หวานรักในลมหนาว
หวานรักในลมหนาวเป็นหนึ่งนิยายใน ชุดลัดฟ้าไปหารัก โปรเจ็กล่าสุดของ สนพ.กรีนมายด์ค่ะ โดยธีมเรื่องจะเกิดขึ้นในต่างประเทศ โดยลาฌีนุสได้เลือกประเทศภูฏานและญี่ปุ่นมาเป็นโจทย์ความรักในครั้งนี้ของพระ-นาง สไตล์เรื่องจะเป็นแนวรักหวานๆ ค่ะ
ปล.พระเอกเป็นลูกครึ่งหนุ่มไทย-ภูฎานค่ะ หล่อลื้มมม คริๆ
+++++หากสนใจติดตามผลงานลาฌีนุส กดไลท์ไปที่แฟนเพจได้นะคะ ^^ https://www.facebook.com/lacheenus
ปล.พระเอกเป็นลูกครึ่งหนุ่มไทย-ภูฎานค่ะ หล่อลื้มมม คริๆ
+++++หากสนใจติดตามผลงานลาฌีนุส กดไลท์ไปที่แฟนเพจได้นะคะ ^^ https://www.facebook.com/lacheenus
Tags: หวานรักในลมหนาว,ภูฎาน
ตอน: บทนำ
หวานรักในลมหนาว
โดย ลาฌีนุส
บทนำ
ร่างสูงยืนนิ่งสายตาแน่วแน่มองตรงไปยังเบื้องหน้า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มไม่มีร่องรอยของความลังเล ริมฝีปากหยักปิดเงียบหลังจากเอ่ยความตั้งใจของตนให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ เขาไม่ได้เงียบเพื่อรอคำอนุญาต เพราะที่เขาพูดมาทั้งหมดคือการบอกกล่าวและบอกลาในคราวเดียว ดังนั้นที่เงียบจึงเป็นเพียงการรอปฏิกิริยาตอบกลับของผู้มีอำนาจสูงสุดและเป็นคนที่เขาเคารพรักที่สุดเท่านั้น
เสียงถอนหายใจหนักๆ ของคนที่เคารพตรงหน้าไม่อาจเปลี่ยนความตั้งใจของชายหนุ่มได้
“หลานคิดมาดีแล้วใช่ไหม” เสียงหญิงสูงวัยเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปพักใหญ่ “ไม่ลองทบทวนดูอีกครั้งหรือ”
มาเรีย โดมินิกส์ แอลเวย์ ถามทั้งๆ ที่รู้ดีว่าหลานรักของเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจ เขาก็เหมือนตาของเขาที่เมื่อคิดและตัดสินใจอะไรแล้วไม่มีคำว่าเปลี่ยนใจ
“ผมขอโทษครับคุณยาย แต่ผมคิดดีแล้ว ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องกลับไปดูแลคุณตา”
“พอล”
มาเรียถอนหายใจอีกรอบอย่างพยายามตัดใจ เธอมองใบหน้าขาวเนียนละเอียดชนิดผู้หญิงยุโรปยังอาย คิ้วดกเข้มพาดตรงบ่งบอกว่าเป็นคนมีหนักแน่น ริมฝีปากหยักไม่แสดงอาการเม้มแน่นเหมือนคนลังเล แววตามั่นคงที่ถอดแบบมาจากอดีตสามีฉายแววหนักแน่นซึ่งมันถูกถ่ายทอดและแทบจะยืนยันความตั้งใจนั้นได้ดีกว่าคำพูด
ฉันต้องคืนเขาให้คุณแล้วใช่ไหม ฌอร์น
