โอเอซิส...พิชิตรัก
นิยายกึ่งทะเลทรายเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของเจนกับอัสซิมเหมือนแมวไล่จับหนู ชิงไหวชิงพริบ ปฏิเสธความรู้สึก ปิดบังบางอย่างต่อกันเสมอ พระนางไม่ค่อยเผยความรู้สึก ออกแนวพูดต่างภาษา แต่ต้านแรงดึงดูดระหว่างกันไม่ได้ ทำให้เกิดความผูกพัน เป็นคนเก่งทั้งคู่ แล้วพยายามอ่านกันและกันตลอดเรื่อง อิอิ สู้กันจนหยดสุดท้ายกันเลยทีเดียวค่ะ แล้วก็จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตามสูตรของผู้เขียนค่ะ
Tags: ทะเลทราย โจร แก้แค้น
ตอน: 07 (ครึ่งหลัง)
โอเอซิส...พิชิตรัก ตอนที่ 7 (ครึ่งหลัง)
เมื่อคืนไม่มีเจ้านายคนไหนออกจากห้องสักคน หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว อัสซิมกับเจนก็มาต่อกันที่เตียงจนหลับไป แล้วก็หลับยาวจนถึงช่วงเช้า โฮเวิร์ดนำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ในห้องยังไม่มีใครตื่นสักคน
กว่าอัสซิมจะตื่นก็เป็นช่วงสายแล้ว เขาลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของหล่อนได้เลย
ภายนอกเธอก็ดูเหมือนสุภาพสตรีที่แสนเย็นชา แต่ภายในเธอร้อนแรงอย่างหยุดไม่อยู่ หากไม่เพราะเธอกับเขาต่างก็เหนื่อยอ่อน ก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะไปจบที่ตรงไหน
เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นจากเตียงตรงไปห้องน้ำชำระล้างร่างกายให้สดชื่นอีกครั้ง แต่งตัวด้วยชุดลำลองแล้วออกมา เห็นเธอพลิกตัวแล้วหันหลังให้ก็รู้ว่าเธอคงไม่อยากถูกรบกวน จึงออกไปที่ห้องด้านนอก แล้วนั่งที่โต๊ะซึ่งยังคงมีอาหารเช้าให้เขาทาน
“เรียกคาลิมให้หน่อยสิ” อัสซิมบอกเอมม่าที่รอคอยบริการอยู่
“ค่ะ คุณมาห์นาซ” เอมม่ารับคำแล้วออกไปบอกโฮเวิร์ดที่รอด้านนอก แล้วสักพักคาลิมก็เข้ามาตรงไปหาเจ้านาย ส่วนเอมม่าออกไปด้านนอกเผื่อว่าเจ้านายลูกน้องมีเรื่องต้องคุยกัน
“มีอะไรเร่งด่วนไหม” อัสซิมถามคนสนิท
“ไม่มีครับ” คาลิมยื่นเอกสารส่งให้ เขาพิมพ์ทุกอย่างที่จำเป็นให้เจ้านายอ่านรับทราบสถานการณ์
“อืม” อัสซิมรับมาอ่านแล้วจุดไฟเผาทิ้งในเตาผิง “ไม่มีอะไรเร่งด่วนก็ดี มีใครโทรมาบ้าง”
“อาคุณโทรมา อยากให้คุณกลับไปพบคุณหนูฟาราห์ แฮสซานครับ” คาลิมรายงานตามเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ต้องปิด
“ต้องไปพบทำไมบ่อยๆ” อัสซิมตอบอย่างเฉยชา
เขานึกถึงผู้หญิงที่อยู่ใต้ผ้าคลุมแล้วก็ถอนหายใจยาว แต่คาลิมนำภาพหล่อนมาให้ดูแล้ว ก็จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง เขาจึงทำเฉยๆ ไม่ปฏิเสธไปในทันที เพราะเป็นสาวอาหรับที่เหมาะจะเป็นภรรยาเขา
เขาไม่คิดจะไปพบบ่อยๆ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะรับใครมาเป็นภรรยา
พูดถึงภรรยาแล้วคิดอีกที อาเหม็ด อัชราฟ ไม่น่ายอมรับข้อตกลงโง่ๆ ที่ต้องการให้เกิดสันติเลย พ่อเขาเอาฟอเซย์...อาเขาเป็นเหยื่อล่อให้อาเหม็ดตายใจนั่นเอง ศึกสองตระกูลจึงจบลงด้วยการตายของอาเหม็ด อัชราฟ นานกว่าหลายปี ถึงมีการแก้แค้นจากใครคนหนึ่งในตระกูล
หรือแม่เธอ...จะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลอัชราฟ แม่ชาวเปอร์เซียของหล่อนที่เดินทางออกนอกประเทศอย่างรวดเร็ว
หรือสายสัมพันธ์จากเปอร์เซียมาบรรจบกัน เธอจึงไม่มีสัญลักษณ์ของตระกูลอัชราฟ
เขาครุ่นคิดไม่ออกว่า ถ้าเป็นเธอแล้วจะเกี่ยวข้องกับตระกูลอัชราฟยังไง แล้วทำไมคนนอกอย่างเธอจึงสืบจนรู้ว่าพ่อเขาเป็นคนสั่งสังหารอาเหม็ด แต่หลักฐานต่างๆ มันวกไปเวียนมาและสุดท้ายก็ชี้มาที่เธอ
สักพักเธอก็เปิดประตูออกมา ด้วยชุดใหม่ดูสดใส ดูสง่าผ่าเผย เยือกเย็นและดูเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ ไม่น่าจะลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้น ท่าทางเธอไม่น่าจะเป็นโจรสาวได้เลย
“มีอะไรแต่เช้าเหรอคะ” เจนนั่งลงแล้วสั่นกระดิ่งเรียกเอมม่าเข้ามา
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” คาลิมบอกเจ้านายแล้วก็ออกไปจากห้องนอนทันที
“ไม่มีอะไรหรอก แค่สอบถามเรื่องงาน ไม่มีอะไรเร่งด่วน ผมจะได้อยู่กับคุณนานๆ ไง” อัสซิมจูบหลังมือเธออย่างอ่อนโยน
