น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทสรุปแห่งรัก

บทสรุปแห่งรัก

ด้วยเป็นอดีตนางงามยอดพธูไทยปี 2555 และยังเป็นดารา นักแสดง นางแบบ เมื่อแถลงข่าวว่าจะแต่งงานจึงเป็นที่สนใจของนักข่าวสื่อมวลชน และงานแต่งของน้ำผึ้งกับวรรณศุกร์นั้นยิ่งน่าสนใจมากยิ่งขึ้นเมื่อน้ำผึ้งบอกว่าคอนเซ็ปงานฉลองมงคลสมรสนั้นจะจัดในรูปแบบงานวัด จำลองเวทีประกวดนางนพมาศขึ้นมา และงานนี้ไม่ได้จัดในโรงแรมหรูหราแต่อย่างใด เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวใช้ลานกลางแจ้งวัดบ้านไพรวัดถิ่นเกิดของคนทั้งคู่เป็นสถานที่จัดงาน

บ้านไพรในวันนี้จึงคึกคักเป็นพิเศษเพราะนอกจากสื่อมวลชนจากทุกแขนง ทุกสถานี ทุกฉบับ จะเดินทางมาทำข่าวกันอย่างพร้อมเพรียงแล้ว เพื่อนในวงการบันเทิงต่างก็มาร่วมแสดงความยินดีกับน้ำผึ้งกันอย่างคับคั่ง...และเพื่อไม่ให้เป็นที่โกลาหล เจ้าภาพที่เลือกวันแต่งงานเป็นช่วงฤดูหนาวนั้น ได้แบ่งโซนรับรองออกเป็นสามโซน ด้านหนึ่งเป็นโซนสื่อมวลชนและเพื่อนในวงการบันเทิง อีกด้านหนึ่งเป็นแขกผู้มีเกียรติเพื่อนและญาติมิตรของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และโซนด้านหลังเป็นส่วนของชาวบ้านร้านตลาดในบ้านไพรที่ถูกเรียนเชิญมาร่วมงานด้วยกัน..

เพลงนางฟ้าจำแลงถูกใช้เปิดคลอ ๆ ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ที่ด้านหลังเวทีนั้นเห็นชิงช้าสวรรค์หมุนวน ถัดมาเป็นเครื่องเล่นม้าหมุน ไกลจากเวทีออกไปมีจอภาพยนตร์ฉายหนังที่น้ำผึ้งเล่นไว้จำนวน 3 เรื่องเพราะไม่ต้องการให้เสียงมารบกวนพิธีการบนเวที นอกจากนี้ เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่รู้ว่างานนี้เป็นงานยักษ์จึงพากันเอาของมาขายกันอย่างล้นหลาม...แต่ว่าทางวัดก็ได้จัดสถานที่ไว้ไม่ให้มาปะปนจนทำให้เจ้าภาพนั้นเดือดร้อน...

และก่อนที่แขกผู้มีเกียรติจะเข้าไปนั่งยังโต๊ะอาหารที่ได้จัดรับรองไว้ ด้านหน้าทางเข้านั้นได้จัดผลงานรูปถ่ายจากกล้องของวรรณศุกร์ตั้งแต่ครั้งแรกที่กดชัตเตอร์บันทึกของน้ำผึ้งก่อนจะเดินทางไปประกวดธิดากระท้อนหวาน ไล่เรื่อยไปจนถึงรูปที่ทั้งคู่ไปเที่ยวด้วยกันโดยเป็นภาพที่ผลัดกันถ่าย...งานนี้ไม่มีภาพพรีเวดดิ้งผลงานของช่างภาพในสตูดิโอแต่อย่างใด...รอบ ๆ งานซุ้มมีพุ่มและซุ้มดอกกุหลาบสีแดงแซมส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณโดยมีเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวยืนรอต้อนรับแขกผู้มีเกียรติอยู่หน้างานเหมือนงานแต่งที่พบเห็นได้ทั่วไป...

