น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: จบแล้ว..

37.

“พอแล้วพี่หน่อง...” ตอนที่ภัทรินโทรกลับมานั้นวรรณศุกร์กับน้ำผึ้งเดินเล่นอยู่บนโป๊ะของรีสอร์ตริมแม่น้ำแม่กลอง เมื่อภัทรินบอกว่าจะประชุมสายวรรณศุกร์จึงส่งสัญญาณให้น้ำผึ้งเงียบก่อนจะกดเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งนั้นได้ยินข้อความระหว่างภัทรินกับคชาพัฒน์...

“ผึ้ง เสียงเธอลอดมาได้อย่างไรละเนี่ย” พอได้ยินเสียงน้ำผึ้งคชพัฒน์ก็เลื่อนโทรศัพท์มาดูหน้าจอ ตอนนั้นภัทรินหัวเราะขำกิ๊ก ๆ ...ที่สามารถแกล้งให้คชาพัฒน์เผยความในใจของน้ำผึ้งที่มีต่อวรรณศุกร์ออกมาได้แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้ภัทรินคือเธอไม่คิดว่า จะถูกวรรณศุกร์ซ้อน
แผนโดยการเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งได้ยินด้วย

“หมายความว่าไงผึ้ง ภัท”

“จะหมายความว่าไงละ คุณหนิงหน่อง ก็...หมายความว่า ฉันกับคุณศุกร์น่ะจบกันแล้ว แล้วตอนนี้ น้ำผึ้งก็เข้าไปแทนที่ฉันแล้ว ใช่ไหมคะศุกร์ขา”

“ใช่ครับ” เขาตอบยิ้ม ๆ น้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมา...

“แค่นี้ก่อนนะคะ ภัทต้องเข้างานแล้วค่ะ มีข่าวดีเมื่อไหร่ก็ส่งถึงภัทด้วยแล้วกัน จะกลับไปฉะกับหนิงหน่องที่บ้านไพรสักหน่อย ไปแล้วนะหน่อง แล้วเจอกันที่บ้านไพร...บาย”...ภัทรินกดตัดสายไปแล้ว คชาพัฒน์ยังถือโทรศัพท์ค้าง ส่วนประทินนั้นแม้จะไม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแต่เขาก็พอจับใจความได้ว่าตอนจบมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ คชาพัฒน์ถึงได้นั่งอึ้งแบบนี้...

“เป็นอะไรพี่หน่อง”

“เจอนังภัทมันย้อนเกล็ดให้นะซิ...ไอ้เทคโนโลยีนี่มัน...โอ้ย หน้าแหกหมดเลย”

“น่า ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป”

“อุ้ยถอดเสื้อแล้วเหรอ” คชาพัฒน์เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับใช้สายตาลวนลามประทินที่รีบผละหนีสายตาหื่น ๆ แบบนั้น

“พี่หน่องผมจะอาบน้ำแล้ว ขอตัวก่อนนะ” ประทินที่นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่รีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู คชาพัฒน์ล้มตัวลงนอนเอกเขนกแต่ก็ไม่วายส่งเสียตามไปแหย่ประทิน...

“ให้พี่ช่วยถูหลังให้ไหม ทิน ไม่ต้องกลัวพี่ลำบากใจหรือเหนื่อยยากหรอก”

“ไม่ต้องหรอกพี่ ขอบคุณมากครับ”

------------------
“ผึ้ง ๆ เดี๋ยวซิ” เมื่อสายของภัทรินกับคชาพัฒน์หลุดไปแล้วน้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ วรรณศุกร์ก็รีบเดินหนีเขาทันที วรรณศุกร์รีบร้องเรียกและตามไปรั้งแขนของน้ำผึ้งไว้..

“ผึ้งจะไปอาบน้ำ เหนียวตัว” น้ำผึ้งนั้นพักกับนัยนิต วรรณศุกร์พักคนเดียว คุณนายวรรณีพักกับสมานและวันนี้ตลอดการเดินทางคนขับรถตู้ที่เช่ามาก็เปิดหนังแผ่นให้ดู...กระทั่งถึงสมุทรสงครามก็เริ่มต้นไหว้พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหลวงพ่อวัดบ้านแหลม...ก่อนจะมาตระเวนไหว้พระในวัดดัง ๆ ที่เมืองอัมพวา เข้าพิพิธภัณฑ์ ร.2 เดินตลาดน้ำอัมพวา แล้วก็เข้าที่พัก เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่เรือจะ
มารับไปดูหิ่งห้อยในยามวิกาลแล้วก็กลับมาพักผ่อน...