เขาเห็นเธอสวมแหวนสองวงติดกันก็รู้ว่าเธอคงยังไม่ลืมคู่หมั้นหนุ่มที่เสียไป และนั่นไม่ทำให้เขาคิดมาก อย่างไรก็อย่างที่เธอว่า เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงศาสนาเดียวกัน หรือยอมเปลี่ยนศาสนามาอยู่กับเขา
ท่านหญิงแห่งฮาร์ทฟอร์ดไม่มีทางเปลี่ยนศาสนามาอยู่กับเขา หรือถึงเธอจะยอมเปลี่ยน ก็ใช่ว่าเขาจะต้องการอยู่กับเธอตลอดไป เธอเป็นผู้หญิงทำงานที่ถนัดงานบริหารเหมือนเขา และเขาต้องการมีอำนาจสูงสุดในครอบครัว
เจนเพียงหัวเราะเล็กน้อยแล้วเอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน ก่อนขมวดคิ้วแล้วหันไปมองเอมม่า “เรียบร้อยดีไหม”
“ค่ะ ท่านหญิง” เอมม่าจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เพราะข่าวสารที่ได้รับมาทำให้ทำกำไรงามพอดู
“อืม” เจนยอมรับว่าอ่านข่าวไม่ละเอียด ขณะที่เอมม่าเคยเห็นการทำงานของเธอแล้ว ตอนนี้เธอเลยแทบไม่ต้องรอให้สั่งก็คาดเดาการตัดสินใจของเจ้านาย
“มีอะไรเหรอ” อัสซิมถามเพราะเธอมีปฏิกิริยาแปลกๆ
“เกี่ยวกับธุรกิจที่ฉันลงทุนไว้น่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เจนตอบเลี่ยงไป เพราะเรื่องธุรกิจก็ไม่ควรต้องบอกเขา ก่อนนึกขึ้นได้ “ให้คนจัดเตรียมเอกสารส่งไปที่เมืองไทยด้วยนะ ทางนั้นคงต้องการความมั่นใจ”
“ค่ะ ท่านหญิง” เจนสั่งงานสั้นๆ
ทั้งที่เธอมีธุรกิจที่เมืองไทยอยู่สองสามอย่าง หากเอมม่ากลับเข้าใจได้ เป็นความสัมพันธ์ที่น่าทึ่งสำหรับเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งเข้าใจเพียงคำสั่งง่ายๆ แต่คนที่จะติดตามคนที่มีความสามารถระดับเธอได้นั้น ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักสำรวจความต้องการของเจ้านายเช่นกัน
“บอกโฮเวิร์ดด้วยว่าให้คนที่ชาโตว์เตรียมความเรียบร้อยไว้ให้ดีล่ะ” เจนสั่งความอีกครั้งขณะอ่านหนังสือพิมพ์
“โฮเวิร์ดเริ่มจัดการตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วค่ะ กลัวจะมีเวลาไม่พอ แล้วถ้าไปถึง ท่านหญิงต้องจัดการปัญหาอีกเยอะเลยทีเดียว” เอมม่ารายงานพร้อมรินชาให้เจ้านาย
อัสซิมเพียงอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆ ไม่เข้าไปยุ่งกับการสั่งงานของเธอ แค่ประทับใจความสัมพันธ์ของเจ้านายลูกน้องเท่านั้น และเขาก็เดาไม่ออกเลยว่าเธอสั่งงานอะไร
**************************
สองวันที่เขาสนุกกับกิจกรรมของเธอ ดูเหมือนเธอจะพยายามทำกิจกรรมหลายอย่างไม่ให้เขาเบื่อ เพราะเขาไม่ใช่หนอนหนังสืออย่างเธอ เขาชอบกีฬา และเธอก็มีสนามดินไว้สำหรับเทนนิส ดาฟรานช์ติดทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลนัก สามารถว่ายน้ำเล่นได้
เธอมีเครื่องยิงเป้าไว้สำหรับยิง หากเป็นเมื่อก่อนคงต้องล่าสัตว์เพื่อการกีฬา แต่ดูเหมือนท่านเอิร์ลจะให้ยกเลิกไปนานแล้ว แต่ก็มีเป้าให้ยิงเพื่อความสนุกเท่านั้น ตกค่ำเธอกับเขาก็มีกิจกรรมทำอยู่ค่อนคืนก็พักผ่อน
หากเช้านี้กลับกลายเป็นเช้าที่แปลกออกไป เสียงทุบประตูแทนที่จะเคาะทำให้เขาตกใจตื่น เธอยังคงอยู่ในอ้อมแขนเขา เขามองให้ชัดว่าฟังไม่ผิด และได้ยินเสียงทุบประตูอีกรอบ
“นายครับ นาย” คาลิมตะโกนเสียงดังเรียกเจ้านาย
อัสซิมค่อยๆ เอาเธอออกจากอ้อมแขน แล้ววางเธอลงข้างๆ เธอก็พลิกตัวหันหลังให้ เขาสวมเสื้อคลุมแล้วเปิดประตู มองหน้าคนสนิทแล้วถาม “มีอะไร”
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ นายต้องกลับด่วน” คาลิมเข้ามากระซิบรายละเอียดให้เจ้านายรู้ เขาต้องทุบประตู เพราะโฮเวิร์ดไม่ยอมเปิดประตูให้
“บ้าชะมัด!! มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง แจ้งเรื่องบินกลับแล้วหรือยัง” อัสซิมเดินกลับเข้าห้อง
คาลิมก็เดินตามเข้าไปด้วย เห็นท่านหญิงนอนหันหลังห่มผ้าเรียบร้อยก็ค่อยยังชั่ว “เรียบร้อยแล้วครับนาย”
อัสซิมเห็นคาลิมเดินตามเข้ามา และมองไปที่เจนซึ่งนอนอยู่ก็รู้สึกขวางเล็กน้อย ใต้ผ้าห่มมีเพียงร่างบางที่เปลือยเปล่า ผิวสีเข้มกว่าคนยุโรปแต่อ่อนกว่าสาวเปอร์เซียนั้น เป็นที่ปรารถนาของชายได้มากคนนัก
เขาไม่ต้องการข้อมูลอีก ก็ออกคำสั่งชัดเจน “ออกไปเตรียมรถ ฉันพร้อมก็ไปได้เลย”
คาลิมได้สติหันมาทางเจ้านาย รู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะสายตาเย็นชานั้น เขาก็รีบหันไปอีกด้านแล้วถอยออกไปจากห้องนั้น เพื่อทำหน้าที่ที่เจ้านายสั่ง...