หลังจากลงทะเบียนเขียนคำอวยพรแล้ววิธิตก็ประคองสำลีที่ท้องลูกคนที่สองเดินเข้ามาถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวก่อนจะเดินเข้าไปในงาน...
และอีกประเดี๋ยวเดียว นงลักษณ์ก็ควงสิบตำรวจเอกภานุวัฒน์คู่รักที่มีโครงการแต่งงานกันอีกไม่ช้านี้เดินเข้ามาหาบ้าง...

“ผึ้งสวยจังเลย” แม้ว่าวันนี้นงลักษณ์จะไปงานในภาคเช้าที่จัดขึ้นในห้องจัดเลี้ยงของวิภาวีรีสอร์ตของคุณอี๊ดแล้ว แต่นงลักษณ์ก็ยังตื่นเต้นที่เห็นเจ้าสาวในชุดราตรียาวกระโปรงสุ่มลายลูกไม้สีครีมยืนเคียงคู่อยู่กับบุรุษร่างสูงสง่าที่อยู่ในชุดสูทสีครีมดวงตานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขสมกับชื่อของเขา

“ถ่ายรูป ๆ” น้ำผึ้งร้องบอกนงลักษณ์กับภานุวัฒน์เพราะว่าแขกที่เริ่มไหลมาเข้างานต่างก็รอคิวถ่ายรูปหน้างานกับเจ้าบ่าวหนุ่มใหญ่และเจ้าสาวดารายอดนิยม นงลักษณ์กับภานุวัฒน์จึงประกบเจ้าบ่าวเจ้าสาวตามธรรมเนียมก่อนจะผละเดินเข้าไปหาโต๊ะนั่งที่ได้ระบุไว้ในบัตรเชิญ
“ดีใจด้วยนะผึ้ง” นัยนิตที่ท้องอุ้ยอ้ายโดยมีประทินเดินประคองมาเช่นเดียวกับที่วิธิตประคองสำลีอวยพรให้เจ้าสาว...

“ขอบคุณค่ะ” นัยนิตนั้นไม่ได้ทำงานอยู่ที่ร้านหนิงหน่องแฮร์คัทเพราะหลังแต่งงานกับประทิน หญิงสาวก็ย้ายไปอยู่ที่บ้านของเจ้าบ่าว เปิดร้านทำผมเล็ก ๆ ที่บ้านน้ำซับและก็เป็นแม่บ้าน เพราะว่าผู้ใหญ่ประทีปนั้นไม่เหลือลูกอยู่ในเรือนแล้ว หลังเรียนจบปวีณา นาน้อยก็แต่งงานและย้ายไปทำงานที่นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองพร้อมกับสามีที่เรียนด้วยกันมาสวนแฟนคนเดิมนั้นก็เลิกลากันไปเพราะพื้นฐานทางการศึกษาไม่เท่ากัน

“พี่เข้าไปข้างในก่อนนะ...ฝากผึ้งด้วยนะคุณศุกร์ มีความสุขมาก ๆ มีลูกหัวปีท้ายปีถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชร” อวยพรส่งท้ายแล้วนัยนิตก็เดินเข้าไปด้านในพร้อมกับสามี ไปนั่งร่วมโต๊ะกับนงลักษณ์ ภานุวัตร สำลี และ วิธิต

...แขกที่ได้รับเชิญทะยอยมาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย โต๊ะจีนรสชาติอาหารดีที่สุดที่จัดหามาเลี้ยงแขกนั้นเริ่มลงอาหาร บนเวทีมีการร้องเพลงจากนักร้องกิตติมศักดิ์เพื่อน ๆ ของคุณนายวรรณีซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเพลงของสุนทราภรณ์

กระทั่งแขกคนสำคัญอีกคู่ที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนรอด้วยใจจดจ่อ...นั่นก็คือกัปตันปรินทร์กับภัทรินที่พอกัปตันบินมาถึง ภัทรินที่ลาออกจากงานมาเป็นแม่บ้านก็รีบไปรับพากันมาที่งานแห่งนี้เพราะว่าทั้งน้ำผึ้งกับวรรณศุกร์นั้นเอาการ์ดไปเรียนเชิญถึงเรือนหอของคนทั้งคู่...

