น้ำผึ้งบ้านไพร # ชุดนางฟ้าจำแลง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: จบแล้ว..
37.
“พอแล้วพี่หน่อง...” ตอนที่ภัทรินโทรกลับมานั้นวรรณศุกร์กับน้ำผึ้งเดินเล่นอยู่บนโป๊ะของรีสอร์ตริมแม่น้ำแม่กลอง เมื่อภัทรินบอกว่าจะประชุมสายวรรณศุกร์จึงส่งสัญญาณให้น้ำผึ้งเงียบก่อนจะกดเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งนั้นได้ยินข้อความระหว่างภัทรินกับคชาพัฒน์...
“ผึ้ง เสียงเธอลอดมาได้อย่างไรละเนี่ย” พอได้ยินเสียงน้ำผึ้งคชพัฒน์ก็เลื่อนโทรศัพท์มาดูหน้าจอ ตอนนั้นภัทรินหัวเราะขำกิ๊ก ๆ ...ที่สามารถแกล้งให้คชาพัฒน์เผยความในใจของน้ำผึ้งที่มีต่อวรรณศุกร์ออกมาได้แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้ภัทรินคือเธอไม่คิดว่า จะถูกวรรณศุกร์ซ้อน
แผนโดยการเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งได้ยินด้วย
“หมายความว่าไงผึ้ง ภัท”
“จะหมายความว่าไงละ คุณหนิงหน่อง ก็...หมายความว่า ฉันกับคุณศุกร์น่ะจบกันแล้ว แล้วตอนนี้ น้ำผึ้งก็เข้าไปแทนที่ฉันแล้ว ใช่ไหมคะศุกร์ขา”
“ใช่ครับ” เขาตอบยิ้ม ๆ น้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมา...
“แค่นี้ก่อนนะคะ ภัทต้องเข้างานแล้วค่ะ มีข่าวดีเมื่อไหร่ก็ส่งถึงภัทด้วยแล้วกัน จะกลับไปฉะกับหนิงหน่องที่บ้านไพรสักหน่อย ไปแล้วนะหน่อง แล้วเจอกันที่บ้านไพร...บาย”...ภัทรินกดตัดสายไปแล้ว คชาพัฒน์ยังถือโทรศัพท์ค้าง ส่วนประทินนั้นแม้จะไม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแต่เขาก็พอจับใจความได้ว่าตอนจบมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ คชาพัฒน์ถึงได้นั่งอึ้งแบบนี้...
“เป็นอะไรพี่หน่อง”
“เจอนังภัทมันย้อนเกล็ดให้นะซิ...ไอ้เทคโนโลยีนี่มัน...โอ้ย หน้าแหกหมดเลย”
“น่า ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป”
“อุ้ยถอดเสื้อแล้วเหรอ” คชาพัฒน์เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับใช้สายตาลวนลามประทินที่รีบผละหนีสายตาหื่น ๆ แบบนั้น
“พี่หน่องผมจะอาบน้ำแล้ว ขอตัวก่อนนะ” ประทินที่นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่รีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู คชาพัฒน์ล้มตัวลงนอนเอกเขนกแต่ก็ไม่วายส่งเสียตามไปแหย่ประทิน...
“ให้พี่ช่วยถูหลังให้ไหม ทิน ไม่ต้องกลัวพี่ลำบากใจหรือเหนื่อยยากหรอก”
“ไม่ต้องหรอกพี่ ขอบคุณมากครับ”
------------------
“ผึ้ง ๆ เดี๋ยวซิ” เมื่อสายของภัทรินกับคชาพัฒน์หลุดไปแล้วน้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ วรรณศุกร์ก็รีบเดินหนีเขาทันที วรรณศุกร์รีบร้องเรียกและตามไปรั้งแขนของน้ำผึ้งไว้..
“ผึ้งจะไปอาบน้ำ เหนียวตัว” น้ำผึ้งนั้นพักกับนัยนิต วรรณศุกร์พักคนเดียว คุณนายวรรณีพักกับสมานและวันนี้ตลอดการเดินทางคนขับรถตู้ที่เช่ามาก็เปิดหนังแผ่นให้ดู...กระทั่งถึงสมุทรสงครามก็เริ่มต้นไหว้พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหลวงพ่อวัดบ้านแหลม...ก่อนจะมาตระเวนไหว้พระในวัดดัง ๆ ที่เมืองอัมพวา เข้าพิพิธภัณฑ์ ร.2 เดินตลาดน้ำอัมพวา แล้วก็เข้าที่พัก เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่เรือจะ
มารับไปดูหิ่งห้อยในยามวิกาลแล้วก็กลับมาพักผ่อน...
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ตอนนั้นที่บนโป๊ะริมตลิ่งมีเขากับน้ำผึ้งเท่านั้น...
“จะคุยอะไรล่ะ...ผึ้งยังไม่อยากคุย” อันที่จริงน้ำผึ้งอยากฟังแต่ว่าเธอรู้สึกเขินหากว่า เขาจะสารภาพรักอย่างรวดเร็ว...