“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ตอนนั้นที่บนโป๊ะริมตลิ่งมีเขากับน้ำผึ้งเท่านั้น...

“จะคุยอะไรล่ะ...ผึ้งยังไม่อยากคุย” อันที่จริงน้ำผึ้งอยากฟังแต่ว่าเธอรู้สึกเขินหากว่า เขาจะสารภาพรักอย่างรวดเร็ว...

“คุยเรื่องที่ภัทเขาพูดทิ้งท้ายไว้ไง”

“เรื่องอะไรละคะ”

“เรื่องที่ว่าวันแต่งงานของเราเขาจะมา”

“ใครจะแต่งกับคุณศุกร์ล่ะ”

“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”

““ผึ้งยังเด็ก ยังต้องเรียนหนังสือ ยังไม่พร้อมจะมีแฟน””...น้ำผึ้งทวนสคลิปที่ท่องจำจนขึ้นใจ
แต่ว่าวรรณศุกร์ก็ย้ำคำถามเดิม...ตามแบบฉบับของผู้ใหญ่ที่เคยอยู่เหนือน้ำผึ้ง

“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”

“คุณศุกร์...” น้ำผึ้งไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมรวดเร็วอย่างนี้...

“ผึ้ง ฉันรู้มานานแล้วว่าเธอรักฉัน” ตอนนี้วรรณศุกร์จับต้นแขนทั้งสองข้างของน้ำผึ้งแล้วก้มดูใบหน้าที่ก้มของพร้อมกับหลุบตาลงมองที่ส่วนอกของเขา...วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวติดกระดุมเพียงแค่สามเม็ดจึงเผยให้เห็นไรขนที่หน้าอกใจของน้ำผึ้งสั่นหวิวทีเดียว

“รู้ได้อย่างไร” น้ำผึ้งพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ...

“มองหน้าฉันซิผึ้ง”

“ผึ้งอาย”

“ไม่มองเธอจะรู้ไหมว่าฉันคิดอย่างไรกับเธอ...”

ว่าแล้วน้ำผึ้งก็ค่อย ๆ เงยหน้าแล้วเปิดเปลือกตากว้างขึ้น...สายตาคู่นี้ของเขานั้นเคยเป็นสายตาของผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาแต่ว่าวันนี้มันกลายเป็นสายตาของหนุ่มน้อยนักรักที่สื่อออกมาว่าเสน่หา หวังพิชิตใจของน้ำผึ้งให้จงได้

น้ำผึ้งรู้สึกว่ามือของเขานั้นอุ่นขึ้น ๆ

“เห็นไหมว่าฉันรักเธอ”

“รักผึ้ง”

“อืม...รักน้ำผึ้งบ้านไพรคนนี้เหมือนที่เธอรักฉันนั่นแหละ”

“ผึ้งยังไม่ได้บอกเลยว่าผึ้งรักคุณศุกร์”

“แต่เธอบอกคนอื่นหมดแล้ว ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ไอ้ธิตมันบอกกับฉันว่าไอ้วัฒน์มันยังรู้เลยว่าผึ้งรักฉันมันถึงต้องถอยไปคบกับนงลักษณ์”

ใบหน้าของน้ำผึ้งแดงซ่านขึ้นมาสายตาที่สบกับตาคู่สวยของเขาจึงต้องเบือนหลบไปมองแม่น้ำ มองไปไกล ๆ ที่เห็นบ้านเรือนและเรือกสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี

“สรุปว่าเธอรักฉันเหมือนกับที่ฉันรักเธอใช่ไหม”

“แล้วผึ้งจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณศุกร์พูดจริง ๆ”