“ดีใจด้วยนะผึ้ง...” ใบหน้าของภัทรินอิ่มเอิบ หญิงสาวกับกัปตันปรินทร์ยังไม่มีลูกทั้งที่เพียรพยายามด้วยตนเองและพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ และเพื่อให้ได้ลูกมาเชยชมดังปรารถนาภัทรินจึงต้องลาออกจากงานเพื่อจะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ จึงเป็นที่มาของใบหน้าอิ่มเอิบสมบูรณ์

“สำเร็จหรือยังครับ” วรรณศุกร์ที่รู้ปัญหาของคนทั้งคู่อยู่กระซิบถามเบา ๆ

“ยังเลย สงสัยจะรอให้ลูกชายของศุกร์กับผึ้งมาเกิดก่อน...”

“แบบนี้แสดงว่าอยากได้ลูกสาว” น้ำผึ้งหยอกคืน...

“ใช่ อยากได้ลูกสาว แต่ตอนนี้ มาเพศไหนก็ได้หมดแหละ”...

“แล้วเพศที่สามแบบหน่องนี่ละ” คชาพัฒน์ที่แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีฉูดฉาดเปรี้ยวจี๊ดสะพายกระเป๋าใบโตเข้ามาทันได้ยินร้องถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม...

“ถ้ามีความสามารถขนาดนี้ มาสักสิบคนก็ดี” ภัทรินเชิดหน้าขึ้นแววตานั้นค้อนให้คชาพัฒน์ควับ ๆ แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะให้กัน...

“ไป เราเข้าไปข้างในเถอะ...หมดเซ็ทคนธรรมดาอย่างเรา ๆ แล้ว ให้คิวดาราใหญ่เขามั่ง” เพื่อนดารานักแสดงของน้ำผึ้ง ในการ์ดเชิญได้ระบุเวลาไว้เรียบร้อย เพราะว่านักข่าวจะได้เก็บภาพหน้างานไปพร้อม ๆ กัน

คชาพัฒน์พาภัทรินกับกัปตันปรินทร์ไปยังโต๊ะที่ระบุไว้ในบัตรเชิญ แล้วก็เดินเข้าไปหาโต๊ะของตน แต่ระหว่างทางคชาพัฒน์ก็แวะทักทาย คุณแม่เจ้าบ่าว แม่เจ้าสาวที่นั่งอยู่น้ำหวานที่เริ่มเป็นสาวและสวยไม่แพ้พี่สาว...

“ขอบใจหน่องมากนะ ถ้าไม่ได้หน่องงานนี้ไม่เป็นงานเลย” คุณนายวรรณีพร่ำบอกไม่รู้เป็นรอบที่เท่าไหร่...

“ไม่เป็นไรหรอกฮะ หน่องขอตัวก่อนนะ...”

กรีดกรายเดินออกมาแล้วคชาพัฒน์หยุดทักคุณอี๊ดวิภา ที่นั่งอยู่กับพิชญา พิชรัฎ พี่อ๊อด และทีมงานบริษัทผลิตละครที่ตนคุ้นเคยเป็นอย่างดีก่อนจะขอตัวไปยังโต๊ะที่มีสำลี นัยนิตนั่งอยู่พร้อมกับสามี...

“เหนื่อยมาก ๆ” ว่าแล้วคชาพัฒน์ที่เป็นแม่งานช่วยเหลือเจ้าบ่าวเจ้าสาวอย่างเต็มกำลังก็ทรุดตัวลงนั่ง บนเก้าอี้พลาสติกที่มีผ้าสีขาวคลุมไว้ประทินรีบรินน้ำอัดลมส่งมาให้ทันที...