ร่างสูงยังคงปิดปากเงียบ พอลนับเป็นหลานชายที่เธอรักและภูมิใจที่สุด ด้วยความที่ทำอะไรหัวไวและได้ดั่งใจเธอไปเสียทุกเรื่อง มันเลยอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอนำเอาเขาไปเปรียบเทียบกับหลานอีกคน แม้จะไม่ได้พูดอกมาตรงๆ แต่การกระทำหลายครั้งของเธอคงทำให้หลายคนดูออก แวบหนึ่งเธอปรายตาไปที่มุมห้องมองอีกหนึ่งหนุ่มและหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าละม้ายคล้ายตนเองซึ่งอยู่ร่วมห้องมาตั้งแต่ต้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ
เจมส์ โดมินิกส์ แอลเวย์ ทายาทสายตรงหลานชายอีกคนที่มีสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของธุรกิจแอลเวย์จิลเวอรี่ มาเรียนึกเสียดายอยู่ในใจ หลานชายทั้งคู่ด้วยอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกันแต่ความสามารถต่างกันลิบลับ แม้เจมส์จะอ่อนวัยกว่าไม่กี่ปีแต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลของการทำอะไรไม่เอาไหนของเขา
ว่ากันตามตรงเจมส์คือผู้มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลแอลเวย์ เพราะแม่ของเจมส์คือลูกสาวแท้ๆ ของเธอกับสามีใหม่ผู้เป็นเจ้าของแอลเวย์จิลเวอรี่ ส่วนหลานรักที่เธอปรารถนาอยากให้เขาอยู่ช่วยงานนั้น แท้จริงเขาแทบไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสมบัติของตระกูลแอลเวย์เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงออกปากรั้งเขาได้ไม่เต็มปาก
เพราะเท่าที่พอลทำให้เธอและแอลเวย์ทุกวันนี้มันก็มากเกินกว่าที่เธอหวังเอาไว้แล้ว
“เอาล่ะ ยายคงรั้งอะไรเธอไว้ไม่ได้หรอก 8 ปีที่ผ่านมาเธอทำเพื่อแอลเวย์มามากแล้ว” ดวงตาสีทองอ่อนแสงลงอย่างแสนเสียดาย
“ผมถือว่าผมมาช่วยเหลือคุณยาย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นคุณหรืออะไรนะครับ”
“คิดได้อย่างนั้นก็ดี” เจมส์หัวเราะหึๆ อย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นความอาวรณ์จากน้ำเสียงคนเป็นยาย
มาเรียจ้องกลับทันทีแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจในคำพูดของเขา เจมส์กัดฟันสะบัดหน้าหนีอย่างระงับอารมณ์
“เจมส์! ถ้าไม่คิดจะช่วยก็อย่าทำอะไรให้มันแย่ลง” มาเรียตำหนิเสียงกร้าว
หนุ่มร่างสูงที่มีเชื้อตะวันตกเต็มตัวหน้าตึงทันทีที่ถูกคุณยายตำหนิ ชายหนุ่มตวัดตามองลูกพี่ลูกน้องชาวเอเชียอย่างเกลียดชัง ขณะที่อีกฝ่ายดูจะไม่สนใจอากัปกิริยาของเขาและนั้นยิ่งทำให้เขานึกโมโห
จองหอง อวดดี นี่คงคิดสินะว่าคุณยายถือหางเอาอกเอาใจแกอยู่
“คุณแม่คะ ถ้าพอลเขาตัดสินใจแล้วก็ปล่อยเขากลับไปเถอะค่ะ เรายังมีเจมส์อยู่ทั้งคน ไม่เห็นต้องกังวลเลยค่ะ เจมส์ก็ช่วยงานได้ดีเหมือนกัน” คนเป็นแม่เมื่อเห็นลูกหน้าเสียก็รีบพูดจาเอาใจ หวังให้สถานการณ์ดีขึ้น ทว่ามันกลับเลวร้ายลงไปอีกเมื่อคนเป็นยายตอบกลับมาอย่างไม่ไว้หน้า
