บ่วงรักแรงอธิษฐาน
รักในปัจจุบันผูกพันกับรักที่ปวดร้าวในอดีตชาติ
คำอธิษฐานและบุพเพสันนิวาสนำเขาและเธอกลับมาพบกันอีกครั้ง
แต่จะทำเช่นไรเมื่อหนึ่งคือเพื่อนรักที่ยอมสละชีพเพื่อเราและหนึ่งคือยอดดวงใจที่เฝ้ารักเฝ้ารอมาหลายภพชาติ
Tags: ย้อนอดีต ระลึกชาติ บุพเพสันนิวาส

ตอน: ตอนที่ 23 หัวใจอุ่นไอรัก (ตอนจบ)


“คุณผู้ชมคะ ถึงแม้นั่นจะเป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว แต่มันจะตราตรึงในหัวใจของพวกเราทุกคนตลอดไป สิ่งหนึ่งที่ปิ่นอยากให้คนไทยทุกคนตระหนักให้มาก นั่นคือความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ว่าจะเกิดในภาคไหน เหนือ อีสาน ใต้ กลาง ตะวันออกหรือตะวันตก ก็คนไทยด้วยกัน การเรียกร้องที่เกือบจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกถ้าคนไทยรู้จักเอาใจใส่ดูแลกันและกัน

ปิ่นขอเรียกร้องไปยังท่านผู้ใหญ่ และผู้บังคับใช้กฎหมายบ้านเมือง วันนี้เราได้ทราบสาเหตุที่แท้จริงส่วนหนึ่งของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นรายวัน ว่าไม่ใช่การสร้างเงื่อนไขที่จะนำไปสู่ความรุนแรง หากแต่เป็นการเรียกร้องหาความยุติธรรมให้กับพวกพ้องผู้บริสุทธิ์เท่านั้น จากนี้ไป การจะกระทำการสิ่งใดลงไปในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ควรจะต้องรอบคอบและคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ให้มากขึ้น อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของพวกเราทุกคน ปิ่นปัทมา ธนกิจดำรงวัฒน์ รายงาน”

‘สกู๊ปพิเศษสานสัมพันธ์ภาคใต้ตอนที่หนึ่ง’ ถูกตัดต่อแล้วเรียบร้อยพร้อมจะออกอากาศในวันพรุ่งนี้ โชคดีที่กล้องวีดีโอของปิ่นปัทมาเก็บภาพเหตุการณ์เอาไว้ได้เมื่อนำมาตัดต่อกับภาพที่ถ่ายเพิ่มเติมจากสถานที่จริงจึงกลายเป็นสกู๊ปข่าวที่น่าสนใจ ประกอบด้วยข้อมูลที่ชัดเจนทั้งภาพ เสียง และบริบทอื่นๆ อันเป็นดังอีกหนึ่งแสงแห่งความหวังที่จะนำพาความสงบสุขกลับมาสู่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้

สองหนุ่มเช็คความเรียบร้อยของสกู๊ปอีกครั้ง ส่วนสองสาวเข้าห้องหายเงียบไปแล้วสักพัก แผลที่หัวไหล่ของปราณยังไม่แห้งสนิทแต่ก็เคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวกแล้ว

“ปิดทีวีได้แล้ว ไปเล่นน้ำกันดีกว่าหนุ่มๆ”

เจ้าของแผ่นหลังนวลเนียนในชุดว่ายน้ำทูพีช มีผ้าบาติคผืนบาง ห่อหุ้มท่อนล่างปิดบังส่วนเว้าและส่วนโค้งเอาไว้เพียงหมิ่นเหม่ ที่ลำคอขาวสล้างงามระหงแขวนสร้อยทองเหลืองเส้นเล็กพร้อมจี้เอาไว้ เอื้อมมือปิดโทรทัศน์ก่อนหันมาโชว์ความสวยแบบเต็มตา ดวงหน้าสวยนั้นอมยิ้มอยู่ในทีอย่างผู้กำชัยเมื่อพบว่าสองหนุ่มที่กำลังปลาบปลื้มกับผลงานของตนต้องตกตะลึงอ้าปากค้างไปตามๆ กัน ..สวยล่ะสิท่า..