“ขอบใจที่รู้ใจและยังคิดจะเอาใจกันอยู่” รับน้ำมาแล้วคชาพัฒน์ที่ดูจะจัดจ้านขึ้นกว่าเดิมเพราะว่าหลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จกับการเป็นพี่เลี้ยงนางงามเวทีภูธร คชาพัฒน์ก็กลับไปอยู่กรุงเทพฯ ไปเป็นผู้จัดการของน้ำผึ้งอย่างเต็มตัว ตอนแรกร้านหนิงหน่องแฮร์คัทเขาให้นัยนิตดูแลแต่พอนัยนิตแต่งงานเขาก็เซ้งกิจการร้านหนิงหน่องแฮร์คัทให้คนอื่นไป ต่อจากนั้นพอมีช่องทางเรียนรู้งานของผู้จัดการดารานักแสดงแล้ว คชาพัฒน์ก็เริ่มเฟ้นหาเด็กเข้าแคสติ้งงานจนตอนนี้มีเด็กหล่ออยู่หนึ่งคนได้เป็นพระเอกดาวรุ่งของสถานี ทำให้ คชาพัฒน์มีรายได้เป็นกอบเป็นกำมีชื่อเสียงที่มากยิ่งขึ้น

และตอนนี้เขาก็เล็ง ๆ น้ำหวานน้องสาวของน้ำผึ้ง กะจะส่งประกวดเวทีใหญ่ระดับประเทศ แต่ว่าน้ำหวานนั้นไม่อยากไป เพราะชอบที่จะอยู่ร้านเบเกอรี่ที่น้ำผึ้งมาเปิดไว้ให้แม่กับน้อง ๆ ดูแลมากกว่า...

น้ำผึ้งเองก็ไม่บังคับน้องสาวเพราะของอย่างนี้มันเป็นเรื่องของความชอบและเป็นเรื่องของโชควาสนาของแต่ละคนด้วย...

“ไม่เอาใจได้ไง พี่หน่องมีบุญคุณกับผม ถ้าไม่มีพี่หน่องผมก็คงไม่ได้เจอกับนัยนิต”...ประทินตอบกลับมา...คชาพัฒน์ค้อนให้ก่อนจะมองไปบนเวทีที่จำลองเวทีประกวดนางนพมาศเมื่อปี 2554 มา และพิธีกรในค่ำคืนนี้ก็หาได้ใช่ใครที่ไหนเป็นพิธีกรอาจารย์ผู้หญิงและดีเจวิทยุท้องถิ่นเจ้าเดิมทั้งที่ศักยภาพของน้ำผึ้งนั้นจะใช้พิธีกรที่เป็นเพื่อนดารานักแสดงก็ได้ แต่น้ำผึ้งปรารภว่า คนในท้องถิ่นของเราที่มีความสามารถดี ๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ไม่มีโอกาสไปอยู่ในจอโทรทัศน์เท่านั้นเอง...


“และช่วงเวลาต่อไปก่อนที่เราจะพบกับช่วงพิธีการบนเวที เราขอเรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติทุกท่านรับชมภาพวีทีอาร์ประวัติความเป็นมาของทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวของเราครับ”...สิ้นเสียงพิธีกรชาย....

เสียงที่ขับออกมาทางลำโพงนั้นเป็นเสียงเปียโนผสานกับเสียงขิมซึ่งต่างบรรเลงทำนองเพลงเสน่หา...ภาพบนจอนั้นค่อยสว่าง ๆ ขึ้นเป็นภาพในอดีตของวรรณศุกร์กับน้ำผึ้งที่ซ้อมขิมและเปียโนด้วยกัน

เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราวทุกคนจ้องมองไปบนผ้าใบผืนนั้น ต่างตั้งใจดู ตั้งใจฟัง เหมือนกับถูกสะกด