“คุยเรื่องที่ภัทเขาพูดทิ้งท้ายไว้ไง”
“เรื่องอะไรละคะ”
“เรื่องที่ว่าวันแต่งงานของเราเขาจะมา”
“ใครจะแต่งกับคุณศุกร์ล่ะ”
“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”
““ผึ้งยังเด็ก ยังต้องเรียนหนังสือ ยังไม่พร้อมจะมีแฟน””...น้ำผึ้งทวนสคลิปที่ท่องจำจนขึ้นใจ
แต่ว่าวรรณศุกร์ก็ย้ำคำถามเดิม...ตามแบบฉบับของผู้ใหญ่ที่เคยอยู่เหนือน้ำผึ้ง
“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”
“คุณศุกร์...” น้ำผึ้งไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมรวดเร็วอย่างนี้...
“ผึ้ง ฉันรู้มานานแล้วว่าเธอรักฉัน” ตอนนี้วรรณศุกร์จับต้นแขนทั้งสองข้างของน้ำผึ้งแล้วก้มดูใบหน้าที่ก้มของพร้อมกับหลุบตาลงมองที่ส่วนอกของเขา...วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวติดกระดุมเพียงแค่สามเม็ดจึงเผยให้เห็นไรขนที่หน้าอกใจของน้ำผึ้งสั่นหวิวทีเดียว
“รู้ได้อย่างไร” น้ำผึ้งพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ...
“มองหน้าฉันซิผึ้ง”
“ผึ้งอาย”
“ไม่มองเธอจะรู้ไหมว่าฉันคิดอย่างไรกับเธอ...”
ว่าแล้วน้ำผึ้งก็ค่อย ๆ เงยหน้าแล้วเปิดเปลือกตากว้างขึ้น...สายตาคู่นี้ของเขานั้นเคยเป็นสายตาของผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาแต่ว่าวันนี้มันกลายเป็นสายตาของหนุ่มน้อยนักรักที่สื่อออกมาว่าเสน่หา หวังพิชิตใจของน้ำผึ้งให้จงได้
น้ำผึ้งรู้สึกว่ามือของเขานั้นอุ่นขึ้น ๆ
“เห็นไหมว่าฉันรักเธอ”
“รักผึ้ง”
“อืม...รักน้ำผึ้งบ้านไพรคนนี้เหมือนที่เธอรักฉันนั่นแหละ”
“ผึ้งยังไม่ได้บอกเลยว่าผึ้งรักคุณศุกร์”
“แต่เธอบอกคนอื่นหมดแล้ว ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ไอ้ธิตมันบอกกับฉันว่าไอ้วัฒน์มันยังรู้เลยว่าผึ้งรักฉันมันถึงต้องถอยไปคบกับนงลักษณ์”
ใบหน้าของน้ำผึ้งแดงซ่านขึ้นมาสายตาที่สบกับตาคู่สวยของเขาจึงต้องเบือนหลบไปมองแม่น้ำ มองไปไกล ๆ ที่เห็นบ้านเรือนและเรือกสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
“สรุปว่าเธอรักฉันเหมือนกับที่ฉันรักเธอใช่ไหม”
“แล้วผึ้งจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณศุกร์พูดจริง ๆ”
“ฉันจบกับคุณภัทตั้งแต่วันนั้นแล้วผึ้ง วันที่ฉันไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แต่ว่าตอนนั้น ฉันเห็นว่าเธอสนิทชิดเชื้อกับนายเติ้ลฉันเลยไม่กล้าเดินหน้า แล้วฉันก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอนั้นมันอยู่สูงเกินกว่าที่ฉันจะสอยถึงอีกแล้ว...เพราะเธอต้องมีโอกาสเจอะเจอผู้คนอีกมากมาย ผิดกับฉันที่ต้องจมปลักอยู่ที่บ้านไพร”
“คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริงๆ เหรอคะ”
“ตอนที่มีภัท ฉันก็รู้สึกพิเศษ ๆ กับเธอแล้วแหละ เพียงแต่ว่าด้วยมโนธรรม ฉันจึงต้องหักห้ามใจ ฉันหึง ฉันห่วง ฉันหวง ฉันกลัวว่าเธอจะพลาดท่าเสียทีให้กับสารวัตรทะนงศักดิ์ หรือดีใจได้ปลื้มไปกับไอ้ธิต และไอ้วัฒน์ตอนที่มันยังเดินหน้าจีบเธอ ลึก ๆ ฉันดีใจที่เธอหลุดพ้นจากก้องเกียรตินักรักบ้าระห่ำนั่นด้วย”
“แต่คุณศุกร์ก็ยังเป็นพ่อสื่อให้เขา...”
“จะให้ฉันทำอย่างไรได้ล่ะ...ฉันไม่ได้เต็มใจสักนิด แต่ฉัน...ผึ้งก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนตัวเปล่า”
“แล้วตอนนี้คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริง ๆ เหรอคะ”น้ำผึ้งหวนกลับไปถามคำถามที่เขายังไม่ตอบ
วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ใบหน้าเขายังอมยิ้มบาง ๆ อยู่เช่นเดิม
“ลืมสนิท และลืมเขาตั้งนานแล้ว”
“แล้วทำไมคุณศุกร์ถึงยังต้องเศร้า”
“ก็ฉันคิดถึงเธอ...”