“ไปเล่นน้ำกันดีกว่าไหม วันนี้พระจันทร์เต็มดวงสวยมากเลย”

“ยาย...หมี...ดำ...” ผู้หมวดหนุ่มจอมทะเล้นรำพึงเบาๆ มองตามคนสวยเจ็บสวยปวดที่วิ่งจากไปตาไม่กระพริบ น้องปิ่นในชุดว่ายน้ำแบบเดียวกันยืนเจี๋ยมเจี้ยมแอบหลบแสงไฟอยู่ตรงพุ่มไม้ไกลๆ ส่งยิ้มสบตาพี่ปราณ แล้วสองสาวก็วิ่งลงทะเลดำผุดดำว่ายสบายอุรา แสงจันทร์สีนวลสะท้อนฟองคลื่นที่ซาดซัดเป็นระลอกอยู่ครืนๆ

“ฉันชอบเล่นน้ำกลางคืนมากเลยเพื่อน...ไปเร็ว...”




เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ ได้ผ่านพ้นไป ความสุขสงบก็กลับเข้ามาสู่ชีวิตอีกครั้ง และผลกำไรจากการลงทุนไปทั้งชีวิตก็หอมหวานคุ้มค่าเกินประมาณ วันนี้...ถึงเวลาที่คู่รักคู่ใหม่ได้เปิดใจยอมรับกันและกัน เวลาทุกนาทีนับจากนี้จะเป็นเวลาที่ทั้งสองจะได้เรียนรู้ และปรับตัวเข้าหากันในฐานะใหม่ที่แตกต่างจากที่เคยเป็นมา ร่วมกันบ่มเพาะ ดูแลรักนี้ให้เติบโตงดงามและคงอยู่ยั่งยืนครองคู่ตลอดไป

เนื้อคู่ที่ต้องพลัดพรากด้วยรักร้างห่างหายในทุกภพชาติ ได้คืนสู่อ้อมกอดแห่งรักที่แท้จริงอีกครั้ง แน่นอนเหลือเกินว่าความสุขสมย่อมมากล้นเป็นหลายเท่าพูนทวี อ้อมกอดที่เหว่ว้าอ้างว้างและโหยหารักแท้ที่จากไกลได้มีโอกาสอ้ารับรักนั้นกลับคืน ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาเดียวดาย กลับฟื้นคืนมาสดใสเพราะหยาดน้ำค้างปราณีมาโปรยปรายให้อีกครั้ง

ต้องขอบคุณเสียงปืนสุดท้ายของ ‘โต๊ะอิหม่าม’ ในวันนั้น หากไม่เช่นนั้นแล้วภาพสวยงามและอารมณ์อันสุนทรีย์คงไม่มีโอกาสได้เกิดขึ้นอีกครั้งในวันนี้ โต๊ะอิหม่ามได้เข้ามาห้าม ‘ฮัสซัน’ ผู้เป็นบุตรชายเอาไว้ก่อนที่ทุกสิ่งจะก้าวล่วงไปจนไม่อาจแก้ไขได้ทัน

ทุกคนจากมาพร้อมคำมั่นสัญญาที่จะใช้วิชาชีพและความสามารถของตนร่วมเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงเริ่มต้นหาทางให้ภาครัฐหันไปสนใจเยียวยาบาดแผลและร่องรอยความบอบช้ำของผู้คนในจังหวัดชายแดนใต้ อันจะนำไปสู่การปฏิรูป ฟื้นฟู พัฒนาความสัมพันธ์ ความเป็นหนึ่งเดียวของคนในชาติสืบไป ซึ่งไม่ว่าจะต้องใช้เวลายาวนานสักแค่ไหน คำสัญญาและภารกิจก็จะมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง


“ว้าย...” พี่สาวคนสวยต้องร้องลั่นด้วยตกใจสุดขีด เมื่อบางสิ่งลักษณะยาวๆ เป็นเงาดำๆ แหวกว่ายผิวน้ำเข้ามาหา รีบลุยน้ำไปซุกด้านหลังพี่ปอนด์ที่โผล่ขึ้นจากน้ำอยู่ไม่ไกล

