ในม่านฝน # เฟื่องนคร (1 ใน 4 นิยายชุดนิยายรักนักเขียน สนพ.อรุณ)
“secret of celebrity หรือ ความลับของเซเลบบริตี้” พอได้ยินบทสรุปเรื่องที่พลอยพธูเรียกมาคุยด้วยแล้ว นิชภาก็ทำเสียงสูง ตาลุกวาวขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
“มันคืออะไรคะ”
“คือแบบนี้นะน้องนิช พี่พลอยคนนี้ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแวดวงคนดังของฟ้าเมืองไทย...ข้อนี้น้องนิชรู้ดีอยู่แล้ว และคนดัง แต่ละคนที่พี่ไปเจอ เขาก็โอดครวญให้พี่ฟังว่า อันที่จริงเรื่องของเขาที่สื่อเอาไปเล่นมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย มันเป็นอีกแบบ คนโน้นก็เล่าเรื่องแบบนี้ให้พี่ฟัง คนนั้นก็เล่าเรื่องแบบนี้ให้พี่รู้ ประหนึ่งว่าพี่จะไปแก้ไขอดีตให้พวกเขาได้อย่างนั้นแหละ ...แต่ว่าพอฟังไปฟังมา พี่ก็เลยเกิดไอเดีย ขึ้นมาว่า...ในเมื่อเรื่องที่มันเกิดขึ้นแล้ว มันไม่ใช่เรื่องจริง...แล้วทำไมเรา ไม่เขียนนิยายแก้ต่างเรื่องไม่จริงเหล่านั้น...ให้คนเขารับรู้ล่ะ”
“แล้วเราจะไปแก้ ให้เขาได้อย่างไร...เพราะคนเข้าใจผิดกันไปแล้ว และมันก็น่าจะเป็นในวงกว้างเสียด้วย” นิชภายืดตัวตรง เริ่มหมดความสนใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเธอเริ่มคล้อยตามไปกับโปรเจคพิเศษที่ว่า
...แม้โปรเจคนั้นจะมีวาตีร่วมทำงานอยู่ด้วยก็ตาม
“ใช่ บางเรื่องมันเป็นเรื่องในวงกว้าง...แต่หนังสือบ้านเรานะ มันเป็นวงแคบ ๆ...แต่ไอ้วงแคบนี้นี่แหละบางทีมันมีพลังประหลาดอยู่เหมือนกันนะ น้องนิชเคยได้ยินไหมที่ว่าคนไทยน่ะ” เอ่ยถึงตรงนี้แล้วพลอยพธูก็หันซ้ายหันขวาทำเหมือนมีลับลมคมในก่อนจะเอี้ยวตัวไปหานิชภาแล้วก็กระซิบเบา ๆ ประหนึ่งว่าเรื่องที่กำลังจะบอกนั้นเป็นความลับสุดยอด...
“คือ คนไทยมีนิสัยชอบเรื่องซุบซิบ ๆ...ยิ่งซุบซิบยิ่งดัง มันแปลกอย่างนี้นี่เองนะ”
พอได้ยินเหตุผลของพลอยพธูซึ่งเป็นบรรณาธิการผู้คว่ำหวอดในวงการหนังสือมานานแล้ว ณิชกาก็พยักหน้าเห็นด้วย แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตามที...
“โปรเจคของเราเหมือนเป็นการซุบซิบ ๆ แก้ต่างให้พวกเซเลบเหล่านั้นไง...พอมีคนพูดถึงเรื่องในอดีตที่ผิดพลาดของเขา คนที่อ่านหนังสือ เขาก็จะบอกว่า นี่เธอ ๆ ข้อมูลที่ได้มาใหม่จากนิยายเล่มนั้น มันไม่ใช่อย่างนี้นะ หรือในทางกลับกัน นี่เธอ ๆ ถ้าอยากรู้ความจริงเป็นอย่างไร เธอต้องอ่านนิยายเล่มนั้นซิ เขาบอกไว้หมดเลยว่าเหตุการณ์วันนั้นมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นหรอกนะ”
“แล้วเราจะเชื่อตัวคนมาแก้ข่าวได้หรือคะพี่พลอย”
“เชื่อได้ซิ พี่รู้จักเขาเหล่านี้มานานพอดู เลยนะ...พี่เชื่อพวกเขา”

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: เรียกน้ำย่อย 2

พอพนักงานเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วพลอยพธูยกกาแฟแก้วที่สองขึ้นมาดูดน้ำแข็งที่ละลายออกมาส่วนนิชภานั้นแสร้งง่วนค้นหาอะไรในกระเป๋า แล้วก็วางกระเป๋าลงไว้ด้านข้างตัวก่อนจะดันกรอบแว่นตาขึ้นเพราะความเคยชิน เห็นดังนั้นพลอยพธูจึงต้องถาม “ทำอะไรจ๊ะ”

“เรียงของค่ะ...”

