่นคราวนี้ และหากไม่เอาอำนาจเงินเข้ามาเกี่ยวข้องมีหรือคนเมามายอย่างด้วงจะยินยอม เด็กชายทั้งสามหันไปยิ้มให้กันด้วยความสะใจ เมื่อพ่ออ่อนลงยังกับผักลวก เพราะเห็นแม่เอาเรื่องสำคัญขึ้นมาขู่

หากแต่พวกเขาหารู้ไม่ว่าผู้เป็นพี่สาวที่ยืนแอบอยู่โคนต้นไม้กลับมีน้ำตาไหลนองอาบสองแก้มลงมา ความคิดถึงแม่คิดถึงน้องมีมาหลายวันนับตั้งแต่จากบ้านไป เลิกเรียนแล้วจึงอุตส่าห์ดั้นด้นมาหาแม้เวลาจะมีน้อยนิดก็ตามที แต่ความรู้สึกเหล่านั้นมันก็ได้หดหายลง เมื่อมาทันได้เห็นสภาพอันเมามายของพ่อเลี้ยงอีกแล้ว หญิงสาวจึงเปลี่ยนความคิดที่จะเข้าบ้าน เดินกลับทางเดิมด้วยหัวใจบอบช้ำ พลันก็คิดถึงพ่อขึ้นมาจับจิต ถ้าพ่อยังอยู่ป่านนี้เธอกับน้อง ๆ คงจะมีความสุขมากกว่านี้ คงจะร่ำรวยมากกว่านี้ คงจะไม่ต้องมานั่งเอาตัวใช้หนี้แบบนี้ ทิชชู่ที่อยู่ในบ้านสายหยุดถูกมือบางดึงมาเช็ดน้ำตาจนเหือดแห้งเมื่อมาถึง

“อ้าว! แอ้มานั่งทำอะไรอยู่นี่ล่ะ ป่านนี้แล้วยังไม่เตรียมข้าวของไปไว้ทำอาหารให้คุณท่านอีกเหรอ เดี๋ยวก็โดนดุหรอก โต ๆ กันแล้วอย่าให้ป้าต้องสอนบ่อย ๆ นะ มีอะไรก็ไปทำไป้”

สายหยุดเพิ่งจะเดินจากงานสวนเข้าบ้านมา เห็นหญิงสาวนั่งหน้าเศร้าอยู่จึงรีบตักเตือนด้วยความหวังดี แม้คำพูดที่เปล่งออกมาจะไม่เข้าหูคนฟังนัก แต่ปาลิตาก็รู้ว่าเป็นเจตนาดีทั้งสิ้น จึงรีบลุกตรงไปหาของในตู้เย็นที่สายหยุดจับจ่ายมาไว้ให้จากตลาดแล้ว

“เย็นนี้ทำปลาราดพริก ผัดผักรวมกับต้มเลือดหมูแล้วกัน ทำเยอะหน่อยนะเพราะผู้หญิงของท่านค้างที่นี่ด้วย แล้วเอ็งอย่าริไปทำรุ่มร่ามเอาล่ะ เดี๋ยวจะไม่เข้าหูเข้าตานังอีตัวผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดินเข้า เดี๋ยวก็ได้วิ่งกระหืดกระหอบแบบเมื่อเช้าหรอก”

สายหยุดรู้จักผู้หญิงทุกคนที่เจ้านายหอบมานอนด้วยเป็นอย่างดี เพราะแต่ละคนมักจะเวียนกันมาอยู่นี่นานบ้างไม่นานบ้าง แล้วแต่ความพึงพอใจของผู้เป็นเจ้านาย จึงตักเตือนเด็กสาวที่สายหยุดเองก็เมตตาเหมือนลูก เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก และเลี้ยงคู่กันมาพร้อมลูกสาวคนเดียวคืออริสา

“จ้ะป้า”

ปาลิตารับคำแค่นั้นแล้วก็เดินออกจากบ้านไป มืออีกข้างมีกระเป๋าตำหรับตำรา ส่วนอีกข้างก็มีถุงของสดที่หนักอึ้งพอสมควรกว่าจะเดินถึงบ้านที่อยู่ไกลกันมาก

“ว้าย! คุณอสมาน่ะ พอได้แล้วค่ะนีน่าเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนะคะ ว้าย! อย่าค่ะ พอแล้ว”

นั่นคือเสียงที่ดังเล็ดลอดออกมาจากห้องนอนของเขาที่เธอได้ยิน ความเกลียดชังเริ่มแล่นเข้ามาอีกแล้ว เมื่อหันไปมองพระอาทิตย์ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะลับขอบฟ้าไปสักนิด แต่คนมีอันจะกินอย่างเขาก็มีเวลาเหลือเฟือสำหรับนอนจ้ำจี้กับคู่ขาอย่างไม่อายฟ้าดิน ผิดกับคนจนหลายล้านคนที่เย็นย่ำค่ำมืดก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้กลับบ้านไปหาลูกหาเมียด้วยซ้ำ อดสงสัยไม่ได้จริง ๆ ว่าชาติที่แล้วเขาทำบุญด้วยอะไรนะ ถึงได้เกิดมาสบายแบบนี้