“ร้องลั่นเชียวนะ” แล้วหญิงสาวก็ได้ถอนหายใจเฮือกใหญ่เมื่อพบว่าหาใช่จระเข้น้ำเค็มที่ไหนไม่ เป็นพี่ปราณนั้นเองที่แกล้งให้คนสวยตกใจเล่นๆ ในขณะที่คนสวยอีกคนในขนาดกะทัดรัดกว่ากลับกระโดดเข้าด้านหลัง เกาะไหล่คนขี้แกล้งกระซิบแผ่วเบาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะอย่างมีเลศนัย

“มุกเดิมๆ เลิกใช้ได้แล้วละพี่กล้า”

“นี่...น้องปิ่น...?” ดวงตาเข้มคู่เดิมเจิดจ้าด้วยแววแห่งความยินดีระคนแปลกใจ ประคองเอวเล็กเนียนนุ่มและบอบบางใต้ผิวน้ำให้หันมาตรงหน้า ดวงหน้าหวานใสนั้นฉาบไว้ด้วยรอยยิ้ม ตางามที่สอดประสานระริกไหวกับบางความรู้สึกที่อัดแน่นอยู่ภายใน

“วันนี้ปิ่นมีความสุขที่สุด”

“น้องปิ่น...ตั้งแต่เมื่อไหร่” เอื้อมมือไล้ศีรษะทุยนั้นแผ่วเบา คนตัวเล็กเพียงอมยิ้มยียวน
“ไม่บอก...”
“แน่ะ... มีลับลมคมนัยนักนะ บอกมาเลย” รั้งเอวบางแนบชิดคาดคั้นอยู่ในที
“ก็...ได้บ้างนิดหน่อยตอนที่ปิ่นสลบไปน่ะ ถึงจะไม่มากแต่ก็พอรู้ว่าปิ่นรอวันนี้มานานแค่ไหน” แสงจันทร์บนฟ้าสว่างพอจะทำให้อีกคนมองเห็นสายตาวาวหวานที่วิบวับอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกไป

“แล้วนี่สร้อยคอน้องปิ่นหายไปไหนเอ่ย”

“ปิ่นคืนให้เจ้าของที่แท้จริงของเขาไปแล้วค่ะ”

คนที่ยังเจ็บอยู่อมยิ้มอย่างสุขใจ น้องปิ่นจะระลึกชาติได้จริงหรือไม่อย่างไรคงไม่สำคัญอีกแล้ว ถ้าหากน้องปิ่นรู้จักพี่กล้า ก็ย่อมจะรู้ว่าเจ้าของสร้อยเส้นนั้นคือพี่จัน และเป็นการถูกต้องแล้วที่หัวใจเปี่ยมรักของพี่จันจะได้อยู่คุ้มครองคนที่รักจากนี้และตลอดไป

“แล้วเมื่อไหร่พี่ปราณจะบอกรักปิ่นซะทีล่ะ”

“เอ่อ...คือ...พี่...” คนรูปหล่อแสดงอาการซื่อบื้อเล็กน้อยเมื่อถูกจู่โจมโดยไม่ทันตั้งตัว เมื่อหันไปทางเพื่อนรักเพื่อหาตัวช่วย เจ้าเพื่อนตัวดีก็ไม่มีท่าทีจะสนใจกันเสียบ้างเลย

“ไม่ต้องคิดมากแล้ว ดูโน่นสิ” ตางามมองผ่านชี้นำให้หันไปมองเพื่อนรักอีกครั้ง ดังจะบอกว่า ตอนนี้พี่ปราณไม่ต้องเกรงใจพี่ปอนด์อีกแล้ว เพราะคนที่เป็นหนึ่งในดวงใจของพี่ปอนด์เสมอมาคือคู่ปรับนิรันดร์กาลคนนั้นต่างหากไม่ใช่น้องปิ่น ความสนิทสนมในสถานะอันจำกัดทำให้ทั้งคู่มองข้ามความรู้สึกที่แท้จริงของหัวใจตัวเองไป แต่อย่างไร วันนั้นของรักใหม่ก็มาถึงแล้ว

“ไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคขัดขวางความรักของเราอีกแล้ว ปิ่นรักพี่ในทุกๆ ชาติและเฝ้ารอวันนี้มานานแสนนาน”