“นั่นสิ ทั้งที่เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสมบัติของตระกูลพวกเธอเลย แต่ทำไมเขาถึงทำได้ดีนัก”
เจมส์ขบกรามแน่น เพราะรู้ดีว่าคุณยายจงใจประชดประชันเขา ชายหนุ่มจ้องคนถูกชมราวจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะพยายามระงบอารมณ์เอ่ยเป็นคำพูดให้สุภาพ
“งั้นผมขอตัว เพราะอยู่ไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น”
“เจมส์ เดี๋ยวสิลูก เจมส์” ธัญญ่าคว้าแขนลูกชายสุดที่รักเอาไว้ไม่ทัน เลยได้แต่ร้องเรียก แต่ลูกชายของเธอก็หาฟังไม่
“โธ่ คุณแม่ไม่น่าพูดจารุนแรงอย่างนั้นกับเจมส์เลยนะคะ แกคงน้อยใจที่คุณแม่ไปดุแกแบบนั้น ยิ่งน้อยใจเรื่องที่คุณแม่ไม่เชื่อใจเขาเรื่องงานอยู่ก่อนแล้วด้วย” ธัญญ่าโอดกับคนเป็นแม่ก่อนจะปลายตามองไปยังหลานชายที่ยืนเงียบอยู่เป็นนาน
“แกมันให้ท้ายลูกจนมันกลายเป็นคนแบบนี้ ยังจะกล้ามาต่อว่าฉันอีกเหรอ ถ้ามันทำได้ครึ่งหนึ่งของพอล ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอก”
มาเรียเอ่ยอย่างหมดความอดทน เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหากพอลไม่อยู่ แอลเวย์จิลเวอรี่จะยุ่งขนาดไหน ไม่ใช่ว่าเจมส์ทำไม่ได้ เขาทำได้เพียงแต่ไม่ดีและไม่ถูกใจเธออย่างพอลเท่านั้น
ธัญญ่าเงียบกริบ ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าเถียง
พอลหันไปมองน้าผู้หญิงแล้วหันกลับมาที่คุณยายอีกครั้ง “เจมส์ต้องทำได้ดีแน่ๆ ครับ เขาเป็นคนมีความตั้งใจ”
“ยายก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น พอล ยายหวังว่าเธอจะว่างมาเยี่ยมยายบ้างนะ อย่าให้ถึงขั้นหายเงียบไปเลยได้ไหม”
หญิงสูงวัยกลัวเหลือเกินว่าตนนั้นจะไม่ได้เจอหลานรักอีก เพราะรู้ดีแก่ใจว่าตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่เขาต้องพบกับความลำบากใจอะไรบ้าง แต่เธอก็ยังเห็นแก่ตัว อยากจะให้เขาอยู่ช่วยงานเพราะตราบใดที่เขายังไม่เอ่ยปากนั่นหมายถึงเขายังทนได้ แต่วันนี้ที่เขาเอ่ยปากขอกลับไป เธอจำต้องเคารพการตัดสินใจของเขาเช่นกัน
แม้จะเสียใจและเสียดาย แต่เธอก็เอาเปรียบหลานรักมาพอแล้ว
“มันคงถึงเวลาที่ยายต้องปล่อยหลานไปแล้วสินะ ฝากความคิดถึงและปรารถนาดีถึงตาของหลานด้วยนะพอล”
นั้นคือคำร่ำลาสุดท้ายระหว่างมาเรียและพอล อนันตนาถ หลานรักลูกครึ่งไทย-ภูฏานของเจ้าแม่เครื่องเพชรชื่อดังของอังกฤษ
+++++++++