และเมื่อภาพวีดีโอตัวนั้นจบลง...ความเงียบก็เข้าครอบงำบรรยากาศโดยรอบไปชั่วอึดใจ แล้วเสียงดนตรีขิมและเปียโนก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นภาพตอนที่ทั้งคู่เล่นด้วยกันในงานคล้ายวันเกิดเพื่อนของคุณนายวรรณี

...และที่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับแขกที่มาร่วมงานนั่นก็คือ พอถึงท่อนที่เป็นเนื้อเพลงดารานักแสดงชายคู่ขวัญของน้ำผึ้งที่เล่นละครเรื่องแรกด้วยกัน ก็เดินขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับร้องเพลงเสน่หาผสานกับเสียงดนตรีที่ได้บันทึกไว้ และภาพบนผืนผ้าใบนั้นก็เป็นภาพตั้งแต่น้ำผึ้งยังเป็นนางงามฝึกหัดไปอยู่ในความดูแลของคชาพัฒน์ จนกระทั่งได้ตำแหน่งนางงามยอดพธูไทย...

และแขกบางคนที่รับรู้เรื่องราวของทั้งคู่มาก่อนหน้านั้นพอเห็นภาพในอดีตของน้ำผึ้งนั้นก็ถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความปลาบปลื้มใจ โดยเฉพาะแม่น้ำอ้อยของน้ำผึ้งนั้นถึงกับสะอึกสะอื้น เพราะไม่คิดว่าลูกสาวจะมีนาทีที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งที่บ้านไพร...นั่นก็คือได้แต่งงานกับผู้ชายที่สมบูรณ์แบบที่สุดของที่นี่...

“ความรักเอย เจ้าลอยลมมาหรือไร มาดลจิต มาดลใจ เสน่หา รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา หรือแกล้งเพียงแต่แลตา ยั่วอุราให้หลงลำพอง... สงสารใจฉันบ้าง วอนอย่าสร้างรอยช้ำ ซ้ำเป็นรอยสอง รักแรกช้ำน้ำตานอง ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย”...

ในระหว่างที่เพื่อนนักแสดงชายคู่ขวัญร้องเสน่หา น้ำผึ้งที่ยืนเคียงคู่เจ้าบ่าวอยู่ด้านหลังเวทีก็น้ำตาไหลพรากออกมา...ภาพในอดีตบางภาพแม้มันจะเจ็บปวดเพราะแอบไปมีใจให้ผู้ชายของคนอื่นแต่ภาพในอดีตบางภาพ มันก็เป็นความทรงจำที่ดี เป็นสายใยรักที่ถักทอไว้ด้วยความดีงาม...
และเขาก็กอดน้ำผึ้งที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นร้องไห้กับเพลงและเรื่องราวในอดีตที่ยากจะลืมเลือน...

“ร้องทำไม...ไม่ร้อง ๆ เดี๋ยวเราก็จะออกไปข้างด้านหน้าเวทีกันแล้ว” วรรณศุกร์ลูบหลังน้ำผึ้งพลางกระซิบปลอบใจเบา ๆ...

“หยิกผึ้งหน่อยได้ไหมคะ”

“จะหยิกทำไมล่ะ...”

“ผึ้งไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ...มันเป็นเรื่องจริงใช่ไหม”

“เรื่องจริงซิ ตอนนี้ฉันยืนอยู่ข้างเธอแล้ว แล้วเราจะไม่พรากจากกันไปไหนอีก เราจะอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง...มาฉันเช็ดน้ำตาให้...”

พอน้ำผึ้งผละออกจากอกอุ่นของเขาเขาก็ใช้นิ้วมือกรีดเม็ดตาของน้ำผึ้งก่อนจะประทับรอยจูบที่ผากแล้วเลื่อนริมฝีปากลงมาสัมผัสริมฝีปากเอิบอิ่มของน้ำผึ้ง แล้วเขาก็เชยคางน้ำผึ้งขึ้น...

“ฉันรักเธอนะน้ำผึ้ง ฉันรักเธอมาก และจะรักเธอคนเดียวตลอดไป...”