“พี่...งงไปหมด..อื้อ!!” ความปีติที่ผุดพรายมากล้นคณายังไม่มากเท่าความตกใจที่เกิดขึ้นฉับพลัน เมื่อเจ้าของดวงตาใสแป๋วที่คุ้นเคยในทุกภพชาติรั้งต้นคอโน้มเข้าประชิด ริมฝีปากจิ้มลิ้มอิ่มนวลบรรจงประทับที่ริมฝีปากของชายเดียวในดวงใจในทุกห้วงกาลเวลา อิงแอบแนบกายอุ่นนุ่มนิ่มแนบแน่นกับแผ่นอกกว้างที่ใฝ่หามาช้านาน

หมู่ดาวบนเวิ้งฟ้ากระพริบถี่ดังจะไม่เชื่อสายตาว่าภาพนี้จะเกิดขึ้นได้ในที่สุด ผ่านคืนวันที่เปลี่ยวเหงามายาวนานข้ามภพข้ามชาติ ความรักที่น่าสงสารได้มีโอกาสรื่นรมย์สมใจหมายกับเขาสักครั้ง

เนิ่นนานกว่าจูบน้อยๆ ที่หอมหวานจะยอมปล่อยให้หายใจหายคอ ชายหนุ่มผู้ตกเป็นเหยื่อความร้อนรุ่มแห่งอารมณ์รักหายใจหอบถี่พอๆ กับหัวใจที่กำลังเต้นโครมคราม คนตัวเล็กเงยหน้ายิ้มหยีกับท่าทีอันไม่เอาไหนเลยนั้น แต่ทันทีที่ตั้งตัวได้ ใบหน้าหนุ่มก็กรุ้มกริ่มด้วยครึ้มใจดังได้แก้ว ค่อยโน้มก้มกระซิบข้างแก้มใสและใบหูหอมกรุ่นนั้นแผ่วเบา น้ำเสียงทุ้มนุ่มหูนั้นเคลือบแฝงด้วยเลศนัย ฝ่ามือเลื่อนไล้รวบร่างไว้หว่างอก

“งั้นน้องปิ่นก็รู้แล้วสิว่า เมื่อก่อนเรามีอะไรสนุกๆ ทำมากกว่านี้ตั้งเยอะ”

“อย่ามาขี้ตู่นะ...ไม่มีเสียหน่อยพี่ปราณบ้า” มือน้อยทำได้เพียงดิ้นรนผลักใสเปาะแปะแก้เขินอาย เมื่อริมฝีปากหนานั้นเคลื่อนทับฉับไวกว่าที่คิด เพลงจูบใต้แสงจันทร์ได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง หมู่ดาวน้อยใหญ่วี้ดว้ายอย่างตื่นเต้นและยินดียิ่ง พรายฟองละลอกคลื่นสะท้อนแสงแห่งจันทราเป็นประกายระยับ ดอกรักชูช่อเบ่งบานล้นชายหาด ไอละอองเกสรต้องลมที่ผ่านพลิ้วพาไออุ่นและความหอมกรุ่นแห่งรักโบยบินสู่เบื้องบนดังจะวอนขอเหล่าดาราให้ช่วยเป็นสักขีพยานในรักนี้




“คุณพ่อรออยู่แน่ะลูก”

คุณรำเพยเอ่ยปากด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนักทันทีที่ปาริมาและปณิธานก้าวเข้าเขตรั้วบ้าน วันหยุดนี้คุณบุญเลิศว่างเว้นจากภารกิจอันมากมาย เมื่อมีโอกาสคุณรำเพยก็บอกเล่าเรื่องราวใหม่ๆ ของลูกๆ ให้ได้รับรู้และเป็นการขออนุญาตไปในที ในสังคมไทยการรักกันระหว่างพี่น้องถือเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ก็ยังหวังว่าความที่เป็นพี่น้องต่างสายเลือดจะทำให้คุณบุญเลิศพอทำใจและเปิดทางให้ ซึ่งจะมีโอกาสเป็นไปได้แค่ไหนก็คงสุดแล้วแต่