คุยกันนิดนึงค่ะ สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ทุุกท่านที่แวะเวียนหรือเผลอหลวมตัวเข้ามาอ่านค่ะ นิยายที่เอามาลงตอนนี้ยังเป็นดราฟแบบหยาบๆอยู่นะคะ เพราะเขียนไปออนแอร์ไป ฮ่าาาา (อยู่ในช่วงเร่งปั่นเพราะต้องออกให้ทันงานหนังสือฯ เดือนตุลาที่จะถึงนี้) ดังนั้นอาจมีคำประหลาดๆ โผล่มาบ้าง คำผิดบ้างก็อย่าถือสานะคะ แต่ยินดีรับฟังคำชี้แนะและความเห็นต่างของผู้อ่านทุกท่านค่ะ ^^
ด้วยรัก
ลาฌีนุส
โดย ลาฌีนุส
บทนำ
ร่างสูงยืนนิ่งสายตาแน่วแน่มองตรงไปยังเบื้องหน้า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มไม่มีร่องรอยของความลังเล ริมฝีปากหยักปิดเงียบหลังจากเอ่ยความตั้งใจของตนให้คนอื่นๆ ได้รับรู้ เขาไม่ได้เงียบเพื่อรอคำอนุญาต เพราะที่เขาพูดมาทั้งหมดคือการบอกกล่าวและบอกลาในคราวเดียว ดังนั้นที่เงียบจึงเป็นเพียงการรอปฏิกิริยาตอบกลับของผู้มีอำนาจสูงสุดและเป็นคนที่เขาเคารพรักที่สุดเท่านั้น
เสียงถอนหายใจหนักๆ ของคนที่เคารพตรงหน้าไม่อาจเปลี่ยนความตั้งใจของชายหนุ่มได้
“หลานคิดมาดีแล้วใช่ไหม” เสียงหญิงสูงวัยเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปพักใหญ่ “ไม่ลองทบทวนดูอีกครั้งหรือ”
มาเรีย โดมินิกส์ แอลเวย์ ถามทั้งๆ ที่รู้ดีว่าหลานรักของเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจ เขาก็เหมือนตาของเขาที่เมื่อคิดและตัดสินใจอะไรแล้วไม่มีคำว่าเปลี่ยนใจ
“ผมขอโทษครับคุณยาย แต่ผมคิดดีแล้ว ผมว่ามันถึงเวลาแล้วที่ผมต้องกลับไปดูแลคุณตา”
“พอล”
มาเรียถอนหายใจอีกรอบอย่างพยายามตัดใจ เธอมองใบหน้าขาวเนียนละเอียดชนิดผู้หญิงยุโรปยังอาย คิ้วดกเข้มพาดตรงบ่งบอกว่าเป็นคนมีหนักแน่น ริมฝีปากหยักไม่แสดงอาการเม้มแน่นเหมือนคนลังเล แววตามั่นคงที่ถอดแบบมาจากอดีตสามีฉายแววหนักแน่นซึ่งมันถูกถ่ายทอดและแทบจะยืนยันความตั้งใจนั้นได้ดีกว่าคำพูด
ฉันต้องคืนเขาให้คุณแล้วใช่ไหม ฌอร์น
ร่างสูงยังคงปิดปากเงียบ พอลนับเป็นหลานชายที่เธอรักและภูมิใจที่สุด ด้วยความที่ทำอะไรหัวไวและได้ดั่งใจเธอไปเสียทุกเรื่อง มันเลยอดไม่ได้ที่จะทำให้เธอนำเอาเขาไปเปรียบเทียบกับหลานอีกคน แม้จะไม่ได้พูดอกมาตรงๆ แต่การกระทำหลายครั้งของเธอคงทำให้หลายคนดูออก แวบหนึ่งเธอปรายตาไปที่มุมห้องมองอีกหนึ่งหนุ่มและหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าละม้ายคล้ายตนเองซึ่งอยู่ร่วมห้องมาตั้งแต่ต้นด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ
เจมส์ โดมินิกส์ แอลเวย์ ทายาทสายตรงหลานชายอีกคนที่มีสิทธิ์ในมรดกทั้งหมดของธุรกิจแอลเวย์จิลเวอรี่ มาเรียนึกเสียดายอยู่ในใจ หลานชายทั้งคู่ด้วยอยู่ในวัยที่ใกล้เคียงกันแต่ความสามารถต่างกันลิบลับ แม้เจมส์จะอ่อนวัยกว่าไม่กี่ปีแต่มันก็ไม่ใช่เหตุผลของการทำอะไรไม่เอาไหนของเขา
ว่ากันตามตรงเจมส์คือผู้มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลแอลเวย์ เพราะแม่ของเจมส์คือลูกสาวแท้ๆ ของเธอกับสามีใหม่ผู้เป็นเจ้าของแอลเวย์จิลเวอรี่ ส่วนหลานรักที่เธอปรารถนาอยากให้เขาอยู่ช่วยงานนั้น แท้จริงเขาแทบไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับสมบัติของตระกูลแอลเวย์เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงออกปากรั้งเขาได้ไม่เต็มปาก
เพราะเท่าที่พอลทำให้เธอและแอลเวย์ทุกวันนี้มันก็มากเกินกว่าที่เธอหวังเอาไว้แล้ว
“เอาล่ะ ยายคงรั้งอะไรเธอไว้ไม่ได้หรอก 8 ปีที่ผ่านมาเธอทำเพื่อแอลเวย์มามากแล้ว” ดวงตาสีทองอ่อนแสงลงอย่างแสนเสียดาย
“ผมถือว่าผมมาช่วยเหลือคุณยาย ไม่ได้คิดว่าจะเป็นคุณหรืออะไรนะครับ”
“คิดได้อย่างนั้นก็ดี” เจมส์หัวเราะหึๆ อย่างหมั่นไส้เมื่อเห็นความอาวรณ์จากน้ำเสียงคนเป็นยาย
มาเรียจ้องกลับทันทีแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจในคำพูดของเขา เจมส์กัดฟันสะบัดหน้าหนีอย่างระงับอารมณ์
“เจมส์! ถ้าไม่คิดจะช่วยก็อย่าทำอะไรให้มันแย่ลง” มาเรียตำหนิเสียงกร้าว
หนุ่มร่างสูงที่มีเชื้อตะวันตกเต็มตัวหน้าตึงทันทีที่ถูกคุณยายตำหนิ ชายหนุ่มตวัดตามองลูกพี่ลูกน้องชาวเอเชียอย่างเกลียดชัง ขณะที่อีกฝ่ายดูจะไม่สนใจอากัปกิริยาของเขาและนั้นยิ่งทำให้เขานึกโมโห
จองหอง อวดดี นี่คงคิดสินะว่าคุณยายถือหางเอาอกเอาใจแกอยู่
“คุณแม่คะ ถ้าพอลเขาตัดสินใจแล้วก็ปล่อยเขากลับไปเถอะค่ะ เรายังมีเจมส์อยู่ทั้งคน ไม่เห็นต้องกังวลเลยค่ะ เจมส์ก็ช่วยงานได้ดีเหมือนกัน” คนเป็นแม่เมื่อเห็นลูกหน้าเสียก็รีบพูดจาเอาใจ หวังให้สถานการณ์ดีขึ้น ทว่ามันกลับเลวร้ายลงไปอีกเมื่อคนเป็นยายตอบกลับมาอย่างไม่ไว้หน้า
“นั่นสิ ทั้งที่เขาไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับสมบัติของตระกูลพวกเธอเลย แต่ทำไมเขาถึงทำได้ดีนัก”
เจมส์ขบกรามแน่น เพราะรู้ดีว่าคุณยายจงใจประชดประชันเขา ชายหนุ่มจ้องคนถูกชมราวจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนจะพยายามระงบอารมณ์เอ่ยเป็นคำพูดให้สุภาพ
“งั้นผมขอตัว เพราะอยู่ไปก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น”
“เจมส์ เดี๋ยวสิลูก เจมส์” ธัญญ่าคว้าแขนลูกชายสุดที่รักเอาไว้ไม่ทัน เลยได้แต่ร้องเรียก แต่ลูกชายของเธอก็หาฟังไม่