พลอยพธูมีคำพูดที่อยากจะพูดเพื่อให้นิชภานั้นปรับปรุงตัวเองกับพฤติกรรมบางอย่าง แต่ว่าพลอยพธูก็จำต้องกลืนน้ำลายลงคอ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น ‘อีโก้’ สูงทุกคน นิชภานั้นเขียนนิยายจบเรื่องและมีคนอ่านติดตาม จนเรื่องของตนขึ้นท็อปไฟว์ใน ‘เว็บเด็กสร้างบ้าน’ ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.4 อายุ 15 ปี พออายุ 16 ปีสำนักพิมพ์พลอยอรุณก็ติดต่อไปขอมารวมเล่ม และขณะที่เรียนระดับชั้นมัธยมนิชภาเขียนงานได้ปีละถึง 3 เรื่อง หลังเอ็นทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยในคณะพณิชยศาสตร์และการบัญชีเป็นนิสิตในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐ แม้จะเรียนหนัก นิชภาก็ยังทำงานได้ปีละ 2 เรื่อง และ 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัยนิชภาทำงานได้ทั้งหมด 8 เรื่อง ซึ่งทุกเรื่องสร้างเม็ดเงินให้กับสาวน้อยคนนี้รวมกับผลงานก่อนหน้าถึง 3 ล้านบาท...

เป็นเงิน 3 ล้านบาทที่เกิดจากค่าลิขสิทธิ์นิยายล้วน ๆ ไม่ได้มีเงินอันเกิดจากทางสถานีโทรทัศน์ซื้อไปผลิตละครแต่อย่างใด...

“พี่พลอยมีเรื่องอะไรจะคุยกับนิชหรือคะ” เมื่อจัดการกับน้ำดื่มที่พนักงานนำมาวางไว้มาก่อนอาหารจานหลักจะมา นิชภาก็ถามถึงธุระสำคัญที่ทำให้พลอยพธูต้องนัดเธอออกมาพบในทันที

“พี่ว่านิชรอจัดการกับสลัดผักก่อนดีกว่าจ๊ะ”

“คุยเลยก็ได้คะ..นิชไม่ชอบคุยงานตอนที่กำลังเคี้ยวอาหารค่ะ”

เหมือนถูกตีแสกหน้า...เหมือนกับว่าพลอยพธูนั้นไม่รู้จักมารยาทบนโต๊ะอาหาร...พลอยพธูลอบสูดลมหายใจเข้าปอด ก่อนจะกระแอมเรียกความมั่นใจ

“เอ่อ...นิชเห็นละครทางช่อง 13 ไหม ที่เป็นซีรีย์ต่อ ๆ กัน...ที่เขาเอานักเขียนมาเขียนงานชุด ช่วยกันเขียน ช่วย ๆ กันคิดพล็อต”

“นิชก็ทำอยู่นี่คะ”

ใช่ นิชภาทำอยู่ แต่ซีรีย์ของนิชภานั้นเป็นเรื่องราวของเจ้าพ่อทางประเทศในแถบยุโรปเจอกับสาวไทยที่ไปเรียนต่อหรือพลัดหลงไปที่นั่นด้วยเหตุผลอันมหัศจรรย์ล้ำลึก หลังจากนั้นเจ้าถิ่นกับสาวเจ้าก็มีเหตุต้องมา ปะ ฉะ ดะ กันแล้วเจ้าพ่อก็หลงเสน่ห์สาวไทยในที่สุด...และสุดท้ายก็จบลงแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง...ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

“คือโปรเจคของพี่เป็นอย่างนี้นะ...” พลอยพธูยืดตัวตรงเพื่อให้นิชภาเห็นว่าเรื่องนี้เธอซีเรียส เอาจริงและให้ความสำคัญกับมันมาก...
“เอิ่ม พี่ต้องบอกก่อนว่า หนังสือนิยายในเครือของพี่นะมีหลากหลายแนวมาก...แยกเป็นพลอยอรุณ พลัส พลอยอรุณ ซูก้า พลอยอรุณ โกลด์...”