ทั้งสองสบตาด้วยสีหน้ากังวล สองมือสอดประสานและบีบเอาไว้แน่น รอยยิ้มปลอบใจฉาบฉายเบาบางก่อนจะตัดสินใจเข้าพบผู้เป็นพ่อ

“ใจเย็นๆ นะลูก คุณพ่อโกรธมาก”

“คุณพ่อ...” ยกมือไหว้และทักทายคุณพ่อแผ่วเบาก่อนจะนั่งลงที่โซฟาตรงหน้า เจ้าของสีหน้าเคร่งเครียดนั่งไขว่ห้างชำเลืองด้วยหางตาก่อนจะผ่านสายตาไปทางอื่นอย่างขุ่นเคือง

“ผมรู้ว่ามันไม่สมควรนัก แต่...” คนเป็นลูกชายและเป็นพี่ชายเอ่ยกับบิดาด้วยน้ำเสียงนอบน้อมและสำนึกผิด ไม่มีใครไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่เมื่อรักได้เกิดขึ้นแล้วลูกชายคนนี้ก็อยากจะวิงวอนขอโอกาสให้รัก เติบโตงดงามต่อไป

“แกก็รู้ยังงั้นเหรอ รู้แล้วยังไง รู้แล้วแกก็ยัง...” คนที่มีอำนาจกุมชะตาชีวิตของลูกๆ หันมาตวาดเสียงดัง คนที่ทำผิดเพราะความไม่รู้ยังพอให้อภัย แต่สำหรับคนที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรแต่ก็ยังดื้อดึงมันน่าให้ยกโทษให้อย่างนั้นหรือ

“แต่คุณพ่อน่าจะดีใจนะครับที่ผู้ชายที่จะดูแลยายปริมไปตลอดชีวิตไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นลูกชายของคุณพ่ออีกคน”

“แกคิดว่านี่มันเรื่องน่ายินดียังงั้นเหรอ ลูกสาวกับลูกชายแต่งงานอยู่กินกันเอง แกไม่มีปัญญาออกไปหาเมียให้มันไกลๆ กว่านี้หน่อยรึไง แล้วนี่ฉันจะบอกชาวบ้านเขาว่ายังไงกัน” เหมือนกองไฟที่โดนราดด้วยน้ำมัน คุณบุญเลิศลุกขึ้นด้วยความเกรี้ยวโกรธ สีหน้าบูดบึ้งนั้นกลับกลายเป็นความเจ็บปวดรวดร้าวในฉับพลัน ชายสูงอายุต้องตัวงอสองมือสั่นเทากุมหัวใจที่กำลังแตกสลาย เรื่องแบบนี้รู้ถึงไหนก็อายไปถึงนั่น ลูกหนอลูกทำไมทำกับพ่อแบบนี้

“คุณพ่อ!!” หัวใจของคนเป็นลูกหล่นวูบ รีบปราดเข้าประคองร่างสั่นเทิ้มนั้นเอาไว้ รู้สึกจุกที่คอหอยอัดอั้นจนน้ำตาปริ่มๆ จะเอ่อล้น

“คุณพ่อขา...”

“นี่ดีนะที่...” ทรงตัวเงยหน้าแค่นเสียงพูดอย่างยากลำบาก ปาริมากอดแขนผู้เป็นพ่อน้ำตาไหลริน ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ดีที่ฉันไม่ได้แคร์ชาวบ้าน และนี่ก็เป็นสิ่งที่ฉันตั้งใจเอาไว้แล้วเหมือนกัน ฮ่าๆๆ”

“คุณพ่อ!!” แล้วทั้งสองก็ต้องอ้าปากหวอทำอารมณ์ตามแทบไม่ทัน ลูกสาวคนเก่งรีบปาดน้ำตาบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม คุณบุญเลิศหัวเราะเสียงดังกอดลูกทั้งสองเอาไว้แนบอก คนที่บังอาจทำให้พ่อตกใจมันก็ต้องโดนแบบนี้ สะใจจริงๆ