‘หึ! จะไม่สบายได้ยังไงก็พ่อแม่ออกจะร่ำรวย ตายไปก็ทิ้งสมบัติพัสถานไว้ให้มากมายขนาดนี้’

อาการเหยียดหยันคนในห้องจึงเกิดขึ้นทันทีขณะเดินไประเบียงหลังบ้าน แต่คิดอีกแง่หนึ่งการที่เขาหอบผู้หญิงมานอนกกนอนกอดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่มีเวลาว่างมาคิดถึงลูกหนี้ที่รอเวลาเอาตัวมาขายให้อย่างเธอ ยิ้มบาง ๆ จึงเกิดขึ้นก่อนจะเข้าห้องผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วออกมาเริ่มลงมือเตรียมทำมื้อเย็นอยู่เงียบ ๆ เมื่อเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ระหว่างรอให้ถึงเวลาลงมือปรุงนั้น แม่ครัวสาวก็เดินเข้าไปหอบตำหรับตำราออกมาอ่านไปด้วยอย่างจริงจัง และท่านั่งที่หันหลังให้หน้าต่างนั่นเอง จึงทำให้เธอไม่เห็นว่ามีสายตาคู่คมตามมาจับจ้องอยู่ไม่ห่าง

ด้วยเพราะบังเอิญที่อสมาออกมาทันได้เห็นแต่หลังเด็กสาวหอบหนังสือเดินไป ความอยากรู้จึงต้องตามมาดูให้แน่ใจ และภาพตรงหน้าก็ทำให้เขารู้สึกเอ็นดูในความเพียรพยายามไม่น้อย อดคิดถึงตัวเองสมัยที่พ่อส่งไปเรียนต่างประเทศไม่ได้ ทุกครั้งที่มีเวลาว่างเขาก็จะต้องทำแบบเดียวกับเด็กคนนี้ แต่จะต่างกันตรงที่เขามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เล็งเห็นอนาคตข้างหน้าได้อย่างชัดเจน จนพาตัวเองมายืนอยู่จุดนี้ได้ ผิดกับเธอที่ตอนนี้กำลังจะกลายมาเป็นเครื่องสังเวยความใคร่ให้เขา ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งเขาเองก็ตอบไม่ได้ว่าจะเมื่อไหร่

ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจของเขาและความพร้อมของเจ้าตัวด้วยเท่านั้น หรือไม่แน่สิ่งนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ เพราะมีความสงสารมักจะมีขึ้นมาทุกครั้งที่เขามองตามร่างเล็ก ๆ ที่วิ่งวุ่นกับการดูแลหุงหาอาหารให้เขา ควบคู่กับการเดินวันละหลายกิโลเมตรเพื่อไปไล่ล่าใบปริญญามานอนกอดให้ได้ แล้วเด็กหนุ่มนั่นล่ะ ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าคงจะเป็นคู่รักกันแน่ แล้วป่านนี้อะไร ๆ ที่เขาพอจะเอามาชดเชยเงินห้าล้านได้ คงจะไม่มีชิ้นดีหลงเหลือมาถึงเขาแล้วกระมัง คิดอีกทีก็ไม่เห็นจะต้องแคร์ ในเมื่อผู้หญิงที่เขาคบอยู่แต่ละคนล้วนแล้วแต่เจนจัดต่อเรื่องนี้มาแล้วทั้งนั้น

จะมีอีกสักคนจะเป็นไรไป เพราะดูท่านอกจากเจ้าหนุ่มนั่นแล้ว แม่คุณคงจะไม่ได้ไปมีใครสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนเพื่อคลายเหงาหรอกกระมัง เห็นจากท่าทีอันสงบเรียบร้อยออกอย่างนี้ อีกทั้งนักศึกษาจะมีเงินจากไหนนักหนาพาสาวไปเข้าม่านรูดบ่อย ๆ อะไร ๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในชุดนักศึกษาที่เจ้าหล่อนใส่ห่อหุ้มไว้ก็คงไม่สึกหรอสักเท่าไหร่หรอกกระมัง ยิ้มเหยียดหยันให้คนหันหลังให้ก่อนจะรีบผละไปเมื่อเห็นร่างเล็กเริ่มขยับ

ปาลิตาละจากหนังสือในเวลาห้าโมงครึ่ง เพื่อลุกไปปรุงอาหารให้เจ้าหนี้ได้กินขณะที่ยังร้อน ๆ อยู่ รสชาติจะไม่ได้เสียมากนัก ปลาราดพริกคือรายการแรกที่ลงมือทำ จากนั้นผัดผักกับต้มเลือดหมูถูกตั้งไฟขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน อสมาลุกจากโต๊ะทำงานไปนั่งอ่านหนังสืออยู่ระเบียงเพื่อรับลมยามเย็น เขาหันไปมองประตูห้องนอนเมื่อคิดว่าถึงเวลาที่เจ้าของเรือนร่างอวบนุ่มควรจะออกมาได้แล้ว แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววเขาจึงยังคงนั่งนิ่งก้มลงบริโภคตัวอักษรที่เขาโปรดปรานไปเรื่อย ๆ