“ฉันจบกับคุณภัทตั้งแต่วันนั้นแล้วผึ้ง วันที่ฉันไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แต่ว่าตอนนั้น ฉันเห็นว่าเธอสนิทชิดเชื้อกับนายเติ้ลฉันเลยไม่กล้าเดินหน้า แล้วฉันก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอนั้นมันอยู่สูงเกินกว่าที่ฉันจะสอยถึงอีกแล้ว...เพราะเธอต้องมีโอกาสเจอะเจอผู้คนอีกมากมาย ผิดกับฉันที่ต้องจมปลักอยู่ที่บ้านไพร”

“คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริงๆ เหรอคะ”

“ตอนที่มีภัท ฉันก็รู้สึกพิเศษ ๆ กับเธอแล้วแหละ เพียงแต่ว่าด้วยมโนธรรม ฉันจึงต้องหักห้ามใจ ฉันหึง ฉันห่วง ฉันหวง ฉันกลัวว่าเธอจะพลาดท่าเสียทีให้กับสารวัตรทะนงศักดิ์ หรือดีใจได้ปลื้มไปกับไอ้ธิต และไอ้วัฒน์ตอนที่มันยังเดินหน้าจีบเธอ ลึก ๆ ฉันดีใจที่เธอหลุดพ้นจากก้องเกียรตินักรักบ้าระห่ำนั่นด้วย”

“แต่คุณศุกร์ก็ยังเป็นพ่อสื่อให้เขา...”

“จะให้ฉันทำอย่างไรได้ล่ะ...ฉันไม่ได้เต็มใจสักนิด แต่ฉัน...ผึ้งก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนตัวเปล่า”

“แล้วตอนนี้คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริง ๆ เหรอคะ”น้ำผึ้งหวนกลับไปถามคำถามที่เขายังไม่ตอบ

วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ใบหน้าเขายังอมยิ้มบาง ๆ อยู่เช่นเดิม

“ลืมสนิท และลืมเขาตั้งนานแล้ว”

“แล้วทำไมคุณศุกร์ถึงยังต้องเศร้า”

“ก็ฉันคิดถึงเธอ...”

น้ำผึ้งหันมาสบตาของเขาแล้วก็ยิ้มบาง ๆ

“แล้วทำไมไม่โทรหาผึ้งล่ะ”

“ฉันแก่แล้ว ฉันอาย ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ฉันไม่อยากรั้งเธอไว้ ฉันรู้ว่าอนาคตของเธอนั้นอีกยาวไกล ฉันก็เลย ก็เลยเก็บความคิดถึงไว้ เก็บวันดี ๆ ของเราไว้ในใจ ฉันเปิดคลิปตอนที่เราเล่นขิมด้วยกันที่งานวันเกิดฟังทุกคืนเลยนะ”

“จริง ๆ เหรอคะ”

“หลักฐานก็อยู่ในโทรศัพท์นี่ไง จะดูไหมละ ฉันโหลดมาเก็บไว้...ก่อนนอนฉันก็เปิดวนไปวนมา...ตอนไปไหว้หลวงพ่อหินฉันก็อธิษฐานนะ ขอให้เธออย่าได้เปลี่ยนใจจากฉัน ให้รักฉันเหมือนเดิม เพราะอย่างไรฉันก็จะรอเธออยู่ที่บ้านไพร”

“แล้วถ้าผึ้งมีคนอื่นล่ะ คุณศุกร์จะทำอย่างไร”

“ฉันก็คงเป็นหนุ่มโสดที่พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติแล้วถ้าวันหนึ่งแม่ฉันไม่อยู่ฉันอาจจะออกบวช”

“ขนาดนั้นเลย”

“ซักอะไรจังเลย เมื่อก่อนไม่เห็นซักอย่างนี้”

“ก็ตอนนั้น ผึ้งยังไร้เดียงสานี่คะ...ตอนนี้ผึ้งยี่สิบแล้วนะ...”