อัสซิมเข้าไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อออกมาเขาก็แต่งกายชุดประจำชาติของเขาเพื่อเดินทางกลับ เขามองร่างบางที่นอนหลับอย่างไม่ระวังภัยก็ได้แต่ถอนหายใจยาว
เขาตั้งใจจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร แต่ก็ชะงักเมื่อไปถึงประตู เขาย้อนกลับมาขึ้นเตียงฝั่งของเขา แล้วเข้าไปสวมกอดเธอ
“เจน” เขาเรียกแล้วจูบเธออย่างแสนอ่อนหวาน
เธอขยับตัวเล็กน้อยงัวเงียเพราะเพิ่งตื่น “มีอะไรเหรอคะ”
“ผมมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ ให้คนของคุณเก็บของของผมไปกับคุณด้วยนะ คิดว่าจัดงานเสร็จ ผมจะตามไปหา” อัสซิมบอกเธอแล้วจูบเธอดูดดื่ม
“ค่ะ โชคดีนะคะ ลาก่อน” เจนยิ้มให้เขาแล้วพลิกตัวหลับต่อ
เธอไม่อยากปฏิเสธอะไรในตอนนี้ เธอกับเขาก็มีความรับผิดชอบที่ต้องจัดการ และเธอเองก็ไม่ใส่ใจนักว่าเขาจะตามไปหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้จุดหมายของเธออยู่ที่ชาโตว์ เดอ เมโรเว ปราสาทเก่าแก่ท่ามกลางไร่องุ่นที่พ่อเธอทุ่มเงินซื้อให้เธอ โดยไม่สนใจราคา และเธอก็จัดการจนกลายเป็นไวน์ฝรั่งเศสที่เลื่องชื่อ
เมโรเว...ตั้งตามชื่อกษัตริย์ฝรั่งเศสจากราชวงศ์เมโรแว็งเชียง
เจ้าของเดิมมีเชื้อสายราชวงศ์ฝรั่งเศสแต่เพราะทำงานไร่ไม่เป็น คนงานแข็งข้อและกดขี่คนงาน จึงขาดทุนมหาศาล พ่อเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันที่เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอก็พลิกฟื้นมันเป็นไร่องุ่นชั้นดี ด้วยเงินทุนที่พ่อให้มา บวกกับการลงทุนอีกเล็กน้อยสมัยเรียน เธอก็ทำกำไรมหาศาลแล้ว
ชาโตว์ เดอ เมโรเว กลายเป็นชื่อไวน์ที่ติดตลาดภายหลังจากนั้นสองปี เพราะต้องเริ่มพลิกฟื้นขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไร่เดิมเป็นแค่ทุ่งกว้างเท่านั้น
เธอครุ่นคิดแล้วลุกขึ้นนั่งเมื่อเขาออกไปจากห้อง...ยังมีเรื่องที่ต้องสนใจอีกมากนัก
อัสซิมออกไปจากดาฟรานช์ แปลกที่เขาหันกลับไปมองที่นั่นอีกครั้ง
ความได้เปรียบของเขากลายเป็นความผูกพันไปเสียแล้ว รู้สึกแตกต่างออกไปแม้จะรู้ดีว่า ไม่มีอนาคตสำหรับเขาและเธอ
**************************
มือเขาลูบบันไดขึ้นบ้าน วัยเด็กเขาถูกกลั่นแกล้งให้ต้องขัดบันไดทางเดิน และพ่อที่เดินผ่านมาก็เพียงมองแล้วเดินผ่านไป พ่อที่ไม่เคยช่วยเขา เขาไม่เคยเข้าใจและมีแม่เท่านั้นเป็นที่พึ่งทางใจ
คนรับใช้มีจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นคำสั่งลูกชายคนโตของเมียคนที่หนึ่ง ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเขา แม้แต่พ่อก็ไม่ช่วยเขา มีเพียงคาลิมที่เข้ามาช่วยเขาทำตามคำสั่งเท่านั้น
อัสซิมลูบมันอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปในห้องโถง เมื่อเปิดประตูออกมีแต่คนประหลาดใจ เมียคนที่หนึ่งของพ่อกำลังยืนอยู่กับลูกชายคนเล็กของหล่อน และกำลังพูดคุยวางแผนกัน
“กลับมาแล้วเหรอ อัสซิม เอ่อ ไม่สิ นายท่าน” แซราห์พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
อัสซิมหันไปพยักหน้ากับคนสนิท แล้วชายฉกรรจ์อีกยี่สิบคนก็เข้ามา ควบคุมทุกอย่างไว้แล้วอีกสี่คนก็เอาปืนจ่อแซราห์
“พี่ทำอะไร!!” ฮานิฟถามทั้งที่รู้ว่าพี่ชายกำลังทำอะไรอยู่
“หุบปาก!!!” อัสซิมพูดเสียงเด็ดขาด ก่อนมองภรรยาคนที่หนึ่งของพ่อ “คิดเหรอว่าฉันอยู่ไกลแล้วจะไม่รู้อะไรเลย”
“นายท่านพูดเรื่องอะไรคะ” แซราห์ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อัสซิมมีอะไรเหรอ ลูก” มูนาเข้ามาในห้อง เมื่อคนรับใช้ไปเรียกเธอ และรู้ว่าลูกชายกลับมาแล้ว
“แม่กลับไปที่ห้องก่อนนะครับ ผมมีเรื่องต้องจัดการ” อัสซิมพยักหน้ากับคนของเขาให้พาแม่เขาออกไป
มูนามองสถานการณ์ด้วยใจสั่นๆ แต่ก็ยอมถอยออกไปเมื่อแม่เขาออกไปแล้วเขาก็หันมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาพยักหน้ากับคาลิม
คาลิมเปิดเสียงที่บันทึกไว้ ถึงแผนการต่างๆ ของแซราห์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ดีที่ไม่มีเสียงฮานิฟ แต่มีเสียงผู้หญิงตระกูลมาห์นาซ ซึ่งเป็นภรรยาทั้งสามคนของอาลี พูดถึงความแค้นที่ต้องสูญเสียลูกของเธอเองและภรรยาคนที่สอง
“เอาตัวฮานิฟออกไป” อัสซิมออกคำสั่งเด็ดขาด คนของเขาก็เข้ามาจับตัวฮานิฟเอาไว้
ฮานิฟขัดขืนแล้วเข้าไปปกป้องแม่ตนเองทันที “อย่าครับพี่ ได้โปรดเถอะ แม่ผมเขาเลอะเลือน แม่อายุมากแล้วและก็เครียดด้วย พี่ไว้ชีวิตแม่ผมเถอะนะครับ ผมสัญญาจะไม่ให้แม่ทำเรื่องแบบนี้อีก พี่ขังแม่ไว้บนหอคอยก็ได้นะครับ”
ฮานิฟพยายามปกป้องแม่…
“อย่าไปขอร้องมัน มันฆ่าพี่แกนะ ฮานิฟ มันฆ่าลูกทั้งสองคนของฉัน” แซราห์ที่ก้มหน้าลง และได้ยินลูกชายคนเล็กอ้อนวอน
“จัดการตามที่ตกลงกันไว้” อัสซิมสั่งการแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ฮานิฟขัดขืนแล้วออกมาปกป้องแม่จนตนเองถูกจับกดลงที่พื้น