กลิ่นหอมกรุ่นโชยมาแต่ไกลช่วยเรียกน้ำย่อยในกระเพาะได้ไม่ยากสักนิด เขาจึงละสายตาไปมองจานต่าง ๆ ที่ทยอยยกขึ้นโต๊ะช้อนกับส้อมถูกเรียกใช้งานทันทีเมื่อผัดผักจานใหญ่มีไอร้อนโชยออกมา ส่วนสีก็ยังเขียวสดน่ากินไม่น้อย ปาลิตารีบตักข้าวลงจานให้เขาทันที เพราะเดาจากอาการได้ว่าคงจะหิวไม่น้อย เพราะคงจะตรำงานหนักกับแม่สาวยั่วสวาทมาทั้งวัน ส่วนอีกจานที่ว่างอยู่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เพราะเจ้าของจานยังไม่ออกมาจากห้องเลย

“คุณอสมาหนีนีน่ามากินข้าวคนเดียวเหรอคะ น่าตีจริงเชียวคนอะไรไม่รู้”

เสียงทักทายลอยมาตั้งแต่เจ้าห้องหุ่นอรชรยังไม่พ้นประตูห้องมาด้วยซ้ำ ปาลิตาอดหันไปมองเรียวขาสวยงามไม่ได้ กางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้มกับเสื้อเกาะอกขาวช่างเหมาะสมกับคนใส่จนหาที่ติไม่ได้เลย ส่วนอสมานั้นเพียงแค่หันไปหาต้นเสียง แต่ไม่ได้สนใจมองจุดเดียวกันกับปาลิตา เพราะเรื่องนี้ผ่านหูผ่านตาเขามามากมายแล้ว สวยงามกว่านี้ก็เคยเห็น และได้สัมผัสมาแล้วทั้งนั้น

รูปลักษณ์ภายนอกสำหรับเขาจึงเป็นเพียงส่วนประกอบเล็ก ๆ ในชีวิต เพื่อให้มีชีวาขึ้นจากเดิมก็เท่านั้น หากแต่เนื้อในของคนต่างหากที่เป็นส่วนสำคัญ และมันก็สำคัญมากและหายากมาก จนคนอย่างเขาคงค้นหาไม่เจออีกแล้วในชีวิตนี้ เพราะสิ่งดี ๆ ในมือเมื่อหลายปีก่อนนั้น ดีไปรอบด้านจนเขาไม่อาจหาอะไรหรือใครมาทดแทนได้อีกแล้ว

“ผมเห็นคุณหลับเพลินเลยไม่อยากปลุก มาก็ดีแล้วเด็กจะได้ตักข้าวเลยกำลังร้อน ๆ นี่ผัดผักของโปรดคุณ”

ปาลิตารีบตักข้าวทันทีเมื่อได้รับคำสั่งกราย ๆ จากนั้นก็เลี่ยงไปนั่งกินเงียบ ๆ ที่ระเบียงหลังเช่นเคย และเมื่อเก็บทุกอย่างล้างไว้เรียบร้อยแล้ว ก็สบโอกาสเอาเลขที่บัญชีไปให้อสมาซึ่งนั่งทำงานอยู่เงียบ ๆ คนเดียว

“เลขที่บัญชีที่คุณให้ไปเปิดค่ะ”

หญิงสาวพยายามใช้คำพูดกับเขาให้ประหยัดที่สุด ด้วยหนึ่งไม่อยากรบกวนเวลาอันมีค่า สองใจยังคงเกลียดชังเขาไม่เหือดหายในหลายต่อหลายเรื่องโดยเฉพาะเรื่องคาว ๆ บนเตียง ส่วนอสมาประหยัดคำพูดมากยิ่งกว่า ด้วยการพยักหน้ารับแค่นั้น แล้วก้มลงไปหางานตรงหน้าเป็นเชิงไล่หญิงสาวกราย ๆ และนั่นยิ่งเพิ่มพูนความชิงชังเข้าไปสู่หัวใจเธออีกหลายเท่า เพราะรู้สึกว่าค่าของตัวเองไม่มีมากพอที่จะทำให้เขาอ้าปากมาเสวนาพาทีด้วยเลย คิดได้ดังนั้นร่างเล็ก ๆ จึงหันหลังเดินเข้าห้องเงียบ ๆ ส่วนอสมาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย นอกจากตัวเลขบนหน้าจอที่เขาต้องใช้เวลาขบคิดหลายต่อหลายรอบเพื่อให้ได้ผลกำไรตอนแทนอย่างคุ้มค่า



กันเกราธัญญรัตน์วรนัน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ส.ค. 2556, 09:02:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ส.ค. 2556, 09:02:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 1714





<< สาวในสต๊อก   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account