น้ำผึ้งหันมาสบตาของเขาแล้วก็ยิ้มบาง ๆ
“แล้วทำไมไม่โทรหาผึ้งล่ะ”
“ฉันแก่แล้ว ฉันอาย ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ฉันไม่อยากรั้งเธอไว้ ฉันรู้ว่าอนาคตของเธอนั้นอีกยาวไกล ฉันก็เลย ก็เลยเก็บความคิดถึงไว้ เก็บวันดี ๆ ของเราไว้ในใจ ฉันเปิดคลิปตอนที่เราเล่นขิมด้วยกันที่งานวันเกิดฟังทุกคืนเลยนะ”
“จริง ๆ เหรอคะ”
“หลักฐานก็อยู่ในโทรศัพท์นี่ไง จะดูไหมละ ฉันโหลดมาเก็บไว้...ก่อนนอนฉันก็เปิดวนไปวนมา...ตอนไปไหว้หลวงพ่อหินฉันก็อธิษฐานนะ ขอให้เธออย่าได้เปลี่ยนใจจากฉัน ให้รักฉันเหมือนเดิม เพราะอย่างไรฉันก็จะรอเธออยู่ที่บ้านไพร”
“แล้วถ้าผึ้งมีคนอื่นล่ะ คุณศุกร์จะทำอย่างไร”
“ฉันก็คงเป็นหนุ่มโสดที่พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติแล้วถ้าวันหนึ่งแม่ฉันไม่อยู่ฉันอาจจะออกบวช”
“ขนาดนั้นเลย”
“ซักอะไรจังเลย เมื่อก่อนไม่เห็นซักอย่างนี้”
“ก็ตอนนั้น ผึ้งยังไร้เดียงสานี่คะ...ตอนนี้ผึ้งยี่สิบแล้วนะ...”
“เป็นแม่คนได้แล้ว”
“ยังหรอกค่ะเรียนให้จบก่อน...ผึ้งอยากได้ปริญญาตรีไม่อยากให้ใครมาว่าสวยแต่โง่ แล้วผึ้งก็อยากทำในสิ่งที่ผึ้งอยากทำที่สุดอีกอย่างค่ะ”
“ทำอะไร”
“ผึ้งอยากเปิดร้านเบเกอรี่ตามที่คุณศุกร์เคยแนะนำผึ้ง” ก่อนหน้านั้นน้ำผึ้งได้ตัดสินใจซื้อตึกแถวที่กำลังก่อสร้างทิ้งไว้เพราะคิดไว้ว่าวันหนึ่งงานในวงการบันเทิงเป็นช่วงขาลงจนหมดงานเหมือนรุ่นพี่นางงามบางคน เธอก็จะกลับมาเดินตามทางที่เคยฝันไว้...เพราะฝันครั้งนั้นมีเขาเป็นคนจุดประกายทำให้หนทางที่มืดมนนั้นสว่างไสวขึ้นมา
“รู้ไหมคะว่าทำไมผึ้งถึงอยากเปิดร้านเบเกอรี่”
“ถ้าตอบถูกจะให้รางวัลเป็นอะไร”
“ตอบมาค่ะ”
“รางวัลเป็นอะไรล่ะ”
น้ำผึ้งกลอกตาไปมา...แม้ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเขินอายกับสายตากรุ้มกริ่มของเขา...เธอก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่า เขาเป็นคนอย่างนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นในความรู้สึกของเธอ เขาเป็นผู้ชายนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึกได้เก่ง ดูเหมือนจะไร้อารมณ์ด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ เธอคิดว่าเธอมองคนผิดเสียแล้ว...
“ตอบมาก่อน” น้ำผึ้งเล่นตัวบ้าง
“เพราะฉันเคยแนะนำเธอ ฉันจำได้ว่าฉันคุยอะไรกับเธอไว้ ฉันยังไม่แก่จนเลอะเลือน”
“เมื่อกี้บอกผึ้งว่าแก่แล้วลืมหรือเปล่า”
“หรือแก่แล้วจริง ๆ หว่า ถึงได้หลง ๆ ลืม ๆ”
“แก่แล้ว”
“แล้วรักคนแก่ไหมล่ะ”
“เราห่างกันกี่ปีนะคะ”
“สิบสี่ปี...ไม่เยอะหรอก หลังเธอเรียนจบฉันก็สามสิบแปด ก็ยังไม่แก่ เพราะฝรั่งเขาบอกว่าผู้ชายเริ่มต้นที่อายุสี่สิบ”
“หลังเรียนจบจะอะไรคะ”
“หลังเธอเรียนจบเราก็จะแต่งงานกัน”
“อีกตั้งนานคุณศุกร์ไม่เหงาแย่เลยเหรอ”
“ไม่เหงาหรอก...เพราะฉันไม่ต้องคิดถึงแต่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว...ฉันไปหาเธอที่กรุงเทพได้ทุกสัปดาห์ด้วยนะ”
“ให้จริง ๆ เถอะ”
“อย่ามีเงื่อนไขให้ต้องลำบากใจเลยดีกว่า เอาแต่สะดวกดีกว่าเนอะ ลืมไปว่า เธอไม่ได้ทำงานออฟฟิศ”
“ค่ะ”
“ตกลงรักฉันหรือเปล่า”
“ผึ้งยังไม่ได้บอกเหรอคะว่ารู้สึกอย่างไรกับคุณศุกร์”
“ยังนะ รอฟังอยู่”
“ผึ้งรู้สึกว่ามันไม่โรแมนติกเลย”
“แบบไหนถึงจะเรียกว่าโรแมนติกล่ะ”
“ให้คุกเข่าไหม” ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับจับมือน้ำผึ้ง แต่น้ำผึ้งรีบทรุดตัวลงจับมือเขาไว้ เพราะรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงระเบียงของร้านอาหารนั้นมองลงมาตรงจุดที่เธอยืนอยู่กับเขาอย่างแน่นอน...