อัสซิมหันมามองอีกรอบ น้องชายเขากำลังกรีดร้องด้วยความแค้น เมื่อเห็นแม่ถูกลบหลู่เกียรติแบบนั้น เขานับถือน้องชายคนนี้ในจุดนั้น ก่อนออกคำสั่งใหม่ “พาแซราห์กับพวกไปแยกขังบนหอคอยแต่ละจุด แล้วหยุดทำร้ายน้องชายฉันสักที”
ฮานิฟชะงัก เมื่อพี่ชายที่แสนเย็นชายอมทำตามข้อเสนอของเขา เขารีบกล่าวขอบคุณทันที “ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ พี่”
“พวกเธอจะต้องอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปพบปะใคร แม้แต่อาทุกคนก็ไม่มีสิทธิมาพบ คนรับใช้ใกล้ชิดให้เอาออกไปให้หมดและจัดการให้เรียบร้อย ใครก็ตามที่สนับสนุนแซราห์จะต้องถูกกำจัด” อัสซิมสั่งความอีกครั้ง
“พ่อของฉันจะต้องไม่ยอมแน่ พ่อของฉันจะต้องประกาศสงครามกับแก ไอ้คนสารเลว” แซราห์ตะโกนด่าต่อเนื่อง จนฮานิฟต้องมาปิดปาก
“นายจะไปอยู่กับตาของนายก็ได้นะ แต่แม่ของนายเป็นคนตระกูลมาห์นาซแล้ว หล่อนต้องตายที่นี่” อัสซิมบอกน้องชายเป็นเชิงบอกให้รู้ว่า ถ้าฮานิฟก้าวออกจากตระกูลมาห์นาซเมื่อใด เขาจะต้องถูกเนรเทศออกจากตระกูลเมื่อนั้น
“ไม่ครับ” ฮานิฟหันไปสบตาแม่
เขาเห็นแม่มองเขาอย่างดูถูก ตัวเขาเพิ่งยี่สิบกว่าปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย มีคนรักที่ต้องการสร้างครอบครัวด้วย อีกทั้งพี่ชายก็มีอำนาจเหนือกว่ามาก แม้แต่ตาเขาก็ไม่แน่ว่าจะจัดการพี่ชายเขาได้ ถึงตาเขาจะเป็นผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาล แต่บัดนี้พี่ชายเขามีเส้นสายในคณะรัฐบาลมากกว่าตาเขามาก แม้แต่ตาเขายังต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากพี่ชายเขา
“พาพวกหล่อนออกไป” อัสซิมออกคำสั่ง มองน้องชายเดินตามแม่ไป
“อย่าทำร้ายลูกสาวฉันเลยนะ ได้โปรดเถอะ” ภรรยาคนที่สี่ของพ่อเข้ามาขอร้องเขา
อัสซิมพยักหน้า จะยังไงก็เป็นน้องสาวของเขา แต่ถ้าแหกกฎบ้านเมื่อไร ก็ต้องพบกับจุดจบเดียวกัน แล้วเขาก็ออกไปหาแม่เขาเพื่อชี้แจง
ระหว่างที่แซราห์ถูกใส่ตรวนจับขังไว้ที่หอคอย ถูกแยกออกจากภรรยาอีกสองคนของสามี เขามองหน้าลูกชายแล้วพูดขึ้น “ไปบอกตาของลูก”
“แม่ก็รู้ว่าตาจะพูดว่าอะไร” ฮานิฟส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะกล่อมแม่ “ผมว่าแม่อย่าพยายามไปแก้แค้นให้พี่ๆ จะดีกว่า ตอนนี้ไม่มีใครมางัดข้อกับอัสซิมได้หรอก อีกอย่างหลักฐานก็ไม่มี ตำรวจไม่เจอหลักฐานอะไรนอกจากเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นได้ ต่อให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อไม่มีหลักฐาน แม่จะเอาอะไรไปเอาผิดอัสซิม”
“แกช่างไม่เหมือนพี่ชายแกจริงๆ พวกเขาทั้งองอาจและรู้จักต่อสู้ คนตระกูลมาห์นาซทุกคนต้องรู้จักช่วงชิง ดูอย่างไอ้คนชั้นต่ำอย่างอัสซิมสิ มันยังขึ้นมาเป็นใหญ่ได้ แกก็ต้องทำได้” แซราห์พยายามปลุกใจลูกชาย
“แล้วผลเป็นยังไงล่ะครับ เหลือคนที่เข้มแข็งสักคนไหมครับ” ฮานิฟถอนหายใจยาว แล้วฝากแม่กับคนรับใช้คนใหม่ ก่อนจะไปเขาเตือนสติแม่อีกรอบ “ผมรู้ว่าแม่แค้น ถามจริงๆ ตอนที่โดนปืนจ่อ แม่ไม่กลัวตายบ้างเหรอครับ ขอโทษนะครับ ผมกลัวตาย ผมก็แค่อยากมีชีวิตต่อ พ่อไม่เคยสนใจผมอยู่แล้ว แม่ก็ไม่ค่อยสนใจผม คิดแต่จะแก้แค้น อยู่ปัจจุบันน่าจะดีกว่านะครับ”
“แกมันขี้ขลาด” แซราห์ด่าว่าลูกชายอีกหลายคำ
ฮานิฟส่ายหน้าช้าๆ ขนาดไม่ทำอะไร เขายังกลัวว่าจะตายเข้าสักวัน ถ้าพี่ชายต่างมารดาคิดว่าเขาเป็นภัยคุกคามล่ะก็ เขาต้องโดนกำจัดแน่ คืนนี้เขาแน่ใจว่าต้องมีคนตายหลายคน รวมทั้งคนสนิทของแม่เขา ที่เป็นแม่นมเขาด้วย หากเขาจะขี้ขลาดแต่ก็ยังดีที่ยังมีลมหายใจ
โชคดีที่เขาไม่ได้เข้าร่วมกับพี่ชายทั้งสามกลั่นแกล้งอัสซิมในวัยเยาว์ ไม่งั้นเขาคงไม่รอดแน่
**************************
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
หมดช่วงโอกาสพิเศษแล้วค่ะ เจอกันอาทิตย์หน้าะนะคะ
ใครมีหนังสือของเพลิงวารีเตรียมตัวพบกับ
กิจกรรมครอบรอบ 9 ปีการโพสต์นิยายออนไลน์ค่ะ
จะแจ้งกติกาให้ในภายหลังนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
คุณ oolong --- ขอบคุณค่ะ ^^
คุณ saralun --- ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า อิอิ
คุณ konhin --- ขอบคุณค่ะ / ใช่เลยค่า ยังต้องฟาดฟันกันอีกนานค่ะ
พี่ตุ้งแช่ --- พ่อมดแห่งอัสซิมค่า 555+
คุณ lookpud --- ขอบคุณค่ะ *-*
ป.ล. ขอรับคำแนะนำจากผู้อ่านเพื่อนิยายเรื่องนี้นะคะ
เหตุอย่างที่บอกค่ะ เป็นเรื่องไม่ถนัดและพยายามหลีกเลี่ยงรายละเอียดของศาสนา
เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีช่วงไหนอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ ก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ป.ล.