“เป็นแม่คนได้แล้ว”

“ยังหรอกค่ะเรียนให้จบก่อน...ผึ้งอยากได้ปริญญาตรีไม่อยากให้ใครมาว่าสวยแต่โง่ แล้วผึ้งก็อยากทำในสิ่งที่ผึ้งอยากทำที่สุดอีกอย่างค่ะ”

“ทำอะไร”

“ผึ้งอยากเปิดร้านเบเกอรี่ตามที่คุณศุกร์เคยแนะนำผึ้ง” ก่อนหน้านั้นน้ำผึ้งได้ตัดสินใจซื้อตึกแถวที่กำลังก่อสร้างทิ้งไว้เพราะคิดไว้ว่าวันหนึ่งงานในวงการบันเทิงเป็นช่วงขาลงจนหมดงานเหมือนรุ่นพี่นางงามบางคน เธอก็จะกลับมาเดินตามทางที่เคยฝันไว้...เพราะฝันครั้งนั้นมีเขาเป็นคนจุดประกายทำให้หนทางที่มืดมนนั้นสว่างไสวขึ้นมา

“รู้ไหมคะว่าทำไมผึ้งถึงอยากเปิดร้านเบเกอรี่”

“ถ้าตอบถูกจะให้รางวัลเป็นอะไร”

“ตอบมาค่ะ”

“รางวัลเป็นอะไรล่ะ”

น้ำผึ้งกลอกตาไปมา...แม้ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเขินอายกับสายตากรุ้มกริ่มของเขา...เธอก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่า เขาเป็นคนอย่างนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นในความรู้สึกของเธอ เขาเป็นผู้ชายนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึกได้เก่ง ดูเหมือนจะไร้อารมณ์ด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ เธอคิดว่าเธอมองคนผิดเสียแล้ว...

“ตอบมาก่อน” น้ำผึ้งเล่นตัวบ้าง

“เพราะฉันเคยแนะนำเธอ ฉันจำได้ว่าฉันคุยอะไรกับเธอไว้ ฉันยังไม่แก่จนเลอะเลือน”

“เมื่อกี้บอกผึ้งว่าแก่แล้วลืมหรือเปล่า”

“หรือแก่แล้วจริง ๆ หว่า ถึงได้หลง ๆ ลืม ๆ”

“แก่แล้ว”

“แล้วรักคนแก่ไหมล่ะ”

“เราห่างกันกี่ปีนะคะ”

“สิบสี่ปี...ไม่เยอะหรอก หลังเธอเรียนจบฉันก็สามสิบแปด ก็ยังไม่แก่ เพราะฝรั่งเขาบอกว่าผู้ชายเริ่มต้นที่อายุสี่สิบ”

“หลังเรียนจบจะอะไรคะ”

“หลังเธอเรียนจบเราก็จะแต่งงานกัน”

“อีกตั้งนานคุณศุกร์ไม่เหงาแย่เลยเหรอ”

“ไม่เหงาหรอก...เพราะฉันไม่ต้องคิดถึงแต่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว...ฉันไปหาเธอที่กรุงเทพได้ทุกสัปดาห์ด้วยนะ”

“ให้จริง ๆ เถอะ”

“อย่ามีเงื่อนไขให้ต้องลำบากใจเลยดีกว่า เอาแต่สะดวกดีกว่าเนอะ ลืมไปว่า เธอไม่ได้ทำงานออฟฟิศ”

“ค่ะ”

“ตกลงรักฉันหรือเปล่า”

“ผึ้งยังไม่ได้บอกเหรอคะว่ารู้สึกอย่างไรกับคุณศุกร์”

“ยังนะ รอฟังอยู่”

“ผึ้งรู้สึกว่ามันไม่โรแมนติกเลย”

“แบบไหนถึงจะเรียกว่าโรแมนติกล่ะ”

“ให้คุกเข่าไหม” ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับจับมือน้ำผึ้ง แต่น้ำผึ้งรีบทรุดตัวลงจับมือเขาไว้ เพราะรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงระเบียงของร้านอาหารนั้นมองลงมาตรงจุดที่เธอยืนอยู่กับเขาอย่างแน่นอน...

“ลุก ๆ เลยค่ะ”

“ลุกก็ได้...”

พอทั้งคู่ลุกขึ้นยืนแล้ว...ที่ตลิ่งก็มีเสียงเรียกของน้ำหวานกับน้ำต้อย...ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง...