วรรณศุกร์กระซิบบอกโดยไม่ได้รู้หรอกว่า ตอนนี้ภาพบนผืนผ้าใบที่เป็นภาพเรื่องราวในอดีตของน้ำผึ้งบัดนี้กลายเป็นภาพการแสดงสดของทั้งสองคนโดยทีมตัดต่อมืออาชีพที่คชาพัฒน์จ้างมาทำงานนี้ได้ซ่อนกล้องตัวหนึ่งไว้หลังเวที...

“เห็นไหมว่า ฉันกะอะไรไว้ไม่มีผิดจริง ๆ...” คชาพัฒน์เชิดหน้าแล้วเปรยออกมาหลังจากที่ภาพนั้นเรียกเสียงกรีดร้องเสียงปรบมือดังไปทั่วงาน....

จบบริบูรณ์...
14.09น. 21/6/2556ณ เรือนจิตรา




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ส.ค. 2556, 09:37:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ส.ค. 2556, 09:37:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 2396





<< จบแล้ว..   
จุฬามณีเฟื่องนคร 7 ส.ค. 2556, 09:38:27 น.
วันจันทร์จะลบทั้งเรื่องเลยนะครับ ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจขอบคุณที่เสียเวลาเฝ้าอยู่หน้าเวทีด้วยกันมา...ฝากผลงานชุดนี้ที่จะ วางแผงกับ สนพ.ทู้ปโรสด้วยครับ เรื่องหน้า ในม่านฝน ตามไปอ่านได้ที่ เพจนะครับ จุฬามณี เฟื่องนคร ชอนตะวัน บุ๊คส์


saralun 7 ส.ค. 2556, 09:59:01 น.
เป็นกำลังใจให้ค่าาาาา


เดิมเดิม 7 ส.ค. 2556, 11:27:42 น.
กรี๊ด พี่หนิงหน่องทำอะไรอ่ะ ตอนพิเศษหมดแล้วหรือค่ะ


mottanoy 7 ส.ค. 2556, 11:58:17 น.
คิดถึงคุณศุกร์


คิมหันตุ์ 7 ส.ค. 2556, 14:14:06 น.
ตอนนี้ คุณศุกร์ บทน้อยจุงเบย ....แง๊ๆ ไม่เต็มอิ่มเลยอ่ะ


จิรารัตน์ 7 ส.ค. 2556, 16:54:53 น.


loveleklek 7 ส.ค. 2556, 20:27:20 น.
มีตอนพิเศษป่ะเนี่ย


nateetip 7 ส.ค. 2556, 20:49:29 น.
กรี้ดดดดด กรี้ดดดดดด กรี้ดดดดดด ..
เบิ้ลสามทีเลย..>.<


Zephyr 7 ส.ค. 2556, 21:41:27 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย หนังสด กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
น้ำตานองไปด้วยเลยค่า
จบแล้วอ่า คงคิดถึงทุกๆคนในเรื่องนี้ขาดใจ
เพราะเหมือนเลี้ยงดูผึ้ง เฝ้าดูผึ้งโตและประสบความสำเร็จไปกับพี่หน่องเนอะ
ไม่เคยอินเนอร์เรื่องไหนเท่านี้เลย
แงๆๆๆๆ จะลาจอแล้ว สะเทือนใจเป็นพิเศษ


นักอ่านเหนียวหนึบ 7 ส.ค. 2556, 23:58:58 น.
น้ำผึ้งกับคุณศุกร์จบแล้ว อารมณ์เหมือนคุณชายจบแล้ว แล้วจะดูอะไรต่อ อย่างไงอย่างงั้นเลย
คนเขียนรีบกลับมาไวๆ นะฮ้าาาา


porpla 17 ส.ค. 2556, 15:03:53 น.
ชอบตอนจบมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ
ขอบคุณที่แต่งเรื่องราวดีๆแบบนี้ มาให้อ่านนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account