- ใครที่ต้องการพาสจะเมลมาที่ plerngwaree@hotmail.com ก็ได้ค่ะ
- ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/plerngwaree
- คนรักเฮีย "พาย" อย่าพลาดเฮีย "พาย" ปกใหม่กำลังจะวางแผงแล้วค่ะ
**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก
2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว
3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว
4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
เมื่อคืนไม่มีเจ้านายคนไหนออกจากห้องสักคน หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว อัสซิมกับเจนก็มาต่อกันที่เตียงจนหลับไป แล้วก็หลับยาวจนถึงช่วงเช้า โฮเวิร์ดนำเสื้อผ้ามาแขวนไว้ในห้องยังไม่มีใครตื่นสักคน
กว่าอัสซิมจะตื่นก็เป็นช่วงสายแล้ว เขาลืมตาขึ้นแล้วลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง แล้วเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของหล่อนได้เลย
ภายนอกเธอก็ดูเหมือนสุภาพสตรีที่แสนเย็นชา แต่ภายในเธอร้อนแรงอย่างหยุดไม่อยู่ หากไม่เพราะเธอกับเขาต่างก็เหนื่อยอ่อน ก็ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะไปจบที่ตรงไหน
เขาถอนหายใจแล้วลุกขึ้นจากเตียงตรงไปห้องน้ำชำระล้างร่างกายให้สดชื่นอีกครั้ง แต่งตัวด้วยชุดลำลองแล้วออกมา เห็นเธอพลิกตัวแล้วหันหลังให้ก็รู้ว่าเธอคงไม่อยากถูกรบกวน จึงออกไปที่ห้องด้านนอก แล้วนั่งที่โต๊ะซึ่งยังคงมีอาหารเช้าให้เขาทาน
“เรียกคาลิมให้หน่อยสิ” อัสซิมบอกเอมม่าที่รอคอยบริการอยู่
“ค่ะ คุณมาห์นาซ” เอมม่ารับคำแล้วออกไปบอกโฮเวิร์ดที่รอด้านนอก แล้วสักพักคาลิมก็เข้ามาตรงไปหาเจ้านาย ส่วนเอมม่าออกไปด้านนอกเผื่อว่าเจ้านายลูกน้องมีเรื่องต้องคุยกัน
“มีอะไรเร่งด่วนไหม” อัสซิมถามคนสนิท
“ไม่มีครับ” คาลิมยื่นเอกสารส่งให้ เขาพิมพ์ทุกอย่างที่จำเป็นให้เจ้านายอ่านรับทราบสถานการณ์
“อืม” อัสซิมรับมาอ่านแล้วจุดไฟเผาทิ้งในเตาผิง “ไม่มีอะไรเร่งด่วนก็ดี มีใครโทรมาบ้าง”
“อาคุณโทรมา อยากให้คุณกลับไปพบคุณหนูฟาราห์ แฮสซานครับ” คาลิมรายงานตามเรื่อง เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ต้องปิด
“ต้องไปพบทำไมบ่อยๆ” อัสซิมตอบอย่างเฉยชา
เขานึกถึงผู้หญิงที่อยู่ใต้ผ้าคลุมแล้วก็ถอนหายใจยาว แต่คาลิมนำภาพหล่อนมาให้ดูแล้ว ก็จัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง เขาจึงทำเฉยๆ ไม่ปฏิเสธไปในทันที เพราะเป็นสาวอาหรับที่เหมาะจะเป็นภรรยาเขา
เขาไม่คิดจะไปพบบ่อยๆ เพราะยังไม่ถึงเวลาที่เขาจะรับใครมาเป็นภรรยา
พูดถึงภรรยาแล้วคิดอีกที อาเหม็ด อัชราฟ ไม่น่ายอมรับข้อตกลงโง่ๆ ที่ต้องการให้เกิดสันติเลย พ่อเขาเอาฟอเซย์...อาเขาเป็นเหยื่อล่อให้อาเหม็ดตายใจนั่นเอง ศึกสองตระกูลจึงจบลงด้วยการตายของอาเหม็ด อัชราฟ นานกว่าหลายปี ถึงมีการแก้แค้นจากใครคนหนึ่งในตระกูล
หรือแม่เธอ...จะมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลอัชราฟ แม่ชาวเปอร์เซียของหล่อนที่เดินทางออกนอกประเทศอย่างรวดเร็ว
หรือสายสัมพันธ์จากเปอร์เซียมาบรรจบกัน เธอจึงไม่มีสัญลักษณ์ของตระกูลอัชราฟ
เขาครุ่นคิดไม่ออกว่า ถ้าเป็นเธอแล้วจะเกี่ยวข้องกับตระกูลอัชราฟยังไง แล้วทำไมคนนอกอย่างเธอจึงสืบจนรู้ว่าพ่อเขาเป็นคนสั่งสังหารอาเหม็ด แต่หลักฐานต่างๆ มันวกไปเวียนมาและสุดท้ายก็ชี้มาที่เธอ
สักพักเธอก็เปิดประตูออกมา ด้วยชุดใหม่ดูสดใส ดูสง่าผ่าเผย เยือกเย็นและดูเป็นสตรีผู้สูงศักดิ์ ไม่น่าจะลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้น ท่าทางเธอไม่น่าจะเป็นโจรสาวได้เลย
“มีอะไรแต่เช้าเหรอคะ” เจนนั่งลงแล้วสั่นกระดิ่งเรียกเอมม่าเข้ามา
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” คาลิมบอกเจ้านายแล้วก็ออกไปจากห้องนอนทันที
“ไม่มีอะไรหรอก แค่สอบถามเรื่องงาน ไม่มีอะไรเร่งด่วน ผมจะได้อยู่กับคุณนานๆ ไง” อัสซิมจูบหลังมือเธออย่างอ่อนโยน
เขาเห็นเธอสวมแหวนสองวงติดกันก็รู้ว่าเธอคงยังไม่ลืมคู่หมั้นหนุ่มที่เสียไป และนั่นไม่ทำให้เขาคิดมาก อย่างไรก็อย่างที่เธอว่า เขาต้องแต่งงานกับผู้หญิงศาสนาเดียวกัน หรือยอมเปลี่ยนศาสนามาอยู่กับเขา
ท่านหญิงแห่งฮาร์ทฟอร์ดไม่มีทางเปลี่ยนศาสนามาอยู่กับเขา หรือถึงเธอจะยอมเปลี่ยน ก็ใช่ว่าเขาจะต้องการอยู่กับเธอตลอดไป เธอเป็นผู้หญิงทำงานที่ถนัดงานบริหารเหมือนเขา และเขาต้องการมีอำนาจสูงสุดในครอบครัว
เจนเพียงหัวเราะเล็กน้อยแล้วเอาหนังสือพิมพ์มาอ่าน ก่อนขมวดคิ้วแล้วหันไปมองเอมม่า “เรียบร้อยดีไหม”
“ค่ะ ท่านหญิง” เอมม่าจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เพราะข่าวสารที่ได้รับมาทำให้ทำกำไรงามพอดู