“ลุก ๆ เลยค่ะ”
“ลุกก็ได้...”
พอทั้งคู่ลุกขึ้นยืนแล้ว...ที่ตลิ่งก็มีเสียงเรียกของน้ำหวานกับน้ำต้อย...ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง...
“คุณศุกร์ พี่ผึ้ง พี่นัยนิตให้มาตามไปกินข้าวครับ”
“เดี๋ยวตามไปครับ” วรรณศุกร์ร้องบอกโดยที่มือสองข้างของเขายังจับที่มือทั้งสองข้างของน้ำผึ้งไว้...
เด็กสองคนหมุนตัวเดินกลับไป...น้ำผึ้งจะผละเดินตามน้องไปแต่ว่าวรรณศุกร์ยังรั้งไว้...
“ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมผึ้ง”
“ค่ะ”
“ต่อไปสุขทุกข์ของผึ้งจะเป็นสุขทุกข์ของฉันด้วยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“งั้นเราไปกินข้าวกัน ฉันหิวแล้ว”
“ผึ้งก็หิวแล้ว ไปค่ะ...ที่รัก” ว่าแล้วน้ำผึ้งก็เป็นฝ่ายจับมือของเราเดินตามสะพานที่ทอดจากตลิ่งมายังโป๊ะท่าเรือที่ยืนเปิดเผยความในใจที่มีต่อกัน และเมื่อเดินไปถึงตลิ่งแล้วน้ำผึ้งก็หันกลับไปมองที่โป๊ะท่าเรืออีกครั้ง...ก่อนจะถามวรรณศุกร์ที่หยุดมองตรงตามสายตาน้ำผึ้งบ้าง
“มองอะไร”
“เมื่อกี้คุณศุกร์ไม่ได้เมาคลื่นใช่ไหมคะ”
วรรณศุกร์ทำหน้าปั้นยากก่อนจะโอบเอวน้ำผึ้งแล้วเดินเคียงกันเข้าไปยังส่วนที่เป็นร้านอาหารของ รีสอร์ตเพื่อประกาศให้คนที่นั่งรออยู่ รับรู้ทางอ้อมว่าบัดนี้ ทริปกระชับหัวใจนั้นสำเร็จไปตามแผนการแล้ว
---------เหะ เหะ -------ตอนพิเศษ จะมาเมื่อไหร่ดีนะ
“พอแล้วพี่หน่อง...” ตอนที่ภัทรินโทรกลับมานั้นวรรณศุกร์กับน้ำผึ้งเดินเล่นอยู่บนโป๊ะของรีสอร์ตริมแม่น้ำแม่กลอง เมื่อภัทรินบอกว่าจะประชุมสายวรรณศุกร์จึงส่งสัญญาณให้น้ำผึ้งเงียบก่อนจะกดเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งนั้นได้ยินข้อความระหว่างภัทรินกับคชาพัฒน์...
“ผึ้ง เสียงเธอลอดมาได้อย่างไรละเนี่ย” พอได้ยินเสียงน้ำผึ้งคชพัฒน์ก็เลื่อนโทรศัพท์มาดูหน้าจอ ตอนนั้นภัทรินหัวเราะขำกิ๊ก ๆ ...ที่สามารถแกล้งให้คชาพัฒน์เผยความในใจของน้ำผึ้งที่มีต่อวรรณศุกร์ออกมาได้แต่ที่สร้างความประหลาดใจให้ภัทรินคือเธอไม่คิดว่า จะถูกวรรณศุกร์ซ้อน
แผนโดยการเปิดลำโพงให้น้ำผึ้งได้ยินด้วย
“หมายความว่าไงผึ้ง ภัท”
“จะหมายความว่าไงละ คุณหนิงหน่อง ก็...หมายความว่า ฉันกับคุณศุกร์น่ะจบกันแล้ว แล้วตอนนี้ น้ำผึ้งก็เข้าไปแทนที่ฉันแล้ว ใช่ไหมคะศุกร์ขา”
“ใช่ครับ” เขาตอบยิ้ม ๆ น้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หน้าเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมา...
“แค่นี้ก่อนนะคะ ภัทต้องเข้างานแล้วค่ะ มีข่าวดีเมื่อไหร่ก็ส่งถึงภัทด้วยแล้วกัน จะกลับไปฉะกับหนิงหน่องที่บ้านไพรสักหน่อย ไปแล้วนะหน่อง แล้วเจอกันที่บ้านไพร...บาย”...ภัทรินกดตัดสายไปแล้ว คชาพัฒน์ยังถือโทรศัพท์ค้าง ส่วนประทินนั้นแม้จะไม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดแต่เขาก็พอจับใจความได้ว่าตอนจบมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่ ๆ คชาพัฒน์ถึงได้นั่งอึ้งแบบนี้...