“แหม...คุณนี่ตีบทแตกกระจุยไปเลย ดิฉันถ่ายวีดีโอเอาไว้ด้วย เอาไว้เปิดให้แขกเหรื่อได้ดูสีหน้าของตาปอนด์วันแต่งดีกว่า” คุณรำเพยเดินหัวเราะคิกออกมาจากหลังผ้าม่าน มือถือกล้องถ่ายวีดีโอที่เพิ่งหยุดการบันทึกไปหมาดๆ ออกมาโชว์

“โอ้...นี่วางแผนกันเอาไว้แล้วเหรอครับคุณพ่อคุณแม่ สุดยอดดาราตุ๊กตาทองเลยครับ”
“อย่างแกสองคนมันต้องโดนอย่างนี้ โอ้...น้ำหูน้ำตาไหลกันเลยเหรอนี่...สะใจ...สะใจ...ฮ่าๆๆ”

“เอ...แล้วนี่ ยายปิ่นไปไหนเสียล่ะ”




ลมเย็นๆ ตอนบ่ายคล้อยพัดใบไม้ไหวซู่ๆ พาบรรยากาศอันร่มรื่นให้มีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ปราณและปิ่นปัทมาเดินทอดน่องพาตัวเองเข้าสู่ร่มเงาของศาลแห่งสตรีผู้เฝ้ารอรักจากฟากฟ้านั้นอีกครั้ง ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมราวกับว่าการมาครั้งนั้นเพิ่งผ่านไปเมื่อไม่นานนี้เอง

ข้อความบนผนังที่เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ยิ่งทำให้รู้สึกรักกันมากขึ้น เพราะนั่นคือเรื่องราวส่วนหนึ่งของชีวิตตัวเอง ต้องฝ่าฟันอุปสรรคขวากหนามมาหนักหนากว่าจะได้มีโอกาสชื่นชมสมใจรักอย่างนี้ นึกขอบคุณผู้ที่สร้างสถานที่แห่งนี้แทนคนอื่นๆ ในเจตนาที่อยากให้กำลังใจอีกหลายๆ รักที่เฝ้ารอและแสวงหาคำตอบแห่งบุพเพสันนิวาส

“เอ๊ะ...ในนี้บอกว่า ‘หลวงพ่อกล้า’ อดีตเจ้าอาวาสวัด...ได้มาปรับปรุงบูรณะศาลารักพุดซ้อนแห่งนี้ตราบจนท่านละสังขารไป

“หลวงพ่อกล้าเหรอ?”

แค่เพียงได้ยินคำว่า ‘หลวงพ่อ’ ความตื้นตันก็จุกแน่นที่ลำคอ เข้าใจได้ทันทีว่าเป็นหลวงพ่อรูปเดียวกับในนิมิตอย่างแน่นอน สิ่งหนึ่งที่ปราณลืมถามหลวงพ่อนั่นก็คือ ชีวิตของ ‘กล้า’ หลังจากที่เนื้ออ่อนเสียไป เมื่อชาติก่อนโน้น ‘ทอง’ เองก็บวชเป็นพระและออกธุดงค์จนมรณภาพ ไม่นึกว่าเมื่อมาเป็นกล้าก็ต้องใช้เวลาทั้งชีวิตอุทิศเพื่อรักที่จากไป และเพราะมีสองคนนั้นจึงมี ‘ปราณ’ ชายผู้ยืนอยู่ตรงนี้ในเวลาแห่งโลกปัจจุบัน แท้จริงแล้วหลวงพ่อกล้าก็คือดวงจิตของปราณจากชาติที่แล้วที่ติดตามมาเพื่อช่วยเหลือให้รักแท้ได้สมหวังในชาตินี้

“โธ่...หลวงพ่อ” ความสงสารผุดวาบขึ้นจับใจ ไม่อยากนึกเลยว่าต้องทนทุกข์มากมายและยาวนานเพียงไหนกว่าจะสิ้นภพสิ้นชาติขณะที่หัวใจร่ำไห้ถวิลหา

“พี่ปราณ...” หญิงสาวกุมมือหนานั้นมาแนบอก มองลึกเข้าไปในดวงตาพร่าพราย ไม่ได้มีแต่พี่ปราณที่พลัดพรากจากรักแท้ แต่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็พลัดพรากและรอคอยมานานแสนนานเช่นกัน