“อืม” เจนยอมรับว่าอ่านข่าวไม่ละเอียด ขณะที่เอมม่าเคยเห็นการทำงานของเธอแล้ว ตอนนี้เธอเลยแทบไม่ต้องรอให้สั่งก็คาดเดาการตัดสินใจของเจ้านาย
“มีอะไรเหรอ” อัสซิมถามเพราะเธอมีปฏิกิริยาแปลกๆ
“เกี่ยวกับธุรกิจที่ฉันลงทุนไว้น่ะ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” เจนตอบเลี่ยงไป เพราะเรื่องธุรกิจก็ไม่ควรต้องบอกเขา ก่อนนึกขึ้นได้ “ให้คนจัดเตรียมเอกสารส่งไปที่เมืองไทยด้วยนะ ทางนั้นคงต้องการความมั่นใจ”
“ค่ะ ท่านหญิง” เจนสั่งงานสั้นๆ
ทั้งที่เธอมีธุรกิจที่เมืองไทยอยู่สองสามอย่าง หากเอมม่ากลับเข้าใจได้ เป็นความสัมพันธ์ที่น่าทึ่งสำหรับเจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งเข้าใจเพียงคำสั่งง่ายๆ แต่คนที่จะติดตามคนที่มีความสามารถระดับเธอได้นั้น ก็ต้องเป็นคนที่รู้จักสำรวจความต้องการของเจ้านายเช่นกัน
“บอกโฮเวิร์ดด้วยว่าให้คนที่ชาโตว์เตรียมความเรียบร้อยไว้ให้ดีล่ะ” เจนสั่งความอีกครั้งขณะอ่านหนังสือพิมพ์
“โฮเวิร์ดเริ่มจัดการตั้งแต่อาทิตย์ก่อนแล้วค่ะ กลัวจะมีเวลาไม่พอ แล้วถ้าไปถึง ท่านหญิงต้องจัดการปัญหาอีกเยอะเลยทีเดียว” เอมม่ารายงานพร้อมรินชาให้เจ้านาย
อัสซิมเพียงอ่านหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆ ไม่เข้าไปยุ่งกับการสั่งงานของเธอ แค่ประทับใจความสัมพันธ์ของเจ้านายลูกน้องเท่านั้น และเขาก็เดาไม่ออกเลยว่าเธอสั่งงานอะไร
**************************
สองวันที่เขาสนุกกับกิจกรรมของเธอ ดูเหมือนเธอจะพยายามทำกิจกรรมหลายอย่างไม่ให้เขาเบื่อ เพราะเขาไม่ใช่หนอนหนังสืออย่างเธอ เขาชอบกีฬา และเธอก็มีสนามดินไว้สำหรับเทนนิส ดาฟรานช์ติดทะเลสาบที่อยู่ไม่ไกลนัก สามารถว่ายน้ำเล่นได้
เธอมีเครื่องยิงเป้าไว้สำหรับยิง หากเป็นเมื่อก่อนคงต้องล่าสัตว์เพื่อการกีฬา แต่ดูเหมือนท่านเอิร์ลจะให้ยกเลิกไปนานแล้ว แต่ก็มีเป้าให้ยิงเพื่อความสนุกเท่านั้น ตกค่ำเธอกับเขาก็มีกิจกรรมทำอยู่ค่อนคืนก็พักผ่อน
หากเช้านี้กลับกลายเป็นเช้าที่แปลกออกไป เสียงทุบประตูแทนที่จะเคาะทำให้เขาตกใจตื่น เธอยังคงอยู่ในอ้อมแขนเขา เขามองให้ชัดว่าฟังไม่ผิด และได้ยินเสียงทุบประตูอีกรอบ
“นายครับ นาย” คาลิมตะโกนเสียงดังเรียกเจ้านาย
อัสซิมค่อยๆ เอาเธอออกจากอ้อมแขน แล้ววางเธอลงข้างๆ เธอก็พลิกตัวหันหลังให้ เขาสวมเสื้อคลุมแล้วเปิดประตู มองหน้าคนสนิทแล้วถาม “มีอะไร”
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับ นายต้องกลับด่วน” คาลิมเข้ามากระซิบรายละเอียดให้เจ้านายรู้ เขาต้องทุบประตู เพราะโฮเวิร์ดไม่ยอมเปิดประตูให้
“บ้าชะมัด!! มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง แจ้งเรื่องบินกลับแล้วหรือยัง” อัสซิมเดินกลับเข้าห้อง
คาลิมก็เดินตามเข้าไปด้วย เห็นท่านหญิงนอนหันหลังห่มผ้าเรียบร้อยก็ค่อยยังชั่ว “เรียบร้อยแล้วครับนาย”
อัสซิมเห็นคาลิมเดินตามเข้ามา และมองไปที่เจนซึ่งนอนอยู่ก็รู้สึกขวางเล็กน้อย ใต้ผ้าห่มมีเพียงร่างบางที่เปลือยเปล่า ผิวสีเข้มกว่าคนยุโรปแต่อ่อนกว่าสาวเปอร์เซียนั้น เป็นที่ปรารถนาของชายได้มากคนนัก
เขาไม่ต้องการข้อมูลอีก ก็ออกคำสั่งชัดเจน “ออกไปเตรียมรถ ฉันพร้อมก็ไปได้เลย”
คาลิมได้สติหันมาทางเจ้านาย รู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะสายตาเย็นชานั้น เขาก็รีบหันไปอีกด้านแล้วถอยออกไปจากห้องนั้น เพื่อทำหน้าที่ที่เจ้านายสั่ง...
อัสซิมเข้าไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย เมื่อออกมาเขาก็แต่งกายชุดประจำชาติของเขาเพื่อเดินทางกลับ เขามองร่างบางที่นอนหลับอย่างไม่ระวังภัยก็ได้แต่ถอนหายใจยาว
เขาตั้งใจจะเดินออกไปโดยไม่พูดอะไร แต่ก็ชะงักเมื่อไปถึงประตู เขาย้อนกลับมาขึ้นเตียงฝั่งของเขา แล้วเข้าไปสวมกอดเธอ
“เจน” เขาเรียกแล้วจูบเธออย่างแสนอ่อนหวาน
เธอขยับตัวเล็กน้อยงัวเงียเพราะเพิ่งตื่น “มีอะไรเหรอคะ”
“ผมมีเรื่องด่วนที่ต้องจัดการ ให้คนของคุณเก็บของของผมไปกับคุณด้วยนะ คิดว่าจัดงานเสร็จ ผมจะตามไปหา” อัสซิมบอกเธอแล้วจูบเธอดูดดื่ม
“ค่ะ โชคดีนะคะ ลาก่อน” เจนยิ้มให้เขาแล้วพลิกตัวหลับต่อ
เธอไม่อยากปฏิเสธอะไรในตอนนี้ เธอกับเขาก็มีความรับผิดชอบที่ต้องจัดการ และเธอเองก็ไม่ใส่ใจนักว่าเขาจะตามไปหรือไม่ก็ตาม ตอนนี้จุดหมายของเธออยู่ที่ชาโตว์ เดอ เมโรเว ปราสาทเก่าแก่ท่ามกลางไร่องุ่นที่พ่อเธอทุ่มเงินซื้อให้เธอ โดยไม่สนใจราคา และเธอก็จัดการจนกลายเป็นไวน์ฝรั่งเศสที่เลื่องชื่อ
เมโรเว...ตั้งตามชื่อกษัตริย์ฝรั่งเศสจากราชวงศ์เมโรแว็งเชียง
เจ้าของเดิมมีเชื้อสายราชวงศ์ฝรั่งเศสแต่เพราะทำงานไร่ไม่เป็น คนงานแข็งข้อและกดขี่คนงาน จึงขาดทุนมหาศาล พ่อเธอซื้อให้เป็นของขวัญวันที่เธอเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอก็พลิกฟื้นมันเป็นไร่องุ่นชั้นดี ด้วยเงินทุนที่พ่อให้มา บวกกับการลงทุนอีกเล็กน้อยสมัยเรียน เธอก็ทำกำไรมหาศาลแล้ว