“เป็นอะไรพี่หน่อง”
“เจอนังภัทมันย้อนเกล็ดให้นะซิ...ไอ้เทคโนโลยีนี่มัน...โอ้ย หน้าแหกหมดเลย”
“น่า ค่อย ๆ เรียนรู้กันไป”
“อุ้ยถอดเสื้อแล้วเหรอ” คชาพัฒน์เปลี่ยนเรื่องพร้อมกับใช้สายตาลวนลามประทินที่รีบผละหนีสายตาหื่น ๆ แบบนั้น
“พี่หน่องผมจะอาบน้ำแล้ว ขอตัวก่อนนะ” ประทินที่นุ่งผ้าเช็ดตัวอยู่รีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตู คชาพัฒน์ล้มตัวลงนอนเอกเขนกแต่ก็ไม่วายส่งเสียตามไปแหย่ประทิน...
“ให้พี่ช่วยถูหลังให้ไหม ทิน ไม่ต้องกลัวพี่ลำบากใจหรือเหนื่อยยากหรอก”
“ไม่ต้องหรอกพี่ ขอบคุณมากครับ”
------------------
“ผึ้ง ๆ เดี๋ยวซิ” เมื่อสายของภัทรินกับคชาพัฒน์หลุดไปแล้วน้ำผึ้งที่ยืนอยู่ข้าง ๆ วรรณศุกร์ก็รีบเดินหนีเขาทันที วรรณศุกร์รีบร้องเรียกและตามไปรั้งแขนของน้ำผึ้งไว้..
“ผึ้งจะไปอาบน้ำ เหนียวตัว” น้ำผึ้งนั้นพักกับนัยนิต วรรณศุกร์พักคนเดียว คุณนายวรรณีพักกับสมานและวันนี้ตลอดการเดินทางคนขับรถตู้ที่เช่ามาก็เปิดหนังแผ่นให้ดู...กระทั่งถึงสมุทรสงครามก็เริ่มต้นไหว้พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหลวงพ่อวัดบ้านแหลม...ก่อนจะมาตระเวนไหว้พระในวัดดัง ๆ ที่เมืองอัมพวา เข้าพิพิธภัณฑ์ ร.2 เดินตลาดน้ำอัมพวา แล้วก็เข้าที่พัก เพื่ออาบน้ำเตรียมตัวรับประทานอาหารเย็น ก่อนที่เรือจะ
มารับไปดูหิ่งห้อยในยามวิกาลแล้วก็กลับมาพักผ่อน...
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน” ตอนนั้นที่บนโป๊ะริมตลิ่งมีเขากับน้ำผึ้งเท่านั้น...
“จะคุยอะไรล่ะ...ผึ้งยังไม่อยากคุย” อันที่จริงน้ำผึ้งอยากฟังแต่ว่าเธอรู้สึกเขินหากว่า เขาจะสารภาพรักอย่างรวดเร็ว...
“คุยเรื่องที่ภัทเขาพูดทิ้งท้ายไว้ไง”
“เรื่องอะไรละคะ”
“เรื่องที่ว่าวันแต่งงานของเราเขาจะมา”
“ใครจะแต่งกับคุณศุกร์ล่ะ”
“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”
““ผึ้งยังเด็ก ยังต้องเรียนหนังสือ ยังไม่พร้อมจะมีแฟน””...น้ำผึ้งทวนสคลิปที่ท่องจำจนขึ้นใจ
แต่ว่าวรรณศุกร์ก็ย้ำคำถามเดิม...ตามแบบฉบับของผู้ใหญ่ที่เคยอยู่เหนือน้ำผึ้ง
“หรือผึ้งไม่ได้รักฉัน”
“คุณศุกร์...” น้ำผึ้งไม่คิดว่าเขาจะจู่โจมรวดเร็วอย่างนี้...
“ผึ้ง ฉันรู้มานานแล้วว่าเธอรักฉัน” ตอนนี้วรรณศุกร์จับต้นแขนทั้งสองข้างของน้ำผึ้งแล้วก้มดูใบหน้าที่ก้มของพร้อมกับหลุบตาลงมองที่ส่วนอกของเขา...วันนี้เขาใส่เสื้อเชิ้ตพอดีตัวติดกระดุมเพียงแค่สามเม็ดจึงเผยให้เห็นไรขนที่หน้าอกใจของน้ำผึ้งสั่นหวิวทีเดียว
“รู้ได้อย่างไร” น้ำผึ้งพยายามฝืนน้ำเสียงให้เป็นปกติ...
“มองหน้าฉันซิผึ้ง”
“ผึ้งอาย”
“ไม่มองเธอจะรู้ไหมว่าฉันคิดอย่างไรกับเธอ...”