“วันนี้เรายืนอยู่ตรงนี้ด้วยกันแล้ว ปิ่นจะไม่ทิ้งพี่ปราณไปไหน แล้วพี่ปราณล่ะคะ”

“น้องปิ่น...” แทนคำตอบ ชายหนุ่มรั้งร่างบางของหญิงสาวเข้ามากอดไว้แนบอก เสียงลมหายใจที่ขาดหายเป็นห้วงบอกให้รู้ว่าคนตัวสูงกำลังร้องไห้ มือเรียวลูบแผ่นหลังกว้างนั้นอย่างปลอบประโลม

“เรื่องในอดีตเรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ แต่ยิ่งเราเคยผ่านอดีตที่ปวดร้าวมามากเท่าไหร่ นั่นทำให้เรารู้คุณค่าของการมีกันและกันในวันนี้ ปิ่นดีใจที่ได้เกิดมาพบผู้ชายดีๆ อย่างพี่ปราณ ถึงมันจะช้าไปหน่อยแต่เราจะใช้เวลาที่เหลือในชีวิตอย่างคุ้มค่าที่สุด” ยันกายออกห่างเอื้อมมือปาดน้ำตาให้ผู้ชายขี้แย

เมื่อสายลมพัดพาน้ำตาลูกผู้ชายแห้งหาย รอยยิ้มสุขใจก็ปรากฏ

“พี่มีอะไรจะให้” คลายวงแขนเอื้อมอ้อมด้านหลังหยิบบางสิ่งแล้วรวบเอวบางไว้ในท่าเดิมอีกครั้ง “นิยายรักของเรา” เล่มใหม่หยิบยื่นอยู่ตรงหน้า

“เล่มใหม่ออกแล้วเหรอคะ เล่มเก่าปิ่นยังไม่ได้อ่านเลย ขอโทษจริงๆ นะ...” เจ้าของน้ำเสียงออดอ้อนรับนิยายมาถือไว้ในมือดวงหน้าหวานฉายแววรู้สึกผิด ก็จนป่านนี้ปิ่นก็ยังไม่ได้อ่านเล่มแรกเลยนี่นา นี่ถ้าอยู่ในฐานะผู้ให้บ้างละก็ เห็นทีคงน้อยใจงอนตุ๊บป่องๆ ไปแล้วล่ะ

“ไม่เป็นไรหรอก สิ่งที่อยู่ในนั้นตามไม่ทันชีวิตจริงแล้วล่ะ” พูดพลางจุ๊บที่แก้มขวาหนึ่งครั้งเป็นการยืนยัน นิยายเล่มใหม่เป็นการเล่าเรื่องราวรักที่ถูกซ่อนเร้นมากว่ายี่สิบปี ต่อจากเล่มแรก บันทึกเหตุการณ์อารมณ์และความรู้สึกที่ถ่ายถอดออกมาจากหัวใจ รวมทั้งเรื่องราวร้ายๆ ที่ได้ฝ่าฟันมาด้วยกันเมื่อไม่นานมานี้ แต่...ไม่ว่าคนสวยในอ้อมแขนจะได้อ่านหรือไม่ก็ตามผลอันเกิดจากนิยายนี้ก็ไม่อาจไล่ทันรักแท้ที่งอกเงยงดงามเต็มหัวใจทั้ง สองดวงอีกแล้ว

“เปิดดูข้างในสิ”

มือเรียวค่อยๆ เปิดหนังสือออกอย่างช้าๆ แล้วหัวใจดวงน้อยที่เปี่ยมรอยยิ้มอยู่แล้วก็พองโตมากขึ้นเป็นเท่าทวี แหวนใบไม้ถักเมื่อนานมาแล้วคือพันธสัญญาที่นำพาแหวนน้อยๆ สองวงสอดหนังสือมาในวันนี้ แล้วหญิงสาวก็ต้องเบี่ยงหน้าหนีความวาบหวิว เมื่อแก้มซ้ายกึ่งต้นคอถูกลอบหอมอีกครั้งก่อนที่ชายหนุ่มจะเอื้อนเอ่ยแผ่วเบาข้างหูงาม