“ค่ะ”

“ของน้องนิชสังกัดอยู่ที่พลอยอรุณ ซูก้า ตอนนี้น้องนิชเป็นตัวแม่ของที่นั่น...มีแฟนคลับมากมาย ยอดพิมพ์ต่อเรื่อง แม้จะทยอยพิมพ์ ก็หมื่นอัพทุกเรื่อง...เพราะฉะนั้น พอพี่คิดโปรเจคนี้ได้...พี่ก็คิดถึงน้องนิชก่อนเลย คิดถึงเป็นคนแรกเลยนะคะ...”

“ทำไมละคะ”

“อ้าว...พี่อยากให้นิชทำโปรเจคนี้เพราะว่า นอกจากจะเป็นโปรเจคที่น่าสนใจแล้ว มันยังเป็นการรวมตัวกันของนักเขียน หลากสไตล์ด้วย”

“มีใครบ้างคะ...”

“ก็มี เปลวเทียน..”

แค่เอ่ยชื่อ ‘เปลวเทียน’ นักเขียนหนุ่มใหญ่มาดสุขุมลุ่มลึกที่เขียนงานบู๊ถึงลูกถึงคน สังกัดพลอยอรุณโกลด์ ที่มีแฟนคลับติดตามผลงานกันมาอย่างยาวนาน ดวงตาของนิชภาก็ลุกวาว...

หญิงสาวยืดตัวตรงตั้งใจฟังพลอยพธูขึ้นมาทันที และพลอยพธูก็สังเกตเห็นว่า เอาเปลวเทียนมาล่อแล้วมันได้ผล พลอยพธูจึงต้องรีบให้ข้อมูลเพื่อเปิดใจของนิชภาต่อและต้องปิดการขายฝันในครั้งนี้ให้สำเร็จ...

“เปลวเทียน พี่ยังไม่ได้ชวนเขา แต่คิดว่า จะต้องดึงเขามารวมกลุ่มด้วยนะ คือ มันเป็นอย่างนี้ เปลวเทียนเขาดังในแนวบู๊ แล้วพี่ก็อยากให้เขาลองพลิกมาเขียนแนวหวาน ๆ สืบสวนค้นหาความจริงแบบหวานผสมรสของดราม่านิด ๆ ดูบ้างนะ คือให้บู๊ล้างผลาญมันน้อยลง...แต่พี่ยังไม่ได้คุยกับเขานะ แต่พี่คิดว่า เขาไม่ปฏิเสธพี่แน่นอน...”

“ค่ะ...”

“นอกจากเปลวเทียนแล้ว...ก็ยังมีตัวแม่..ไม่ใช่ซิ ก็ยังมีพี่ใหญ่ของพลอยอรุณ พลัส อีกคน...”

เอ่ยแค่นี้นิชภาก็รู้แล้วว่าพลอยพธูหมายถึงใคร...นิชภาเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ในทันที...แถมทำเหมือนจะหมดความสนใจกับเรื่องราวที่พลอยพธูจะเสนอต่อ...และที่พลอยพธูกลัวที่สุดกลัวว่านิชภาก็แสร้งหยิบกระเป๋ามาจัดเรียงของข้างในนั้นอีก...

“นี่นะน้องนิช พี่กระซิบอะไรหน่อยนะ คือตอนนี้เนี่ย..พลอยอรุณ พลัส นะ ยอดขายไม่ดีเท่าไหร่หรอก คนเขาไม่ค่อยสนใจงานที่ข้อมูลหนัก ๆ พล็อตเรื่องซับซ้อนกัน แต่ก็ยังขายได้นะ แต่ขายไม่ดีเท่าที่ควร...สู้ของพลอยอรุณ ซูก้า ไม่ได้...ถ้าไม่ได้น้องนิชมาเป็นแม่เหล็กมาเป็นตัวแม่นะ พี่ก็อาจจะปิดบางหัวเหมือนกัน...แต่ว่า ก่อนหน้านั้นเราเริ่มต้นจากตรงนั้น เราก็ไม่อยากยุบให้คนอื่นเอาไปซุบซิบนินทา...”