ว่าแล้วน้ำผึ้งก็ค่อย ๆ เงยหน้าแล้วเปิดเปลือกตากว้างขึ้น...สายตาคู่นี้ของเขานั้นเคยเป็นสายตาของผู้ใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาแต่ว่าวันนี้มันกลายเป็นสายตาของหนุ่มน้อยนักรักที่สื่อออกมาว่าเสน่หา หวังพิชิตใจของน้ำผึ้งให้จงได้
น้ำผึ้งรู้สึกว่ามือของเขานั้นอุ่นขึ้น ๆ
“เห็นไหมว่าฉันรักเธอ”
“รักผึ้ง”
“อืม...รักน้ำผึ้งบ้านไพรคนนี้เหมือนที่เธอรักฉันนั่นแหละ”
“ผึ้งยังไม่ได้บอกเลยว่าผึ้งรักคุณศุกร์”
“แต่เธอบอกคนอื่นหมดแล้ว ใคร ๆ ก็รู้กันทั้งนั้น ไอ้ธิตมันบอกกับฉันว่าไอ้วัฒน์มันยังรู้เลยว่าผึ้งรักฉันมันถึงต้องถอยไปคบกับนงลักษณ์”
ใบหน้าของน้ำผึ้งแดงซ่านขึ้นมาสายตาที่สบกับตาคู่สวยของเขาจึงต้องเบือนหลบไปมองแม่น้ำ มองไปไกล ๆ ที่เห็นบ้านเรือนและเรือกสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวขจี
“สรุปว่าเธอรักฉันเหมือนกับที่ฉันรักเธอใช่ไหม”
“แล้วผึ้งจะเชื่อได้อย่างไรว่าคุณศุกร์พูดจริง ๆ”
“ฉันจบกับคุณภัทตั้งแต่วันนั้นแล้วผึ้ง วันที่ฉันไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาล แต่ว่าตอนนั้น ฉันเห็นว่าเธอสนิทชิดเชื้อกับนายเติ้ลฉันเลยไม่กล้าเดินหน้า แล้วฉันก็รู้สึกว่าชีวิตของเธอนั้นมันอยู่สูงเกินกว่าที่ฉันจะสอยถึงอีกแล้ว...เพราะเธอต้องมีโอกาสเจอะเจอผู้คนอีกมากมาย ผิดกับฉันที่ต้องจมปลักอยู่ที่บ้านไพร”
“คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริงๆ เหรอคะ”
“ตอนที่มีภัท ฉันก็รู้สึกพิเศษ ๆ กับเธอแล้วแหละ เพียงแต่ว่าด้วยมโนธรรม ฉันจึงต้องหักห้ามใจ ฉันหึง ฉันห่วง ฉันหวง ฉันกลัวว่าเธอจะพลาดท่าเสียทีให้กับสารวัตรทะนงศักดิ์ หรือดีใจได้ปลื้มไปกับไอ้ธิต และไอ้วัฒน์ตอนที่มันยังเดินหน้าจีบเธอ ลึก ๆ ฉันดีใจที่เธอหลุดพ้นจากก้องเกียรตินักรักบ้าระห่ำนั่นด้วย”
“แต่คุณศุกร์ก็ยังเป็นพ่อสื่อให้เขา...”
“จะให้ฉันทำอย่างไรได้ล่ะ...ฉันไม่ได้เต็มใจสักนิด แต่ฉัน...ผึ้งก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนตัวเปล่า”
“แล้วตอนนี้คุณศุกร์ลืมคุณภัทได้แล้วจริง ๆ เหรอคะ”น้ำผึ้งหวนกลับไปถามคำถามที่เขายังไม่ตอบ
วรรณศุกร์ถอนหายใจเบา ๆ แต่ใบหน้าเขายังอมยิ้มบาง ๆ อยู่เช่นเดิม
“ลืมสนิท และลืมเขาตั้งนานแล้ว”
“แล้วทำไมคุณศุกร์ถึงยังต้องเศร้า”
“ก็ฉันคิดถึงเธอ...”
น้ำผึ้งหันมาสบตาของเขาแล้วก็ยิ้มบาง ๆ
“แล้วทำไมไม่โทรหาผึ้งล่ะ”
“ฉันแก่แล้ว ฉันอาย ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ฉันไม่อยากรั้งเธอไว้ ฉันรู้ว่าอนาคตของเธอนั้นอีกยาวไกล ฉันก็เลย ก็เลยเก็บความคิดถึงไว้ เก็บวันดี ๆ ของเราไว้ในใจ ฉันเปิดคลิปตอนที่เราเล่นขิมด้วยกันที่งานวันเกิดฟังทุกคืนเลยนะ”
“จริง ๆ เหรอคะ”
“หลักฐานก็อยู่ในโทรศัพท์นี่ไง จะดูไหมละ ฉันโหลดมาเก็บไว้...ก่อนนอนฉันก็เปิดวนไปวนมา...ตอนไปไหว้หลวงพ่อหินฉันก็อธิษฐานนะ ขอให้เธออย่าได้เปลี่ยนใจจากฉัน ให้รักฉันเหมือนเดิม เพราะอย่างไรฉันก็จะรอเธออยู่ที่บ้านไพร”
“แล้วถ้าผึ้งมีคนอื่นล่ะ คุณศุกร์จะทำอย่างไร”
“ฉันก็คงเป็นหนุ่มโสดที่พรั่งพร้อมไปด้วยทรัพย์สมบัติแล้วถ้าวันหนึ่งแม่ฉันไม่อยู่ฉันอาจจะออกบวช”
“ขนาดนั้นเลย”
“ซักอะไรจังเลย เมื่อก่อนไม่เห็นซักอย่างนี้”
“ก็ตอนนั้น ผึ้งยังไร้เดียงสานี่คะ...ตอนนี้ผึ้งยี่สิบแล้วนะ...”