“โธ่ คุณแม่ไม่น่าพูดจารุนแรงอย่างนั้นกับเจมส์เลยนะคะ แกคงน้อยใจที่คุณแม่ไปดุแกแบบนั้น ยิ่งน้อยใจเรื่องที่คุณแม่ไม่เชื่อใจเขาเรื่องงานอยู่ก่อนแล้วด้วย” ธัญญ่าโอดกับคนเป็นแม่ก่อนจะปลายตามองไปยังหลานชายที่ยืนเงียบอยู่เป็นนาน
“แกมันให้ท้ายลูกจนมันกลายเป็นคนแบบนี้ ยังจะกล้ามาต่อว่าฉันอีกเหรอ ถ้ามันทำได้ครึ่งหนึ่งของพอล ฉันคงไม่ต้องเหนื่อยขนาดนี้หรอก”
มาเรียเอ่ยอย่างหมดความอดทน เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าหากพอลไม่อยู่ แอลเวย์จิลเวอรี่จะยุ่งขนาดไหน ไม่ใช่ว่าเจมส์ทำไม่ได้ เขาทำได้เพียงแต่ไม่ดีและไม่ถูกใจเธออย่างพอลเท่านั้น
ธัญญ่าเงียบกริบ ก้มหน้ามองพื้นไม่กล้าเถียง
พอลหันไปมองน้าผู้หญิงแล้วหันกลับมาที่คุณยายอีกครั้ง “เจมส์ต้องทำได้ดีแน่ๆ ครับ เขาเป็นคนมีความตั้งใจ”
“ยายก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น พอล ยายหวังว่าเธอจะว่างมาเยี่ยมยายบ้างนะ อย่าให้ถึงขั้นหายเงียบไปเลยได้ไหม”
หญิงสูงวัยกลัวเหลือเกินว่าตนนั้นจะไม่ได้เจอหลานรักอีก เพราะรู้ดีแก่ใจว่าตลอดเวลาที่เขาอยู่ที่นี่เขาต้องพบกับความลำบากใจอะไรบ้าง แต่เธอก็ยังเห็นแก่ตัว อยากจะให้เขาอยู่ช่วยงานเพราะตราบใดที่เขายังไม่เอ่ยปากนั่นหมายถึงเขายังทนได้ แต่วันนี้ที่เขาเอ่ยปากขอกลับไป เธอจำต้องเคารพการตัดสินใจของเขาเช่นกัน
แม้จะเสียใจและเสียดาย แต่เธอก็เอาเปรียบหลานรักมาพอแล้ว
“มันคงถึงเวลาที่ยายต้องปล่อยหลานไปแล้วสินะ ฝากความคิดถึงและปรารถนาดีถึงตาของหลานด้วยนะพอล”
นั้นคือคำร่ำลาสุดท้ายระหว่างมาเรียและพอล อนันตนาถ หลานรักลูกครึ่งไทย-ภูฏานของเจ้าแม่เครื่องเพชรชื่อดังของอังกฤษ
+++++++++
คุยกันนิดนึงค่ะ สวัสดีพี่ๆ น้องๆ ทุุกท่านที่แวะเวียนหรือเผลอหลวมตัวเข้ามาอ่านค่ะ นิยายที่เอามาลงตอนนี้ยังเป็นดราฟแบบหยาบๆอยู่นะคะ เพราะเขียนไปออนแอร์ไป ฮ่าาาา (อยู่ในช่วงเร่งปั่นเพราะต้องออกให้ทันงานหนังสือฯ เดือนตุลาที่จะถึงนี้) ดังนั้นอาจมีคำประหลาดๆ โผล่มาบ้าง คำผิดบ้างก็อย่าถือสานะคะ แต่ยินดีรับฟังคำชี้แนะและความเห็นต่างของผู้อ่านทุกท่านค่ะ ^^
ด้วยรัก
ลาฌีนุส
ลาฌีนุส
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ส.ค. 2556, 19:57:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ส.ค. 2556, 19:57:31 น.
จำนวนการเข้าชม : 1133
บทที่ 1 บังเอิญหรือโชคชะตา >> |
pkka 16 ส.ค. 2556, 22:08:26 น.
เด้วไปซื้อ:)
เด้วไปซื้อ:)
ลาฌีนุส 16 ส.ค. 2556, 23:01:28 น.