อันที่จริงพลอยอรุณ พลัส แม้จะยอดขายไม่ดีเท่า พลอยอรุณ ซูก้า แต่ก็ใช่ว่าจะขาดทุน ชักเนื้อ งานของ พลอยอรุณ พลัส บริษัทละครนั้นจะให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะมีตัวแม่ คือ ‘วาตี รุ่งอรุณ’ หรือพี่วาของน้อง ๆ นักเขียนในวงการน้ำหมึก เจ้าของนามปากกา “ดาหราวาตี” เป็นตัวยืนโรง งานของวาตีนั้นพล็อตจะซับซ้อนเน้นข้อมูลและที่สำคัญเนื้อในที่นักเขียนรุ่น ๆ เดียวกันไม่มีก็คือฉากโรมานซ์อย่างถึงลูกถึงคน ซึ่งค่ายละครพอซื้อไปทำบทก็ต้องตัดส่วนวาบหวิวอารมณ์นั้นออกไปบ้าง และเพื่อไม่ให้งานถูกตัดฉากอย่างว่าเมื่อนำไปสร้างละครกับปัจจุบันวาตีนั้นเริ่มเอือมระอากับฉากแบบนั้น เจ้าหล่อนจึงเพรา ๆ มือลง เพราะอยากให้นิยายของตนขึ้นหิ้งแทนการขายดี แต่ก็ใช่ว่าวาตีอยากให้รุ่นน้องมาเบียดนั่งบัลลังก์มาบดบังรัศมีที่เคยเจิดจรัสของตน...ดังนั้นทุกครั้งที่ละครที่มีชื่อของตนเป็นผู้ประพันธ์ออกอากาศ ในเว็บไซต์ส่วนตัววาตีก็จะยืดอยู่พักใหญ่ วาตีจะโพสต์ภาพนิ่งที่ไปขอจากผู้จัดละครมาได้ ให้คนอื่นๆ ได้ประจักษ์ว่า ข้านี้ก็หนึ่งในตองอู

“เหรอคะ”

“คือ งานที่เขาซื้อไปสร้างละคร คือนิยายมันตาย แล้วเราก็รู้ ๆ กันว่า พอดูละครแล้วก็เหมือนรู้เรื่องในหนังสือตั้งแต่ต้นจบจบอยู่แล้ว แถมบางค่ายที่เอาไป ไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขบทผิดเพี้ยนไปจากบทประพันธ์ซะอีก บางเรื่องก็เพี้ยนซะจนคนแอนตี้บทประพันธ์ไปเลย...บางเรื่องก็เขียนดีเว่อร์เกินบทประพันธ์ก็มี...แล้วพอมาอ่าน

นิยายทีหลังก็บ่นกันในเว็บดันทิป...ปัญหาโลกแตกมาก ๆ”

ว่าแล้วพลอยพธูก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่...

“สรุปว่างานนี้จะมีพี่วาร่วมอยู่ด้วย”

“ก็ต้องช่วย ๆ กันนะ แต่พี่ก็ยังไม่ได้บอกวาตีเขาหรอกนะ ต้องมาถามความสมัครใจจากน้องนิชก่อนคนอื่น ๆ ทั้งเปลวเทียนและวาตี ถ้าน้องนิชไม่อยากรวมงานด้วยพี่ก็จะตัดทิ้งไป..เพราะพี่อยากได้น้องนิชมาทำโปรเจคนี้มั๊กมาก”

“แต่เท่าที่ฟังดูเมื่อกี้เหมือนพี่จะบอกว่างานชุดนี้มันต้องให้นักเขียนปรับตัวจากอะไรเดิม ๆที่ตัวเองเคยทำ อย่างพี่เปลวเทียน”

“ก็มีบ้างจ๊ะ...คืออย่างนี้นะน้องนิช แบบงานของน้องนิชมันก็มีกลุ่มวัยสะรุ่นอ่านใช่ไหม แล้วน้องนิชก็ทำงานมากี่ปีแล้วนะ ตั้งแต่มอห้าใช่ไหม”

“มอสี่ค่ะ” นิชภานั้นดูจะภาคภูมิใจกับจุดเริ่มต้นของตนเป็นอย่างมาก

“ใช่ ๆ พี่ลืม... ถึงตอนนี้ก็หกปีเจ็ดปีเข้าไปแล้ว แฟนคลับของน้องก็โตตามน้องไปด้วย เขาก็อยากได้อะไรใหม่ ๆ จากนิชภาอยู่ด้วย แต่ของน้องมันขายเด็กมัธยมได้อยู่แล้ว คือแบบนี้นะ โปรเจคนี้ เป็นโปรเจคพิเศษ พี่ไม่ได้อยากให้น้องเปลี่ยนแนวทุกเรื่องและตลอดไปหรอกนะ แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวเท่านั้น มันอาจจะยากหน่อย แต่พี่ว่ามันท้าทายความสามารถของน้องอยู่นะ...”