“เป็นแม่คนได้แล้ว”
“ยังหรอกค่ะเรียนให้จบก่อน...ผึ้งอยากได้ปริญญาตรีไม่อยากให้ใครมาว่าสวยแต่โง่ แล้วผึ้งก็อยากทำในสิ่งที่ผึ้งอยากทำที่สุดอีกอย่างค่ะ”
“ทำอะไร”
“ผึ้งอยากเปิดร้านเบเกอรี่ตามที่คุณศุกร์เคยแนะนำผึ้ง” ก่อนหน้านั้นน้ำผึ้งได้ตัดสินใจซื้อตึกแถวที่กำลังก่อสร้างทิ้งไว้เพราะคิดไว้ว่าวันหนึ่งงานในวงการบันเทิงเป็นช่วงขาลงจนหมดงานเหมือนรุ่นพี่นางงามบางคน เธอก็จะกลับมาเดินตามทางที่เคยฝันไว้...เพราะฝันครั้งนั้นมีเขาเป็นคนจุดประกายทำให้หนทางที่มืดมนนั้นสว่างไสวขึ้นมา
“รู้ไหมคะว่าทำไมผึ้งถึงอยากเปิดร้านเบเกอรี่”
“ถ้าตอบถูกจะให้รางวัลเป็นอะไร”
“ตอบมาค่ะ”
“รางวัลเป็นอะไรล่ะ”
น้ำผึ้งกลอกตาไปมา...แม้ถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกเขินอายกับสายตากรุ้มกริ่มของเขา...เธอก็เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่า เขาเป็นคนอย่างนี้ ทั้งที่เมื่อก่อนนั้นในความรู้สึกของเธอ เขาเป็นผู้ชายนิ่ง ๆ เก็บความรู้สึกได้เก่ง ดูเหมือนจะไร้อารมณ์ด้วยซ้ำ แต่ว่าตอนนี้ เธอคิดว่าเธอมองคนผิดเสียแล้ว...
“ตอบมาก่อน” น้ำผึ้งเล่นตัวบ้าง
“เพราะฉันเคยแนะนำเธอ ฉันจำได้ว่าฉันคุยอะไรกับเธอไว้ ฉันยังไม่แก่จนเลอะเลือน”
“เมื่อกี้บอกผึ้งว่าแก่แล้วลืมหรือเปล่า”
“หรือแก่แล้วจริง ๆ หว่า ถึงได้หลง ๆ ลืม ๆ”
“แก่แล้ว”
“แล้วรักคนแก่ไหมล่ะ”
“เราห่างกันกี่ปีนะคะ”
“สิบสี่ปี...ไม่เยอะหรอก หลังเธอเรียนจบฉันก็สามสิบแปด ก็ยังไม่แก่ เพราะฝรั่งเขาบอกว่าผู้ชายเริ่มต้นที่อายุสี่สิบ”
“หลังเรียนจบจะอะไรคะ”
“หลังเธอเรียนจบเราก็จะแต่งงานกัน”
“อีกตั้งนานคุณศุกร์ไม่เหงาแย่เลยเหรอ”
“ไม่เหงาหรอก...เพราะฉันไม่ต้องคิดถึงแต่เพียงฝ่ายเดียวแล้ว...ฉันไปหาเธอที่กรุงเทพได้ทุกสัปดาห์ด้วยนะ”
“ให้จริง ๆ เถอะ”
“อย่ามีเงื่อนไขให้ต้องลำบากใจเลยดีกว่า เอาแต่สะดวกดีกว่าเนอะ ลืมไปว่า เธอไม่ได้ทำงานออฟฟิศ”
“ค่ะ”
“ตกลงรักฉันหรือเปล่า”
“ผึ้งยังไม่ได้บอกเหรอคะว่ารู้สึกอย่างไรกับคุณศุกร์”
“ยังนะ รอฟังอยู่”
“ผึ้งรู้สึกว่ามันไม่โรแมนติกเลย”
“แบบไหนถึงจะเรียกว่าโรแมนติกล่ะ”
“ให้คุกเข่าไหม” ว่าแล้วเขาก็คุกเข่าลงพร้อมกับจับมือน้ำผึ้ง แต่น้ำผึ้งรีบทรุดตัวลงจับมือเขาไว้ เพราะรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ตรงระเบียงของร้านอาหารนั้นมองลงมาตรงจุดที่เธอยืนอยู่กับเขาอย่างแน่นอน...
“ลุก ๆ เลยค่ะ”
“ลุกก็ได้...”
พอทั้งคู่ลุกขึ้นยืนแล้ว...ที่ตลิ่งก็มีเสียงเรียกของน้ำหวานกับน้ำต้อย...ทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง...
“คุณศุกร์ พี่ผึ้ง พี่นัยนิตให้มาตามไปกินข้าวครับ”
“เดี๋ยวตามไปครับ” วรรณศุกร์ร้องบอกโดยที่มือสองข้างของเขายังจับที่มือทั้งสองข้างของน้ำผึ้งไว้...