ชาโตว์ เดอ เมโรเว กลายเป็นชื่อไวน์ที่ติดตลาดภายหลังจากนั้นสองปี เพราะต้องเริ่มพลิกฟื้นขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ไร่เดิมเป็นแค่ทุ่งกว้างเท่านั้น
เธอครุ่นคิดแล้วลุกขึ้นนั่งเมื่อเขาออกไปจากห้อง...ยังมีเรื่องที่ต้องสนใจอีกมากนัก
อัสซิมออกไปจากดาฟรานช์ แปลกที่เขาหันกลับไปมองที่นั่นอีกครั้ง
ความได้เปรียบของเขากลายเป็นความผูกพันไปเสียแล้ว รู้สึกแตกต่างออกไปแม้จะรู้ดีว่า ไม่มีอนาคตสำหรับเขาและเธอ
**************************
มือเขาลูบบันไดขึ้นบ้าน วัยเด็กเขาถูกกลั่นแกล้งให้ต้องขัดบันไดทางเดิน และพ่อที่เดินผ่านมาก็เพียงมองแล้วเดินผ่านไป พ่อที่ไม่เคยช่วยเขา เขาไม่เคยเข้าใจและมีแม่เท่านั้นเป็นที่พึ่งทางใจ
คนรับใช้มีจำนวนมาก แต่ถ้าเป็นคำสั่งลูกชายคนโตของเมียคนที่หนึ่ง ก็ไม่มีใครกล้าช่วยเขา แม้แต่พ่อก็ไม่ช่วยเขา มีเพียงคาลิมที่เข้ามาช่วยเขาทำตามคำสั่งเท่านั้น
อัสซิมลูบมันอีกครั้ง แล้วเดินเข้าไปในห้องโถง เมื่อเปิดประตูออกมีแต่คนประหลาดใจ เมียคนที่หนึ่งของพ่อกำลังยืนอยู่กับลูกชายคนเล็กของหล่อน และกำลังพูดคุยวางแผนกัน
“กลับมาแล้วเหรอ อัสซิม เอ่อ ไม่สิ นายท่าน” แซราห์พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น
อัสซิมหันไปพยักหน้ากับคนสนิท แล้วชายฉกรรจ์อีกยี่สิบคนก็เข้ามา ควบคุมทุกอย่างไว้แล้วอีกสี่คนก็เอาปืนจ่อแซราห์
“พี่ทำอะไร!!” ฮานิฟถามทั้งที่รู้ว่าพี่ชายกำลังทำอะไรอยู่
“หุบปาก!!!” อัสซิมพูดเสียงเด็ดขาด ก่อนมองภรรยาคนที่หนึ่งของพ่อ “คิดเหรอว่าฉันอยู่ไกลแล้วจะไม่รู้อะไรเลย”
“นายท่านพูดเรื่องอะไรคะ” แซราห์ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อัสซิมมีอะไรเหรอ ลูก” มูนาเข้ามาในห้อง เมื่อคนรับใช้ไปเรียกเธอ และรู้ว่าลูกชายกลับมาแล้ว
“แม่กลับไปที่ห้องก่อนนะครับ ผมมีเรื่องต้องจัดการ” อัสซิมพยักหน้ากับคนของเขาให้พาแม่เขาออกไป
มูนามองสถานการณ์ด้วยใจสั่นๆ แต่ก็ยอมถอยออกไปเมื่อแม่เขาออกไปแล้วเขาก็หันมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เขาพยักหน้ากับคาลิม
คาลิมเปิดเสียงที่บันทึกไว้ ถึงแผนการต่างๆ ของแซราห์เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ดีที่ไม่มีเสียงฮานิฟ แต่มีเสียงผู้หญิงตระกูลมาห์นาซ ซึ่งเป็นภรรยาทั้งสามคนของอาลี พูดถึงความแค้นที่ต้องสูญเสียลูกของเธอเองและภรรยาคนที่สอง
“เอาตัวฮานิฟออกไป” อัสซิมออกคำสั่งเด็ดขาด คนของเขาก็เข้ามาจับตัวฮานิฟเอาไว้
ฮานิฟขัดขืนแล้วเข้าไปปกป้องแม่ตนเองทันที “อย่าครับพี่ ได้โปรดเถอะ แม่ผมเขาเลอะเลือน แม่อายุมากแล้วและก็เครียดด้วย พี่ไว้ชีวิตแม่ผมเถอะนะครับ ผมสัญญาจะไม่ให้แม่ทำเรื่องแบบนี้อีก พี่ขังแม่ไว้บนหอคอยก็ได้นะครับ”
ฮานิฟพยายามปกป้องแม่…
“อย่าไปขอร้องมัน มันฆ่าพี่แกนะ ฮานิฟ มันฆ่าลูกทั้งสองคนของฉัน” แซราห์ที่ก้มหน้าลง และได้ยินลูกชายคนเล็กอ้อนวอน
“จัดการตามที่ตกลงกันไว้” อัสซิมสั่งการแล้วหันหลังเดินออกไป แต่ฮานิฟขัดขืนแล้วออกมาปกป้องแม่จนตนเองถูกจับกดลงที่พื้น
อัสซิมหันมามองอีกรอบ น้องชายเขากำลังกรีดร้องด้วยความแค้น เมื่อเห็นแม่ถูกลบหลู่เกียรติแบบนั้น เขานับถือน้องชายคนนี้ในจุดนั้น ก่อนออกคำสั่งใหม่ “พาแซราห์กับพวกไปแยกขังบนหอคอยแต่ละจุด แล้วหยุดทำร้ายน้องชายฉันสักที”
ฮานิฟชะงัก เมื่อพี่ชายที่แสนเย็นชายอมทำตามข้อเสนอของเขา เขารีบกล่าวขอบคุณทันที “ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ พี่”
“พวกเธอจะต้องอยู่แต่ในบ้าน ห้ามออกไปพบปะใคร แม้แต่อาทุกคนก็ไม่มีสิทธิมาพบ คนรับใช้ใกล้ชิดให้เอาออกไปให้หมดและจัดการให้เรียบร้อย ใครก็ตามที่สนับสนุนแซราห์จะต้องถูกกำจัด” อัสซิมสั่งความอีกครั้ง
“พ่อของฉันจะต้องไม่ยอมแน่ พ่อของฉันจะต้องประกาศสงครามกับแก ไอ้คนสารเลว” แซราห์ตะโกนด่าต่อเนื่อง จนฮานิฟต้องมาปิดปาก
“นายจะไปอยู่กับตาของนายก็ได้นะ แต่แม่ของนายเป็นคนตระกูลมาห์นาซแล้ว หล่อนต้องตายที่นี่” อัสซิมบอกน้องชายเป็นเชิงบอกให้รู้ว่า ถ้าฮานิฟก้าวออกจากตระกูลมาห์นาซเมื่อใด เขาจะต้องถูกเนรเทศออกจากตระกูลเมื่อนั้น
“ไม่ครับ” ฮานิฟหันไปสบตาแม่
เขาเห็นแม่มองเขาอย่างดูถูก ตัวเขาเพิ่งยี่สิบกว่าปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย มีคนรักที่ต้องการสร้างครอบครัวด้วย อีกทั้งพี่ชายก็มีอำนาจเหนือกว่ามาก แม้แต่ตาเขาก็ไม่แน่ว่าจะจัดการพี่ชายเขาได้ ถึงตาเขาจะเป็นผู้ใหญ่ในคณะรัฐบาล แต่บัดนี้พี่ชายเขามีเส้นสายในคณะรัฐบาลมากกว่าตาเขามาก แม้แต่ตาเขายังต้องอาศัยแหล่งเงินทุนจากพี่ชายเขา
“พาพวกหล่อนออกไป” อัสซิมออกคำสั่ง มองน้องชายเดินตามแม่ไป