“คุณศุกร์ พี่ผึ้ง พี่นัยนิตให้มาตามไปกินข้าวครับ”

“เดี๋ยวตามไปครับ” วรรณศุกร์ร้องบอกโดยที่มือสองข้างของเขายังจับที่มือทั้งสองข้างของน้ำผึ้งไว้...
เด็กสองคนหมุนตัวเดินกลับไป...น้ำผึ้งจะผละเดินตามน้องไปแต่ว่าวรรณศุกร์ยังรั้งไว้...

“ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมผึ้ง”

“ค่ะ”

“ต่อไปสุขทุกข์ของผึ้งจะเป็นสุขทุกข์ของฉันด้วยใช่ไหม”

“ค่ะ”

“งั้นเราไปกินข้าวกัน ฉันหิวแล้ว”

“ผึ้งก็หิวแล้ว ไปค่ะ...ที่รัก” ว่าแล้วน้ำผึ้งก็เป็นฝ่ายจับมือของเราเดินตามสะพานที่ทอดจากตลิ่งมายังโป๊ะท่าเรือที่ยืนเปิดเผยความในใจที่มีต่อกัน และเมื่อเดินไปถึงตลิ่งแล้วน้ำผึ้งก็หันกลับไปมองที่โป๊ะท่าเรืออีกครั้ง...ก่อนจะถามวรรณศุกร์ที่หยุดมองตรงตามสายตาน้ำผึ้งบ้าง

“มองอะไร”

“เมื่อกี้คุณศุกร์ไม่ได้เมาคลื่นใช่ไหมคะ”

วรรณศุกร์ทำหน้าปั้นยากก่อนจะโอบเอวน้ำผึ้งแล้วเดินเคียงกันเข้าไปยังส่วนที่เป็นร้านอาหารของ รีสอร์ตเพื่อประกาศให้คนที่นั่งรออยู่ รับรู้ทางอ้อมว่าบัดนี้ ทริปกระชับหัวใจนั้นสำเร็จไปตามแผนการแล้ว


---------เหะ เหะ -------ตอนพิเศษ จะมาเมื่อไหร่ดีนะ





จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2556, 01:17:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2556, 01:17:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 2289





<< 36.2 แม่พี่เลี้ยงนางงามภูธร   บทสรุปแห่งรัก >>
คิมหันตุ์ 6 ส.ค. 2556, 01:51:16 น.
ที่รู้ๆ....วันนี้มาแปลกมากค่ะ.....รุ่งเช้าาาาาาาาาาาาาาาม๊าก


nateetip 6 ส.ค. 2556, 01:52:32 น.
อ้ายยยยย ตอนอ่านถึงคุณศุกร์คุกเข่า มีแอบกรี้ดเลย
ถ้าไม่ติดว่าทำงานอยู่ ลงไปดิ้นหล่ะ..อิอิ เขินแทน
ป.ล. เอาอีกนิดได้ไหมคะ หวานๆแบบเนี้ย
เอาหวานทั้งบทเลยนะคะ รักคุณเฟื่องที่สุด จุ๊บจุ๊บ


จุฬามณีเฟื่องนคร 6 ส.ค. 2556, 01:52:48 น.
จะนอนตื่นสายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย................


เดิมเดิม 6 ส.ค. 2556, 08:19:07 น.
ตอนพิเศษมาวันนี้เลยนะคะ นะ


Zephyr 6 ส.ค. 2556, 18:06:49 น.
เมื่อไรเหรอคะ ตอนนี้ค่ะ เชียร์ อิอิ
วันนี้ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ มะรืน เท่านี้ค่ะ เกินกว่านี้นะคุณเฟื่อง
หึหึหึหึหึหึหึหึ แสยะๆๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฮีจะหวานก็หวานได้นี่
ให้เห็นเฮียหวานแค่นี้เหรอคะ ไม่นะ เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ
ผึ้งสมหวังซะทีน้า ดีค่ะ ลงเอยแบบนี้ดีแล้ว สมหวังกันหลายคู่เลย มีตอนพิเศษภัทกับ กัปตันบ้างก็ได่นะคะ
สงสารเธอ ตอนนี้เธอเริ่มมีรัศมีนางเอกหน่อยๆละ


getup 6 ส.ค. 2556, 19:59:18 น.
ขอบคุณค๊าบ ที่เขียนให้อ่านจนจบ สนุกมาก รอติดตามเป็นเล่มค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account