เด็กสองคนหมุนตัวเดินกลับไป...น้ำผึ้งจะผละเดินตามน้องไปแต่ว่าวรรณศุกร์ยังรั้งไว้...
“ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมผึ้ง”
“ค่ะ”
“ต่อไปสุขทุกข์ของผึ้งจะเป็นสุขทุกข์ของฉันด้วยใช่ไหม”
“ค่ะ”
“งั้นเราไปกินข้าวกัน ฉันหิวแล้ว”
“ผึ้งก็หิวแล้ว ไปค่ะ...ที่รัก” ว่าแล้วน้ำผึ้งก็เป็นฝ่ายจับมือของเราเดินตามสะพานที่ทอดจากตลิ่งมายังโป๊ะท่าเรือที่ยืนเปิดเผยความในใจที่มีต่อกัน และเมื่อเดินไปถึงตลิ่งแล้วน้ำผึ้งก็หันกลับไปมองที่โป๊ะท่าเรืออีกครั้ง...ก่อนจะถามวรรณศุกร์ที่หยุดมองตรงตามสายตาน้ำผึ้งบ้าง
“มองอะไร”
“เมื่อกี้คุณศุกร์ไม่ได้เมาคลื่นใช่ไหมคะ”
วรรณศุกร์ทำหน้าปั้นยากก่อนจะโอบเอวน้ำผึ้งแล้วเดินเคียงกันเข้าไปยังส่วนที่เป็นร้านอาหารของ รีสอร์ตเพื่อประกาศให้คนที่นั่งรออยู่ รับรู้ทางอ้อมว่าบัดนี้ ทริปกระชับหัวใจนั้นสำเร็จไปตามแผนการแล้ว
---------เหะ เหะ -------ตอนพิเศษ จะมาเมื่อไหร่ดีนะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2556, 01:17:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2556, 01:17:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 2378
<< 36.2 แม่พี่เลี้ยงนางงามภูธร | บทสรุปแห่งรัก >> |

คิมหันตุ์ 6 ส.ค. 2556, 01:51:16 น.
ที่รู้ๆ....วันนี้มาแปลกมากค่ะ.....รุ่งเช้าาาาาาาาาาาาาาาม๊าก
ที่รู้ๆ....วันนี้มาแปลกมากค่ะ.....รุ่งเช้าาาาาาาาาาาาาาาม๊าก

nateetip 6 ส.ค. 2556, 01:52:32 น.
อ้ายยยยย ตอนอ่านถึงคุณศุกร์คุกเข่า มีแอบกรี้ดเลย
ถ้าไม่ติดว่าทำงานอยู่ ลงไปดิ้นหล่ะ..อิอิ เขินแทน
ป.ล. เอาอีกนิดได้ไหมคะ หวานๆแบบเนี้ย
เอาหวานทั้งบทเลยนะคะ รักคุณเฟื่องที่สุด จุ๊บจุ๊บ
อ้ายยยยย ตอนอ่านถึงคุณศุกร์คุกเข่า มีแอบกรี้ดเลย
ถ้าไม่ติดว่าทำงานอยู่ ลงไปดิ้นหล่ะ..อิอิ เขินแทน
ป.ล. เอาอีกนิดได้ไหมคะ หวานๆแบบเนี้ย
เอาหวานทั้งบทเลยนะคะ รักคุณเฟื่องที่สุด จุ๊บจุ๊บ


เดิมเดิม 6 ส.ค. 2556, 08:19:07 น.
ตอนพิเศษมาวันนี้เลยนะคะ นะ
ตอนพิเศษมาวันนี้เลยนะคะ นะ

Zephyr 6 ส.ค. 2556, 18:06:49 น.
เมื่อไรเหรอคะ ตอนนี้ค่ะ เชียร์ อิอิ
วันนี้ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ มะรืน เท่านี้ค่ะ เกินกว่านี้นะคุณเฟื่อง
หึหึหึหึหึหึหึหึ แสยะๆๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฮีจะหวานก็หวานได้นี่
ให้เห็นเฮียหวานแค่นี้เหรอคะ ไม่นะ เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ
ผึ้งสมหวังซะทีน้า ดีค่ะ ลงเอยแบบนี้ดีแล้ว สมหวังกันหลายคู่เลย มีตอนพิเศษภัทกับ กัปตันบ้างก็ได่นะคะ
สงสารเธอ ตอนนี้เธอเริ่มมีรัศมีนางเอกหน่อยๆละ
เมื่อไรเหรอคะ ตอนนี้ค่ะ เชียร์ อิอิ
วันนี้ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ มะรืน เท่านี้ค่ะ เกินกว่านี้นะคุณเฟื่อง
หึหึหึหึหึหึหึหึ แสยะๆๆๆๆๆ
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ฮีจะหวานก็หวานได้นี่
ให้เห็นเฮียหวานแค่นี้เหรอคะ ไม่นะ เอาอีกๆๆๆๆๆๆๆ
ผึ้งสมหวังซะทีน้า ดีค่ะ ลงเอยแบบนี้ดีแล้ว สมหวังกันหลายคู่เลย มีตอนพิเศษภัทกับ กัปตันบ้างก็ได่นะคะ
สงสารเธอ ตอนนี้เธอเริ่มมีรัศมีนางเอกหน่อยๆละ