“อย่าทำร้ายลูกสาวฉันเลยนะ ได้โปรดเถอะ” ภรรยาคนที่สี่ของพ่อเข้ามาขอร้องเขา
อัสซิมพยักหน้า จะยังไงก็เป็นน้องสาวของเขา แต่ถ้าแหกกฎบ้านเมื่อไร ก็ต้องพบกับจุดจบเดียวกัน แล้วเขาก็ออกไปหาแม่เขาเพื่อชี้แจง
ระหว่างที่แซราห์ถูกใส่ตรวนจับขังไว้ที่หอคอย ถูกแยกออกจากภรรยาอีกสองคนของสามี เขามองหน้าลูกชายแล้วพูดขึ้น “ไปบอกตาของลูก”
“แม่ก็รู้ว่าตาจะพูดว่าอะไร” ฮานิฟส่ายหน้าช้าๆ ก่อนจะกล่อมแม่ “ผมว่าแม่อย่าพยายามไปแก้แค้นให้พี่ๆ จะดีกว่า ตอนนี้ไม่มีใครมางัดข้อกับอัสซิมได้หรอก อีกอย่างหลักฐานก็ไม่มี ตำรวจไม่เจอหลักฐานอะไรนอกจากเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งเกิดขึ้นได้ ต่อให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อไม่มีหลักฐาน แม่จะเอาอะไรไปเอาผิดอัสซิม”
“แกช่างไม่เหมือนพี่ชายแกจริงๆ พวกเขาทั้งองอาจและรู้จักต่อสู้ คนตระกูลมาห์นาซทุกคนต้องรู้จักช่วงชิง ดูอย่างไอ้คนชั้นต่ำอย่างอัสซิมสิ มันยังขึ้นมาเป็นใหญ่ได้ แกก็ต้องทำได้” แซราห์พยายามปลุกใจลูกชาย
“แล้วผลเป็นยังไงล่ะครับ เหลือคนที่เข้มแข็งสักคนไหมครับ” ฮานิฟถอนหายใจยาว แล้วฝากแม่กับคนรับใช้คนใหม่ ก่อนจะไปเขาเตือนสติแม่อีกรอบ “ผมรู้ว่าแม่แค้น ถามจริงๆ ตอนที่โดนปืนจ่อ แม่ไม่กลัวตายบ้างเหรอครับ ขอโทษนะครับ ผมกลัวตาย ผมก็แค่อยากมีชีวิตต่อ พ่อไม่เคยสนใจผมอยู่แล้ว แม่ก็ไม่ค่อยสนใจผม คิดแต่จะแก้แค้น อยู่ปัจจุบันน่าจะดีกว่านะครับ”
“แกมันขี้ขลาด” แซราห์ด่าว่าลูกชายอีกหลายคำ
ฮานิฟส่ายหน้าช้าๆ ขนาดไม่ทำอะไร เขายังกลัวว่าจะตายเข้าสักวัน ถ้าพี่ชายต่างมารดาคิดว่าเขาเป็นภัยคุกคามล่ะก็ เขาต้องโดนกำจัดแน่ คืนนี้เขาแน่ใจว่าต้องมีคนตายหลายคน รวมทั้งคนสนิทของแม่เขา ที่เป็นแม่นมเขาด้วย หากเขาจะขี้ขลาดแต่ก็ยังดีที่ยังมีลมหายใจ
โชคดีที่เขาไม่ได้เข้าร่วมกับพี่ชายทั้งสามกลั่นแกล้งอัสซิมในวัยเยาว์ ไม่งั้นเขาคงไม่รอดแน่
**************************
สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านทุกท่าน
หมดช่วงโอกาสพิเศษแล้วค่ะ เจอกันอาทิตย์หน้าะนะคะ
ใครมีหนังสือของเพลิงวารีเตรียมตัวพบกับ
กิจกรรมครอบรอบ 9 ปีการโพสต์นิยายออนไลน์ค่ะ
จะแจ้งกติกาให้ในภายหลังนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
คุณ oolong --- ขอบคุณค่ะ ^^
คุณ saralun --- ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่า อิอิ
คุณ konhin --- ขอบคุณค่ะ / ใช่เลยค่า ยังต้องฟาดฟันกันอีกนานค่ะ
พี่ตุ้งแช่ --- พ่อมดแห่งอัสซิมค่า 555+
คุณ lookpud --- ขอบคุณค่ะ *-*
ป.ล. ขอรับคำแนะนำจากผู้อ่านเพื่อนิยายเรื่องนี้นะคะ
เหตุอย่างที่บอกค่ะ เป็นเรื่องไม่ถนัดและพยายามหลีกเลี่ยงรายละเอียดของศาสนา
เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ถ้ามีช่วงไหนอ่านแล้วรู้สึกขัดๆ ก็ขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ป.ล.
- ใครที่ต้องการพาสจะเมลมาที่ plerngwaree@hotmail.com ก็ได้ค่ะ
- ติดตามข่าวสารต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/plerngwaree
- คนรักเฮีย "พาย" อย่าพลาดเฮีย "พาย" ปกใหม่กำลังจะวางแผงแล้วค่ะ
**********************************
eBooks ผลงานที่ผ่านมานะคะ
1. ด้วยหัวใจ...พันรัก (229 บาท / 9.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQ2NiI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13221/ด้วยหัวใจ...พันรัก
2. เราสามคน..หนทางเดียว (159บาท / 6.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQyNyI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13203/เราสามคน..หนทางเดียว
3. ตามตะวัน ณ จันทร์พันดาว (159฿ / 6.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDQ2OSI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13231/ตามตะวัน_ณ_จันทร์พันดาว
4. แผนร้ายในทางรัก (139บาท / 5.99$)
- www.mebmarket.com/index.php?action=BookD...QiO3M6NDoiNDI2MyI7fQ
- www.ebooks.in.th/ebook/13179/แผนร้ายในทางรัก
ขอบคุณที่ติดตามนิยายนะคะ
เพลิงวารี เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ส.ค. 2556, 19:55:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ส.ค. 2556, 21:28:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 1426
| << 07 (ครึ่งแรก) | 08 (ครึ่งแรก) (ลบ) >> |
konhin 23 ส.ค. 2556, 20:04:08 น.
อ่าาา ลงไปแล้วป่ะคะ?
อ่าาา ลงไปแล้วป่ะคะ?
เพลิงวารี 23 ส.ค. 2556, 22:21:12 น.
555+ เข้ามาหัวเราะอย่างมีเลศนัยแล้วหายตัวอย่างรวดเร็ว อิอิ
555+ เข้ามาหัวเราะอย่างมีเลศนัยแล้วหายตัวอย่างรวดเร็ว อิอิ