“นิชก็คิดเยอะ คิดมาก ทุกเรื่องอยู่แล้วค่ะ” ใบหน้าของนิชภาเริ่มบึ้งตึง

“ใจเย็นๆ ฟังพี่อธิบายก่อน...คือน้องนิชต้องเข้าใจระดับของหนังสือหน่อยนะ”

“เข้าใจดีค่ะ”

“นั่นแหละ โปรเจคพิเศษ คือมันต้องพิเศษจริง ๆ ไง นิชภา เปลวเทียน ดาหราวาตี แล้วก็ ตาเบบูญ่า”

“ตาเบบูญ่า” พอพลอยพธูเอ่ยถึงนามปากกาของ ฟ้าคราม กัปปะวัตนะ ดวงตาของ นิชภาก็เป็นประกายขึ้นมาเพราะว่า ฟ้าครามนั้นเป็นคนขี้เล่น เขียนอีโรติกแบบขำ ๆ ได้ดีมาก เธอเองก็เป็นแฟนคลับของเขาเหมือนกัน ... นอกจากนั้นเวลาที่เจอกันในงานหนังสือ เธอจะรู้สึกสดชื่นกับฟ้าครามเป็นอย่างมาก แต่ว่ามันก็คนละแบบกับความรู้สึกที่มีให้เปลวเทียน...

“ใช่แล้ว งานนี้ มีนักเขียนทั้งหมด สี่คนจ้า...ตัวท็อป ๆ ของสำนักพิมพ์ทั้งนั้นเลย”

“แล้วโปรเจคนี้ทำเกี่ยวกับอะไรหรือคะ”

“โปรเจคนี้จะออกในหัวของ พลอยอรุณ พลัสนะ ต้องบอกไว้ก่อน” ที่บอกเพื่อให้นิชภานั้นรู้ว่าเธอต้องปรับแนวทางในการทำงานของเธอให้เข้ากับ พลอยอรุณ พลัส เพราะที่นี่จะเป็นนิยายของสาววัยทำงานไม่ใช่นิยายของเด็กมัธยมไม่ใช่งานลูกกวาดที่นิชภาถนัด...

“ค่ะ..แล้วเป็นโปรเจคเกี่ยวกับอะไร”

“น้องนิชก็รู้นะว่าพี่พลอยค่อนข้างจะกว้างขวางระดับหนึ่ง วัน ๆ นอกจากบริหารสำนักพิมพ์ ดูแลบรรณาธิการแต่ละหัวแล้ว พี่ก็ยังมีงานการกุศล งานสังคม จาระไนไม่หวาดไม่ไหว”

“สรุปมาค่ะ”

“secret of celebrity หรือ ความลับของเซเลบบริตี้ค่ะ”



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 10 ส.ค. 2556, 15:12:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 10 ส.ค. 2556, 15:12:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1579





<< เรียกน้ำย่อย   
saralun 10 ส.ค. 2556, 20:24:21 น.
นิชภา นี่ใช่นากเอกจริง ๆ รึเปล่า - - ???


Zephyr 11 ส.ค. 2556, 09:39:28 น.
เอาพี่บอกอเป็นนางเอกแทนได้มั้ยเนี่ย
นิสัยนาง แบบ เฮ้อออออ ฮ่าๆๆๆๆ
ให้นางปรับปรุงตัวด่วนๆๆๆๆ
อีโก้สูงไม่ดีนะ นะ นะ


ปลายสี 11 ส.ค. 2556, 14:23:28 น.
นิสัยแกล้งหาอะไรในกระเป๋า แปลกดีนะคะ น่าสนใจมากๆ อยากรู้แล้วว่าพระเอกเป็นใคร


loveleklek 12 ส.ค. 2556, 10:16:31 น.
นิชภามาแล้ว


ree 14 ส.ค. 2556, 18:35:11 น.
เยอะทั้งคู่ ดูไม่ออกเลยว่าหนึ่งในสองนี่จะเป็นนางเอก


สิรินดา 21 ต.ค. 2558, 22:23:46 น.
แวะมาทักทายจ้าาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account