“แต่งงานกันนะ”
“บ้า...ใครเขาจะแต่งด้วย..” อิดออดออกไปอัตโนมัติด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเสียยิ่งกว่า ทว่าหน้าตูมๆ ก็ไม่อาจเก็บกักรอยยิ้มแสนยินดีเอาไว้ได้มิด
“ไม่แต่งจริงเหรอ?”
ตางามช้อนมองเสี้ยวหน้าชายคนรักเพียงแวบหนึ่งอย่างหมั่นเขี้ยว ก็รู้ดีอยู่แล้วยังจะถามให้อายอีกทำไมก็ไม่รู้
“หือ?”
“อะไรเล่า...”
“แต่งหรือไม่แต่ง”
“ไม่รู้”
“ขโมยจูบแรกของพี่ไปแล้วต้องรับผิดชอบด้วยนะ”
“บ้า...”

เมื่อหัวใจรักถูกโอบกอดด้วยหัวใจรักอีกชั้นหนึ่ง ก็ไม่มีสิ่งไหนจะมาสั่นคลอนความมั่นคงในรักนี้ได้อีกแล้วนับจากนี้ สายลมพัดแผ่วพาละอองเกสรและกลิ่นหอมแห่งมวลไม้เข้ามาภายในอีกครั้ง เติมเต็มความชุ่มชื่นรื่นรมย์ให้คู่รักที่ยืนอิงแอบห่มใจกันและกันอยู่อย่างนั้นเนิ่นนาน และต่างสัญญากับตัวเองว่าอ้อมกอดหัวใจนี้จะมีไว้เพื่อกันและกันเพียงเท่านั้นตราบนานเท่านาน

แม้เคยพรากจากกันนานเท่าใด...จากนี้ไปจะเชยชิดนิจนิรันดร์...


จบบริบูรณ์



ไอรายา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 มิ.ย. 2554, 11:21:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 มิ.ย. 2554, 11:21:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 3260





<< ตอนที่ 22 ตัวประกัน   


ดารานิล 6 มิ.ย. 2554, 11:55:03 น.
แวะมา ทักทายค่ะ แล้วพี่อย่าลืมเล่นเกมนะ เดี๋ยวจะเข้าไปเกรียน 5555


saralun 6 มิ.ย. 2554, 12:05:40 น.
ขอบคุณค่าาา!! ที่แต่งจนจบเหมือนกัน อิอิ!! เป็นกำลังใจให้นะคะ แล้วมาต่อตอนต่อไปไว ๆ นะคะ เสียดายมีตอนผู้หมวดกับพี่ปริมน้อยไปหน่อย แอบชอบคู่นี้อยู่ ฮ่า ๆ ๆ


อมลลดาOWOอมรรัตน์ 6 มิ.ย. 2554, 22:55:00 น.
แวะมาให้กำลังใจค่ะ แตนจะรอซื้อนะค่า
จะตามกดไลค์ให้ทุกตอนเลย แต่ขอไม่อ่านนะ
ตั้งใจไว้ว่าจะซื้อเลย ขอลุ้นหน่อย ... ^_^


ไอรายา 7 มิ.ย. 2554, 07:18:53 น.
จบแล้วนะครับ ไม่มีต่อแล้วครับ

ดารานิล เดี๋ยวจัดหน้าเสร็จจะเอาไปเล่นเกมจ้า รอเกรียนได้เลย

saralun สงสัยต้องยกออกมาเขียนเป็นเรื่องของสองคนนั้น (ไม่อยากบอกว่าคู่นั้นเป็นธรรมชาติและเป็นตัวของคนเขียนมากกว่า แบบว่า ทะลึ่งนิดๆ หยิกๆ กัดๆ ^^)

อมรรัตน์ อ้อ คนตามกดไลค์คือคุณแตนนี่เอง ขอบคุณนะครับ ขอเวลาจัดหน้า ไม่เกินปลายๆ เดือนน่าจะเป็นเล่มแล้วครับ ได้ซื้อแน่นอนครับ ^^

ขอบคุณทุกคนอีกครั้งครับ
เป็นกำลังใจให้ "บ่วงรักแรงอธิษฐาน" และ สนพ.บ้านนางฟ้า ปลายเดือนนี้ ที่ร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศนะครับ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account